จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 326
แม้จะมีนักเรียนไม่ถึง400คน แต่โรงเรียนมัธยมปลายยังก์เลดี้ส์กลับมีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่มาก เนื้อที่รวมทั้งหมดของโรงเรียนคือ161,150ตารางเมตร มีสนามเด็กเล่นสองแห่ง สระว่ายน้ำทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง ห้องฝึกซ้อมอีกจำนวนมาก ฮอลล์จัดงานแสดง โรงยิม และสิ่งอำนวยความสะดวกนับไม่ถ้วน
นับว่ามีขนาดระดับเดียวกับมหาวิทยาลัยใหญ่ เหตุใดโรมเรียนมัธยมปลายถึงได้กว้างใหญ่และครบครันเช่นนี้น่ะหรือ? ทั้งหมดมาจากปณิธานความตั้งใจที่จะสร้างโรงเรียนในอุดมคติของคิมจองซุก ผู้ก่อตั้งโรงเรียนและประธานกองทุน
มีเพียงสุดยอดสภาพแวดล้อมเท่านั้นที่สามารถสร้างสุดยอดสตรีขึ้นมาได้!
นี่คือปรัญชาของคิมจองซุกเสมอมา
ด้วยเหตุนี้ ทำให้โรงเรียนมัธยมปลายยังก์เลดี้ส์กลายเป็นเป้าหมายระดับท็อปของนักเรียนหญิงทั่วประเทศเกาหลีใต้มาตลอด50ปีหลัง ไม่ว่าใครก็ตาม ย่อมต้องการศึกษาเรียนรู้ภายใต้สภาพแวดล้อมครบครันและงดงามเช่นนี้
***
งานโรงเรียนมัธยมปลายยังก์เลดี้ส์กำลังคึกคักสุดขีด!
ภายในฝูงชนที่แสนแอดอัน มีชายสองคนกำลังสวมแว่นตาดำขนาดใหญ่และผ้าปิดปากเพื่อบดบังใบหน้า ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพีคซอร์ดและยองวู
"ยอดเลยแฮะ โรงเรียนใหญ่ขนาดนี้เชียว? เคยแต่ได้ยินมาจากข่าวลือ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง"
ยองวูได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยใกล้บ้านซึ่งมีค่าเล่าเรียนไม่แพง ถือเป็นมหาวิทยาลัยเล็กๆ ซึ่งมีขนาดพื้นที่น้อยกว่ามัธยมปลายยังก์เลดี้ส์ราวสามเท่าเห็นจะได้
"นี่เป็นโรงเรียนของน้องสาวนายไม่ใช่หรือ? ทำไมเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก?"
"ทุกทีก็รออยู่ที่หน้าประตู นี่เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสเข้ามาด้านใน"
"เข้าใจล่ะ... หืม?"
ในขณะที่กำลังสนทนากับกริด จู่ๆ พีคซอร์ดก็ขมวดคิ้ว
"ทาโกะยากิ? โอโคโนมิยากิ? ยากิโซบะ? บ้าจริง! ทำไมถึงมีอาหารญี่ปุ่นอยู่ในงานโรงเรียนของเกาหลีใต้ได้?"
พีคซอร์ดเกิดอาการโมโหทันที เพราะแผงขายของตั้งแต่ทางเข้าประตูจนมาถึงด้านในล้วนเต็มไปด้วยป้ายร้านค้าภาษาญี่ปุ่นจำนวนมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกับย่านฮงแดที่มีแต่ผับญี่ปุ่น เป็นการยากที่จะบอกได้ว่าที่นี่คือเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่นกันแน่
"พื้นเพคนเกาหลีใต้เป็นคนใจกว้างและจิตใจงดงามก็จริง แต่บรรพบุรุษของพวกเราก็ได้รับความเจ็บปวดทรมานมากสมัยที่ถูกญี่ปุ่นยึดครอง แล้วนี่มันอะไรกัน? เหตุใดชนรุ่นหลังถึงยอมรับวัฒธรรมญี่ปุ่นได้ง่ายดายขนาดนี้? มันจะไม่อะลุ่มอะหล่วยไปหน่อยรึไง?"
"..."
พีคซอร์ดคือประธานของสมาคมเชิดชูเกาหลีใต้ เขารักประเทศนี้มาก กริดพยายามมองโลกในแง่ดีและไม่ไปใส่ใจ ชายหนุ่มทำเพียงเหลียวซ้ายแลขวาไปรอบๆ
'คนเยอะจังแฮะ'
ยองวูไม่ได้สนใจว่าบนถนนจะมีอาหารชาติใดวางขาย เขาสนเพียงความปลอดภัยของเซฮีเท่านั้น
'คิมโดฮยุน!'
ยองวูหวังจะปกป้องไม่ให้เซฮีถูกโดฮยุนเข้าใกล้ เขาจะไม่ยอมให้ดาราระดับท็อปของโลกผู้นี้มาเล่นสนุกกับน้องสาวตนเองเด็ดขาด แต่ปัญหาก็คือ ในยามนี้ รอบตัวเขามีผู้คนแออัดเกินไป กว่าจะขยับได้แต่ละก้าว ยองวูต้องใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการเคลื่อนที่ได้เพียงหนึ่งร้อยเมตร
'บางทีอาจเป็นเพราะดาราดังอย่างโดฮยุนมาที่นี่ แฟนๆ ของเขาจึงตามมาให้กำลังใจอย่างล้มหลาม...'
ในขณะที่ยองวูกำลังขบคิดเรื่องมากมายอยู่ในหัว
"นี่! พี่ชายสุดหล่อตรงนั้นน่ะ!"
นักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินตรงมาหายองวูด้วยท่าทีเขินอาย เธอตัวเล็กน่ารัก โดยกำลังสวมผ้ากันและหมวกสำหรับทำอาหาร ใบหน้าของเด็กคนนี้งดงามมาก
"หืม? เรียกฉันทำไมหรือจ๊ะ? สาวน้อย"
เมื่อได้เห็นนักเรียนหญิง ภาพของเซฮีก็ลอยมาในหัวยองวูทันที เขาจึงพยายามทำตัวเป็นมิตรกับพวกเธอ ช่างขัดกับภาพลักษณ์อย่างสิ้งเชิง จนแม้แต่พีคซอร์ดก็ยังขนลุกซู่
"พวกเรามีของว่างชนิดใหม่ที่เพิ่งจะวางขายในเทศกาลนี้มาให้พี่ชายได้ลองชิม สนใจไหมคะ? ราคาเพียง3,000วอนต่อหนึ่งที่เท่านั้น"
เด็กนักเรียนหญิงสะบัดชายผ้ากันเปื้อนเล็กน้อยเพื่ออ้อนวอน ใช่แล้ว เธอคงเป็นหนึ่งในสมาชิกของชมรมสักแห่งที่ต้องทำยอดขาย อันที่จริง ยองวูไม่ต้องการจะสูญเงินอย่างเปล่าประโยชน์ แต่เด็กพวกนี้อาจเป็นเพื่อนเซฮีก็ได้ เขาจึงพยักหน้าเบาๆ
"ได้เลย เอามาที่นึง"
"ฮิฮิ! ขอบคุณค่า~"
นักเรียนสาวคนดังกล่าวพายองวูและพีคซอร์ดไปยังหน้าร้านของเธอ ซึ่งรายชื่อเมนูที่ติดป้ายอยู่ค่อนข้างแปลกตามากทีเดียว
'ไอศกรีมกิมจิ? เค้กกิมจิ?'
ยองวูพลันรู้สึกถึงลางร้ายทันที สีหน้าของเขาเริ่มซีดเผือด ในทางกลับกัน ดวงตาของพีคซอร์ดกลับเปล่งประกายราวกับคบเพลิง
"โฮ่! พวกเธอไม่เลวนี่นา! พยายามทำให้วัฒธรรมเกาหลีใต้เข้าถึงชาวต่างชาติได้ง่ายขึ้นสินะ? เจ๋งมาก!"
"อือ… เจ๋งก็เจ๋ง"
อันที่จริง ทำไมต้องไปบังคับให้ชาวต่างชาติชอบกินอะไรแบบนี้ด้วยนะ? แล้วอีกอย่าง ทำไมถึงต้องเป็นกิมจิ? เกาหลีใต้ไม่มีอาหารอย่างอื่นแล้วรึไง? ในขณะที่กำลังครุ่นคิด ยองวูก็ได้ยินเสียงนักเรียนหญิงคนเดิมพูดขึ้น
"เห็นไหม? ฉันพาลูกค้ามาได้แล้ว! แค่ยิ้มนิดหน่อยพวกเขาก็รีบตามมาเลยล่ะ!"
"ฮิฮิ ดูเหมือนจะเป็นพวกแพ้ทางนักเรียนหญิงสินะ"
"..."
ช่วยนินทาให้เบาลงกว่านี้ไม่ได้รึไง? ยองวูพยายามข่มความโกรธไว้ด้วยการนึกถึงหน้าน้องสาว หลังจากนั้นก็เหยียดแขนออกไปรับไอศกรีมจำนวนสองที่
"8,000วอนค่ะ!"
"อะไรนะ? ไหนบอกว่าแค่3,000วอนไง?"
"แต่สองอันที่พี่ชายสั่งมีราคารวมกัน8,000วอนค่ะ"
ยองวูเห็นเด็กสาวตรงหน้ากำลังฉีกยิ้มกว้าง สีหน้าของเขาพลันมืดมนลงทันที เด็กสาวสมัยนี้ช่างน่ากลัวนัก ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะดีดใส่หน้าผากของนักเรียนหญิงไปหนึ่งที
เพี้ยะ!
"ให้มันน้อยๆ หน่อยแม่หนู พวกเธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?"
"ฮ--ฮึก… ฮือออ"
น้ำตาของนักเรียนคนที่โดนดีดหน้าผากเริ่มคลอเบ้า
ยองวูมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นมากในช่วงหลัง เขาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่เคยคิดควบคุมการออกแรงเลย เมื่อเห็นน้ำตาของเด็กหญิง ยองวูก็เริ่มออกอาการตื่นตระหนก เขาพยายามหาวิธีทำให้เธอคนนั้นหายเจ็บโดยเร็ว
"อ--อย่าร้องสิ… โอ๋~"
ยองวูใช้มือลูบเบาๆ ไปที่หน้าผากของสาวน้อย
"อ๊าง~"
เด็กสาวคนดังกล่าวร้องเสียงหลงทันที ทั้งใบหน้า หู แก้ม คอ ทุกส่วนกลายเป็นสีแดงก่ำ แข้งขาอ่อนแรง น้ำตาคลอเบ้ายิ่งกว่าเดิม ยองวูพลันเกิดอาการลนลานสุดขีด
'ค่าความชำนาญบัดซบ...!'
เป็นเรื่องดีที่มันสามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้ แต่ช่วยเลือกเวลาและสถานที่หน่อยสิฟะ! ยองวูรีบเดินชิ่งออกจากร้านและหันไปตะคอกกับพีคซอร์ดทันที เขาไม่ต้องการจะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกล่วงละเมิดทางเพศ
"รีบจ่ายเงินเร็วเข้า!"
"เอ๋? ด--ได้"
เกิดอะไรขึ้นกันนะ? พีคซอร์ดยังคงมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไหนว่ายองวูอยากกินไอศกรีมไง? แล้วทำไมตูต้องเป็นคนออกตังด้วย? พีคซอร์ครีบจ่ายเงิน8,000วอนและเดินตามยองวูไป
หลังจากนั้นไม่นาน
"โฮ่! สุดยอดมากก! ไอศกรีมกิมจิละลายในปากทันทีเลย ชาวต่างชาติจะต้องชอบมากแน่!"
"...งั้นเอาอันนี้ไปกินด้วยเลยก็แล้วกัน"
ยองวูส่งถ้วยไอศกริมไปให้กับพีคซอร์ดที่กำลังตื้นตันใจ หลังจากนั้นก็เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่เยริมส่งมาเมื่อราวหนึ่งชั่วโมงก่อน
[ หนูกับเซฮีกำลังทำงานอยู่ในบ้านผีสิงน้า~ *^0^* เป็นผีเซ็กซี่ล่ะ ♥ ]
"แค่ก..."
ข้อความได้แนบรูปมาด้วย เป็นภาพอันแสนเซ็กซี่ของเยริมที่เผยต้นขาและเนินอก ช่างดูไม่เหมาะสมกับวัยเลยสักนิด
"เป็นผีที่ยังบริสุทธิ์อยู่สินะ"
ทุกบูธจะถูกจัดโดยนักเรียนของยังก์เลดี้ส์เท่านั้น ย่อมความความว่า บ้านผีสิงจะไม่มีผีผู้ชาย ยองวูเริ่มให้ความสนใจทันที แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นกังวล ถ้าเซฮีต้องแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้บ้าง นั่นจะยิ่งไม่ตกเป็นเป้าของคิมโดฮยุนเอาหรือ? ยองวูที่ร้อนรนพยายามหาทางฝ่าคลื่นมวลชนตรงหน้าให้ได้ เขาต้องทำอะไรสักอย่าง
'ใช่แล้ว… ค่าความชำนาญของนิ้วเรา...'
ในซาทิสฟาย กริดสร้างไอเท็มขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน แถมยังเคยมอบความพึงพอใจให้ไอรีนอีกหลายหน… ถึงเวลาแล้วที่เขาจะนำทักษะอันแสนสำคัญนั่นมาใช้ในชีวิตจริงบ้าง
'ไม่เป็นไรหรอกน่า… มันยังได้ผลกับกระเทียมที่เราเคยปอกทุกคืนเลย'
นี่เขาต้องนำมันมาใช้กับเด็กสาวมัธยมปลายจริงหรือ? ยองวูไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนจะต้องมาถึงจุดนี้
กร็อบ! กร็อบ!
เขาแบมือขึ้นมาพร้อมกับหักนิ้วเพื่อวอร์ม หลังจากนั้นก็หันไปพูดกับพีคซอร์ดว่า
"เดี๋ยวนายรีบตามฉันมาให้เร็วที่สุดเลยนะ"
"เห๋? หมายความว่ายังไง?"
กริดจะแทรกตัวผ่านดงเด็กนักเรียนหญิงเหล่านี้ด้วยวิธีไหนกัน? พีคซอร์ดกินไอศกรีมไปพลาง งงไปพลาง
"อ๊าง~!"
"หย๋าาา~"
"อ๊าา~"
ทันทีทีมือของยองวูสัมผัสเข้ากับสะโพกหรือแผ่นหลังของนักเรียนหญิงที่ยืนขวาง พวกเธอจะส่งเรียงร้องประหลาดออกมาพร้อมกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น
'ก--เกิดอะไรขึ้น?'
ราวกันปาฏิหาริย์ของโมเสสถูกสร้างขึ้นอีกครั้งตรงหน้า เด็กนักเรียนหญิงต่างนั่งลงและเปิดทางให้ยองวูเดินผ่านไปอย่างง่ายดาย มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ตรงหน้าได้
"ส--สมกับเป็นก็อดกริด...!"
แม้จะไม่รู้ว่ายองวูใช้วิธีใด แต่ก็อดกริดก็เป็นก็อดกริดวันยังค่ำ พีคซอร์ดรีบเดินตามยองวูไปติดๆ อย่างยืดอกภูมิใจ
***
งานเทศกาลจะจัดขึ้นทั้งหมดสามวัน โดยผู้เที่ยวชมเฉลี่ยในงานจะตกอยู่ราวหนึ่งหมื่นคน นับเป็นจำนวนที่สูงเกินกว่างานโรงเรียนทั่วไปมาก แน่นอนว่ามีเงินสะพัดจำนวนไม่น้อยเช่นกัน สิ่งนี้เป็นความตั้งใจของผู้จัดงาน นั่นก็เพื่อทำให้โรงเรียนมีชื่อออกข่าวโทรทัศน์บ่อยครั้งโดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณา
"ฉันดีใจมากที่คุณโดฮยุนตัดสินใจมางานโรงเรียนของพวกเรา"
ผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน ลีชองซุน กล่าวกับคิมโดฮยุนอย่างตื่นเต้นดีใจ ในทุกปี โรงเรียนยังก์เลดี้ส์จะต้องเสียเงินจ้างไอดอลหรือดาราดังให้มันร่วมงานเพื่อดึงดูดผู้คน แต่ในครั้งนี้ คิมโดฮยุนกลับสมัครใจมาเองโดยไม่ต้องเสียเงินจ้างสักวอนเดียว
ด้วยเหตุนี้ ลีชองซุนจึงดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอจะได้รับการประเมินที่สูงขึ้นจากคณะกรรมการและบอร์ดบริหาร
"เรื่องเล็กน้อยครับ"
คิมโดฮยุนเริ่มทำการอ่านตารางจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในงานโรงเรียน โดยเขาให้ความสนใจกับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับซาทิสฟายเท่านั้น
ประกวดสัตว์เลี้ยงในซาทิสฟาย
แข่งว่ายน้ำในซาทิสฟาย
การประลองในซาทิสฟาย
"กริดได้ลงชื่อเข้าแข่งในรายการไหนบ้างรึเปล่าครับ?"
หลังจากพบกันไม่นาน คิมโดฮยุนก็ถามเข้าประเด็นทันที ผู้อำนวยการลีชองซุนพลันหรี่ตาลงเล็กน้อย
"เขาไม่ได้เข้าร่วมแข่งรายการใดเลย อันที่จริง ฉันเคยส่งคำเชิญไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ปฏิเสธทั้งหมด"
โดฮยุนผิดหวังเล็กน้อย หากเขาเป็นกริดล่ะก็ การปรากฏตัวในงานโรงเรียนจะช่วยสร้างชื่อให้น้องสาวได้เป็นอย่างดี แต่กริดกลับไม่ยอมทำเช่นนั้น
'ไม่สิ… เขาอาจจัดลำดับความสำคัญไว้ต่างจากเรา... สมแล้วที่เป็นเจ้านายของโนเอะ เราต้องเรียนรู้จากกริดให้มากขึ้น'
โดฮยุนคิดเองเออเองไปไกล
"เอ่อแล้ว… รูบี้ ไม่สิ… คุณเซฮี เธอลงแข่งรายการไหนบ้างครับ?"
"อันนี้ค่ะ การประลองในซาทิสฟาย"
"..."
โดฮยุนประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดว่าเซฮีอาจลงแข่งในรายการสัตว์เลี้ยงหรือไม่ก็ว่ายน้ำ แต่กลับกลายเป็นสนามประลองเนี่ยนะ? ช่างเถอะ ในเมื่อกำหนดการชัดเจนแล้ว เขาก็ต้องตีสนิทกับเซฮีเข้าไว้เพื่อจะได้เข้าหากริดง่ายขึ้น
โดฮยุนตัดสินใจแน่วแน่
"ผมจะลงแข่งสนามประลอง อ้อ… แล้วก็ลงแข่งประกวดสัตว์เลี้ยงด้วย..."
โดฮยุนคือหนึ่งในคนที่สนุกกับซาทิสฟายมาก ในวันว่างเว้นจากงาน หากไม่เล่นกับสุนัขที่บ้าน เขาก็จะเข้าซาทิสฟายไปเพื่อผ่อนคลาย โดฮยุนเคยให้สัมภาษณ์กับสื่ออยู่หลายหนถึงเรื่องนี้ แต่ผู้คนส่วนมากก็มักเอาไปตีความว่า โดฮยุนคงชอบเข้าไปเก็บเลเวลหรือฆ่ามอนสเตอร์มากกว่า
'พวกเด็กๆ ที่ลงแข่งประกวดสัตว์เลี้ยงจะน่ารักขนาดไหนกันนะ?'
ตึกตัก! ตึกตัก!
โดฮยุนพลันใจเต้นอย่างคาดหวัง ในยามนี้ เสน่ห์ของเขายิ่งทรงพลังมากขึ้นหลายเท่า จนทำให้แม้ผู้อำนวยการลีชองซุนจะมีอายุปาเข้าไป60ปีแล้ว แต่เธอก็อดหลงไหลในความหล่อเหลาไม่ได้
161,150 ตารางเมตร เผื่อคนที่เดาไม่ออกนะครับ
ReplyDeleteสวนจตุจักรประเทศไทยมีพื้นที่โดยประมาณ 170,000 ตารางเมตร
อนุสวารีย์ชัยสมรภูมิ ราวๆ 25,000 ตารางเมตร
สนามหลวง 110,000 ตารางเมตร
เขาชนไก่ 2,500,000 ตารางเมตร
เก็ดเลย มองเห็นภาพเต็มๆ ขอบคุณครับ
Deleteก่อนจะไปช่วยน้องอาจต้องไปนอนคุกก่อนนะเฮ้ย ใส่แว่นดำปิดปากน่าสงสัยแถมยังทำอนาจารเด็กสาวในที่สาธารณะ
ReplyDeleteมือปีศาจ ต้องทำไงถึงจะได้มันมา
ReplyDelete