จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 294
"วิธีอะไร...? พวกเราจะหนีรอดจากสถานการณ์ตรงหน้าได้ยังไงกัน?"
กริดมีประสบการณ์ล่าบอสใหญ่มามากมาย จะเรียกว่า เขามาถึงจุดนี้ได้เพราะการล่าบอสก็ไม่ผิดนัก ดังนั้น ยิ่งเข้าตาจน วิธีการของกริดก็ยิ่งพิสดาร แถมบอสอันเก่งกาจที่กริดเคยล่ามาในอดีต มีหลายตัวที่สติปัญญาสูงส่งและไม่ได้ปรากฏตัวพร้อมกับเสียงคำราม <โฮกกกกก!>
บอสพิเศษภายในซาทิสฟายที่มีชื่อเป็นของตนเอง หลายตัวส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องหลักของเกมไม่มากก็น้อย ทั้งหมดล้วนมีอดีตและปูมหลัง และสิ่งนั้นก็คือกุญแจสำคัญ
กริดมีมุมมองกับบอสแตกต่างจากคนอื่น เขาไม่ได้มุ่งเน้นไปที่รูปแบบการโจมตีและรูปแบบทักษะของบอสเพียงอย่างเดียว แต่กริดยังมองไปถึงเบื้องหลังและเรื่องราวของบอสตัวนั้น ยิ่งมองเห็นถึงจุดประสงค์และความต้องการของบอส การล่าก็ยิ่งทำได้ง่าย...
และในครั้งที่สู้กับปาสคาล กริดไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกไปอย่างส่งเดช เขาคำนวนอย่างละเอียเแม่นยำเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด กริดเป็นมืออาชีพ สามารถเรียกได้เต็มปากว่ากริดคือ <ผู้เชี่ยวชาญการล่าบอส> ถ้าหากนำข้อมูลนี้ไปถ่ายทอดให้กับกิลด์ภายนอกและผู้เล่นทั่วไป กริดจะสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แต่เขาไม่ได้มีฉลาดพอที่จะคิดเรื่องแบบนี้ออก
'ตัวตนของเอลฟิน-สโตนคือกุญแจสำคัญ'
เมื่อลองนึกดูให้ดี เอลฟิน-สโตนสามารถฆ่าทุกคนได้ตามใจชอบตั้งแต่แรก แล้วเหตุใดถึงต้องปรากฏตัวออกมาฆ่าทีละคนตลอดสี่วันที่ผ่านมาด้วย? หากดูจากลักษณะนิสัยของมันแล้ว เรื่องนี้เดาคำตอบได้ง่ายมาก
'เพื่อความสนุกเท่านั้น'
เอลฟิน-สโตนกระทำเรื่องเดิมซ้ำๆ ทุกครั้งที่ปรากฏตัว นั่นก็เพื่อหวังสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้เล่นด้วยการสังหารทีละคนอย่างเลือดเย็น
'มันต้องการให้พวกเราสั่นระริกอย่างหวาดกลัว'
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันฆ่าพวกเราทุกคนพร้อมกัน?
'แบบนั้นคงน่าเบื่อแย่'
ของเล่นที่นานๆ ครั้งจะปรากฏตัวออกมา เอลฟิน-สโตนคงอยากเล่นสนุกให้นานที่สุด
'เราต้องอาศัยจุดนี้'
สีหน้าของกริดพลันมืดมน
"แรงกดดันฉับพลัน!"
เปรี้ยงง!
ในขณะที่กริดยืนครุ่นคิดเงียบๆ สมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นกำลังดิ้นรนต่อสู้ ในเมื่อเอลฟิน-สโตนมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ฮิวรอย สมาชิกที่เหลือจึงให้แวนเนอร์คอยปกป้องฮิวรอยไว้ ส่วนพวกเขาก็รุมกระหนำโจมตีใส่เอลฟิน-สโตนอย่างสบายใจ
สมาชิกโอเวอร์เกียร์มีคลาสและความถนัดแตกต่างกันออกไป เมื่อผนึกกำลังกัน การสอดประสานอย่างไร้ที่ติทำให้ทุกคนดึงพลังออกมาได้มากถึง 120% ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น พวกเขาล้วนเป็นผู้เล่นท็อป 20 และยังเป็นไอดอลของผู้เล่นอีกหลายล้านทั่วโลก
โดยเฉพาะเฟคเกอร์ ความโดดเด่นของเขาเผยออกมาอย่างชัดเจนกว่าใคร แม้แต่เอลฟิน-สโตนก็ไม่อาจตามความเร็วของเฟคเกอร์ทัน ทุกครั้งที่มันจะเปลี่ยนร่างบางส่วนเป็นควัน มีดของเฟคเกอร์ก็จะเฉือนสร้างความบาดแผลได้รวดเร็วกว่าเสมอ
ทว่า… ปัญหาหลักก็คือเขตแดนโลหิต เอลฟิน-สโตนจะฟื้นฟูพลังชีวิตได้ราววินาทีละ 1,000 หน่วยจากสมาชิกโอเวอร์เกียร์ ถือเป็นการรักษาอันน่าเหลือเชื่อ หากประเมินคร่าวๆ เอลฟิน-สโตนน่าจะมีพลังชีวิตอยู่ที่ราวแปดล้านหน่วย ไม่มีทางเลยที่คนจำนวนแค่นี้จะล้มมันได้ในระยะเวลาอันสั้น
"อัสนีสังหาร!"
เปรี้ยะเปรี้ยะ!
หมัดของเรกัสต่อยเข้าที่หน้าอกเอลฟิน-สโตนอย่างจัง แต่มันก็ไม่ได้รับความเสียหายใดทั้งสิ้น เพราะเอลฟิน-สโตนได้เปลี่ยนร่างบริเวณหน้าอกให้กลายเป็นควันในจังหวะที่กำปั้นของเรกัสสัมผัสเข้าพอดี
"อันนี้ต่างหากของจริง!"
เรกัสหมุนตัวพร้อมกับดึงหมัดกลับ เขาตอกส้นเท้าไปยังศีรษะของเอลฟิน-สโตนอย่างแม่นยำ ถือเป็นการโจมตีที่ยากจะคาดเดาได้
"อั่ก...!"
จุดแข็งของเรกัสคือการโจมตีที่คาดเดาทิศทางไม่ถูก เอลฟิน-สโตนจึงรับความเสียหายเข้าไปเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนอีกด้านหนึ่ง ป็อนก็รุกโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
"ฝนหอกกระหน่ำ!"
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
ป็อนกระโดดขึ้นไปในอากาศพร้อมกับรัวแทงหอกลงไป จำนวนหอกที่ทิ่มแทงเกิดเป็นภาพติดตามากมายประหนึ่งสายฝนโหมกระหน่ำ มันคือการโจมตีที่ยากจะหลบเลี่ยง ถ้าหากจะหลบให้พ้น เอลฟิน-สโตนมีต้องกลายเป็นควันให้หมดทั้งร่าง แต่ถ้าทำเช่นนั้น กว่าจะกลับคืนร่างเนื้อและโจมตีได้อีกครั้งก็จะใช้เวลานาน ทำให้ไม่อาจโจมตีสวนกลับได้ทัน ถ้าเลี่ยงได้ มันจะไม่ยอมใช้การกลายเป็นควันทั้งร่างเด็ดขาด
"บาเรียโลหิต!"
เป้งเป้งเป้งเป้งเป้ง! เปรี้ยะ!
เอลฟิน-สโตนสละพลังชีวิตบางส่วนเพื่อสร้างบาเรียโลหิต หอกและบาเรียสีแดงปะทะกันกลางอาการจนเกิดเสียงกึกก้อง
ฉึก! ฉั่วะ!
เฟคเกอร์ลอบเข้ามาโจมตีโดยเล็งเฉือนไปที่ลำคอ ยิ่งเขาโจมตีมาก อาการบาดเจ็บของเอลฟิน-สโตนก็จะมีมากขึ้น มันจึงโพล่งขึ้นอย่างหัวเสีย
"ฉันจะฆ่าแกก่อนก็แล้วกัน!"
"...!"
เฟคเกอร์ผงะไปเล็กน้อย เป็นเพราะในยามนี้ เอลฟิน-สโตนไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ฮิวรอยเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ชิ้งงง!
ดาบยารุกต์ส่องแสงสว่างสีแดงออกมา เฟคเกอร์พลันรู้สึกว่าตนเองจู่ๆ ก็หูดับไป
กรี๊~~~!!
แก้วหูของทุกคนพลันกระตุก นี่เป็นผลมาจากทักษะ <โลหิตกรีดร้อง> ของดาบยารุกต์ สมาชิกโอเวอร์ต่างพากันเสียงการทรงตัว เอลฟิน-สโตนฉวยโอกาสนี้รีบใช้ทักษะถัดไปทันที
"เถาวัลย์โลหิต!"
ฉึก! ฉึก!
เถาวัลย์หนามหลายสิบเส้นได้โผล่ขึ้นจากเขตแดนโลหิตและแทงใส่ต้นขาของเฟคเกอร์ เถาวัลย์โลหิต… แม้ความรุนแรงของทักษะจะไม่สูงมาก แต่มันคือทักษะแสนร้ายกาจที่จะทำให้เลือดของเป้าหมายเป็นพิษ ศัตรูจะเคลื่อนไหวร่างกายได้ช้าลงมาก จุดแข็งของเฟคเกอร์ถูกสลายไปในพริบตา
เอลฟิน-สโตนแสยะยิ้มพร้อมกับเหวี่ยงยารุกต์โดยหวังจะฟันศีรษะของเฟคเกอร์ให้ขาดออกจากลำตัว แต่ทันใดนั้นเอง ศรเพลิงได้พุ่งเข้ามาปะทะเพื่อขัดขวางไว้เสียก่อน เป็นการยิงสนับสนุนจากจิสึกะ
"พวกแกเป็นมนุษย์ที่ใช้ได้เลย"
เอลฟิน-สโตนรู้สึกตื่นเต้นยินดี โลหิตในกายสูบฉีด มันจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อการต่อสู้ยิ่งยืดเยื้อ
เป๊าะ!
เอลฟิน-สโตนหักลูกธนูในมือทิ้ง พลังชีวิตของมันตอนนี้อยู่ที่ราวแปดในสิบส่วน ในทางกลับกัน พลังชีวิตของสมาชิกโอเวอร์เกียร์ส่วนใหญ่ลดลงไปหนึ่งในสามส่วนแล้ว ทั้วหมดมาจากผลของเขตแดนโลหิต
"ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราทุกคนจะตายภายในสองนาที"
เซ็ดนอสรักษาอาการเชื่องช้าของเฟคเกอร์ด้วย <สายลมอวยพร> หลังจากนั้นก็หันมาพูดกับทุกคนด้วยสีหน้าสิ้นหวัง แวนเนอร์เองก็ยักไหล่อย่างเห็นด้วย
"นั่นสินะ"
ความแข็งแกร่งของเอลฟิน-สโตนไม่ได้มาจากพลังโจมตี พลังเวทย์ พลังป้องกัน หรือความเร็วแต่อย่างใด หากจะกล่าวให้ชัด ค่าสถานะเหล่านี้ของเอลฟิน-สโนตนล้วนด้อยกว่าบอสในระดับเดียวกันทั้งสิ้น แต่เหตุผลที่ทำให้เอลฟิน-สโตนเก่งกาจจนยากจะรับมือก็คือ...
ทักษะพิเศษมากมายที่มันมี
ทักษะสร้างอาการผิดปรกติเป็นวงกว้าง ทักษะป้องกันตัวเองเป็นวงกว้าง ทักษะโจมตีเป็นวงกว้าง ทักษะดูดเลือดเป็นวงกว้าง ทักษะป้องกันตัวเอง ทักษะหลบหลีกการโจมตีกายภาพ และอีกมากมาย ทำให้ไม่มีทางจะล้มมันได้เลย ถ้าหากไม่เรียกสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนมาที่นี่
ต่อให้กริดมีเลเวล 300 แล้วก็เถอะ... แต่พวกเขาจะเอาชนะมันได้จริงหรือ? สมาชิกทุกคนอดสงสัยในข้อนี้ไม่ได้
{ เสียสละฮิวรอยซะ… เหตุผลที่เอลฟิน-สโตนคลุ้มคลั่งก็เพราะฮิวรอย มันคงหยุดลงมือถ้าหากฮิวรอยตายไป }
กริดกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่?
"...?"
ทุกคนนอกจากฮิวรอยพลันขมวดคิ้วพร้อมกัน เรกัสที่กำลังหลบการโจมตีจากยารุกต์ได้หันมาถามกริด
{ ขายเพื่อนงั้นหรือ? นี่ฉันได้ยินผิดไปรึเปล่า? }
กริดส่ายศีรษะ
{ ไม่เลย นายได้ยินไม่ผิด }
ป็อนโพล่งขึ้นอย่างโมโห
{ อย่าทำให้พวกเราผิดหวังหน่อยไปเลย! }
จิสึกะเองก็เช่นกัน
{ กริด ผู้ชายที่คิดขายเพื่อน ไม่สมควรที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดหรอกนะ }
พีคซอร์ด เซ็ดนอส และเฟคเกอร์ต่างก็นิ่งเงียบ พวกเขาไม่ออกความเห็น แต่สีหน้าก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก การกระทำของกริดสมควรถูกตั้งคำถาม แต่กริดก็ไม่ได้แสดงสีหน้าละอายใจหรือลังเล เขากลับจ้องมองไปยังทุกคนด้วยแววตาองอาจยิ่งกว่าเดิม
"นั่นก็เพื่อ… รักษาชีวิตของพวกพ้องที่เหลือไว้"
ใช่แล้ว กริดไม่ได้คิดสละฮิวรอยอย่างสูญเปล่า
'การตายของหนึ่งคนจะทำให้แปดคนรอด'
คนทั่วไปคงไม่คิดสละชีวิตพวกพ้องเพื่อประโยนช์ที่ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนคนสำคัญด้วยแล้ว แต่กริดกลับแสดงออกอย่างมั่นคงเด็ดเดี่ยว
เขาตัดสินใจโดยไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นหรือ? ไม่ใช่แบบนั้นเลย
"แค่ก!"
เฟคเกอร์ถูกโจมตี กริดวิ่งเข้าไปช่วยพร้อมกับเหวี่ยง <ความผิดพลาด> ในมือออกไปตั้งรับ
เคร้ง!
ดาบใหญ่สีน้ำเงินปะทะกับยารุกต์สีแดงสด
[ ความคงทนของ <+9 ความผิดพลาด> ลดลง 5 หน่วย ]
ดูเหมือนความแข็งแกร่งของศิลาโลหิตจะเหนือกว่าโอริชาลคั่มสีน้ำเงิน และหากมองแค่ความแข็งแกร่ง บางทีอาจเหนือกว่าอดามันเที่ยมด้วยซ้ำ
'ผู้สร้างยารุกต์มีฝีมือมากกว่าตัวเราในตอนนี้สินะ'
กริดส่ายศีรษะเล็กน้อยก่อนจะส่งข้อความไปหาฮิวรอย
>> นายเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม? นายต้องสละชีวิตเพื่อทุกคน...
ฮิวรอยตอบกลับโดยปราจากความลังเลในแววตา...
>> ขอรับ นายท่าน
คำตอบเป็นไปตามที่คาด สิ่งนี้ยิ่งทำให้กริดเจ็บปวดหัวใจมากขึ้น เขาอมยิ้มอย่างขมขื่น
>> สิ่งไหนที่ไม่เต็มใจทำ นายตอบปฏิเสธฉันบ้างก็ได้… ยิ่งนายเป็นคนดีขนาดนี้ ฉันก็ยิ่งเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป
>> กระผมยินดีทำตามคำสั่งของนายท่านอยู่แล้ว… โดยเฉพาะคำสั่งในคราวนี้ มันฟังดูสมเหตุสมผลมากกว่าครั้งไหนทั้งหมด… กระผมยินดีทำด้วยความเต็มใจ!
ต้องสูญเสียค่าประสบการณ์ ไอเท็มลดความคงทน ไอเท็มบางชิ้นอาจสูญหาย ไม่ว่าใครก็ตาม ความตายคือเรื่องร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮิวรอยที่มีพลังต่อสู้ต่ำ ความเร็วในการเก็บเลเวลของเขานั้นช้ากว่าทุกคนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การจะอัพเลเวลกลับคืนมาจึงเป็นเรื่องที่ยากกว่าใครทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น ฮิวรอยก็ยินดีสละชีวิตโดยไม่ลังเล
>> ฉันจะแก้แค้นเอลฟิน-สโตนให้ได้ และนายมั่นใจได้เลยว่า ฉันจะตอบแทนเรื่องในวันนี้อย่างคุ้มค่า
>> นายท่านไม่จำเป็นต้องตอบแทน มันคือหน้าที่ของกระผมอยู่แล้วที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อนายท่านและคนสำคัญ กระผมไม่หวังสิ่งใดตอบแทน อีกอย่าง เรื่องในคราวนี้ ต้นเหตุก็มาจากกระผมเอง...
>> อย่าได้โทษว่าเป็นความผิดตัวเอง และอย่าลืมว่า… นายเองก็เป็นเพื่อนคนสำคัญของฉันเหมือนกัน
>> ...
กริดเตรียมใจไว้แล้ว เขาหันไปพูดกับเอลฟิน-สโตนที่กำลังจ้องมองอย่างเย็นชาว่า
"ฉันจะยอมมอบชีวิตของเพื่อนฉันที่บังอาจล่วงเกินบุพการีของแกให้... จงฆ่าเขาเพื่อสลายความโกรธแค้นในใจซะ!"
เอลฟิน-สโตนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
"ขายเพื่อนเพื่อให้ตนเองรอดงั้นหรือ? สมกับเป็นมนุษย์ที่ต่ำต้อยและน่ารังเกียจ"
"แล้วไง? ไม่ต้องการงั้นรึ?"
เอลฟิน-สโตนแสยะยิ้ม
"ต้องการสิ"
'นั่นแหละ'
เป็นอย่างที่คิดคาดคิด เอลฟิน-สโตนกำลังสนุกอยู่กับเกมล่ามนุษย์ที่มันไม่ได้ลิ้มรสมานานแล้ว
"ช่วยตายเพื่อพวกเราด้วย"
กริดออกคำสั่งต่อหน้าเอลฟิน-สโตน ฮิวรอยเองก็ไม่รอช้า เขารีบเดินเข้าไปหาเอลฟิน-สโตนทันที สมาชิกคนอื่นที่เห็นต่างพากันส่งเสียงห้าม
"อย่า!"
"นายคิดจะทำอะไร? เสียสติไปแล้วรึไง?"
คำพูดเหล่านี้ล้วนไร้ค่า กริดตัดสินใจไปแล้ว และฮิวรอยก็ยินดีทำตามอย่างเคร่งครัด
"ฉันจะฆ่าแกให้เจ็บปวดทรมานที่สุด! วะฮ่าฮ่า!"
ฉึก!
ฮิวรอยไม่ได้ขัดขืนเอลฟิน-สโตนเลยสักนิด มันเล่นสนุกกับเขาราวกับเป็นเพียงของเล่นชิ้นหนึ่ง เถาวัลย์โลหิตพุ่งเสียบที่ข้อเท้าเพื่อสกัดการเคลื่อนไหว ยารุกต์ทำการตัดข้อมือเพื่อไม่ให้ฮิวรอยถือดาบไว้ หลังจากนั้น ร่างกายก็ค่อยๆ ถูกเฉือนออกทีละชิ้นราวกับเนื้อสเต็ก จนท้ายที่สุด มันก็ฟันแขนของฮิวรอยจนขาดออกจากลำตัว
"..."
ความเจ็บปวดทางกายไม่อาจเทียบได้กับความเจ็บปวดทางใจ แต่ฮิวรอยก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมาสักแอะเดียว จิตใจของเขาเข้มแข็งพอ เรื่องแค่นี้เทียบไม่ได้กับการถูกขังอยู่ในคุกใต้วินสตันเป็นเวลานานกว่าสองร้อยชั่วโมงในอดีต
"ทนดูไม่ไหวแล้ว!"
สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เหลืออยู่ต่างรู้สึกผิด สิ่งนี้มันไม่ถูกต้อง ตนต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง ทุกคนคิดเช่นนั้น แต่กริดก็หันมาพูดห้ามไว้อย่างเย็นชา
"เลิกงี่เง่าแล้วหนีออกจากที่นี่ได้แล้ว! ถ้าใครขัดคำสั่ง ฉันจะไล่ออกจากโอเวอร์เกียร์!"
"..."
ในอดีต กริดเคยขาดเสน่ห์ดึงดูดผู้คน เขาเคยเป็นคนไม่เอาไหนเพราะความเห็นแก่ตัวและหน้าเงิน แต่ตอนนี้ล่ะ? เขาต่างออกไป กริดสั่งให้เพื่อนคนหนึ่งที่ตนรักต้องออกไปตายแทนทุกคน
ความเศร้าเสียใจในครั้งนี้จะมีใครรับรู้บางไหม...?
เขาพยายามข่มความรู้สึกไว้ สีหน้าของกริดมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวยิ่งขึ้น ความเป็นผู้นำในตัวค่อยๆ ลืมตาตื่น ส่วนสมาชิกที่เหลือ เมื่อใจเย็นลง พวกเขาก็เริ่มหนีออกมา
และเพียงไม่นาน… ฮิวรอยก็เสียชีวิต
แค้นนี้ต้องชำระ!!
ReplyDeleteฮิวรอย นายคือมิตรแท้ T_T
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteฮิวรอยนายหล่อมาก
ReplyDeleteฮิวรอยคือ MVP
ReplyDelete