จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 319
'ปิอาโร่จะต้องมีเลเวลไม่ต่ำกว่า 400 แน่นอน'
กริดสามารถรู้ได้เองโดยที่ไม่ต้องใช้ดาบลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ตรวจสอบ ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วที่จะทำให้เขาโจมตีได้เบาขนาดนี้ ทั้งที่ปิอาโร่กำลังสวมชุดชาวนาเก่าซอมซ่ออยู่
'เลเวลต่างกันประมาณ 100 ระดับสินะ'
ช่องว่างของ 100 เลเวลนั้นมีมากเกินไป ไม่อาจอุดลงได้ด้วยการชดเชยพลังของไอเท็มเพียงอย่างเดียว หากไม่นับระบบลดทอนความเสียหาย ค่าสถานะของกริดก็ยังถือว่าเป็นรองเอ็นพีซีระดับตำนานอยู่มาก แถมความรุนแรงจากทักษะต่างๆ ของปิอาโร่ก็ใช่ย่อย ในทางสามัญสำนึก กริดแทบไม่มีโอกาสเอาชนะปิอาโร่ได้เลย
แต่...
'เราเกิดมาเพื่อก้าวข้ามสามัญสำนึกอยู่แล้ว!'
นั่นย่อมหมายความว่า...
'ใช่แล้ว ด้วยพลังแห่งไอเท็มยังไงล่ะ'
มีเพียงไอเท็มเท่านั้นที่สามารถทำลายสมดุลของซาทิสฟายได้ สำหรับผู้เล่นที่ไม่มีปัญญาครอบครองก็คงจะได้แต่ร้องโอดครวญ แต่ไม่ใช่กับกริด เขาคือบุคคลที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในด้านความโกงของไอเท็ม ในทางกลับกัน ปิอาโร่สวมเพียงอุปกรณ์เก่าๆ และอาวุธทำฟาร์มเกรดแรร์เท่านั้น
'โอกาสชนะยังพอมีอยู่'
กริดตระหนักถึงฝีมือของชาวนาในตำนานดีแล้ว แต่นั่นก็ยังมิอาจเทียบได้กับอริยะดาบแน่นอน
'ปิอาโร่ ฉันจะบดขยี้ความดื้อรั้นของนายเอง'
กริดหวังจะให้ปิอาโร่กลับไปอยู่ในเส้นทางของอริยะดาบอีกครั้ง เขาลั่นวาจาภายในใจอย่างหนักแน่น ชายหนุ่มเริ่มใช้ทักษะแยกส่วนไอเท็มเพื่อนำหยดน้ำตาแห่งกษัตริย์เผ่าวารีออกมา หลังจากนั้นก็เทพาเฟรเนี่ยมทั้ง 27 ชิ้นลงไปในเตาหลอม
ในขณะกำลังจะเริ่มลงมือถลุงโลหะ
'คราวนี้เขาจะสร้างอะไรกันนะ?'
ข่านและช่างตีเหล็กวัยเยาว์มาล้อมวงจับตาดูกริด ทุกคนต่างจดจ้องทุกการกระทำของช่างตีเหล็กในตำนานผู้นี้ แต่ก็ไม่มีใครเลยที่เดาออกว่ากริดคิดจะสร้างอะไรขึ้นมา
'เขากำลังทำอะไรอยู่?'
เคร้ง! เคร้ง!
ในระหว่างที่รอพาเฟรเนี่ยมละลาย กริดก็เริ่มสร้างแม่พิมพ์เฉกเช่นทุกครั้ง แต่คราวนี้แบบพิมพ์ดูจะแตกต่างจากปรกติมาก เพราะมันไม่ใช่รูปทรงดาบหรือหอก แต่เป็นฝ่ามือของกริดเอง
***
ปาร์ตี้คณะล่าพาเฟรเนี่ยมได้เคลียร์เมืองแวมไพร์ที่ 10 ถึง 15 ซ้ำไปมาอีกหลายรอบ
อันที่จริง พวกเขาต้องการไปลุยเมืองแวมไพร์หลักเดียวที่มีระดับความยากสูงกว่านี้ แต่เมื่อกริดห้ามไว้ จึงไม่มีใครที่คิดกล้าไปลอง
"ในบรรดาแวมไพร์ทั้งหมด มีแวมไพร์ทรงพลังตนหนึ่งที่มีชื่อว่าแมรี่-โรส บราฮัมบอกว่าเธอกำลังหลับไหลอยู่สักแห่งภายในเมืองแวมไพร์ ถ้าหากพวกเราไม่ต้องการถูกฆ่าล้างปาร์ตี้ในพริบตา ก็จงเก็บเลเวลอยู่แต่ในจุดเดิมที่เคยเคลียร์มาแล้ว ถ้าถามว่าแม่รี่-โรสเก่งกาจขนาดไหน? เอ่อ… ต่อให้ชาวโอเวอร์เกียร์ทุกคนร่วมมือกันสู้ ก็คงถูกฆ่าเรียบทั้งหมดภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที แมรี่-โรสเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งแข็งแกร่งมาก… เธอคือบอสสุดโกงในเวลานี้"
'แข็งแกร่งกว่าเอลฟิน-สโตนหลายเท่า...'
'ระดับมังกรเลยงั้นหรือ?'
หลังจากกริดที่อัพเลเวลถึง 300 เขาก็สามารถเอาชนะเอลฟิน-สโตนมาได้ในที่สุด กล้าพูดได้เต็มปากว่า กริดคือผู้เล่นที่ล่าบอสได้เก่งกาจที่สุดแล้วในเวลานี้ แถมยังมีชาวโอเวอ์เกียร์ระดับท็อปของโลกเป็นลูกน้องอีกมากมาย แต่ถึงกระนั้นก็ยังถูกแมรี่-โรสกวาดเรียบในพริบตางั้นหรือ?
นั่นสินะ… โลกซาทิสฟายนั้นกว้างใหญ่ ยังมีสถานที่และสิ่งมีชีวิตปริศนาอีกมากมายซึ่งพวกเขายังไม่เคยพบเจอ
"ว่าแต่… อัตราดรอปโอสถมันไม่ห่วยไปหน่อยรึไง? นี่พวกเราฆ่าแวมไพร์มาเกินหมื่นตัวแล้ว แต่กลับยังไม่ได้โอสถเลยสักขวดเนี่ยนะ?"
"เห็นด้วย อย่างน้อยถ้าดรอปโอสถความอดทนมาสักขวดล่ะก็..."
"ขนาดว่าพวกเรามีบัฟช่วยเพิ่มอัตราดรอปอยู่นะเนี่ย… ดูเหมือนมันจะหายากยิ่งกว่าที่ลือกันเสียอีก"
"อย่างน้อยก็ยังได้แหวนแวมไพร์จูเนียร์มา 11 วงแหละน่า เท่านี้ก็มากเกินพอแล้ว"
ในเมืองแวมไพร์ที่สามารถเอาชนะบอสใหญ่ได้แล้วหนหนึ่ง การท้าทายในเมืองเดิมครั้งต่อไป อัตราการปรากฏตัวของแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์จะน้อยลง และตัวบอสก็จะเปลี่ยนไปเป็นแวมไพร์ที่อ่อนแอกว่าเดิมมาก เมื่อระดับความยากของดันเจี้ยนลดลง อัตราดรอปของไอเท็มก็ต่ำลงตามไปด้วย
แม้ชาวโอเวอร์เกียร์จะไม่ได้รับในสิ่งที่หวัง แต่พวกเขาก็ยังมองโลกในแง่ดีได้อยู่ เพราะแวมไพร์เหล่านี้มอบค่าประสบการณ์ที่สูงมาก กล้าพูดได้เต็มปากว่านี่คือดันเจี้ยนสำหรับเก็บเลเวลอันดับหนึ่งของเกมในเวลานี้ ขนาดยูร่าที่ในตอนแรกมีเลเวลเพียง 203 ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียวก็กลายเป็นเลเวล 210 เรียบร้อยแล้ว
"แล้วกริดไปไหน? เหลือระยะเวลาบัฟแค่ 25 วันเองนะ"
"เขาติดภารกิจสำคัญบางอย่างอยู่ จะมาสมทบกับพวกเราในอีกสองวันข้างหน้า"
"ภารกิจสำคัญ? วันก่อนก็สร้างดาบใหญ่ให้คริสไปหนนึงแล้ว คราวนี้อะไรอีก?"
"หรือเจ้าบ้าคริสมันจะหักหลังกริด?"
"ไม่ใช่แบบนั้น กริดบอกว่า เขากำลังจะสร้างไอเท็มชนิดใหม่ที่แข็งแกร่งเหนือคำบรรยายออกมา"
"ไอเท็มชนิดใหม่...?"
ไม่ว่าจะเป็นดาบ หอก หรือธนู หากพูดถึงเรื่องการต่อสู้ ไอเท็มประเภทเหล่านี้มักถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงให้เป็นที่หนึ่ง แต่กริดกลับบอกว่ายอดเยี่่ยมกว่าสิ่งเหล่านั้นอีกหรือ? พวกเขาไม่เข้าใจคำพูดของกริดเลยสักนิด
"หรือว่าจะหาวิธีผสานไอเท็มโดยที่ไม่ต้องใช้เวลานานได้แล้ว?"
"...นั่นก็เป็นไปได้"
ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่ามีทักษะพิสดารอยู่มากมายหลายชนิด แถมกริดก็แสดงศักยภาพของมันออกมาได้เป็นเลิศ ชาวโอเวอร์เกียร์ต่างไม่มีใครคาดเดาได้ว่า คราวนี้กริดจะสร้างอะไรออกมาอีก
***
กริดคิดอย่างลวกๆ
'มือน่ะหรือ? สร้างง่ายจะตายไป!'
เขามีค่าความชำนาญราว 2,600 แต้ม ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่สร้างดาบใหญ่เกรดเลเจนดารีขึ้นมาสองเล่มติดกัน กริดแสดงสีหน้ามั่นใจกว่าทุกครั้ง เขาบรรจงเทพาเฟรเนี่ยมเหลวลงในแม่พิมพ์จำนวนห้าบล็อคและรอให้มันแข็งตัว
ผ่านไปครู่ใหญ่
"ดีล่ะ! เจ๋ง!"
ฝ่ามือสีทองที่กำลังแบมือออกได้โบยบินไปรอบตัวกริด ภาพดังกล่าวทำให้ชายหนุ่มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง ในอนาคต พวกมันจะแบ่งเบาภาระของเขาได้มากแค่ไหนกันนะ? แค่คิดก็สนุกแล้ว
อ้อ… ต้องอย่าลืมว่ามันสามารถใช้ในการต่อสู้ได้ด้วย
เพียงลองนึกภาพตาม มือทั้งห้าคอยถือโล่ปกป้องเขา หรือไม่ก็ถือดาบเข้าฟาดฟันศัตรู กริดจะต้องไร้เทียมทานอย่างแน่นอน
"สุดยอด...!"
ข่านและช่างตีเหล็กวันเยาว์ต่างยืนมองด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นฝ่ามือลอยอยู่กลางอากาศ การที่สามารถสร้างมือลอยได้เช่นนี้ ในสายตาของช่างตีเหล็กทุกคน ตัวตนของกริดไม่ต่างอะไรกับเทพ
"หึหึหึ… เอาล่ะ ได้เวลาทดสอบความสามารถกันแล้ว"
กริดทำการหยิบ<ความผิดพลาด> <ยารุกต์> <ดาบใหญ่กริด> <มีดสั้นอุดมคติ> และ<โล่เทวะ> ออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ หลังจากนั้นก็เริ่มออกคำสั่งกับฝ่ามือทั้งห้า
"จงติดอาวุธซะ!"
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ฝ่ามือทั้งห้าได้พุ่งเข้าหากริดและกระแทกใส่บรรดาอาวุธที่กริดหยิบออกมา ใช่แล้ว… พวกมันพุ่งชนในสภาพแบมือแทนที่จะงอนิ้วมือเพื่อจับอาวุธ
"...?"
มือทั้งห้าปัดไอเท็มทุกชิ้นจนร่วงลงพื้น กริดพลันท้อแท้ใจทันที
"พวกแกทำบ้าอะไรอยู่? ในการจะจับไอเท็ม พวกแกจำเป็นต้องงอนิ้วมือเข้ามาแบบนี้ แบมืออยู่อย่างนั้นแล้วจะจับไอเท็มได้ยังไงกัน?"
กริดต่อว่าพาเฟรเนี่ยมอย่างหงุดหงิด แต่พวกมันก็ไร้เสียงตอบรับ แน่นอนว่าพาเฟรเนี่ยมมีจิตใต้สำนึก ทว่าก็เป็นแค่โลหะชนิดหนึ่งเท่านั้น ไม่มีทางพูดตอบโต้กับมนุษย์ได้
"เฮ่อ… น่ารำคาญฉิบ"
กริดสั่งให้ฝ่ามือทั้งห้าลอยลงมาใกล้ตน หลังจากนั้นเขาก็ทำการสอนวิธีงอนิ้วมืออย่างละเอียดโดยการกำมือและแบออกให้ดู
"นี่คือค้อน! นี่คือกรรไกร! นี่คือกระดาษ! เอาล่ะ ทำตามฉัน!"
"..."
พาเฟรเนี่ยมยังคงไม่ยอมขยับนิ้วแม้ว่ากริดจะเค้นเสียงด้วยสีหน้าดุดัน พวกมันทำได้เพียงแบมืออยู่อย่างนั้นเหมือนกับสภาพในแม่พิมพ์
"เร็วเข้า! ลองทำตามฉัน!"
"..."
กริดเริ่มขึ้นเสียงกับฝ่ามือทั้งห้าที่ลอยอยู่กลางอากาศ ช่างตีเหล็กวัยเยาว์ได้แต่มึนงงกับท่าทีที่แปลกไปของกริด
'ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ได้?'
'เกิดอะไรขึ้นกันนะ?'
'ดวงอาทิตย์แห่งเรย์ดันของพวกเราเป็นอะไรไป...?'
ท่ามกลางช่างตีเหล็กรุ่นใหม่ มีเพียงข่านเท่านั้นที่ส่ายศีรษะเบาๆ
"ไม่ได้เห็นเขาเป็นแบบนี้มานานแล้วสินะ..."
***
============================
[ โมเดลรูปมือของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
พลังโจมตี : 22
_____________________________________
โมเดลรูปทรงฝ่ามือของช่างตีเหล็กในตำนานนามว่ากริด
มันถูกสร้างขึ้นจากพาเฟรเนี่ยม จึงสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตนเอง
หากฝ่ามือนี้กระแทกเข้ากับแก้มศัตรู จะส่งผลให้ศัตรูตกอยู่ในอาการถูกยั่วยุ
_____________________________________
น้ำหนัก : 15
============================
"...นั่นสินะ"
เมื่ออ่านคำอธิบายไอเท็มให้ถ้วนถี่อยู่หลายครั้ง ในที่สุดกริดก็สามารถทำความเข้าใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ฝ่ามือมนุษย์เราไม่ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างง่ายดายเช่นนี้ มันทั้งซับซ้อนและละเอียดอ่อน โดยประกอบไปด้วยข้อต่อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้ออีกจำนวนมาก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ามือสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและแม่นยำ
หรือในอีกความหมายหนึ่ง กริดจำเป็นต้องสร้างข้อต่อให้พาเฟรเนี่ยม ไม่อย่างนั้น ฝ่ามือที่ไร้ข้อต่อก็ไม่ต่างอะไรกับโมเดลปูนปลาสเตอร์ที่ขายตามท้องตลาด
"...เฮ่อ"
กริดทำได้เพียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย นี่เขาต้องเรียนรู้โครงสร้างของฝ่ามือมนุษย์เพื่อจะทำให้พาเฟรเนี่ยมรูปมือเป็นจริงขึ้นมางั้นหรือ? หนทางข้างหน้าช่างมืดมนยิ่งนัก
"ก่อนอื่นคงต้องไปหาหนังสือสารานุกรมอ่าน… ถึงแม้ว่า..."
ไม่ใช่ว่าหนังสือจำพวกกายวิภาคศาสตร์มีไว้สำหรับคนไอคิว 100 ขึ้นไปรึไง? กริดทำได้เพียงยืนสั่นระริกอย่างเจ็บใจ
"นี่เราต้อง… อ่านหนังสือกายวิภาคอันซับซ้อน… เพียงเพื่อสร้างไอเท็มในเกมเนี่ยนะ?"
หากเป็นกริดในอดีตคงกำลังสาปแช่งอย่างไม่หยุดปาก ไม่ใช่ว่าเกมมีไว้ให้คนโง่เล่นสนุกรึไงฟะ? แต่นั่นไม่ใช่กับกริดคนปัจจุบันอีกแล้ว เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหน เขาก็จะฝืนใจทำมัน
กริดสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะล็อกเอาต์ออกจากเกม
***
'มือของมนุษย์จะประกอบไปด้วยนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย โดยนิ้วโป้งจะมีกระดูกข้อต่อสองชิ้น ส่วนนิ้วอื่นๆ มีสามชิ้น ด้านบนและด้านล่างของแต่ละนิ้วจะเป็นเส้นเอ็นคอยยืดหด ส่วนด้านข้างจะเป็นเส้นเลือดและเส้นประสาท...'
ชินยองวูทำการค้นหาด้วยคีเวิร์ด<มือมนุษย์>ในเว็ปไซต์ค้นหาชื่อดังของเกาหลีใต้ หลังจากนั้นก็ตามลิงค์จนมาจบลงที่เว็บไซต์สารานุกรมเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์ เขาจินตนาการภาพในหัวอยู่หลายครั้งเพื่อให้จำขึ้นใจ นี่เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะความจำของยองวูไม่ค่อยดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
'เราไม่อยากเข้าเกมไปแล้วดันลืมทีหลัง'
อันที่จริง ยองวูไม่คิดว่าเขาจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเชิงลึกมากขนาดนี้ เพราะระบบช่วยเหลือจากทักษะการออกแบบของช่างตีเหล็กในตำนานคงนำทางให้เขาสร้างฝ่ามือที่สมบูรณ์แบบขึ้นได้ สิ่งที่ควรรู้จึงมีเพียงพื้นฐานเช่นกระดูกและข้อต่อเท่านั้น
แต่ยองวูก็พยายามจดจำทุกรายละเอียดลงไปในหัวสมองเท่าที่จะทำได้ ความมุ่งมั่นที่หวังจะสร้างสุดยอดไอเท็มรูปทรงฝ่ามือล้วนมาจากความแน่วแน่ไม่สั่นคลอน
ในขณะที่กำลังตั้งใจศึกษา เสียงของแม่ก็ดังขึ้นจากด้านนอกห้อง
"ยองวู! เอาขยะออกไปทิ้งได้แล้ว!"
"ทำไมแม่ถึงต้องขัดจังหวะลูกชายที่อุตส่าห์ตั้งใจหาความรู้เป็นครั้งแรกในรอบห้าปีด้วย?"
แม่ของเขามักโผล่ออกมาในจังหวะที่เหมาะเจาะอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่กำลังตั้งใจทำการบ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นตอนที่กำลังอ่านหนังสือห้าชั่วโมงรวด แม่มักเปิดประตูห้องเข้ามาและเริ่มเทศนา
"หรือว่าแม่จะมีพลังจิต...?"
แม่ของเขาเป็นผู้ใช้พลังจิตงั้นหรือ? ยองวูจินตนาการเรื่องเหลวไหลในหัวพร้อมกับนำถุงขยะออกไปทิ้งนอกบ้าน เขาไม่ลืมที่จะสวมแว่นตาดำและหน้ากากเช่นทุกครั้ง
'ป่านนี้คงมีคนเกลียดขี้หน้าเราหลายล้านคนแล้วกระมัง เพราะเจ้าบ้าบราฮัมแท้ๆ'
ยองวูอาจถูกลอบทำร้ายเข้าสักวันก็ได้ เขากลัวที่จะค้นหาข่าวคราวของตนบนโลกอินเทอเน็ต เพราะไม่รู้ว่าผลกระทบจากสิ่งที่บราฮัมก่อขึ้นกำลังดำเนินไปยังทิศทางใด
สุดยอดก็อดกริด สนุกมากครับ
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ
ReplyDeleteนี้ถ้าเจอคนจริงเเค่ไอเทมคงโดนตบเเละ ไม่มีพื้นฐานอะไรสักอย่างเอาอะไรไปรอด อ่านเเล้วมันขัดๆยังไงไม่รู้
ReplyDeleteเดี๋ยวก็เจอ นานแล้วตอนนี้นายคงอ่านถึงล่าสุดแล้วมั้ง
Deleteตามจริงมันควรจะอ่อนกว่านี้ด้วยซ้ำดีที่ยังมีปิอาโรอยู่ด้วย
Delete