จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 315
[ ความว่องไวของท่านเพิ่มขึ้นสิบแต้ม ]
หลังจากบรรลุข้อตกลงกับคริส กริดก็ดื่มโพชั่นเข้าไปทันที ร่างกายของเขาพลันรู้สึกเบาขึ้นเล็กน้อย
พละกำลัง : 2,790
ความว่องไว : 1,756
'หนทางยังอีกยาวไกลสินะ'
กริดยังต้องการอีก 104 เลเวลเพื่อทำให้ค่าความว่องไวกับพละกำลังมีอัตราส่วนเป็น 1:1 ในทางทฤษฏีนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะขนาดฆ่าทัลลอสที่เป็นตัวแทนอาโมแร็คไปและได้รับค่าประสบการณ์มากถึง 2.6 พันล้านหน่วย เลเวลของเขากลับเพิ่มขึ้นมาเพียงระดับเดียวเท่านั้น
แล้วเมื่อไรถึงจะครบ 104 เลเวลกันนะ?
'ทุกครั้งที่เลเวลเพิ่มขึ้น ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้อัพเลเวลถัดไปก็ยิ่งเพิ่มเป็นเท่าตัว นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงยังไม่มีคลาสระดับสี่ปรากฏ แม้เกมจะเปิดตัวมาได้สองปีกว่าแล้ว'
ไม่สิ… ต่อให้มีเวลาอีกหนึ่งปีเต็ม ก็ไม่แน่ว่าครอเกลจะกลายเป็นคลาสระดับสี่ได้สำเร็จ
เลเวลของครอเกลตอนนี้คือ 319 ซึ่งสูงกว่าอันดับที่สองอยู่สี่ระดับ
'ปีศาจ… หมอนั่นเป็นปีศาจชัดๆ'
อันดับหนึ่งของโลก ครอเกล กริดไม่เคยพบเขาตัวเป็นๆ หรือเคยเห็นในทีวีเลยสักครั้ง แต่กริดก็รู้ดีว่าครอเกลมีศักยภาพในการอัพเลเวลที่ไม่เหมือนใคร
'ช่างเถอะ… มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเรามีโอกาสได้รับโอสถความว่องไวบ่อยๆ'
ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง โอสถคือโพชั่นชนิดที่หายากที่สุด ข้อตกลงเช่นวันนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ง่ายในอนาคต
"หืม..."
กริดเปิดหน้าต่างกิลด์มาอ่านรายละเอียดของสมาชิกแต่ละคน ปาร์ตี้คณะรวบรวมพาเฟรเนี่ยมยังคงออกล่าอยู่ภายในเมืองแวมไพร์ เป็นเพราะหลังจากสังหารเอลฟิน-สโตนได้ ทุกคนได้รับบัฟค่าประสบการณ์และไอเท็มดรอปเป็นเวลาหลายวัน
'ยอดเลยแฮะ… ป็อนกับเรกัสมีเลเวล 308 แล้วหรือ? อัพเลเวลได้ไวสุดยอด เราเองก็กลับไปเมืองแวมไพร์ด้วยดีไหม?'
[ ค่าประสบการณ์และอัตราดรอปไอเท็มเพิ่มขึ้น 5% ผลของบัฟชนิดนี้จะเกิดภายในเมืองแวมไพร์เท่านั้น ระยะเวลาคงเหลือ : 25 วัน 13 ชั่วโมง 40 นาที 15 วินาที ]
'เหลืออีก 25 วันสินะ… ถ้าเราออกล่าในตอนที่ยังมีบัฟล่ะก็... '
อย่างน้อยก็น่าจะได้สักสามเลเวลกระมัง? และถ้าหากดวงดี กริดคงจะได้รับโอสถติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยไฟการเก็บเลเวลได้เตรียมการขั้นสุดท้ายภายในโรงตีเหล็กก่อนออกเดินทาง
ก่อนอื่นก็ต้อง...
"ออกแบบไอเท็ม"
[ ท่านต้องการออกแบบไอเท็มชนิดใด? ]
"ชุดเกราะ"
[ ท่านจะใช้สิ่งใดเป็นวัสดุ? ]
"โอริชาลคั่มสีน้ำเงินและเหล็กนิล"
[ กรุณาออกแบบรูปลักษณ์ไอเท็ม ]
กระดาษพิมพ์เขียวอันว่างเปล่าได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง นี่คือหนที่เจ็ดแล้วที่กริดต้องวาดภาพออกแบบไอเท็ม เขาวาดมันลงไปอย่างชำนิชำนาญ หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว แบบของชุดเกราะที่ดูน่าพึงพอใจก็เสร็จสมบูรณ์ ถึงเวลาแล้วที่ต้องอธิบายคอนเซ็ปของไอเท็มลงไปด้วย
"ชุดเกราะที่ไม่มีวันถูกแทงทะลุ ไม่มีวันเกิดรอยขีดข่วนจากดาบ และไม่มีวันละลายแม้จะถูกมังกรพ่นไฟใส่"
[ ด้วยวัสดุที่ใช้... ความต้องการของท่านคงเกิดขึ้นจริงไม่ได้ ]
"...นั่นสินะ"
เป็นอย่างที่คิดไว้… ทันทีที่กริดได้ปลดพันธนาการผลข้างเคียงจากการสวมใส่ไอเท็มเงื่อนไขไม่ตรง เขาก็มีความคิดที่จะสร้างไอเท็มสุดอลังการโดยไม่สนใจเงื่อนไขการสวมใส่ขึ้น ตัวอย่างเช่นอาวุธที่มีพลังโจมตี 999,999,999 หน่อย หรือชุดเกราะที่มีพลังป้องกัน 999,999,999 หน่วย แต่ดูเหมือนจะทำได้เพียงแค่ฝัน
และอันที่จริง ทักษะ<(บรรลุศาสตราวุธเทพ)การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน>ก็ยังมีเพียงเลเวลหกเท่านั้น ไอเท็มที่สร้างขึ้นจากวัสดุอย่างโอริชาลคั่มสีน้ำเงินและเหล็กนิลจึงมีขีดจำกัด เต็มที่ก็ได้ดีกว่า<ความผิดพลาด>เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยในสมัยอดีต <ความผิดพลาด>ถูกออกแบบมาอย่างเวอร์วังอลังการโดยไม่สนใจเงื่อนไขการสวมใส่เลยสักนิด
'สิ่งนี้จะเปลี่ยนไปหากเราใช้พาเฟรเนี่ยมเป็นวัสดุ แต่ว่า...'
ศาสตราวุธที่สร้างขึ้นจากพาเฟรเนี่ยมจะต้องเป็นไอเท็มที่เทียบชั้นได้กับหอกไลฟาเอลอย่างสูสี แต่ด้วยความที่กริดยังมีไอเดียการออกแบบดาบไม่มากนัก นั่นจึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้เขายังไม่อาจสร้างอาวุธประเภทดาบที่มีระดับใกล้เคียงหอกไลฟาเอลขึ้นมาได้
'ตอนนี้คงต้องใช้พาเฟรเนี่ยมในการเป็นอาวุธบินคอยสนับสนุนไปก่อน ยังไม่เหมาะที่มันจะกลายมาเป็นอุปกรณ์สวมใส่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการค้นหาแร่ที่มีศักยภาพสูงกว่าโอริชาลคั่มสีน้ำเงินให้ได้'
เมื่อคิดได้เช่นนั้น กริดก็รีบเรียกตัวไมเนอร์มาเข้าพบทันที
"จงออกค้นหาแร่ที่มีคุณสมบัติสูงกว่าโอริชาลคั่มสีน้ำเงินและกลับมารายงานต่อฉัน"
"หือ? นายหมายความว่ายังไงอีก?"
ไมเนอร์พลันขมวดคิ้ว
"ไหนนายสัญญาว่าจะปล่อยฉันไปเมื่อได้ครอบครองพาเฟรเนี่ยมครบทุกชิ้นแล้ว?"
อันที่จริง พรสวรรค์ในตัวไมเนอร์เหมาะสมจะเป็นนักค้นหาแร่มากกว่านักขุดแร่ แต่ความฝันของไมเนอร์คือการเป็นนักขุดแร่ในตำนานที่ก้าวข้าม<กิส>ซึ่งเป็นนักขุดแร่ในตำนานคนก่อนให้ได้ ไมเนอร์ต้องการจะเป็นมือขวาของจักรพรรดิ ดังนั้นเขาจึงโมโหมากที่กริดยังไม่ยอมปล่อยให้ไปขุดแร่ตามที่ต้องการสักที
กริดเดินเข้าไปตบบ่าของเด็กชายเบาๆ
"ช่วยอดทนอีกนิดเถอะนะ นายเองก็รู้ใช่ไหมว่าฉันคือช่างตีเหล็กในตำนาน? ดังนั้นตัวฉันจึงต้องการนักขุดแร่ในตำนานยิ่งกว่าใคร แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้"
"กรอด...!"
ไมเนอร์ขมกรามพร้อมกำหมัดแน่น ดวงตาของเขากำลังเจ็บแค้นสุดขีด ในยามนี้ เด็กหนุ่มได้แสดงสีหน้าของผู้ที่อาจทรยศเจ้านายได้ทุุกเมื่อให้เห็น กริดจึงไม่มีทางเลือก
'ไมเนอร์ยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ'
ไม่ผิดนักที่จะกล่าวว่าไมเนอร์คืออัจฉริยะตัวจริง ด้วยพรสวรรค์การขุดแร่ที่เหนือชั้นกว่าใคร เขาสามารถไปได้สวยในเส้นทางนี้ก็จริง แต่ก็ไม่มากพอจะกลายเป็นตำนานได้ ไมเนอร์จะไม่มีวันก้าวข้ามกิส นี่คือสิ่งที่ดาบของลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่บอกกับกริด ดังนั้นความฝันของไมเนอร์จึงไม่มีวันเป็นจริง
'นายเหมาะกับการเป็นเครื่องค้นหาแร่มากกว่า'
ทักษะค้นหาแร่คือสิ่งที่หายากมาก กริดสำรวจชาวเมืองจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งในวินสตัน ไบรัน และเรย์ดัน แต่ก็ไม่พบใครเลยที่มีทักษะค้นหาแร่เหมือนกับไนเนอร์ กริดหวังว่าไมเนอร์จะเปลี่ยนใจและสนับสนุนเขาในด้านการค้นหาแร่ในอนาคต
"ได้ยินมาว่า… สุขภาพของแม่นายที่อยู่ในไบรันกำลังทรุดลงสินะ? ฉันจะออกคำสั่งให้ลอร์ดของไบรันดูแลแม่นายด้วยการรักษาระดับสูงสุด ดังนั้นนะไมเนอร์ ถ้าต้องการให้แม่หายดีก็ช่วยออกค้นหาแร่ให้ฉันด้วย… ขอให้โชคดี"
"ชิ...! บัดซบ! ไอ้ปีศาจ!"
ไมเนอร์คือเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น กริดที่กำจุดอ่อนเอาไว้จึงดูเหมือนกับเป็นปีศาจชั่วร้าย แต่ความจริงแล้ว กริดทำไปเพราะหวังดี เขาคิดว่านี่คือเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับไมเนอร์ ไมเนอร์ควรได้เป็นนักค้นหาแร่ชั้นเยี่ยมมากกว่าการเป็นนักขุดแร่ระดับพอใช้
ไมเนอร์รีบเดินออกไปอย่างฉุนเฉียว หลังจากนั้นกริดก็ส่งข้อความส่วนตัวไปหายูเฟอมิน่า
>> เธอรวบรวมหยดน้ำตาแห่งกษัตริย์เผ่าวารีได้กี่ชิ้นแล้ว?
>> สี่
>> หืม? เยอะกว่าที่ฉันคาดไว้อีกนะ
หยดน้ำตาแห่งกษัตริย์เผ่าวารีคือไอเท็มสุดล้ำค่าที่จะทำให้ไอเท็มทุกชนิดสามารถฝังเวทย์มนต์ลงไปได้ ถือเป็นวัสดุในการสร้างไอเท็มที่หายากมาก เพราะกษัตริย์เผ่าวารีจะร่ำไห้เพียงวันเดียวในรอบห้าเดือน กริดจึงประหลาดใจมากเมื่อได้ยินว่ายูเฟอมิน่าสามารถรวบรวมได้มากถึงสี่ชิ้นภายในระยะเวลาเพียงสามเดือน
>> แถมฉันยังโชคดีได้รับภารกิจสุดพิเศษแถมมาด้วย
>> ภารกิจพิเศษ? มันเป็นยังไงเหรอ?
>> ฮิฮิ แล้วจะเล่าให้ฟังคราวหน้านะ
'เธอกำลังตื่นเต้นอยู่?'
ภารกิจคงเย้ายวนใจไม่น้อยทีเดียว
กริดพยักหน้าอย่างมีความสุข
>> ตกลง… ฉันจะรอฟังข่าวดีของเธอ แต่ถ้าหากติดขัดตรงไหน เธอสามารถขอความช่วยเหลือจากฉันได้ทุกเมื่อ ก่อนอื่นก็ช่วยนำหยดน้ำตาไปใส่ไว้ในคลังกิลด์ให้หน่อย
หลังจากนั้นไม่นาน
กริดนำหยดน้ำตาแห่งกษัรติย์เผ่าวารีออกมาจากคลังพร้อมกับเริ่มลงมือหลอมพาเฟรเนี่ยม
***
'นักสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารี… มีตัวตนอยู่จริงสินะ!'
คริสฉีกยิ้มกว้างถึงใบหูหลังจากบรรลุข้อตกลงกับกริด ก่อนหน้านี้เขากับกริดมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่กริดกลับยังสร้างไอเท็มให้อย่างสุดฝีมืองั้นหรือ? คริสกล้าพูดได้เต็มปากว่านี่คือหนึ่งในอาวุธที่ดีที่สุดของโลก
ดาบใหญ่กริดได้ก้าวข้ามทุกสามัญสำนึกไปจนหมดสิ้น เกินกว่าความต้องการของคริสในตอนแรกไปมาก เขามั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ว่าดาบเล่มนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า<เขี้ยวขาว>ของครอเกล และ<ดาบหนักป่าเถื่อน>ของซิวรอน
'เราสามารถใช้มันได้จนถึงเลเวล 360 เลยทีเดียว'
นี่ไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด
ดาบใหญ่กริดมีคุณสมบัติสูงกว่าอาวุธเลเวล 320 เกรดยูนีคที่คริสเพิ่งดรอปมาจากดันเจี้ยนหลายเท่า และจากการคำนวนด้วยประสบการณ์ ไอเท็มในระดับ 350 ถึง 360 เองก็คงจะไม่ได้ดีไปกว่าดาบใหญ่กริดเล่มนี้
'เราไม่ต้องกังวัลเรื่องอาวุธไปอีกราวสิบเดือน แต่สถานการณ์โดยรวมของกิลชักไม่ค่อยดีแล้ว...'
คริสลองนึกภาพตามดูว่า กริดและชาวโอเวอร์เกียร์ทุกคนสวมใส่ไอเท็มที่มีระดับเดียวกับดาบเล่มนี้ ซึ่งนั่นจะทำให้ขั้วอำนาจฝั่งกริดเป็นปึกแผ่นและทรงพลังมากกว่าที่กิลด์อื่นคาดไว้
'ปล่อยไว้แบบนี้จะดีหรือ?'
คริสหรือหัวหน้ากิลด์ไจแแอนท์ที่หวังจะเป็นกษัตริย์เช่นเดียวกับกริด เป้าหมายของเขาคือเงินทองและความมั่งคั่ง ดังนั้นกริดจะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในวันข้างหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ไปกันเถอะ"
คริสหันไปกล่าวกับห้า*กัปตัน
( ผู้แปล : ห้ากัปตันคือชื่อรวมของตำแหน่ง เหมือนกับ จตุรเทพ จตุรอาชา ทำนองนี้ ดังนั้นในเรื่องจึงเรียกห้ากัปตันต่อไปแม้จะเหลือแค่สี่ก็ตาม )
เมื่อเดินผ่านประตูปราสาทออกมา คริสก็หันไปถามกับทุกคน
"มิฮาร่าไปไหน?"
"ไม่เห็นมาสามวันแล้ว ได้ยินว่ารีบกลับเปรโดไปก่อนเพราะมีธุระด่วน"
มิฮาร่าออกไปเดินเล่นภายในเมืองเรย์ดัน จึงไม่แปลกที่คนอย่างหมอนั่นจะรู้สึกเบื่อและขอกลับไปก่อน
"หมอนั่น… หือ?"
จู่ๆ คริสก็ต้องหยุดเดินเมื่อมาถึงเขตฟาร์มอันกว้างใหญ่ด้านนอกเมือง
เพราะชาวนาคนหนึ่งกำลังขวางทางเขาไว้
"แกเป็นใคร?"
อัสเซลาส หนึ่งในห้ากัปตันได้โพล่งขึ้นเพื่อถามชาวนาที่บังอาจขวางทาง หลังจากนั้นชาวนาปริศนาก็นำจอบออกมาห้าอันและกล่าวว่า
"พวกแกจะต้องมาทำฟาร์มกับฉัน"
"อะไรนะ?"
ชาวนาคนนี้เสียสติไปแล้วงั้นหรือ? ถึงได้กล้ามาบอกหัวหน้ากิลด์และห้ากัปตันผู้ยิ่งใหญ่ให้ช่วยทำฟาร์ม ทุกคนพลันเงียบเป็นเป่าสากเพราะฉากตรงหน้าช่างบ้าบอสิ้นดี
เป็นคริสที่ถามขึ้นคนแรก
"ทำไมพวกเราต้องช่วยนายด้วย?"
ชาวนาปริศนา ปิอาโร่ ตอบกลับด้วยเหตุผลที่ง่ายมาก
"พวกพ้องของแกบังอาจลวนลามสาวใช้ของดยุคกริด แกล้มเหลวในการควบคุมบุคลากร ดังนั้นต้องมาช่วยทำฟาร์มให้เรย์ดันเพื่อชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
มีใครคนหนึ่งในพวกเขาไปลวนลามสาวใช้งั้นงั้นหรือ? ทุกคนต่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่เพียงไม่นานก็นึกได้ว่ามิฮาร่าหายตัวไป
'เจ้าบ้านั่นทำเรื่องเหลวไหลอีกแล้ว...!'
มิฮาร่าเคยก่อเรื่องขึ้นมากมายในอดีต คริสได้แต่ถอนหายใจและหันไปพยักหน้าให้ปิอาโร่
"ฉันเข้าใจความหมายของนายแล้ว เดี๋ยวจะลงโทษผู้ที่ก่อความผิดให้เอง ดังนั้นช่วยลดความโมโหลงและเปิดทางให้พวกเราด้วย"
คริสนึกว่าปิอาโร่เป็นเพียงชาวนาที่อ่อนแอและร้องขอความเป็นธรรมจากสิ่งที่มิฮาร่ากระทำลงไป แต่นั่นไม่ใช่เลยสักนิด
"เรื่องนั้นไม่จำเป็น ฉันลงโทษเจ้านั่นไปแล้ว สิ่งที่พวกแกทำมีเพียงมาช่วยฉันทำฟาร์มเท่านั้น"
ลงเอยด้วย อัสเซลาสหมดความอดทนเป็นคนแรก
"เลิกพล่ามไร้สาระได้รึยัง? ชายคนนี้คือคริส! เขาเป็นถึงวิสเคาต์ของอาณาจักรอีเทอนัลและหัวหน้ากิลด์ไจแอนท์! แกไม่แม้จะเห็นเขาอยู่ในสายตา แต่ถึงขนาดไร้มารยาทสั่งให้ช่วยทำฟาร์ม มันไม่มากไปหน่อยรึไง?"
แม้จะเล่นซาทิสฟายมานาน แต่พวกมันก็ไม่มีโอกาสได้พบกับชาวนาบ่อยนัก ปิอาโร่หรี่ลงและหันไปมองอัสเซลาสที่กำลังโมโหสุดขีด
"ฉันจับตาดูพวกแกอยู่พักใหญ่แล้ว ไม่มีผู้ใดเลยที่มีสัมมาคารวะต่อดยุคกริด ดังนั้นฉันเองก็จะทำแบบเดียวกัน"
"ไม่มีสัมมาคารวะ...?"
แตกต่างจากเอ็นพีซี หากเป็นผู้เล่นด้วยกันเอง ถึงจะมีบรรดาศักดิ์ขุนนางที่สูงกว่า แต่ส่วนใหญ่ก็จะไม่ถึงกับต้องก้มหัวให้กัน ไม่เลย ไม่มีใครทำเช่นนั้นกับคนแปลกหน้า ชาวนาปริศนาคนนี้ช่างไม่รู้จักความเป็นจริงเลยสักนิด
"หลีกไปซะ!"
พวกมันจะติดแหง่กอยู่ที่นี่ตลอดไปเพราะชาวนาเพียงคนเดียวไม่ได้ อัสเซลาสพยายามผลักชาวนาให้พ้นทาง
"เอ๋?"
ดวงตาของมันพลันเบิกโพลง ในวินาทีที่อัสเซลาสกำลังจะขว้าข้อมือของชาวนาปริศนา ภาพที่มันเห็นพลันสลับทิศในพริบตา พื้นดินกลายเป็นท้องฟ้า ท้องฟ้ากลายเป็นพื้นดิน
'เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น...?'
อัสเซลาสล้มลงไปนอนแผ่หราบนพื้นในชั่วอึดใจเดียว ห้ากัปตันต่างพากันผงะ คริสเองก็เช่นกัน
'ชาวนาปีศาจแห่งเรย์ดัน...! เขามีตัวตนอยู่จริงสินะ!'
ตอนแรกพวกมันคิดว่าเป็นเพียงข่าวลือ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว คริสแสดงความสนใจอย่างมากพร้อมกับชักดาบใหญ่กริดออกมากำแน่น
"นายคือคนที่ล้มซีบาลใช่ไหม? ช่วยแสดงฝีมือนั่นให้เห็นกับตาด้วยเถอะ!"
เหตุผลหลักที่เจ็ดกิลด์ใหญ่ไม่รวมไจแอนท์ ต้องล้มเหลวในการรุกรานเรย์ดันคือชาวนาปริศนา ชาวนาที่แข็งแกร่งมากพอจะล้มอันดับสองของโลกอย่างซีบาลลงได้
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคริสสู้กับเขาแล้วชนะ?
หลังจากได้รับคลาสรองที่แข็งแกร่ง คริสก็มั่นใจว่าตนก้าวข้ามซีบาลได้แล้ว เขาพุ่งตัวโจมตีใส่ปิอาโร่ในทันที
สนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteน่าสงสารเค้านะครับ...
ReplyDeleteดูท่าได้คนทำฟาร์มเพิ่มแล้วละ
ReplyDeleteคริส ได้ตายนะบัดนาว
ReplyDeleteRIP รอเลย
ReplyDelete