จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 134
โบสถ์หลักยูดาห์อยู่ไม่ห่างจากโบสถ์หลักโดมิเนี่ยนมากนัก ถ้าหากใช้ทางลัด สามารถเดินทางไปมาหากันได้ในระยะเวลา3วัน… แต่คนส่วนมากกลับเลือกจะเดินทางบนถนนหลักแทน ถึงระยะเวลาจะนานกว่าเป็นเท่าตัวก็ตาม
เหตุผลนั้นง่ายมาก… บนเส้นทางลัดมีรังกริฟฟอนอยู่ระหว่างทาง หากส่งเสียงจนทำให้พวกมันรู้ตัว รับรองได้เลยว่าเพียงเสี้ยววินาทีคงถูกรายล้อมด้วยฝูงกริฟฟอนนับสิบ… แม้กระทั่งลอร์ดเมืองใกล้เคียงก็ประหารนักโทษโดยการนำมาปล่อยไว้ในรังกริฟฟอน
จึงไม่ค่อยมีผู้ใดอยากย่างกรายผ่านเส้นทางลัดมากนัก
ทว่า ณ ตอนนี้
เด็กหนุ่มชาวเอเชียและพาลาดินคนหนึ่งกำลังเดินเฉียดใกล้กับรังกริฟฟอนประหนึ่งแมงเม่าบินเข้ากองไฟ… เป็นกริดและโทบัน
"โทบัน นายคิดจะทำอะไรเนี่ย ฉันเบื่อแล้วนะ"
"ชู่ว!"
โทบันกำลังซุ่มจับตามองรังกริฟฟอนด้วยสีหน้าตึงเครียด… เขาใช้มือปิดปากกริดซึ่งกำลังอ้าปากหาวเสียงดังไว้… โทบันพูดออกมาพร้อมหยดเหงื่อที่ไหลจากข้างแก้มว่า
"ฉันต้องบอกนายอีกกี่หนกัน… เราสองคนได้ตายกันหมดแน่ ถ้าหากกริฟฟอนมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่"
กริฟฟอนคือมอนสเตอร์ซึ่งมีเลเวลสูงถึง260… ด้วยปีกอันทรงพลัง กริฟฟอนสามารถบินโฉบโจมตีลงมาจากท้องฟ้าเพื่อเล่นงานเหยื่อให้สาหัส… มันคือนักล่าสูงสุดของห่วงโซ่อาหารบนทุ่งกว้าง… แม้แต่แร้งเกอร์ระดับสูงก็ยังยากจะรับมือ หากถูกซุ่มโจมตีด้วยกริฟฟอนฝูงใหญ่
เป็นสาเหตุให้โทบันต้องระวังตัวเป็นพิเศษ
"ช่วยตามฉันมาเงียบๆ ด้วย… ฉันใช้เส้นทางนี้มาเป็นสิบหนแล้ว ถ้าหากนายทำตามที่ฉันบอก พวกเราจะสามารถผ่านหุบเขานี้ได้อย่างไร้รอยขีดข่วน"
"..."
"พยายามส่งเสียงให้น้อยที่สุด… กลั้นหายใจเข้าไว้… และเคลื่อนที่ด้วยการคลานต่ำ… เข้าใจรึเปล่า"
โทบันค่อยๆ หมอบลงไปอยู่ในท่าคลานบนพื้นด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ
กริดยืนมองอย่างเงียบงันพร้อมกับขมวดคิ้ว
"น้ำเสียงของนายมันไม่อวดเบ่งไปหน่อยรึไง… พยายามจะสอนฉันหรือ… หืม… เจ้าทาส"
โทบันพลันนึกได้ทันทีว่าทำพลาดไป
"อ--เอ่อ… กริด นายอย่าเพิ่งโกรธสิ… ฉันแค่ให้คำแนะนำเท่านั้นเอง"
"น่ารำคาญฉิบ… ฉันไม่ทำตามที่นายบอกหรอกนะ… อะไรกัน หมอบคลานงั้นหรอ… ฉันทำมันจนเบื่อแล้วในค่ายทหาร"
เกาหลีใต้นั้นยังไม่รวมเป็นหนึ่งกับเกาหลีเหนือ ถึงแม้จะมีสัญญาสงบศึกมานานกว่า100ปีแล้ว ทว่าเกาหลีเหนือยังคงแสดงท่าทียั่วยุเป็นระยะบริเวณชายแดน… เด็กหนุ่มแข็งแรงทุกคนจึงต้องรับใช้ชาติเมื่ออายุถึงเกณฑ์… กริดก็ไม่มีข้อยกเว้น
"นายเคยเป็นทหารมาก่อนรึเปล่า… รู้จักวิธีคลานต่ำของจริงบ้างไหม"
"ท--ทหารงั้นหรอ"
โทบันเกิดที่สหรัฐอเมริกา… เขาไม่เคยสนใจกองทัพ จึงไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน
กริดจุ๊ปากอย่างหงุดหงิด
"คนไม่เคยเป็นทหารอย่างนายกลับกล้ามาสอนฉันเรื่องการคลานต่ำงั้นหรือ… เหอะ! ไอ้พวกพลเรือน… ฉันคือทหารกองหนุนของเกาหลีใต้เชียวนะ… รู้รึเปล่าว่าฉันต้องเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหนในตอนที่คลานต่ำในการฝึกซ้อม… ทุกวันนี้ยังคงไม่ลืมฝันร้ายในตอนนั้น… แล้วนี่ฉันยังต้องมาคลานต่ำในเกมอีกรึไง… โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนเสนอหน้ามาสอนกลับไม่รู้จักการคลานต่ำอย่างถูกวิธี"
"..."
โทบันไม่สามารถโต้แย้งคำพูดของกริดได้… เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าการคลานต่ำจะไปกระตุ้นต่อมโทสะของอดีตทหารเกณฑ์เข้า
"ไอ้พวกไม่รู้จักวิธีคลานต่ำที่แท้จริงเอ้ย!" กริดพึมพำพร้อมหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ… มันคือผ้าคลุมมาลาคัส
โทบันออกอาการลนลาน
"ฮ--เฮ้! กริด เก็บไอ้นั่นเข้าไปซะ… นายจะบ้ารึไง ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอามันออกมาอีก"
โทบันคือหนึ่งในปาร์ตี้ล้มมาลาคัสในวันนั้น เขาจึงรู้ดีว่าผ้าคลุมมาลาคัสมีออปชั่นพิเศษอย่างไร… มันสามารถทำให้กริฟฟอนทั่วทั้งหุบเขาแห่งนี้มารวมตัวกันได้ในพริบตา
"นายคิดจะฆ่าตัวตายรึไง!" โทบันพลันจินตนาการภาพฝูงกริฟฟอนบินปกคลุมทั่วท้องฟ้า เขายังกล่าวต่อไปด้วยสีหน้าอันซีดเผือด
"เก็บเข้าไปเร็ว!"
กริดแสยะยิ้มและชำเลืองมองไปยังโทบันที่กำลังสติแตก
"นายคิดว่าทำไมฉันถึงเลือกเส้นทางลัดกันล่ะ… คิดว่าอยากย่นระยะทางงั้นหรอ… เปล่าเลย… ฉันไม่มีทางปล่อยให้ขุมทรัพย์กริฟฟอนแห่งนี้สูญเปล่าแน่นอน"
กระดูก หนัง และเส้นเอ็นกริฟฟอนล้วนเป็นไอเท็มมูลค่าสูง… หากจำไม่ผิด เส้นเอ็นกริฟฟอนคือวัตดุหลักในการสร้าง <หอกวายุ> ให้ป็อนเมื่อคราวก่อน… กริดจึงตัดสินใจจะล่ากริฟฟอน หลังจากที่รู้ว่าป็อนต้องสูญเงินมหาศาลเพื่อซื้อเส้นเอ็นกริฟฟอนมามอบให้
และนี่คือโอกาสทอง… รอบๆ วินสตันไม่มีรังกริฟฟอนอยู่เลย… กริดจึงไม่มีทางพลาดโอกาสแน่
"ฉันต้องได้ไอเท็มทุกชนิดที่เกี่ยวกับกริฟฟอนในวันนี้!"
"เสียสติไปแล้วรึไงวะ!"
"เมื่อครู่นายพูดว่ายังไงนะ"
กริดชำเลืองมองโทบันด้วยสายตาบึ้งตึง… แต่โทบันก็ไม่แสดงอาการหวาดกลัวเลยสักนิด… เกราะฝูงกริฟฟอนย่อมน่ากลัวกว่ากริดมาก
"ฉันรู้ดีว่านายแข็งแกร่งมาก! บางทีอาจเทียบได้กับแร้งเกอร์ท็อป10ของโลกเลยทีเดียว"
"เห… ขนาดนั้นเชียวรึ ฮะฮะ!" กริดพลันต้องดีใจเมื่อถูกเยินยอ เขาตื่นเต้นจนยกนิ้วขึ้นมาเกาจมูก
โทบันซึ่งกำลังมีสีหน้าหวั่นวิตกได้เดินเข้ามาใกล้กริดและตะโกนใส่หน้าเขา
"แต่แค่นั้นมันยังไม่พอหรอกโว้ย!! หุบเขาแห่งนี้มีจำนวนกริฟฟอนมากมายนับไม่ถ้วน! ผ้าคลุมบ้านั่นจะทำให้เราถูกล้อมไว้ด้วยกริฟฟอนนับร้อย… ต่อให้เป็นอับดับ1ของโลกอย่างครอเกล หมอนั่นก็ไม่มีทางรับมือทั้งหมดพร้อมกันได้แน่!! แล้วนายยังคิดจะทำแบบนั้นอยู่อีกรึไง เก็บเข้าไปซะ!"
"อ--อืม..."
เป็นความจริงที่กริฟฟอนค่อนข้างรับมือยาก… แถมยังมีเลเวลที่สูงถึง260… กริดลองคิดทบทวนดูใหม่ก่อนจะตัดสินใจเก็บผ้าคลุมมาลาคัสกลับไป
"ตกลง ฉันเข้าใจแล้ว… พวกเราจะไม่ล่าเป็นฝูง แต่จะจัดการไปทีละตัวแทน… เอาให้ได้มากที่สุดก็แล้วกัน เข้าใจไหม"
กริดยังคงยืนกรานที่จะล่ากริฟฟอน… โทบันไม่มีทางเลือก
"ก็ได้ ถ้าทีละตัวคงไม่มีปัญหา… ถึงจะใช้เวลานานไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่า"
ด้วยความสัตย์จริง โทบันเองก็เป็นแร้งเกอร์ เขาอยากได้ค่าประสบการณ์จากการล่ากริฟฟอนพร้อมกริด… ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังตัดสินใจจะล่ากริฟฟอนไปทีละตัว
กรี๊~!
เสียงตะโกนก่อนหน้านี้ของโทบันได้ดึงความสนใจให้กริฟฟอนเข้ามาหา… ตอนนี้บนท้องฟ้ามีฝูงกริฟฟอนหลายสิบตัวบินอยู่
"เฮ้ย..." โทบันเข่าอ่อนทันทีเมื่อเห็นฝูงกริฟฟอนเต็มน่านฟ้า
"บ้าจริง… จบสิ้นแล้ว พวกเราจะตายกันหมด"
กริดพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด
"หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว ฉันไม่มีทางยอมตายที่นี่เด็ดขาด!"
"กริด..."
ในยามนี้ กริดรีบสวมเกราะสีขาวเปล่งประการหรูหรา ถุงมือแวววาวระยิบระยับ และมงกุฏซึ่งดูเด่นสง่าออกมาอีกครั้ง… ในมือขวากำดาบใหญ่ไว้อย่างน่าเกรงขาม เป็นภาพที่สร้างความหวังให้โทบันขึ้นมาอีกครั้ง
'จริงสิ… ถ้ามีกริดล่ะก็… พวกเราอาจชนะได้'
เขาสามารถปราบอาสึกะ แบล็กเท็ดดี้ บ็อกซ์ และโทบันลงได้ด้วยตัวคนเดียว… แม้เลเวลจะน้อย แต่กริดอาจเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดของโลก ณ เวลานี้แล้ว
กริดผู้มีคลาสลับเกรดเลเจนดารี… โทบันมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าถ้าหากเป็นกริด… ฝูงกริฟฟอนเหล่านี้คงมีหนทางรับมือ
"กริด! สั่งฉันมาได้เลย!"
ในเมื่อโทบันยินยอมจะรับใช้กริดเยี่ยงทาส เขาก็ต้องทำหน้าที่ผู้ตามให้ดีที่สุด… เขารอรับคำสั่งจากกริดอย่างตั้งใจ… เป็นเวลาเดียวกับที่กริดโยนผ้าคลุมมาลาคัสมาให้
"อย่างแรกเลย… นายจงสวมมัน… และวิ่งหนีไปซะ"
"...!!"
โทบันยังคงไม่เข้าใจเจตนาของกริด… หมายความว่ายังไงให้สวมผ้าคลุมมาลาคัสแล้ววิ่งหนีไป… เขาก็จะกลายเป็นเหยื่อให้ฝูงกริฟฟอนรุมทึ้งเอาน่ะสิ… หากคิดหนี ทำไมเขาถึงต้องสวมผ้าคลุมนี้ด้วย
กริดโพล่งขึ้นอย่างหงุดหงิด
"ยังไม่เข้าใจอีกรึไง… นายคือเหยื่อล่อ!"
"ห--เหยื่อล่อ..."
โทบันไม่เชื่อหูตนเอง… มนุษย์… ผู้ล่าอันดับ1ของห่วงโซ่อาหารซึ่งมีสติปัญญาสูงสุด… กลับต้องกลายเป็นเหยื่อล่อของมอนสเตอร์เนี่ยนะ
"นายเอาจริงหรอ"
กริดตอนกลับทันควัน
"คิดว่าฉันเป็นพวกอารมณ์ดีนักรึไง… นี่คือคำสั่ง!"
"ไม่มีทาง… การใช้มนุษย์เป็นเหยื่อล่อ… นายกำลังทำสิ่งที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมทั่วโลกอยู่นะ!!"
"หลักมนุษยธรรมมันมาเกี่ยวอะไรด้วย… ตอนนี้นายคือใคร… อย่าลืมสิ เจ้าทาส! ทำตามที่ฉันบอกซะ แล้วเราสองคนจะรอดพ้นจากสถานการณ์นี้ไปได้… ฉันจะคอยโจมตีพวกมันจากด้านหลังทีละตัว"
เป็นความจริง… การต้องสู้กับกริฟฟอนทุกตัวพร้อมกัน ไม่ต่างอะไรกับการส่งตนเองลงนรก… โทบันอยากร้องไห้… วันก่อนเขายังโชคดีมีโอกาสได้ทำภารกิจระดับSSอยู่เลย… แต่ตอนนี้มันไม่ใช่โชคดีอีกแล้ว แต่เป็นคำสาปจากพระเจ้าต่างหาก
"บ้าจริง!"
พรึบ!
พักหลังมานี้ โทบันรู้สึกอยากร้องไห้บ่อยครั้งขึ้น… เขาจำใจสวมผ้าคลุมมาลาคัสอย่างไม่มีทางเลือก… ทันใดนั้น กริฟฟอนจำนวนมากเมื่อได้กลิ่นคาวเลือดจากผ้าคลุม ทุกตัวก็จ้องมองมายังโทบันเป็นตาเดียว
กรี๊~~
กริฟฟอนนั้นดุร้ายไม่ต่างกับออร์ค… ทันทีที่ได้กลิ่นคาวเลือด พวกมันก็โฉบเข้าใส่ราวกับเป็นเหยื่ออันโอชะ… จะงอยปากอันแข็งแรงได้เล็งตรงมายังศีรษะโทบันอย่างรวดเร็ว
"อั่ก!"
โทบันยกโล่ขึ้นมาป้องกัน
เคร้ง!
เกิดแรงปะทะขึ้นรุนแรงจนโทบันเซถอยหลัง… กริฟฟอนอาศัยช่องว่างกระพือปีกเพื่อสร้างสายลมพัดใส่… หลังจากนั้นก็ใช้อุ้งเท้าโฉบเข้าใส่โทบันอีกครั้ง
"เอ๋… เดี๋ยวก่อน!!"
โทบันถูกสายลมพัดใส่จนชะงัก… อุ้งเท้าของกริฟฟอนใกล้จะสัมผัสหน้าอกของเขาเต็มที
'จบสิ้นแล้ว'
ด้วยสายลมที่พัดเข้ามา โทบันจึงมิอาจยกโล่ขึ้นมาป้องกันได้ทัน… และอุ้งเท้าก็กำลังกระแทกเข้าใส่อย่างเต็มแรงจนต้องบาดเจ็บสาหัส
ทำไมกริฟฟอนถึงแข็งแกร่งผิดปรกติเช่นนี้นะ โทบันพลันเกิดความสงสัย… แต่เมื่อได้เห็นชื่อเหนือศีรษะกริฟฟอน เขาก็ต้องตาสว่างทันที
"บ้าจริง! นี่มันบอสแม็พ!!"
ใช่แล้ว... ฝูงกริฟฟอนทั้ง23ตัวบนท้องฟ้า… มีตัวหนึ่งเป็นผู้นำที่ชื่อว่า <กริฟฟอนจ่าฝูง>
"ทำไมพระเจ้าถึงได้ทอดทิ้งเราเช่นนี้"
โทบันได้แต่กรีดร้องอยู่ภายในใจ… ในเมื่อเป็นการโจมตีที่หลบไม่ได้ โทบันจึงซดโพชั่นเพื่อให้พลังชีวิตเต็มหลอด หลังจากนั้นเขาใช้ทักษะเสริมพลังป้องกันทั้งหมดกับตนเอง
โทบันหลับตาลงอ้าแขนรอรับความเจ็บปวดซึ่งกำลังจะเข้ามาปะทะในไม่ช้า… แต่ ณ ขณะนั้น… เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กริดโผล่ออกมาจากด้านหลังของกริฟฟอนจ่าฝูงและใช้วิชาดาบแพ็กม่า <สังหาร> ในจังหวะอันสมบูรณ์แบบ
[ คริติคอล! ]
[ เอฟเฟคถุงมือแสงศักดิ์สิทธิ์แสดงผล… ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากปรกติ ]
<สังหาร> เลเวล1มีความรุนแรง1500%ของพลังโจมตี... ส่วนเลเวล2เพิ่มเป็น1800%… หลังจากจัดการกับเดรวิโก้และเพิ่มมา20เลเวล กริดก็นำแต้มสถานะทั้ง200เพิ่มให้กับ <ค่าพละกำลัง> จนหมด
รวมไปถึงพาเฟรเนี่ยมซึ่งได้รับการอวยพรมาจากโบสถ์โดมิเนี่ยนได้ส่งผลให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้นอีก15%
ยังไม่หมดเท่านั้น
กริฟฟอน23ตัวในพื้นที่ตรงนี้ ดาอินสเลฟมองว่าทุกตัวคือศัตรู โบนัสพลังโจมตีจึงถูกเพิ่มเข้าไปอีก345หน่วย… และด้วยผลของ <โทสะช่างตีเหล็ก>
ทักษะ <สังหาร> ซึ่งมีความรุนแรง1800%จึงทำให้มอนสเตอร์ระดับบอสถึงกับสะดุ้ง
ปิดท้ายด้วยการแสดงผลจากเอฟเฟคถุงมือแสงศักดิ์สิทธิ์… ความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะถูกนำไปคูณด้วย5
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 284,00 หน่วย ]
'พลังชีวิตของสันตะปาปามีอยู่ราว300,000หน่วยใช่ไหม'
กริดพลันต้องตกตะลึงกับหน้าต่างข้อความระบบ
กรี๊~
เพียงการโจมตีเดียว กริฟฟอนจ่าฝูงถูกดาเมจอันรุนแรงจนพลังชีวิตแทบมิดหลอด… มันร่วงหล่นลงพื้นและเข้าสู่สภาวะปางตายทันที… โทบันทำได้เพียงยืนมองอ้าปากค้าง
"กริด… พลังโจมตีของนายมาจากไหนกัน… อย่าบอกนะว่านายออมมือไว้ในตอนที่สู้กับพวกบ็อกซ์"
บางทีคลาสเกรดเลเจนดารีอาจยอดเยี่ยมกว่าที่โทบันคิด
กริดหันไปพูดกับโทบันอย่างใจเย็น
"ไม่หรอก… คราวนี้มันค่อนข้างจะฟลุคน่ะ"
เขาคือคนที่ตกตะลึงยิ่งกว่าใคร
5555+ คริแตก เงิบดิ
ReplyDeleteNo cri ดาเมจล้วนๆเลยต่างหาก(+สกิล+ผลพิเศษ)ล่ะเฟ้ย
DeleteNo cri ก็บ้าละมันก็เขียนอยู่คริติคอลไม่เห็นจริงดิ
Deleteออกอัลติ ทั้งเพิ่มพลังโจมตี เจาะเกราะ แถมความแรงคริติคอลอีก ติกทีมีตายล่ะงานนี้
ReplyDeleteคลาสนี้จะโกงไปไหนกัน
สนุกมากมายครับ
ReplyDeleteเผลอๆกริดไม่ยอมขายเซ็ทนี้ช่ะเพราะคุณสมบัติมันเวอร์วังมากกก บวกนั่นบวกนี่จนตีบอสทีเดียวหวิดดับเลย
ReplyDeleteกริดแม่งออกIE+คริ100℅แน่ๆ
ReplyDelete