จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 303



       "แอ็กนัส...!"

       ผู้เล่นอันดับหกของโลกหลังจากยูร่าหายตัวไป  แรกเริ่มเดิมที  ผู้คนคิดว่าชายคนนี้มีคลาสลับเกรดอีปิก  แต่กลับกลายเป็นว่า  คลาสที่แท้จริงของแอ็กนัสคือประเภทเติบโตได้  แอ็กนัสไม่เคยปรากฏตัวออกสื่อ  แต่ถึงกระนั้น  บรรดาแร้งเกอร์หัวแถวของโลกต่างก็ล่วงรู้ถึงพลังที่แท้จริงของแอ็สนัส  พวกเขาปะทะกันบ่อยครั้งในจุดล่ามอนสเตอร์สำคัญ

       "นี่… เจ้าพวกโอเวอร์เกียร์อ่อนหัดทั้งหลาย"

       จิสึกะ  พีคซอร์ด  ป็อน  เรกัส  เฟคเกอร์  แวนเนอร์  และเซ็ดนอด  แม้จะกำลังเผชิญหน้าอยู่กับสุดยอดแร้งเกอร์ทั้งแปดคนนี้  แต่แอ็กนัสก็หาได้สั่นกลัวเลยสักนิด
       
       "ฉันตามล่าลิชตัวนี้มานานกว่า 11 เดือนแล้ว  ดังนั้นอย่าได้มายุ่มย่ามกับเหยื่อของฉันเด็ดขาด...  ไม่งั้นพวกแกโดนเชือดแน่"
       
       "บัดซบ!"  แวนเนอร์ตะโกนด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
       "ถ้าแกไม่อยากตายก็อย่ามาเล่นตลกกับพวกเรา!"

       แอ็กนัสยักไหล่
       "ไอ้หัวล้านแวนเนอร์  แกนี่โง่เขลาสมคำร่ำลือเลยนะ"

       ใบหน้าแวนเนอร์พลันแดงก่ำ

       "ฉันไม่ได้โง่หรือหัวล้าน!  ฉันแค่โกนผม!  แล้วอีกอย่าง  นายมาทีหลังไม่ใช่รึไง?  พวกเราเห็นเจ้านี่ก่อนนะ!"

       "แล้วยังไง?  พวกแกคิดจะสู้กับลิชตัวนั้นจริงหรือ?"

       "ทำไมจะไม่ได้?"

       "ฮะฮ่าฮ่า!  แกนี่ตลกดีนะ  ว่าไหม?  สีหน้าของพวกแกดูเหน็ดเหนื่อย  คงเป็นเพราะเพิ่งเอาชนะผู้ปกครองเมืองนี้มาได้ไม่นาน  แต่มูมัดนั้น  ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่  มันได้เข้าใกล้กับคำว่าจอมเวทย์ในตำนานอย่างมาก  แถมตอนนี้  หมอนั่นก็ก้าวข้ามขีดจำกัดความตายไปแล้ว  จึงเก่งกาจขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า  ไม่ใช่สิ่งที่พวกกระจอกอย่างแกจะเอาชนะได้หรอกนะ"

       "แล้วไง?  แกคิดจะสู้กับมันคนเดียว-- อู้อี้! อู้อี้!"

       "ใจเย็นก่อน  พวกเราไม่ได้คิดจะล่าลิชตัวนั้น"

       จิสึกะใช้มืออุดปากแวนเนอร์พร้อมหันไปกล่าวกับแอ็กนัส
       
       "ลิชตนนั้น  เชิญนายเอาไปได้เลย  เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้  แต่ยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำภายในถ้ำแห่งนี้  ดังนั้น… พวกเราต่างคนต่างจัดการธุระของตัวเองดีไหม?"

       "คุกเข่าขอร้องสิ  แล้วฉันจะคิดดูอีกที"

       "ให้มันน้อยๆ หน่อยแอ็กนัส"

       "หึหึ… ก็ได้ ก็ได้  เข้าใจแล้ว"
       
       จิสึกะยอมอ่อนข้อให้กับแอ็กนัสอย่างน่าประหลาด  สถานการณ์ตรงหน้าค่อนข้างเป็นใจให้ชาวโอเวอร์เกียร์ไม่น้อย  ในขณะที่แอ็กนัสสู้กับลิช  พวกเขาก็สามารถค้นหาและนำพาเฟรเนี่ยมออกไปได้

       แวนเนอร์ไม่อาจยอมรับ

       { ทำไมถึงปล่อยไปง่ายๆ?  ทั้งที่มันเหยียดหยามพวกเราขนาดนี้เนี่ยนะ? }

       ในบรรดาสมาชิกปาร์ตี้  แวนเนอร์มีอันดับแร้งเกอร์ต่ำที่สุด  เขาจึงไม่เคยพบกับแอ็กนัสมาก่อน  แต่กับสมาชิกคนอื่น  มีบ่อยครั้งที่ได้ปะทะกับแอ็กนัสในจุดล่ามอนสเตอร์โดยบังเอิญ

       { พวกเราควรอยู่ห่างแอ็กนัสให้มาก }

       ฟ้าเหนือฟ้า  ครอเกล  ป็อนยอมรับให้ชายคนนี้แข็งแกร่งที่สุดในโลก  แต่นั่นหมายถึงการต่อสู้แบบดวลเดี่ยวหนึ่งต่อหนึ่ง  ทว่า… สำหรับแอ็กนัส  หมอนี่ควบคุมความตายได้ดั่งใจนึก  มันสามารถอัญเชิญกองทัพโครงกระดูกอันทรงพลังออกมาได้ในเวลาอันสั้น

       { มันคือคนที่พวกเราไม่ควรเป็นศัตรูด้วยเด็ดขาด! }

       แวนเนอร์ยังคงไม่เข้าใจ

       { พวกนายเอาแต่พูดว่ามันเก่งอย่างโน้นอย่างนี้  แต่ฉันก็ยังเชื่อไม่ลงอยู่ดี  พวกเราตั้งแปดคนจะเอาชนะมันไม่ได้เลยรึไง? }

       {  พวกเราไม่ได้หนี  แค่ต่างคนต่างอยู่ }

       { มันก็เหมือนกันนั่นแหละ!  บ้าจริง!  ฉันรู้สึกผิดต่อกริด!  การดูหมิ่นโอเวอร์เกียร์ไม่ต่างอะไรกับการดูหมิ่นกริด! }

       { ...พูดถึงกริด  หากกริดกับแอ็กนัสพบกัน  คงได้เกิดการต่อสู้แน่ }

       { พวกเขานิสัยเหมือนกัน  กริดกับแอ็กนัสไม่ควรพบกันโดยเด็ดขาด }

       { พวกเราต้องรีบหาพาเฟรเนี่ยมให้พบก่อนที่กริดจะมาถึง }

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์รีบแยกย้ายไปค้าหาพาเฟรเนี่ยมทั่วทั้งถ้ำ  แวนเนอร์เป็นเพียงคนเดียวที่ยังยืนจ้องมองแอ็กนัส  เขากำลังโมโหมาก  แต่สุดท้ายจำต้องเดินตามสมาชิกปาร์ตี้ไปอยู่ดี  แอ็กนัสชำเลืองสายตาไปมองพวกเขาพร้อมกับพึมพำ

       "อย่าเพิ่งรีบไปไหนไกลนักล่ะ...  ทันทีที่ได้ลิชมูมัดมา  ฉันอยากทดสอบพลังกับพวกแกสักหน่อย"
       
       บราฮัมโพล่งขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มกับน่าขนลุกของแอ็กนัส

[ ทำไมเหตุการณ์มันถึงกลับตาลปัดเช่นนี้?  แล้วแกเป็นใคร? ]

       "ฉันหรือ?"  สายตาของแอ็กนัสหันกลับมามองดวงวิญญานของบราฮัม
       "คนที่กำลังตามหาร่างเนื้อของแกยังไงล่ะ"

       ครืนนนนน!

       พื้นดินรอบตัวแอ็กนัสพลันเกิดรอยแยก  โครงกระดูกนักรบจำนวนนับร้อยโผล่ขึ้น  รวมไปถึงกลุ่มของอัศวินความตายและลิชอีกหนึ่งตน  ผู้เล่นคลาสหมอผีระดับสามสามารถอัญเชิญอัศวินความตายได้ก็จริง  แต่กับลิชนั้นอยู่คนละมิติ  ไม่ใช่สิ่งที่คลาสอย่างหมอผีจะอัญเชิญออกมาได้เลย

       แรกเริ่มเดิมที  ลิชทุกตนล้วนเคยมีอดีตเป็นมนุษย์  แม้กระทั่งสุดยอดจอมเวทย์อย่างบราฮัมก็ยังไม่อาจควบคุมลิชมูมัดได้ดั่งใจนึก  มันจำต้องพึ่งพาพลังและโลงศพของแวมไพร์  เมื่อบราฮัมเห็นลิชที่แอ็กนัสอัญเชิญออกมา  สีหน้าของมันพลันตกตะลึงสุดขีด

[ นี่แก...!  แกคือผู้ทำสัญญากับบาเอลสินะ! ]

       "อย่าได้เอ่ยชื่อของไอ้บัดซบนั่นออกมา"

       แอ็กนัสขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับวาดมือไปในอากาศ  ทันใดนั้น  บรรดาอัศวินความตายและนักรบกระดูกนับร้อยก็พุ่งโจมตีใส่ลิชมูมัด

       ฟู่ววววว!

       ลิชมูมัดยิงเวทย์ออกมาเป็นเส้นตรงยาวทะลุทะลวงทุกสิ่ง  กวาดให้นักรบโครงกระดูกแถวหน้ากลายเป็นผุยผงในพริบตา  พลังของมันช่างทรงอานุภาพราวกับเป็นลมหายใจมังกรดำเลยทีเดียว

       "โฮ่"  แอ็กนัสไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าไปเลย  แม้ต้องสูญเสียนักรบโครงกระดูกหลายสิบตัวไป  ตรงกันข้าม  มันกลับยินดีเสียอีก
       "แข็งแกร่งอย่างที่คิด"

       และในไม่ช้า  ลิชมูมัดก็จะกลายเป็นของมัน

       "วะฮ่าฮ่าฮ่า!"

       แอ็กนัสระเบิดเสียงหัวเราะออกมา  เป็นเวลาเดียวกันกับที่ดวงตาของนักรบโครงกระดูก  อัศวินความตาย  และลิชได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดง  ดวงวิญญานของบราฮัมพลันไหววูบวาบราวกับตะเกียงต้องลม

[ ไอ้สุนัขสกปรก...! ]

       บราฮัมไม่อาจเสียลิชมูมัดไปได้  ตอนนี้ดวงวิญญานของมันเหลือเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น  ลิชมูมัดจึงเป็นที่พึ่งสุดท้ายในการรับมือกริด  แต่ผู้ทำสัญญากับบาเอลคนนี้ปราศจากความปราณี  พลังของอัศวินความตายและลิชได้เสริมให้กองทัพนักรบกระดูกทรงพลังมากขึ้น  ลิชมูมัดทำได้เพียงตั้งรับ

[ สมแล้วที่บาเอลเลือกแก...! ]

       ฉึก!

       ดาบของอัศวินความตายตนหนึ่งได้เสียบเข้าที่ดวงวิญญานบราฮัม  เสียงของมันหยุดลงเพียงเท่านี้  หลังจากนั้นอีกสองถึงสามนาที  แอ็กนัสก็ทำให้ลิชมูมัดตกเป็นของตน

       "เฮ่อ..."

       สีหน้าของแอ็กนัสเหนื่อยหอบ  มันถอนหายใจพร้อมกับใช้มือลูบเผาที่เงางามเบาๆ   หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปหาลิชมูมัดที่จับมาได้  แอ็กนัสทำการวาดตราประทับปริศนากลางกระโหลกศีรษะของลิช  สิ่งนี้คือประทับแห่งการจำนน  เป็นทักษะที่สามารถใช้ได้เพียงสามครั้งในชีวิต

       ลิชมูมัดส่งเสียงกรีดร้องทรมาน  ช่างน่าประหลาด  อันเดดไม่ควรมีความรู้สึกเจ็บปวดมิใช่หรือ?
       
       "หึหึหึ..."
       
       หลังจากนั้นพักหนึ่ง  ลิชมูมัดก็ยืนเคียงข้างแอ็กนัส  แอ็กนัสใช้ฝ่ามือลูบกระโหลกของลิชเบาๆ อย่างทะนุถนอม  ประหนึ่งลูบหัวสุนัขหรือแมวด้วยความเอ็นดู  หลังจากนั้น  มันก็กวาดสายตาไปรอบห้อง

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ออกจากถ้ำไปหมดแล้ว

       "ใช้เวลานานไปหน่อยสินะ… แต่ช่างเถอะ  เพียงเท่านี้ก็ใกล้ความปรารถนาไปอีกหนึ่งก้าว  เราได้เป็นเจ้าของลิชสองตนเรียบร้อยแล้ว  ส่วนตราประทับอันสุดท้าย  ฉันจะเก็บไว้ให้แก… บราฮัม"

       มันต้องหาจุดที่ร่างเนื้อของบราฮัมถูกฝังไว้ให้พบ       

       "หึหึหึ!"

       แอกนัสหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเดินออกจากถ้ำ

       หลังจากนั้นไม่นาน

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์กำลังยืนชิดกันอยู่ที่มุมหนึ่งในเมืองแวมไพร์  ทุกคนกำลังสวมเสื้อคลุมล่องหนไว้  เมื่อได้เห็นแอ็กนัสเดินจากไป  แวนเนอร์พลันเหงื่อแตกพลั่งพร้อมกับถามขึ้น

       "แอ็กนัสคือหมอผีที่มีลิชด้วยงั้นหรือ?  เรื่องอัศวินความตายกับนักรบโครงกระดูกพอจะเข้าใจได้ก็จริง  แต่ลิชนี่มัน… แม้แต่บราฮัมยังอัญเชิญลิชไม่ได้เลยนะ..."

       ลิชหนึ่งตนและอัศวินความตายสามตน  สิ่งเหล่านี้มีความทรงพลังเทียบเท่ากองทัพอาณาจักรใหญ่  มันคือพลังระดับที่สามารถบดขยี้อาณาจักรเล็กให้แหลกละเอียดได้ในพริบตา

       สีหน้าของป็อนไม่ค่อยสู้ดีนัก
       "พลังของมันเพิ่มขึ้นจากเมื่อปีที่แล้วหลายเท่า  ทำเอารู้สึกแย่เลยแฮะ"

       ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก  เมื่อพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ต้องไปตกอยู่กับคนเสียสติ

       ***

       "ทางเข้าเปิดอยู่"

       เมืองแวมไพร์ที่ 13  ทางเข้าที่ดูเหมือนกับรังมดขนาดใหญ่กำลังเปิดกว้าง  เป็นผลมาจากผู้ปกครองเมือง  เอลฟิน-สโตน  ถูกปราบลงได้แล้ว

       "พวกเขาอยู่ไหนกันนะ?"

       กริดยืนอยู่กับฮิวรอยและยูร่า  เขาส่งข้อความส่วนตัวไปหาจิสึกะเพื่อถามสถานการณ์

       >>  ฉันมาถึงทางเข้าแล้ว  พวกเธออยู่ไหน?  หาพาเฟรเนี่ยมพบรึยัง?

       จิสึกะรีบร้อนตอบกลับ

       >>  พวกเราพบแล้ว  กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ  ดังนั้น  นายรีบเดินทางไปยังเมืองแวมไพร์ที่ 14 ได้เลย

       >>  ทำไมฉันต้องล่วงหน้าไปด้วย?  พวกเราจะรอที่ทางเข้าก็แล้วกัน

       >>  ไม่ได้  นายต้องไปเดี๋ยวนี้!

       'เกิดอะไรขึ้น?'

       แปลกมาก… ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวจนทำให้กริดขมวดคิ้ว 

       'หรือว่า...'

       พวกเขากำลังอยู่ในอันตราย?  จึงเป็นห่วงกริดและไม่อยากให้เข้ามาเสี่ยงชีวิตด้วย… ฟังดูเป็นไปได้มากทีเดียว 

       'เฮ่อ… ห่วงอะไรไม่เข้าท่า'

       กริดไม่ใช่คนที่ต้องถูกประคบประหงมปกป้องอีกแล้ว  ตรงกันข้ามเลยต่างหาก  ชายหนุ่มหันไปมองยูร่าและฮิวรอย

       "พวกนายพร้อมสู้รึเปล่า?"

       "พร้อมทุกเวลาขอรับนายท่าน"

       "แน่นอนอยู่แล้ว"

       "ดี… งั้นรีบไปกัน"

       กลุ่มของกริดเดินเข้าไปด้านใน  เป็นเวลาเดียวกันกับที่...

       "หือ?"

       แอ็กนัสถูกส่งตัวออกมาอยู่ที่หน้าทางเข้า  ช่างเป็นเวลาเหมาะเจาะจนสวนกับกริดพอดิบพอดี  

       "คิดไปเองงั้นหรือ?"

       แอ็กนัสรู้สึกว่า  มันสามารถสัมผัสได้ถึงพลังแปลกประหลาดเมื่อถูกส่งตัวมายังหน้าทางเข้า  แต่ก็ยังไม่มั่นใจเท่าไรนัก  ช่างเถอะ  ภารกิจของมันที่นี่จบลงแล้ว  แอ็กนัสมีอีกหลายสิ่งต้องรีบไปทำต่อ

       "ต่อไปก็… สุสานดาบ"

       ช่างตีเหล็กในตำนาน  แพ็กม่า  ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต  ผู้คนกล่าวกันว่า  แพ็กม่าสร้างดาบขึ้นมากมาย  และทำลายมันไปมากมายเช่นเดียวกัน  จนเกิดเป็นสุสานดาบขึ้น  จากคำอธิบายภารกิจ  บราฮัมไปเยือนสถานที่แห่งนั้นบ่อยครั้ง...

       แอ็กนัสส่งข้อความส่วนตัวไปหาใครบางคน

       >>  เวอราดิน  นายได้ที่ตั้งของสุสานดาบมารึยัง?

       >>  ผมต้องขออภัยด้วย  แม้ว่าจะใช้ทุกสิ่งที่มี  แต่ก็ยังหามันไม่พบ

       >>  ไร้ประโยชน์จริงๆ เลยนะ

       >>  ผมต้องขออภัยด้วย

       >>  รีบหาเข้าซะ  ฉันจะได้รีบทำส่วนต่อไปสักที

       >>  เข้าใจแล้วครับ

       "ชิ"

       แอ็กนัสส่ายศีรษะอย่างหงุดหงิดพร้อมกับเริ่มออกเดินทาง  แม้ทะเลทรายจะร้อนระอุขนาดนี้  แต่กลับไม่มีเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าของมันเลยสักหยดเดียว

       ***

       "หือ?  พวกนายสบายดีหรือ?"

       หลังจากเข้ามาภายในเมืองแวมไพร์ที่ 13 ได้ราวสิบนาที  กริดก็หาปาร์ตี้คณะรวบรวมพาเฟรเนี่ยมจนพบ  จิสึกะสำรวจร่างกายกริดพร้อมกับถามขึ้นอย่างสงสัย

       "นายเป็นอะไรรึเปล่า?  บาดเจ็บตรงไหนไหม?  ไม่ได้ถูกหมาบ้ากัดเอาใช่มั้ย?"

       จิสึกะบอกให้กริดรีบรุดหน้าไปยังเมืองแวมไพร์ที่ 14 เพราะไม่อยากให้เขาเผชิญหน้ากับแอ็กนัส  แต่ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น

       "ในทะเลทรายมีหมาบ้าด้วยรึไง?"

       กริดตอบกลับอย่างไม่เข้าใจ  หลังจากนั้น  จิสึกะที่มีสีหน้าโล่งอกก็นำของขวัญออกมายื่นใหม่

       "เอ้านี่!"

       ทั้งหมดมีทั้งไอเท็มที่ดรอปโดยเอลฟิน-สโตน  แร่มากมาย  รวมไปถึงพาเฟรเนี่ยม

       "ทุกคนคงเหนื่อยแย่"

       กริดโค้งขอบคุณทุกคนจากใจจริง  สมาชิกโอเวอร์เกียร์พากันอมยิ้มอย่างชื่นมื่น

       "เป็นนายต่างหากที่เหน็ดเหนื่อยยิ่งกว่าใคร"

       อันที่จริง  จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนัก

       กริดได้รับความช่วยเหลือมากมายจากพวกพ้อง  ทั้งยอมสละค่าประสบการณ์เกือบทั้งหมดเพื่อให้กริดมีเลเวล 300 ในที่สุด  ถ้าไม่มีทุกคน  รับรองได้เลยว่ากริดไม่อาจเอาชนะเอลฟิน-สโตนได้แน่  การรวบรวมพาเฟรเนี่ยมทั้งหมดงั้นหรือ?  แค่สักชิ้นเดียวก็เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันแล้ว

       กริดลั่นวาจากับทุกคน

       "ทันทีที่จบการเดินทางครั้งนี้  ฉันสัญญาว่าจะสร้างไอเท็มที่ดีที่สุดให้พวกนาย"

       "นายหมายถึงเซ็ตกริดที่เคยบอกไว้ใช่ไหม?"

       ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้น

       "เดี๋ยวนะ?  ทำไมนังจิ้งจอกถึงมาอยู่ที่นี่ได้?"

       จิสึกะโพล่งขึ้นหลังจากที่เห็นยูร่าตามกริดมาด้วย  ยูร่าตอบกลับอย่างเย็นชา
       "คำพูดคำจายังหยาบคายไม่เปลี่ยนเลยนะ  การที่ต้องอยู่กับคนแบบนี้นานๆ   ยองวูคงอึดอัดแย่"

       "ยองวู?  ในซาทิสฟาย  เขาคือดยุคกริด!  เธอแยกไม่ออกจะหว่างความจริงกับเกมรึไง?"

       "ฉันจะเรียกเขาในสิ่งที่ฉันอยากเรียก  ไม่ใช่ธุระกงการของเธอสักหน่อย"
       
       เปรี้ยะ!

       พลันเกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นเมื่อสองสาวจ้องตากันปานจะกินเลือดเนื้อ

       'สองสาวสวยกำลังทะเลาะกันเพื่อแย่งกริด...'

       'หมอนั่นมีไอรีนอยู่ทั้งคน...'

       สมาชิกปาร์ตี้ฝ่ายชายกำลังอิจฉา  แต่กริดกลับไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย  ในยามนี้  ไอเท็มใหม่ที่ได้รับมาย่อมน่าสนใจกว่ามาก

[ ท่านรวมรวม ??? ครบสามชิ้นส่วน ]
[ ข้อมูลของไอเท็ม <ชิ้นส่วน ???> มีการเปลี่ยนแปลง ]

       'นี่มัน...!'

       ดวงตาของกริดพลันลุกวาว

Comments

  1. นึกว่ากริดจะได้ดวลกับแอ็กนัสซะแล้ว อุตส่าห์ลุ้น

    ReplyDelete
  2. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. แอกนัส สกิลคล้ายๆพี่เทพ ซง จินวูเลย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00