จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 343



       พลังของตำนานนั้นช่างยิ่งใหญ่  ดยุคกริด  เขาสามารถช่วยชีวิตของทหารแดนเหนือราว 1,000 นายไว้ได้อย่างทันท่วงที  แถมยังต้านรับกองทัพหลวงจำนวน 5,000 ตามลำพัง  พลังของกริดนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาของทุกคนแล้ว  โดยเฉพาะองค์ชายเร็นที่อิจฉาและชื่นชมยิ่งกว่าใคร  ภาพของหัตถ์เทวะทั้งสี่ที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกริดพร้อมกับกวาดศัตรูนับไม่ถ้วน ดูราวกับตัวของกริดเสียเองที่เป็นเทพสงคราม

       แต่ว่า...

       'สิ่งสำคัญในสงครามคือทรัพยากร  หาใช่พลัง!'

       ส่งครามไม่ได้ถูกจำกัดไว้เพียงบนสนามรบเท่านั้น  ใครก็ตามที่มองภาพรวมออกและสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้  ฝ่ายนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ  ด้วยเหตุนี้  การกระทำของกริดจึงถูกมองว่าโง่เขลานัก  เป็นถึงผู้นำทัพ  แต่กลับพาตนเองลงมาสู่ใจกลางสงครามเนี่ยนะ?  ช่างอ่อนหัดเหลือเกิน

       'กริด  ฉันจะทำให้แกสำนึกเสียใจในเรื่องที่ทำลงไป  นับว่าโง่เขลานัก  ที่กล้าตะลุยกองทัพศัตรูตามลำพัง!'

       หลังจากนี้อีกไม่นาน  กองทัพของฮูเร็นจากเขาอัลทาสก็จะเข้าโจมตีกองทัพเรย์ดันจากด้านหลัง  หน่วยมังกรเงินก็จะลอบเข้าเมืองและจับภรรยาของกริดไว้  เมื่อถึงตอนนั้น  กระแสสงครามก็จะเปลี่ยนขั้ว  ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะก็จะเป็นฝั่งองค์ชายเร็น!

       'หึหึหึ!  ค่าเรี่ยวแรงของแก  อีกไม่นานก็คงหมดลง!'
       
       อันที่จริง  การเคลื่อนไหวของกริดก็เริ่มแปลกไปจากตอนแรกแล้ว   สีหน้าที่เหน็ดเหนื่อย  ร่างกายที่เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น  กริดถูกทหารล้อมโจมตีจากทุกทิศทาง  มีทั้งดาบ  หอก  ธนู  และเวทย์มนต์  เขาคงทนได้อีกไม่นานแน่

       'ต้องยื้อเวลาไว้อีกสักนิด'

       รอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายถูกแสยะออกมาบนใบหน้าขององค์ชายเร็น  ในยามนี้  มันมั่นอกมั่นใจอย่างมากว่าเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะแล้ว  ขอเพียงแค่ยื้อเวลาไว้

       ฉึก!

       ฉึกฉึกฉึกฉึก!

       "อ๊ากก!"

       "อั่ก!"

       ฝนธนูจากกองทัพเรย์ดันที่ถูกเล็งยิงมาตกรอบตัวกริด  ดูเหมือนจะค่อยๆ ทรงพลังมากขึ้นเมื่อเวลาของศึกสงครามยิ่งดำเนินไป

       'เราคงคิดไปเองกระมัง...'

       ในช่วงแรก  มันคิดเช่นนั้น  แต่ในที่สุดก็ได้ตระหนักว่า

       'เราไม่ได้คิดไปเอง!!'

       ฉึก!

       "อ๊าากก!"

       จำนวนของทหารที่เสียชีวิตในทุกระลอกการโจมตีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า  พลังโจมตีของทหารเรย์ดันกำลังเพิ่มขึ้นทุกชั่วขณะ

       'เป็นไปได้ยังไง...?'

       ชักสเล่ย์รีบหันไปกล่าวกับองค์ชายเร็นที่กำลังมีสีหน้าลนลานว่า

       "ฝีมือธนูของกองทัพศัตรูกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ จนน่ากลัว  หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป  เกรงว่ากองทัพพวกเราคงควบคุมความเสียหายไม่ไหว  รีบออกคำสั่งให้เหล่าอัศวินคอยรับมือกับดยุคกริด  ส่วนทหารที่เหลือทุกคนก็ตั้งใจป้องกันตัวเองไปก่อน"

       "ไม่ได้  พวกเราจะทำเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด!"

       กว่าจะฝึกอัศวินแต่ละคนให้แข็งแกร่งได้  ต้องสิ้นเปลืองทั้งงบประมานและเวลามากกว่าการฝึกทหาร 1,000 นายเสียอีก  เร็นไม่ต้องการให้อัศวินอันมีค่าต้องถูกกริดสังหารอย่างเปล่าประโยชน์  หน้าที่คอยตรึงกริดไว้ควรจะเป็นของทหารชั้นเลวเท่านั้น

       'เราต้องอดทนไปก่อน  อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น!'

       อีกไม่นานต้องได้รับข่าวดีแน่!  เช่นการที่กองทัพของฮูเร็นได้เข้าโจมตีพลธนูของเรย์ดันหรืออะไรแบบนั้น  

       แต่ว่า...

       "องค์ชายเร็น!  นี่มันเกินเวลาที่นัดหมายไปมากแล้วนะขอรับ!"

       "...?"

       เร็นแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า  แล้วก็ต้องพบว่า  ดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มทีแล้ว  หากแผนการทุกอย่างราบรื่นจริง  ก็ถึงเวลาที่ทัพของฮูเร็นควรจะมาตลบหลังทัพศัตรูได้แล้ว  แถมยังมีหน่วยมังกรเงินที่ควรจะจับดัชเชสไอรีนมามอบให้มันอีก  

       ทว่า...  คนเหล่านั้นหายไปไหนกันหมด?

       'ทำไมพวกมันถึงยังไม่มา?'

       ฮูเร็นมีฝีมือเทียบเท่าชักสเล่ย์  ไม่มีทางจะถูกมอนสเตอร์หรือโจรป่าถ่วงเวลาให้กองทัพ 2,000 นายต้องล่าช้าแน่  หลังจากเร็นครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง  ดวงตาของมันก็พลันลุกวาว

       'อย่าบอกนะว่า!'

       หรือกริดจะรู้ถึงการมีตัวตนของทัพตลบหลัง?

       'กริดจะต้องจัดทัพซุ่มโจมตีไว้แล้วแน่!'

       กริด...  สามัญชนที่ไม่เคยได้เข้าศึกษาในหลักสูตรขุนนาง  หมอนี่มีพิชัยสงครามที่สามารถหยั่งรู้กลยุทธ์ศัตรูได้ยังไงกัน?

       'หรือว่าจะมีพรสวรรค์ในด้านวางแผนรบติดตัวมาตั้งแต่เกิด?'

       กริดสามารถรู้ถึงทัพที่สองและวางแผนซุ่มโจมตีได้อย่างไร้ที่ติ  ในขณะที่เร็นกำลังหัวเสีย  ข่าวร้ายก็ถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ

       "องค์ชาย!  กระหม่อมสัมผัสถึงหน่วยมังกรเงินไม่ได้แล้ว!"

       "อ--อะไรนะ?"

       ภายในร่างกายหน่วยมังกรเงินทุกคนจะมีเวทย์ตราประทับฝังอยู่  ประโยชน์ของเวทย์นี้มีอยู่สองสิ่ง  หนึ่งคือไว้รับรู้การมีชีวิต  สองคือไว้คอยออกคำสั่งและบงการ  เป็นไพ่ตายเผื่อไว้สำหรับการถูกล้างสมองหรือทรยศ

       แต่กลับไม่อาจสัมผัสถึงตัวตนได้แล้วงั้นหรือ?  หมายความว่า  พวกมันคงตายไปหมดแล้ว

       'ได้ยังไงกัน?'

       องค์ชายเร็นมั่นใจมากว่า  หน่วยมังกรเงินของตนคือหนึ่งในกลุ่มนักลอบสังหารที่เก่งที่สุดในทวีป  แต่กลับกลายเป็น  แค่ผู้หญิงคนเดียวก็ลักพาตัวไม่สำเร็จ...

       'ถ้าไม่ใช่เพราะดัชเชสไอรีนมีคนคุ้มกันระดับเดียวกับกริด  หน่วยมังกรเงินของเราคงไม่มีทางทำพลาดแน่--...  เดี๋ยวก่อนนะ!'

       หรือดัชเชสไอรีนจะมีใครบางคนคอยคุ้มกันอยู่จริง?  เร็นพลันนึกถึงสหายของกริดคนอื่นๆ ในสงครามไรน์ฮาร์ทขึ้นมาทันที

       'ดูจากฝีมือของคนพวกนั้น  หน่วยมังกรเงินจะรับมือไหวรึเปล่านะ?'

       กริด!

       'แกเป็นใครกันแน่...?'

       ในขณะที่องค์ชายเร็นกำลังสับสนสุดขีด  ชักสเล่ย์ก็ตะโกนขึ้น

       "องค์ชาย!  ดูเหมือนแผนเดิมจะล้มเหลวแล้ว  ท่านต้องเปลี่ยนไปใช้แผนอื่น!  เดี่ยวนี้!"

       "พ--พวกเราจะทำยังไงกันดี?"

       "ไม่มีประโยชน์ที่จะยื้อเวลาต่อไป!"

       ชักสเล่ย์กำดาบในมือให้แน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม

       "ทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อเอาชีวิตดยุคกริดให้ได้!"

       และนั่นคือสัญญาณเริ่มต้น  กัปตันอัศวินชักสเล่ย์  และรองกัปตันอัศวินอันดู  สองยอดฝีมือประจำกองทัพหลวงแห่งอาณาจักรอีเทอนัล  พวกมันได้นำอัศวินกว่า 50 นายและทหารนับพันเข้าล้อมโจมตีกริด  โดยคราวนี้ไม่มีการกลัวว่าจะต้องสูญเสียไพร่พลเลยแม้แต่น้อย

       เกิดเป็นฝุ่นทรายคละคลุ้งรอบกายกริดในทันที

       ***

       'แย่ชะมัด'

       เลเวลเฉลี่ยของทหารกองทัพหลวงคือ 130   ต่อให้ไม่ใช่กริด  เปลี่ยนเป็นแร้งเกอร์คนอื่น  ไม่ว่าใครก็สามารถฆ่าทหารเลเวล 130 ได้เป็นผักปลา  แต่กริดก็เลือกที่จะไม่ทำ  เพราะเขาต้องการให้ทหารเรย์ดันเป็นคนฆ่าเองกับมือ  เลเวลของทหารเหล่านั้นจะได้อัพ

       ถือเป็นงานที่ยากมาก  การจะอดทนเช่นนี้ได้  ค่าเรี่ยวแรงต้องถูกใช้ไปอย่างมหาศาล  

       'จำนวนของพวกมันมีมากเกินไป'

       ทหาร 5,000 นาย  ด้วยจำนวนขนาดนี้  ในสายตากริดดูราวกับไม่มีวันหมดสิ้นเลยทีเดียว  แม้ฝนธนูของทัพเรย์ดันจะคร่าชีวิตพวกมันได้เรื่อยๆ  แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไป  หากทหารทัพหลวงตายไปสิบคน  ก็จะมีคนวิ่งเข้ามาแทนที่เกินกว่าสิบคน

       แถมการโจมตียังเข้ามาจากทุกทิศทาง  ถ้าหากไม่มีหัตถ์เทวะล่ะก็  กริดคงถูกโจมตีไปหลายหนแล้ว

       'สงครามไม่เคยง่ายอยู่แล้ว'

       แต่การจะให้กองทัพเรย์ดันพัฒนา  มีแต่ต้องอดทนผ่านไปให้ได้  วันข้างหน้า  เขาจะได้ไม่ต้องมาคอยทำอะไรแบบนี้อีก  กริดหายใจอย่างเหนื่อยหอบด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยฝุ่น

       "ตัดหัวดยุคกริดให้จงได้!"
       
       "...!"

       กริดพลันขมวดคิ้วทันที  เพราะในยามนี้  ชักสเล่ย์และบรรดาอัศวินที่เคยปกป้องข้างกายองค์ชายเร็น  พวกทุกคนได้บุกเข้ามาโจมตีตนโดยตรงด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเอาจริง  ทหารราบพากันแหวกเปิดทางให้อย่างพร้อมเพรียง

       "อันอัตรายเอาเรื่องแฮะ..."

       ในขณะที่กริดกำลังครุ่นคิด  ลอเอลก็ส่งข้อความส่วนตัวมาหา

       >>  จงสำแดงพลังของนายซะ

       จูนิเบียวลอเอลได้มอบคำแนะนำกับกริดอีกครั้งเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มออกอาการลังเล

       >>  นายจะปล่อยให้พวกมันโจมตีมากไปกว่านี้ไม่ได้  อย่าโลภจนเกินเหตุ  ในตอนนี้  ทหารของเรย์ดันมีเลเวลอัพจนเป็นที่น่าพึงพอใจแล้ว  ดังนั้นทางนี้ให้ฉันจัดการเอง  ส่วนนายก็ออกอาละวาดให้เต็มที่

       >>  ตกลง  เข้าใจแล้ว

       ไม่มีเหตุผลให้ต้องเก็บงำพลังที่แท้จริงอีก  กริดพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับเริ่มรำดาบ

       "ปกป้องท่านดยุคกริด!!"

       ลาเด็นตะโกนพร้อมกับนำกองทัพแดนเหนือวิ่งเข้ามาขวางทัพของชักสเล่ย์ไว้

       "พวกนายโง่รึไง!  ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง!  หลบไปซะ!"

       "ท่านดยุค… กระผม..."

       สีหน้าของลาเด็นพลันมืดมนทันที   ณ  ตอนนี้  เขายินที่จะพลีชีพโดยปราศจากความลังเลบนใบหน้า  ในที่สุดกริดก็เข้าใจ  ว่าเหตุใดมาร์ควิสสไตมถึงได้ชื่นชอบลาเด็นนัก

       'เจ้าบ้านี่... ความจงรักภักดีระดับเดียวกับจู๊ดเลยสินะ'

       ไม่สิ  อาจเหนือกว่าจู๊ดด้วยซ้ำ  การที่จู๊ดไม่กลัวตาย  ก็เพราะเขาไม่มีความคิด  ไม่มีสมอง  แต่กับลาเด็นแล้วไม่ใช่  รู้ทั้งรู้ว่าจะต้องตาย  แต่หมอนี่ก็เตรียมใจไว้โดยไม่สั่นคลอนเลยสักนิด

       แม้ว่าเราจะไม่ใช้ลอร์ดของเขาก็ตาม...

       'ถ้ามีฝีมือให้เหมาะสมกับความซื่อสัตย์นั่นก็คงจะดีกว่านี้'

       กริดที่ยังไม่รู้ถึงความสามารถของลาเด็น  เขาจึงคิดว่าลาเด็นอ่อนแอจนถึงวินาทีสุดท้าย

       เป็นเวลาเดียวกับที่ลาเด็นเหวี่ยงดาบในมือใส่ชักสเล่ย์อย่างห้าวหาญ

       "ฉันจะไม่ปล่อยให้แกผ่านไปทำร้ายท่านดยุคได้เด็ดขาด!!"

       "เจ้าหนู!  หลีกไปซะ!"

       ดาบของลาเด็นและชักสเล่ย์ปะทะกันกลางอากาศจนเกิดเสียงดังสนั่น

       "จงรักชีวิตตนเองให้มากกว่านี้!"

       กริดใช้แขนขว้าหนึ่งคว้าไหล่ลาเด็นไว้และดึงกลับมา  ด้วยเหตุนี้  ลาเด็นจึงรอดพ้นความตายจากดาบชักสเล่ย์มาได้  แต่กลายเป็นกริดเสียเองที่กำลังตกที่นั่งลำบาก  กองทัพอัศวินซึ่งนำมาโดยชักสเล่ย์ได้ล้อมกริดไว้จากทุกทิศทาง

       "ท่านดยุค!!"

       ลาเด็นตะโกนขึ้นอย่างสิ้นหวัง  ไม่มีทางเลยที่กริดจะรับมือกับอัศวินมากมายขนาดนี้ไหว  แถมหัตถ์เทวก็ะกำลังวุ่นวายอยู่กับการรับมือทหารเลวด้านนอก  จึงไม่สามารถกลับไปปกป้องกริดได้  ฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ทำให้ลาเด็นหวาดผวาสุดขีด  

       แต่กริดก็หันมายิ้มให้ลาเด็น

       "นายเองก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ"

       "...?"

       รอยยิ้ม...?

       เขากำลังยิ้มในสถานการณ์เช่นนี้งั้นหรือ?  ลาเด็นคิดว่ากริดคงเสียสติไปแล้วแน่  ทว่า... ภาพอันหน้าตกตะลึงก็ปรากฏสู่สายตาลาเด็น
       
       "วิชาดาบแพ็กม่า...  หน่วง!"
       
       เป็นการรำดาบที่ดุดันน่ากลัว  ท่วงท่าการขยับเท้าบนผืนทรายดูขึงขังราวกับเป็นมาดของทหาร

       ซู่วววว!

       บรรยากาศรอบตัวกริดพลันหนักอึ้ง  กลิ่นอายแรงกดดันแปลกประหลาดได้แผ่ไปทั่วบริเวณ

       "...?"

       อัศวินรอบกายกริดต่างเสียขวัญและเริ่มถอยไปด้านหลัง  มีเพียงชักสเล่ย์เท่านั้นที่สามารถใช้พลังใจฝืนก้าวข้ามมาได้  มันจึงใช้ดาบในมือแทงใส่กริดกลับไปทันที  

       แต่ปลายดาบกลับพุ่งไม่ถึงตัวกริด

       เคร้ง!

       มีเงาลางของใครบางคนได้โผล่มาจากด้านหลังกริด  เมื่อลองดูให้แน่ชัด  ชายคนนี้มีรูปลักษณ์เหมือนกับกริดทุกประการ  ชายปริศนาได้พุ่งตัวมาด้านหน้าและปัดป้องดาบของชักสเล่ย์ไว้  

       เป็นแรนดี้

       "ร่างแยก...?"       

       ชักสเล่ย์และอัศวินทุกคนต่างผงะไปตามๆ กัน

       เดิมทีแล้ว  ร่างแยกควรจะเป็นเพียงวิชาภาพลวงตาเท่านั้น  แต่ด้วยเหตุใด  ร่างแยกของกริดถึงรู้สึกเสมือนจริงได้ขนาดนี้?  ราวกับพวกมันต้องสู้กับกริดสองคนพร้อมกันเลยทีเดียว

       "ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า!  ทำไมแกถึงมีวิชาแปลกประหลาดเช่นนี้ได้?  ทั้งที่เป็นแค่ช่างตีเหล็กแท้ๆ!"

       ชักสเล่ย์ตะโกนขึ้นอย่างฉุนเฉียว

       "พลังแห่งสัตว์เลี้ยงยังไงล่ะ"

       "พลังแห่งสัตว์เลี้ยง?"

       อะไรกันอีก?  เป็นอีกครั้งที่กริดใช้ศัพท์ยากใส่ชักสเล่ย์  ในขณะเดียวกัน  ชักสเล่ย์ก็สามารถถือครองความได้เปรียบเหนือแรนดี้ได้ไม่ยาก  เพราะเธอก็อบปี้กริดได้เพียง 30% ของค่าสถานะเท่านั้น  แรนดี้จึงไม่อาจถ่วงเวลาได้นานนัก

       "มังกรขยาย!"

       ชี่กงมาสเตอร์ระดับสาม  ราชันย์แห่งกระแส  แม้ทักษะการดวลหนึ่งต่อหนึ่งจะเรียกได้ว่าอ่อนแอสุดขีด  แต่หากเป็นสงครามใหญ่แล้วล่ะก็  ถือเป็นหนังคนละม้วนสำหรับลอเอล  คลาสของเขาสามารถแปรเปลี่ยนสภาพอากาศและพื้นผิวสนามรบได้ดั่งใจนึก...

       ที่เขายอมสละตนเองเลือกเดินบนเส้นทางนี้  ทั้งหมดก็เพื่อคอยสนับสนุนกริด  โชคชะตาของราชันย์แห่งกระแส  ที่มีแต่การทำศึกสงครามรออยู่

       ครืนนนนน!

       ทะเลทรายเริ่มสั่นสะเทือน  เกิดแผ่นดินไหวกินพื้นที่เป็นวงกว้าง  พื้นทรายยุบตัวและดูดกลืนทัพหลวงบางส่วนให้ตกลงไปด้านล่าง

       "ร่างมืด"

       ซู่วววววว!

       มืดสนิทเสียยิ่งกว่าค่ำคืนดาวเต็มฟ้า

       ท่ามกลางความวุ่นวายของกองทัพหลวง  กริดได้ปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกไปจนหมดสิ้น  ไม่ว่าจะเป็นคลื่น  ร่ายรำ  สังหาร  และมายา  ทุกสิ่งถูกใช้โดยไม่หวงแหน  และยิ่งเมื่อมีการสนับสนุนจากลอเอล  ลาเด็น  กองทัพเหนือ  และกองทัพเรย์ดัน  สงครามก็ดำเนินเข้าสู่องก์ปิดฉากอย่างรวดเร็ว

       ที่ซวยหน่อยก็คงจะเป็นกองทัพแดนเหนือซึ่งถูกล้อมอยู่ใจกลางสนามรบ  พวกเขาได้รับความเสียหายไปมากพอสมควร  แต่ในทางกลับกัน  กองทัพเรย์ดันกลับไม่ต้องเสียไพร่พลเลยสักนิดเดียว  แถมได้อัพเลเวลอีกจำนวนมาก  ถือเป็นชัยชนะฝ่ายเดียวของฝั่งกริด

       ทว่า... อัสโมเฟลกลับไม่ชอบใจเอาเสียเลย

       "ได้โปรดให้กระผมแสดงฝีมือด้วย..."
       
       เขาต้องการให้นายท่านได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตน  และราวกับกริดได้ยินคำอ้อนวอนนั้น  ชายหนุ่มพลันตะโกนขึ้นทันที

       "อัสโมเฟล!  จงเก็บของที่ดรอปอยู่ตามพื้นมาให้หมด!"

       "...ขอรับ"

       ลงเอยเช่นนี้อีกแล้ว...  อัสโมเฟล  อดีตเสาหลักของจักรวรรดิซาฮารันผู้ยิ่งใหญ่  ชายคนเดียวที่ปิอาโร่ในสมัยก่อนให้การยอมรับว่าเป็นคู่ปรับตลอดกาล  

       น้ำตาของเขากำลังเจิ่งนองอยู่บนสมรภูมิที่มีกลิ่นคาวเลือดและซากศพคละคลุ้ง

Comments

  1. สงสารอัสโมเฟล55

    ReplyDelete
  2. จะสงสารหรือหัวเราะดีวะเนี้ย โธ่อัสโมเฟล

    ReplyDelete
  3. ทำใจหน่อยนะอัสโมเฟล เราเข้าใจนาย 55555555

    ReplyDelete
  4. 555 ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete
  5. โอย... ใช้งานผิดประเภทจริงๆ 555

    ReplyDelete
  6. สนุกมากครับ

    ReplyDelete
  7. ได้มังกรเงินมาเป็นคนคุ้มกันเมียเฉย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00