จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 313
'กริดจะต้องยอมรับเงื่อนไขแน่'
โอสถนั้นไม่อาจถูกตีมูลค่าเป็นเงินทองได้ ในบรรดาโพชั่นมากมายหลายชนิด โอสถคือสิ่งพิเศษ
'เพราะมันสามารถเพิ่มแต้มทักษะหนึ่งได้เป็นจำนวนสิบแต้ม...'
เทียบเท่ากับหนึ่งเลเวลเลยทีเดียว มีแร้งเกอร์คนใดในโลกบ้างที่ไม่ต้องการโอสถ? คริสกล้าพูดอย่างเต็มปากว่าไม่มี
"ตกลง ฉันจะสร้างอาวุธให้นาย"
กริดยอมรับข้อเสนอตามที่คาด
"ได้โปรดสร้างสุดยอดอาวุธให้ฉันด้วย เฉกเช่นดาบใหญ่สีน้ำเงินที่นายใช้อยู่" คริสขอร้องจากใจจริง เขาจะปฏิเสธข้อเสนอทันถ้าหากกริดไม่สร้างสิ่งที่พึงพอใจออกมาให้
"เชื่อมือฉัน"
กริดลั่นวาจา
ส่วนหนึ่ง เป็นเพราะกริดต้องการโอสถอยู่แล้ว และอีกส่วนก็เป็นเพราะความภูมิใจในศักดิ์ศรี
'ช่วยสร้างสุดยอดอาวุธให้ฉันด้วย...'
นี่คือครั้งแรกที่เขาได้รับข้อเสนอจากผู้เล่นคนอื่นนอกเหนือจากสมาชิกโอเวอร์เกียร์ กริดรู้สึกภาคภูมิใจทั้งในฐานะหัวหน้ากิลด์และในฐานะช่างตีเหล็กในตำนาน เขาไม่มีความคิดที่จะสร้างไอเท็มขึ้นมาอย่างขอไปที
'แล้วเราจะเพิ่มอาวุธชิ้นนี้เข้าไปในเซ็ตกริด'
หลังจากรองเท้ากริด ก็จะเป็นดาบใหญ่กริดต่อทันที ในอดีตเขาเคยใช้สุดยอดอาวุธมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาด ดาอินสเลฟ ดาบใหญ่เลียนแบบ หอกไลฟาเอล ยารุกต์ ดังนั้นดาบใหญ่กริดที่จะสร้างขึ้นย่อมมีต้นแบบข้อดีมาจากอาวุธข้างต้นทั้งหมด
'และยังจะมีออปชั่นพิเศษแถมให้นิดหน่อย'
กริดแสยะยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม
***
"คนของกิลด์เซดาก้าห์หายหัวไปไหนกันหมดนะ?"
"พวกมันกลัวรึเปล่า? คงได้ยินว่าเรามาเยือนถึงถิ่น"
มีผู้เล่นจำนวนห้าคนกำลังรวมตัวพูดคุยกันในสวนปราสาทเรย์ดัน พวกมันคือห้ากัปตันแห่งกิลด์ไจแอนท์ ทั้งหมดล้วนมาเยือนเรย์ดันด้วยความคาดหวังว่าจะได้พบอดีตสมาชิกเซดาก้าห์ แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะอดีตเซดาก้าห์ทุกคนต่างออกไปทำหน้าที่ของตน จึงไม่มีใครประจำการอยู่ภายในเมือง พวกมันรู้สึกเสียดายที่พลาดโอกาสได้พบกับศัตรูคู่อาฆาตตั้งแต่สมัยแอล-ที-เอส
"อยากพบเรกัสอีกครั้งจังเลยแฮะ"
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิฮาร่า ผู้เล่นคลาสจอมดาบเวทย์อันดับหนึ่ง มันคนนี้ดูผิดหวังมากที่สุดที่ไม่ได้พบเรกัส สถิติในการปะทะกับเรกัสทั้งหมด 14 ครั้งคือเสมอสามและแพ้ 11 วันนี้มันตั้งใจจะมาแก้มือ แต่กลับหาตัวเรกัสไม่พบ
"พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อสู้ ช่วยระงับอารมณ์แล้วอย่าก่อปัญหาด้วย"
นักดาบอันดับหนึ่งของโลก เซอร์คาน มันเคยเสียตำแหน่งอันดับหนึ่งให้ไอเบลลินไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้สามารถทวงคืนกลับมาได้แล้ว แม้ไอเบลลินจะเป็นอัจฉริยะหนึ่งในสิบรุคกี้ของโลก ทว่าในด้านประสบการณ์ก็ยังเป็นรองเซอร์คานอยู่มาก
"โทษที แค่พูดเล่นหรอกน่า จะระวังไว้ก็แล้วกัน"
มิฮาร่ามักมีปัญหาเกี่ยวกับอีโก้และนิสัยส่วนตัว แต่ถึงกระนั้นก็เชื่อฟังคำสั่งเซอร์คานอย่างเคร่งครัด กัปตันคนอื่นเองก็เช่นกัน เซอร์คานเป็นถึงอาจารย์ของคริส ไม่ว่าใครต่างก็ให้ความยำเกรงเซอร์คาน
"ว่าแต่… ปราสาทหลังนี้น่าเบื่อชะมัดเลยแฮะ"
กัปตันหญิงเพียงคนเดียว พิงกี้ เธอพูดขึ้นเพื่อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา พิงกี้รู้สึกว่าปราสาทเรย์ดันแห่งนี้ไม่งดงามเอาเสียเลย แม้จะกว้างขวาง แต่ก็โล่งและว่างเปล่าขาดสิ่งตกแต่ง ไม่เพียงเท่านั้น...
"จำนวนชาวเมืองก็ดูน้อยมาก"
แม้เรย์ดันจะเป็นเมืองใหญ่ แต่บนถนนกลับไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมามากนัก ปราการสำคัญอย่างมอนสเตอร์ทะเลทรายคงมีผลต่อความเจริญก้าวหน้าของเรย์ดันมากทีเดียว
"เรย์ดันเติบโตช้ากว่าที่พวกเราคิดไว้มาก"
"อันที่จริง โอเวอร์เกียร์มีสมาชิกไม่ถึง 30 คนด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่จะปกครองเมืองใหญ่ได้ไม่ดีนัก"
"แต่ดูเหมือนการทำฟาร์มจะไปได้สวยนะ"
"นี่คือสิ่งที่บ่งชี้ถึงความด้อยประสิทธิภาพในการบริหารยังไงล่ะ เมืองใหญ่ขนาดนี้แต่กลับเลือกพัฒนาเป็นเมืองเกษตรกรรม… ช่างโง่เขลา"
เหล่าห้ากัปตันต่างคิดว่า สมาชิกโอเวอร์เกียร์คงเก่งแต่ในด้านการต่อสู้จนละทิ้งการบริหารบ้านเมืองไป แต่พวกมันไม่มีทางรู้เลยว่า ยามนี้โอเวอร์เกียร์ได้แอบดูดกลืนกิลด์ซิลเวอร์ไนท์เข้ามาอย่างลับๆ แถมยังมีเหมืองมิธริลสีเหลืองหลบซ่อนอยู่ภายในทะเลทรายอันกว้างใหญ่อีกด้วย
เมืองไบรันที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือและเกาะคอร์กที่ตั้งอยู่ในทะเลใต้ ดินแดนทั้งสองแห่งต่างมีทรัพยากรล้ำค่าซุกซ่อนอยู่ ห้ากัปตันไม่มีทางรู้เลยว่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์กำลังแยกย้ายไปบริหารแหล่งรวมความมั่งคั่งเหล่านี้
หากรู้ความจริงเข้าคงได้ตกตะลึงกันเป็นแน่
"เฮ่อ… น่าเบื่อจัง ขอออกไปเดินเล่นหน่อยนะ ถ้าหัวหน้าออกมาแล้วช่วยเรียกฉันด้วย"
"อย่าไปก่อเรื่องเข้าล่ะ"
"เข้าใจแล้วน่า… นายคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหนกัน?"
มันหัวเราะให้กับความอ่อนหัดของโอเวอร์เกียร์พร้อมกับเดินออกจากปราสาท ในการจะฆ่าเวลาที่แสนเบื่อหน่ายนี้ มิฮาร่าตัดสินใจเดินสำรวจเมืองเล่น
"เป็นเมืองที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ แฮะ เป็นขุนนางประสาอะไรกัน?"
มิฮาร่ากำลังหงุดหงิดที่ไม่ได้พบเรกัส มันอยากได้สิ่งกระตุ้นที่น่าตื่นเต้นมาทดแทน ไม่ใช่สถานการณ์ที่จืดชืดในปัจจุบัน
"หือ?"
จู่ๆ มิฮาร่าที่หัวเสียก็หยุดกึก... สายตาของมันจดจ้องไปยังน้ำพุเก่าแก่แห่งหนึ่ง เพราะบริเวณนั้นมีเอ็นพีซีสาวใช้หน้าตาดีกำลังยืนอยู่
"ฆ่าเวลาสักหน่อยก็แล้วกัน..."
มิฮาร่ารีบปรี่เข้าไปหาสาวใช้อย่างรวดเร็ว
"นี่คนสวย… ให้ฉันสัมผัสร่างกายเธอหน่อยสิ"
หากไม่ใช่เอ็นพีซีที่มอบภารกิจให้แล้วล่ะก็ ผู้เล่นส่วนมากจะไม่แสดงความเคารพต่อเอ็นพีซีสักเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอ็นพีซีที่มีสถานะทางสังคมต่ำเฉกเช่นสาวใช้คนนี้ เหล่าผู้เล่นส่วนใหญ่จะไม่มองว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ในเมื่อผู้คนที่เท่าเที่่ยมกันยังทะเลาะและดูแคลนกันเอง แล้วเหตุไฉนพวกมันจะไม่รังแกคนอ่อนแอกว่า? นี่เป็นปัญหาใหญ่ของซาทิสฟายที่เปิดเสรีการกระทำมานานแล้ว
"กรี๊ดดด!"
สาวใช้ที่กำลังรดน้ำต้นไม้พลันต้องกรีดร้องอย่างตกใจเมื่อมีใครมาคนมาจับก้น มิฮาร่ามองท่าทีของเธอเป็นเพียงเรื่องขบขัน
"จะกรี๊ดไปทำไมกัน? ขอจับแค่นี้เองน่า"
ทันใดนั้น
"แกเป็นใคร?"
เสียงที่ลุ่มลึกได้ดังกังวาลในหัวมิฮาร่า มันรีบหันกลับไปมองต้นทางของเสียงทันที แล้วก็ได้พบกับชายวัยกลางคนที่ในมือกำลังถือคราดเล็กอยู่ รูปกายภายนอกดูเหมือนกับชาวนาทุกประการ ชื่อเหนือศีรษะเขียนว่าปิอาโร่
คงเป็นเพียงเอ็นพีซีชาวนาคนหนึ่งเฉกเช่นสาวใช้...
"อ้อ… นี่เมืองเกษตรกรรมนี่นะ ไม่แปลกที่จะมีชาวนาอยู่เต็มเมืองไปหมด"
มิฮาร่าโบกไม้โบกมืออย่างหงุดหงิด
"ไสหัวไปซะ"
"ฉันถามว่าแกเป็นใคร"
ปิอาโร่ถามซ้ำแทนที่จะถอยหลังกลับไป มิฮาร่าตัดสินใจไม่สนปิอาโร่อีก มันเริ่มใช้มือลวนลามสาวใช้อีกครั้ง ซึ่งไม่ได้รู้ตัวเลยว่า การกระทำนี้จะนำพาหายนะมาให้ในภายหลัง
"ทุกสรรพสิ่งในเรย์ดันเป็นของดยุคกริด แม้กระทั่งจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิซาฮารันก็ไม่มีสิทธิก่อเรื่องที่นี่!"
โทนเสียงของปิอาโร่ทุ้มต่ำลงจนทำให้มิฮาร่าขมวดคิ้ว
"เจ้าบ้านี่พูดพล่ามไร้สาระอยู่ได้ ฉันเล่นสนุกกับสาวใช้คนนี้อยู่ แกอย่าเพิ่งมากวนได้ไหม--… เชี่ย?"
คราดเล็กในมือปิอาโร่พุ่งเข้าหาหน้าผากมิฮาร่าด้วยความเร็วสูง เลเวลและความว่องไวของมิฮาร่าด้อยกว่าปิอาโร่อยู่มาก มันจึงรู้ตัวในเวลาที่เกือบจะสายเกินไป มิฮาร่ารีบใช้<เร่งความเร็ว>จนเบี่ยงตัวหลบคราดเล็กมาได้อย่างฉิวเฉียด
"เป็นแค่ชาวนา… กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?"
พรึ่บ!
มิฮาร่าชักดาบที่ห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงออกมา ในยามนี้มันกำลังสติแตกและขาดความยั้งคิดสุดขีด มันหวังจะฆ่าปิอาโร่ให้ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีค่าอันใดในสายตาปิอาโร่เลยสักนิด
"ที่นี่คือเรย์ดัน"
ฟุ่บ!
"แกคิดจะทำอะไร...!?"
มิฮาร่าพลันต้องตกตะลึงสุดขีดเมื่อชาวนาปริศนาได้ทำการดีดเมล็ดพันธุ์พืชใส่ตน
"ไอ้สวะ"
เพี๊ยะ!
"โอ้ยยย!"
มิฮาร่าถูกเมล็ดพันธุ์พืชปะทะเข้าหน้าผากอย่างแรง
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,150 หน่วย ]
'เป็นไปได้ยังไง...!'
"เมืองนี้ไม่ต้อนรับเดนมนุษย์เฉกเช่นแก"
เพี๊ยะ!
"อ๊ากกกกก!"
มิฮาร่ากรีดร้องอย่างครวญคราง เมล็ดพันธุ์พืชอันใหม่ได้พุ่งกระแทกเข้าที่บริเวณหัวใจจนรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย
'ร--เราจะถูกฆ่าด้วยเมล็ดพืชเนี่ยนะ?'
มิฮาร่าตรวจสอบพลังชีวิตตนเองอีกครั้งอย่างไม่เชื่อสายตา นี่คือฝันร้ายของจอมดาบเวทย์อันดับหนึ่งอย่างแท้จริง ชาวนาปริศนากำลังจะคร่าชีวิตมันด้วยเพียงเมล็ดพันธุ์พืชที่ดูคล้ายกลับเมล็ดทานตะวัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมาก มันพยายามดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อไม่ให้มีเรื่องน่าอับอายเช่นนี้เกิดขึ้น
แต่ความจริงช่างโหดร้ายเสมอ
[ ท่านเสียชีวิต ]
มิฮาร่าถูกคร่าชีวิตด้วยการดีดเมล็ดพันธุ์พืชใส่ในครั้งที่สี่ ภาพตรงหน้ากลายเป็นโลกสีเทาในพริบตา
'ขอสาบานว่าจะไม่จับก้นเอ็นพีซีอีกแล้ว...!'
ดูเหมือนระบบป้องกันการถูกลวนลามของเอ็นพีซีจะเพิ่งระดับความแข็งแกร่งขึ้นจากเดิมหลายเท่า… มิฮาร่าจำต้องล็อกเอาต์ออกจากเกม
***
=======
[ การออกแบบของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
ท่านสามารถออกแบบอุปกรณ์สวมใส่เพิ่มได้สามชิ้นจากทุกครั้งที่เลเวลของทักษะ<การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน>เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ
_______
* จำนวนครั้งที่สามารถออกแบบได้ : 12/18
* เมื่อไอเท็มถูกสร้างขึ้นโดยสูตรการผลิตนี้ ชื่อของผู้ออกแบบจะถูกสลักไว้บนไอเท็มโดยอัตโนมัติ
=======
ครั้งสุดท้ายที่เขาใช้ทักษะนี้ก็เมื่อตอนที่สร้างรองเท้ากริด ก่อนจะเริ่มออกแบบดาบใหญ่ เขาทำการวาดภาพไว้ในหัวก่อนหนึ่งครั้ง ดูเป็นความรอบคอบที่น่าชื่นชมเมื่อเทียบกับสมัยแรกที่เริ่มออกแบบอย่างไร้แผนการ
'จุดอ่อนใหญ่หลวงของ<ความผิดพลาด>คือขนาดที่ใหญ่เทอะทะของมัน'
ดาบใหญ่จะยิ่งดูเท่เมื่อยิ่งมีขนาดใหญ่ และนั่นเป็นเหตุผลที่กริดออกแบบให้ความผิดพลาดมีความยาวกว่าสามเมตร แต่สุดท้ายก็ต้องประสบปัญหาลำบากใจมากมาย เช่นระยะเวลาในการดึงดาบกลับที่นานเกินไป แถมยังไม่ค่อยเหมาะกับการต่อสู้ในที่แคบ ดาบที่ยาวมากไปมักจะฟันโดนพื้นหรือกำแพงอยู่บ่อยครั้ง
'ขนาดที่พอดีคือ 1.40 เมตร'
กริดจะเพิ่มความกว้างของใบดาบให้เป็น 40 เซนติเมตร เพราะหนึ่งในจุดแข็งของดาบใหญ่คือการที่มันสามารถนำมาใช้ปัดป้องได้ด้วย
'เพิ่มน้ำหนักเข้าไปอีกหน่อย'
<ความผิดพลาด>นั้นถูกสร้างขึ้นจากโอริชาลคั่มสีน้ำเงินทั้งเล่ม ทำให้มันมีน้ำหนักที่เบามากจนไม่สูญเสียความเร็วในการโจมตี แต่นั่นย่อมทำให้ขาดโมเมนตัมความทรงพลังไปในเวลาเดียวกัน
'วัสดุจะต้องเป็นการผสมผสานระหว่างโอริชาลคั่มสีน้ำเงินกับเหล็กนิล'
ความทรงพลังในการตัดผ่าเป้าหมายยังคงใช้โอริชาลคั่มสีน้ำเงินเป็นหลัก แต่น้ำหนักจะถูกเพิ่มเข้าไปด้วยเหล็กนิล
"..."
กริดหลับตาไปลงพักใหญ่พร้อมกับจินตนาการภาพดาบใหญ่ในหัว ช่างตีเหล็กวัยเยาว์ที่เห็นภาพดังกล่าวจึงไม่เข้าใจและพากันตั้งคำถาม
"เขากำลังทำอะไรอยู่?"
"หลับงั้นหรือ?"
"เขาจะหลับไปเพื่ออะไรกัน? ท่านดยุคกำลังนั่งสมาธิต่างหาก! เขากำลังวาดภาพของไอเท็มใหม่ที่จะสร้างในหัวก่อนเริ่มลงมือจริง"
'โฮ่...'
จากบรรดากลุ่มช่างตีเหล็กที่เริ่มถกเถียงแสดงความเห็น คนที่มีสายตาแหลมคมกว่าใครได้แสดงพรสวรรค์ออกมา พวกเขาคือสองช่างตีเหล็กที่ก้าวขึ้นมาอยู่ในขั้นกลางได้ก่อนเพื่อน ทำให้ข่านยิ่งทวีความชื่นชอบและเอ็นดูคนทั้งสองมากยิ่งขึ้น
'เด็กเหล่านี้จะเป็นกำลังหลักให้กริดต่อจากเรา'
ข่านให้เด็กคนทุกพักเบรกเพื่อมาดูกริด การได้ดูช่างตีเหล็กในตำนานสร้างไอเท็มกับตาไม่ใช่โอกาสที่จะหากันได้ง่าย พวกเขาจะยิ่งถกเถียงกันและยิ่งพัฒนาฝีมืออย่างรุดหน้า
"เอาล่ะ… ได้เวลาแล้ว"
หลังจากการนั่งสมาธิอันยาวนาน กริดก็ใช้ทักษะออกแบบเพื่อสร้างสูตรการผลิตดาบกริดจนเสร็จ หลังจากนั้นก็คว้าค้อนออกมาเตรียมลงมือ
เคร้ง! เคร้ง!
ทุกการกระทำของช่างตีเหล็กในตำนานถูกเยาว์ชนเหล่านี้จดจำอย่างไม่คลาดสายตา
***
ผ่านไปสามวันหลังจากที่กริดรับข้อเสนอของคริส
>> เสร็จแล้ว
คริสที่กำลังล่ามอนสเตอร์รอบๆ เรย์ดันระหว่างรอกริด เมื่อได้รับข้อความ เขาก็รีบมาหาด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความหวัง
"โอ้ววว...!"
คริสพลันอึ้งไปกับรายละเอียดอันแสนสุดยอดของดาบใหญ่เล่มใหม่ ประสิทธิภาพของมันทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยอดเยี่ยมเหนือกว่าที่คริสจินตการไว้เสียอีก แต่สีหน้าของเขาพลันกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้เห็นออปชั่นสุดท้าย
[ * มีเพียงผู้สร้างเท่านั้นที่สามารถซ่อมแซมดาบใหญ่เล่มนี้ได้ ]
'หมอนี่...!'
เจ้าเล่ห์นัก… เขาไม่ได้โง่เขลาตามที่ผู้คนร่ำลือกันหรอกหรือ? คริสไม่มีวันรู้เลยว่ากริดเติบโตขึ้นจากเดิมมากแค่ไหน
"นายจะซื้อมันไหม?"
กริดแสยะยิ้มพร้อมกับยิงคำถาม อันที่จริง คริสกระอักกระอ่วนใจมาก แต่เขาก็ไม่อาจละสายตาไปจากคุณภาพของมันได้เลย ดาบใหญ่ตรงหน้าคือสุดยอดอาวุธที่คริสถวิลหามานานแสนนานและยอมจ่ายด้วยเงินทั้งหมดที่มี
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า
"ฉัน… จะซื้อ..."
นี่คือวินาทีที่ผู้เล่นอันดับสามของโลกและหัวหน้ากิลด์ไจแอนท์ได้ตกเป็นทาสของพลังแห่งไอเท็มเต็มตัว หลังจากนี้ไป คริสจะใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีกริด
สนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteเสียสูตรการผลิตไปอีก1แต่จะได้อะไรกลับมานะ
ReplyDeleteสารเสพติดที่ชื่อโอเวอร์เกียร์
ReplyDelete