จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 153



       เปลวเพลิงสีเขียวหยกคือสัญลักษณ์ของครึ่งอสูร… ความงามของมันสามารถละลายหัวใจผู้คนที่พบเห็นได้... ทว่าในความเป็นจริง ความร้อนจากมันสามารถละลายได้แม้กระทั่งเหล็กกล้าเลยทีเดียว 

       ซู่วว!

       ทุกครั้งที่ดาบของบาลัคฟาดฟัน เปลวเพลิงจะพุ่งตรงไปเป็นทางยาว ส่งผลให้พื้นดินบนเส้นทางที่พาดผ่านลุกเป็นไฟ… ตอนนี้จึงเกิดเปลวเพลิงกระจายตัวอยู่ทั่วทุกที่   

       "บ้าจริง หมอนี่มันเก่งพอๆ กับกริดเลยไม่ใช่รึไง"

       ณ ใจกลางหมู่บ้านไบรัน… ชายผิวดำคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีออกจากกองซากตึกที่ไหม้เกรียมซึ่งถล่มลงมาทับ สีของตึกนั้นเป็นสีแบบเดียวกับผิวพรรณของชายคนดังกล่าวทุกประการ

       'ร--เร็วมาก!'       

       รูปทรงภายนอกของครึ่งอสูร<บาลัค>นั้นดูไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ทั่วไป… ร่างกายผอมเพรียวสมส่วนเหมือนกับผู้ชายที่โตเต็มวัย ทว่าผิวหนังกลับกำลังเดือดปุดๆ ราวกับลาวาร้อน… ดวงตาสองข้างสีขาวโพลนอันมีขนาดใหญ่ยักษ์อยู่เหนือปาก เป็นดวงตาที่ยาวจากหูอีกฝั่งไปถึงหูอีกฝั่ง… เส้นผมกำลังลุกโชนด้วยเปลวเพลิง ทำให้มันดูเหมือนกับเป็นอสูรปีศาจตัวจริงเสียงจริง  

       อสูรปีศาจผู้น่ากลัวกำลังไล่จับผู้เล่นด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ ในมืดพลันฟาดดาบอัคคีที่ยืดหดได้ออกมาโจมตี

       ซวบบบ!
       
       ดาบอัคคีฟันตัดผ่านกำแพงตึกหนาๆ อย่างง่ายดายราวกับเป็นเพียงหัวไชเท้า

       ครืนนน!

       โทบันเกือบต้องถูกตัดขาดเป็นสองท่อนอย่างฉิวเฉียด

       "โอย..."

       โทบันโอดครวญพร้อมกับยกโล่ป้องกันไว้… สีหน้าอันเจ็บปวดของเขาถูกสะท้อนให้เห็นจากเงาของเปลวเพลิงสีเขียวหยก

       'ไอ้บัดซบนั่น… ทักษะติดตัวมันจะโกงเกินไปแล้ว'

       โทบันป้องกันไว้ได้อย่างยากลำบาก ทว่าพลังชีวิตก็ยังคงลดลงต่อเนื่อง… ไอความร้อนในรัศมี1เมตรรอบกายบาลัคเกิดผลเผาไหม้อยู่ตลอดเวลา 

       'เป็นความเสียหายคงที่ แถมค่าต้านทานไฟก็ไร้ประโยชน์ เป็นตัวรับมือยากของแท้เลยแฮะ'

       สายโจมตีระยะประชิดไม่อาจเข้าใกล้ได้เลย… เปลวเพลิงรอบตัวบาลัคมีความรุนแรงถึง500หน่วยต่อวินาที จึงถือว่ารุนแรงมากสำหรับผู้เล่นสายโจมตีเลเวลช่วง250-260 เพราะพวกเขาจะมีพลังชีวิตอยู่ที่ราว19,000เท่านั้น… แม้ทูนจะมีพลังชีวิตสูงที่สุดในกลุ่ม ทว่าเขาก็ยังไม่สบโอกาส… เป็นเรื่องไม่ฉลาดเลยที่จะโจมตีบุ่มบ่ามเข้าไปมั่วซั่ว  

       ณ ตอนนี้ ทุกคนในปาร์ตี้จึงทำได้เพียงหวังพึงโทบัน พวกเขาหวังให้พาลาดันอันดับ1ผู้นี้สร้างช่องว่างขึ้น แม้จะเป็นเวลาเพียงเล็กน้อยก็ยังดี… ในยามนี้ โทบันจึงต้องเหน็ดเหนื่อยตามลำพังอย่างช่วยไม่ได้

       แคร้งงง! เคร้งงง!

       'มันไวขึ้นกว่าแต่ก่อนรึเปล่านะ'

       โทบันใช้ทักษะเสริมพลังทั้งหมดที่มี… หน้าจอของเขาเปี่ยมไปด้วยสถานะเสริมพลังต่างๆ นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น… ทว่ากลับยังไม่เพียงพอที่จะต้านทานดาบของบาลัคได้  

       และจนกระทั่งบาลัคเร่งความเร็วถึงขีดสุด
       
       โทบันไม่อาจหลบดาบที่พุ่งใส่หน้าอกของเขาได้พ้น

       เคร้ง! ตึก!       

[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,900 หน่วย ]
[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 7,980 หน่วย ]

        ดาบอัคคีของบาลัคได้แทงผ่านโล่เข้ากระแทกใส่หน้าอกโทบันจนเลือดพุ่งกระฉูด

       "อ๊ากกกกก!"

       ตุ้บ...

       โทบันโอดครวญอย่างเจ็บปวดและคุกเข่าทรุดลง บาลัคเห็นดังนั้นจึงอดอมยิ้มไม่ได้… มันเหวี่ยงดาบเข้ามาอีกครั้ง ราวกับต้องการจะให้คราวนี้เป็นจุดจบของพาลาดันอันดับ1ของโลก… ในขณะที่ปลายดาบกำลังพุ่งเข้ามาหา

       โทบันพลันใช้ทักษะหนึ่งออกมา

       "บาเรียโคลน!"

       ซู่ววว!

       ปรากฏบาเรียขนาดยักษ์ที่ทำจากโคลนอันเหนียวเหนอะขึ้นตรงหน้าโทบัน

       ซ่าาา!

       ดาบเปลวเพลิงอันร้อนแรงถูกบาเรียโคลนดูดซับการโจมตีเข้าไป

       "ก็เอาสิฟะ!"

       บาลัคไม่สามารถดึงดาบอัคคีกลับไปได้… ยิ่งมันออกแรง ก็กลับยิ่งถูกดูดแน่นขึ้น… ความหงุดหงิดเริ่มปรากฏขึ้นบนสีหน้าของบาลัค  

       "หากยอมกลายเป็นทาสของเทพแห่งความตายแต่โดยดี พวกแกก็ไม่ต้องเจ็บตัวไปมากกว่านี้แล้วแท้ๆ!!"

       เสียงของครึ่งอสูรดังก้องเข้าไปในหัวของโทบันโดยตรง… หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ป่านนี้คงได้เกิดอาการสับสนไปแล้วเป็นแน่… ทว่าโทบันนั้นเป็นถึงพาลาดินอันดับ1แห่งโบสถ์ยูดาห์… ลำพังแค่เสียงคำรามของครึ่งอสูร จึงยังไม่มากพอที่จะทำอะไรเขาได้          

       "ลาก่อน"

       โทบันกล่าวพร้อมแสยะยิ้ม… เป็นเวลาเดียวกันกับที่ทูนและสมาชิกเซดาก้าที่เหลืออีก7คนพุ่งเข้าโจมตีบาลัคพร้อมกัน

       "เร็วเข้า!"

       บาลัคมีทักษะติดตัวที่น่ารำคาญอย่างเปลวเพลิงรอบกายรัศมี1เมตร… ยิ่งเข้าไปคลุกวงในนานเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากเท่านั้น… การรุมโจมตีรวดเดียวจึงเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการรับมือ  

       "โจมตีสวนกลับ!"
       
       "ราชินีหมาป่าอัคคี!"

       "ดาบจันทร์เสี้ยว!"

       "โจมตีเต็มแรง!"

       "เยือกแข็ง!"

       "คลื่นสูญญากาศ!"       

       ผู้เล่นสายโจมตีท็อป100ของโลก... ทุกคนต่างใช้ท่าไม้ของตนออกมาอย่างพร้อมเพรียง

       และทูนคือคนที่เปิดฉาก… ช้าง แรด ฮิปโป หมี สิงโต เสือ จาร์กัว อินทรี งู หมู่ป่า และอีกมากมาย… ทูนได้แปลงกายเป็นสัตว์ป่าทุกประเภทที่เขาทำได้ บาลัคถูกโหมกระหน่ำไม่หยุดจากทักษะทั้งหลายรูปแบบ ลงท้ายด้วยการซัดเข้าไปที่หน้าอกอย่างแม่นยำ

       "ราชันย์สัตว์ป่าขย้ำ!"

       เป็นท่าไม้ตายที่รุนแรงสุดของคลาสลับเกรดแรร์ <ราชันย์นักล่า>ของทูน ซึ่งมันจะสร้างความเสียหายได้มากถึง1350%ของพลังโจมตี 

       โฮกกกก!

       บาลัคถูกกระแทกที่หน้าอกเต็มแรงด้วยพลังสัตว์ป่า

       "แกนะแก...!"
       
       ดาบของบาลัคกำลังถูกดูดเข้าไปในบาเรียโคลน… สภาพในตอนนี้จึงมิอาจป้องกันตัวเองได้เต็มที่นัก... มันถูกกระแทกจนโลหิตกระอักออกมาคำโต… หลังจากนั้นทักษะของสมาชิกปาร์ตี้ที่เหลือก็โถมกระหน่ำใส่อย่างไม่หยุดยั้ง… มีทั้งหมัดอัคคี ดาบที่สามารถฟันเฉือนห้วงมิติ สายฟ้าฟาด เวทย์ที่สามารถแช่แข็งเข้าไปได้ถึงกระดูก และหอกที่พุ่งด้วยความเร็วสูง  

       ทั้งหมดล้วนเป็นทักษะไม้ตายที่มีความรุนแรงเกินกว่า1100%ทั้งสิ้น… ทว่าเสียงจากฟรุตของเนบีเรียสคือปัญหาหลัก… 3ใน6การโจมตีไม่ใช่ทักษะที่ล็อคเป้าหมาย… การสูญเสียความแม่นยำไปถึง60% จึงทำให้พวกเขาพลาดเป้าอย่างเลี่ยงไม่ได้

       "อ๊า..."

       "ชิ!"

       สมาชิกกิลด์คนที่โจมตีพลาดพลันออกอาการหงุดหงิด… บาลัคซึ่งล้มลงไปจากการถูกโจมตีด้วยท่าใหญ่4ครั้งติด... ยามนี้ได้ลุกขึ้นมาอีกหนแล้ว 

       หลังจากนั้นมันก็ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด   

       "เทศกาลไฟนรก!"

       ลูกไฟนับร้อยปรากฏขึ้นและหมุนวนรอบตัวบาลัค… ทั้งหมดล้วนลุกโชนอย่างร้อนแรงและค่อยๆ ขยายขนาดออกไป

       "นั่นดูอันตรายสุดๆ ไปเลยไม่ใช่รึไง"

       "ถอย!"

       แต่สายไปเสียแล้ว… สมาชิกกิลด์ต่างพยายามหนีออกไปให้ไกลจากบาลัคที่สุด ทว่าแรงระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลเป็นลูกโซ่

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

       เป็นฉากที่เหมือนกับเทศกาลดอกไม้ไฟไม่มีผิด

       "อ๊ากกก!"

       เกิดระเบิดนับร้อยครั้งไปทั่วบริเวณ ไม่มีสมาชิกปาร์ตี้คนใดที่หลบพ้น พวกเขาทำได้เพียงลอยกระเด็นไปในอากาศด้วยสีหน้าเจ็บปวด… โดยเฉพาะโทบัน เขาได้รับบาดเจ็บหนักกว่าใครเพราะต้องอยู่ใกล้ที่สุด อาการปางตายจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

       ซู่วว

       ระยะเวลาของบาเรียโคลนหมดลงแล้ว… ดาบอัคคีของบาลัคได้เป็นอิสระอีกครั้ง… มันก้มเก็บดาบอัคคีที่ตกลงบนพื้นด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายสุดขีด 

       "คราวนี้... ฉันจะให้พวกแกได้ลิ้มรสเทศกาลดาบอัคคีเอง"

       "ไอ้พวกไม่ได้ความเอ้ย! ต้องโง่ขนาดไหนถึงเลือกใช้ทักษะแบบไม่ล็อคเป้าออกมาฟะ… แค่ก! ถุ้ย! ถ้าความแม่นยำลดลง การโจมตีที่ใช้ออกไปก็ต้องเป็นแบบล็อคเป้าหมาย เรื่องพื้นฐานแค่นี้ก็ยังไม่รู้รึไง ไอ้พวกงั่ง"

       "ชิ… อย่าทำเป็นเก่งอยู่คนเดียวนะเฟ่ย… หุบปากไปเถอะ!"

       สมาชิกปาร์ตี้ตอนนี้อยู่ในสภาพรอแร่กันทุกคน ทั้งหมดล้วนเป็นผลพวงมาจากแรงระเบิด... และบางส่วนก็เริ่มหงุดหงิด จึงเกิดการสบถคำด่าออกมา… มันจบลงแล้ว… ทุกคนต่างพากันสิ้นหวัง 

       โดยเฉพาะโทบัน

       'เป็นเพราะต้องไปรับใช้กริด ช่วงที่ผ่านมาเราจึงไม่ได้ออกไปเก็บเลเวลเลยสักนิด… แล้วตอนนี้ยังต้องมาเสียค่าประสบการณ์ไปอีกงั้นเหรอ' 

       แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันเกิดจากการไร้ความสามารถของเขาเอง… หลังจากนี้คงต้องตั้งใจเก็บเลเวลให้มากขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถปกป้องทุกคนได้… โทบันลั่นวาจาอยู่ในใจ  

       "มีใครที่เลเวลมากกว่า250... ค่าพละกำลังมากกว่า1,800... และมีทักษะความชำนาญดาบขั้นสูงบ้าง"

       เสียงหนึ่งดังขึ้นจากท้องฟ้า… เมื่อหันไปเห็น พวกเขาก็ทั้งดีใจและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน

       "พล่ามอะไรของแก! เจ้างั่ง… อยู่ดีๆ ก็พูดจาไร้สาระขึ้นมา… บ้ารึเปล่า… ข๊ากก~~ ถุ้ย!"

       ทูนคิดอย่างไรก็พูดออกไปอย่างนั้น… มีเพียงโทบันที่แสยะยิ้มเมื่อได้เห็นกริด… ชายซึ่งแข็งแกร่งกว่าใครที่โทบันรู้จักมาทั้งหมด… การปรากฏตัวของเขาเป็นราวกับปาฏิหาริย์… ณ เวลานี้ กริดกำลังสวมหมวกเพื่อปกปิดหน้าตาและชื่อตัวละคร แต่ถึงกระนั้นโทบันก็ยังจดจำได้ดี… มีเพียงแค่สมาชิกใหม่เท่านั้นที่ยังไม่รู้  

       เป็าเพราะกริดมักจะเอาแต่สวมชุดโทรมๆ ทำงานอยู่ที่โรงตีเหล็ก

       "กริด นายกำลังพูดเรื่องอะไร… ถามหาเลเวล ค่าพละกำลัง กับทักษะความชำนาญอาวุธไปทำไมกัน..."

       "เฮ้! เลิกพล่ามแล้วลงมาช่วยกันเถอะน่า!"

       สมาชิกเซดาก้าห์ได้แต่บ่นอุบอิบ… ทว่าก็มีบางส่วนที่โล่งใจ… ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่ามาถึงแล้ว… การปรากฏตัวของคลาสเกรดเลเจนดารีทำให้พวกเขาใจชื้นไม่น้อย   

       "ฉันจะให้พวกนายยืมอาวุธ… จะถามเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ… มีใครบ้างที่เลเวลสูงกว่า250 ค่าพละกำลังมากกว่า1,800 และมีทักษะชำนาญดาบขั้นสูง"

       "โทบันเลเวล250ก็จริง แต่เงื่อนไขอื่น..."

       สมาชิกปาร์ตี้ต่างมองตากันไปมาเมื่อกริดถามย้ำเป็นหนที่สอง… มีบางคนที่ตรงตามเงื่อนไขอยู่ข้อสองข้อ ทว่าการจะให้ตรงทั้งหมด ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากทีเดียว… และทันใดนั้น ทูนก็ยกมือขึ้น  

       เมื่อกริดเห็นหน้าคนที่ยกมือชัดๆ... เขาจึงโพล่งออกมาว่า

       "ฉันไม่ชอบไอ้งั่งนี่เลยแฮะ..."

       เมื่อทูนได้ยินเสียงกริด เขาก็จดจำได้ในทันที

       "ฉันเองก็ไม่ชอบนายเหมือนกัน… ข๊ากก ถุ้ย! ไอ้ขี้ขลาดที่โกหกว่าตัวเองเป็นช่างตีเหล็ก!"

       "แต่ช่างเถอะ รับนี่ไป"

       กริดโยนดาบใหญ่สีดำให้กับทูน… มันคือดาบที่จอมเชือดใช้สังหารกิลด์ไจแอนท์กลางเมืองวินสตัน จอมเชือดที่ทูนอยากสู้ด้วยใจจะขาด… ในอีกความหมายหนึ่ง มันคืออาวุธที่กริดใช้คู่กายมาเป็นเวลานาน… แค่เห็นเพียงแวบเดียวทูนก็รู้ได้ทันที เขาจึงเอ่ยปากถามขึ้น

       "นายจะบ้ารึเปล่า… ถ้าเอาอาวุธมาให้ฉัน แล้วนายจะเหลืออะไรให้ใช้… คิดจะสู้ด้วยมือเปล่ารึไง"

       กริดพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
       
       "นายคิดว่าขยะแบบนั้นจะมีค่าพอเป็นอาวุธให้ฉันได้งั้นเหรอ"

       "ข--ขยะ..."

       ทูนรีบตรวจสอบรายละเอียดของ<+5 ดาอินสเลฟ (แบบจำลอง)>ทันที… ไอเท็มที่อาจเป็นอาวุธอันดับ1ของเกมชิ้นนี้ กลับถูกกริดเรียกว่าขยะอย่างนั้นหรือ 

       'ไอ้งั่งนี่กินยาอะไรผิดมารึเปล่านะ… ช่างเถอะ มันก็เป็นคนเพี้ยนๆ แบบนี้อยู่แล้วนี่'

       จอมเชือดเป็นที่โด่งดังในด้านความโรคจิต… ทูนสลับกรงเล็บในมือและเปลี่ยนไปเป็นดาอินสเลฟแทน... ทักษะ<ครึ่งคนครึ่งสัตว์ป่า>ถูกใช้ออกไปทันที 

       "โฮ...กกกกกกก!!"

       กล้ามเนื้อทุกมัดขยายออกเหมือนเดอะฮัล์ค… เส้นผมสีเทาเงินงอกออกมาปกคลุมตามผิวหนังที่หยาบกร้าน… จมูกบนใบหน้ายื่นยาวออกมาเหมือนหมาป่า… เขี้ยวอันแหลมคมในปากถูกยืดออก… ดูราวกับเป็นมนุษย์หมาป่าไม่มีผิด… เมื่อกริดเห็นทูนกลายร่างสมบูรณ์ เขาก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย  

       "ไม่มีศิลปะเอาซะเลย… เฮ้ อย่าลืมล่ะ… ถ้านายชอบดาบเล่มนั้น… ฉันขายให้ก็ได้ในราคา4ล้านเหรียญทอง"

       "บรู๋วววว~!"

       หมาป่าตัวนั้น… ไม่สิ ทูน เขาหอนตอบรับกลับมา… หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าใส่บาลัคโดยกวัดแกว่งดาอินสเลฟในมืออย่างดุดัน  

       ฟุ่บ! ฟุ่บ!

       ทูนใช้วิชาดาบของมนุษญ์ผสานเข้ากับร่างสัตว์ป่าได้อย่างยอดเยี่ยม เขาแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า… เพราะเหตุนั้น โบทันและสมาชิกปาร์ตี้ที่เหลือจึงใช้ทักษะเสริมพลังเพื่อสนับสนุนทูน… บาลัคจึงพลันสับสนทันที 

       "มนุษย์แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง..."

       "ทางนี้คงทนไปได้อีกสักพักละมั้ง..."

       กริดหวังจะตรึงบาลัคไว้ตรงนี้ด้วยการให้คนในกิลด์หยิบยืมดาอินสเลฟ… หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็หันไปมองด้านหลังในจุดที่ห่างออกไปราว80เมตร… ชายชราผมสีเทาเงินคนหนึ่งกำลังบรรเลงฟรุต โดยที่มือข้างหนึ่งจับฟลุต ส่วนอีกข้างก็รับมือกับไอเบลลินและเฟคเกอร์

       'เราต้องหยุดการเป่าฟรุตของมันซะก่อน'

       ผลของเวทย์จากฟรุตนั้นแสดงออกไปทั่วทั้งหมู่บ้าน

       "และนี่คือจุดจบของไอ้แก่นั่น"

       กริดนำมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าสัมภาระอีกครั้ง

       ชิ้ง...!

       แสงสีน้ำเงินเข้มพลันสว่างวาบไปทั่วท้องฟ้า… ดาบใหญ่อีกเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา… รูปทรงมันดูเหมือนกับฉลามทุกประการ… ให้ความรู้สึกอันองอาจของจ้าวแห่งท้องทะเลอย่างเต็มรูปแบบ  

       "วิชาดาบแพ็กม่า… มายาร่ายรำ!"

       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ! ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

       กริดอาจไม่รู้ แต่ตอนนี้เขากำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งโลก… ลำแสงรัศมีดาบทั้ง20สายถูกฟันออกไปอย่างรวดเร็ว โดยแต่ละเส้นมีความรุนแรง150%ของพลังโจมตี… ทั้งหมดล้วนพุ่งเข้าใส่ร่างเนบีเรียสแทบจะพร้อมกัน

       "...น--นั่นอะไร!"

       เนบีเรียสที่กำลังรับมือกับเฟคเกอร์และไอเบลลินพลันร้องขึ้นด้วยความตกใจ… สายฝนรัศมีดาบโหมกระหน่ำลงมาจากท้องฟ้า… เนบีเรียสดวงตาเบิกโพลกอย่างตื่นตระหนก… ไม่เพียงแต่เนบีเรียสเท่านั้น… แต่ทักษะการโจมตีอันยอดเยี่ยมนี้ถูกถ่ายทอดออกไปทั่วโลก ผู้ชมทางบ้านอดไม่ได้ที่จะต่างพากันตกตะลึง แม้กระทั่งกิลด์เซดาก้าห์ที่ร่วมในเหตุการณ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น

       "พายุเพลิงทมิฬ!"

       เนบีเรียสควักลูกแก้วมาถือในมือ… มันเรียกใช้เวทย์มนต์อันทรงพลังที่เกิดจากการผสาน3ธาตุ เวทย์ดังกล่าวถูกเก็บอยู่ในลูกแก้ว จึงสามารถเรียกออกมาใช้ได้ในทันที… พายุเพลิงหมุนวนอย่างเกรี้ยวกราดเข้าปะทะกับรัศมีดาบสีน้ำเงินเข้มกลางท้องฟ้า

       บึ้มมมมม!

       "หลบเร็วเข้า!"

       เป็นการระเบิดครั้งใหญ่… กิลด์ซาดาก้าห์ที่ไหวตัวทันจึงรีบพุ่งออกมา… 18ใน20รัศมีดาบถูกทำลายไปกับพายุเพลิงทมิฬทันที… ทว่ายังคงเหลืออีก2สายพุ่งเข้าหาเนบีเรียสด้วยความดุดัน    

       "พลังบ้าอะไรกัน...!" เนบีเรียสอุทานด้วยความชื่นชม หลังจากนั้นมันก็หยุดการบรรเลงฟรุตอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก… เวทย์มนต์ถัดไปถูกใช้ออกมา
       
       "กำแพงน้ำแข็งทมิฬ!" 

       แกร๊ก! แกร๊ก! แกร๊ก!

       กำแพงน้ำแข็งถูกสร้างขึ้น… ความสูงของมันมีมากกว่ากำแพงหมู่บ้านไบรันเสียอีก 

       บึ้ม บึ้ม!

       รัศมีดาบ2เส้นสุดท้ายถูกทำลายลงบนกำแพงน้ำแข็ง       

       ฟิ้วววว

       จากผลของแรงระเบิดเมื่อครู่ สะเก็ดส่วนหนึ่งได้กระเด็นพุ่งเข้าใส่กริดด้วยความรวดเร็ว

       "ระวัง!"
       
       ไอเบลลินที่สู้กับเนบีเรียสมานานย่อมรับรู้ได้ถึงอันตรายนี้ เขาจึงอดเป็นห่วงกริดไม่ได้… ทว่าความหวังดีนั้นต้องสูญเปล่า 

       บึ้ม!

       เศษเสี้ยวเพลิงทมิฬที่พุ่งใส่กริดถูกทำลายทันทีเมื่อปะทะเข้ากับโล่สีทอง หลังจากนั้นกริดก็ร่อนลงมาสมบทกับเพื่อน… ดวงตาอันคมกริบที่ซ่อนอยู่หลังไรผมบนหน้าผาก... ถือเป็นภาพที่ชวนให้ขนลุกซู่ไม่น้อย

       "แกนะแก...!"

       เปรี้ยะเปรี้ยะ!! เปรี้ยะเปรี้ยะ!!

       สายฟ้าสีดำจำนวนมากพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและฟาดใส่กริดอย่างรุนแรง… ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ได้รับความเสียหายเช่นเดิม

       "เอ๋..."

       เนบีเรียสเริ่มหวั่นวิตก

[ เอฟเฟคของชุดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์แสดงผล… ท่านไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีธาตุมืด ]

       กริดแสยะยิ้มเมื่อได้เห็นข้อความระบบ… หลังจากพายุสายฟ้าทมิฬสลายไป คราวเป็นนี้สายฟ้าสีแดงของกริดที่ฟาดตามลงมา

       เปรี้ยะ เปรี้ยะ...
       
       นับเป็นสายฟ้าสีชาดที่ดุดันและทรงพลังมาก

       "วิชาดาแพ็กม่า… สังหาร!"

       ท่าไม้ตายถูกใช้ออกมาแล้ว...

       ซู่ววว!

       การโจมตีอันทรงพลังและรุนแรงราวกับระเบิดนิวเคลีย... บัดนี้กำลังพุ่งเข้าใส่ศีรษะของเนบีเรียสอย่างแม่นยำ

Comments

  1. โอ้ยยยย ช่วงนี้แม่งค้างทุกวันเลย

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ครับ ค้างตลอด แค่อ่านยังฟินขนาดนี้ ถ้าเป็นอะนิเมะนะ จะฟินค้างขนาดไหน 5555

      Delete
  2. เนบิเลียสจะอยู่ได้ถึงอีกสองตอนไหมนี่ กริดมันปล่อยสกิลซะขนาดนั้น

    ReplyDelete
  3. โหด...รัสเซียเลย เก่งสุดในเกมส์ละมั้งเนี่ย

    ReplyDelete
  4. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00