จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 298



       'เป็นฝีมือของมนุษย์จริงหรือ?'

       เอลฟิน-สโตนมีชีวิตอยู่มานานกว่า 350 ปี  มันเคยพบพานมนุษย์มานับไม่ถ้วน  ในบรรดาคนเหล่านั้น  มีบางส่วนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ  บางส่วนถูกเรียกว่านักรบ  แต่ทั้งหมดล้วนด้อยกว่ามัน  ในสายตาเอลฟิน-สโตน  มนุษย์เป็นอะไรไม่ได้นอกจากเหยื่อ

       แต่ความคิดดังกล่าวก็ถูกสั่นคลอนเข้าแล้วในวินาทีนี้  กลืนโลหิตขั้นสูงสุดที่ยากจะมองด้วยตาเปล่าเห็น  กลับถูกมนุษย์คนนี้สะท้อนกลับมาได้ด้วยดาบงั้นหรือ?  ช่างน่าสนใจยิ่งนัก  ชายคนนี้ไม่ได้เป็นรองมันเลยสักนิด

       ใบหน้าเอลฟิน-สโตนพลันกระตุกเล็กน้อย

       'เหมือนที่บราฮัมเคยพูดไว้สินะ...'

       บราฮัม  ชายคนแรกที่ทำให้เอลฟิน-สโตนโกรธเกรี้ยว  ชายคนแรกที่มอบความเจ็บปวดให้มัน  บราฮัมกระทำผิดร้ายแรงหลายเรื่อง  จนในที่สุดก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูล

[ พวกเจ้าไม่เข้าใจถึงความอยากรู้อยากเห็นของฉันจนถึงที่สุดเลยสินะ?  พี่น้องเอ๋ย… พวกเจ้าแย่ยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก  เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่พวกเจ้าดูแคลนนั้นหาได้เกียจร้านแบบพวกเรา  มนุษย์พัฒนาตนเองและทำงานหนักตลอดเวลา  และสักวันหนึ่ง  เผ่าพันธุ์ที่สามารถต่อกรกับเราจะถือกำเนิดขึ้น  และเผ่าพันธุ์นั้นคือมนุษย์ ]       

       'เจ้าบ้านั่น...!'

       บราฮัม-เฮชวาล  ชายผู้ที่ศึกษาทดลองเวทย์มนต์ของทั้งมนุษย์และแวมไพร์  ในระหว่างการทดลอง  มีแวมไพร์หลายตนที่ต้องเสียชีวิตไป  บางส่วนเป็นญาติของเอลฟิน-สโตน  และมีคนหนึ่งที่คนรักของมัน...  เลอาห์

       "หึ… หึหึ..."

       ตลอดร้อยปีที่ผ่านมา  เอลฟิน-สโตนพยายามอย่างหนักไม่รู้ตั้งเท่าไร  เพื่อจะให้ลืมความบัดซบของบราฮัม  เอลฟิน-สโตนออกล่ามนุษย์จำนวนมากและหลับให้นานขึ้นกว่าเดิม  จนในที่สุด  ความแค้นภายในใจก็เริ่มสลายไป  แต่การได้พบพานมนุษย์คนนี้  กลับทำให้ความทรงจำอันเลวร้ายตื่นขึ้นอีกครั้ง

       'ทำเอานึกถึงใบหน้าที่น่ารังเกียจของไอ้บัดซบบราฮัมเลยแฮะ...'

       มันไม่อาจยกโทษให้บราฮัมได้  ดวงตาของเอลฟิน-สโตนพลันลุกวาวอย่างอาฆาตแค้นในยามที่จับจ้องกริด

       "แกไม่ธรรมดาก็จริง  แต่มนุษย์ย่อมเป็นมนุษย์!  แกคือเหยื่อของฉัน!"

       ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!

       เอลฟิน-สโตนเปลี่ยนเลือดที่ไหลรินจากบาดแผลของตนให้กลายเป็นก้อนกลม  ก้อนเลือดดังกล่าวกระหน่ำโจมตีใส่กริดจนเกิดระเบิดรุนแรง  มันได้สำแดงสุดยอดพลังของเวทย์ระเบิดโลหิต  ที่เหนือกว่าหนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทวีปอย่างเอิร์ลอัชเชอร์

       'เราหลบไม่พ้นแน่'

       ระยะการระเบิดกินวงกว้างเกินไป  กริดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากป้องกัน  แต่เขาก็ยังลังเลใจว่า  เพียงแค่โล่เทวะจะทนรับแรงระเบิดเหล่านี้ได้จริงหรือ?  ในขณะที่กริดกำลังจะควักโล่ออกมา  

       "ฉันจะปกป้องหัวหน้าเอง!"

       แวนเนอร์เอาตัวมาโอบกริดไว้พร้อมกับใช้<โล่นับพัน>ขวางระเบิดโลหิต  โล่นับพันคือทักษะที่จะช่วยลดความเสียหายทางเวทย์มนต์ได้มหาศาล  ส่งผลให้ระเบิดโลหิตเบาลงไปหลายส่วน

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!

       "อ๊ากกก!  เจ็บโว้ยยย!"

       แม้กระทั่งโล่นับพันก็ยังไม่อาจดูดซับแรงระเบิดได้หมด  บาเรียพังทลาย  แวนเนอร์ได้รับบาดเจ็บรุนแรง  เศษระเบิดโลหิตที่เป็นมลพิษได้กระจายออกมาสร้างความเสียหาย  กริดยกนิ้วโป้งให้ในขณะที่ตนถูกแวนเนอร์โอบอยู่

       "ขอบคุณมาก  ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบอยู่ในอ้อมอกผู้ชายสักเท่าไรก็เถอะ"

       "ฮ่าฮ่า!  ฉันก็ไม่ได้ทำเพราะชอบหรอกนะ!  เอาล่ะ  นายลุยต่อเลย"

       แวนเนอร์โพล่งขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะ  กริดเวอร์ชั่นใหม่พลันพุ่งตัวเข้าใส่เอลฟิน-สโตนอย่างดุดัน

       "แกนะแก!"

       เมื่อเห็นกริดสบายดี  เอลฟิน-สโตนจึงกระหน่ำฝูงศรโลหิตเข้าใส่อย่างโกรธเกรี้ยว  ศรโลหิตคือเวทย์มนต์โจมตีชนิดนำวิถี  พวกมันพยายามขัดขวางกริดไม่ให้พุ่งเข้าใส่

       'ปัดป้องได้ไม่หมดแน่'

       ศรโลหิตทั้งรวดเร็วและล็อคเป้าหมาย  การหลบหลีกหรือปะทะโดยตรงทำไม่ได้แน่  และแค่การปัดป้องจากหอกไลฟาเอลก็ยังไม่เพียงพอ

       'ช่วยไม่ได้แฮะ'

       กริดเริ่มรำดาบอีกครั้ง  เขาหวังจะใช้วิชาดาบแพ็กม่า<คลื่น>  เพื่อสลายศรโลหิตทั้งหมด  แต่ทันใดนั้นเอง  ศรเพลิงนับสิบดอกก็พุ่งผ่านแผ่นหลังของเขาเข้าไปด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึง

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

       เป็นภาพที่ยากจะทำใจเชื่อลง  ศรเพลิงทุกดอกสามารถยิงระเบิดหักล้างกับศรโลหิตได้อย่างแม่นยำ  ในซาทิสฟาย  ผู้เล่นคนเดียวในโลกที่สามารถทำแบบนี้ได้...

       เทพีแห่งคันศร  จิสึกะ

       "ฉันจะยิงสนับสนุนให้เอง"

       จิสึกะขยิบตาให้หนึ่งข้างด้วยท่วงท่าอันเซ็กซี่  หัวใจของกริดพลันเต้นระรัว  ความฮึกเหิมได้ส่งให้เขาพุ่งทะยานเข้าประชิดตัวเอลฟิน-สโตน  หลังจากนั้น  กริดก็กู่ร้องออกมาเสียงดังฟังชัด

       "สังหาร!"

       ซู่วววววววว!

       'สิ่งนี้มัน...?'

       ดาบใหญ่สองเล่มกำลังอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารอันรุนแรงที่มันไม่เคยพบเจอ  ภาพลักษณ์ของกริดในตอนนี้  ต่างจากเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง  เอลฟิน-สโตนพยายามใช้เวทย์บินเพื่อหนีขึ้นไปด้านบน  แต่จู่ๆ กลับถูกสลายลมปริศนากดไหล่ทั้งสองข้างไว้

       นี่คือผลจากเวทย์มนต์<พายุนิรันดร์>ของเซ็ดนอส  เดิมที  เวทย์ชนิดนี้จะตรึงความเคลื่อนไหวทั้งหมดของศัตรู  แต่เอลฟิน-สโตนเป็นถึงบอสใหญ่  ผลจึงแสดงแค่บางส่วน  ถึงกระนั้นก็เพียงพอสำหรับกริดแล้ว       

       เป็นอีกครั้งที่เขาได้รู้ว่า  ยามนี้ไม่ได้ต่อสู้อยู่ตัวคนเดียว  ใช่แล้ว  พวกพ้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน  ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครไร้ประโยชน์

       'ตอนนี้แหละ… ฉัน...!'

       กริดแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

       เปรี้ยงงงงง!!

       "อ--อ๊ากกกกกกก!"

       ดาบใหญ่สองเล่มเสียบเข้าหน้าอกเอลฟิน-สโตนอย่างจัง  มากพอจะส่งให้มันร้องอย่างเจ็บปวดทรมาณ  แค่กริดคนเดียว  เอลฟิน-สโตนก็ตึงมือจะแย่แล้ว  ยิ่งมีการสนับสนุนจากพวกพ้อง  ปัจจัยที่คาดเดาไม่ได้จึงปรากฏขึ้นไม่ขาดสาย

       แต่ถ้าเขตแดนโลหิตถูกกางออกสำเร็จแต่แรก  ทุกอย่างจะไม่เป็นแบบนี้  ยังคงเหลือระยะหน่วงอีกราวสามนาที  กว่าเอลฟิน-สโตนจะกางเขตแดนโลหิตได้ใหม่อีกครั้ง  การตกที่นั่งลำบากในหนนี้  เป็นเพราะมันประมาทจนพลาดการใช้ทักษะสำคัญในครั้งแรกไป

       "ฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน!"

       วันนี้จะไม่เหมือนเมื่อวานอีกแล้ว  มันจะไม่ยอมรับการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น  เอลฟิน-สโตนใช้เลือดที่ไหลออกจากหน้าอกเป็นสื่อกลาง  แรงระเบิดอันทรงพลังได้ปะทะกับใบหน้าของกริดอย่างจัง  ส่งให้กริดกระเด็นถอยหลังออกมาหลายก้าว

       หลังจากนั้นมันก็ตะโกนขึ้น

       "ยารุกต์!"

       กรี๊~~!

       ดาบยาวสีแดงสดปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับผลของทักษะ<โลหิตกรีดร้อง>  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนพลันเสียหลักทันที...

       'จังหวะนี้แหละ!'

       กริดจะต้องได้รับผลจากโลหิตกรีดร้องแน่นอน  เอลฟิน-สโตนแสยะยิ้มพร้อมกับเหวี่ยงยารุกต์ในมือ  เกิดเป็นแสงกะกาบาทสีแดงขึ้นบนร่างของกริด...

       เคร้ง! เคร้ง!

       "ได้ยังไง?"

       เอลฟิน-สโตนไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า  เหตุใดกริดถึงใช้ดาบปัดป้องไว้ได้?

       "แกเป็นใครกันแน่?"

       ชายคนนี้ไม่ถูกสะกดข่มจากตัวตนของมัน  แถมยังไม่ได้รับผลของโลหิตกรีดร้องจากยารุกต์ด้วยงั้นหรือ?  หมอนี่ยังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า?  เมื่อได้เห็นสีหน้าอันหวาดผวาของเอลฟิน-สโตน  กริดก็แสยะยิ้มพร้อมตอบกลับไปว่า

       "แกคิดว่าใครจะเป็นฝ่ายล่าใครกันล่ะ?"

       ชายหนุ่มกล่าวอย่างเย้ยหยัน  ดวงตาจดจ้องไปยังเอลฟิน-สโตนอย่างไม่สั่นคลอน

       'อะ--!'

       ในขณะที่เอลฟิน-สโตนง้างดาบเตรียมฟัน  มันช้าไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว

       "ทนอยู่อย่างเจ็บปวด!"

       ฉึก!  ฉึกฉึกฉึกฉึก!

       มีดสีเงินของเฟคเกอร์กระหน่ำทิ่มแทงลำคอของเอลฟิน-สโตนอย่างรุนแรง  ทักษะ<ทนอยู่อย่างเจ็บปวด>ของเฟคเกอร์  จะยิ่งสร้างความเสียหายรุนแรงขึ้นเมื่อศัตรูถูกแทงในจุดเดิม  เมื่อวานเฟคเกอร์สามารถใช้ได้เพียงสามครั้ง  แต่วันนี้  เขาแทงมันออกไปได้มากถึงเจ็ด!  เป็นเพราะกริดดึงความสนใจของเอลฟิน-สโตนไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

       "อั่ก...!  ไอ้หนูสกปรก!"

       พลังชีวิตของเอลฟิน-สโตนลดลงหลายส่วน  มันรีบใช้ยารุกต์ในมือเหวี่ยงเข้าใส่เฟคเกอร์  เอลฟิน-สโตนต้องเปลี่ยนเป้าหมายเพราะเฟคเกอร์ใช้<ทนอยู่อย่างเจ็บปวด>ใส่มัน  หากเป็นดันเจี้ยนล่าบอสปรกติ  การดึงความสนใจไปหาตนเช่นนี้  คือสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง  แต่สำหรับปาร์ตี้นี้แล้วต่างออกไป  กริดควรเป็นคนสร้างความเสียหายหลักมากกว่าตัวแทงค์

       "วิชาดาบแพ็กม่า  ทำลายล้าง!"

       ฉั่วะ!

       ทำลายล้างถูกใช้ใส่เป้าหมายอย่างแม่นยำ  เอลฟิน-สโตนต้องจ่ายค่าโง่ราคาแพงที่บังอาจเมินกริด

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 210,900 หน่วย ]

       'ตื้นเกินไป'

       สีหน้าของกริดพลันมืดมน  เขารู้สึกเสียดายที่<โจมตีห้าเท่า>ไม่แสดงผลเลยสักครั้งเดียว  พลังชีวิจของเอลฟิน-สโตนตอนนี้ยังเหลือมากถึง 80%  แม้จะถูกโจมตีด้วยทักษะใหญ่อย่างกลืนโลหิตขั้นสูงสุด  สังหาร  ทนอยู่อย่างเจ็บปวด  และทำลายล้างแล้วก็ตาม

       พลังชีวิตและพลังป้องกันของเอลฟิน-สโตนสมกับเป็นบอสพิเศษอย่างแท้จริง

       'โชคไม่เข้าข้างเลยแฮะ'

       หากในตอนที่ใช้<สังหาร>  ถ้าเกิดโจมตีห้าเท่าติดขึ้นมาบ้าง  ผลคงไม่ออกมาเป็นแบบนี้  ดูเหมือนวันนี้จะอับโชคเป็นพิเศษ

       'ช่างเถอะ  ไม่ต้องกังวลไป'

       กริดแสยะยิ้ม  เขารู้ดีกว่า  ยังมีพวกพ้องคอยกลบจุดอ่อนในด้านความดวงซวยให้อยู่

       "ชูร่าประทับร่าง!"

       เรกัสโผล่มาปรากฏตัวที่ด้านข้างของเอลฟิน-สโตนพร้อมกับกระหน่ำโจมตีด้วยหมัดสายฟ้า  ด้วยพลังทำลายอันทรงพลัง  แม้แต่กริดเองก็ยังอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

       เปรี้ยง!  ผัวะ!  ผลั่ก!

       หมัดของเรกัสส่องประกายวิบวับจนเกิดภาพติดตา  หลังจากเขากลายเป็นคลาสอาชูร่า  พลังของ<สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า>ก็แสดงผลได้เต็มที่ยิ่งขึ้น

[ หกคอมโบ! ]

[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 5,000 หน่วย ]

[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติมทางกายภาพ ]

       เปรี้ยง!

[ เจ็ดคอมโบ! ]

[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 8,000 หน่วย ]

[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติมธาตุสายฟ้า ]

       ผัวะ!

[ แปดคอมโบ! ]

[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 12,000 หน่วย ] 

[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติมทั้งทางกายภาพและธาตุสายฟ้า ]

       เปรี้ยะ! เปรี้ยง!

[ สิบคอมโบ! ]

[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 20,000 หน่วย ]

[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  อัญเชิญราชรถสายฟ้าเพื่อสร้างฟ้าผ่าใส่ศัตรูสามครั้ง  ]

       เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

[ 12 คอมโบ! ]

[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 30,000 หน่วย ]

[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  สร้างความเสียหายทางกายภาพเท่าเท่ากับเปอร์เซ็นต์เลือดสูงสุดของเป้าหมาย  ]

       "อ๊ากกก!  อั่ก!"

       เอลฟิน-สโตนถึงกับร้องครางอย่างเจ็บปวด  เรกัสได้รีดเร้นพลังอาชูร่าออกมาถึงขีดสุด  แม้แต่เอลฟิน-สโตนก็ไม่อาจทนไหว  แต่ข้อเสียก็คือ  <ชูร่าประทับร่าง>จะมีระยะเวลาแสดงผลที่สั้น  แถมผลข้างเคียงที่ตามมาก็ร้ายแรงมาก

       คอมโบของเรกัสดำเนินมาถึงสุดท้าย

       "เอานี่ไปกิน!"

       เปรี้ยงงง!

[ 15 คอมโบ! ]

[ เอฟเฟคของคลาสอาชูร่าแสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 100,000 หน่วย  พลังป้องกันของเป้าหมายจะลดลง 50% เป็นเวลาห้านาที ]

[ ทักษะ <หอกอัสนี> แสดงผล ]

       ครืนนนน...  เปรี้ยงง!

       ฉึก!!

       "อ๊ากกก!"

       ตลอดชั่วชีวิตของเอลฟิน-สโตน  การกรีดร้องกว่า 90% เกิดขึ้นในวันนี้  มันถูกหอกอัสนีพุ่งลงมาจากฟากฟ้าและเสียบเข้าจนต้องทรุดลงไปคุกเข่า  หอกอัสนี  สุดยอดไม้ตายของอาชูร่าที่จะสะกดศัตรูเป็นเวลา 1.5 วินาทีโดยไม่มีเงื่อนไข

       "แฮ่ก… สานต่อฉันด้วย..."

       ตุ้บ!

       เรกัสเองก็ทรุดลงไปเช่นกัน  ค่าเรี่ยวแรงเกือบทั้งหมดถูกใช้ไปในพริบตา  แถมจะไม่สามารถขยับตัวได้สามวินาที  เวลาแบบนี้คงต้องปล่อยให้เพื่อนแสดงฝีมือ

       "หอกคลื่นเสียง!"

       "ชักดาบ… ประหาร!"

       "ศรฟินิกซ์!"

       "วายุทมิฬ!”

       ทักษะไพ่ตายของแต่ละคนถูกปล่อยออกมา  เอลฟิน-สโตนพยายามกลายเป็นควันเพื่อหนี  แต่หอกไลฟาเอลคือปัญหาหลัก  มันจึงต้องรับการโจมตีทั้งหมดอย่างเลี่ยงไม่ได้

       "เยี่ยม!"

       กริดยิ้มอย่างพึ่งพอใจพร้อมกับเริ่มรำดาบ  ต้องขอบคุณสมาชิกปาร์ตี้ทุกคน  พลังชีวิตของเอลฟิน-สโตนจึงลดลงเหลือแค่ 45% แล้ว  กริดหวังจะใช้<ร่ายรำสังหาร>เพื่อปิดบัญชี  แต่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้

       "พวกแก...!  กล้าดียังไง!!"

       มีบอสบางตัวที่จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อพลังชีวิตลดต่ำลง  เอลฟิน-สโตนคือหนึ่งในนั้น

       ซู่วววว!

       พลังเวทย์ของเอลฟิน-สโตนแผ่ขยายออกไปปกคลุมพื้นที่  เขตแดนโลหิต  ทักษะที่กริดเคยสกัดกั้นสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง  ยามนี้กลับถูกใช้ออกมาได้ทันทีด้วยเงื่อนไขพลังชีวิตที่เหลือน้อยของมัน

[ พลังที่แท้จริงของแวมไพร์เอิร์ล  เอลฟิน-สโตน  ได้ลืมตาตื่นขึ้น  ค่าสถานะของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก  ทักษะการฟื้นฟูพลังชีวิตจะเพิ่มขึ้น 300% ]

[ เลือดในกายของท่านได้รับอิทธิพลจากเขตแดนโลหิต ]

[ พลังชีวิตจำนวน 153 หน่วยจะถูกถ่ายโอนไปให้เอลฟิน-สโตนทุกวินาที ]

[ การรักษาทั้งหมดจะลดประสิทธิภาพลง 80% ]

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์พลันหน้าถอดสีกับข้อความระบบที่แสดงขึ้นตรงหน้า

       "ฉันจะกลืนกินพวกแกทุกคน!"

       เอลฟิน-สโตนลุกยืนขึ้นพร้อมกับประกาศกร้าว  ดวงตาสีแดงของมันถูกย้อมจนเป็นสีดำสนิท  แรงกดดันมหาศาลแผ่ออกไปทั่วบริเวณ

       "...พวกเราจะทำยังไงกันดี?"

       ทุกคนต่างพากันสิ้นหวัง  เอลฟิน-สโตนในร่างที่ค่าสถานะเพิ่มขึ้นและมีเขตแดนโลหิตเช่นนี้  พวกเขามองไม่เห็นถึงวิธีการเอาชนะได้เลย...

       "พวกนายไม่รู้รึไง… ว่าฉันเองก็มีทักษะลับเหมือนกัน!"

       คำพูดของกริดได้ทำให้ทุกสายตาจ้องมองมาเป็นตาเดียว

       'ทักษะลับ?'

       ใบหน้าของเอลฟิน-สโตนเกิดการกระตุกเล็กน้อย

       'สมกับเป็นก็อดกริด!'

       'เขาเก็บไพ่ตายไว้สินะ!'

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันโล่งใจ  ในขณะที่ทุกคนกำลังมุ่งความสนใจมาที่กริด  ชายหนุ่มก็ตะโกนขึ้นเสียงดังฟังชัด

       "ผะ--สาน--ไอ--เท็ม!!"

       "...?"

       อนิเมชั่นการผสานไอเท็มจะดูเท่ห์เหมือนกับหนังหุ่นยนต์แปลงร่างที่โด่งดังในสมัยคุณปู่รึเปล่านะ?  

       เปล่า… ไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด... 

       เคร้ง! เคร้ง!

       กริดหยิบค้อนและทั่งตีเหล็กออกมาพร้อมกับนั่งยองๆ ลงบนพื้น  เขาเริ่มทุบค้อนต่อหน้าทุกคน… ด้วยความสัตย์จริง  ภาพตรงหน้าช่างเป็นการกระทำที่ดูงี่เง่าเหนือคำบรรยาย 

       "เจ้านี่คงกลัวจนสติแตกไปแล้วสินะ..."

       เอลฟิน-สโตนที่เคยตึงเครียด  ยามนี้มันกลับเย้ยหยันกริดสุดขีด  ชาวโอเวอร์เกียร์ทุกคนพลันกระอักกระอ่วนใจทันที

Comments

  1. 55555555 กริดยิบค้อนและทั่งตีเหล็กออกมาพร้อมนั่งยอง ๆ ลงบนพื้น👉ขำชิบหาย

    ReplyDelete
  2. ผะ สาน ไอ เท็มมม !!! เคร้งๆๆ = ="

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. เกือบจะเท่ละ

    ReplyDelete
  5. 5555 ไอ้เราก็คิดใว้ว่ามันจะเอาดาบกับหอกมาประกบกันแล้วก็เสร็จ

    ReplyDelete
  6. ช็อดนี้เอาไปเลย10เต็ม ฮ่าได้อีก555

    ReplyDelete
  7. ช็อตระดับตำนาน 555+

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00