จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 296



[ ค่าพลังชีวิต  มานา  และเรี่ยวแรงจะกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้งเนื่องมาจากการอัพเลเวลถึง 300 ]

       มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงเลเวล 100 และ 200...  เมื่อพลังชีวิต  มานา  และค่าเรี่ยวแรงของกริดถูกฟื้นฟูกลับมาเต็ม  สมาชิกปาร์ตี้ต่างพากันดีอกดีใจทันที

       "ยอดมาก"

       กริดยืนอย่างมั่นคงองอาจ  บาดแผลทั้งหมดหายเป็นปลิดทิ้ง  ชายหนุ่มหันไปพูดกับเหล่าแวมไพร์ว่า

       "ให้พวกแกรอซะนานเลยนะ"

       สิทธิประโยชน์ของการตื่นค่าสถานะ  สิ่งนี้ส่งผลยิ่งกว่าที่กริดคาดคิดไว้หลายเท่า  

       ฉั่วะ! ฉึก!

       "...!"

       ฝูงแวมไพร์ต่างพากันตกตะลึง  ผู้เล่นที่มีสภาพร่อแร่เมื่อครู่  ยามนี้กลับโจมตีอย่างมีเรี่ยวแรง  แถมพลังโจมตีก็ยัง...

       "เกิดอะไรขึ้น...?  อ๊ากกก!"

       แวมไพร์ที่อยู่รอบตัวเขากว่า 20 ตนพลันสิ้นชีพในพริบตา  แสงสีน้ำเงินและเขียวส่องสว่างวูบวาบท่ามกลางความมืด  โลหิตสาดกระเซ็นดุจดั่งน้ำพุ  ความตายในดาบเดียว… ความสุดยอดที่ไร้ก้นบึ้ง… ยากจะหาคำใดมาบรรยายกริดในจังหวะนี้  กริดคือที่สุด!  

       "ตายแล้ว… ดูนั่นสิ"

       เจ้าพวกมนุษย์ที่แสนโง่เขลา  ช่างไม่รู้เลยว่ากำลังหันคมดาบใส่ใครอยู่  เป็นภาพที่ไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด  แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ตนหนึ่งที่กำลังจะดื่มเลือดแวนเนอร์  เธอพลันลุกขึ้นและหันมามองกริด  ชื่อของเธอคือเล็กซี่  ผู้มีพลังเวทย์และวิชาโลหิตอันสูงส่ง

       "ขอดื่มเลือดหน่อยแล้วกัน  พันธนาการโลหิต!"

       ซู่วววว!

       เล็กซี่ปลดปล่อยโซ่เลือดออกไปหลายสิบเส้น  มันจะคอยรัดพันตัวกริดทีละนิด  ทักษะนี้คือเวทย์พันธนาการอันทรงพลังที่จะทำร้ายเป้าหมายไปพร้อมกับการพันธนาการ  เป็นการยากที่จะหลบพ้นได้  แต่สิ่งนี้ย่อมไม่ใช่ปัญหาสำหรับกริดในปัจจุบัน

       ความว่องไวและค่าวิสัยทัศน์ที่ลืมตาตื่นขึ้น  กริดอ่านสถานการณ์และตอบโต้อย่างฉับไว  เขาหลบโซ่เลือดสองเส้นแรกอย่างง่ายดาย  หลังจากการก็ใช้วังวนสะท้อนโซ่เลือดกลุ่มที่เหลือกลับไป  โซ่เลือดที่ควรจะรัดตัวกริดให้แน่น  ยามนี้กลับกำลังบีบรัดตัวเล็กซี่แทน

       "กรี๊ดด!"

       ใครจะไปคิดกันว่าจะถูกเวทย์ของตัวเองโจมตี?  เล็กซี่กรีดร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน  กริดที่อยู่ไม่ไกลได้ฉวยโอกาสใช้<ความผิดพลาด>เสียบไปที่หน้าอกเล็กซี่อย่างเลือดเย็น  ในยามนี้  คำว่าปราณีต่อผู้หญิงไม่มีอยู่ในหัวแม้แต่น้อย

       ฉึก!

       "...!"

       ดวงตาเล็กซี่พลันเบิกโพล่ง  มนุษย์อันต่ำต้อยสามารถสร้างบาดแผลให้แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ได้อย่างไร?  ร่างกายพวกมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเล็กกล้า  เล็กซี่จ้องมองแผลบนหน้าอกพร้อมกับรีบใช้เวทย์มนต์

       "บาเรียโลหิต!"

       เธอใช้เลือดจากแผลที่หน้าอกสร้างบาเรียสีแดงขึ้น  เล็กซี่หวังจะฉวยโอกาสนี้สร้างระยะห่างกับกริด  แต่มันช่างเป็นการดิ้นรนที่สูญเปล่า

       เปรี้ยะ!  เพล้งง!

       เมื่อบาเรียสีแดงถูกดาบสีเขียวฟันจนแหลกละเอียด  กริดก็ตามต่อด้วยวิชาดาบ<สังหาร>ทันที

       "ได้ยังไง...?"

       เล็กซี่คิดหลบ  เธอรีบเปลี่ยนร่างกายให้เป็นหมอกควัน  ก่อนที่ดาบใหญ่อันน่ากลัวนั่นจะแทงตรงมายังใบหน้าอันงดงามของเธอ

       ฉึก!

       หอกไลฟาเอลสีทอง  ก่อนหน้านี้มันคอยวนอยู่รอบกริดเพื่อปกป้อง  แต่ยามนี้มันบินมาแทงใส่เล็กซี่จนเธอต้องกลับร่างจริง

       "กรี๊ดดด!"

       เล็กซี่รีบนำมือทั้งสองมาบังใบหน้าไว้  แม้จะดูน่าสมเพช  แต่ผิวกายของแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์นั้นแข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้า  ในยามปรกติ  มันอาจเป็นโล่ชั้นดีที่สุด  แต่คราวนี้  มันไม่ต่างอะไรกับกระดาษบางแผ่นหนึ่ง  เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าความทรงพลังของวิชดาบแพ็กม่า<สังหาร>ที่ใช้โดย<ดาบใหญ่เลียนแบบ>

       เปรี้ยงงง!

       โผละ!

       มีเสียงบางอย่างระเบิดออกเบาๆ ราวกับลูกแตงโมถูกรถทับ

       แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์อาจมีชีวิตเป็นนิรันดร์ก็จริง  แต่พวกมันก็ไม่สามารถมีชีวิตต่อได้ถ้าหากไร้ศีรษะ  ร่างที่ไร้หัวของเล็กซี่ทรุดลงประหนึ่งหุ่นกระบอกถูกตัดเชือก  

[ ท่านสังหารแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์  เล็กซี่ ]

[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 56,901,500 หน่วย ]

[ ท่านได้รับไอเท็ม <ชิ้นส่วนที่หกของ ???> ]

[ ท่านได้รับไอเท็ม <แหวนแวมไพร์ระดับกลาง> ]

       กริดไม่รู้ว่า <ชิ้นส่วนของ ???> นั้นดีหรือไม่  เขารู้เพียงแค่  มันใช้วัสดุแบบเดียวกับดาบยารุกต์ของเอลฟิน-สโตน  กริดไม่รู้เลยว่าชิ้นส่วนประหลาดนี้มีมูลค่ามากแค่ไหนกัน  

       ทว่า… กับแหวนแวมไพร์ระดับกลางนั้นไม่ใช่ 

=======

[ แหวนแวมไพร์ระดับกลาง ]

เกรด : ยูนีค

_______

* ขณะโจมตีธรรมดา  ความเสียหายที่สร้างขึ้น 10% จะถูกนำมาเปลี่ยนให้เป็นพลังชีวิต

* เอฟเฟคนี้จะแสดงผลทุกๆ 12 วินาที

_______

       แหวนแวมไพร์ที่มีพลังเวทย์ประหลาดอัดแน่นอยู่

       มันจะช่วยทำห้ผู้สวมใส่อยู่รอดในการต่อสู้ได้นานขึ้น

_______

เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 320 หรือสูงกว่า

น้ำหนัก : 1

=======

       มันดูดเลือดได้มากกว่าแหวนแวมไพร์จูเนียร์ 5% แถมระยะเวลาแสดงผลของเอฟเฟคก็น้อยกว่าถึงสามวินาที  กริดรีบนำมันมาสวมโดยไม่ลังเล  น่าเสียดายเล็กน้อยที่ผลของมันไม่ซ้อนทับกับแหวนแวมไพร์จูเนียร์

       "ดีใจจนพูดไม่ออกเลยแฮะ"

       เครื่องประดับแวมไพร์นั้นมีมูลค่าสูงมาก  พวกมันหายาก  ดังนั้น  แหวนแวมไพร์ระดับกลางจะต้องมีราคาทะยานฟ้าแน่นอน

       สวบ  สวบ

       กริดเดินมาเผชิญหน้ากับฝูงแวมไพร์ตามลำพัง  เขายืนบังทุกคนไว้ไม่ให้พวกมันโจมตีสมาชิกที่เหลือได้

       "พวกนายคงลำบากเพราะฉันไม่น้อย  ตอนนี้ถึงเวลาพักผ่อนแล้ว"

       "..."

       ทุกคนต่างตกตะลึงกับฉากตรงหน้า  ความแข็งแกร่งของกริดมีมากกว่าที่พวกเขาคิดไว้  กริดก้าวเข้ามาอยู่ในระดับนี้ทันทีที่เลเวลอัพถึง 300 งั้นหรือ?  ค่าสถานะของกริดมีเท่าไรกันแน่?  

       "เจ้าบ้านี่!!"

       ความสนใจทั้งหมดของแวมไพร์ตกมาอยู่กับกริดทันทีที่เขาฆ่าเล็กซี่  แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์อีกสองตนก็เช่นกัน  สีหน้าของสมาชิกโอเวอร์เกียร์พลันเป็นกังวล  แต่กับกริดนั้นไม่  เขากำลังแสยะยิ้มอย่างดีใจที่เหยื่อวิ่งเข้ามาหาเองโดยไม่ต้องออกแรง  เอลฟิน-สโตนล่ามนุษย์เพื่อความสนุกฉันใด  กริดในตอนนี้ก็ล่าแวมไพร์เพื่อความสนุกฉันนั้น

       "วิชาดาบแพ็กม่า… คลื่น"

       ซ่าาา!

       คลื่นพลังดาบแผ่ออกไปทุกทิศทาง  ฝูงแวมไพร์ที่ได้รับความเสียหายต่างแสดงสีหน้าเจ็บปวด  และมีอีกสิ่งหนึ่งที่พวกมันได้รับรู้  มนุษย์ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่เป็นรอง  ความสามารถที่แท้จริงของมนุษย์นั้นอยู่สูงกว่าแวมไพร์เสียอีก  ไม่ใช้เผ่าพันธุ์ต่ำต้อยที่จะดูแคลนได้เหมือนกับวัวควาย

       ***

       จอมเวทย์มืดนั้นเก็บเลเวลตามลำพังได้ลำบากมาก  ทักษะส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปในทางสร้างอาการผิดปรกติให้ศัตรู  การออกล่าคนเดียวของจอมเวทย์มืดก็ไม่ต่างอะไรกับการบำเพ็ญทุกรกริยา  ดังนั้น  จอมเวทย์มืดส่วนใหญ่จึงเน้นเก็บเลเวลแบบเป็นปาร์ตี้

       แต่สภาพแวดล้อมของซาทิสฟายก็ไม่อำนวยนัก  ปาร์ตี้ส่วนใหญ่ต้องการคลาสที่บัฟได้มากกว่าคลาสที่สร้างอาการผิดปรกติ  จอมเวทย์มืดจึงไม่ค่อยเป็นที่ต้องการ  ทำให้ในอันดับแร้งเกอร์จึงแทบไม่มีคลาสนี้ปรากฏอยู่เลย

       ยูร่าคือกรณีพิเศษ  เธอคือสิ่งมีชีวิตปริศนาที่สามารถรั้งอันดับห้าของโลกไว้ได้ตลอดมาโดยไม่ถูกสั่นคลอน  แม้ว่าจะเป็นคลาสที่เล่นยากอย่างจอมเวทย์มืดก็ตาม  เธอถือเป็นคนพิเศษ  อัจฉริยะเหนืออัจริยะ  ยูร่าถูกยกยอเช่นนี้อยู่เสมอ  แถมยังมีผู้คนอีกมากที่ต้องการเป็นแบบเธอ

       คนที่สุดยอดเช่นนั้นได้มาเยือนเรย์ดัน  ลอเอลและสมาชิกโอเวอร์เกียร์จึงอดตื่นเต้นไม่ได้

       "สายลมใดกัน  ที่พัดพาอัจฉริยะอย่างเธอมายังเมืองเล็กๆ ห่างไกลผู้คนเช่นนี้ได้?"  ลอเอลถามอย่างสุภาพ

       ลอเอลเองก็ชื่นชมยูร่าไม่น้อย  จะมีผู้ชายสักกี่คน  ที่ไม่สนใจหญิงสาวซึ่งงดงามระดับโลกแถมยังเป็นท็อปแร้งเกอร์ในเวลาเดียวกัน?  ยูร่าอมยิ้มอย่างสดใสให้กับสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่กำลังดวงตาเป็นประกาย

       โอ้วแม่เจ้า… ทั้งงดงามและเจิดจ้า  ผู้หญิงคนนี้สามารถยุติทุกสงครามบนโลกได้แน่นอน 

       "ฉันอยากจะเข้าโอเวอร์เกียร์  ยองวู--  เอ่อ… กริดสัญญากับฉันไว้แล้ว  ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามเขาดูได้"

       "...!"

       รอยยิ้มของยูร่าสะกดทุกคนในห้องจนเกือบลืมหายใจ  พวกเขาต่างแสดงสีหน้ายินดีเป็นที่สุด  หนึ่งในสุดยอดผู้เล่นโซโล่ของโลกนอกจากครอเกลและแอ็กนัส… ยูร่า  เธอกำลังขอเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์งั้นหรือ?  ทุกคนดีใจจนพูดอะไรไม่ออก

       "ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง!"  ลอเอลโพล่งขึ้น

       ยูร่ารู้สึกว่า  คำพูดของลอเอลช่างเหมือนกับกริดในวันนั้นเหลือเกิน   หากลอเอลรู้ว่ายูร่ากำลังคิดอะไรอยู่  เขาคงตกตะลึงไปพักใหญ่แน่  แต่นี่คือความจริง  ยิ่งลอเอลใช้เวลาอยู่กับกริดมากเท่าใด  เขาก็ยิ่งคล้ายกริดมากเท่านั้น

       ลอเอลชื่นชอบในตัวกริดมากก็จริง… แต่เขาก็ไม่อยากเป็นแบบกริด

       ไม่เลย… ไม่สักนิด  

       ***

       ในที่สุด  การต่อสู้อันน่าตื่นเต้นก็จบลง

       "ยอดมาก!"

       "กริด  นายเท่ที่สุด!"

       "สมกับเป็นก็อดกริด!  พวกนายรู้จักก็อดกริดรึเปล่า?"

       "นั่นคือประโยคภาษาอังกฤษเดียวที่นายพูดเป็นรึไงกัน...?"

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์สามารถรอดจากการถูกกวาดเรียบมาได้เพราะกริด  แต่บรรยากาศดีๆ นั้นคงอยู่ได้ไม่นาน  ไม่มีใครปฏิเสธว่ากริดแข็งแกร่ง  แต่เขาสามารถเอาชนะเอลฟิน-สโตนได้จริงหรือ?

       กริดหันไปพูดกับสมาชิกที่กำลังมีสีหน้าเป็นกังวล

       "อย่ามัวเครียดอยู่เลย  เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่เอลฟิน-สโตนจะปรากฏตัว  เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ  ทุกคนต้องพักผ่อนเก็บเรี่ยวแรงให้ได้มากที่สุด"

       ณ ตอนนี้  คนที่มีสภาพแย่ที่สุดคือกริด  แม้สมาชิกโอเวอร์เกียร์จะคอยโจมตีสนับสนุนอยู่ด้านหลัง  แต่กริดก็ต้องเผชิญหน้าแวมไพร์กว่าร้อยตนตามลำพัง  ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล  แถมความคงทนของไอเท็มก็ลดต่ำลงมาก

       กริดเองก็นึกสงสัย  ว่าตนจะฟื้นคู่ค่าเรี่ยวแรงกลับมาทันเอลฟิน-สโตนปรากฏตัวจริงหรือ?  แต่กริดก็ยังมีไพ่ตายอยู่

=======

[ ผสานไอเท็ม ]

       ท่านสามารถผสานไอเท็มสองชนิดที่มีค่าความเข้าใจ 100% ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นได้

       ประสิทธิภาพของไอเท็มผสานจะขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้ของไอเท็มทั้งสอง

_______

* ไอเท็มที่ผสานกันแล้วจะคงอยู่ในสถานะนั้นได้สองนาที  เมื่อหมดเวลา  ไอเท็มจะกลับสู่สภาพเดิมพร้อมกับความคงทนที่ลดลง 50 หน่วย  

* ระยะเวลาที่ใช้ในการผสานจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างของไอเท็มทั้งสอง

_______

มานาที่ใช้ : 1,000 

ระยะหน่วงหลังใช้ : 6 ชั่วโมง

=======

       จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาผสาน<ความผิดพลาด>เข้ากับ<หอกไลฟาเอล>?

       'มันจะกลายเป็นอาวุธที่สุดยอดมาก  ถ้าหากข้อดีของอาวุธทั้งสองถูกนำมารวมกัน'

       กริดเชื่อมั่นว่า  ตนจะสามารถผสานอาวุธที่ดีที่สุดเพื่อล้มเอลฟิน-สโตนได้  แต่ต้องจำใส่ใจไว้ให้ดี  ว่าไอเท็มผสานจะมีผลอยู่เพียงสองนาทีเท่านั้น  แถมระยะเวลาในการผสานก็ยังไม่ระบุไว้ชัดเจน  

       'ถ้าได้ทดสอบก่อนก็คงดีไม่น้อย'

       เมื่อได้รับทักษะใหม่  ผู้เล่นมักเกิดความตื่นเต้นอยากลองเสมอ  กริดอยากทดสอบการผสานไอเท็มเสียประเดี๋ยวนี้  แต่เขาก็ทำไม่ได้  เพราะระยะหน่วงคือหกชั่วโมง  แต่เอลฟิน-สโตนจะปรากฏตัวในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า  เขาจึงต้องเก็บไพ่ตายนี้ไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้

       'ช่างเถอะ  ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี  เรายอดเยี่ยมที่สุดอยู่แล้ว'

       ความมั่นใจในตนเองได้ทำให้เขาผ่อนคลายจากความกังวล  ชายหนุ่มเริ่มทำการซ่อมแซมไอเท็ม  

       เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วก่อนที่เอลฟิน-สโตนจะปรากฏตัว

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00