จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 289



       "เป็นแค่มนุษย์  แต่กล้ามาเหยียบเมืองของฉันเชียวรึ!  ไอ้พวกโสโครก!"

       เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันตกใจทันทีที่ชายผมบลอนด์ปรากฏตัว  ข้อความระบบอันไม่เป็นมงคลได้แสดงขึ้นต่อหน้าทุกคนเป็นจำนวนมาก

[ ท่านไม่สามารถใช้ทักษะ <ม่านวายุ>  <คฑาทมิฬ>  และ  <พายุนิรันดร์> ได้เป็นระยะเวลาห้านาที ]

[ ท่านไม่สามารถใช้ทักษะ <ขว้างโล่>  <หักศาสตรา> และ <พลังผู้พิทักษ์>  ได้เป็นระยะเวลาห้านาที ]

[ ท่านไม่สามารถใช้ทักษะ <ศรกระจาย> และ <ศรเพลิงสีชาด>  ได้เป็นระยะเวลาห้านาที ]

...

...

       ถ้าไม่นับกริด  เกือบทุกคนจะถูกผนึกทักษะไว้สองถึงสามชนิด  หากใครที่ซวยหนักจนถูกผนึกทักษะสำคัญไป  ไม่แคล้วต้องทำหน้าเซ็งไปตามๆ กัน  แต่หายนะยังไม่จบแค่เพียงเท่านี้

[ ความเร็วทุกชนิดจะลดลง 30% เป็นระยะเวลาห้านาที ]

       นับเป็นการสะกดข่มอย่างร้ายแรง  อันที่จริง  แค่เพียงความเร็วโจมตีหรือความเร็วเคลื่อนที่ลดลง  ผู้เล่นก็ไม่สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่แล้ว  ดังนั้น  การลดความเร็วทุกชนิดเช่นนี้ย่อมทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับตกอยู่ในขุมนรุก

       "กริด!  หลบไป!"

       เฟคเกอร์ร้องตะโกนด้วยสีหน้าซีดเผือด  แต่นั่นก็สายไปเสียแล้ว  แวมไพร์เอิรล์  เอลฟิน-สโตน  เจ้าเมืองแวมไพร์คนนี้กำลังนำความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดมาลงใส่กริด

       ซ่าาาา!

       เกิดเป็นกลุ่มหมอกโลหิตรายล้อมตัวกริดไว้  พวกมันเริ่มการกัดกินพลังชีวิตของเขา  เอลฟิน-สโตนมั่นใจมากว่ากริดคงไม่รอดแน่แล้ว

       "หึหึหึ… แล้วฉันจะกลับมาใหม่อีกครั้งพร้อมกับฆ่าพวกแกอีกหนึ่งคน…  และอีกหนึ่งคน!  สิ่งนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ จนพวกแกต้องตกอยู่ในความหวาดกลัวสุดขีด!"

       ซู่ววว!       

       เอลฟิน-สโตนหลอมรวมเป็นหนึ่งกับความมืดและหายตัวไปราวกับเป็นเพียงภาพมายา  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ไม่มีใครไล่ตามไป  ตรงกันข้าม  พวกเขารู้สึกโล่งใจเสียอีกที่เจ้านั่นไม่อยู่ที่นี่แล้ว  พลังสะกดข่มของมันรุนแรงเกินไป

       "..."

       หลังจากเงียบงันไปครู่หนึ่ง  หมอกโลหิตรอบกายกริดก็เริ่มสลาย

       "เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?"

       กริดเหลือพลังชีวิตเพียงหนึ่งหน่วย  แถมยังไม่ใช่แค่นั้น  ทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล  ชุดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สวมอยู่กลายเป็นเพียงเศษเหล็ก

       "กริด!  เป็นอะไรรึเปล่า?"

       สมาชิกทุกคนรีบเข้าเข้ามาดูอาการ  สีหน้าของพวกเขาล้วนตื่นตระหนก  โดยเฉพาะจิสึกะที่ใบหน้าขาวซีดยิ่งกว่าใคร  เป็นสิ่งที่พิสูนจ์ได้อย่างชัดเจนว่า  เธอมีความรู้สึกให้กริดมากมายขนาดไหน

       "ก็อย่างที่เห็น… สภาพแบบนี้คงเรียกว่าสบายดีไม่ได้หรอกนะ"

       อึกอึกอึก!

       'ชิ'

       น้ำตาของกริดไหลรินออกมาเล็กน้อย  เขาจำใจต้องซดโฟชั่นชั้นเลิศราคาแพงที่ได้มาจากโรงแปรธาตุของเรย์ดัน  แต่ละขวดมีต้นทุน 10 เหรียญทอง  สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้ 15,000 หน่วย  หากกริดต้องซดมันสามขวด  ราคาของมันจะเทียบเท่ากับไก่ทอดสองมื้อในชีวิตจริง

       พีคซอร์ดถอนหายใจอย่างโล่งอก

       "ฟู่ว!  โชคดีมากที่ยังเหลือพลังชีวิตไว้หนึ่งหน่วย!  นี่มันปาฏิหาริย์ของแท้เลย!  ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาคงไม่มีวันเชื่อแน่"

       พีคซอร์ดยังไม่รู้เรื่องประกันชีวิตสุดโกงของกริด  ชายหนุ่มจึงอธิบายอย่างละเอียด  กริดมองว่า  ถ้าหากต้องการจะให้เชื่อใจกัน  มีแต่ต้องบอกความจริงออกไปเท่านั้น

       "ฉันมีทักษะที่เป็นเหมือนกับประกันชีวิตอยู่  หากฉันตาย  พลังชีวิตจะเหลืออยู่หนึ่งหน่วยพร้อมกับเป็นอมตะห้าวินาที  ระยะหน่วงของทักษะนี้คือ 24 ชั่วโมง"

       "ว้าว..."

       ถึงจะมีระยะหน่วงที่นานก็จริง  แต่มันจะช่วยรักษาชีวิตทุกครั้งเวลาที่ตายเลยสินะ?  สิ่งนี้ไม่ต่างอะไรกับการมีสองชีวิต  จะเรียกว่าโกงก็ไม่ผิดนัก  พีคซอร์ดได้แต่คิดว่า  คลาสเกรดเลเจนดารีช่างอยู่ในระดับที่ต่างกันลิบลับ

       กริดอมยิ้มให้กับพีคซอร์ดที่แสดงสีหน้าอิจฉา

       "ดังนั้น  จงจำเอาไว้  ถ้าหากมีสถานการณ์ย่ำแย่เกิดขึ้น  ฉันจะไปยืนอยู่หน้าสุดเอง"

       กริดเน้นย้ำเรื่องนี้  หากใครไม่รู้มาได้ยินเข้า  คงเข้าใจว่ากริดจงใจให้เอลฟิน-สโตนมุ่งเป้ามาโจมตีตนแทน

       "นี่เรกัส… คราวก่อนที่พวกนายมา  เอลฟิน-สโตนไม่เคยปรากฏตัวเลยใช่ไหม?"

       "ใช่แล้ว  พวกเราเองก็เพิ่งเคยเจอหมอนั่น"

       "โชคดีจังแฮะ"

       "..."

       บรรยากาศพลันเงียบงันทันที  นี่คือปัญหาใหญ่  ดูเหมือนบอสคราวนี้จะแข็งแกร่งเกินกว่าที่ทุกคนคาดไว้

       "ขนาดกริดที่มีพลังชีวิตสูงที่สุดในหมู่พวกเรายังถึงกับต้องใช้ประกันชีวิต  นั่นหมายความว่า  คนอื่นเองก็คงไม่รอดเช่นกัน  ดังนั้นการป้องกันก็คือ  เราต้องขัดขวางไม่ให้มันใช้ทักษะออกมาได้  แต่จากที่สังเกตดู  ทักษะถูกใช้ออกมารวดเร็วจนเหมือนกับไม่มีระยะเวลาร่าย  แถมพวกเราก็ไม่รู้ว่ามันจะปรากฏตัวออกมาเมื่อไรและที่ไหน"

       "พวกเราต้องตายไปทีละคนงั้นหรือ?"

       "ควรรุมกระหน่ำโจมตีเข้าไปเลยดีไหม?  แทนที่จะปล่อยให้ตายไปทีละคน"

       "ผลการต่อสู้อาจจบลงด้วยความตายของพวกเราทุกคน  ทักษะส่วนใหญ่ถูกผนึกเอาไว้นานถึงห้านาที  พวกเราล้มมันไม่ได้แน่"

       หากต้องสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง  ระยะเวลาห้านาทีนั้นถือว่านานจนแทบขาดใจ  ในระหว่างที่ไร้ทักษะ  พวกเขาย่อมด้อยประสิทธิภาพลงไปหลายส่วน

       "งั้นควรทำยังไง...?"

       "ฉันว่า… คงไม่มีวิธีแก้หรอก"

       ในขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวัง  กริดได้แต่พึมพำกับตัวเอง

       "มันไม่แย่ขนาดนั้นหรอก… ถ้าฉันมีเวลาอีกสักหน่อย..."

       ใช่แล้ว  เวลาสำหรับการเก็บเลเวล

       'ถ้าเราเลเวล 300 ล่ะก็...'

       เอลฟิน-สโตนคือบอสที่แข็งแกร่งอย่างไรข้อกังขา  ระดับของมันใกล้เคียงกับเฮลกาโอร่างสมบูรณ์  ตัวเลขพลังต่อสู้ที่กริดวัดได้จากวิสัยทัศน์ก็สูงลิบจนน่าสิ้นหวัง...  

       แต่มันจะกลายเป็นหนังคนละม้วนทันทีที่กริดมีเลเวล 300!

       'ถ้ารู้เวลาที่แน่ชัดในการปรากฏตัว  การโต้กลับอาจจะเป็นไปได้'

       กริดสามารถใช้วิชาดาบแพ็กม่า  วังวน  ในการสวนกลับการโจมตี  และยังอาจสามารถยื้อเวลาได้นานถึงห้านาทีเพื่อให้สมาชิกคนอื่นหายจากอาการผิดปรกติ

       'ถ้าทำได้แบบนั้น  โอกาสชนะมีสูงแน่'

       แต่ปัญหาก็คือ  กริดยังมีเลเวลเพียง 296 เท่านั้น  ถึงแม้ในเร็วๆ นี้เขาอาจกลายเป็น 297 ได้ไม่ยาก  แต่การจะให้ไปถึง 300 นั้น  ไม่ใช่สิ่งที่จะสำเร็จในวันหรือสองวันแน่  หากจะเร่งให้เร็วขึ้น  มีแต่ต้องดื่มโพชั่นบัฟค่าประสบการณ์และฆ่าแวมไพร์ทุกตัวในเมืองแห่งนี้ให้หมด

       "บ้าจริง..."

       เอลฟิน-สโตนบอกว่ามันจะกลับมา  แต่ไม่รู้ว่าห้านาทีหรือสิบนาที  กริดไม่มีเวลาอีกแล้ว  และผลอาจลงเอยด้วย...

       'พวกเราทุกคนล้มเหลวในการรวบรวมพาเฟรเนี่ยม'

       สีหน้าของกริดพลันหม่นหมอง  ภารกิจคือการกวาดล้างเมืองแวมไพร์ทั้ง 15 แห่ง  แต่กลับกลายเป็นว่า  แม้แต่แห่งเดียวก็ไม่อาจเคลียร์ได้  ช่างน่าท้อแท้สิ้นหวังเหลือเกิน

       "ระดับความยากของภารกิจนี้มันไม่สูงไปหน่อยรึไง?"

       กริดหงุดหงิดใจทันทีที่คิดว่าจะต้องสูญเสียพาเฟรเนี่ยม 15 ชิ้นไป  สมาชิกปาร์ตี้คนอื่นเองก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก  ทุกคนล้วนคิดว่า  การเดินทางครั้งนี้คงจบลงแล้ว  พวกเขาก็ไม่รู้จะพูดสิ่งใดเพื่อปลอบใจกริด  

       มีเพียงจิสึกะเท่านั้นที่คิดต่างออกไป

       ก่อนที่ซาทิสฟายจะเปิดตัว  เธอเคยเป็นถึงหนึ่งในสุดยอดผู้เล่นและหัวกิลด์อันดับหนึ่งของเกมออนไลน์ระดับโลกอย่างแอล-ที-แอส  ดังนั้น  ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์จึงมีสูงกว่าใคร  จิสึกะได้พูดบางสิ่งที่ทำให้กริดเกิดความหวัง

       "เอลฟิน-สโตนอาจปรากฏตัวอีกครั้งช้ากว่าที่พวกเราคิดไว้  หากคำนึงถึงความรุนแรงของทักษะนั้น  ระยะหน่วงของมันก็น่าจะนานเอาเรื่องอยู่"

       โดยปรกติ  รูปแบบการโจมตีของมอนสเตอร์จะขึ้นอยู่กับทักษะที่พวกมันใช้  ตัวอย่างเช่น  ฟิวเซอร์แห่งเกาะกระดูก  มันจะปรากฏตัวทุกๆ เจ็ดนาทีพร้อมกับการพ่นกรดและวิ่งหนีไป

       "ถ้าหากอีกนานกว่าจะปรากฏตัว  พวกเราก็ยังมีหวัง  รีบมาทำให้กริดมีเลเวล 300 กันเถอะ"

       "ด้วยวิธีไหน?"

       "พวกช่วยรุมทำให้มอนสเตอร์เหลือพลังชีวิตน้อยๆ และให้กริดเป็นคนฆ่าเพื่อจะได้รับค่าประสบการณ์ไปคนเดียว  ถ้าหากเป็นมอนสเตอร์ภายในนี้ล่ะก็  กริดน่าจะกลายเป็นเลเวล 300 ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์"

       "เมื่อกริดมีเลเวลถึง 300  โอกาสที่พวกเราจะเอาชนะเอลฟิน-สโตนได้ก็มีสูง  แต่ก่อนหน้านั้น  เราจะรับมือกับมันที่ปรากฏตัวออกมาเรื่อยๆ ได้ยังไง?"

       "คงมีแต่ต้องยื้อเวลาไว้เท่านั้น  สองสามครั้งแรกอาจไม่สำเร็จและต้องเสียสละใครไปบ้าง  แต่ท้ายที่สุด  พวกเราคงจะหาทางรับมือได้เองเมื่อเวลาผ่านไป"

       ไม่มีวิธีใดจะดีไปกว่าสิ่งที่จิสึกะเสนออีกแล้ว  สมาชิกทุกคนต่างเต็มใจที่จะเข้าร่วมโปรเจคต์ <ปลุกปั้นกริด>  

       ชายหนุ่มได้แต่อมยิ้มอย่างเศร้าหมอง

       "ฉันขอโทษพวกนายทุกคนด้วย  ที่ต้องเสียสละตัวเองทำเพื่อเหตุผลส่วนตัวของฉัน"

       "ถ้านายรู้สึกผิดล่ะก็  จงทำงานให้หนักขึ้น  รีบกลายเป็นเลเวล 300 ไวๆ เพื่อพวกเรา"

       กริดเองก็คิดจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว  ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างมุ่งมั่นพร้อมกับเปิดร้านค้าชื่อเสียง

       'เราต้องช่วยทุกคนไว้ให้ได้'

       กริดต้องรีบกลายเป็นเลเวล 300 โดยเร็ว  ดังนั้น  โพชั่นบัฟค่าประสบการณ์คือสิ่งจำเป็น       

       'ครั้งนี้...  เราต้องสุ่มมันออกมาได้แน่!'

       กริดยืนอยู่ด้านหน้าเครื่อง <สุ่ม! สุ่ม! สุ่มทุกอย่าง!>  ในตอนนี้เขาเหลือค่าชื่อเสียงอยู่ 28,013 แต้ม  ถ้าหากหารด้วย 999 ล่ะก็  กริดจะมีโอกาสสุ่มทั้งหมด 28 ครั้ง

       'เราควรจะได้สักขวดจากทั้งหมด 28 ครั้งนี้  ต้องใช่แน่… มันคงจะแปลกเกินไปสักหน่อยถ้าหากว่าเราไม่ได้เลย'

       แกร่ก...

       กริดเริ่มโยกเครื่องเพื่อทำการสุ่ม  และผลก็คือ...

[ น่าเสียดาย!  ท่านอดของรางวัล!  โชคไม่ดีนัก  กรุณาลองใหม่คราวหน้า ]

[ น่าเสียดาย!  ท่านอดของรางวัล!  โชคไม่ดีนัก  กรุณาลองใหม่คราวหน้า ]

       "เชี่ย..."

       ล้มเหลวสองครั้งติด!  หัวใจกริดพลันหล่นวูบ  หากเป็นไปได้  เขาต้องการจะย้อนเวลากลับไปก่อนเริ่มสุ่ม  ค่าชื่อเสียงที่ได้มาอย่างยากลำบากกลับต้องสูญไปโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมา  แต่ความจริงก็มักโหดร้ายเช่นนี้เสมอ  แถมการพนันก็ยังเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจมากด้วย  กริดมาถึงจุดที่เขาไม่อาจหันหลังกลับได้อีกแล้ว

       การสุ่ม...  ในสมัยอดีต  มันคือระบบการพนันที่ถูกผู้เล่นทั่วโลกสาปแช่งเพราะถูกดูดเงินออกจากกระเป๋าอย่างมหาศาล  และในตอนนี้  กริดก็กำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกัน

       "ช่างแม่ง!  ลองดูสักตั้ง!"

       กริดบ่นไปพลาง  โยกยันโยกไปพลาง

[ ขอแสดงความยินดีด้วย!  ท่านได้รับไอเท็ม <สุดยอดช็อคโกแล็ต> ]

[ น่าเสียดาย!  ท่านอดของรางวัล!  โชคไม่ดีนัก  กรุณาลองใหม่คราวหน้า ]

[ ขอแสดงความยินดีด้วย!  ท่านได้รับไอเท็ม <อิฐตัวต่อสำหรับพัฒนาการของทารก> ]

[ น่าเสียดาย!  ท่านอดของรางวัล!  โชคไม่ดีนัก  กรุณาลองใหม่คราวหน้า ]

[ น่าเสียดาย!  ท่านอดของรางวัล!  โชคไม่ดีนัก  กรุณาลองใหม่คราวหน้า ]

       ยิ่งกริดหมุน  ของที่ได้กลับแย่ลงเรื่อยๆ… ความหงุดหงิดของเขาเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ  เป็นเวลาเดียวกับที่ค่าชื่อเสียงเหลือน้อยกว่า 10,000 แต้มไปแล้ว

       'ถ้าไม่นับโพชั่นบัฟค่าประสบการณ์  ไอ้ตู้หมุนบ้านี่มันไม่มีไอเท็มดีๆ อย่างอื่นอีกแล้วรึไง?'

       กริดกำลังหน้ามืดตามัวสุดขีด  ใจหนึ่งเขาอยากจะหยุด  แต่มือกลับยังคงโยกต่อเครื่องต่อไปเรื่อยๆ อย่างเหม่อลอย  กริดไม่อยากขาดทุนเช่นนี้  เขาหวังว่าจะได้รับบางสิ่งตอบแทนกลับมาอย่างคุ้มค่าบ้าง

       ค่าชื่อเสียงลดลงต่ำกว่า 6,000 แต้มไปแล้ว

[ ขอแสดงความยินดีด้วย!  ท่านได้รับไอเท็ม <โพชั่นบัฟค่าประสบการณ์> ]

=======

[ โพชั่นบัฟค่าประสบการณ์ ]

       ท่านจะได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 20% เป็นเวลาสามวัน

_______

น้ำหนัก : 0.1

=======

       "น--ในที่สุด...!!"

       เขาควรจะดีใจมากกว่านี้สิ… แต่ทำไมถึงได้รู้สึกจุกที่หน้าอกนัก?  หรือจะเป็นเพราะค่าชื่อเสียงที่อุตส่าห์สั่งสมมานานต้องมลายหายไปจนหมดสิ้นในคราวเดียว? 

       "เฮ่อ… อย่างน้อยก็ยังได้มาขวดนึง"

       กริดพยายามสงบใจไว้  เขานำผ้าคลุมมาลาคัสออกมาและยื่นมันให้แวนเนอร์  ผ้าคลุมที่สามารถดึงดูดมอนสเตอร์ได้ทุกสารทิศผืนนี้  กริดไม่ได้นำออกมาใช้เป็นเวลานานมากแล้ว

       "สวมมันซะ"

       "เอ่อ..."

       จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้กริดเลเวลได้เร็วที่สุดน่ะหรือ?  แวนเนอร์พลันมีสีหน้าตึงเครียดทันทีที่นึกถึงขุมนรกซึ่งตนต้องพบเจอ  เขารีบหันไปปรึกษากับสมาชิกปาร์ตี้คนที่เหลือ

Comments

  1. สงสารแวนเนอร์จับใจ 55+

    ReplyDelete
  2. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. อักษรสีดำไปไหนแล้ว

    ReplyDelete
  4. I really appreciate your support on this.
    Look forward to hearing from you soon.
    I’m happy to answer your questions, if you have any.


    เครดิตฟรี

    แจกเครดิตฟรี ฝากถอนง่าย

    คาสิโน

    คาสิโนออนไลน์

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00