จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 311



       'ไร้เดียงสา… ไม่สิ  คงเป็นเจ้างั่งมากกว่า  คราวหน้าคราวหลังนายควรระวังตัวให้มากกว่านี้'

       บราฮัมไม่คิดยึดร่างกริดตั้งแต่แรกแล้ว  เขาต้องการคืนชีพใหม่ด้วยร่างเนื้อตนเอง  ไม่ใช่ของใครอื่น

       เหตุผลที่แสดงท่าทีเช่นนั้นออกมา  เพราะบราฮัมต้องการตักเตือนให้กริดระมัดระวังตัวเองให้มากกว่านี้  แม้จะดูเหมือนมุ่งร้าย  แต่ทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อตัวกริดเอง

       ทำไมน่ะหรือ?

       'แม้เจ้านั่นจะทำให้เราหงุดหงิดไม่น้อย… แต่ก็ปธิเสธไม่ได้ว่า  เขาทำให้ความปรารถนาตลอด 300 ปีของเราเป็นจริง'

       นี่คือการแสดงความห่วงใยในแบบฉบับของบราฮัมที่กริดไม่มีวันรู้

[ พวกเราอาจได้เป็นศัตรูในครั้งหน้าที่พบกัน  ]

       ดวงวิญญานของบราฮัมกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง  เป้าหมายปลายทางคือสุสานดาบที่ร่างเนื้อของเขาถูกผนึกอยู่

       ***

       เรย์ดันคือเมืองที่มุ่งเป้าจะเป็นทาลิม่าแห่งที่สอง  ดังนั้นเทศมนตรีแร็บบิทจึงนำเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนกับโรงตีเหล็กและโรงแปรธาตุ

       แต่สิ่งที่น่าขบขันก็คือ  จุดที่พัฒนาไปไกลที่สุดของเรย์ดันกลับกลายเป็นการเกษตรกรรม  ฟาร์มพืชผลขยายอาณาเขตออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา

       "พืชผลกำลังเจริญเติบโตสินะ"

       กริดเดินทางกลับถึงเมืองหลังจากที่เสร็จภารกิจซึ่งดองไว้นานถึงหนึ่งปีครึ่ง  ชายหนุ่มหันไปมองฟาร์มอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาของเรย์ดัน

       "ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมรึเปล่าเนี่ย...?"

       ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด  แต่ทักษะติดตัวของปิอาโร่ระบุไว้ชัดเจนว่า  โอกาสที่จะดินในเรย์ดันจะอุดมสมบูรณ์มี 100% เต็ม  ด้วยเหตุนี้เรย์ดันจึงเก็บเกี่ยวผลผลิตชั้นเลิศออกมาได้เสมอ  ไม่ว่าจะปลูกพืชชนิดใดก็ตาม  ผลผลิตทางการเกษตรกลายเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของเรย์ดันไปโดยปริยาย

       'จนคนเอาไปลือกันว่า...  ที่นี่คือเมืองเกษตรกรรม'

       เมืองของช่างตีเหล็กในตำนานกลับกลายเป็นเมืองเกษตรกรรมงั้นหรือ?  ฟังดูย้อนแย้งยิ่งนัก  และด้วยความสัตย์จริง  กริดไม่ชอบมันเอาเสียเลย

       "หือ?"

       เหตุใดขนาดของฟาร์มถึงขยายเอาๆ โดยที่แทบไม่ต้องนำเงินไปลงทุน?  กริดไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี  ชายหนุ่มที่กำลังสับสนได้หยุดเดินท่ามกลางทุ่งข้าวเขียวขจี  เพราะฉากตรงหน้าชวนให้ตกตะลึงจนละสายตาไปไหนไม่ได้

       "นายทำได้แน่!  เด็กใหม่จะมาถึงในอีกหนึ่งชั่วโมง!"

       "ดีล่ะ! พวกเราจะรอเด็กใหม่มา!"

       ฮุย เร่! ฮุย เร่!

       กองทัพชาวนากำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งด้วยเครื่องไม้เครื่องมือหลากหลาย  แต่ในบรรดาคนเหล่านั้นกลับมีผู้เล่นรวมอยู่ด้วย...

       'อะไรกัน?'

       สภาพแวดล้อมทะเลทรายดูดีขึ้นหลายส่วนแล้วเพราะการทำงานอย่างหนักของสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคน  แต่ถึงกระนั้นกำแพงมอนสเตอร์ทะเลทรายที่ขวางกั้นก็ยังสูงตระหง่าน  ไม่มีทางเลยที่จะย่างกรายมาถึงเรย์ดันถ้าหากไม่ใช่ผู้เล่นเลเวล 260 ขึ้นไป  ภายในเรย์ดันจึงแทบไม่มีผู้เล่นคนอื่นนอกจากกิลด์โอเวอร์เกียร์  ส่วนชาวเมืองก็เป็นเอ็นพีซีทั้งหมด  ดังนั้นในสภาพแวดล้อมเลวร้ายเช่นนี้  เหตุใดถึงมีผู้เล่นหลงมาทำฟาร์มในเรย์ดันได้?

       ในขณะที่กริดกำลังสงสัย  ปิอาโร่ที่เป็นทั้งกัปตันกองอัศวินโอเวอร์เกียร์และกัปตันของกองทัพเรย์ดันก็ปรากฏตัวขึ้นในฟาร์ม  เขาเริ่มให้คำแนะนำและสอนสั่งบรรดาผู้เล่นที่กำลังทำฟาร์มอยู่

       "ประสิทธิภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคราดเล็ก  แต่เป็นการใช้ข้อมือ..."
       
       "ดินละเอียดเกินไปรึเปล่า?  ไม่ใช่สักแต่จะหว่านเมล็ดลงไป  ต้นบราวนี่จะเติบโตได้ดีกว่าในดินหยาบร่วน"

       "..."

[ ชาวนาในตำนานได้ถือกำเนิดขึ้น! ]

       กริดย้อนนึกถึงข้อความระบบที่แสดงขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน  เขาผงะไปพักหนึ่งก่อนจะส่ายศีรษะเบาๆ

       "ไม่มีทาง  ปิอาโร่ของเราใฝ่ฝันจะเป็นอริยะดาบให้จงได้  ดังนั้นจึงไม่มีทางกลายเป็นชาวนาแน่นอน"

       กริดฟันธง  แต่ถึงกระนั้นก็ไม่กล้าหยิบดาบของลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ออกมาตรวจสอบรายละเอียด

       'ไว้ค่อยถามเรื่องโล่อะมิทิสคราวหลังดีกว่า...'

       กริดไม่ต้องการพูดกับปิอาโร่ในสถาพที่กำลังสวมหมวกฟางอยู่

       ตึก ตึก

       กริดย่างเท้าอย่างหนักแน่นเดินผ่านปิอาโร่ไป  ในทางกลับกัน  ผู้เล่นจำนวน 21 คนกำลังทำฟาร์มอยู่ภายใต้การควบคุมงานของปิอาโร่

       'บ้าจริง… ฉันเป็นถึงจอมเวทย์อันดับ 55 เชียวนะ  ต้องมาทำฟาร์มหรือนี่?'

       'ทำไมถึงต้องเหวี่ยงคราดเล็กแทนที่จะเป็นดาบด้วยนะ...'

       ผู้เล่นทั้ง 21 คนที่ปิอาโร่จับมาได้ล้วนมีเลเวลสูง  ทั้งหมดอยู่ในช่วง 200 ตอนปลาย   พวกเขามาที่นี่เพื่อหวังเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์  แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าเมืองก็ถูกชาวนาเสียสติขวางไว้เสียก่อน

       ชาวนาเสียสติเป็นใครไปไม่ได้นอกจากปิอาโร่

       ก่อนหน้านี้ปิอาโร่มีความใฝ่ฝันจะเป็นอริยะดาบ  เขาสนุกกับการได้ต่อสู้ผู้เล่นที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน  จึงขวางทางผู้เล่นที่ผ่านไปมาไม่ให้เข้าไปในเรย์ดัน  แต่หลังจากกลายเป็นชาวนาในตำนาน  เจตนาในการกักตัวผู้เล่นของปิอาโร่ก็ต่างออกไป

       "ฉันจะทำให้เรย์ดันกลายเป็นสุดยอดเมืองเกษตรกรรม"

       ปัญหาก็คือ  เทศมนตรีแร็บบิทไม่ยอมให้เงินทุนในด้านเกษตรกรรมเลย  ทำให้ปิอาโร่ขนาดแคลนทรัพยากรมนุษย์อย่างมาก  เพื่อการนั้นแล้ว  เขาจำเป็นต้องหาคนเพิ่มด้วยวิธีของตนเอง

       "หืม?  คราดเล็กไม่ได้ใช้แบบนั้น!"

       "...เฮ่อ"

       เหล่าผู้เล่นที่ถูกปิอาโร่กักตัวไว้ทำได้เพียงถอนหายใจ  แต่การที่พวกเขายังเลือกอยู่ทำฟาร์มต่อไปก็เพราะภารกิจจากปิอาโร่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

=======
[ การฝึกฝนอันแสนเพลิดเพลินและสนุกสนาน! ]
★ภารกิจลับ★
       จงใช้ชีวิตอยู่กับชาวนาปิอาโร่ในเรย์ดัน  หากอยู่กับเขา  ท่านจะมีพัฒนาการที่รุดหน้าก้าวกระโดด
_______
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : อาศัยอยู่กับปิอาโร่ทั้งหมดสามสัปดาห์
ของรางวัลภารกิจ : 
- ค่าสถานะทุกชนิด +10
- ได้รับทักษะ <ทำฟาร์ม>
=======

       แม้ของรางวัลจะดูน้อยถ้าหากเทียบกับภารกิจของดาเมี่ยนและครอเกล  แต่นั่นก็เฉพาะมุมมองของสองคนนั้น  สำหรับผู้เล่นทั่วไป  การเพิ่มค่าสถานะทุกชนิด 10 แต้มนั้นส่งผลใหญ่หลวงมาก

       "ในเรย์ดันมีชาวนาเสียสติอยู่หนึ่งคน  เขาจะเข้ามาท้าสู้และอัดพวกนายจนน่วม  แต่อย่าได้วิ่งหนีออกมาเด็ดขาด  ใช่แล้ว  ถ้าพวกนายสามารถอดทนความยากลำบากและใช้ชีวิตอยู่กับเขาได้  รับรองว่าจะมีเรื่องดีๆ ตามมาแน่"

       ข่าวลือแปลกประหลาดเริ่มแพระกระจายออกสู่อินเทอเน็ต  มันฟังดูราวกับเป็นเรื่องเร้นลับภูติผีที่ไม่มีมูล  แต่สำหรับเจ็ดกิลด์ใหญ่แล้ว  ไม่มีใครที่คิดเช่นนั้น

       "ชาวนาเสียสติ...!"

       หมอนั่นยังเฝ้ายามให้เรย์ดันอยู่อีกรึไง?  ผู้เล่นอันดับสองของโลก  ซีบาล  มันใช้มือลูบไปบนหน้าผากที่ยังรู้สึกเจ็บอยู่

       ***

       คนแรกที่กริดมาหาหลังจากกลับมาถึงเรย์ดันไม่ใช่ไอรีนหรือข่าน  และไม่ใช่ลอเอลหรือแร็บบิทด้วย  

       "เอ๋?  กริดเองหรือ?"

       ลาเอลล่า  หญิงสาวชาวสหราชอาณาจักรสุดสวยที่เป็นไอดอลโด่งดังระดับโลก

       กริดเองก็เคยเป็นแฟนตัวยงของเธอ  แต่ไม่ได้เพราะชื่นชอบในด้านเสียงร้องหรือความงดงามบนใบหน้า  ทว่าเป็นรูปร่างอันอวบอัดสมส่วนที่ตรงกับรสนิยมของเขาทุกประการ  หน้าอกของลาเอลล่าใหญ่มาก  ราวกับเป็นผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ลูกหนึ่งเลยทีเดียว

       "..."

       "นายตามหาฉันทำไมหรือ?"

       กริดยังคงจ้องมองหน้าอกของลาเอลล่าเหมือนกับทุกครั้ง  เธอพลันหน้าแดงก่ำอย่างเขินอายพร้อมกับรีบถามเข้าเรื่อง  เมื่อกริดได้สติกลับมา  เขาจึงแสดงสีหน้าเป็นการเป็นงาน

       "ฉันเพิ่งได้เรียนเวทย์ใหม่มา  อยากทดสอบพลังสักหน่อย"

       ลาเอลล่าคือผู้ดูแลในส่วนของจอมเวทย์ทั้งหมด  ภายในเรย์ดันมีโรงทดสอบพลังเวทย์อยู่  มันถูกใช้สำหรับฝึกซ้อมและประเมินผลเวทย์มนต์ชนิดใหม่  ลอเอลล่าคือผู้ดูแลของที่นี่  กริดจึงอยากเข้าไปใช้งานมัน

       "เวทย์ใหม่?"

       ลาเอลล่าพลันตาลุกวาว  ช่างตีเหล็กใช้เวทย์ได้ด้วยหรือ?

       "นายใช้เวทย์ได้ยังไง...?  อ้อ!  ทำภารกิจของบราฮัมมาสินะ  ได้เรียนเวทย์มนต์โดยตรงจากบราฮัมเชียว...  เป็นเวทย์ชนิดไหนกันน้าา~"

       กริดตอบกลับไปตามตรง

       "ศรเวทย์น่ะ"

       "...อ--อื้ม!  นั่นสินะ"

       ช่างตีเหล็กคงใช้เวทย์มนต์ซับซ้อนไม่ได้แน่  ลาเอลล่าไม่อาจซ่อนสีหน้าที่ผิดหวังไว้ได้  เธอเดินนำทางกริดมายังลานฝึกเวทย์ที่อยู่หลังค่ายทหาร

       "ไฟบอล!"

       "ศรน้ำแข็ง!"

       กลุ่มที่กำลังฝึกฝนเวทย์มนต์อยู่ก่อนคือคนของชนเผ่าอัล  ในอดีตกริดเคยช่วยเหลือชนเผ่าอัลไว้ได้จากการถูกล้างเผ่าพันธุ์  คนเหล่านี้มีพรสวรรค์ด้านเวทย์มนต์สูง  พวกเขากำลังซ้อมใช้เวทย์มนต์อยู่อีกฟากหนึ่งของโรงฝึกเวทย์  ในยามที่กริดกำลังมองกลุ่มชนเผ่าอัลด้วยสายตาชื่นชม  ลาเอลล่าก็ชี้นิ้วไปยังหุนไล่กาสีเงินก่อนจะหันไปพูดกับกริดว่า 

       "หุ่นไล่กาตัวนี้ถูกสร้างขึ้นจากโรงแปรธาตุของเรย์ดัน  พวกมันคือกระสอบทรายที่สามารถตั้งค่าพลังป้องกันเวทย์ได้ตั้งแต่ 0 ถึง 5,000 หน่วย"

       "งั้นก็...  เริ่มจากตั้งค่าพลังป้องกันเวทย์เป็น 0 ให้หน่อย"

       กริดยืนอยู่ด้านหน้าหุ่นไล่กาด้วยท่าทางเตรียมพร้อม  ลาเอลล่าทำการปรับค่าและหันมาให้สัญญาน

       "ตั้งค่าเรียบร้อย"

       "ดีล่ะ!  ศรเวทย์!"

       กริดเล็งฝ่ามือไปยังหุ่นไล่กาและตะโกนขึ้น  ทันใดนั้นลำแสงสีขาวก็พุ่งเข้าปะทะกับหุ่นไล่กาอย่างรวดเร็ว

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 2,894 หน่วย ]

       ด้วยปัจจัยหลายอย่าง  เช่นสมญานาม  ผ้าคลุมมาลาคัส  และต่างหูควอทซ์สีดำ  ทำให้ค่าสติปัญญาของกริดสูงถึง 1,048 หน่วย  พลังโจมตีเวทย์มนต์รวมจึงกลายเป็น 1,258 หน่วย  และด้วยผลอวยพรจากพาเฟรเนี่ยมอีก 15%   ทำให้พลังโจมตีเวทย์สุดท้ายของกริดอยู่ที่ 1,447 หน่วย

       ดังนั้นศรเวทย์(พัฒนา)ที่มีความรุนแรง 200% ของพลังเวทย์ก็ควรสร้างความเสียหายได้ 2,894 หน่วย  และผลก็ออกมาตามที่คาด  ส่วนทางฝั่งลาเอลล่าก็กำลังตกตะลึงสุดขีด

       'รุนแรงเอาเรื่องเลยแฮะ… เขาสวมใส่ไอเท็มเสริมพลังเวทย์อยู่งั้นหรือ?'

       ช่างตีเหล็กคงไม่มีทางนำแต้มสถานะไปลงกับสติปัญญาแน่  ลาเอลล่าคิดว่ากริดคงมีค่าสติปัญญาไม่เกิน 400 แต้ม  ดังนั้นศรเวทย์เลเวลหนึ่งจึงควรสร้างความเสียหายได้ไม่มาก

       ศรเวทย์ของกริดรุนแรงกว่าที่เธอคาดไว้หลายเท่า  แต่คำพูดต่อไปของเขากลับทำให้เธอตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม

       "เพิ่มพลังป้องกันของหุนไล่กาให้เป็นระดับสูงสุด"

       พลังป้องกันเวทย์ 5,000 หน่วย… แม้แต่มอนสเตอร์ระดับบอสก็ยังไม่มีค่าต้านทานเวทย์สูงขนาดนี้  ศรเวทย์ของกริดคงไม่อาจสร้างความเสียหายได้แน่ 

       "ความเสียหายจะกลายเป็นศูนย์เอานะ"

       แต่กริดก็หาได้สนใจ  เขาเร่งเร้าลาเอลล่า

       "เร็วเข้า"

       'การทดสอบที่ไม่เกิดประโยชน์'

       ลาเอลล่าคิดว่ากริดคงตื่นเต้นกับเวทย์ใหม่เกินไปหน่อย  จนไม่รู้จักการทดสอบให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพ  เธอตั้งค่าพลังป้องกันเวทย์ไปที่ 5,000 หน่วยโดยคาดว่ากริดจะต้องแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาแน่   แต่หลังจากนั้น...

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 2,894 หน่วย ]

       "ด--ได้ยังไง...?"

       ลาเอลล่าพลันประหลาดใจทันที  ศรเวทย์ของกริดมองข้ามพลังป้องกันทั้งหมดของเป้าหมายงั้นหรือ?  เรียกสั้นๆ ว่าโกงมาก  ลาเอลล่าสะอึกไปเล็กน้อย  ส่วนกริดก็กำลังแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ

       'ไม่ค่อยเหมาะในการล่าบอสหรือเก็บเลเวลเท่าไรแฮะ...'

       แต่มันก็มีประโยชน์มากกับศัตรูที่มีพลังชีวิตไม่เกิน 10,000 หน่วย  ระยะเวลาร่ายหนึ่งวินาทีและระยะหน่วงห้าวินาที  ถือเป็นทักษะที่มีประโยชน์มากในการดวล1v1

       กริดเผยรอยยิ้มอันแสนชั่วร้าย  แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีใครบางคนมาเยือน  เรียกได้ว่าเป็นแขกที่ไม่คาดฝันเลยทีเดียว

Comments

  1. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  2. สนุกมากครับ ของคุณคนแปลมากครับผม

    ReplyDelete
  3. ผุ้ที่มาเยือนก็คือโชโลยังไงละ!!

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00