จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 330
"ดยุคกริดยังไม่ล่วงรู้ถึงอาการป่วยขององค์กษัตริย์ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่กองทัพของเรย์ดันยังคงอ่อนแอและมีขนาดไม่มาก ไม่มีโอกาสลงมือที่ยอดเยี่ยมไปกว่านี้อีกแล้ว"
องค์ชายลำดับที่หนึ่ง เร็น มันรู้ซึ้งถึงพลังของกริดและบริวารเป็นอย่างดี เพราะตัวมันเองก็อยู่ในเหตุการณ์โกเลมบุกที่ไรน์ฮาร์ทด้วย องค์ชายเร็นจึงมีเหตุผลให้ต้องรุกรานกริดอยู่สองประการ หนึ่งก็คือ หากมันยังคงนิ่งเฉย คงไม่แคล้งถูกกริดกลืนกินอำนาจบารมีเข้าสักวัน และสอง มันมั่นใจในบริวารของตนคราวนี้มาก มีนักรบรับจ้างที่แข็งแกร่งเข้าร่วมกับกองทัพมากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือฮูเร็น
ฮูเร็นกำลังยืนอ่านรายละเอียดของภารกิจเนื้อเรื่องที่มันรับมา
============================
[ องค์ชายแห่งอาณาจักรอีเทอนัล - บทที่สี่ ]
ระดับความยาก : ไม่อาจวัดค่าได้
_____________________________________
องค์ชายลำดับที่หนึ่ง เร็น ได้มองเห็นถึงออร่าที่แข็งแกร่งรอบตัวท่าน และเล็งเห็นว่า มีเพียงท่านเท่านั้นที่สามารถเป็นคู่ต่อกรกับดยุคกริดได้
จงรุกรานเรย์ดันพร้อมกับกองทัพของเร็น!
จงโจมตีดยุคกริดอย่างหนักหน่วง! โทษฐานที่บังอาจทำให้ราชวงศ์ต้องอับอาย
_____________________________________
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ยึดครองเรย์ดัน
ของรางวัลสำเร็จภารกิจ :
- เร็นจะกลายเป็นกษัตริย์อย่างถูกต้อง
- ท่านจะได้รับสมญานาม<ผู้ทำประโยชน์ให้กษัตริย์>
- เมื่อท่านก่อตั้งอาณาจักรด้วยตนเองในภายหลัง จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษบางประการตามมา
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : ไม่อาจคาดเดาได้
============================
[ ท่านจะรับทำภารกิจนี้หรือไม่? ]
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ระดับความยากจะไม่ปรากฏ เพราะการที่เป้าหมายของภารกิจเป็นผู้เล่นด้วยกันเอง ระบบเกมก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น และจะเกิดอะไรตามมาบ้าง แต่ฮูเร็นก็พยักหน้าทันทีโดยมิได้ลังเล
"กระผมจะเป็นมือเท้าให้ท่านเอง"
ราวสิบเดือนก่อนในชีวิตจริง ฮูเร็นกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนทั้งโลกด้วยฝีมือของกริด เขาพ่ายแพ้ต่อกริดด้วยเวลาเพียงแค่ห้าวินาทีเท่านั้น ฮูเร็นได้รับความอับอายไปมากมายขนาดไหนน่ะหรือ? คงไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้แน่
'ฉันจะกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมาในภารกิจนี้ให้ได้!'
ผู้ทำประโยชน์ให้กษัตริย์งั้นหรือ? ก็แค่สมญานามเล็กน้อย ฮูเร็นไม่สนของพรรค์นั้นเลยสักนิด มันเพียงต้องการตำแหน่งผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด และตอนนี้ก็กำลังเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าเป็นไปได้
'กริด ฉันจะแสดงให้แกเห็นถึงพลังที่แท้จริงของออร่ามาสเตอร์เอง ต่อหน้าคนทั้งโลก!!'
การตรากตรำฝึกฝนอย่างหนักตลอดสิบเดือนที่ผ่านมาจะต้องทำให้ผู้ชมทั่วโลกตกตะลึงได้แน่
***
ณ ถนนคาโรซู-กิล ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
"คลาสจ้าวแห่งสัตว์เลี้ยงทำอะไรได้บ้าง?"
หลังจากงานเทศกาลจบลง ยองวูก็เข้ามานั่งในร้านอาหารพร้อมกับเซฮี เยริม และโดฮยุน โดยในระหว่างสั่งอาหาร โดฮยุนก็เริ่มอธิบายคร่าวๆ
"ให้คิดว่าเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดของคลาสผู้ฝึกสัตว์ ฉันสามารถนำมอนสเตอร์มาเป็นสัตว์เลี้ยงและฝึกมันได้ สามารถขโมยสัตว์เลี้ยงของผู้อื่นเป็นการชั่วคราวได้ และสามารถบัฟให้สัตว์เลี้ยงของตนเองและเพื่อนในปาร์ตี้ได้"
เห... บัฟให้สัตว์เลี้ยงของสมาชิกปาร์ตี้ได้งั้นหรือ? แม้กระทั่งชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดนักบัฟอย่างฮิวรอย เขายังทำเช่นนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ฮิวรอยทำได้เพียงบัฟให้สัตว์ของตนเองเท่านั้น
"เดี๋ยวนะ... เปลี่ยนสัตว์เลี้ยงผู้อื่นให้เป็นของตนชั่วคราว?"
"แถมฉันยังออกคำสั่งกับพวกมันได้ด้วย ระยะเวลาต่ำที่สุดคือ15วินาที และอาจเพิ่มได้มากถึง50วินาที"
"สัตว์เลี้ยงที่นายยึดครองมา พวกมันสามารถใช้ทักษะได้รึเปล่า?"
"แน่นอน"
"ขี้โกงฉิบ"
นั่นไม่ใช่คำพูดเกินจริงแต่อย่างใด การขโมยสัตว์เลี้ยงของศัตรูมาแถมยังใช้ทักษะทั้งหมดได้อย่างอิสระเนี่่ยนะ? สิ่งนี้สามารถนำไปพลิกแพลงได้หลายอย่าง ทั้งการเผาผลาญมานาของสัญเลี้ยงตัวนั้นให้หมด ทั้งการนำไปโจมตีเจ้านายตนเอง หรือหากสัตว์เลี้ยงมีบัฟพิเศษ นั่นก็ยังจะช่วยบัฟได้อีกด้วย
ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ล้วนมีประโยชน์ในการต่อสู้มาก
"แต่พลังที่แท้จริงของจ้าวแห่งสัตว์เลี้ยงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ฉันได้กล่าวไปข้างต้นหรอกนะ"
บนโต๊ะอาหาร โดฮยุนพูดมากกว่าปรกติ นั่นเป็นเพราะความงามของเยริมและเซฮีงั้นหรือ? เปล่าเลย เขากำลังให้ความสนใจกับยองวูต่างหาก ไม่สิ หากจะกล่าวให้ชัด โดฮยุนกำลังสนใจโนเอะ สัตว์เลี้ยงของยองวู
"พลังที่แท้จริง?"
"ฉันสามารถตรวจสอบค่าสถานะของสัตว์เลี้ยงทุกตัวได้อย่างละเอียด ทั้งทักษะ จุดแข็ง จุดอ่อน ชอบสิ่งใด ไม่ชอบสิ่งใด ข้อได้เปรียบของสัตว์เลี้ยง เอ่อ แล้วก็..."
'แล้วก็?'
ดวงตาของยองวูกำลังลุกวาวสุดขีด ยิ่งโดฮยุนโกงมากแค่ไหน นั่นก็ยิ่งเป็นประโยชน์กับกิลด์โอเวอร์เกียร์มากเท่านั้น สุดยอดทักษะของจ้าวแห่งสัตว์เลี้ยงจะเป็นอะไรกันนะ? ยองวูเฝ้ารออย่างคาดหวัง
"แล้วก็… ฉันยังมีทักษะ... เสริมสวยสัตว์เลี้ยง"
"ส--เสริมสวย?"
"ใช่แล้ว! ดังนั้น ช่วยให้ฉันได้พบโนเอะด้วยเถอะ! ฉันสามารถทำให้โนเอะน่ารักกว่านี้ได้อีกหลายเท่า ฉันต้องการเป็นช่างเสริมสวยส่วนตัวของโนเอะ!"
"..."
คลาสลับเกรดยูนีคอันสุดแสนหายากคนนี้... เขามีความฝันเป็นเพียงช่างเสริมสวยส่วนตัวให้แมวเท่านั้นหรอกหรือ? ดูเหมือนสมาชิกใหม่ที่เข้ามาจะมีสติไม่ค่อยสมประกอบสักคน ทำให้กริดย้อนนึกไปถึงคำพูดของแวนเนอร์สมัยอยู่กิลด์เซดาก้าห์ในอดีต
"ผู้เล่นที่เข้ากิลด์มาหลังจากกริด ดูเหมือนจะไม่ค่อยปรกติกันสักคน คงเป็นเพราะคนบ้าจะมีแรงดึงดูดต่อคนบ้าด้วยกันเองกระมัง"
'เป็นเพราะเรางั้นหรือ?'
ทันใดนั้น ยองวูก็สัมผัสได้ว่า เยริมกำลังยื่นส้อมที่ม้วนสปาเก็ตตี้เข้ามาใกล้ปากของเขาเพื่อทำการป้อน
หงับ...
"เป็นยังไงบ้าง? อร่อยไหม?"
ยองวูครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับตามความจริง
"ไม่เท่าไร เค็มไปนิด ฉันว่าด้วยราคาเท่านี้ ราเมียนสองถ้วยยังอร่อยกว่าเลย"
"อาหารที่ป้อนโดยผู้หญิงเซ็กซี่อย่างฉันยังอร่อยไม่พออีกหรือ?"
"ใครกันผู้หญิงเซ็กซี่...? ไม่ใช่เธอแน่นอน"
"ชิ~ แล้วถ้าเป็นแบบนี้ล่ะคะที่รัก~?"
"ด--เดี่ยวก่อน! อย่าทำแบบนี้ในที่สาธารณะเซ่!"
'กริด... นายเนี่ยน้า~'
โดฮยุนเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่า ยองวูซึ่งกำลังนั่งอยู่กึ่งกลางระหว่างสองสาวมัธยมสุดสวย...
ชายคนนี้ต่างหาก คือนักล่าสาวมัธยมปลายตัวจริง
"ว่าแต่ พีคซอร์ดไปไหนกันนะ?"
เมื่อใกล้เสร็จมื้ออาหาร เยริมก็นึกบางสิ่งขึ้นได้ ดูเหมือนทุกคนละลืมการมีอยู่ของพีคซอร์ดไปจนหมด
"คงออกไปเดินเล่นอยู่ละมั้ง"
ยามนี้ พีคซอร์ดที่ถูกปรักปรำว่าเป็นพวกล่วงละเมิดทางเพศ เขาจึงกำลังวิ่งหนีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างสุดชีวิต… และพีคซอร์ดวิ่งโดยไม่หยุดพักเป็นเวลานานถึงสองชั่วโมงเต็มแล้ว!
***
[ เซ็ตกริดรุ่นผลิตจำนวนมาก ]
ประกอบไปด้วยอาวุธ หมวกเหล็ก ชุดเกราะ ถุงมือ และรองเท้า โดยอาวุธจะมีทั้งดาบมือเดียว หอก ธนู และโล่ กริดออกแบบไว้สำหรับทหารของกองทัพเรย์ดันโดยเฉพาะ เมื่อสวมใส่เป็นเซ็ตแล้วจะมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมาก โดยแต่ละชิ้นล้วนถือเป็นสุดยอดอุปกรณ์สวมใส่ในช่วงเลเวลนั้น
แต่ยังติดปัญหาก็คือ ไอเท็มทุกชิ้นมีเงื่อนไขการสวมใส่อยู่ที่เลเวล160 แต่ทหารของเรย์ดันส่วนใหญ่มีเลเวล133 กริดจึงยังไม่อาจแจกจ่ายให้ทุกคนใช้งานได้ตอนนี้
'ทว่า... ถ้าเราตัดสินใจลดเลเวลของไอเท็มลง ประสิทธิภาพของมันก็จะลดลงไปหลายส่วนจนไม่คุ้มค่าที่จะผลิตขึ้น'
เขาต้องทำอย่างไรดี? กริดครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเรียกอัสโมเฟลกับปิอาโร่เข้าพบ
***
"เห..."
ปิอาโร่และอัสโมเฟลแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อเดินมาถึงสถานที่นัดหมาย
ณ กำแพงชั้นนอกของเรย์ดัน กริดกำลังนั่งอยู่หน้าเตาหลอมขนาดเล็กและสร้างไอเท็ม โดยมีฝ่ามือสีทองจำนวนสี่ข้างกำลังล่ามอนสเตอร์โดยรอบอยู่
'ระดับของพวกมันยังน้อยเกินไป...'
ในสายตาของปิอาโร่และอัสโมเฟล หนอนยักษ์จัดว่ามอนสเตอร์ที่อ่อนแอมาก ซึ่งพวกเขาทั้งสองคนสามารถฆ่าได้ในพริบตา และดยุคกริดที่ใช้ทักษะก็คงทำได้เช่นกัน
แล้วผลงานของหัตถ์เทวะเป็นอย่างไรบ้าง?
แม้หัตถ์เทวะทั้งสี่จะร่วมมือ แต่ก็ต้องใช้เวลาราวสี่นาทีในการสังหารหนอนทะเลทรายแต่ละตัว ฝ่ามือทั้งสี่ข้างไม่อาจถือครองความได้เปรียบในการต่อสู้เลยสักครั้ง แม้ภาพของฝ่ามือสีทองที่กำลังจับอาวุธจะน่าตื่นเต้นก็จริง ทว่า... ดูเหมือนหัตถ์เทวะจะมีดีแค่ความเร็วเท่านั้น
ถึงกระนั้น ปิอาโร่กลับชื่นชอบในพัฒนาการของหัตถ์เทวะ
'เก่งกว่าเมื่อครั้งที่สู้กับเรามาก พวกมันพัฒนาจะไปได้ไกลแค่ไหนกันนะ'
กริดเริ่มหันไปถามอัสโมเฟลกับปิอาโร่
"ในการจะอัพเลเวลให้ทหารเรย์ดันหนึ่งระดับ พวกนายต้องใช้เวลาทั้งหมดกี่วัน?"
"ณ ตอนนี้ จะอยู่ที่ราวห้าวันขอรับ"
"โฮ่..."
เป็นความเร็วในการอัพเลเวลที่น่าตกตะลึงมาก เพราะกริดเคยเห็นทหารของวินสตันมีเลเวลคาอยู่ที่80นานหลายเดือน การก้าวกระโดดของทหารเรย์ดันจึงนับเป็นระดับปรากฏการณ์ และนั่นคงเป็นผลมาจากการฝึกฝนอย่างมีระเบียบวินัยของปิอาโร่กับอัสโมเฟล อดีตสองเสาหลักของกองทัพจักรวรรดิซาฮารันคู่นี้
"พวกเขาจะมีเลเวลถึง160ในอีกห้าเดือนข้างหน้าใช่ไหม?"
"ถูกต้องขอรับ"
อัสโมเฟลตอบกลับโดยไม่ลังเล และเขามั่นใจมากว่า กริดคงจะพึงพอใจในความเร็วระดับนี้แล้ว
แต่ว่า
"มีวิธีทำให้ทหารพวกนั้นเลเวลอัพไวกว่านี้ไหม?"
"ตอนนี้ตารางการฝึกก็เข้มงวดในระดับสูงสุดแล้ว ถ้าหากเร่งเพิ่มให้รุนแรงกว่านี้ เกรงกว่าอาจเกิดการบาดเจ็บและอาจเกิดความไม่พอใจขึ้นได้"
"ถ้าไม่ถึงตายก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่? อีกอย่าง พวกทหารจะบ่นกันไปทำไม? ในเมื่อหน้าที่ของทหารคือการแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอยู่แล้ว"
กริดเคยฝึกทหารกับกองทัพเกาหลีใต้ เขาจึงซึ้งรู้ในจุดนี้เป็นอย่างดี ตราบใดที่ทหารไม่ถึงตาย สักวันก็พวกเขาก็จะปรับตัวจนชินชากับการฝึกได้อยู่ดี แถมถ้ายิ่งเหน็ดเหนื่อยมาก ก็จะยิ่งมีเรี่ยวแรงในการบ่นหรือตัดพ้อน้อยลง
"ทำได้ใช่ไหม? งั้นก็ช่วยจัดการให้หน่อยนะ นี่คือสิ่งจำเป็นเร่งด่วน"
"...เข้าใจแล้วขอรับ"
ปิอาโร่และอัสโมเฟลได้ถวายตัวรับใช้กริดแล้ว ดังนั้น แม้จะเป็นคำสั่งที่ยากจะปฏิบัติตามเพียงใด พวกเขาก็ไม่คิดโต้แย้ง จึงลงเอยด้วย บรรดาเหล่าทหารต่างต้องพบกับความตกระกำลำบากไปอีกนาน
"หมอบ! ลุก! กลิ้ง! วิ่งคลาน! กล้าหาญ! อดทน! สู้ตายยย~!"
ปิอาโร่และอัสโมเฟลต่างไร้ความปราณี ทหารของกองทัพเรย์ดันต้องผ่านการฝึกนรกอย่างยาวนานจนกระทั่งกล้ามเนื้อส่งเสียงกรีดร้องออกมา ผลก็คือ ความเร็วในการพัฒนาของพวกเขาเพิ่มขึ้นจาก1.3เท่ากลายเป็น1.5เท่า
[ ความจงรักภักดีของทหารเรย์ดันลดลงเก้าหน่วย ]
[ ทหารเรย์ดันเริ่มไม่พอใจในตัวท่าน ]
"..."
กริดกลายเป็นเป้าหมายของความเกลียดชังในทันที สิ่งนี้นับว่าอันตรายมากในมุมมองของผู้ปกครองดินแดน เพราะหากค่าความจงรักภักดีของทหารหมดลง ถึงจุดนั้นคงยากจะเอาคืนกลับมา
แต่กริดก็หาได้หวาดกลัว ทำไมน่ะหรือ?
เคร้ง! เคร้ง!
ทุกคืนวัน เขาจะนั่งสร้างเซ็ตกริดขึ้นสำหรับทหารทุกคน กริดรู้ดียิ่งกว่าใคร ว่าถ้าหากเขาเริ่มแจกจ่ายอุปกรณ์เหล่านี้ให้ทหารทุกคนสวมใส่ คนเหล่านั้นก็จะกลับมาจงรักภักดีกับเขาอีกครั้ง
***
กำหนดการคลอดของไอรีนเหลือเพียงไม่ถึงห้าวันแล้ว ด้วยเหตุนี้ หนึ่งในขั้วอำนาจใหญ่ของอาณาจักรอีเทอนัล ราชาแห่งแดนเหนือ มาร์ควิสสไตม จึงต้องเดินทางมาเยือนเรย์ดันด้วยตนเอง
"สวัสดีท่านพ่อตา"
"โฮ่! ท่านดยุคมาต้อนรับด้วยตนเองเชียวหรือ? ยอดเยี่ยมมาก!"
มาร์ควิสสไตมมองไปรอบๆ เรย์ดันด้วยสายตาเป็นประกาย เขาเคยได้ยินมาว่า เรย์ดันกลายเป็นเมืองร้างมานาน แต่ในที่สุดก็กลับมาพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดหลังจากกริดกลายเป็นลอร์ด แม้จะยังมีจำนวนชาวเมืองแค่20,000คน ทว่า… เรย์ดันกลับเจริญรุ่งเรืองไม่ต่างจากเมืองอื่นๆ ภายในอาณาจักร
ไม่สิ หากมองในด้านเกษตรกรรมแล้ว ไม่มีเมืองใดในทวีปที่สามารถเทียบเคียงเรย์ดันได้เลย แม้กระทั่งจักรวรรดิผู้เกรียงไกรก็ไม่มีข้อยกเว้น
'บุตรเขยของเรามีความบ้าบิ่นขนาดนี้เชียวหรือ? เจ๋งมาก! เขากล้าสร้างเมืองเกษตรกรรมขึ้นจากทะเลทรายอันรกร้างว่างเปล่า... ช่างเป็นการตัดสินใจที่อาจหาญมากทีเดียว'
ย่อมแน่ล่ะ บุตรเขยของเขายอดเยี่ยมเสมอ มาร์ควิสสไตมฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจเป็นที่สุด
พ่อตาเป็นปลื้ม
ReplyDeleteจะได้ชาวนาจำเป็นเพิ่มอีกแล้วสินะ ฮูเร็นเราขอแสดงความเสียใจล่วงหน้า
ReplyDeleteฮูเร็น ก็เหมือนซิลบาลนี่แหล่ โดนทีเดียวตายย 555+
Delete