จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 286



       การประกาศรวมกิลด์ระหว่างโอเวอร์เกียร์และซิลเวอร์ไนท์ตกเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก  หนังสือพิมพ์หลายฉบับจากหลายประเทศต่างเลือกให้เป็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง  แต่งานฉลองกลับจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและเป็นกันเอง  พวกเขาไม่ได้ชักชวนให้ผู้สื่อข่าวรายใดมาร่วมงาน  ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องเปิดเผยข้อมูลความลับที่อาจเป็นประโยชน์กับกิลด์อื่นออกไป

       ไม่...  มันยังไม่ถึงเวลานั้น

       "วะฮ่าฮ่าฮ่า!"

       "คิกคิกคิก!"

       งานเลี้ยงหลังจากการรวมกิลด์อย่างเป็นทางการ  ลอเอลจัดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกเก่าและใหม่  บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น

       "แวนเนอร์!  ฉันดีใจมากที่ได้เป็นสหายร่วมรบกับคุณ!  ฉันชื่นชมคุณมานานแล้ว  ถึงกับเลือกเล่นอัศวินผู้พิทักษ์สายพละกำลังตามคุณเลยนะ!"

       "โอ้… นายซวยแล้วล่ะ  ยังเลเวลแค่ 180 ใช่ไหม  ฉันแนะนำให้นายลบตัวเล่นใหม่ซะ  ไม่อย่างนั้นคงได้จมอยู่ในนรกไปอีกนานเหมือนกับฉัน"

       "..."

       "คุณเฟคเกอร์  ผมได้ยินมาว่าคุณสังหารกิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์ด้วยตัวคนเดียวสินะ?  สุดยอดมาก  พวกมันเป็นถึงหนึ่งในเจ็ดกิลด์ใหญ่  ผมจะต้องทำยังไงบ้างถึงจะเป็นสุดยอดนักลอบสังหารเหมือนกับคุณได้?"

       "..."       

       "คุณครับ?  คุณเฟคเกอร์?  ทำไมไม่ตอบคำถามของผมเลยล่ะ?"

       "..."

       "เรกัส!  ฉันได้ยินมาว่านายชื่นชอบเทควอนโดและประเทศเกาหลีใต้มากใช่ไหม?  ขอบคุณจากใจจริง!  ว่าแต่นายชอบกิมจิรึเปล่า?  รู้จักกิมจิไหม?"

       "..."

       ดูเหมือนวัฒนธรรมของทั้งสองกิลด์จะยังแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย  คงต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อปรับจูนให้เข้าหากัน  

       ส่วนกริดก็กำลังยุ่งอยู่กับการจดจำชื่อและใบหน้าของสมาชิกใหม่ทุกคน

       'รู้จักกิมจิไหมงั้นหรือ… หมอนั่นเหมือนกับพีคซอร์ดเลยไม่ใช่รึไง?  เป็นพวกสมาคมเกาหลีใต้จงเจริญรึเปล่าเนี่ย?  หืม?  เด็กคนนั้นยังดูอายุไม่มาก  แต่กลับเงียบขรึมผิดปรกติ  เราควรสำรวจทุกคนอย่างละเอียดสินะ  เพราะเราคือช่างตีเหล็ก'

       สมาชิกใหม่ทั้ง 225 คนจะกลายมาเป็นสหายร่วมรวบและครอบครัวเดียวกันในวันข้างหน้า  กริดพยายามจดจำชื่อและใบหน้าให้ได้มากที่สุด  แต่มันใช่เรื่องง่ายซะที่ไหนในการจะจดจำคนมากมายขนาดนี้ในระยะเวลาอันสั้น

       '...เริ่มปวดหัวแล้วสิ'

       ลงเอยด้วย  สมองของกริดเกิดการลัดวงจรภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง  แต่ก็นับว่าดีกว่าแต่ก่อนมากแล้ว  หากเป็นกริดคนเก่าล่ะก็  คงไม่มีทางเสียเวลาจำใครเกินห้านาทีแน่  นี่ถือเป็นพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดที่น่าชื่นชมมาก  

       ในขณะเดียวกัน  จิสึกะ  ลอเอล  และพีคซอร์ดก็กำลังยืนคุยกันห่างจากกริดไม่มาก

       "เลเวลเฉลี่ยของกิลด์ซิลเวอร์ไนท์อยู่ที่ 220 ใช่ไหม?  ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเร่งเพิ่มเลเวลให้พวกเขาโดยด่วน  ฉันว่าเราควรให้สมาชิกโอเวอร์เกียร์ชุดเก่าช่วยพาพวกเขาเก็บเลเวล"

       "ไม่ได้  ความสำคัญสูงสุดตอนนี้คือเหมืองมิธริลสีเหลือง  สมาชิกกิลด์ที่เลเวลน้อยสามารถไปเก็บเลเวลที่ไบรันหรือเกาะคอร์ก  ส่วนสมาชิกเก่าที่มีเลเวลสูงจะต้องมุ่งเน้นไปกับการฆ่ามอนสเตอร์รอบเหมืองแร่"

       "แบบนั้นพวกเขาจะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังหรอกหรือ?"

       "ไม่เลย  สำหรับผู้เล่นเลเวลน้อยแล้ว  สภาพแวดล้อมของไบรันและเกาะคอร์กถือว่าเหมาะสมมากกว่า  อันที่จริง  ฉันไม่ชอบใจกับวิธีล่ามอนสเตอร์โดยการให้ผู้เล่นเลเวลสูงช่วยฆ่ามอนสเตอร์ให้ผู้เล่นเลเวลน้อย  สิ่งนี้มันไม่มีประโยชน์  พวกเขาจะได้เพิ่มมาแค่เลเวล  แต่จะไม่ได้ฝีมือและความเข้าใจในทักษะของตัวเอง"

       "นั่นสินะ  ฉันคิดง่ายไปหน่อย"

       "ปัญหาก็คือ  ใครจะเป็นคนที่ต้องคอยดูแลเกาะคอร์กกับไบรัน?  ลอร์ดของทั้งสองแห่งจะต้องพัฒนาผู้เล่นเลเวลน้อยไปพร้อมกับการพัฒนาเมือง  ฉันว่าพีคซอร์ดควรเป็นลอร์ดของเกาะคอร์กเหมือนเดิมนะ  คิดแบบนั้นไหม?  พีคซอร์ด"

       "นั่นคงไม่ได้  กริดกำชับให้ฉันไปขุดแร่ที่เหมือง"

       "งั้นหรือ?"

       พีคซอร์ดเป็นนักดาบ  และยังเป็นถึงผู้เล่นอันดับ 15 ของโลก  ทั่วโลกต่างคาดการณ์ไว้ว่า  เขามีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกับป็อนและเรกัส  พีคซอร์ดสามารถรับมือกับแร้งเกอร์หัวแถวของโลกได้สบาย  

       แต่ทำไมกริดถึงสั่งให้คนมีความสามารถแบบนั้นไปขุดแร่?

       'เขาคิดอะไรอยู่นะ?  หรือจะมีสิ่งที่เรายังไม่รู้อยู่อีก?'

       ในขณะที่ลอเอลกำลังครุ่นคิด  เด็กชายคนหนึ่งได้วิ่งหน้าตั้งเข้ามาภายในห้องจัดงานเลี้ยง  เขาคือเครื่องตรวจจับแร่ส่วนตัว  ไมเนอร์  

       ไมเนอร์รีบวิ่งเข้าไปหากริดด้วยสีหน้าซีดเผือด

       "แฮ่ก แฮ่ก… นี่ดยุค...  ฉันว่านายควรรีบออกไปล่าพาเฟรเนี่ยมได้แล้ว"

       "ทำไมถึงต้องรีบร้อนนัก?  เกิดอะไรขึ้น?"

       "ผนึกของพาเฟรเนี่ยมทุกแห่งที่อยู่ในเมืองแวมไพร์เริ่มถูกกัดเซาะด้วยพลังงานประหลาด"

       แม้ไมเนอร์จะเย่อหยิ่งและไม่แสดงความจงรักภักดีต่อกริด  แต่หากเป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย  เขาก็จะทำอย่างเต็มที่โดยไม่ขาดตกบกพร่อง  วันนี้ไมเนอร์ได้ออกไปตรวจสอบพาเฟรเนี่ยมอีกครั้งจนพบกับความจริงที่น่าตกตะลึงเข้า

       "พลังงานประหลาด?"

       เจ้าหนูนี่กำลังหมายถึงอะไรนะ?  ในขณะที่กริดขบคิด  หน้าต่างข้อความระบบก็แสดงขึ้น

[ ภารกิจใหม่ถูกสร้างขึ้น! ]


[ เมืองแวมไพร์! ]
ระดับความยาก : ?
_______
       เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นในเมืองแวมไพร์อันแสนวุ่นวาย
       มีพลังงานลึกลับได้แพร่กระจายออกไปจนทั่วเมืองแวมไพร์ทั้ง 15 แห่ง  ส่งผลให้แวมไพร์ทุกตนแข็งแกร่งขึ้น  แต่ในทางตรงกันข้าม  พลังนั้นกลับสร้างความเสียหายต่อพาเฟรเนี่ยม
       ถ้าหากท่านไม่รีบไปรวบรวมพาเฟรเนี่ยมล่ะก็  พลังปริศนานี้จะกัดเซาะพาเฟรเนี่ยมไปเรื่อยๆ จนมันสูญเสียความเป็นสุดยอดโลหะ  และกลายเป็นเพียงโลหะธรรมดาไปในที่สุด
       รีบมุ่งหน้าไปยังเมืองแวมไพร์เพื่อรวบรวมพาเฟรเนี่ยมให้ได้มากที่สุด
_______
* ในทุกเมืองแวมไพร์จะมีพาเฟรเนี่ยมจำนวนหนึ่งชิ้นถูกผนึกไว้
* ภายในระยะเวลา 90 วัน  จงออกไปรวบรวมพาเฟรเนี่ยมให้ได้มากที่สุด
* ถ้าหากพาเฟรเนี่ยมชิ้นใดไม่ถูกรวบรวมภายใน 90 วัน  มันจะกลายเป็นเพียงโลหะธรรมดาที่ไม่มีค่ากับท่าน
* ดูเหมือนจะมีภารกิจลับซ่อนอยู่ระหว่างทางที่ท่านทำภารกิจนี้


       'ระดับความยากเป็น <?> งั้นหรือ?'  

       สำหรับซาทิสฟาย  หากแสดงสัญลักษณ์ขึ้นเป็น <?> ล่ะก็  หมายความว่าสิ่งนั้นไม่อาจวัดค่าได้  

       ภารกิจคราวนี้จะต้องมีความยากไม่น้อยไปกว่าเกรด SS- 

       'แย่ล่ะสิ'

       กริดพลันเย็นสันหลังวาบ  จากข้อมูลที่ลอเอลรายงานมา  ดูเหมือนการจะเคลียร์เมืองแวมไพร์สักแห่ง จำเป็นจะต้องใช้ผู้เล่นคลาสระดับสามไม่ต่ำกว่าสิบคน

       'แถมแต่ละเมืองก็ยังต้องใช้เวลาราวสิบวัน!'

       มันคือดันเจี้ยนพิเศษที่ไม่อาจนำดันเจี้ยนทั่วไปมาเทียบได้  เลเวลของมอนสเตอร์ภายในมีระดับสูงมาก  

       กริดได้ข้อสรุป

       'ไม่ใช่ภารกิจที่เราจะทำสำเร็จตามลำพังงั้นสินะ?'

       นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!  พาเฟรเนี่ยมถือเป็นไอเท็มลับเฉพาะของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าที่มีเพียง 28 ชิ้นในโลก  แต่แล้วเขากลับกำลังจะเสียมันไปมากถึง 15 ชิ้นในคราวเดียว  กริดอดสถบอย่างหัวเสียไม่ได้

       "เฮ่อ… นั่นสินะ  ช่วงที่ผ่านมา  อะไรๆ มันก็ดูง่ายเกินไปหน่อย"
       
       เป็นอีกครั้งที่กริดได้รับรู้ว่า  ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีในโลกที่บิดเบี้ยวใบนี้  

       เมื่อจิสึกะและลอเอลได้ยินเสียงถอนหายใจ  พวกเขาจึงรีบเดินเข้ามาสอบถาม

       "เกิดอะไรขึ้น?  ภารกิจใหม่เป็นแบบไหนกัน?"

       "นายช่วยแชร์รายละเอียดภารกิจให้เราดูได้รึเปล่า?"

       เมื่อได้อ่านรายละเอียด  ทั้งจิสึกะและลอเอลก็ขมวดคิ้วพร้อมกัน

       "ภารกิจบ้าบอขนาดนี้  ไม่ใช่ว่ามันไม่สามารถเคลียร์ได้อยู่แล้วหรือ?"

       ป็อนและเรกัสล้มเหลวในการเคลียร์หนึ่งดันเจี้ยนภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน  แต่กริดกลับได้รับภารกิจให้เคลียร์ 15 ดันเจี้ยนภายในระยะเวลา 90 วันเนี่ยนะ?  บ้าบอสิ้นดี

       "แต่ไม่ว่ายังไง  ภารกิจนี้ก็ต้องหาทางทำให้สำเร็จ  การสูญเสียพาเฟรเนี่ยมย่อมหมายถึงกริดถูกตัดแขนขัดขาออกไป  สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้"

       "ระดมคนในกิลด์ไปช่วยดีไหม?"

       "เป็นความคิดที่ดี  แต่ตอนนี้หลายคนกำลังติดภารกิจพัฒนาเมือง  คงมีคนที่ไปกับกริดได้ประมาณสิบคนเท่านั้น"

       ยูเฟอมิน่าไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้เพราะเธอกำลังอยู่ในภารกิจอื่น  ส่วนรูบี้และเซ็กซี่สคูลเกิร์ลก็ยังมีเลเวลไม่ถึง 120  จึงไม่ถูกนับรวม  

       "สิบคนสินะ…  ฉันว่าพวกเราน่าจะรวบรวมพาเฟรเนี่ยมได้ราวเก้าชิ้น"

       "ใช่  นั่นเป็นไปได้"

       สีหน้าของกริดไม่ได้ดูดีขึ้นเลยในยามที่ฟังบทสนทนาของคนทั้งสอง

       "พอเถอะ  ฉันไม่ต้องการรบกวนเพื่อนคนอื่นด้วยเรื่องส่วนตัว"

       อันที่จริง  ความคิดของกริดก็ไม่ผิดนัก  การใช้งานสมาชิกกิลด์ให้ช่วยทำเรื่องส่วนตัว  คือสิ่งที่หัวหน้ากิลด์ไม่สมควรกระทำสักเท่าไรนัก

       แต่ลอเอลกลับอมยิ้มและอธิบาย

       "พวกเขาไม่ได้ทำให้นายฟรี  ดันเจี้ยนแวมไพร์ให้ค่าประสบการณ์ที่สูงมาก  แถมยังมีโอกาสเล็กน้อยที่จะดรอปโอสถเพิ่มค่าสถานะ  ดังนั้น  ฉันว่าทุกคนคงเต็มใจที่จะช่วยนาย"

       "แต่ว่า..."

       ทันใดนั้น  ชาวโอเวอร์เกียร์กลุ่มหนึ่งได้เดินเข้ามาหากริดที่กำลังมีสีหน้าลังเล

       "ฉันไม่ได้ออกล่ามาพักใหญ่แล้ว"

       "ไปเก็บเลเวลกันเถอะ"

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ล้วนอยากเพิ่มเลเวลเพื่อขึ้นไปเป็นแร้งเกอร์หัวแถว  โอกาสล้ำค่าเช่นนี้ย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือ  บางที  เมืองแวมไพร์อาจเป็นดันเจี้ยนที่ดีที่สุดในเกมเวลานี้  การได้ออกล่าร่วมกับกริดเป็นอะไรที่วิเศษมาก

       โดยเฉพาะแวนเนอร์  เขาแสดงตัวอย่างออกนอกหน้า

       "ฉันกำลังต้องการโอสถความอดทนอยู่พอดี  ได้โปรดให้ฉันไปกับนายด้วย"

       "..."

       ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลจริงหรือหลอก  แต่พวกเขาก็เสนอตัวช่วยอย่างเต็มที่  ช่างแตกต่างจากสมัยอดีตที่มีแต่คนเบือนหน้าหนีในยามที่กริดเดือนร้อน  เขาอดตื้นตันใจไม่ได้จนมีน้ำใสๆ ไหลออกมาคลอเบ้าเล็กน้อย

       ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างก่อนจะตอบกลับไปว่า

       "ขอบคุณพวกนายมาก  ถ้าคราวหน้ามาที่เกาหลีใต้อีก  ฉันจะเลี้ยงคันจาจังตอบแทน"

       หลังจากสงครามไรน์ฮาร์ม  กริดคิดจะเมินเฉยต่องานเลี้ยงที่กษัตริย์จัดขึ้นเพียงเพราะต้องการกินคันจาจัง  ด้วยเหตุนี้  สมาชิกกิลด์ทุกคนจึงมั่นใจมากว่า

       'คันจาจังจะต้องเป็นอาหารชั้นหรูหราแน่'
       
       'อาหารสำหรับเชื้อพระวงศ์เกาหลีใต้งั้นหรือ?'

       จะแพงขนาดไหนกันนะ?  ทุกคนต่างเฝ้ารอเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อ

       มีเพียงพีคซอร์ดที่ยืนฟังอย่างเงียบงัน  เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ว่า

       "ฉันชอบจัมปงมากกว่า"


ผู้แปล : จัมปง  = มาม่าเกาหลีที่มีรสคล้ายกับต้มยำทะเลของไทย  คำถามยอดฮิตของคนเกาหลีคือ  คุณชอบจาจังเมียนหรือจัมปงมากกว่ากัน?


       เมื่อตอนนี้พวกเขาเป็นเพื่อนกันแล้ว  พีคซอร์ดจึงคิดอยากเสนอตัวช่วยกริดเช่นกัน

       ***

       คณะเดินทางได้ถูกกำหนดตัวเรียบร้อย

       กริด  จิสึกะ  ป็อน  เรกัส  พีคซอร์ด  และเฟคเกอร์  คนเหล่านี้มีหน้าที่คอยสร้างความเสียหาย  ส่วนแวนเนอร์คือตัวแทงค์หลัก  ในขณะที่ฮิวรอยทำหน้าที่เสริมพลังให้ทุกคน  เซ็ตนอสก็จะสนับสนุนด้วยเวทย์มนต์อยู่ด้านหลัง  

       พวกเขามีเวลาเพียง 90 วันในการเคลียร์ 15 ดันเจี้ยน  ดังนั้นหน้าที่ของแต่ละคนต้องชัดเจน

       การแบ่งหน้านี่เช่นนี้  ก็เพื่อเน้นหนักในการบุกตะลุยให้ถึงตัวบอสโดยไม่สนใจการเก็บเลเวลข้างทางมากนัก  พวกเขาต้องเร่งทำเวลา  

       ส่วนลอเอล  ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนลอร์ด  เขาไม่อาจย่างกรายออกจากเรย์ดันได้  ก่อนคณะเดินทางจะออกไป  ลอเอลได้กล่าวเตือนเป็นครั้งสุดท้าย

       "ก็อย่างที่รู้  การจัดทีมแบบนี้จะเน้นบุกตะลุย  ทำให้แผงหลังนั้นบอบบางและขาดคนคุ้มกัน  ดังนั้น  พวกนายทุกคนต้องช่วยกันสอดส่องและระวังตัวจากการถูกซุ่มโจมตี"

       "เข้าใจแล้วน่า  นายเป็นแม่รึไง?  คิดจะพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ กี่หนกัน?"

       แวนเนอร์พึมพำ  แต่ลอเอลก็พูดต่อไปโดยไม่สนใจเขา

       "หากดูจากการที่ทางเข้าปิดตัวลงและการสื่อสารกับภายนอกถูกตัดขาด  มีความเป็นไปได้สูงมากว่า  นายจะไม่สามารถใช้ทักษะอัญเชิญอัศวินภายในดันเจี้ยนได้  ดังนั้นอย่านำพาตัวเองเข้าไปสู่สถานการณ์สิ้นหวัง"

       ลอเอลคงจะวางใจกว่านี้ถ้าปิอาโร่และอัสโมเฟลร่วมคณะเดินทางไปด้วย  แต่ทั้งสองคนเป็นเอ็นพีซี  หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันจนตายไป  โอเวอร์เกียร์จะต้องสูญเสียพวกเขาไปตลอดกาล  ลอเอลไม่อยากเสี่ยงในเรื่องนี้

       กริดอมยิ้มให้กับความเป็นห่วงจากลอเอล
       
       "ได้เวลาออกเดินทางแล้ว"

       ชายหนุ่มลั่นวาจาในใจว่า  เขาจะต้องสร้างหอกไลฟาเอลที่สมบูรณ์แบบให้ได้จากการเดินทางครั้งนี้

       'หากรวบรวมพาเฟรเนี่ยมได้ครบทั้ง 15 ชิ้น  เราจะสามารถสร้างหอกไลฟาเอลที่ทำจากพาเฟรเนี่ยมทั้งเล่มได้'

       อาวุธชิ้นนี้จะต้องก้าวข้าม <ความผิดพลาด> ได้แน่  กริดพลันใจเต้นระรัวเมื่อนึกภาพหอกสีทองโบยบินไปรอบตัวและช่วยเขาต่อสู้

       "แล้วเจอกัน"

       ปาร์ตี้ที่แข็งแกร่งที่สุดของซาทิสฟาย...  กริดนำขบวนทุกคนออกเดินทางอย่างองอาจ

       แต่ในเวลาเดียวกัน  มีใครบางคนได้แอบตามกริดไปอย่างเงียบงัน

Comments

  1. คนที่ตามนี้ คาซิม ราชันย์แห่งเงาหรือป่าว

    ReplyDelete
    Replies
    1. น่าจะยูร่ามากฟ่า

      Delete
    2. น่าจะเป็นยูร่าที่มาพร้อมคลาสนักล่าอสูรครับ

      Delete
  2. ตี้ึุณภาพชัดๆๆ

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. เมียน้อยลำดับ3

    ReplyDelete
  5. แมรี่โรส ? หรือนักฆ่าที่เคยแอบช่วยโนเอะ หรือ ยูร่า

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00