จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 291


[ แวมไพร์จูเนียร์ถูกสังหาร ]

[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 4,901,000 หน่วย ]

[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 4,855,000 หน่วย ]

[ แวมไพร์ระดับกลางถูกสังหาร ]

[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 6,954,300 หน่วย ]

[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 6,899,000 หน่วย ]

       ค่าประสบการณ์จากแวมไพร์สูงกว่าที่คาดไว้  มันมากกว่ามอนสเตอร์ทะเลทรายราวสามเท่าเลยทีเดียว  โดยแม้ส่วนหนึ่งจะถูกสมาชิกโอเวอร์เกียร์หารออกไปเล็กน้อยจากการสร้างความเสียหายแล้วก็ตาม

       นั่นเป็นผลมาจากโพชั่นบัฟค่าประสบการณ์

       'ค่าชื่อเสียงถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า!'

       ในที่สุดเขาก็ได้เห็นคุณค่าของแต้มชื่อเสียง 25,000 ที่เสียไป  แต่กริดก็ไม่คิดจะสุ่มมันอีกแล้วในชีวิตนี้

       'พอกันทีกับพริกไทยแดง'

       กริดลั่นวาจาในใจ  แต่การต่อสู้ตรงหน้ายังไม่เป็นไปตามที่คิดนัก  มีแวมไพร์หลายตัวพยายามดื้นรนขัดขืนจนน่ารำคาญ

       "กลืนโลหิต!"

       "ศรความมืด!"

       เหล่าแวมไพร์คาดว่า  พวกมันไม่อาจเอาชนะกริดในการสู้ระยะประชิดได้แน่  จึงถอยออกห่างพร้อมกับระดมยิงเวทย์เข้าไปใส่จากระยะไกลแทน  ด้วยเหตุนี้  บาดแผลของกริดจึงมีมากขึ้นเรื่อยๆ    แม้ว่าจะมีสองสุดยอดไอเท็มคอยช่วยเหลือแล้วก็ตาม  ชุดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถสลายเวทย์มืดได้ในบางครั้ง  และหอกไลฟาเอลสีทองคอยช่วยโจมตีแวมไพร์ตัวที่กลายร่างเป็นหมอกควัน

       ถ้าหากไม่มีไอเท็มพวกนี้ล่ะก็  กริดคงได้กลายเป็นซากศพที่เย็นชืดไปนานแล้ว  แวมไพร์นั้นแข็งแกร่งมาก  ความสามารถของแต่ละตัวแตกต่างกันออกไป  ทุกตัวล้วนแล้วแต่เก่งกาจกว่าอัศวินทมิฬ  โดยเฉพาะแวมไพร์ตัวที่ใช้ทักษะกลืนโลหิต  พวกมันคอยฟื้นฟูพลังชีวิตตนเองเรื่อยๆ จนน่ารำคาญ  วิธีเดียวที่จะกำราบให้อยู่หมัด  คือการซัดให้ตายคาที       

       "วิชาดาบแพ็กม่า… ร่ายรำ!"

       ทักษะผสานอย่าง <ร่ายรำสังหาร> และ <มายาร่ายรำ>  เมื่อพวกมันเลเวลอัพ  ออปชั่นที่เสริมเข้ามาก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้น  ตัวอย่างเช่น  มายาร่ายรำจะได้รับคุณสมบัติในการทะลวงผ่านเมื่อกลายเป็นเลเวลสาม  แต่ในทางกลับกัน  ทักษะพื้นฐานที่มีมาตั้งแต่ต้นอย่าง <สังหาร>  <ร่ายรำ>  และ <คลื่น>  พวกมันจะเพิ่มแค่ความรุนแรงเท่านั้นในตอนที่เลเวลอัพ

       ดังนั้น  แม้ร่ายรำจะมีเลเวลที่สูงถึงระดับห้า  แต่ก็ยังไม่ทรงพลังเท่ากับทักษะผสานเลเวลหนึ่งด้วยซ้ำ  ถ้าแวมไพร์มีพลังชีวิตเต็มหลอด  ไม่มีทางเลยที่พวกมันจะถูกโค่นด้วยร่ายรำ  แต่ตอนนี้ไม่ใช่  พวกมันกำลังบางเจ็บปางตาย  จึงถูกดาบใหญ่ของกริดเฉือนเข้าอย่างโหดเหี้ยมทารุน

       ชิ้งงง!

       เมื่อแวมไพร์ 50 จาก 200 ตัวตายไป  เสาลำแสงสีขาวก็ส่องสว่างรอบตัวกริดในทันที

[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น ]

[ ท่านได้รับค่าสถานะสิบแต้ม]

       ในตอนที่ย่างกรายเข้ามาในอาคารหลังนี้  เลเวลของกริดก็ใกล้จะอัพเต็มทีแล้ว  ตอนนี้กริดมีเลเวล 297  ยังเหลืออีกสามเลเวลกว่าจะไปถึง 300 ตามที่เป้าหมายต้องการ

       "จัดสรรแต้มสถานะ"

       กริดนำทั้งสิบแต้มไปลงกับค่าความว่องไวเช่นเดิม  โดยเขาใช้ค่าสถานะของนักดาบผู้ยิ่งใหญ่อย่างปิอาโร่เป็นต้นแบบ

       พละกำลัง 1 : ความว่องไว : ความอดทน 0.7

       ปิอาโร่ต้องการจะเป็นอิรยะดาบ  ดังนั้นแต้มสถานะของเขาจึงไม่มีทางผิดพลาด  กริดมั่นใจมากว่านี่คือสัดส่วนทองคำที่เหมาะสมจะเป็นสุดยอดนักดาบ  และเขาก็เดาไม่ผิด  ยิ่งควางว่องไวของกริดใกล้เคียงกับค่าพละกำลังมากขึ้น  เขาก็ยิ่งสำแดงฝีมือดาบออกมาได้เต็มที่

       ฉั่วะ!  ฉึก!

       "อ๊ากกกก!"

       ทั้งความรุนแรงและความเร็วในการโจมตีของกริดเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน  การแทงและฟัน  สองสิ่งนี้ได้นำพาให้เหล่าแวมไพร์ไปสู่ความตายอย่างรวดเร็ว

[ ท่านได้รับไอเท็ม <เสื้อเทลโค้ตอย่างดี> ]

[ ท่านได้รับไอเท็ม <แหวนแวมไพร์จูเนียร์> ]

=======

[ เสื้อเทลโค้ตอย่างดี ]

เกรด : อีปิก

ความคงทน : 120/120

พลังป้องกัน : 301

* ความน่าหลงไหล +50

_______

       ไอเท็มจำเป็นสำหรับแวมไพร์ที่ต้องการดูดี

       เสื้อเทลโค้ตตัวนี้มีความยอดเยี่ยมจนเตะตาของทุกคน  ด้วยพลังป้องกันที่สูง  มันจึงเหมาะสำหรับใช้ในการป้องกันตัว

_______

เงื่อนไขการสวมใส่ : 

- เลเวล 300 หรือสูงกว่า

- เป็นเพศชาย

น้ำหนัก : 120

=======

=======

[ แหวนแวมไพร์จูเนียร์ ]

เกรด : อีปิก

* เมื่อทำการโจมตีธรรมดา  ความเสียหายที่สร้างขึ้น 5% จะถูกนำมาฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับท่าน

* เอฟเฟคนี้จะแสดงผลในทุก 15 วินาที

_______

       แหวนของแวมไพร์ที่มีพลังเวทย์มนต์แฝงอยู่

       เป็นแหวนที่แวมไพร์จูเนียร์สวมใส่  คุณสมบัติของมันจึงจัดว่าด้อยกว่าปรกติ  แต่นั่นก็มากพอที่จะช่วยยื้อชีวิตให้กับผู้สวมใส่

_______

เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 280 หรือสูงกว่า

น้ำหนัก : 1

=======

       อัตราดรอปไอเท็มของแวมไพร์มีต่ำมาก  กว่าเขาจะได้รับไอเท็มชิ้นแรก  ก็หลังจากที่ฆ่าแวมไพร์ไปแล้ว 30 ถึง 40 ตัว  ถือว่าดรอปยากจนน่าใจหาย  แต่สิ่งที่ดรอปมาก็นับว่ามีมูลค่ามหาศาลเช่นกัน

       'เครื่องประดับแวมไพร์!'

       เครื่องประดับชิ้นต่างๆ ของแวมไพร์จะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถยื้อชีวิตได้นานขึ้น  นับเป็นกลุ่มเครื่องประดับที่หายากมาก  นี่คือครั้งแรกที่กริดได้ครอบครองเครื่องประดับแวมไพร์เป็นของตน

       'ไหนลองทดสอบดูหน่อย'

[ ท่านสวมใส่ <แหวนแวมไพร์จูเนียร์> ]

       ฉึก!  ฉึก!

       "อ๊ากกก!"

       "นี่ฉัน...!  พ่ายแพ้มนุษย์...!"

       หลังจากที่แวมไพร์ถูกหอกไลฟาเอลเสียบ  กริดก็รีบเหวี่ยง <ความผิดพลาด>  และ <ดาบใหญ่เลียนแบบ> ในมือเข้าโจมตีพร้อมกันทันที  บาดแผลตามร่างกายของเขาเริ่มฟื้นฟูทีละนิด  ผลจากออปชั่นเพิ่มอัตราฟื้นฟูพลังชีวิต 300% ของเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ได้ผสานกับแหวนแวมไพร์ได้อย่างน่ามหัศจรรย์

[ คริติคอล! ]

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 9,300 หน่วย ]

[ เอฟเฟคของ <แหวนแวมไพร์จูเนียร์> แสดงผล  ความเสียหายที่สร้างขึ้น 5% จะถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังชีวิตของท่าน ]

[ ออปชั่นของ <เกราะแสงศักดิ์สิทธิ์> แสดงผล  เพิ่มอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิต 300% ]

[ พลังชีวิตของท่านเพิ่มขึ้น 1,350 หน่วย ]

       แม้ว่าจะทำงานทุก 15 วินาที  แต่สำหรับกริด  เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว  ในบางครั้ง  ทักษะ <โจมตีห้าเท่า> จากถุงมือแสงศักดิ์สิทธิ์ก็แสดงผลออกมาพร้อมกัน  ทำให้พลังชีวิตของกริดหลุดพ้นจากสถานการณ์น่าเป็นห่วงมาได้  นับเป็นแหวนที่เหมาะสมกับกริดผู้ซึ่งมีพลังโจมตีสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

       "หึหึหึ!  วะฮ่าฮ่าฮ่า!"

       "อ--อึ๋ย!"

       "น--นักล่าแวมไพร์!"

       กริดระเบิดเสียงหัวเราะอย่างสะใจในขณะที่สวมหน้ากากและผ้าปิดตาเพชฆาตอยู่  ฉากอันน่าขนลุกนี้ได้ทำให้เหล่าแวมไพร์ต่างรู้สึกหวาดกลัว  สถานการณ์พลิกกลับแล้วแวมไพร์ที่อยู่ชั้นล่างทั้งหมดต้องตกเป็นเหยื่อของกริดในพริบตา  พวกมันมอบค่าประสบการณ์และไอเท็มให้เขาอีกมากมาย

       กว่าจะรู้ตัว  หลอดค่าประสบการณ์ของกริดก็พุ่งทะยานเกิน 20% ไปอย่างรวดเร็วหลังจากเลเวลอัพ  แต่กริดก็วางใจไม่ได้  เขายังเป็นกังวลว่าเอลฟิน-สโตนจะปรากฏตัวออกมาลอบโจมตี  แถมแวมไพร์ที่อยู่ชั้นบนก็เริ่มตื่นขึ้น  แน่นอนว่าพวกมันมีเลเวลที่สูงกว่าแวมไพร์ชั้นล่าง

       "หยุดแค่นี้แหละ!"

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ยืนอยู่ตรงบันไดเพื่อขวางไม่ให้แวมไพร์ลงบันไดมาได้  แทนที่พวกเขาจะบุกตะลุยเข้าไปฆ่า  แต่กลับเลือกใช้โซนป้องกันเพื่อยื้อเวลาให้กริดได้พักหายใจและเติมพลังชีวิต  กริดรู้สึกขอบคุณจากใจ  เขาสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม

       ในขณะเดียวกัน  แวนเนอร์ก็กลับเข้าสู่ขุมนรกอีกครั้ง

       "อึก!  ถึงตาฉันอีกแล้วสินะ!"

       ฉึก! ผั่วะ!

       แวนเนอร์ได้แต่สาปแช่งผ้าคลุมมาลาคัสอยู่ในใจ  ไม่สิ  เขากำลังตัดพ้อว่าทำไมตนถึงเลือกเล่นคลาสสายแทงค์  สิ่งนี้ไม่เหมาะกับเขาเลยสักนิด  แถมในตอนต้น  แวนเนอร์ยังเล่นคลาสผู้พิทักษ์มาผิดทาง  อันที่จริง  เขาอยากจะลบตัวแล้วเล่นใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด  ในขณะที่กำลังนึกเสียดายอยู่ในใจ  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ก็ลดพลังชีวิตของแวมไพร์ไปหลายส่วน  

       จบด้วยการที่กริดลุกขึ้นมาปิดบัญชีและได้รับค่าประสบการณ์เกือบทั้งหมดไป

       คณะล่าพาเฟรเนี่ยมใช้เวลาครึ่งวันในการเคลียร์อาคารหลังแรก  ค่าประสบการณ์ของกริดเพิ่มขึ้นกลายมาเป็น 60% แล้ว  ถือเป็นความเร็วที่น่าตกตะลึงเมื่อนำไปเทียบกับสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นที่เคยเก็บเลเวลมา  สมัยที่ตนมีเลเวล 297  พวกเขาต้องใช้เวลานานถึงสองสัปดาห์เต็มกว่าจะอัพเป็น 298

       "เร็วกว่าที่คิดไว้อีกนะ"

       "แน่นอนอยู่แล้ว  เจ็ดคนในพวกเราเป็นถึงแร้งเกอร์ท็อป 20   แถมยังมีสุดยอดบัฟจากฮิวรอย"

       "ถูกต้อง  ถ้าหากพวกเราเคลียร์อาคารได้อีกสี่หลัง  เลเวลของนายก็คงจะถึง 299 ได้ไม่ยาก"

       "แต่ของจริงจะเริ่มขึ้นเมื่อถึงเลเวล 299  จำนวนค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการอัพเป็นเลเวล 300  มีสูงกว่าตอนเลเวล 298 ไป 299 ราวสองเท่า"

       "หากคำนวนจากการที่พวกเราเคลียร์อาคารหนึ่งหลังได้ภายในครึ่งวัน… นายจะสามารถอัพเลเวลถึง 300 ได้ในห้าวันสินะ?"

       "นั่นก็ต่อเมื่อเอลฟิน-สโตนไม่ปรากฏตัวเลย"

       "..."

       จุดสำคัญก็คือ  เอลฟิน-สโตนจะเลือกใช้ทักษะใส่ใคร  แวนเนอร์และฮิวรอยมีทักษะอมตะที่สามารถเอาชีวิตรอดได้ก็จริง  แต่คนที่เหลือไม่มี

       "ถ้าตายไปหนึ่งคน  สมดุลของปาร์ตี้เราก็จะเสีย  ความเร็วในการล่าแวมไพร์ก็จะลดลงแน่นอน"

       "นั่นสินะ… ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับดวง  ว่าแต่  หมอนั่นหายไปนานแล้วใช่ไหม?"

       ผ่านไปแล้วครึ่งวันหลังจากเอลฟิน-สโตนปรากฏตัว  ถือว่าค่อนข้างนานถ้าคำนึกถึงคำพูดที่มันบอกว่าจะกลับมาอีกครั้งในไม่ช้า

       "ช่างเถอะ  ยิ่งช้าเท่าไรก็ยิ่งดี"

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์รีบย้ายตัวเองไปยังอาคารถัดไป  ภายในอาคารแห่งนี้  แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์สองตนได้ปรากฏตัวขึ้น

[ แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ : โบรัส ]

[ แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ : รูจูล ]

       สำหรับมอนสเตอร์ที่มีชื่อเป็นของตัวเอง  แน่นอนว่าพวกมันย่อมแข็งแกร่ง  แม้แต่อัศวินสีชาดลำดับ 19 อย่างฟูลิโต้ยังเทียบไม่ติด  แถมพวกมันสองตนก็ยังมีบริวารอีกมากมายคอยรับใช้  แวนเนอร์กำลังตกอยู่ในวิกฤติสุดขีด  ทักษะอมตะที่มีระยะหน่วงนานถูกฝืนใช้ออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้  กว่าเขาจะใช้มันได้อีกครั้ง  แวนเนอร์ต้องรอนานถึง 48 ชั่วโมงเลยทีเดียว  อีกหนึ่งไพ่ตายที่ใช้รับมือกับเอลฟิน-สโตนถูกทิ้งไปแล้ว

       กำลังใจของปาร์ตี้ไม่ค่อยดีนัก  ฮิวรอยพยายามปลอบใจทุกคน

       "ไม่ต้องห่วง  คราวหน้าที่เอลฟิน-สโตนปรากฏตัว  ฉันจะล่อความสนใจให้เอง"

       ในทางปฏิบัติ  สิ่งนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย  เอลฟิน-สโตนจะปรากฏตัวและใช้ทักษะทันที  ไม่มีทางที่ใครจะมีเวลาพอดึงความสนใจได้  แต่ฮิวรอยก็เชื่อมั่นในทักษะการพูดของตน

       "คำพูดเร็วกว่าการกระทำเสมอ  ฉันจะดึงความสนใจของมันได้ก่อนที่จะใช้ทักษะออกมา"

       "..."

       อีกไม่ช้าก็เร็ว  เอลฟิน-สโตนจะต้องถูกฮิวรอยด่าพ่อล่อแม่  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ในที่นี้รู้จักฮิวรอยเป็นอย่างดี  พวกเขาดีใจมากที่ไม่ต้องเป็นศัตรูกับชายคนนี้  เพียงแค่คิดว่าฮิวรอยจะพูดอะไรออกไปบ้าง  ทุกคนก็หน้าซีดไปเล็กน้อย

[ แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์  โบรัส  ถูกสังหาร ]

[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 44,690,500 หน่วย ]

[ ท่านได้รับไอเท็ม <ทับทิมบริสุทธิ์> ]

[ แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์  รูจูล  ถูกสังหาร ]

[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 45,900,000 หน่วย ]

[ ท่านได้รับไอเท็ม <ชิ้นส่วนที่สามของ ???> ]

=======

[ ทับทิมบริสุทธิ์ ]

       อัญมณีที่ใช้ในการสร้างเครื่องประดับชั้นสูง

_______

น้ำหนัก : 2

=======

=======

[ ชิ้นส่วนที่สามของ ??? ]

       ไอเท็มที่ยังไม่ทราบว่าเป็นชิ้นส่วนของสิ่งใด

       ต้องรวบรวมให้ได้อย่างน้อยสามชิ้นเพื่อเบาะแสที่มากขึ้น

_______

น้ำหนัก : 15

=======

       ไปแล้วกับอาคารที่สอง  กริดได้รับความช่วยเหลือจากผองเพื่อนจนสามารถฆ่าแวมไพร์ 150 ตน  และแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์อีกสองตนได้สำเร็จ  เลเวลของเขากลายเป็น 298 อย่างรวดเร็ว  แต่สีหน้าของกริดก็ไม่ได้ยินดีมากนัก

       'แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์มีโอกาสดรอปโอสถ'

       การดื่มโอสถจะทำให้แต้มสถานะเพิ่มขึ้นอย่างถาวร  แถมบรรดาแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ยังมีโอกาสดรอปเครื่องประดับแวมไพร์ชั้นสูง  กริดมั่นใจมากว่า  ไอเท็ม <ชิ้นส่วนที่สามของ ???> จะต้องมีมูลค่ามหาศาล  แต่เขาก็ยังไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของมันอยู่ดี

       มีหน้าต่างข้อความระบบได้แสดงขึ้นต่อหน้ากริด

[ ระยะหน่วงของทักษะจากสมญานาม <ผู้ที่กลายเป็นตำนาน> หมดลงแล้ว ]

       ประกันชีวิตของกริดกลับมาอีกครั้ง

       'ดีล่ะ  เราสามารถสู้ได้อย่างสบายใจมากขึ้น'

       กริดต่อสู้ด้วยความรู้สึกเกร็งเล็กน้อยเมื่อไม่มีประกันชีวิต  

       ในขณะที่เขากำลังใจชื้น....

       "ฉันเคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือ?  ว่าจะกลับมาหาพวกแกอีกครั้ง"

       น้ำเสียงอันน่าขนลุกได้ดังก้องในหัวกริดและทุกคน

[ ผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ที่ 13  แวมไพร์เอิร์ล  เอลฟิน-สโตน  ปรากฏตัว ]

[ พลังอันแสนชั่วร้ายได้แพร่กระจายออกมาจนทำให้พลังเวทย์ของท่านปั่นป่วน  ทักษะและเวทย์มนต์ทุกชนิดจะไม่สามารถใช้การได้ ]

[ แววตาของแวมไพร์จะสะกดสิ่งมีชีวิตที่มีระดับต่ำกว่า  ร่างกายของท่านจะถูกสะกดข่มอย่างรุนแรง ]

       "เอลฟิน-สโตน!"

       เมื่อมันกลับมาอีกครั้ง  ฮิวรอยจึงรีบเปิดปากพูด

       "อะ--..."

       แต่ดูเหมือนในคราวนี้  การกระทำจะไวกว่าคำพูด  ฮิวรอยยังไม่ทันจะพูดออกมาเป็นคำ  ร่างของกริดก็ถูกหมอกโลหิตกลืนกินเข้าไปอีกครั้ง  เอลฟิน-สโตนเห็นดังนั้นจึงแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น

       "แล้วฉันจะกลับมาใหม่อีกครั้งในไม่ช้า... พวกแกจะถูกฆ่าอีกหนึ่งคน…  และอีกหนึ่งคน!  สิ่งนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ จนพวกแกตกอยู่ในความหวาดกลัวสุดขีด!"

       ซู่ววว!

       เอลฟิน-สโตนหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน  กริดกำลังยืนสั่นระริกท่ามกลางหมอกโลหิตที่ค่อยๆ จางลง

       "บัดซบ!"

       ทำไมมันถึงจ้องเล่นงานกริด?  ใจหนึ่งก็ยินดี  แต่อีกใจหนึงก็หงุดหงิด

Comments

  1. ดีแล้วกริด ดีกว่าเพื่อนเราตาย 555

    ReplyDelete
  2. สนุกมากครับ ของคุณคนแปลครับ

    ReplyDelete
  3. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. เล่นอะไรกัน ทั้งปีก็ไม่ตาย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00