จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 342


       ฉึก!

       'ตอนนี้แหละ!'

       ฉึก! ฉึก!

       'ใกล้แล้วสินะ!'

       เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังมุ่งมั่นขุดดิน  ความสง่างามของเขาไม่อาจถูกปกปิดได้  แม้จะมีผิวที่เกรียมแดดและตามตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษฝุ่นก็ตาม

       'อีกนิดเดียว!'

       ฉึก! ฉึก! ฉึก!

       เด็กหนุ่มที่มีท่าทางขี้อายผู้นี้  เขากำลังใช้คราดเล็กขุดดินอย่างขยันขันแข็ง  จนในที่สุด  เสียงตะโกนที่รอคอยมานานก็ดังขึ้น

       "ได้เวลาของว่างแล้ว!"

       "...!"

       ดวงตาของเด็กหนุ่มพลันลุกวาว  เขารีบยืนขึ้นและร่ายมนต์ใส่ตนเองทันที

       "เร่งความเร็ว!"

       เร่งความเร็ว  เวทย์มนต์ที่จะใช้เพิ่มความเร็วทุกชนิดของเป้าหมายขึ้นจากเดิมตั้งแต่ 1.2 เท่า  ไปจนถึง 2.5 เท่า  ไม่ใช่เวทย์ที่จะเรียนได้ง่ายนัก  มีขอบเขตการใช้งานที่หลากหลาย  และถึงจะเรียนได้  แต่ประสิทธิภาพก็ยังขึ้นอยู่กับตัวของผู้ร่ายอยู่ดี

       จอมเวทย์ที่สามารถเร่งความเร็วตนเองได้เกินสองเท่า… เกรงว่าทั่วทั้งทวีปอาจมีไม่เกิน 100 คนด้วยซ้ำ  แต่ว่า...

       ฟ้าววว!

       ชายที่ก้มตัวขุดดินอยู่เมื่อครู่  ยามนี้ได้ลุกขึ้นมาพร้อมกับความเร็วอันน่าตกตะลึง  ความไวของเขาถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจนไม่มีผู้ใดไล่ตามทัน

       "เจ้าบ้านั่น...!"

       "คิดจะขโมยกินมันฝรั่งคนเดียวอีกแล้วสินะ!"

       บรรดาชาวนาต่างส่ายศีรษะอย่างพร้อมเพรียง  เด็กหนุ่มที่ใช้เวทย์เร่งความเร็วเมื่อครู่คือบลันด์  เขาไม่ละอายใจเลยที่ใช้ทริกเล็กน้อยเพื่อให้ได้กินมันฝรั่งมากกว่าใคร

       "นายลืมแล้วรึไง?  ว่าปิอาโร่บอกให้แบ่งอย่างเท่าเทียมกัน"

       "ฉันจะฟ้องปิอาโร่!"

       เหล่าชาวนาต่างเห็นบลันด์กำลังจะใช้ลูกไม้เดิมๆ เหมือนทุกวัน  พวกเขาจึงเริ่มขู่  สงผลให้บลันด์ชะงักไปครู่หนึ่ง

       'แต่เราอยากกินนี่นา!'

       ขุนนางชั้นเอิร์ล...  บลันด์เติบโตมาในฐานะทายาทของเอิร์ลอัชเชอร์  หนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีป  มันฝรั่งถือเป็นอาหารสุกรที่มนุษย์ห้ามแตะต้อง  ในทุกวัน  บลันด์จะได้กินอาหารที่ทำจากวัตถุดิบชั้นเลิศ  ซึ่งอร่อยกว่าและมีสารอาหารมากกว่ามันฝรั่งหลายเท่า

       แต่สิ่งนี้ก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อถูกจับเป็นเชลยที่เรย์ดัน  ในตอนแรก  การฝืนกินมันฝรั่งก็เพื่อความอยู่รอดเท่านั้น  แต่พอได้ลองลิ้มรส  บลันด์ก็ต้องขนลุกซู่อย่างปลื้มปีติ  เขาประหลาดใจกับรสสัมผัสที่อันอ่อนนุ่มรวมไปถึงความอิ่มเอมใจเมื่อได้กิน

       โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  มันฝรั่งสีรุ้ง  อาหารชนิดนี้ละเอียดอ่อนมาก  แต่ละสีล้วนมีรสชาติแตกต่างกันไป  สำหรับบลันด์  สิ่งนี่เป็นยิ่งกว่าการอวยพรจากพระเจ้า  เขาสามารถสลัดความไม่สบายใจทั้งหมดออกไป  แค่เพียงได้ทานมันฝรั่งอย่างเอร็ดอร่อย 

       แม้เรย์ดันจะสามารถปลูกอาหารได้หลากหลายประเภทแล้ว  แต่บลันด์ก็ยังชื่นชอบมันฝรั่งที่สุดอยู่ดี

       ***

       "วันนี้เธอก็เอาด้วยใช่ไหม?"

       แม่บ้านคนหนึ่งเอ่ยปากถามบลันด์ที่กำลังวิ่งข้ามผ่านทุ่งข้าวสาลีมาเป็นระยะทางไกล  บลันด์พยักหน้าโดยไม่ลังเล

       "แน่นอน!"

       "อา..."

       เหล่าแม่บ้านต่างพากันนึกสงสารบลันด์  เด็กหนุ่มผู้สง่างามที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอคนนี้  ได้ยินมาว่า  เขาเป็นถึงทายาทของตระกูลขุนนางชั้นสูง  จะต้องทำความผิดร้ายแรงแค่ไหนกันนะ  ถึงกลายมาเป็นเชลยของดยุคกริดอย่างทุกวันนี้ได้

       ทุกวันบลันด์ต้องทำงานในฟาร์ม  แถมยังมีข่าวลือว่า  เซอร์ปิอาโร่ได้แอบนำตัวบลันด์ไปซ้อมและทำร้ายร่างกายต่างๆ นาๆ อย่างเจ็บปวดทรมานทุกวัน  ชีวิตของเด็กหนุ่มผู้นี้คงกำลังสิ้นหวังสุดขีด  บางทีอาจคิดถึงความตายอยู่ในทุกลมหายใจ

       'การกินคงช่วยผ่อนคลายความเครียดได้สินะ...'

       'น่าสงสารเหลือเกิน  ทั้งๆ ที่รูปงามขนาดนั้นแท้ๆ'

       แม่บ้านคนหนึ่งได้ยื่นของว่างให้บลันด์ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยน้ำตา  ภายในนั้นมีมันฝรั่งอบจำนวนสิบที่  และมันฝรั่งต้มอีกสิบที่

       "ก็อย่างที่เธอรู้  อันที่จริง  มันฝรั่งพวกนี้ควรจะแบ่งกันคนละชิ้นเท่านั้น..."

       "แต่ฉันรู้ดีว่าเธอต้องพบเจอกับเรื่องร้ายๆ มามากแค่ไหน  เพราะอย่างนั้น  กินให้หมดนี่เลยนะ"

       "กินเยอะๆ แล้วมีกำลังใจสู้ต่อไปด้วยนะ!"

       'ชาวเมือง… พวกเขากำลังสมเพชเราสินะ'

       บลันด์เกิดมาพร้อมสายเลือดที่แข็งแกร่ง  แถมยังได้ร่ำเรียนในเส้นทางอัจฉริยะระดับสูงของอาณาจักรเสมอมา  บลันด์จึงไม่มีโอกาสได้พบปะกับชาวเมืองทั่วไปมากนัก  แต่หลังจากมาอยู่เรย์ดัน  มุมมองของเขาจึงเปลี่ยนไป

       'ชีวิตของพวกเขาก็ไม่ได้ดีกว่าเราสักเท่าไร  แต่กลับคิดถึงคนอื่นมากกว่าตนเอง… จนบางครั้งก็มากเกินไป'

       ถึงจะมีสีหน้ากระอักกระอ่วน  แต่ใจหนึ่งบลันด์ก็ชื่นชมพวกเขา  บลันด์ยื่นมือออกไปรับผ้าเช็ดหน้าที่เต็มไปด้วยมันฝรั่ง  หลังจากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

       "พวกคุณไม่ต้องห่วงผม  สายเลือดของผมแข็งแรงมาก  ไม่มีทางป่วยไข้ได้ง่ายๆ  ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปนะ"

       บลันด์ยังคงพูดต่อไปว่า

       "มันฝรั่งอีกแล้วงั้นหรือ… แม้จะเคยคิดว่าเป็นเพียงอาหารสุกร  แต่ผมก็จะกินมันให้หมด!"

       คำพูดของบลันด์อาจฟังดูโอหังไปบ้าง  จนอาจทำให้เหล่าแม่บ้านเหล่านี้รู้สึกไม่ดี  แต่เปล่าเลย  พวกเธอไม่ได้คิดอะไรในแง่ลบ  แถมยังคิดด้วยว่า  เด็กหนุ่มคนนี้น่ารักดี  ที่ทำตัวปากไม่ตรงกับใจ

       ฮึ!  บลันด์พ่นลมหายใจเบาๆ ก่อนจะรีบนำผ้าเช็ดหน้ามากอดไว้ที่หน้าอก  ตรงกันข้ามกันที่พูดโดยสิ้นเชิง  บลันด์แสดงสีหน้าพึงพอใจกับมันฝรั่งเหล่านี้มาก  หลังจากนั้นก็รีบเดินหายไปทันที  เป็นเวลาเดียวกับที่ชาวนาคนอื่นๆ มาถึง

       "เขาเอาไปเยอะมาก!"

       "พวกเราอาจมีคนไม่ได้กินก็ได้!"

       "เจ้าบ้านั่น!"

       'เสียงดังวุ่นวายชะมัด'

       แค่นี้ก็ต้องโวยวายขนาดนั้นเลยรึไง?  น่ารำคาญฉิบ  บลันด์ส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนจะรีบเดินไปยังจุดประจำที่เขาชอบไปนั่งกินคนเดียว

       ฟาร์มโล่งด้านนอกกำแพงทิศเหนือ

       แต่ทันใดนั้น  ดวงตาของบลันด์ก็พลันหรี่ลง

       'พวกหนูสกปรก...?'

       มีกลุ่มของคนน่าสงสัยราว 20 คนกำลังลอบปืนกำแพงเมืองเรย์ดันอยู่อย่างช้าๆ   ทั้งหมดสวมชุดที่มีสีเดียวกับกำแพง  ทำให้การพรางตัวเป็นไปอย่างแนบเนียน

       หากเป็นบลันด์ในอดีต  เขาคงไม่มีทางสัมผัสถึงพวกมันได้แน่

       "หืม..."

       เมื่อครึ่งวันก่อน  อัสโมเฟลได้พากำลังรบทั้งหมดของเรย์ดันออกไป  ย่อมหมายความว่า  ยามนี้จะต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น

       "แต่ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเราสักหน่อย"

       บลันด์ไม่สนใจว่าพวกมันทั้ง 20 คนจะปีนกำแพงเรย์ดันลอบเข้าเมืองได้สำเร็จ  เขาไม่สนเลยว่าชาวเมืองจะถูกสังหารอย่างโหดร้ายทารุนหรือไม่  อันที่จริง  จากมุมมองของบลันด์  เขาควรจะดีใจเสียด้วยซ้ำ

       "แต่แล้วทำไม...?"

       เหตุใดเขาถึงรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย... บลันด์หยิบมันฝรั่งก้อนหนึ่งใส่ปากพร้อมกับลุกขึ้นยืน  

       บรรดาชาวนาที่เหน็ดเหนื่อยร่วมกัน  บรรดาแม่บ้านที่อุตส่าห์อบมันฝรั่งมาให้ในทุกวัน  บางที  คนเหล่านี้อาจต้องตายก็ได้

       "รู้สึกแย่จังแฮะ"

       และเหนือสิ่งอื่นใด

       "...ไอรีน"

       หญิงสาวที่ตนเคยรัก  ยามนี้ก็กำลังอยู่ในเรย์ดันเช่นกัน  แต่บลันด์ก็ไม่ได้คิดอะไรกับไอรีนแล้ว  เมื่อเธอกลายเป็นของชายคนอื่น

       'ทว่า… อย่างน้อย  เราก็อยากให้เธอมีความสุข'

       บลันด์ตัดสินใจได้ในขณะหยิบมันฝรั่งก้อนที่สามใส่ปาก

       "ศรเพลิง"

       พรึบ!

       นักลอบสังหารทั้ง 20 คนที่กำลังปีนกำแพง  ยามนี้มีศรเพลิงขนาดยักษ์จำนวนแปดดอกได้พุ่งมาหาพวกตนจากด้านหลัง  แถมยังดูไม่เหมือนศรเพลิงธรรมดาเลยสักนิด  ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น  เพราะบลันด์ถูกปิอาโร่ฝึกฝนอย่างหนักมาตลอด 16 เดือนเต็มพร้อมกับการทำฟาร์มในทุกวัน

       บลันด์สามารถหยิบยืมมานาจากธรรมชาติรอบกายได้  คล้ายกับโหมดเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติที่ปิอาโร่ใช้

       ***

       ดาลูก้า  นักลอบสังหารที่ทำตัวเป็นปริศนามาโดยตลอด  มีข่าวลือหลายแห่งระบุว่า  ทั้งคาซิมและโดรันต่างก็เป็นศิษย์ของดาลูก้า  จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อสิบปีก่อน  ราชวงศ์อีเทอนัลก็ได้มีโอกาสสืบทอดเทคนิคลับของดาลูก้า

       นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ราชวงศ์อีเทอนัลก็เริ่มก่อตั้งหน่วยมังกรเงินโดยการรวบรวมเด็กกำพร้าจำนวน 5,000 คนจากทั่วทั้งอาณาจักร  และฝึกให้ทั้งหมดกลายเป็นนักลอบสังหารด้วยเทคนิคลับของดาลูก้า
       
       แน่นอนว่าสิ่งนั้นย่อมไม่ง่าย  จากทั้งหมด 5,000 คน  มีเพียง 40 คนเท่านั้นที่สามารถอดทนและมีชีวิตรอดจากการฝึกอันโหดร้ายมาได้  แต่ก็ไม่มีใครเลยที่บรรลุศาสตร์การลอบสังหารของดาลูก้าอย่างสมบูรณ์  พวกมันทำได้เพียงผิวเผินเท่านั้น

       แต่แค่เพียงผิวเผินก็นับว่าสุดยอดมากแล้ว  หน่วยมังกรเงินมีอัตราการลอบสังหารสำเร็จอยู่ที่ 100% เต็ม  หรือก็คือ  ไม่พลาดเลยสักครั้งเดียว  องค์ชายเร็นจึงมั่นอกมั่นใจเป็นอย่างมาก  ว่าถ้าหากมีหน่วยมังกรเงินอยู่ในมือ  สักวันอาณาจักรอีเทอนัลจะสามารถต่อกรกับจักรวรรดิได้

       และเมื่อถึงเวลานั้น  ธงมังกรเงินที่เป็นสัญลักษณ์ของอีเทอนัลก็จะสยายปีกออกมาทั้งสองข้างออกมาอีกครั้ง              

       'เกิดอะไรขึ้นกันนะ?'

       หน่วยมังกรเงินทั้ง 20 คนต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น  ไม่ใช่เพราะขนาดของทุ่งข้าวอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา  แต่พวกมันตกใจกับระดับของชาวนาเรย์ดัน

       'คนพวกนี้เป็นชาวนาจริงหรือ?'

       ณ ทุ่งข้าวอันกว้างใหญ่  มีชาวนาหลายสิบคนที่ดูพิเศษกว่าปรกติ  บางคนเหวี่ยงเคียวเกี่ยวข้าวในมือด้วยท่วงท่าการเหวี่ยงดาบ  บางคนก็มีสัมผัสหยั่งรู้ที่รุนแรงจนพวกมันต้องหลบซ่อนตัวให้แนบเนียนยิ่งกว่าเดิม  คนพวกนี้แข็งแกร่งพอเป็นนักรบระดับหัวกะทิของอาณาจักรได้เลยทั้งสิ้น

       'ได้ยังไงกัน?'

       หน่วยมังกรเงินทุกคนผ่านการเรียนเทคนิคลับแขนงหนึ่งของดาลูก้าที่มีชื่อว่า<ตัดขาดอารมณ์ทั้งปวง>  สิ่งนี้คือเทคนิคในการควบคุมลมหายใจเพื่อเร้นกายแทรกซึมเข้าไปในดินแดนศัตรู  จากนักลอบสังหารทั้ง 40 คน  มีเพียง 20 คนเท่านั้นที่เรียนได้ถึงขั้นที่ห้า  และทั้ง 20 คนที่เร็นส่งมาก็ล้วนอยู่ในขั้นที่ห้าทั้งหมด  นั่นย่อมหมายความว่า  จิตใจของนักลอบสังหารเหล่านี้จะไม่ถูกสั่นคลอน  แม้ว่ากำลังจะเผชิญความตายอยู่ก็ตาม

       แต่ดูเหมือนชาวนาปริศนาตรงหน้าจะทำให้พวกมันกระสับกระส่าย

       'พวกเราควรระวังตัวให้มากขึ้น'

       หน่วยมังกรเงินตัดสินใจแนบลำตัวลงกับพื้นแล้วคลานเพื่อหลบสายตาของเหล่าชาวนา  

       และผลก็คือ...

       'แฮ่ก  แฮ่ก… สกปรกฉิบ'

       ทั้งเวลาและเรี่ยวแรงถูกใช้ไปมากกว่าปรกติ  พวกมันเคลื่อนไหวได้ช้ากว่ากำหนดการณ์ที่วางไว้มาก  อันที่จริง  ยามนี้พวกมันควรจับตัวดัชเชสไว้ได้เรียบร้อยแล้ว  แต่กลับกลายเป็นว่า  แค่เพียงกำแพงชั้นนอกก็ยังข้ามไม่สำเร็จงั้นหรือ?  ช่างเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดสำหรับหน่วยมังกรเงินมาก

       แต่พวกมันทุกคนล้วนเป็นหัวกะทิ

       'ระงับความสั่นคลอนซะ!'

       พวกมันสามารถสงบจิตใจได้อีกครั้งด้วยเทคนิคตัดขาดอารมณ์ทั้งปวง  และด้วยความที่สวม<ชุดดาลูก้า>  ทำให้เทคนิคการพรางตัวจึงอยู่ในระดับสูงสุด  เพราะชุดดาลูก้าสามารถเปลี่ยนสีได้ตามสภาพพื้นผิวประหนึ่งกิ้งก่า

       ซู่ววว!
       
       ซู่ว!  ซู่ววว!

       แม้กระทั่งองค์เทพบนท้องฟ้าก็ไม่อาจมองเห็นมันได้เลยแท้ๆ  แต่แล้วทำไมถึงมีศรเพลิงถูกยิงมายังทิศทางของมันโดยไม่รู้ตัวได้?  

       "เชี่ย!"

       พวกมันถูกพบตัวแล้วงั้นหรือ?  หน่วยมังกรเงินรีบหลบเวทย์มนต์อย่างลนลาน  และเมื่อหันไปมองก็ต้องพบว่า  ศรเพลิงทุกนัดถูกยิงโดยคนเพียงคนเดียว  ชาวนา… ชาวนาหนุ่มซึ่งกำลังนั่งกินมันฝรั่งอย่างเอร็ดอร่อย  การแต่งกายดูเหมือนกับคนชนบท  

       สิ่งที่ทำให้หน่วยมังกรเงินประหลาดใจมากที่สุด  คงไม่พ้นการที่พวกมันถูกพบเข้าและโจมตีโดยชาวนา 

       'หมอนั่นใช้เวทย์มนต์ได้ด้วยหรือ?'

       แถมยังเป็นเวทย์มนต์ขั้นสูงที่ทั้งรวดเร็วและรุนแรงจนยากจะหลบพ้น

       'ชาวนาของเรย์ดันเป็นปีศาจกันหมดรึไง?'

       ดวงตาของหน่วยมังกรเงินพลันสั่นระริก  เทคนิคตัดขาดอารมณ์ขั้นที่ห้าเริ่มถูกสั่นคลอน

       'พวกเราไม่ควรเสียเวลาไปมากกว่านี้  ควรมองข้ามเจ้านั่นแล้วรีบไปทำภารกิจดีไหม?'

       'ไม่ได้  ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ทุกคนต้องถูกกำจัดทิ้ง  ภารกิจครั้งนี้ต้องเป็นความลับสุดยอด!'

       พวกมันตัดสินใจอย่างรวดเร็ว  หน่วยมังกรเงินทั้ง 20 คนกระโดดลงมาจากกำแพงและวิ่งหาชาวนาผู้กำลังเคี้ยวมันฝรั่ง  เดิมที  จอมเวทย์นั้นจะมีพลังป้องกันที่ต่ำมาก  ถ้าถูกเข้าประชิดตัวได้ก็จบเห่
       
       กระหน่ำยิงเวทย์งั้นหรือ?  พวกมันไม่กลัวของแบบนั้นเลยสักนิด  แค่ทำให้ไม่สามารถร่ายเวทย์ได้ก็จบแล้ว

       "เชี่ย?"

       แต่ความมั่นใจเมื่อครู่ก็ต้องสลายเป็นปลิดทิ้ง  ชาวนาที่ควรจะเป็นจอมเวทย์  ยามนี้กลับเสกบาเรียขนาดใหญ่ขึ้นมาและเริ่มชักดาบ

       'เจ้านี่เป็นใครกันแน่?'

       ชาวนา  จอมเวทย์  นักดาบ  ไม่มีใครรู้ว่าบลันด์คืออะไร  ทันใดนั้น  บลันด์ก็เริ่มยิงศรเพลิงออกไปใส่พวกมันอีกครั้ง  ทั้งๆ ที่ตัวเขายังคงสภาพบาเรียไว้ได้ในเวลาเดียวกัน

       "ร่ายเวทย์สองชนิด...?"

       สีหน้าของพวกมันพลันซีดเผือด  ในยามนี้  เทคนิคลับตัดขาดอารมณ์ทั้งปวงไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว

       ***

       ในขณะเดียวกัน

       "ขว้างอีกรอบ"

       คาซิม  ราชันย์แห่งเงา  นักฆ่าอันดับหนึ่งของทวีป  ชายผู้สังหารคนโดยไม่กระพริบตามานับไม่ถ้วน  บัดนี้กำลังเล่นสนุกอยู่กับทารกอย่างน่าเอ็นดู  

       เขากำลังฝึกให้เด็กทารกกระทำในบางสิ่ง

       "อาบู!  อาบู๊วววว!"

       เด็กทารกหรี่ดวงตาอันคมกริบที่เหมือนกับบิดาลง  เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า  คราวนี้เขาจะทำมันให้สำเร็จ  และผลก็คือ...

       แป๊ก!

       ลอร์ดสามารถขว้างตัวต่อของเล่นใส่ตุ๊กตาที่ห่างออกไปสามเมตรได้อย่างแม่นยำ  ความสำเร็จในครั้งนี้  ลอร์ดใช้เวลาเรียนรู้และพัฒนาเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น  นับเป็นความเร็วซึ่งเหนือกว่าที่คาซิมคาดไว้มาก

       คาซิมรู้สึกยิ่งกว่าชื่นชม  เป็นการยอมรับ  เป็นความเคารพนับถือ  

       เขาไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร

       'เด็กคนนี้... ต้องทำได้แน่!  เขาต้องบรรลุเคล็ดวิชาทั้งหมดของท่านอาจารย์ได้แน่!'

Comments

  1. สนุกมากครับ ขอบคุณที่แปลครับ

    ReplyDelete
  2. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. เด็กทารกที่เกิดมายังไม่พอเดือน555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00