จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 136



       มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า… เลเวลคือทุกสิ่งในเกม

       คำพูดนั้นยังคงใช้ได้กับซาทิสฟาย… แม้ซาทิสฟายจะมีชื่อเสียงโด่งดังด้วนโลกออนไลน์เสมือนจริง… แต่เนื้อแท้แล้วก็ยังเป็นเกมอยู่… เลเวลยังคงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับผู้เล่นปรกติอย่างเลี่ยงไม่ได้

       แต้มสถานะ10แต้มจะได้รับทุกการอัพเลเวล1ครั้ง… ยิ่งค่าสถานะมากขึ้น ตัวละครของผู้เล่นก็ยิ่งเก่งขึ้น… ยิ่งมีเลเวลสูงขึ้น ก็ยิ่งสามารถสวมใส่ไอเท็มเลเวลสูงขึ้น… รวมไปถึงทักษะบางชนิดที่ต้องการเลเวลเพื่อเรียนรู้ด้วย

       ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยิ่งผู้เล่นมีเลเวลสูง… ระบบลับบางชนิดก็จะยิ่งแสดงผลชัดเจน

       ขอยกตัวอย่างด้วยค่า <พละกำลัง>

       ถ้าผู้เล่นเลเวลต่ำกว่า100… ในทุก1ค่าพละกำลังที่อัพเพิ่ม… ผู้เล่นจะได้รับพลังโจมตี0.1หน่วย… พลังชีวิต3หน่วย… และค่าการแบกน้ำหนักอีก20หน่วย   

       แต่ถ้าหากเลเวลของผู้เล่นสูงกว่า100… ในทุก1ค่าพละกำลังที่อัพเพิ่มจะกลายเป็น… พลังโจมตี0.2หน่วย พลังชีวิต5หน่วย และค่าการแบกน้ำหนัก30หน่วย

       และเมื่อเลเวลมากกว่า200ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกเช่นเดียวกัน… กลายเป็นพลังโจมตี0.3 พลังชีวิต7 และค่าการแบกน้ำหนัก40หน่วย 

       ผลของมันจะเพิ่มขึ้นในทุกๆ 100เลเวล… ระบบนี้ถูกเรียกว่า <การตื่นของค่าสถานะ>… การตื่นของค่าสถานะส่งผลใหญ่หลวงมากในระยะยาว… ทำให้ยิ่งมีเลเวลเยอะ ก็ยิ่งเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน

       แต่เรื่องนั้นไม่ได้ส่งผลกับกริด ผู้มีคลาสเกรดเลเจนดารีเลยสักนิด

       ผู้เล่นเลเวล170เพียงคนเดียว สามารถกำราบแร้งเกอร์เลเวล200ขึ้นไปได้ถึง4คนพร้อมกัน

       รวมไปถึงกริฟฟอนอันดุร้ายซึ่งมีเลเวลสูงถึง260... กริดก็สามารถล่ามันได้เป็นร้อยๆ ตัวอย่างสบาย (ต้องขอบคุณโทบันที่ทำตัวเป็นเหยื่อล่อชั้นดี)

       กริดจึงเป็นราวกับผู้เล่นขี้โกงซึ่งอยู่เหนือระบบเลเวลของเกมไปแล้ว

       'แค่คลาสลับเกรดอีปิกก็มากพอจะทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือนได้… แต่กริดกลับมีคลาสลับเกรดเลเจนดารีงั้นหรอ… หมดคำพูดเลยแฮะ'

       ขณะกำลังหยุดพักผ่อนในบริเวณรังกริฟฟอนหลังจากเสร็จการล่าอันยาวนาน… โทบันก็ถามขึ้นอย่างสงสัย

       "กริด… นายไปได้คลาสเกรดเลเจนดารีมายังไงกัน"

       การจะได้เป็นคลาสลับสักอัน ความยากลำบากนั้นไม่ต้องพูดถึง… ดังนั้นคลาสของกริดจึงไม่ต่างกับการถูกรางวัลที่หนึ่ง โทบันรู้ดีกว่ากริดคงผ่านความยากลำบากมาก... แต่เขาก็อยากรู้ลึกลงไปในรายละเอียดมากขึ้น… เขาอยากฟังกริดเล่าถึงประสบการณ์และสิ่งที่ทำให้กริดกลายเป็นคลาสนี้… การได้เป็นผู้ฟังคงจะสนุกไม่น้อย… และอาจได้ความรู้มาปรับใช้กับตนเองด้วย

       ทว่าประสบการณ์ของกริดในช่วงนั้นไม่ใช่สิ่งน่าจดจำนัก… เขาไม่อยากนึกถึงมันขึ้นมาอีก… ความเจ็บปวดทรมานตลอด3เดือนเต็มซึ่งปราศจากรอยยิ้ม… ต้องเผชิญหน้ากับความตายนับสิบหนจนเกือบเสียแรงจูงใจในการเล่มเกมนี้ต่อไป 

       "อย่าได้ถามถึงเรื่องนั้นอีก..."

       โทบันสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันโหดเหี้ยมของกริดพุ่งพล่านออกมาแวบหนึ่ง… เขาจึงไม่คิดเซ้าซี้ถามเรื่องนี้ต่อเป็หนที่สอง

       'ความโกรธเมื่อครู่เป็นของจริง… กริดคงเจ็บปวดไม่น้อย… แน่ล่ะ... ใครคิดว่าการได้รับคลาสเกรดเลเจนดารีเป็นเรื่องง่ายกัน… แต่ตอนนี้เราอยากออกไปจากที่นี่เต็มทนแล้ว'
     
       ทั้งคู่วนเวียนในรังกริฟฟอนมานานกว่า4วันเต็ม… ระหว่างนี้เลเวลกริดเพิ่มขึ้นจากเดิม10ระดับ จนกลายเป็น180… และดูเหมือนเขายังต้องการจะอัพเป็นเลเวล200ให้ได้โดยเร็ว 

       ทว่าโทบันไม่อาจนิ่งเฉยต่อไปได้… เป็นการเสียเวลาชีวิตของเขาไปถึง4วันเต็มโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย ไม่ว่าจะเป็นเงิน ค่าประสบการณ์ หรือไอเท็ม… โทบันต้องคอยสวมผ้าคลุมมาลาคัสวิ่งล่อกริฟฟอนให้กริดตลอด4วัน4คืน... ในช่วงนี้เขาอาจเสียตำแหน่งพาลาดินอันดับ1ของโลกให้ดาเมี่ยนแล้วก็ได้ 

       โทบันกังวลในเรื่องนั้น จึงพูดออกไปตามตรง

       "กริด… หยุดพักการเก็บเลเวลไว้แค่นี้เถอะ นายต้องไปทำภารกิจให้เสร็จไม่ใช่หรือ"

       "หืม..." กริดแสดงสีหน้าครุ่นคิด

       ค่าประสบการณ์ซึ่งได้จากกริฟฟอนจัดว่าสูงมาก… ใจจริงเขาอยากจะอยู่ที่นี่จนถึงเลเวล200เลยด้วยซ้ำ

       'ความต่างชั้นของเลเวล180และ200มีสูงมาก'

       แต่การทำแบบนั้นมันออกจะสิ้นคิดเกินไปหน่อย

       'เราใช้เวลา4วันในการอัพ10เลเวล… หมายความว่า ต่อให้รักษาความเร็วระดับนี้ไปเรื่อยๆ ก็ยังต้องใช้เวลาอีก8วันในการอัพ20เลเวลที่ยังขาดอยู่… เรามัวเสียเวลานานขนาดนั้นไม่ได้แน่'

       และด้วยความสัตย์จริง กริดเริ่มรู้สึกสงสารโทบันขึ้นมาจับใจ… แม้ในสายตาจะมองโทบันเป็นแค่ทาส… แต่เมื่อวันสองวันก่อน เขากลับเริ่มรู้สึกเห็นใจโทบันขึ้นมา 

       'โทบันเองก็เป็นแร้งเกอร์… การทำให้เขาเสียอันดับไม่ใช่เรื่องดีนัก… งั้นพอแค่นี้ก็แล้วกัน'

       ไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันที่กริดรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น… แม้แต่ตัวกริดเองก็ยังแทบไม่เชื่อความรู้สึกของตน

       'บนโลกอันโหดร้ายใบนี้… มีเพียงผู้ที่จิตใจเหี้ยมโหดเท่านั้นถึงจะอยู่รอด'

       ทำไมพระเจ้าต้องสร้างให้เขาเกิดมาเป็นคนซื่อตรงและอ่อนโยนด้วย… กริดเริ่มรู้สึกพาลไปโกรธแค้นถึงเทพบนสวรรค์

       "ไปกันเถอะ"

       "โอ้ส!"

       โทบันตะโกนขึ้นอย่างโล่งใจ… เขาจะไม่ต้องกลายเป็นเหยื่อล่อกริฟฟอนอีกแล้ว... คราวนี้ถึงเวลาเดินทางไปยังโบสถ์ยูดาห์… กริดเองก็อยากรีบกลับวินสตัน ส่วนโทบันก็อยากได้รับอิสระคืนมาโดยเร็ว 

       ไม่ถึงหนึ่งวัน คนทั้งสองก็เดินทางมาถึงโบสถ์หลักยูดาห์สำเร็จ… โทบันหยุดชะงักอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า

       "หลวงพ่อปาสคาลต้องการจะครอบครองเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์… ดังนั้นเขาอาจเป็นศัตรูกับนาย และอาจเกิดการต่อสู้ขึ้น… แต่ฉันไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือได้จริงๆ… นายเข้าใจฉันใช่ไหม"

       "ฉันสู้คนเดียวจนชินแล้ว"

       กริดไม่ได้กังวลอะไรมาก… แค่หลวงพ่อของโบสถ์ มีหรือจะแข็งแกร่งไปกว่าสันตะปาปา… ถ้าต้องสู้กันจริงๆ กริดก็คิดว่าเขาไม่มีทางแพ้แน่… แต่ก่อนอื่นขอตรวจสอบหน้าต่างตัวละครเป็นครั้งสุดท้าย 

       'รู้เขารู้เขา รบร้อยชนะร้อย… หน้าต่างสถานะ!'

ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 180   
ค่าประสบการณ์ : 140,090/5,531,200
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม  มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม  มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข  แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
...
สมญานาม :  ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง   ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
...
สมญานาม : ผู้สร้างไอเท็มเกรดยูนีคคนแรก
* ค่าความชำนาญ +200 แต้ม.
...
สมญานาม : ผู้รังสรรค์ไอเท็มเกรดเลเจนดารีหนึ่งเดียวของโลก
* ค่าความชำนาญ +350 แต้ม.
...
สมญานาม : ผู้สังหารอัศวิน
* ค่าความอดทน +100 แต้ม,  ค่าพละกำลัม +30 แต้ม.
...
สมญานาม : สาวกเที่ยงธรรม
* ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10 แต้ม.
* ทักษะติดตัว 'ความกล้าหาญที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ'.
...
พลังชีวิต:   29,560/29,560 (+7,000)    มานา: 3,240/3,240
พละกำลัง:  1,584,  ความอดทน: 962,  ความว่องไว: 417
สติปัญญา: 439(+200),  ความชำนาญ: 984,  ความพากเพียร: 498
ความเยือกเย็น: 364,  ความทรหด: 414,  ความหยิ่งทระนง: 364
วิสัยทัศน์:  664,  ความกล้าหาญ: 308
ค่าสถานะคงเหลือ : 0 แต้ม
น้ำหนักสัมภาระ:  25,519/57,480

[ รายละเอียดพลังโจมตีกายภาพ ]
พลังโจมตีพื้นฐาน : 325
พลังโจมตีอาวุธ : 412~579
พลังโจมตีเสริม :
- วิชาดาบแพ็กม่า (โหมดปรกติ) : เพิ่มพลังโจมตี 20%
- การอวยพรจากเทพโดมิเนี่ยน : เพิ่มพลังโจมตี 15%
พลังโจมตีโดยรวม : 995~1220

[ รายละเอียดพลังเวทย์มนต์ ]
พลังโจมตีเวทย์มนต์พื้นฐาน : 220
พลังโจมตีเวทย์มนต์จากไอเท็ม : 100
พลังโจมตีเวทย์มนต์เสริม : ไม่มี
พลังโจมตีเวทย์มนต์รวม : 320

[ รายละเอียดพลังป้องกัน ]
พลังป้องกันพื้นฐาน : 192
พลังป้องกันจากไอเท็ม : 539
พลังป้องกันเสริม :
- เซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ : พลังป้องกัน +500
พลังป้องกันรวม : 1,231

       ณ เลเวล100... กริดจะได้รับพลังโจมตี0.2หน่วยต่อ1แต้ม <พละกำลัง>… พลังเวทย์มนต์0.5หน่วยต่อ1แต้ม <สติปัญญา>… และพลังป้องกัน0.2หน่วยต่อ1แต้ม <ความอดทน>

       พลังโจมตีและพลังป้องกันของกริดในตอนนี้นับว่าสูงเกินกว่าผู้เล่นในเลเวลใกล้เคียงไปไกลมากแล้ว… เขาได้รับแต้มสถานะมากมายจากการผลิตไอเท็ม… แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้กริดพึงพอใจ… เขาไม่ชอบเลยเมื่อไอเท็มที่สวมอยู่ต้องถูกผลข้างเคียงจนลดทอนความสามารถไป 

       <+5 ดาอินสเลฟ> มีพลังโจมตี549~772… แต่ด้วยผลข้างเคียง25% จึงทำให้เหลือเพียง412~579เท่านั้น… และชุดเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก… ผลข้างเคียงอยู่ที่55%… กริดอดรู้สึกเสียดายในจุดนั้นไม่ได้   

       'การสวมใส่ไอเท็มได้ทุกชิ้นบนโลกมันก็ดีอยู่หรอก… แต่ระบบผลข้างเคียงนี่น่ารำคาญชะมัด… ถ้าตั้งใจจะทำให้คลาสของฉันเก่ง… ก็ช่วยให้เก่งไปสุดทางเลยสิฟะ… จะมาใส่ผลข้างเคียงให้มันครึ่งๆ กลางๆ ทำไม'

       แต่กับหลวงพ่อโบสถ์ยูดาห์… เพียงเท่านี้ก็เกินพอแล้ว… ตอนที่กริดฆ่าสันตะปาปา เลเวลของเขาต่ำว่านี้30ระดับ และตอนนั้นก็ยังไม่มีเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์เลยด้วยซ้ำ

       "เฮ่อ… เอาล่ะ!"

       ชายหนุ่มมองโลกในแง่ดีก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในโบสถ์หลักยูดาห์… กริดยื่นจดหมายแนะนำตัวจากอิสซาเบลให้กับพาลาดินที่มาขวางทางไว้

       "ฉันมาหาหลวงพ่อปาสคาล"

       พาลาดินรีบเปิดจดหมายอ่าน หลังจากนั้นก็เปิดทางให้กริดทันที

       "ยินดีต้อนรับคุณกริด หลวงพ่อกำลังรออยู่เลย"

       "..."

       ง่ายดายขนาดนี้เชียว… กริดค่อนข้างประหลาดใจในท่าทีอันเป็นมิตรของโบสถ์ยูดาห์ จึงหันกลับไปมองโทบันอีกครั้ง… ทว่าโทบันยามนี้กลับกำลังซ่อนตัวอยู่หลังเสาหินใหญ่   

       >> กริด… ฉันเข้าไปกับนายไม่ได้จริงๆ… หลวงพ่อจะต้องโกรธแน่ถ้าเกิดเห็นหน้าฉันเข้า

       'ปอดแหก...'

       ลงท้ายด้วยการที่กริดเดินเข้าไปตามลำพัง… ทว่าการต้อนรับจากโบสถ์ยูดาห์นั้นอบอุ่นจนกริดประหลาดใจ... อาหารนานาชนิดถูกนำมาเสริฟเต็มโต๊ะ… หลวงพ่อปาสคาลพูดคุยด้วยท่าทีเป็นกันเอง

       "เป็นเกียรติอย่างยิ่ง… ที่ได้พบกับวีรบุรุษผู้รับการอวยพรมาจากเทพธิดารีเบคก้าและเทพโดมิเนี่ยน"

       แม้ปาสคาลจะเป็นคนทะเยอทยาน… แต่ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้นถือว่าเป็นเลิศ… หลวงพ่อปาสคาลได้ยินมาว่า... กริดคือผู้ที่เอาชนะมาลาคัสและเดรวิโก้จนได้รับการชื่นชมจากโบสถ์รีเบคก้ากับโดมิเนี่ยนอย่างสูง การเป็นศัตรูกับกริดจึงนับเป็นเรื่องโง่เขลา

       อีกประการหนึ่ง ปาสคาลไม่มีเหตุผลใดให้ต้องมุ่งร้ายกับกริด… ในเมื่อตำแหน่งสันตะปาปาว่างลงแล้ว ตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์สมัครชิงตำแหน่งคนต่อไป... ถึงแม้จะไม่มีเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม

       'ตรงกันข้าม ตำแหน่งสันตะปาปาของเราดูเหมือนจะง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก'

       ในตอนนี้ ไม่มีใครในโบสถ์รีเบคก้าจะมีความสามารถพอในการลงสมัครชิงตำแหน่งสันปะตาปาได้… และหลวงพ่อของโบสถ์โดมิเนี่ยนก็ไม่ใช่คนมักใหญ่ใฝ่สูง… ปาสคาลมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าสันตะปาปาคนต่อไปย่อมเป็นตน… เขาจึงรู้สึกขอบคุณกริดที่ทำให้ทุกอย่างเข้าทางถึงเพียงนี้

       "ฉันเองก็อยากจะฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการเอาชนะมาลาคัสและสันตะปาปาเดรวิโก้เหมือนกัน… เอาล่ะ นั่งลงก่อน เดี๋ยวอาหารจะชืดซะหมด"

       "..."

       และในวันนี้ กริดก็ได้ทั้งเพิ่มความสัมพันธ์กับหลวงพ่อปาสคาส และยังได้รับการอวยพรพาเฟรเนี่ยมจากองค์เทพยูดาห์

[ แผ่นจานสีทองที่ทำจากพาเฟรเนี่ยม ]
ความคงทน : ไร้ขีดจำกัด
...
       แผนจานสีทองที่สร้างขึ้นจากพาเฟรเนี่ยม โลหะที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกซึ่งเกิดจากการฝีมือของช่างตีเหล็กในตำนาน แพ็กม่า และสุดยอดจอมเวทย์ บราฮัม
       หากอยู่ในภาวะปรกติ… มันจะหมุนไปรอบผู้เป็นนายเพื่อทำการปกป้องจากอันตราย… แต่มันก็ยังสามารถพุ่งเข้าโจมตีตามความต้องการผู้เป็นนายได้ด้วย
...
* ผลจากการอวยพรของเทพธิดารีเบคก้า… ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตของผู้เป็นนายจะเพิ่มขึ้น 300%
* ผลจากการอวยพรของเทพโดมิเนี่ยน… พลังโจมตีของผู้เป็นนายจะเพิ่มขึ้น 15%
* ผลจากการอวยพรของเทพยูดาห์… พลังป้องกันของผู้เป็นนายจะเพิ่มขึ้น 15%
น้ำหนัก : 3 หน่วย

       'เยี่ยม'

        ดูเหมือนการเดินทางอันยาวนานใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว... เหลือเพียงการอวยพรจากเทพยาธานอีกแห่งเดียว... กริดก็จะเสร็จภารกิจคลาสเสียที

       ปาสคาลหันไปกล่าวกับกริดซึ่งกำลังตื่นเต้นว่า

       "แต่ว่านะกริด… มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะค้นหาวิหารหลักของยาธานให้พบ… วิหารหลักของยาธานถือเป็นความลับสูงสุด ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของทวีปไม่เคยถูกบันทึกไว้แม้แต่ครั้งเดียว… นายบอกว่าต้องให้เทพยาธานอวยพรด้วยสินะ… แต่ ณ ตอนนี้ฉันเกรงว่าเรื่องนั้นคงทำได้ยาก"

       "..."

       คำพูดของปาสคาลไม่มีจุดไหนที่ผิด

       หลังจากนั้นกริดก็กลับออกมาพบกับโทบันด้านนอกอีกครั้ง… ทว่าพวกเขาเองก็ไม่มีเบาะแสของวิหารหลักยาธานเลย… ดูเหมือนจะต้องใช้เวลาอีกสักพักจนกว่าจะหาสถานที่แห่งนั้นพบ 

       ลงท้ายด้วยกริดจำต้องยอมกลับวินสตันโดยที่ภารกิจยังไม่เสร็จ… วินสตันกลายเป็นเมืองคึกคักทันทีเมื่อกริดกลับไปถึง

       ***

       "เห… มีงานอะไรงั้นหรือ"

       ผู้เล่นในวินสตันต่างออกอาการตื่นเต้น… ณ ทางเข้า มีเอ็นพีซีเลื่องชื่อและทหารยืนตั้งขบวนต้อนรับอย่างเกรียงไกร… แม้กระทั่งฟินิกซ์และท่านหญิงไอรีนก็อยู่ในแถว… รวมไปถึงกลุ่มผู้เล่นแร้งเกอร์หัวกะทิอย่างเซดาก้าห์ด้วย… มีข่าวลือว่า กิลด์เซดาก้าห์เพิ่งจะตัดสินใจเข้าเป็นขุนนางในสังกัดท่านหญิงไอรีนเมื่อไม่นานมานี้   

       "หรือว่า… กษัตริย์ทรงเสด็จงั้นรึ"

       "เป็นไปได้… บางทีกษัตริย์แห่งอีเทอนัลอาจได้ยินการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของวินสตัน จึงเสด็จมาเยี่ยมเยียนด้วยตนเอง"

       ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้เห็นกษัตริย์ของแต่ละอาณาจักรตัวเป็นๆ… มีข่าวลือว่า แค่เพียงได้พบ ก็ส่งผลให้ค่าสถานะเพิ่มขึ้นแล้ว… ขบวนเสด็จจะยิ่งใหญ่และตื่นเต้นขนาดไหนกันนะ… กลุ่มผู้เล่นกว่าพันคนต่างยืนกระจุกรอรับชมริ้วขบวนด้วยความคาดหวัง

       และหลังจากนั้นไม่นาน

       ในที่สุดประตูหลักวินสตันก็ถูกเปิดออกพร้อมกับมีใครบางคนเดินเข้ามา…  เมื่อกองทหารดุริยางค์ยืนยันตัวตนคนผู้นั้น ทรัมเป็ตจึงถูกบรรเลงขึ้นอย่างพร้อมเพียงก้องกังวาล… อัศวินพลันชักดาบชูขึ้นเหนือศีรษะเพื่อถวายเกียรติ… ชาวเมืองต่างตื่นเต้นดีใจและพากันโปรยกระดาษสีไปทั่วทั้งถนน

       ทว่าคนที่เดินเข้ามากลับไม่ใช่กษัตริย์… ไม่ใช่เอ็นพีซีด้วยซ้ำ… แต่เป็นผู้เล่น… อย่าว่าแต่จะดูสง่าราศีดังเช่นกษัตริย์เลย การแต่งตายดูซอมซ่อราวกับขอทาน… ทั้งใบหน้าและชื่อตัวละครถูกปกปิดไว้ประหนึ่งไม่ต้องการให้เป็นที่แตกตื่น… หลังจากนั้นท่านหญิงไอรีนก็รีบปรี่เข้าไปสวมกอดชายคนนั้น   

       "เฮ้ย...!!"

       กลุ่มผู้เล่นที่เฝ้าดูอยู่ต่างร้องเสียงหลงพร้อมกัน… ท่านหญิงไอรีนผู้ซึ่งเป็นดั่งเทพธิดาของชาววินสตันทุกคน เนื่องด้วยความงดงามและอ่อนโยน... เธอเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นชายจำนวนนับไม่ถ้วน… แต่แล้วทำไม...

       ทำไมเธอถึงวิ่งโผเข้าไปกอดชายซึ่งดูราวกับเป็นขอทานคนนั้น

       "ฉันคิดถึงคุณมาก… ที่รัก!"

       ไอรีนสบตากับชายลึกลับด้วยแววตาอันแสนเว้าวอน… เป็นภาพอันน่าตกตะลึงสำหรับผู้เล่นทั่วเป็นอย่างยิ่ง

       "น--นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน"

       ทำไมเอ็นพีซีขุนนางผู้สูงศักดิ์ถึงหลงรักขอทานอย่างมันได้… ในขณะทุกคนกำลังตกตะลึง… จิสึกะ… หนึ่งในแร้งเกอร์สาวผู้งดงามและเซ็กซี่ที่สุดของโลก… ได้เดินเข้าไปหาขอทานผู้นั้นพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส… ซึ่งแต่เดิมเธอมักแสดงสีหน้าอันเย็นชาเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าผู้ชาย   

       "นายกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว… ฉันเป็นห่วงใจจะขาด"

       "เฮ้ย..."

       ผู้เล่นไทยมุงยิ่งตกตะลึงหนักกว่าเดิม… ท่านหญิงไอรีนแห่งวินสตันซึ่งเป็นทายาทขุนนางดังของอาณาจักร… รวมไปถึงแร้งเกอร์สตาร์สาวสวยของโลก… ฉากนี้กลายเป็นประเด็นร้อนและถูกถ่ายทอดสดออกไปยังสื่อทั่วโลกในชั่วข้ามคืน… ผู้คนเกิดการถกเถียงเป็นวงกว้าง ว่าชายปริศนาคนนั้นคือใครกันแน่

       "เขาคือใครกัน...!"

       ***

       หลังจากเสร็จมื้อค่ำ

       เซฮีก็เดินมานั่งลงข้างยองวูบนโซฟาใหญ่… ซึ่งข่าวในจอทีวีก็กำลังเป็นเรื่องของชายปริศนาดังกล่าวพอดิบพอดี… แม้เซฮีจะไม่เคยเล่นซาทิสฟาย แต่ก็เคยดูข่าวเกี่ยวกับซาทิสฟายอยู่หลายครั้ง จึงเข้าใจได้ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงกลายมาเป็นข่าวดังได้

       "แต่งตัวกับพวกขอทานเลยนะ พี่ว่ามั้ย… แต่ทำไมถึงได้รับความรักจากคนมีชื่อเสียงมากมายขนาดนี้"

       เซฮีถามไปพลาง อ้าปากหาวไปพลาง… ยองวูจึงตอบกลับไป

       "คนๆ นั้น… คือพี่เองแหละ"

       "...หือ!"

       "พี่ออกไปทำภารกิจนานเป็นเดือน คนพวกนี้ก็เลยยืนตั้งขบวนต้อนรับเมื่อพี่กลับไปถึง"

       "หึหึ… พี่ดังสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ"

       เปรี้ยะ!

       รีโมททีวีในมือเซฮีพลันเกิดเสียงแตกหักขึ้นคามือ… ยองวูขมวดคิ้วเล็กน้อย

       "เห…  ถึงมันจะเก่าเป็นสิบปีแล้ว แต่ก็ไม่น่าแตกง่ายขนาดนี้นะ… ยี่ห้อนี้แย่ฉิบ… คราวหน้าพี่จะไม่ซื้อทีวียี่ห้อนี้ก็แล้วกัน"

       "ไอ้พี่บ้า!"

       เซฮีถลึงตาใส่ยองวูเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปอย่างหงุดหงิด… ชายหนุ่มผู้ซึ่งเผชิญกับความเหนื่อยล้ามาทั้งวันได้ผล็อยหลับไปคาโซฟา

       "...ค่ำคืนอันเร่าร้อน… หึหึหึ… อุวะฮ่าฮ่า!"

       น้ำเสียงอันเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายได้ดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่นบ้านครอบครัวชิน

Comments

  1. คงอีกนานล่ะกว่าจะได้จิ้มท่านหญิงไอรีน มันต้องมีเรื่องมาขวางสิน่า

    ReplyDelete
  2. ยังคงเป็นแค่ความฝันนะกริด!!

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. น้องสาวหึงจนบีบรีโมทแตกคามือเลย

    ReplyDelete
  5. น้องสาวบราค่อนสินะ

    ReplyDelete
  6. ชอบน้องสาวไม่สนศีลธรรมเว้ยยย

    ReplyDelete
  7. คงต้องติดดต่อยูราไห้พาไปแล้วละ ดูแล้วน้องอาการหนัก

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00