จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 331
ณ ห้องนอนไอรีน
"ท่านพ่อ!"
"ลูกสาวสุดที่รัก!"
ไอรีนและมาควิสสไตมทำการสวมกอดกันอย่างแนบแน่น
เป็นเวลานานกว่าเก้าเดือนแล้วที่คนทั้งสองต้องแยกจาก สองพ่อลูกกำลังเปี่ยมไปด้วยความคิดถึงต่อกัน หลังจากสำรวจสุขภาพของอีกฝ่ายจนมั่นใจแล้ว มาร์ควิสสไตมก็หลั่งน้ำหูน้ำตาออกมาอย่างปีติยินดี
ไอรีนเคยเป็นเด็กสาวที่ติดตามตนไปไหนมาไหนอยู่ตลอด แต่ยามนี้เธอโตเป็นสาวแล้ว และกำลังจะให้กำเนิดทายาท มาควิสสไตมจึงอดรู้สึกใจหายไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็หันมามองกริด
"ฉันหวังว่านายจะรักและดูแลบุตรสาวของฉันเป็นอย่างดีไปตลอดเหมือนกับที่ผ่านมา"
กริดตอบกลับอย่างจริงใจโดยปราศจากความลังเล
"ผมมีแต่จะยิ่งรักเธอมากขึ้นทุกวัน"
ในเวลาเดียวกัน
[ ทารกในครรภ์สัมผัสได้ถึงความรักอันแสนบริสุทธิ์จากคู่รัก ค่าสถานะทุกชนิดจะเพิ่มขึ้นหนึ่งหน่วยเป็นการถาวร ]
กริดคอยหยอดคำหวานให้ไอรีนอยู่ทุกวัน แต่ก็ไม่มีข้อความระบบแสดงขึ้นมาเลยในช่วงระยะหลังมานี้ จนในที่สุดมันก็แสดงขึ้น ไอรีนจะคลอดในอีกไม่เกินห้าวันข้างหน้า บางที ครั้งนี้อาจเป็นหนสุดท้ายแล้วที่ค่าสถานะของทารกเพิ่มขึ้น
***
กริด ไอรีน และมาร์ควิสสไตมกำลังสนทนาอย่างอบอุ่นอยู่ภายในห้องนอนไอรีน
ที่ด้านนอกห้อง อัศวินระดับหัวกะทิของทั้งสองตระกูลกำลังยืนเฝ้าอารักขาอย่างใกล้ชิด แต่ทันใดนั้น อัศวินหนุ่มคนหนึ่งได้หรี่ตาลงอย่างสงสัย ชื่อของเขาคือลาเด็น อัศวินอันดับหนึ่งของแดนเหนือคนถัดจากฟินิกซ์
"ทำไมในห้องถึงมีสี่คน? แทนที่จะเป็นสาม... ดยุคกริดมีเงาคอยรับใช้ด้วยหรือ?"
'สี่คน?'
ปิอาโร่และอัสโมเฟลต่างขมวดคิ้วพร้อมกัน ในห้องนั้นควรจะมีเพียงสามคนเท่านั้น คือไอรีน ดยุคกริด และมาร์ควิสสไตม
'อัศวินหนุ่มผู้นี้จะบอกว่าเขาเห็นในสิ่งที่พวกเราไม่เห็นงั้นหรือ?'
อัศวินประจำกายมาร์ควิสสไตม ลาเด็น เขากำลังทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
"นายคือเซอร์ลาเด็นใช่ไหม? มั่นใจกับสิ่งที่พูดรึเปล่า? การเข้าไปรบกวนช่วงเวลาพักผ่อนของดัชเชสไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ"
ไอรีนใกล้คลอดเต็มที การเข้าไปรบกวนอย่างไร้เหตุผลนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดี จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเข้าไปแล้วไม่พบบุคคลที่สี่ตามกล่าวอ้าง? มาร์ควิสสไตมกับดยุคกริดจะต้องไม่พอใจมากแน่
ปิอาโร่เตือนลาเด็นเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับบอกเป็นนัยว่าเขาจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลาเด็นเข้าใจได้ทันทีและพยักหน้า
"ผมจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง"
เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุให้ต้องรีรออีก ปิอาโร่ทำการเคาะประตูห้องนอนไอรีนเบาๆ
"มีอะไร? เข้ามา"
เมื่อได้ยินเสียงกริดตอบรับ อัศวินหัวกะทิจากทั้งสองตระกูลก็เดินเข้าไปในห้องนอนไอรีนทันที
"เกิดอะไรขึ้น?"
ไอรีนออกอาการไม่พอใจที่มีคนมากมายเข้ามาในห้อง ส่วนกริดก็เริ่มขมวดคิ้ว
"เอะอะเสียดังอะไรกัน?"
ลาเด็นทำการก้าวขาออกมา
"มีหนูสกปรก"
"ว่ายังไงนะ?"
หนูสกปรก? กริดเริ่มสับสนเมื่อได้เห็นลาเด็นชักดาบออกมาจากเอวและแทงขึ้นไปบนเพดาน
"...มันหนีไปแล้ว"
"อะไรนะ?"
สถานการณ์พลันตึงเครียดสุดขีด กริดแสดงสีหน้าหงุดหงิด ส่วนปิอาโร่ก็ใช้มือตบหน้าผากตบเองเบาๆ ลาเด็นเริ่มอธิบายเหตุการณ์ทันที
"เมื่อครู่ มีใครบางคนแอบอยู่บนเพดาน แต่ตอนนี้มันหลบหนีไปแล้ว"
กริดแทบไม่เชื่อหู ค่าวิสัยทัศน์ของเขามีสูงถึง1,550แต้ม ซึ่งแม้แต่เฟคเกอร์ก็ไม่มีทางเข้าใกล้เขาในระยะสามเมตรได้โดยไม่รู้ตัว
"มีหนูสกปรกแอบอยู่เหนือศีรษะของฉันงั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกอะไรเลย?"
"..."
ลาเด็นไม่พูดอะไรอีก เขาก้มศีรษะให้กริดเพื่อรอรับการลงโทษ กริดเห็นดังนั้นจึงหันไปถามมาร์ควิสสไตมว่า
"เขาเป็นใคร?"
มาร์ควิสสไตมตอบกลับด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
"เป็นอัศวินหนุ่มอัจฉริยะที่ไว้ใจได้ แต่ด้วยความที่ยังเด็ก อาจก่อเรื่องผิดพลาดได้บ้าง ดยุคโปรดช่วยเข้าใจด้วย"
"อ้อ..."
กัมปนาทแดนเหนือ ลาเด็น นับแต่นี้ไป เขาได้ถูกกริดตราหน้าว่าเป็นจอมมั่วซั่ว
***
'ไม่ธรรมดา...'
ราชันย์แห่งเงา คาซิม สุดยอดนักลอบสังหารอันดับหนึ่งของทวีปในเวลานี้ แต่เขากลับถูกอัศวินหนุ่มคนหนึ่งสัมผัสถึงตัวตนได้งั้นหรือ?
'อัจฉริยะถือกำเนิดขึ้นในทุกวัน'
อาณาจักรอีเทอนัล สถานที่เล็กๆ แห่งนี้กลับมีอัจฉริยะกำเนิดขึ้นมากมาย แล้วจะเป็นอย่างไรกับจักวรรดิที่มีจำนวนประชากรมากกว่าถึงสิบเท่า? สำหรับคาซิมแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด เพราะตัวเขาที่ต้องการให้จักวรรดิล่มสลาย คงไม่ชอบใจนักที่จะมีอัจฉริยะเกิดขึ้นในจักรวรรดิมากมาย
'ช่างเถอะ... ช่วงนี้คงต้องระวังตัวเป็นพิเศษ'
ซู่ววว
ร่างของคาซิมเลือนหายไปในความมืดมิด
***
"เงิน! เงิน!"
เคร้ง! เคร้ง!
กริดกลับมาที่โรงตีเหล็กอีกครั้งหลังจากไม่ได้กลับมาพักใหญ่ ถัดจากเขาไม่ไกลนัก มีทั่งตีเหล็กวางอยู่สองอัน เหนือทั่งตีเหล็กเป็นหัตว์เทวะทั้งหมดสี่ข้างกำลังลงมือตีเหล็กด้วยท่าทางเช่นเดียวกับกริด บรรดาช่างตีเหล็กวัยเยาว์ต่างยืนอึ้งกับภาพที่เห็น
ข่านเดินเข้ามาใกล้และถามว่า
"อารมณ์ไม่ดีอยู่สินะ... เกิดอะไรขึ้น?"
"มาร์ควิสสไตมพาอัศวินหนุ่มคนหนึ่งมาด้วย และหมอนั่นทำให้ฉันหงุดหงิด"
"โฮ่... ดันมาทำให้คนอย่างแกไม่ชอบหน้าเข้าได้ เจ้านั่นคงซวยแล้วล่ะ"
"ไอรีนกำลังอ่อนไหวเพราะเด็กในท้อง แต่มันกลับเข้ามารบกวนเวลาพักผ่อน... ชิ! ฉันอยากจะทำลายอนาคตของเจ้าบ้านั่นทิ้งเสียตรงนี้"
"ด้วยตำแหน่งของแก การพูดอะไรแบบนี้ออกมานั้นไม่ค่อยจะเหมาะสมนัก แกเองก็เคยเป็นผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งมาก่อน น่าจะรู้ซึ้งถึงความเลวร้ายของมันยิ่งกว่าใครไม่ใช่หรือ?"
"...ฉันก็ไม่ได้คิดจะทำจริงจังหรอกน่า"
กริดเคยตกเป็นผู้ถูกกระทำมาทั้งชีวิตจนกระทั่งสองปีก่อน เขาจึงรู้ดียิ่งกว่าใครถึงความโหดร้ายเหล่านั้น... แต่พอตนมีพลังอำนาจอยู่ในมือบ้าง กลับคิดจะทำในสิ่งเดียวกันกับพวกที่ตนเคยเกลียดชังงั้นหรือ? กริดรู้สึกผิดหวังในตัวเอง
"ขอบคุณมาก ลุงเตือนสติฉันได้เสมอ"
"ฮุฮุ... แกเองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน"
"ตาแก่นี่... ลุงน่าจะรักษามาดไว้หน่อยนะ"
กริดอมยิ้มพร้อมกับเอนศีรษะไปพิงไหล่ข่าน เหมือนกับหลานชายกำลังขอกำลังใจจากผู้เป็นลุง แต่ช่างตีเหล็กวัยเยาว์กลับคิดเป็นสิ่งอื่น
'สองคนนี้สนิทกันมากเลยนะว่ามั้ย'
'ความรักที่ก้าวข้ามเพศ สถานะทางสังคม และแม้กระทั่งอายุงั้นหรือ?'
'หืม... เจ้าพวกเด็กบ้านี่ควรระวังปากไว้สักหน่อยนะ'
เคร้ง! เคร้ง!
ท่ามกลางความสับสนเหล่านี้ หัตถ์เทวะก็ยังคงกระหน่ำตีเหล็กต่อไปไม่หยุด พวกมันกำลังสร้างเซ็ตกริดขึ้นมาจากวัสดุคุณภาพสูง ที่กริดหวงแหนมากจนแทบไม่ให้ใครแตะต้องเลย และเพียงไม่นาน หัตถ์เทวะก็นำไอเท็มที่สร้างเสร็จมามอบให้กริด
[ ทักษะการตีเหล็กของ<หัตถ์เทวะ>เพิ่มขึ้นเป็นระดับขั้นสูงเลเวลสอง ]
[ ทักษะ<(บรรลุศาสตราเทพ) การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน>ของท่าน เพิ่มขึ้นเป็นเลเวลเจ็ด ]
[ จำนวนครั้งของการออกแบบสูตรการผลิตเพิ่มขึ้น จำนวนสูตรการผลิตที่ท่านออกแบบได้ในตอนนี้ (13/21) ]
กริดเองก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวัน
***
"วิ่ง!"
'บัดซบ!'
"กลิ้ง!"
'ชิ!'
"จับอาวุธ!"
'โธ่เว้ย!'
ณ ลานฝึกทหารเมืองเรย์ดัน ด้วย<เจตุจำนงของดยุคกริด> เหล่าทหารจึงต้องผ่านการฝึกนรกต่างๆ นาๆ ทั้งคลานไปบนทรายร้อนระอุ กลิ้ง กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางอันตราย รวมไปถึงการแทงอาวุธอย่างไม่รู้จบสิ้น
'จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ?'
แต่คำถามเหล่านี้ก็คงอยู่ไม่นาน ความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับนั้นมีมากจนบรรดาทหารแทบคิดอะไรไม่ออก พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการสร้างกล้ามเนื้อใหม่ บางคนทรมานมากจนคิดถอดใจกลางคัน
"ยิ่งเหงื่อออกมากเท่าไร ครอบครัวพวกนายก็ยิ่งอยู่อย่างเป็นสุขมากเท่านั้น!"
"อยากให้เรย์ดันกลับไปเป็นเมืองร้างเหมือนเดิมรึไง? อดทนไว้! ปกป้องบ้านเกิด!"
ปิอาโร่และอัสโมเฟลตะเบ็งเสียงขึ้นทุกครั้งที่ทหารแสดงท่าทีอ่อนแอ
'ใช่แล้ว เราต้องสู้!'
แววตาของทหารเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้น จะให้ล้มเลิกกลางคันได้ยังไง? ทุกคนล้วนเปี่ยมไปด้วยไฟการเอาชนะ พวกเขาต้องอดทนผ่านไปให้ได้ และทุกครั้งที่เริ่มเหนื่อยล้าแทบขาดใจ กริดก็ตกเป็นเป้าของคำสาปแช่งอยู่ร่ำไป
'พวกเราไม่ได้อยู่ในช่วงสงครามสักหน่อย ทำไมต้องฝึกหนักขนาดนี้ด้วย?'
'ดยุคกริดคงกลั่นแกล้งเราเพื่อความสนุกแน่นอน!'
'ดยุคกริดบัดซบ! ฉันขอสาปแช่งดวงอาทิตย์แห่งเรย์ดัน! ฉันขอให้เขาเดินหกล้มจมูกหักกลางถนน!'
[ ความจงรักภักดีของทหารเรย์ดันลดลงเจ็ดหน่วย ]
[ มีข่าวลือแพร่กระจายออกมาว่า ทหารของเรย์ดันเริ่มเกลียดชังท่าน ]
"ให้ตายสิ..."
ความจงรักภักดีสามารถนำกลับคืนมาตอนไหนก็ได้ ด้วยความคิดเช่นนี้ กริดจึงวางใจและสั่งให้ฝึกนรกกับกองทัพต่อไป แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะลุกลามบานปลาย ถึงขั้นมีทหารเกลียดชังเขาแล้วหรือ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากไม่สามารถนำความจงรักภักดีกลับคืนมาได้?
'ถึงเวลาที่ต้องยื่นแครอทให้บ้างแล้วสินะ'
กริดมองดูรายชื่อของทหารภายในกองทัพ ทั้งหมดมีจำนวน1,003คน หน้าต่างนี้สามารถแสดงได้แค่ข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น เช่นชื่อ เพศ เลเวล และตำแหน่ง ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยสำคัญจำพวกทักษะหรือพรสวรรค์ กริดสามารถดูได้จากดาบแห่งลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่
"เอ๋?"
ดวงตาของกริดพลันลุกวาวเมื่อเขาจัดเรียงรายชื่อทหารตามลำดับเลเวล มีทหารที่เลเวลสูงถึง150แล้วงั้นหรือ? ทั้งที่ค่าเฉลี่ยของกองทัพจะอยู่แค่136~139เท่านั้น นับว่าคนๆ นี้โดดเด่นมากทีเดียว
'ได้ยังไงกันนะ?'
กริดตัดสินใจเรียกปิอาโร่เข้าพบ
"นายท่านเรียกกระผมงั้นหรือ?"
ปิอาโร่คือบุคคลที่มีภาระหน้าที่มากเป็นอันดับสามรองจากแร็บบิทและลอเอล เขาต้องคอยควบคุมทั้งกองทัพและการทำฟาร์มไปพร้อมกัน แต่แตกต่างจากลอเอลกับแร็บบิทที่มักแสดงสีหน้าเหนื่อยล้าอยู่เสมอ ปิอาโร่นั้นสบายดีมาก คงเป็นเพราะค่าเรี่ยวแรงระดับปีศาจ ปิอาโร่จึงไม่เคยแสดงความเห็นเหนื่อยออกมาให้ใครเห็นเลย
กริดรีบเข้าประเด็น
"เมื่อมองจากรายชื่อของทหารในกองทัพ ดูเหมือนคนที่ชื่อรอยแมนจะโดดเด่นเป็นพิเศษกว่าใคร เกิดอะไรขึ้น? นายได้มอบการฝึกพิเศษให้เขารึเปล่า?"
"ไม่เลย ทั้งอัสโมเฟลและกระผมฝึกฝนทหารทุกคนอย่างเท่าเทียม"
"เช่นนั้นทำไมรอยแมนถึงเติบโตมากเป็นพิเศษได้?"
"คงเป็นเพราะพรสวรรค์และแรงจูงใจ ในขณะที่ทหารบางคนฝึกไปวันๆ โดยไม่คิดอะไร แต่กลับมีบางส่วนที่มุ่งมั่นจะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น"
"หืม... ถ้าอย่างนั้น ฉันอยากให้นายฝึกฝนคนที่ชื่อรอยแมนให้หนักขึ้นกว่าเดิม"
"อยากให้รอยแมนเติบโตเร็วกว่านี้อีกงั้นหรือ?"
"ถูกต้อง อย่างน้อยก็จนถึงเลเวล160"
"เข้าใจแล้ว... อันที่จริง กระผมก็มีแผนจะจัดตั้งหน่วยพิเศษขึ้นอยู่แล้ว หลังจากนี้จะทำการฝึกรอยแมนเป็นพิเศษตามที่นายท่านต้องการ"
"หน่วยพิเศษ?"
คำๆ นี้ฟังดูยิ่งใหญ่มากสำหรับกริด หน่วยพิเศษของปิอาโร่จะมีชื่อว่าอะไรกันนะ?
'กองกำลังพิเศษโอเวอร์เกียร์...'
ดวงตาของกริดพลันเปล่งประกายราวกับตะเกียงโคมไฟทันที
แต่ทันใดนั้น
"ดยุคกริด! ท่านหญิงไอรีนใกล้คลอดแล้ว!"
"อะไรนะ?"
ไหนว่ากำหนดการคลอดคืออีกสองวันข้างหน้า? กริดรีบวางทุกสิ่งลงทันที เขามุ่งหน้าไปหาไอรีนด้วยความเร็วสูงสุดโดยมีปิอาโร่ตามไปติดๆ
ระหว่างทาง ข้อความระบบก็แสดงขึ้นต่อหน้ากริด
[ ท่านต้องการให้ทารกเป็นเพศใด? คำตอบของท่านจะมีอิทธิพลใหญ่หลวงกับเพศของทารก ]
กริดตอบกลับโดยไม่ลังเล
ผู้หญิง เหมือนไอรีนแน่นอน
ReplyDelete