จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 298
'เป็นฝีมือของมนุษย์จริงหรือ?'
เอลฟิน-สโตนมีชีวิตอยู่มานานกว่า 350 ปี มันเคยพบพานมนุษย์มานับไม่ถ้วน ในบรรดาคนเหล่านั้น มีบางส่วนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ บางส่วนถูกเรียกว่านักรบ แต่ทั้งหมดล้วนด้อยกว่ามัน ในสายตาเอลฟิน-สโตน มนุษย์เป็นอะไรไม่ได้นอกจากเหยื่อ
แต่ความคิดดังกล่าวก็ถูกสั่นคลอนเข้าแล้วในวินาทีนี้ กลืนโลหิตขั้นสูงสุดที่ยากจะมองด้วยตาเปล่าเห็น กลับถูกมนุษย์คนนี้สะท้อนกลับมาได้ด้วยดาบงั้นหรือ? ช่างน่าสนใจยิ่งนัก ชายคนนี้ไม่ได้เป็นรองมันเลยสักนิด
ใบหน้าเอลฟิน-สโตนพลันกระตุกเล็กน้อย
'เหมือนที่บราฮัมเคยพูดไว้สินะ...'
บราฮัม ชายคนแรกที่ทำให้เอลฟิน-สโตนโกรธเกรี้ยว ชายคนแรกที่มอบความเจ็บปวดให้มัน บราฮัมกระทำผิดร้ายแรงหลายเรื่อง จนในที่สุดก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูล
[ พวกเจ้าไม่เข้าใจถึงความอยากรู้อยากเห็นของฉันจนถึงที่สุดเลยสินะ? พี่น้องเอ๋ย… พวกเจ้าแย่ยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่พวกเจ้าดูแคลนนั้นหาได้เกียจร้านแบบพวกเรา มนุษย์พัฒนาตนเองและทำงานหนักตลอดเวลา และสักวันหนึ่ง เผ่าพันธุ์ที่สามารถต่อกรกับเราจะถือกำเนิดขึ้น และเผ่าพันธุ์นั้นคือมนุษย์ ]
'เจ้าบ้านั่น...!'
บราฮัม-เฮชวาล ชายผู้ที่ศึกษาทดลองเวทย์มนต์ของทั้งมนุษย์และแวมไพร์ ในระหว่างการทดลอง มีแวมไพร์หลายตนที่ต้องเสียชีวิตไป บางส่วนเป็นญาติของเอลฟิน-สโตน และมีคนหนึ่งที่คนรักของมัน... เลอาห์
"หึ… หึหึ..."
ตลอดร้อยปีที่ผ่านมา เอลฟิน-สโตนพยายามอย่างหนักไม่รู้ตั้งเท่าไร เพื่อจะให้ลืมความบัดซบของบราฮัม เอลฟิน-สโตนออกล่ามนุษย์จำนวนมากและหลับให้นานขึ้นกว่าเดิม จนในที่สุด ความแค้นภายในใจก็เริ่มสลายไป แต่การได้พบพานมนุษย์คนนี้ กลับทำให้ความทรงจำอันเลวร้ายตื่นขึ้นอีกครั้ง
'ทำเอานึกถึงใบหน้าที่น่ารังเกียจของไอ้บัดซบบราฮัมเลยแฮะ...'
มันไม่อาจยกโทษให้บราฮัมได้ ดวงตาของเอลฟิน-สโตนพลันลุกวาวอย่างอาฆาตแค้นในยามที่จับจ้องกริด
"แกไม่ธรรมดาก็จริง แต่มนุษย์ย่อมเป็นมนุษย์! แกคือเหยื่อของฉัน!"
ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!
เอลฟิน-สโตนเปลี่ยนเลือดที่ไหลรินจากบาดแผลของตนให้กลายเป็นก้อนกลม ก้อนเลือดดังกล่าวกระหน่ำโจมตีใส่กริดจนเกิดระเบิดรุนแรง มันได้สำแดงสุดยอดพลังของเวทย์ระเบิดโลหิต ที่เหนือกว่าหนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทวีปอย่างเอิร์ลอัชเชอร์
'เราหลบไม่พ้นแน่'
ระยะการระเบิดกินวงกว้างเกินไป กริดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากป้องกัน แต่เขาก็ยังลังเลใจว่า เพียงแค่โล่เทวะจะทนรับแรงระเบิดเหล่านี้ได้จริงหรือ? ในขณะที่กริดกำลังจะควักโล่ออกมา
"ฉันจะปกป้องหัวหน้าเอง!"
แวนเนอร์เอาตัวมาโอบกริดไว้พร้อมกับใช้<โล่นับพัน>ขวางระเบิดโลหิต โล่นับพันคือทักษะที่จะช่วยลดความเสียหายทางเวทย์มนต์ได้มหาศาล ส่งผลให้ระเบิดโลหิตเบาลงไปหลายส่วน
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!
"อ๊ากกก! เจ็บโว้ยยย!"
แม้กระทั่งโล่นับพันก็ยังไม่อาจดูดซับแรงระเบิดได้หมด บาเรียพังทลาย แวนเนอร์ได้รับบาดเจ็บรุนแรง เศษระเบิดโลหิตที่เป็นมลพิษได้กระจายออกมาสร้างความเสียหาย กริดยกนิ้วโป้งให้ในขณะที่ตนถูกแวนเนอร์โอบอยู่
"ขอบคุณมาก ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบอยู่ในอ้อมอกผู้ชายสักเท่าไรก็เถอะ"
"ฮ่าฮ่า! ฉันก็ไม่ได้ทำเพราะชอบหรอกนะ! เอาล่ะ นายลุยต่อเลย"
แวนเนอร์โพล่งขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะ กริดเวอร์ชั่นใหม่พลันพุ่งตัวเข้าใส่เอลฟิน-สโตนอย่างดุดัน
"แกนะแก!"
เมื่อเห็นกริดสบายดี เอลฟิน-สโตนจึงกระหน่ำฝูงศรโลหิตเข้าใส่อย่างโกรธเกรี้ยว ศรโลหิตคือเวทย์มนต์โจมตีชนิดนำวิถี พวกมันพยายามขัดขวางกริดไม่ให้พุ่งเข้าใส่
'ปัดป้องได้ไม่หมดแน่'
ศรโลหิตทั้งรวดเร็วและล็อคเป้าหมาย การหลบหลีกหรือปะทะโดยตรงทำไม่ได้แน่ และแค่การปัดป้องจากหอกไลฟาเอลก็ยังไม่เพียงพอ
'ช่วยไม่ได้แฮะ'
กริดเริ่มรำดาบอีกครั้ง เขาหวังจะใช้วิชาดาบแพ็กม่า<คลื่น> เพื่อสลายศรโลหิตทั้งหมด แต่ทันใดนั้นเอง ศรเพลิงนับสิบดอกก็พุ่งผ่านแผ่นหลังของเขาเข้าไปด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึง
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
เป็นภาพที่ยากจะทำใจเชื่อลง ศรเพลิงทุกดอกสามารถยิงระเบิดหักล้างกับศรโลหิตได้อย่างแม่นยำ ในซาทิสฟาย ผู้เล่นคนเดียวในโลกที่สามารถทำแบบนี้ได้...
เทพีแห่งคันศร จิสึกะ
"ฉันจะยิงสนับสนุนให้เอง"
จิสึกะขยิบตาให้หนึ่งข้างด้วยท่วงท่าอันเซ็กซี่ หัวใจของกริดพลันเต้นระรัว ความฮึกเหิมได้ส่งให้เขาพุ่งทะยานเข้าประชิดตัวเอลฟิน-สโตน หลังจากนั้น กริดก็กู่ร้องออกมาเสียงดังฟังชัด
"สังหาร!"
ซู่วววววววว!
'สิ่งนี้มัน...?'
ดาบใหญ่สองเล่มกำลังอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารอันรุนแรงที่มันไม่เคยพบเจอ ภาพลักษณ์ของกริดในตอนนี้ ต่างจากเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง เอลฟิน-สโตนพยายามใช้เวทย์บินเพื่อหนีขึ้นไปด้านบน แต่จู่ๆ กลับถูกสลายลมปริศนากดไหล่ทั้งสองข้างไว้
นี่คือผลจากเวทย์มนต์<พายุนิรันดร์>ของเซ็ดนอส เดิมที เวทย์ชนิดนี้จะตรึงความเคลื่อนไหวทั้งหมดของศัตรู แต่เอลฟิน-สโตนเป็นถึงบอสใหญ่ ผลจึงแสดงแค่บางส่วน ถึงกระนั้นก็เพียงพอสำหรับกริดแล้ว
เป็นอีกครั้งที่เขาได้รู้ว่า ยามนี้ไม่ได้ต่อสู้อยู่ตัวคนเดียว ใช่แล้ว พวกพ้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครไร้ประโยชน์
'ตอนนี้แหละ… ฉัน...!'
กริดแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เปรี้ยงงงงง!!
"อ--อ๊ากกกกกกก!"
ดาบใหญ่สองเล่มเสียบเข้าหน้าอกเอลฟิน-สโตนอย่างจัง มากพอจะส่งให้มันร้องอย่างเจ็บปวดทรมาณ แค่กริดคนเดียว เอลฟิน-สโตนก็ตึงมือจะแย่แล้ว ยิ่งมีการสนับสนุนจากพวกพ้อง ปัจจัยที่คาดเดาไม่ได้จึงปรากฏขึ้นไม่ขาดสาย
แต่ถ้าเขตแดนโลหิตถูกกางออกสำเร็จแต่แรก ทุกอย่างจะไม่เป็นแบบนี้ ยังคงเหลือระยะหน่วงอีกราวสามนาที กว่าเอลฟิน-สโตนจะกางเขตแดนโลหิตได้ใหม่อีกครั้ง การตกที่นั่งลำบากในหนนี้ เป็นเพราะมันประมาทจนพลาดการใช้ทักษะสำคัญในครั้งแรกไป
"ฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน!"
วันนี้จะไม่เหมือนเมื่อวานอีกแล้ว มันจะไม่ยอมรับการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น เอลฟิน-สโตนใช้เลือดที่ไหลออกจากหน้าอกเป็นสื่อกลาง แรงระเบิดอันทรงพลังได้ปะทะกับใบหน้าของกริดอย่างจัง ส่งให้กริดกระเด็นถอยหลังออกมาหลายก้าว
หลังจากนั้นมันก็ตะโกนขึ้น
"ยารุกต์!"
กรี๊~~!
ดาบยาวสีแดงสดปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับผลของทักษะ<โลหิตกรีดร้อง> สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนพลันเสียหลักทันที...
'จังหวะนี้แหละ!'
กริดจะต้องได้รับผลจากโลหิตกรีดร้องแน่นอน เอลฟิน-สโตนแสยะยิ้มพร้อมกับเหวี่ยงยารุกต์ในมือ เกิดเป็นแสงกะกาบาทสีแดงขึ้นบนร่างของกริด...
เคร้ง! เคร้ง!
"ได้ยังไง?"
เอลฟิน-สโตนไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า เหตุใดกริดถึงใช้ดาบปัดป้องไว้ได้?
"แกเป็นใครกันแน่?"
ชายคนนี้ไม่ถูกสะกดข่มจากตัวตนของมัน แถมยังไม่ได้รับผลของโลหิตกรีดร้องจากยารุกต์ด้วยงั้นหรือ? หมอนี่ยังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า? เมื่อได้เห็นสีหน้าอันหวาดผวาของเอลฟิน-สโตน กริดก็แสยะยิ้มพร้อมตอบกลับไปว่า
"แกคิดว่าใครจะเป็นฝ่ายล่าใครกันล่ะ?"
ชายหนุ่มกล่าวอย่างเย้ยหยัน ดวงตาจดจ้องไปยังเอลฟิน-สโตนอย่างไม่สั่นคลอน
'อะ--!'
ในขณะที่เอลฟิน-สโตนง้างดาบเตรียมฟัน มันช้าไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว
"ทนอยู่อย่างเจ็บปวด!"
ฉึก! ฉึกฉึกฉึกฉึก!
มีดสีเงินของเฟคเกอร์กระหน่ำทิ่มแทงลำคอของเอลฟิน-สโตนอย่างรุนแรง ทักษะ<ทนอยู่อย่างเจ็บปวด>ของเฟคเกอร์ จะยิ่งสร้างความเสียหายรุนแรงขึ้นเมื่อศัตรูถูกแทงในจุดเดิม เมื่อวานเฟคเกอร์สามารถใช้ได้เพียงสามครั้ง แต่วันนี้ เขาแทงมันออกไปได้มากถึงเจ็ด! เป็นเพราะกริดดึงความสนใจของเอลฟิน-สโตนไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
"อั่ก...! ไอ้หนูสกปรก!"
พลังชีวิตของเอลฟิน-สโตนลดลงหลายส่วน มันรีบใช้ยารุกต์ในมือเหวี่ยงเข้าใส่เฟคเกอร์ เอลฟิน-สโตนต้องเปลี่ยนเป้าหมายเพราะเฟคเกอร์ใช้<ทนอยู่อย่างเจ็บปวด>ใส่มัน หากเป็นดันเจี้ยนล่าบอสปรกติ การดึงความสนใจไปหาตนเช่นนี้ คือสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับปาร์ตี้นี้แล้วต่างออกไป กริดควรเป็นคนสร้างความเสียหายหลักมากกว่าตัวแทงค์
"วิชาดาบแพ็กม่า ทำลายล้าง!"
ฉั่วะ!
ทำลายล้างถูกใช้ใส่เป้าหมายอย่างแม่นยำ เอลฟิน-สโตนต้องจ่ายค่าโง่ราคาแพงที่บังอาจเมินกริด
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 210,900 หน่วย ]
'ตื้นเกินไป'
สีหน้าของกริดพลันมืดมน เขารู้สึกเสียดายที่<โจมตีห้าเท่า>ไม่แสดงผลเลยสักครั้งเดียว พลังชีวิจของเอลฟิน-สโตนตอนนี้ยังเหลือมากถึง 80% แม้จะถูกโจมตีด้วยทักษะใหญ่อย่างกลืนโลหิตขั้นสูงสุด สังหาร ทนอยู่อย่างเจ็บปวด และทำลายล้างแล้วก็ตาม
พลังชีวิตและพลังป้องกันของเอลฟิน-สโตนสมกับเป็นบอสพิเศษอย่างแท้จริง
'โชคไม่เข้าข้างเลยแฮะ'
หากในตอนที่ใช้<สังหาร> ถ้าเกิดโจมตีห้าเท่าติดขึ้นมาบ้าง ผลคงไม่ออกมาเป็นแบบนี้ ดูเหมือนวันนี้จะอับโชคเป็นพิเศษ
'ช่างเถอะ ไม่ต้องกังวลไป'
กริดแสยะยิ้ม เขารู้ดีกว่า ยังมีพวกพ้องคอยกลบจุดอ่อนในด้านความดวงซวยให้อยู่
"ชูร่าประทับร่าง!"
เรกัสโผล่มาปรากฏตัวที่ด้านข้างของเอลฟิน-สโตนพร้อมกับกระหน่ำโจมตีด้วยหมัดสายฟ้า ด้วยพลังทำลายอันทรงพลัง แม้แต่กริดเองก็ยังอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
เปรี้ยง! ผัวะ! ผลั่ก!
หมัดของเรกัสส่องประกายวิบวับจนเกิดภาพติดตา หลังจากเขากลายเป็นคลาสอาชูร่า พลังของ<สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า>ก็แสดงผลได้เต็มที่ยิ่งขึ้น
[ หกคอมโบ! ]
[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 5,000 หน่วย ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติมทางกายภาพ ]
เปรี้ยง!
[ เจ็ดคอมโบ! ]
[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 8,000 หน่วย ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติมธาตุสายฟ้า ]
ผัวะ!
[ แปดคอมโบ! ]
[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 12,000 หน่วย ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติมทั้งทางกายภาพและธาตุสายฟ้า ]
เปรี้ยะ! เปรี้ยง!
[ สิบคอมโบ! ]
[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 20,000 หน่วย ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล อัญเชิญราชรถสายฟ้าเพื่อสร้างฟ้าผ่าใส่ศัตรูสามครั้ง ]
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
[ 12 คอมโบ! ]
[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 30,000 หน่วย ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล สร้างความเสียหายทางกายภาพเท่าเท่ากับเปอร์เซ็นต์เลือดสูงสุดของเป้าหมาย ]
"อ๊ากกก! อั่ก!"
เอลฟิน-สโตนถึงกับร้องครางอย่างเจ็บปวด เรกัสได้รีดเร้นพลังอาชูร่าออกมาถึงขีดสุด แม้แต่เอลฟิน-สโตนก็ไม่อาจทนไหว แต่ข้อเสียก็คือ <ชูร่าประทับร่าง>จะมีระยะเวลาแสดงผลที่สั้น แถมผลข้างเคียงที่ตามมาก็ร้ายแรงมาก
คอมโบของเรกัสดำเนินมาถึงสุดท้าย
"เอานี่ไปกิน!"
เปรี้ยงงง!
[ 15 คอมโบ! ]
[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 100,000 หน่วย พลังป้องกันของเป้าหมายจะลดลง 50% เป็นเวลาห้านาที ]
[ ทักษะ <หอกอัสนี> แสดงผล ]
ครืนนนน... เปรี้ยงง!
ฉึก!!
"อ๊ากกก!"
ตลอดชั่วชีวิตของเอลฟิน-สโตน การกรีดร้องกว่า 90% เกิดขึ้นในวันนี้ มันถูกหอกอัสนีพุ่งลงมาจากฟากฟ้าและเสียบเข้าจนต้องทรุดลงไปคุกเข่า หอกอัสนี สุดยอดไม้ตายของอาชูร่าที่จะสะกดศัตรูเป็นเวลา 1.5 วินาทีโดยไม่มีเงื่อนไข
"แฮ่ก… สานต่อฉันด้วย..."
ตุ้บ!
เรกัสเองก็ทรุดลงไปเช่นกัน ค่าเรี่ยวแรงเกือบทั้งหมดถูกใช้ไปในพริบตา แถมจะไม่สามารถขยับตัวได้สามวินาที เวลาแบบนี้คงต้องปล่อยให้เพื่อนแสดงฝีมือ
"หอกคลื่นเสียง!"
"ชักดาบ… ประหาร!"
"ศรฟินิกซ์!"
"วายุทมิฬ!”
ทักษะไพ่ตายของแต่ละคนถูกปล่อยออกมา เอลฟิน-สโตนพยายามกลายเป็นควันเพื่อหนี แต่หอกไลฟาเอลคือปัญหาหลัก มันจึงต้องรับการโจมตีทั้งหมดอย่างเลี่ยงไม่ได้
"เยี่ยม!"
กริดยิ้มอย่างพึ่งพอใจพร้อมกับเริ่มรำดาบ ต้องขอบคุณสมาชิกปาร์ตี้ทุกคน พลังชีวิตของเอลฟิน-สโตนจึงลดลงเหลือแค่ 45% แล้ว กริดหวังจะใช้<ร่ายรำสังหาร>เพื่อปิดบัญชี แต่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้
"พวกแก...! กล้าดียังไง!!"
มีบอสบางตัวที่จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อพลังชีวิตลดต่ำลง เอลฟิน-สโตนคือหนึ่งในนั้น
ซู่วววว!
พลังเวทย์ของเอลฟิน-สโตนแผ่ขยายออกไปปกคลุมพื้นที่ เขตแดนโลหิต ทักษะที่กริดเคยสกัดกั้นสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง ยามนี้กลับถูกใช้ออกมาได้ทันทีด้วยเงื่อนไขพลังชีวิตที่เหลือน้อยของมัน
[ พลังที่แท้จริงของแวมไพร์เอิร์ล เอลฟิน-สโตน ได้ลืมตาตื่นขึ้น ค่าสถานะของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทักษะการฟื้นฟูพลังชีวิตจะเพิ่มขึ้น 300% ]
[ เลือดในกายของท่านได้รับอิทธิพลจากเขตแดนโลหิต ]
[ พลังชีวิตจำนวน 153 หน่วยจะถูกถ่ายโอนไปให้เอลฟิน-สโตนทุกวินาที ]
[ การรักษาทั้งหมดจะลดประสิทธิภาพลง 80% ]
สมาชิกโอเวอร์เกียร์พลันหน้าถอดสีกับข้อความระบบที่แสดงขึ้นตรงหน้า
"ฉันจะกลืนกินพวกแกทุกคน!"
เอลฟิน-สโตนลุกยืนขึ้นพร้อมกับประกาศกร้าว ดวงตาสีแดงของมันถูกย้อมจนเป็นสีดำสนิท แรงกดดันมหาศาลแผ่ออกไปทั่วบริเวณ
"...พวกเราจะทำยังไงกันดี?"
ทุกคนต่างพากันสิ้นหวัง เอลฟิน-สโตนในร่างที่ค่าสถานะเพิ่มขึ้นและมีเขตแดนโลหิตเช่นนี้ พวกเขามองไม่เห็นถึงวิธีการเอาชนะได้เลย...
"พวกนายไม่รู้รึไง… ว่าฉันเองก็มีทักษะลับเหมือนกัน!"
คำพูดของกริดได้ทำให้ทุกสายตาจ้องมองมาเป็นตาเดียว
'ทักษะลับ?'
ใบหน้าของเอลฟิน-สโตนเกิดการกระตุกเล็กน้อย
'สมกับเป็นก็อดกริด!'
'เขาเก็บไพ่ตายไว้สินะ!'
สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันโล่งใจ ในขณะที่ทุกคนกำลังมุ่งความสนใจมาที่กริด ชายหนุ่มก็ตะโกนขึ้นเสียงดังฟังชัด
"ผะ--สาน--ไอ--เท็ม!!"
"...?"
อนิเมชั่นการผสานไอเท็มจะดูเท่ห์เหมือนกับหนังหุ่นยนต์แปลงร่างที่โด่งดังในสมัยคุณปู่รึเปล่านะ?
เปล่า… ไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด...
เคร้ง! เคร้ง!
กริดหยิบค้อนและทั่งตีเหล็กออกมาพร้อมกับนั่งยองๆ ลงบนพื้น เขาเริ่มทุบค้อนต่อหน้าทุกคน… ด้วยความสัตย์จริง ภาพตรงหน้าช่างเป็นการกระทำที่ดูงี่เง่าเหนือคำบรรยาย
"เจ้านี่คงกลัวจนสติแตกไปแล้วสินะ..."
เอลฟิน-สโตนที่เคยตึงเครียด ยามนี้มันกลับเย้ยหยันกริดสุดขีด ชาวโอเวอร์เกียร์ทุกคนพลันกระอักกระอ่วนใจทันที
ฮ่าฮ่าฮ่า
ReplyDelete55555555 กริดยิบค้อนและทั่งตีเหล็กออกมาพร้อมนั่งยอง ๆ ลงบนพื้น👉ขำชิบหาย
ReplyDeleteผะ สาน ไอ เท็มมม !!! เคร้งๆๆ = ="
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณคับ
ReplyDeleteมุกนี้ได้ 5555
ReplyDeleteเกือบจะเท่ละ
ReplyDelete5555 ไอ้เราก็คิดใว้ว่ามันจะเอาดาบกับหอกมาประกบกันแล้วก็เสร็จ
ReplyDeleteช็อดนี้เอาไปเลย10เต็ม ฮ่าได้อีก555
ReplyDeleteช็อตระดับตำนาน 555+
ReplyDelete