จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 324



       "วิชาดาบแพ็กม่า… มายาร่ายรำ!"

       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

       เกิดเป็นรัศมีดาบสีดำจำนวนมากพุ่งโจมตีใส่ฝูงแวมไพร์  พวกมันต่างส่งเสียงสาปแช่งทันทีที่ได้รับบาดเจ็บ

       "ไอ้มนุษย์บัดซบ!"

       "สามหาว!"

       "อั่ก!"

       แวมไพร์ทั้ง 50 ตนได้กรูเข้ามาโจมตีพร้อมกัน  กริดจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิ่งหนี

       "โฮ่โฮ่โฮ่!"

       "เจ้านี่ก็ไม่เท่าไรนี่นา"

       ฝูงแวมไพร์ต่างมีความสุขกับการล่ามนุษย์  พวกมันรุมไล่ตามกริดราวกับกระต่ายตัวหนึ่ง  จนในที่สุดก็สามารถล้อมไว้ได้

       ตุ้บ!

       ขาของกริดสั่นไปด้วยความกลัวเมื่อได้เห็นเขี้ยวอันยาวและแหลมคมของแวมไพร์  จนในที่สุด  เขาก็ทรุดลงไปนั่งบนพื้น  ท่าทางสั่นกลัวของกริดไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวที่แสนบอบบางและอ่อนแอ  ช่างเป็นภาพที่น่าทะนุถนอมและชวนให้ปกป้องเป็นอย่างยิ่ง  แต่ฝูงแวมไพร์ก็ไร้ความปราณีโดยสิ้นเชิง  

       "กินมัน!"

       ในขณะที่แวมไพร์ผูหิวกระหายกำลังกระโจนเข้ามาเพื่อหวังดื่มเลือดกริด

       "เมี๊ยว!"

       แมวสีดำตัวหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของพวกมัน  แวนไพร์ตนหนึ่งพลันกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทันทีที่โดนข่วน

       "อ๊ากกกก!"

       "ตัวอะไรกัน?  เฮ้ย?"

       นี่มันต้องได้รับบาดเจ็บเพียงเพราะแมวงั้นหรือ  แต่เมื่อเพ่งมองดูให้ดี   ฝูงแวมไพร์จึงตื่นตระหนกทันทีที่รู้ว่าแมวปริศนาคือตัวอะไร

       "เม็มฟิส...!"

       โนเอะหัวเราะพร้อมกับใช้มือจับพุงอันอ้วนป่องของตน

       "เมี้ยวฮ่าฮ่า!  ใช่แล้ว!  ฉันคนนี้คือสัตว์อสูรอันดับหนึ่งของขุมนรก!  เมี๊ยว!"

       "แมวของจอมอสูรมาทำอะไรที่นี่?"

       "โนเอะไม่ใช่แมว!  แง่งงง!"

       "จัดการมันซะ!"

       แวมไพร์เองก็เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์อสูร  แต่พวกมันถูกขับไล่ออกมาจากขุมนรกแล้ว  จึงถือว่าเผ่าอสูรอื่นล้วนเป็นศัตรู  ในตอนนี้จึงเลิกสนใจกริดและเบนเป้าไปหาโนเอะทั้งหมด  แต่ทันใดนั้น  ลำแสงสีขาวจำนวนสี่เส้นได้พุ่งทะลุหน้าอกของแวมไพร์สี่ตนไป

       เป็นศรเวทย์

       "แค่ก!"

       "ชิ!  ทำไมศรเวทย์ถึงได้รุนแรงขนาดนี้?"

       แวมไพร์ที่ตกตะลึงได้รีบหันหน้าไปมองยังทิศทางที่ศรเวทย์ถูกยิงมา  แล้วพวกมันก็ได้พบกับฝ่ามือสีทองจำนวนสี่ข้างซึ้งกำลังถือดาบใหญ่สามเล่มและมีดสั้นอีกหนึ่งเล่ม

       "นั่นมันอะไร?"

       มือสีทองที่ลอยได้และสามารถยิงเวทย์ออกมาได้ด้วยงั้นหรือ?  พวกแวมไพร์ไม่อาจเข้าใจหัตถ์เทวะได้เลย  ในขณะเดียวกัน  หัตถ์เทวะก็พุ่งโจมตีฝูงแวมไพร์ด้วยอาวุธในมืออย่างรวดเร็ว

       เคร้ง! เคร้ง!

       แม้วิชาดาบจะไม่เข้าขั้น  แต่ความเร็วนั้นหาตัวจับได้ยาก  ไม่มีทางเลยที่บรรดาแวมไพร์จะมองตามและรับมือทัน  แถมอาวุธที่สวมอยู่ก็เป็นระดับท็อปของซาทิสฟาย  อาการบาดเจ็บรุนแรงจึงเป็นสิ่งที่พวกมันเลี่ยงไม่ได้

       "อ๊ากกก!"

       นี่พวกมันกำลังถูกโจมตีโดยสัตว์อสูรและฝ่ามือลอยได้งั้นหรือ?  เหล่าแวมไพร์เริ่มเกิดอาการหวาดกลัวขึ้นมาทีละนิด

       "วิชาดาบแพ็กม่า...  คลื่น"

       ซ่าาา!

       หลังจากคลื่นดาบอันรุนแรงซัดกวาดใส่ฝูงแวมไพร์  ชายคนหนึ่งที่ภายนอกดูเหมือนอสูรได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับดาบอสูรในมือ  บรรดาแวมไพร์ไม่อาจทนรับการโจมตีของชายปริศนาคนนี้ได้  พวกมันค่อยๆ กลายเป็นแสงสีเทาไปทีละตนสองตน

       "ฉ--ฉันยังกลัวอยู่..."

       กริดในร่างอสูรได้มองกริดที่กำลังนั่งร้องไห้อย่างเอ็นดู  จะกล่าวให้ถูกก็คือ  แรนดี้กำลังร้องไห้  เธอก็อบปี้ร่างกริดและทำการดึงความสนใจไว้ให้  ในตอนนี้  แรนดี้ค่อยๆ เปลี่ยนกลับเป็นร่างของเด็กสาวอีกครั้ง

       "คราวหน้า… ฉันสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้!"

       "เธอทำได้ดีมากแล้ว"

       "เจ้านายชมโนเอะบ้างสิ!  เมี๊ยว!"

       ในขณะที่กริด  โนเอะ  และแรนดี้สนทนากันอย่างอบอุ่น  หัตถ์วะก็ทำการไล่เชือดแวมไพร์ตนที่เหลือ

[ ทักษะความชำนาญดาบของ<หัตถ์เทวะ>  กลายเป็นระดับขั้นต้นเลเวลหก! ]

       'เยี่ยม'

       กริดอมยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อได้เห็นข้อความจากระบบ  ดูเหมือนวิชาดาบของหัตถ์เทวะจะเติบโตไปอย่างที่ควรจะเป็น  ยามนี้มันดูแข็งแกร่งกว่าเมื่อครั้งที่สู้กับปิอาโร่เล็กน้อย  นับว่ามีอนาคตสดใสมากทีเดียว

       ในทางกลับกัน  ชาวโอเวอร์เกียร์ได้แต่ยืนมองอย่างหมดคำพูด
       
       'ขี้โกงฉิบ'

       'เกินไป๊...'

       พวกเขาได้พบกริดอีกครั้งเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากการฆ่าเอลฟิน-สโตน  แต่กริดกลับกลายเป็นปีศาจที่ทุกคนเอื้อมไม่ถึงไปเสียแล้ว  และนั่นก็ไม่ได้เป็นผลมาจากฝีมือการควบคุมด้วยซ้ำ

       หัตถ์เทวะทั้งสี่  โนเอะ  และแรนดี้  ทั้งหมดนี้เคลื่อนไหวรอบตัวกริดตลอดเวลาและช่วยกันออกล่า  ถือเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก  กริดสามารถล่าแวมไพร์ได้สิบตัวในขณะที่ป็อนและเรกัสฆ่าได้เพียงสองตัว  นั่นคือค่าเฉลี่ยเท่านั้น  เพราะกริดจะลากมาทีละ 100 ตัวและสังหารในครั้งเดียว

       พลังแห่งไอเท็มผสานกันอย่างลงตัวกับพลังแห่งสัตว์เลี้ยง  กริดสามารถอัพเลเวลได้รวดเร็วยิ่งกว่าคลาสหมอผีระดับท็อปเสียอีก  ด้วยเหตุนี้  เขาจึงเพิ่มเลเวลได้สี่ระดับภายในระยะเวลาเพียง 24 วันเท่านั้น  แต่ทั้งหมดไม่ใช่เพราะความรวดเร็วในการล่าเพียงอย่างเดียว  ยังมีบัฟจากการฆ่าเอลฟิน-สโตน  และยังมีบัฟจากโพชั่นค่าประสบการณ์ที่ซื้อมาจากร้านค้าชื่อเสียง

       ใช่แล้ว… หลังจากพ่ายแพ้ปิอาโร่  กริดก็คิดจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น  เขายอมเสี่ยงดวงอีกครั้งด้วยค่าชื่อเสียงทั้งหมด  แต่ลงเอยด้วย  กริดได้รับโพชั่นบัฟค่าประสบการณ์มาเพียงแค่สามขวดเท่านั้น 

       แต่เขาก็ยังมองในแง่บวกได้อยู่

       'อันที่จริง  ไอเท็มที่น่าสนใจในร้านค้าชื่อเสียง  ส่วนมากจะจำกัดจำนวนครั้งในการซื้อต่อตัวละครไว้อยู่แล้ว'

       สมมติให้กริดนำค่าชื่อเสียงไปใช้กับไอเท็มที่ควรซื้อทั้งหมด  เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่ไอเท็มเหล่านั้นไม่สามารถซื้อได้  แต้มของเขาก็จะเหลือจนต้องนำมาสุ่มโพชั่นค่าประสบการณ์อยู่ดี  ดังนั้น  การสุ่มก่อนในตอนนี้จึงไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร  แถมการได้มาถึงสามขวด  ก็ยังดีกว่าดวงซวยจนไม่ได้สักขวดเลย

       จบลงที่กริดมีเลเวล 305 และกลับมาพักผ่อนที่เรย์ดัน  อีกไม่ถึงหนึ่งเดือน  ไอรีนก็จะคลอดทายาทคนแรกออกมาแล้ว  กริดอยากอยู่ใกล้ชิดกับเธอให้ได้มากที่สุด  

       เขาจึงหวังจะใช้โอกาสนี้ในการทำหน้าที่ลอร์ดและช่างตีเหล็กให้เหมาะสมสักหน่อย

       ***

       ย้อนกลับมาก่อนที่จะเดินทางไปยังเมืองแวมไพร์

[ เสริมแกร่งแร่ ]

       ทำการเสริมความแกร่งของแร่  แต่ต้องแลกมากับความเปราะบาง

       ในโลหะชนิดหนึ่งจะมีคุณสมบัติแฝงไว้สามชนิด  หนึ่งคือความแข็ง  ความแข็งหมายถึงระดับความทนทานของผิวแร่   สองคือความแกร่ง  ความแกร่งหมายถึงระดับของแรงที่แร่สามารถทนรับได้ก่อนจะเกิดการบิดงอ  สามคือความเปราะ  ความเปราะก็คือระดับความง่ายในการแตกหัก  โดยทั่วไป  ความแกร่งกับความแข็งจะแปรผันตรงต่อกัน  ยิ่งแร่ที่มีความแข็งมาก  ความแกร่งก็จะยิ่งมาก  ส่วนความเปราะนั้นจะขึ้นอยู่กับแรงที่แร่ชนิดนั้นถูกกระทำ  

       หลังจากทำภารกิจสร้างหัตถ์เทวะสำเร็จ  กริดก็ได้รับทักษะลับชนิดใหม่ของแพ็กม่าเพิ่มขึ้นมา  โดยมันมีชื่อว่า<เสริมแกร่งแร่>  บางทีในอนาคต  เขาอาจใช้ทักษะนี้ในการสร้างแร่อุดมคติของตนขึ้นมาได้

       'ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นทักษะที่ไม่มีประโยชน์มากนัก'

       ทักษะเสริมแกร่งแร่ไม่ใช่สิ่งที่ใช้แล้วจะได้ผลลัพธ์ออกมาทันที  ในการเสริมแกร่งแร่แต่ละครั้ง  เขาจะต้องนำแร่จำนวน 30 กรัมไปใส่ในกรอบเสริมแกร่ง  และต้องทิ้งไว้ 30 วันจึงจะเสร็จ  

       การสร้างดาบมือเดียวจะใช้แร่ราวสี่กิโลกรัม   30 กรัมจึงดูน้อยนิดจนไม่อาจนำไปทำอะไรได้

       แต่เมื่อกริดของไตร่ตรองดูให้ดี  บางที  ทักษะเสริมแกร่งแร่อาจเป็นพื้นฐานของทักษะที่ไว้สำหรับสร้างแร่ชนิดใหม่

       'เฉกเช่นแพ็กม่าและบราฮัมที่สร้างพาเฟรเนี่ยมขึ้นมา  เราก็สามารถสร้างแร่เป็นของตนเองได้เช่นกัน'

       กริดคิดในแง่บวกก่อนจะตัดสินใจใส่โอริชาลคั่มสีน้ำเงินจำนวน 30 กรัมลงไปในกรอบเสริมแกร่ง  ใจจริงเขาอยากจะลองเสริมแกร่งพาเฟรเนี่ยมดู  แต่นั่นต้องแลกมากับการสูญเสียหัตถ์เทวะไปหนึ่งข้าง  ซึ่งกริดที่อยากอัพเลเวลไวๆ จึงคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่  

[ ท่านนำโอริชาลคั่มสีน้ำเงินจำนวน 30 กรัมใส่ลงในกรอบเสริมแกร่ง  เหลือระยะเวลาในการเสริมแกร่งทั้งสิ้น 30 วัน ]       

       "เร่งให้เร็วกว่านี้ไม่ได้แล้วสินะ"

       หลังจากนั้น  เขาก็รีบเดินทางไปยังเมืองแวมไพร์เพื่อสมทบกับปาร์ตี้

       ***

       ย้อนกลับมาปัจจุบัน  กริดซึ่งกลับมาจากเมืองแวมไพร์ได้นำโอริชาลคั่มสีน้ำเงินทั้ง 30 กรัมออกมาจากรอบเสริมแกร่ง  มันดูดีกว่าโอริชาลคั่มสีน้ำเงินตามปรกติเล็กน้อย  

       "อืม… เราคงต้องหมั่นใช้งานระบบนี้อย่างต่อเนื่องสินะ"

       ในขณะที่เขากำลังนั่งครุ่นคิดอะไรอยู่ที่มุมหนึ่งของโรงตีเหล็ก  ข้อความระบบก็แสดงขึ้นตรงหน้า

[ ขอแสดงความยินดี!  โรงแปรธาตุในเรย์ดันได้เลื่อนเป็นระดับขั้นกลาง  เลเวลสี่  เรียบร้อยแล้ว! ]

       เป็นเวลาเดียวกันกับที่เทศมนตรีแร็บบิทวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในโรงตีเหล็ก

       "ดยุคกริด!  โรงแปรธาตุของเรย์ดันกลายเป็นขั้นกลางเลเวลสี่แล้ว!  หากเรายังพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ  โรงแปรธาตุของพวกเราจะกลายเป็นขั้นสูงได้ในหนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า!"

       เมื่อโรงแปรธาตุกลายเป็นขั้นสูง  มิธริลสีเหลืองก็จะถูกนำมาใช้งานจริงได้สักที  และหากเป็นเช่นนั้น  การเพิ่มออปชั่นแบบสุ่มเข้าไปในอุปกรณ์โดยตรงก็สามารถทำได้  หากมีโชคสักเล็กน้อย  เกิดได้ออปชั่นยอดเยี่ยมขึ้นมา  ราคาของไอเท็มก็จะพุ่งทะยานออกนอกโลกแน่นอน

       แต่สีหน้าของกริดกลับไม่ยินดีนัก

       "หนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือน?  นี่ฉันทุ่มเงินลงไปแล้ว 30 ล้านเหรียญทอง  แต่กลับยังต้องรออีกหนึ่งปีกับหนึ่งเดือนเนี่ยนะ?"

       "อย่างที่นายท่านทราบ  โรงแปรธาตุคือสิ่งที่ผู้คนของทวีปนี้มองข้ามและละทิ้ง  ทำให้ไม่อาจหานักแปรธาตุที่มีฝีมือเชี่ยวชาญมาช่วยในการวิจัยได้มากนัก  การพัฒนาจึงเป็นไปอย่างล่าช้า  แต่ด้วยการลงทุนจากนายท่าน  ทำให้มันเติบโตได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่าจนเหลือระยะเวลาเพียงหนึ่งปีกับหนึ่งเดือน  กระผมหวังว่านายท่านจะอดทนรอจนถึงตอนนั้น"

       เทศมนตรีแร็บบิทคือเอ็นพีซีที่เก่งกาจ  เขาสามารถเปลี่ยนให้เมืองอันรกร้างอย่างเรย์ดันกลับมีกำไรขึ้นมาได้  ดังนั้น  กริดจึงเชื่อมั่นชายคนนี้หมดหัวใจ  เขาไม่เคลือบแคลงสงสัยในตัวแร็บบิทเลยสักนิด  ชายหนุ่มทำเพียงพยักหน้าเบาๆ   และเมื่อได้อ่านรายงานบริหารดินแดนที่แร็บบิทส่งมาให้  เขาก็เอ่ยปากถามเรื่องถัดไปทันที

       "ดูนี่สิ… หน่วยงานที่ทำกำไรให้เรย์ดันได้มากที่สุดคือการเกษตรงั้นหรือ?  พวกเราได้กำไรจากผลผลิตสูงมากถ้าหากเทียบกับต้นทุนที่ใช้ไป  ทั้งหมดนี่คือฝีมือของปิอาโร่ใช่ไหม?"

       "...ถูกต้อง  ทักษะการทำฟาร์มของเซอร์ปิอาโร่นั้นยอดเยี่ยมจนสมควรได้รับการบันทึกลงในประวัติศาสตร์  นายท่านทำถูกต้องแล้วที่ยินยอมให้เซอร์ปิอาโร่ทำหน้าที่ชาวนาต่อไป"

       ลอเอลที่ยืนคุยกับกริดมาพักใหญ่ก่อนหน้านี้  เขาได้แสดงท่าทีเห็นด้วยกับคำพูดของแร็บบิท
       
       "ฉันเองก็คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมาก  ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างนายที่หวังจะให้ปิอาโร่เป็นอริยะดาบมาโดยตลอด  ยามนี้กลับยอมรับในความเป็นชาวนาของเขายิ่งกว่าใคร  ฉันไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะมีวันนี้ได้  นายมันอัจฉริยะและใจกว้างของแท้เลย"

       ใจกว้าง?  อัจฉริยะ?

       'บ้าบอคอแตกสิ้นดี...'

       การที่กริดยอมรับให้ปิอาโร่เป็นชาวนาต่อไป  สิ่งนี้ไม่ได้มีเบื้องหลังมาจากความใจกว้างหรือการมองการไกลใดๆ ทั้งสิ้น  กริดเพียงแค่ต่อสู้อย่างสุดฝีมือแล้วพ่ายแพ้หมดรูปเท่านั้นเอง  เป็นผลลัพธ์ที่เขาต้องยอมจำนน  แต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจเล่าความจริงอันโหดร้ายและน่าอับอายนี้ให้คนใต้บังคับบัญชาฟังได้   เขาจึงนิ่งเงียบไว้

       ***

       เงินฝากในธนาคารของชินยองวูตอนนี้คือ 5,013,009,281 วอน  ยองวูจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเช็คยอดเงินฝากทุกเช้าอยู่เสมอ  ตั้งห้าพันล้านเชียวนะ!  เป็นจำนวนเงินราวกับเขากำลังฝันไป  โดยทุกๆ วัน  ยองวูจะเปิดดูมันและร้องไห้ออกมา  

       "เมื่อหนึ่งปีก่อน… เรายังเป็นหนี้อยู่เลย... ฮึก!"

       ทำไมถึงต้องร้องไห้ทุกครั้งที่เช็คยอดเงินในตอนเช้าด้วยนะ?

       ฟุ๊ดดด!

       ยองวูหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาสั่งน้ำมูกพร้อมกับเริ่มสวดอ้อนวอนเหมือนกับทุกวัน

       "พระเยซู  พระพุทธเจ้า  เทพทุกองค์ที่อยู่บนโลกนี้และบนสวรรค์  ได้โปรดดูแลกระผมด้วย..."

       ยองวูสวดอ้อนวอนอย่างแรงกล้าถึงแม้จะไม่เคยทำบุญกับโบถส์หรือวัดเลยแม้แต่ครั้งเดียว  หลังจากนั้นก็เดินตรงไปยังเครื่องชงกาแฟเอสเปรโซ่ที่ซื้อมาได้พักใหญ่  เขากดกาแฟออกมาดื่มไปหนึ่งอึกและยื่นถ้วยให้กับเซฮีที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้อง

       "ดื่มซะ  สิ่งนี้เรียกว่ากาแฟยามเช้า"

       "...หนูไม่ดื่มได้ไหม?"

       "ทำไมกัน?  ไม่ชอบดื่มอะไรร้อนๆ ตอนเช้างั้นหรือ?"

       ยองวูเริ่มคนกาแฟในถ้วย  ส่วนเซฮีก็เดินไปนั่งหน้าทีวีพร้อมกับถามว่า

       "พี่จะมางานโรงเรียนของหนูไหม?"

       งานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงจะมีขึ้นที่โรงเรียนมัธยมปลายยังก์เลดี้ส์ในอีกสามวันข้างหน้า  ภายในงานเต็มไปด้วยสาวสวยของโรงเรียนมากมาย  แถมขนาดงานยังใหญ่โตมาก  สองสิ่งนี้ได้ดึงดูดให้ผู้คนทั่วไปจำนวนมากเดินทางมาเยี่ยมชม  ยองวูพลันนึกถึงข้อความเชิญชวนที่เยริมส่งมาให้เมื่อไม่กี่วันก่อน  หลังจากนั้นก็ส่ายศีรษะเบาๆ
       
       "เยริมชวนฉันแล้ว  แต่คงไม่ล่ะ"

       การกระทำของบราฮัมคงสร้างความเกลียงชังต่อผู้คนไว้ไม่น้อย  ป่านนี้กริดคงมีแอนตี้แฟนหลายล้านคนแล้วแน่นอน  ยองวูไม่กล้าแม้แต่จะค้นหาข่าวของตนเองในอินเทอเน็ต  แถมระยะหลัง  เขายังออกจ็อกกิ้งพร้อมกับการปิดหน้าปิดตามิดชิด

       'อาจมีใครกำลังคิดลักพาตัวเราไปรุมซ้อมอยู่ก็ได้'

       ไม่เหมือนกับผู้ที่ประสบความสำเร็จคนอื่นที่มักจะดื่มด่ำกับชีวิตอย่างเต็มที่  ยองวูเลือกถนอมร่างกายให้มากที่สุด  

       ทันใดนั้น  รอยยิ้มอันแสนพึงพอใจก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเซฮี 

       "ดีมาก"

       เซฮีเดินฮัมเพลงไปยังห้องอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี  ยองวูเห็นดังนั้นจึงทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ

       "เธอยังคงอับอายในตัวพี่ชายคนนี้อยู่สินะ..."

       ช่วยไม่ได้ที่ตนจะถูกน้องสาวเกลียดขี้หน้า  ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้  เขาเคยเป็นภาระและปัญหาของครอบครัวมานานหลายสิบปี  ยองวูลุกขึ้นอย่างห่อเหี่ยวพร้อมกับเปิดแคปซูล  เขาหวังจะเข้าซาทิสฟายเพื่อทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นโดยการไปอยู่กับไอรีนและการตีเหล็ก

       ในขณะเดียวกัน  ภายในห้องนั่งเล่น  โทรทัศน์จอยักษ์กำลังฉายภาพข่าวเกี่ยวกับงานเทศการโรงเรียนมัธยมปลายยังก์เลดี้ส์อยู่พอดี

[ มีข่าวลือว่า  ดารานำชายชื่อดังอย่างคิมโดฮยุนมีแผนจะเข้าร่วมงานฤดูใบไม้ร่วงของโรงเรียนมัธยมปลายยังก์เลดี้ส์ในปีนี้เช่นกัน ]

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00