จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 288


       เมืองแวมไพร์ลำดับที่ 13

       ป็อนและเรกัสเป็นเพียงสองคนที่เคยมีประสบการณ์กับสถานที่แห่งนี้  ดังนั้น  พวกเขาจึงต้องรีบอธิบายเหตุการณ์ทันทีที่ทุกคนมาถึงทางเข้า

       "เมื่อพวกเราเข้าไป  สิ่งแรกที่จะได้เจอคือหน้าผาที่สูงชันกว่า 12 เมตร  แม้จะไม่มีอันตรายจากมอนสเตอร์ก็จริง  การด้วยความที่มืดและแคบ  ทำให้อาจตกลงไปจนบาดเจ็บได้  คนที่มีค่าความว่องไวต่ำกว่า 400 ควรก้าวเดินอย่างระมัดระวัง"

       "ภายในนั้นไม่มีแหล่งกำเนิดแสงสว่างแม้แต่อย่างเดียว  ดังนั้น  สายตาของพวกนายทุกคนจะยังปรับตัวไม่ได้จนกว่าจะผ่านไปแล้วสองนาที  ความมืดด้านในจะทำให้เราไม่อาจแสดงฝีมือได้ 100% เต็ม… อ้อ  จริงสิ  จิสึกะกับเฟคเกอร์คงไม่เป็นอะไร  เพราะพวกเธอมี <นัยน์ตาเหยี่ยว> และ <ดวงตานักลอบสังหาร>"

       แวนเนอร์เกิดความสงสัยจนต้องถามออกมา

       "ทำไมพวกเราถึงไม่หาอะไรจุดไฟ?  คิดจะใช้ชีวิตกันแบบมนุษย์ถ้ำรึไง?"

       "แวมไพร์ไวต่อแสงมาก  พวกเราจะโดนล้อมทันทีที่ก่อความสว่างขึ้น"

       "นั่นสินะ  ฉันเคยได้ยินเรื่องแบบนั้นมาก่อน"

       "เจ้างั่งเอ้ย"

       ป็อนอธิบายต่อไป

       "เมืองด้านล่างจะมีขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของไบรัน  แม้เลเวลเฉลี่ยของมอนสเตอร์สัตว์รับใช้จะต่ำกว่าพวกหนอนยักษ์  แต่ความแข็งแกร่งนั้นไม่อาจวัดได้  ขึ้นอยู่กับชนิดที่พวกเราต้องเจอ"

       "สัตว์รับใช้?  แล้วแวมไพร์ล่ะ?"       

       "แวมไพร์จะหลับไหลอยู่ภายในอาคารต่างๆ  พวกมันจะตื่นขึ้นทันทีที่เราย่างกรายเข้าไปในอาคาร  แต่ก็มีบางรายที่อาจดักซุ่มโจมตี"

       "หืม… ตัวบอสเองก็คงหลับอยู่ภายในอาคารเหมือนกันสินะ"

       "เดาได้ดี  พวกเราคงต้องสำรวจอาคารไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้พบกับบอส"

       "ในระหว่างทาง  พวกเราต้องระวังแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ให้ดี  พวกมันแข็งแกร่งกว่าแวมไพร์ทั่วไปมาก"

       "มากขนาดไหน?"

       "ขนาดที่ฉันกับเรกัสร่วมมือกันก็ไม่อาจเอาชนะได้"

       "ระดับบอสแม็ป?"

       "ไม่ขนาดนั้น  ถ้าไม่ใช้พลังเทพโจมตีเข้าไป  ก็คงสร้างความเสียหายไม่ได้มากนัก  แต่เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง  ด้วยจำนวนคนเท่านี้  ถ้าพวกเราร่วมมือกัน  โอกาสชนะจะมีสูงมาก"

       จิสึกะ  กริด  ป็อน  เรกัส  เฟคเกอร์  และพีคซอร์ด  พลังโจมตีของคนเหล่านี้ล้วนอยู่ในระดับแถวหน้าของโลก  ถ้าหากร่วมมือกัน  ไม่น่ามีบอสตัวไหนทนทานได้แน่  ป็อนจึงคาดการณ์ว่า  ปาร์ตี้นี้ดีพอจะรับมือกับแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์

       "งั้นก็หมายความว่า  หลังจากเข้าไป  พวกเราจะต้องระวังหน้าผาที่มืดและลาดชัน  ถัดไปก็คือการระวังไม่ให้ก่อแสงสว่างขึ้น  ส่วนแวมไพร์เลือดผสม  ถ้าหากปะทะกันเข้า  ให้รีบฆ่าโดยเร็วที่สุด  แค่นี้ใช่ไหม?"

       "ถูกต้อง"

       กริดตรวจสอบสถานะปาร์ตี้ให้เรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย



ชื่อปาร์ตี้ : คณะรวบรวมพาเฟรเนี่ยม

หัวหน้าปาร์ตี้ : กริด (ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า  เลเวล 296)

รายชื่อสมาชิกปาร์ตี้ :

- ป็อน (อัศวินหอก  เลเวล 307)

- เรกัส (อาชูร่า  เลเวล 307)

- พีคซอร์ด (ดาบเร้นลับ  เลเวล 306)

- เฟคเกอร์ (ราชันย์พริ้วไหว  เลเวล 305)

- จิสึกะ (นักธนูเพลิงสีชาด  เลเวล 305)

- แวนเนอร์ (ป้อมปราการไร้พ่าย  เลเวล 302)

- เซ็ดนอส (จอมเวทย์วายุ  เลเวล 301)

- ฮิวรอย (นักพูด  เลเวล 292)

การแบ่งไอเท็ม : หัวหน้าปาร์ตี้ได้รับทั้งหมด       



       เป็นเพราะการพักผ่อนอย่างเพียงพอ  ทั้งพลังชีวิต  มานา  และค่าเรี่ยวแรงของทุกคนจึงเต็มเปี่ยม  แถมการแบ่งไอเท็มปาร์ตี้ก็ตั้งค่าไว้อย่างถูกต้อง

       "ไปกันเถอะ"

       กริดไม่รีรออีกแล้ว  เขารีบเดินเข้าไปในปากทางเข้าที่เหมือนกับรังมดทันที

[ ท่านเข้ามายังเมืองใต้ดินแวมไพร์ (13) ]

[ ทางเข้าดันเจี้ยนถูกปิด  การติดต่อกับโลกภายนอกถูกตัดขาด ]

[ ท่านจะไม่สามารถออกไปได้จนกว่าจะตายหรือสังหารบอสได้ ]

       'มืดชะมัด'

       นี่คือความรู้สึกแรกที่ได้รับ  กลิ่นอายความมืดอันชวนคลื่นไส้ได้คละคลุ้งอยู่ในบรรยากาศ  ถ้าหากไม่เป็นเพราะป็อนเคยบอกไว้ล่วงหน้าแล้ว  เขาคงสับสนจนเดินหลงทางเป็นแน่  

       ขณะที่ทุกคนในปาร์ตี้กำลับปรับสายตาให้ชินกับความมืด

       พั่บพั่บพั่บ!

       "ส--เสียงอะไร...?"

       ทุกคนได้ยินเสียงของบางสิ่งกำลังกระพือปีก  ทันใดนั้น  จุดสีแดงเล็กๆ นับร้อยได้สว่างขึ้นในความมืด  มันคือดวงตาของฝูงค้างคาวอันดุร้าย

       "ชิ!  นี่มันเรื่องบ้าอะไร?  ไหนบอกว่าข้างบนปลอดภัย?"

       ข่าวสารที่ผิดพลาดอาจทำให้พ่ายแพ้ในสนามรบ  ทุกคนเข้าใจได้ดีถึงอาการหัวเสียของแวนเนอร์  แทงค์หลักเพียงคนเดียวของปาร์ตี้รีบทำการตั้งโล่ป้องกัน

       เคร้ง!  เคร้งเคร้งเคร้ง!

[ โล่กริด : ตัวต้นแบบ A ]

       โล่ที่มีต้นแบบมาจากโล่เทวะ  มันผสานกันอย่างสมดุลระหว่างพลังป้องกันกายภายและเวทย์มนต์

       เขาสร้างมันขึ้นมาจากเหล็กนิล  นับเป็นแร่ที่หาได้ง่ายในบรรดาแร่ระดับสูง  ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือค่อนข้างมีน้ำหนักมาก  แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของแวนเนอร์  อดีตอัศวินผู้พิทักษ์สายพละกำลัง

       ฝูงค้างคาวนับร้อยตัวได้พุ่งตัวเข้าใส่โล่สีดำจนเกิดเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว

       กร๊อบ!

       ช่างน่าขนลุกไม่น้อย  เมื่อทุกคนมีโอกาสได้ฟังเสียงของกระโหลกใบเล็กพุ่งปะทะเข้ากับโล่จนแตกละเอียด  เสียงอันน่าสยดสยองดังกล่าวไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย

       "อั่ก!"

       แวนเนอร์เริ่มส่งเสียงคราง  เขาอาจป้องกันค้างคาวจากด้านหน้าได้ก็จริง  แต่ค้างคาวจากฝั่งซ้ายและขวาคือปัญหาหลัก  พวกมันรุมกัดเขาจนเริ่มมีบาดแผลให้เห็น

       "บ้าจริง!  คนอย่างฉันต้องใช้ทักษะสำคัญตั้งแต่เริ่มเข้าดันเจี้ยนเนี่ยนะ?  กายาเหล็ก!"

[ พลังป้องกันของท่านเพิ่มขึ้น 30%  ท่านจะได้รับความเสียหายจากการโจมตีชนิดแทงและฟันลดลง 50%  ผลของทักษะจะอยู่ได้นานสามนาที  ]

       ปึก! ปึก!

       พลังป้องกันของแวนเนอร์เพิ่มขึ้น  ทำให้ฟันอันแหลมคมของค้างคาวไม่อาจสร้างความเสียหายกับเขาได้  จิสึกะและเฟคเกอร์คือสองคนแรกที่ปรับสายตากับความมืดได้ก่อนใคร  ทั้งคู่จึงรีบเข้ามาช่วยแวนเนอร์

       "ศรร่ายรำ"

       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ

       นี่คือทักษะที่โจมตีได้หลายเป้าหมาย  ทันทีที่ศรคร่าชีวิตค้างคาวตัวหนึ่ง  มันยังเหลือแรงมากพอจะพุ่งกระจายออกไปฆ่าค้างคาวตัวที่เหลือ  ทันทีที่ค้างคาวตายลง  ร่างของพวกมันก็จะร่วงหล่นตกหน้าผาไป

       เฟคเกอร์เองก็ไม่น้อยหน้า  เขาซัดมีดสั้นที่แฝงไว้ดว้ย <อักขระระเบิด> จำนวน 20 เล่มออกไปใส่ฝูงค้างคาว  ส่งให้พวกมันถูกแรงระเบิดป่นกลายเป็นขี้เถ้าในพริบตา  เมื่อสมาชิกที่เหลือเริ่มชินกับความมืด  ค้างคาวเกือบทั้งหมดได้ถูกกำจัดไปแล้ว  แวนเนอร์รีบนั่งลงและหายใจอย่างเหนื่อยหอบ

       "แฮ่ก… แฮ่ก!  บ้าจริง… คนอย่างฉันเกือบตายตั้งแต่ทางเข้าเนี่ยนะ?"

       "ฉันขอโทษ  ไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนรูปแบบ"

       ดันเจี้ยนส่วนใหญ่จะมีรูปแบบเดิมๆ เสมอ  ป็อนกับเรกัสจึงคิดว่าที่นี่เองก็น่าจะเป็นเช่นนั้น  แวนเนอร์ไม่บ่นอะไรอีกเมื่อเห็นป็อนขอโทษอย่างสำนึกผิด  หลังจากนั้น  กริดก็รอให้แวนเนอร์ฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาจนเต็ม  เพราะเขาเป็นแทงค์เพียงคนเดียว  ตัวตนของแวนเนอร์คือสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ของปาร์ตี้นี้

       "ใจเย็นๆ  ไม่ต้องรีบ"

       "ตกลง"

       เมื่อแวนเนอร์พร้อมรบ  ทุกคนจึงเริ่มทยอยกันปืนลงจากหน้าผา  แม้คนอื่นอาจดูทุลักทุเล  แต่นั่นไม่ใช่กับกริดและเซ็ดนอส  พวกเขามีเวทย์บิน  ทั้งคู่สามารถร่อนลงไปด้านล่างอย่างไร้ปัญหา

       ตึก...!

       เมื่อเท้าของคนทั้งสองสัมผัสกับพื้น  กริดและเซ็ดนอสก็กวาดสายตามองไปรอบๆ   นั่นก็เพื่อคอยเคลียร์ความปลอดภัยให้กับพวกพ้องที่กำลังปืนป่ายลงมา  และไม่ผิดจากที่คาดมากนัก  มีหมาป่าร่างใหญ่จำนวนห้าตัวกำลังวิ่งกระโจนตรงมาหาพวกเขา

       "ใหญ่จนดูน่าขนลุก"

       ขนาดของมันใหญ่กว่าหมาป่าทั่วไปมาก  อาจเทียบเท่าหมีได้เลยทีเดียว  แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่หวาดกลัว

[ ท่านสวมใส่ <+9 ความผิดพลาด> ]

[ พลังโจมตีของ <+9 ความผิดพลาด> จะเพิ่มขึ้น 20% ในที่มืด ]

[ ท่านสวมใส่ <+8 รองเท้ากริด> ]

[ พลังป้องกันของ <+8 รองเท้ากริด> จะเพิ่มขึ้น 20% ในที่มืด ]

       กริดเชื่อมั่นในไอเท็มของตน

       'เรามีกริดอยู่ด้วย!'

       ส่วนเซ็ดนอสก็เชื่อในกริด  หมาป่าทั้งห้าตัวที่คิดว่าสองคนนี้เป็นเหยื่ออันโอชะ  เพียงไม่นาน  พวกมันก็ได้รับรู้ถึงความโง่เขลาของตน

       เอ๋ง!  เอ๋ง!

[ ท่านสังหาร <หมาป่าแวมไพร์> ]

[ ค่าประสบการณ์ 490,800 หน่วยถูกกระจายให้ทั้งปาร์ตี้ ]

[ ท่านสังหาร <หมาป่าแวมไพร์> ]

[ ค่าประสบการณ์ 487,210 หน่วยถูกกระจายให้ทั้งปาร์ตี้ ]

[ ท่านได้รับไอเท็ม <แผ่นหนังหมาป่าแวมไพร์> ]



[ แผ่นหนังหมาป่าแวมไพร์ ]

       เป็นหนังที่เหนียวมาก  หากนำไปตากแห้งอย่างเหมาะสม  มันสามารถนำไปใช้เป็นวัสดุในการสร้างชุดเกราะได้

น้ำหนัก : 15



       แม้จะต้องหารถึงเก้าคน  แต่ค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็จัดว่าสูงมาก  เป็นอย่างที่คิด  เมืองแวมไพร์คือสถานที่เก็บเลเวลชั้นยอด

       'ผู้เล่นกิลด์ซิลเวอร์ไนท์ที่เข้ามาใหม่  มีสามคนที่คลาสรองเป็นช่างตัดเย็บใช่ไหม?'

       กริดเองก็สามารถสร้างเกราะหนังได้  แต่จากการลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง  เขามองว่า  เกราะที่สร้างขึ้นจากหนังจะมีประสิทธิภาพสู้เกราะที่สร้างขึ้นจากโลหะไม่ได้  สำหรับกริด  การสร้างเกราะโลหะจะดูคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปมากกว่า       

       "ฉันคิดว่า  พวกเราควรนำวัสดุเหล่านี้ไปแจกจ่ายให้กับสมาชิกกิลด์ที่มีคลาสรอง  ให้พวกเขาแปลงมันเป็นไอเท็มและนำไปขายทำกำไรให้กิลด์  นั่นจะทำให้พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย"

       กริดหันไปพูดกับสมาชิกคนอื่นที่กำลังปืนหน้าผา  ไม่บ่อยครั้งที่กริดจะมีความคิดดีๆ เช่นนี้ออกมา  ไม่สิ  นี่อาจเป็นครั้งแรกก็ได้  ทุกคนต่างนิ่งอึ้งไปพักใหญ่กับพัฒนาการอันน่าเหลือเชื่อ  พวกเขาล้วนพยักหน้าเห็นด้วย  ส่วนป็อนและเรกัสก็กำลังชื่นชมกริดอยู่ในใจ  หัวหน้าของพวกตนเติบโตขึ้นอีกแล้ว  ทว่า… เพียงพริบตาเดียว  สองคู่หูพลันเปลี่ยนสีหน้าไปในทันที 

       "แปลกมาก  บรรยากาศไม่เหมือนกับตอนที่พวกเรามาครั้งก่อน"

       "คราวก่อนไม่มีค้างคาวกับหมาป่าแวมไพร์  แถมระยะจู่โจมของสัตว์รับใช้ก็จะไม่กว้างเท่านี้  ค่าประสบการณ์เองก็ด้วย  ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นราว 10% ได้"

       เรกัสพึมพำ  เป็นเวลาเดียวกับที่ป็อนหันไปถามกริดถึงรายละเอียดภารกิจ

       "นายบอกว่า  มีพลังงานลึกลับได้กระจายออกไปทั่วเมืองแวมไพร์ใช่ไหม?"

       "อืม"

       "นั่นล่ะปัญหา  ดูเหมือนพลังลึกลับดังกล่าวจะช่วยเพิ่มระดับความยากของดันเจี้ยนนี้"

       เอื๊อก...!

       พีคซอร์ดกลืนน้ำลายอย่างเป็นกังวล  เขากลัวว่าการเดินทางคราวนี้จะต้องพบกับความล้มเหลว  แต่สมาชิกกิลด์คนอื่นกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น  ถ้าดันเจี้ยนยากขึ้นก็หมายความว่า...

       "ผลตอบแทนก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย!"

       "ใช่แล้ว!  พวกเราจะเพิ่มเลเวลได้เร็วกว่าใคร!"

       "..."

       พีคซอร์ดผู้กำลังตึงเครียด  เขาไม่เข้าใจความคิดอันบ้าดีเดือดของชาวโอเวอร์เกียร์เลยสักนิด  แต่จะทำอะไรได้อีก  มีแต่ต้องตามน้ำไปด้วยเท่านั้น  ระหว่างทาง  ทุกคนได้โจมตีบรรดาสัตว์รับใช้เพื่อเก็บเลเวล  จนกระทั่งคณะรวบรวมพาเฟรเนี่ยมได้มายืนอยู่ด้านหน้าอาคารสูงทรงเก่าแก่สไตล์โกธิก  

       "มีตึกแบบนี้อยู่ราวสิบแห่งสินะ?"

       พวกเขาต้องรีบสำรวจตึกเพื่อหาบอสและฆ่ามันทิ้ง  หลังจากนั้น  กริดก็จะนำพาเฟรเนี่ยมออกไปและเดินทางไปยังเมืองแวมไพร์แห่งใหม่  ในขณะที่กริดกำลังจะเปิดประตูบานใหญ่ของอาคารเข้าไป

[ ผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ที่ 13  แวมไพร์เอิร์ล  เอลฟิน-สโตน  ปรากฏตัว ]

[ พลังอันแสนชั่วร้ายได้แพร่กระจายออกมาจนทำให้พลังเวทย์ของท่านปั่นป่วน  ทักษะและเวทย์มนต์ทุกชนิดจะไม่สามารถใช้การได้ ]

[ แววตาของแวมไพร์จะสะกดสิ่งมีชีวิตที่มีระดับต่ำกว่า  ร่างกายของท่านจะถูกสะกดข่มอย่างรุนแรง ]

       หน้าต่างข้อความระบบมากมายได้แสดงต่อหน้าสมาชิกปาร์ตี้ทุกคน

       ซู่วววว!

       กลุ่มควันสีดำได้ก่อตัวขึ้นเหนือศีรษะของกริด  มีชายผมบลอนด์คนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากกลุ่มควัน  รูปลักษณ์ภายนอกของมันช่างดูสง่าและงดงามราวกับอัญมณี

       "มนุษย์ที่แสนต่ำต้อยกล้าเหยียบเมืองของฉันเชียวรึ?  ไอ้พวกโสโครก!"

       มีบางสิ่งเคยเกิดขึ้นกับเอลฟิน-สโตนมาก่อน  ราวหนึ่งเดือนที่แล้ว  มันได้ตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไหลไปหลายเดือน  แต่ก็ต้องพบว่า  เมืองที่มันแสนรักได้ถูกทำลายไปบางส่วน  โดยได้รับรายงานจากลูกน้องว่า  มีมนุษย์สติไม่ดีกล้ารุกรานเมืองแวมไพร์ที่มันปกครอง  แถมยังมากันแค่สองคนเนี่ยนะ?

       ช่างเป็นเรื่องเหลวไหลที่ยากจะรับได้  เอลฟิน-สโตนเกิดอาการเครียดเพราะเรื่องนั้น  มันโกรธจัดจนไม่อาจนอนหลับสบายใจนานกว่าหนึ่งเดือนเต็ม  ทุกวันนี้มันได้นอนเพียง 18 ชั่วโมง  ส่วนเวลาที่เหลือก็ใช้ในการเดินลาดตระเวนไปรอบเมือง  แต่วันนี้กลับโชคดีผิดคาดที่มีโอกาสได้พบพวกมนุษย์สักที  ความโกรธภายในใจจะได้สะสางให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย

       "ตายซะ!  ฉันจะได้นอนหลับอย่างเป็นสุข!"

       เอลฟิน-สโตนใช้ทักษะท่าไม้ตายของมันเล็งใส่มนุษย์ที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้

[ กลืนโลหิตขั้นสูงสุด ]              

       มันคือการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวที่จะสร้างความเสียหายและฟื้นฟูพลังชีวิตตัวเองไปพร้อมกัน  เป้าหมายที่โดนจะต้องสูญเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก  ข้อเสียเดียวของทักษะนี้  คือการที่มันใช้ได้เพียงวันละครั้งเท่านั้น  แต่นั่นก็เหมาะสำหรับการสร้างความหวาดกลัวให้กับสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอเฉกเช่นมนุษย์เป็นอย่างดี

       ซ่าาา!

       มนุษย์เพศชายคนหนึ่งถูกหมอกโลหิตกัดกิดร่างกายอย่างรุนแรง  เอลฟิน-สโตนมั่นใจมากว่าชายคนนี้คงไม่รอดแน่นอน

       "หึหึหึ… แล้วฉันจะกลับมาใหม่อีกครั้งพร้อมกับฆ่าพวกแกอีกหนึ่งคน…  และอีกหนึ่งคน!  สิ่งนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ จนพวกแกตกอยู่ในความหวาดกลัวสุดขีด!"

       ซู่วววว!

       ร่างของเอลฟิน-สโตนกลายเป็นกลุ่มควันและหายไป  หมอกโลหิตเองก็หายไปด้วย  ในเวลาเดียวกัน  ร่างของกริดก็ปรากฏออกมาอีกครั้งโดยที่ยังมีชีวิตอยู่

       "เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?"

       สุดยอดทักษะอย่างประกันชีวิตได้ถูกใช้ไปแล้ว  เขาต้องรออีกนานถึง 24 ชั่วโมงกว่ามันจะกลับมาใช้ได้ใหม่

       แต่อย่างน้อย  กริดก็ยังมีชีวิตอยู่

       ทั้งกริดและเอลฟิน-สโตน  ไพ่ตายของทั้งคู่ถูกใช้ออกไปแล้ว

Comments

  1. จะฆ่ากันยังไงนะ?

    ReplyDelete
  2. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. อาชูไม่ตายติดแพรี้

    ReplyDelete
  4. แมรี่โรสจะอยู่ข้างไหนนะ?

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00