จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 145



       กริดเริ่มตรวจสอบไอเท็มที่ได้รับหลังจากการสู้กับผู้พิทักษ์พงไพรร่างจริงอย่างยากลำบาก

 [ โอริชาลคั่มสีน้ำเงิน ]
       โอริชาลคั่มคือแร่ชนิดพิเศษที่เกิดจากแสงของดวงจันทร์และเวทย์มนต์ของผู้พิทักษ์แห่งพงไพร
       แม้ว่าแร่โอริชาลคั่มจะมิอาจทนทานต่อพลังเวทย์อันสูงส่งของผู้พิทักษ์แห่งพงไพรได้  แต่มันก็ถือเป็นแร่ที่มีความแข็งและทนทานที่สุดในบรรดาแร่ทั้งหมด
       ลักษณะเด่นคือมีน้ำหนักเบา  และจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นในความมืด
...
เงื่อนไขการถลุง : ช่างตีเหล็กขั้นสูง
น้ำหนัก : 3 หน่วย       

[ โอริชาลคั่มสีม่วง ]
       แร่ที่จะได้รับจากผู้พิทักษ์แห่งพงไพรร่างจริงในยามพระจันทร์ทั้งสองเต็มดวงเท่านั้น
       มันเปี่ยมไปด้วยเวทยท์มนต์อันทรงพลังที่จะเสริมทั้งพลังโจมตีและพลังเวทย์… ทว่าไม่เหมือนกับโอริชาลคั่มสีน้ำเงิน ความแข็งแกร่งของโอริชาลคั่มสีม่วงอยู่ในระดับต่ำมาก
       มันจึงไม่เหมาะจะนำไปสร้างอุปกรณ์สวมใส่ที่ต้องปะทะโดยตรง… แต่จะเป็นวัสดุชั้นยอดในการสร้างเครื่องประดับ
...
* เงื่อนไขการถลุง : ช่างตีเหล็กขั้นสูงสุด
น้ำหนัก : 1 หน่วย

[ โล่อะมิทิสต์ ]
เกรด : อีปิก
ความคงทน : 200
พลังป้องกัน : 200
พลังป้องกันเวทย์ : 200
...
       โล่อันงดงามที่จะส่องแสงสีม่วง แดง หรือดำขึ้นอยู่กับองศามุมมอง… เป็นสัญลักษณ์ซึ่งจะมอบให้กับหัวหน้ากองทหารอัศวินสีชาดเท่านั้น
       เป็นโล่ที่สูญหายไปเมื่อสามปีก่อน ในวันที่ปิอาโร่ ผู้ถูกอัสโมเฟลทรยศหักหลังและหนีจากจักรวรรดิซาฮารันเข้ามายังอาณาจักรอีเทอนัล
       องค์ชายลำดับที่3แห่งจักรวรรดิซาฮารันกำลังมองหาโล่อันนี้อยู่… คงเป็นการดีหากท่านจะนำมันไปให้เขา
...
เงื่อนไขการสวมใส่ : หัวหน้ากองอัศวินสีชาด
น้ำหนัก : 350 หน่วย

[ ไม่พบคุณสมบัติลับของไอเท็ม ]

        "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน"

       เมื่อมั่นใจว่าผู้พิทักษ์พงไพรร่างจริงได้ดรอปโอริชาลคั่มสีน้ำเงินมาเป็นจำยวน14ก้อน… กริดอดสั่นระริกอย่างโกรธแค้นไม่ได้… <ความผิดพลาด> ต้องการโอริชาลคั่มมากถึง15ก้อน… การที่มันดรอปให้แค่14ก้อน แปลว่ากำลังมีใครคอยกลั่นแกล้งเขาอยู่จากเบื้องบน

       "ถ้าดรอปมาน้อยกว่านี้เราจะไม่เสียใจเลยสักนิด ดีกว่าต้องถูกกวนประสาทด้วยการดรอปมาแค่14ก้อน แล้วขาดไปเพียง1ก้อน..."

       ถ้าหากเมื่อ3เดือนก่อน กริดไม่ได้รับแร่จากวลาดี้จำนวน3ก้อน… ป่านนี้เขาคงขาด1ก้อนสุดท้ายอย่างเจ็บปวดหัวใจไปแล้ว        

       "ไอเท็มอื่นก็นับว่าน่าสนใจ"

       กริดสงบใจลงและเพ่งพิจารณาโอริชาลคั่มสีม่วงอย่างสุขุมเยือกเย็น

       'เครื่องประดับสินะ'

       ตอนนี้กริดมีเครื่องประดับทั้งหมดสองชิ้น… หนึ่งคือ<แหวนโดรัน> ส่วนอีกหนึ่งคือ<แหวนแห่งคำมั่นสัญญา>ที่ได้มาจากพิธีแต่งงาน 

[ แหวนแห่งคำมั่นสัญญา ]
เกรด : ยูนีค
...
       สัญลักษณ์แทนรักนิรันดร์
       ท่านจะอยู่ในอาการ<มีความสุข>เมื่อได้อยู่ใกล้คู่ครอง… ความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น8% และค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น30แต้ม
...
* อารมณ์ของคู่ครองจะผันแปรตามความชื่นชอบที่อีกฝ่ายมีต่อท่าน… มีความสุข ยินดี พึงพอใจ ปรกติ ไม่พอใจ วิตกกังวล และเกลียดชัง… มีทั้งหมด7อารมณ์ โดยแหวนแห่งคำมั่นสัญญาจะแสดงออปชั่นที่แตกต่างกันไปในอารมณ์ทั้ง7
* ถ้าหากท่านมีค่ำคืนอันเร่าร้อนพร้อมกับสวมแหวนวงนี้ไว้ด้วย ค่าประสบการณ์ของทุกทักษะจะเพิ่มขึ้น10%
* ค่ำคืนอันเร่าร้อนจะมีได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น
* เมื่อกำลังสวมแหวนวงนี้อยู่ ค่าความสัมพันธ์กับเอ็นพีซีเพศตรงข้ามจะเพิ่มขึ้นยากกว่าเดิม
* ถ้าหากถูกอีกฝ่ายจับได้ว่าไม่ได้สวมแหวน ค่าความชื่นชอบจะลดลง90% และโอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะต่ำลงอย่างน่าใจหาย
...
น้ำหนัก :  0.1 หน่วย

       แหวนโดรันได้แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมมานักต่อนัก… ทว่าแหวนแห่งคำมั่นสัญญานั้นแตกต่างออกไป 
       
       ผลลัพธ์ที่ดีจะแสดงก็ต่อเมื่ออยู่ใกล้กันเท่านั้น และการเพิ่มค่าประสบการณ์ทักษะก็ทำได้เพียงเดือนละครั้ง… แถมการสวมแหวนจะยิ่งเพิ่มความค่าความสัมพันธ์กับเอ็นพีซีเพศหญิงคนอื่นได้ยาก  

       ด้วยความสัตย์จริง กริดแทบไม่ต้องสวมมันเลยก็ได้นอกจากเวลาที่อยู่กับไอรีน… ทว่าเขาก็ไม่คิดถอด… ชายหนุ่มไม่อยากเสี่ยงที่จะถูกไอรีนจับได้ว่าไม่ยอมสวมแหวน   

       กริดขึ้นชื่อในเรื่องความโชคร้ายอยู่แล้ว ถึงช่วงนี้จะดีขึ้นบ้างแล้วก็เถอะ… แต่การไม่เอาตัวเข้าเสี่ยงคงเป็นการดีกว่า

       ยิ่งไปกว่านั้น ระบบที่เอ็นพีซีสามารถตั้งครรภ์ได้ ซาทิสฟายจำเป็นต้องมีความสมจริงถึงขนาดนี้เชียวหรือ… และกริดกลับคิดว่ามันน่าสนใจดี

       'มองหาพรสวรรค์ของลูกเรา… สอนเขา และช่วยให้เขาเติบโตขึ้นเป็นคนดี… งั้นสินะ'

       แต่มันกินเวลาหลายสิบปีกว่าจะเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่..  แถมยังมีข้อเสียที่ฝั่งผู้เล่นหญิงไม่อาจมีลูกได้ ดังนั้นระบบทายาทคงไม่ใช่ส่วนสำคัญในซาทิสฟายนัก

       "อืม… งั้นสร้างสร้อยคอขึ้นจากโอริชาลคั่มสีม่วงก็แล้วกัน"

       ผู้เล่นอาจสวมแหวนได้หลายวง แต่สร้อยคอสามารถสวมได้เพียงเส้นเดียวเท่านั้น… ไอเท็มส่วนสร้อยคอจึงเป็นช่องที่ค่าสถานะสูงมากอีกช่องหนึ่ง… กริดตัดสินใจได้ไม่ยาก 

       "อืม... สร้อยคอนี่แหละ"

       แต่ชายหนุ่มมิอาจสร้างสร้อยคอด้วยคลาสช่างตีเหล็กได้ เขาจำเป็นต้องหาช่างทำเครื่องประดับเพื่อสร้างให้… คงต้องไปสอบถามเอาจากข่านถึงคนที่ไว้ใจได้ 

       หลังจากนั้นกริดก็จ้องมองไปยังโล่อะมิทิสต์  

       "ไอเท็มภารกิจสินะ"

       ถือเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจไม่น้อย… กริดยังคงจำได้ดี เมื่อครั้งได้พบกับปิอาโร่ในหุบเขาเคซานหลังจากเรียนรู้วิชาดาบแพ็กม่าหมาดๆ  

       'หมอนั่นต้องการแก้แค้นอัสโมเฟล ผู้ซึ่งใส่ร้ายว่าเขาเป็นผู้ทรยศ '

       ตอนนี้อัสโมเฟลอยู่ในจักรวรรดิซาฮารัน       

       'สักวัน เราคงมีโอกาสไปพบกับองค์ชายลำดับ3แห่งจักรวรรดิซาฮารัน… เมื่อถึงตอนนั้น เราคงต้องไปหาปิอาโร่ก่อนเพื่อที่จะรับภารกิจไปในตัว'

       จักรวรรดิซาฮารันอยู่ห่างออกไปไกลมาก… ไม่มีทางได้ไปในเร็ววันนี้แน่ ดังนั้นกริดจึงเก็บโล่อะมิทิสต์ใส่กระเป๋าไว้เผื่อภารกิจวันข้างหน้า

       เป็นเวลาเดียวกับที่โรมิโอและบรรดาทหารเดินเข้ามา

       "ท่านวิสเคาท์บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า"

       พวกเขาต่างแสดงสีหน้ากังวล… เพราะทุกคนเห็นกับตา ว่ากริดถูกลำแสงสีฟ้าเสียบเข้าที่หัวใจอย่างจังก่อนผู้พิทักษ์พงไพรจะตายไป… พวกเขาคิดว่ากริดคงไม่รอดแล้วแน่… ทว่ากริดก็ตอบกลับไปเหมือนไม่มีอะไร   

       "อย่าลืมสิ ฉันคือผู้ที่ได้รับพรจากพระเจ้านะ… ดังนั้นฉันไม่มีวันตายหรอกน่า" หลังจากตอบกลับไปด้วยท่าทีผ่อนคลาย เขาก็ตบบ่าโรมิโอเบาๆ ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

       "ความตายของเด็คช่างน่าเสียดาย… ฉันขอโทษที่มิอาจปกป้องเข้าไว้ได้"

       กริดมิได้เสแสร้ง… เขาเป็นทั้งเพื่อนของข่านและสามีของไอรีน ดังนั้นกริดคือคนที่เคารพในตัวเอ็นพีซียิ่งกว่าใคร… เด็ดคืออัศวินหนุ่มอนาคตไกล ความตายอย่างสูญเปล่าที่นี่จึงเป็นเรื่องน่าเศร้า  
       
       โรมิโอเริ่มร่ำไห้

       "ทุกคนที่นี่จะจดจำในความกล้าหาญของเขา"

       ตลอดสามวันที่ผ่านมา เด็คได้ช่วยเหลือทหารไว้นับไม่ถ้วนระหว่างการฝึกอันโหดร้ายของกริด… กองร้อยที่13พลันเงียบสงัด ทุกคนสาบานในใจว่าจะไม่มีวันลืมเด็คเด็ดขาด… และทันใดนั้นเอง เสียงร้องอันแหลมเล็กของสัตว์ใหญ่ได้ดังมาจากด้านบนท้องฟ้า

       "นั่นอะไร"

       "ก--กากอยล์งั้นรึ"

       ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดสงัด เงาลางของสัตว์ใหญ่ได้ปรากฏขึ้น.… เสียงกระพือปีกดังคล้ายกับกริฟฟอนไม่ก็กากอยล์ในตอนแรก… ทว่าเมื่อร่างของมันกระทบกับแสงจันทร์ ทุกคนก็เห็นชัดเจนว่ามันมีผิวหนังสีแดง… มังกรเดรก… หากโตเต็มวัยจะมีขนาดใหญ่ถึง4เมตร เป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้ายและแข็งแกร่งจนทั้งกริฟฟอนและกากอยล์เทียบไม่ติด

       มังกรเดรกคือสิ่งมีชีวิตสายพันธ์มังกร แต่ยังจัดว่าด้อยกว่ามังกรแท้ๆ ซึ่งเป็นเจ้าของฉายา<ราชันย์แห่งท้องฟ้า>… และบนหลังของเดรกตัวนี้ก็มีคนผู้หนึ่งนั่งมาด้วย 

       "นายท่าน ช่วงนี้สบายดีไหม"
       
       เป็นฮิวรอย ผู้ที่ได้รับคลาสรองจากความช่วยเหลือของกริดในคุกวินสตัน… ทันทีที่ร่อนลงจอด เกิดเป็นสายลมอันรุนแรงพัดผ่านไปทั่วบริเวณ… กริดตอบกลับไปด้วยท่าทีผ่อนคลาย

       "ไม่เจอกันนานเลยนะ… นายโตขึ้นมากเลยนี่"  

       สายตาของกริดจับจ้องไปยังค่าพลังต่อสู้ของฮิวรอย… 10,000… สูงกว่าอัศวินอย่างโรมิโออยู่2,000หน่วย  

       'เลเวลคงเกิน200ไปแล้ว'

       ขนาดว่าไม่ใช่คลาสสายต่อสู้ เขายังสามารถพัฒนาตนเองให้เลเวลเกิน200ได้… ถึงจะเล่นเกมเก่งแค่ไหนก็เถอะ แต่คลาสของฮิวรอยถือเป็นข้อจำกัดใหญ่หลวงในด้านการอัพเลเวล… ทว่านับตั้งแต่ได้ครอบครองคลาสรอง ฮิวรอยจึงก้าวเข้าสู่เส้นทางของแร้งเกอร์เต็มตัว  

       "เป็นเพราะได้นายท่านช่วยเหลือไว้คราวนั้น"

       หากเนเมื่อก่อน กริดรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าฮิวรอยเอาเสียเลย… ทว่าตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว… มุมมองของชายหนุ่มได้เปลี่ยนไปนับตั้งแต่การต่อสู้กับหัวหน้าออร์คน้ำแข็งวันนั้น

       กริดยิ้มให้เล็กน้อย

       "ยังไม่ลืมฉันก็ดีแล้ว… มาพอดีเลย ฉันมีเรื่องจะให้นายทำ"

       "หือ"

       อันที่จริง ทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันนานแล้ว… ราว4-5เดือนในซาทิสฟายเห็นจะได้… ฮิวรอยอยากจะเล่าทุกสิ่งที่ได้พบมาให้กริดฟัง… เขาอยากเล่าว่าไปได้มังกรเดรกตัวนี้มายังไง และการผจญภัยน่าตื่นเต้นแค่ไหน… และเขาเองก็อยากจะรู้ว่า กริดทำอย่างไรถึงเอาชนะใจท่านหญิงคนสวยแห่งวินสตันได้  

       ทว่า ดูเหมือนกริดไม่อยากคุยด้วย… ทั้งๆ ที่ในบรรดาผู้เล่นกว่า2พันล้านคน มีไม่ถึงร้อยคนที่มีมังกรเดรกไว้ในครอบครอง สัตว์เลี้ยงทรงพลังอันดับ1ของโลก ณ เวลานี้ 

       "นายจงไปล่าออร์คน้ำแข็งมาซะ"

       "...!"

       เหตุไฉนคนอย่างเขาต้องกลับไปล่าฝูงมอนสเตอร์เลเวลน้อยด้วย… กริดเห็นฮิวรอยสับสน จึงอธิบายต่อไปทันที 

       "พวกมันดรอปเกล็ดซิลฟิด… ฉันอยากให้นายไปหามาให้ฉันสัก28อัน… แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะ ว่าอัตราดรอปต่ำมาก… อย่างต่ำ นายคงใช้เวลาราว10วันเลยทีเดียว"

       กริดมีแผนที่จะสร้างผ้าคลุมล่องหน… หรือตอนนี้มีชื่อว่า <เสื้อคลุมแบบมีซิป>… โดยจำเป็นต้องใช้เกล็ด  ซิลฟิดจำนวน20ชิ้นต่อการสร้าง1ตัว… ก่อนที่กริดจะออกไปหาวิชาดาบแพ็กม่าคราวที่แล้ว เขาล่าเกล็ดซิลฟิดมาได้ทั้งหมด12ชิ้น 

       ในตอนแรกชายหนุ่มยอมแพ้เรื่องนี้ไปแล้ว ทว่าฮิวรอยก็โผล่ออกมาได้จังหวะเหมาะเหม็ง

       'เราจะสร้างขึ้นมาสองฝืน… ฝืนหนึ่งใช้เอง ส่วนอีกฝืนก็เอาไปขาย'

       "..."

       ฮิวรอยพลันย้อนกลับไปนึกถึงความทรงจำขุมนรก200ชั่วโมงในคุกใต้ดินวินสตัน

       'กริดคือคนที่ปรากฏตัวออกมาช่วย ในยามที่เรากำลังยากลำบากและสิ้นหวังสุดขีด'

       เขายังย้อนไปถึงตอนที่ล่าหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง

       'เราติดอาการมึนงงและกำลังจะตาย ทว่าเขาก็เอาตัวมาขว้างเพื่อช่วยเราไว้'

       ยิ่งย้อนนึกมากเท่าใด บุญคุณของกริดก็ยิ่งมีมากมายเหลือเกิน… ฮิวรอยไม่เกี่ยงที่จะตอบแทนกริดทุกรูปแบบ

       "ไม่มีปัญหา"

       เป็นเรื่องปวดใจไม่น้อยที่ต้องจมอยู่กับแม็พเดิมๆ และล่ามอนสเตอร์ตัวเดิมๆ ถึง10วันเต็ม โดยเฉพาะตัวเขาที่ต้องการเป็นแร้งเกอร์แล้วด้วย… ดังนั้นฮิวรอยจึงไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกแม้แต่วินาทีเดียว… ทว่ากริดกลับเบรกไว้เสียก่อน 

       "เดินไป! ห้ามบิน"

       "เห..."
       
       กริดชี้นิ้วไปทางโรมิโอกับกองร้อยทหาร

       "ถ้าหากนายบิน คนพวกนี้จะตามไปไม่ทัน"

       "หมายความว่ายังไง..."

       "พาคนพวกนี้ไปออกล่าด้วย จงฝึกฝนพวกเขาให้แข็งแกร่ง"

       "..."

       "แล้วทำไมคุณไม่ทำเอง"

       "...ไม่ล่ะ"

       ลงท้ายด้วยเขาจำใจเดินกลับไปทั้งๆ ที่มีมังกรเดรกอยู่กับตัว… ช่างเป็นการสิ้นเปลืองเวลาโดยเปล่าประโยชน์… ยังไม่หมดแค่นั้น ฮิวรอยยังต้องคอยเป็นพี่เลี้ยงให้พวกทหาร… แต่เขาก็ไม่ได้ปริปากบ่น… ในเมื่อให้สัตย์สาบานเอาไว้แล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องทำ     

       ผู้สืบทอดแห่งหมาป่าสีครามไม่เคยกลืนน้ำลาย… ฮิวรอยปฏิบัติตามคำสั่งของกริดอย่างเคร่งครัด 

       "มาได้จังหวะพอดีเลยแฮะ"

       กริดฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเมื่อฮิวรอยจากไป… ใจจริงเขาอยากสร้างเสื้อคลุมแบบมีซิปมานานแล้ว แต่โอกาสดรอปของเกล็ดซิลฟิดมีน้อยจนน่าเกลียด การออกล่าไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป

       เขารู้สึกดีมาก ที่ฮิวรอยโผล่มาในตอนที่ต้องการตัวมากที่สุด

       'ไม่ช้าก็เร็ว เดี๋ยวฉันจะสร้างไอเท็มเจ๋งๆ ให้นายเอง… ดังนั้นไม่ต้องเศร้าใจไปนะ'

       นับตั้งแต่ปลดหนี้สำเร็จ ความเห็นแก่ตัวของกริดก็ลดลงจากแต่ก่อนมาก… เขาไม่คิดจะใช้ฮิวรอยเยี่ยงทาสเหมือนกับตอนแรกอีกแล้ว… อีกไม่นาน กริดจะทำเซอร์ไพรส์ชิ้นใหญ่ให้ฮิวรอยเอง  

       "เอาล่ะ… ก่อนอื่นเลยก็ต้องสร้างความผิดพลาดขึ้นมาให้ได้"

       ร่างของกริดลอยขึ้นฟ้า… แม้จะช้าว่าเดรกมาก แต่ความเร็วของทักษะ<บิน>ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่… จุดหมายปลายทางครั้งนี้คือโรงตีเหล็กข่าน  

       ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา       

       ชายคนหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นในส่วนลึกสุดของป่าเกรย์… เขาจ้องมองไปยังเศษซากการต่อสู้ที่ยังไม่จางหายไป 

       "บ่าน่า… ผู้พิทักษ์พงไพรร่างจริงไม่ใช่บอสที่กิลด์เซดาก้าห์ในตอนนี้จะล่าไหว"

       หรือท็อป5ของโลกคนไหนแอบมาถึงที่นี่ก่อนเขากันนะ

       "ชิ… ต้องขอบคุณจริงๆ  เราเลยต้องเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์… เราเองก็จะมาที่นี่ทุก4เดือนไม่ได้ด้วยสิ ดันพลาดโอกาสทองซะได้"

       และชายที่ค่อยๆ หายตัวไปจากป่าเกรย์ผู้นี้ เขามีชื่อตัวละครเหนือศีรษะเขียนไว้ว่า <แอ็กนัส>

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00