จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 140
ณ จุดระดมพลประจำเมืองวินสตัน
ในพื้นที่โล่งกว้างซึ่งสามารถจุคนได้ราว5,000... กลับมีเพียงทหารจำนวน100นายยืนตั้งแถวเรียงรายด้วยสีหน้าแตกตื่น
"ฝึกภาคเช้าก็จบไปแล้วนี่… ทำไมพวกเรายังต้องมาตั้งแถวกันอีก"
"นั่นสิ… แถมยังมีแค่กองร้อยเดียวด้วย"
ณ ตอนนี้ วินสตันมีกำลังรบทั้งหมด2,030คน... แม้ก่อนหน้าจะมีทหารจำนวนมากต้องสละชีวิตไปในการต่อสู้กับวิหารยาธาน… แต่เอิร์ลสไตมก็นำกำลังมาเสริมจนทำให้มีเกินกว่า2พันคนไปแล้ว… ทว่ากลับมีเพียง100คนของกองร้อยพวกเขาเท่านั้นที่ถูกเรียกตัวมา ทั้งหมดจึงอดเป็นกังวลไม่ได้
พวกเขาคือกองร้อยที่13ผู้ขึ้นชื่อในด้านความโชคร้าย… ดังนั้นจึงกำลังหวาดกลัวว่าจะถูกลงโทษในบางเรื่อง
"ก่อนอื่น มีใครจำได้รึเปล่าว่าทำอะไรผิดไว้บ้าง… เมื่อคืน ยามคลังแสงคือหมวดไหน… หมวดที่3ใช่ไหม… แอบหลับยามรึเปล่า"
"จะบ้ารึไง… สถานการณ์กับวิหารยาธานตึงเครียดเช่นนี้ใครจะไปกล้าหลับยาม… พวกเราแอบไปนอนเลยต่างหาก… แต่อย่าดูถูกคนดูต้นทางสิ เครือข่ายของพวกเราไม่มีวันโดนจับได้แน่"
"งั้นรึ… แล้วหมวด2ล่ะ… พวกนายลาดตระเวนแถวตลาดใช่ไหม… ไปขโมยของพ่อค้าแม่ค้ามารึเปล่า"
"ไม่เกี่ยวกับพวกเราแน่… แค่กินผลไม้กับเนื้อย่างเสียบไม้ไปนิดหน่อยเอง แล้วพ่อค้าแม้ค้าก็ไม่มีใครบ่นเลยสักคำ"
"อืม… เท่าที่ดูก็ไม่น่าจะทำอะไรผิดนะ… ถ้าจะมีก็แค่เรื่องที่พวกเราไปอัดนักเลงที่มาป่วนจนพิการไป… แต่ก็ไม่น่าโดนลงโทษหรอก จริงไหม"
"พวกเราควรได้รับรางวัลด้วยซ้ำ… แต่แล้วทำไมถึงถูกเรียกตั้งแถวแค่กองร้อยเดียวได้"
ท้ายที่สุด ทหารทั้ง100คนก็ไม่อาจทราบถึงสาเหตุที่พวกตนถูกเรียกมา… บางส่วนจึงหันไปถามหัวหน้ากองร้อย <จู๊ด>ว่าเกิดอะไรขึ้น
"กัปตัน… ทำไมพวกเราถึงถูกเรียกตัว"
"...ฉันไม่รู้"
จู๊ดเองก็ไม่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น… ในขณะกำลังปฏิบัติกิจวัตรตามปรกติก็มีคำสั่งให้เรียกระดมพลกองร้อยที่13ขึ้น… จู๊ดไม่ใช่คนหัวดี เขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ก็เลยทำเพียงยืนนิ่งไม่พูดอะไร
"ช่างเถอะ ฉันว่ากัปตันเองก็คงไม่รู้เหมือนกัน"
"นั่นสินะ… จุดแข็งอย่างเดียวของเขาคือการต่อสู้… ส่วนความสามารถที่เหลือก็ออกจะ..."
"..."
ในขณะที่ทหารกำลังคุยกัน อัศวินสองคนก็เดินเข้ามา… คนหนึ่งนามชื่อว่า <โรมิโอ>… อัศวินคนดังของวินสตัน ส่วนอีกคนหนึ่งคือมือขวาของเขา นามว่า <เด็ค>… โรมิโอผู้ซึ่งสวมเกราะสีทองอร่ามและผ้าคลุมสีแดงพลันตะโกนขึ้นเสียงดังฟังชัด
"เงียบหน่อย!! ตั้งใจฟัง! วิสเคาท์กริดกำลังจะมาที่นี่!"
"เอ๋… วิสเคาท์กริด"
ชายคนดังกล่าวเพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานกับท่านหญิงไอรีนไปเมื่อคืน… เพียงวันเดียวก็ได้กลายเป็นวิสเคาท์แล้วหรือ… แถมไม่ใช่ว่าหมดเรี่ยวแรงไปกับค่ำคืนแรกแล้วรึไง… ทำไมถึงได้ว่างมาที่จุดระดมพลแห่งนี้้
กริดปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางกองร้อยทหารที่กำลังสับสน… เขามาในชุดเกราะสีขาวสลักขอบทองคำ... ถุงมือส่องประกายระยิบระยับ ออร่าความสง่างามแผ่ออกมาอย่างล้นหลาม… ทำให้เกราะสีทองอร่ามของโรมิโอดูหมองลงทันใด
'วีรบุรุษผู้กอบกู้วินสตันจากลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่!'
นี่คือครั้งแรกที่กองร้อย13ได้เห็นกริดตัวเป็ฯๆ… พวกเขาต่างรู้สึกชื่นชมไม่น้อย
'ยังมีเรื่องที่เขาช่วยเหลือท่านหญิงไอรีนหลังจากสังหารมาลาคัสด้วย'
'แถมยังเป็นสุดยอดช่างตีเหล็กอีกไม่ใช่เหรอ… เก่งไปทุกด้านเลยแฮะ'
กริดมีค่าชื่อเสียงที่สูงมาก… แถมค่าสถานะ <ความสง่างาม> ก็ยังสูงมากด้วย ทหารคนใดที่ได้จ้องมองเป็นต้องรู้สึกทึ่งทั้งสิ้น… ชายหนุ่มก้มศีรษะเล็กน้อยอย่างเขินอาย ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวทีและจ้องมองทหารทุกคนจากด้านบน สายตาของเขาพลันไปสะดุดอยู่กับจู๊ด… กริดยิ้มเล็กน้อยและพูดขึ้น
( ผู้แปล : นับแต่นี้ไปขอเปลี่ยนค่าสถานะ <หยิ่งทระนง> เป็นคำว่า <สง่างาม> ด้วยนะครับ… แรกเริ่มที่แปลไม่แน่ใจว่ามันใช้เอาไปทำอะไรกันแน่ ในเมื่อตอนนี้รู้แล้วจึงขอแก้ไขให้ถูกต้อง )
'เป็นกองร้อยที่ยอดเยี่ยมมาก… เข้าใจแล้วว่าทำไมไอรีนถึงต้องเจาะจงกองร้อยนี้เป็นพิเศษ'
เลเวลเฉลี่ยของทหารวินสตันอยู่ที่70~80… และพลังต่อสู้ของทหารในขบวนตอนรับเมื่อวานจะอยู่ราว1,000หน่วย… ทว่ากองร้อยที่13กลับมีพลังต่อสู้เฉลี่ยอยู่ที่2พัน ส่วนกัปตันอย่างจู๊ดมีพลัวต่อสู้สูงถึง5พันเลยทีเดียว
เมื่อเทียบกับอัศวินเลเวล180ที่สวมเกราะเต็มตัว ทั้งสองคนจะมีพลังต่อสู้อยู่ราว7,500… ดังนั้นพลังต่อสู้5พันของจู๊ดที่สวมใส่อุปกรณ์ชั้นเลวจึงถือว่ามหาศาล
กริดรู้สึกสนใจชายคนนี้ขึ้นมาทันที… เขาตัดสินใจชักดาบออกมาจากฝักตรงเอว… ดาบเล่มที่ไอรีนมอบไว้ให้
[ ดาบผู้บัญชาการ ]
ความคงทน : 100/100
พลังโจมตี : 100
...
* ความสง่างาม +30
* ได้รับทักษะ <ตรวจสอบตัวละคร>
...
ดาบซึ่งจะมอบให้กับผู้บัญชาการกองทัพที่ถูกแต่งตั้งโดยราชวงศ์หรือขุนนาง… มันไม่เหมาะจะนำไปใช้ในสงคราม เพราะบนตัวดาบมีอัญมณีประดับประดามากเกินไป
ดาบเล่มนี้จะมอบทักษะในการตรวจสอบรายละเอียดทหารในกองทัพ… นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้บัญชาการทหาร
...
น้ำหนัก : 220 หน่วย
'ตรวจสอบตัวละคร'
[ ด้วยค่า <วิสัยทัศน์> ที่สูงกว่า 600 แต้มของท่าน… ส่งผลให้ทักษะ <ตรวจสอบตัวละคร> แสดงผลในเลเวล 3 ]
[ วิสัยทัศน์ตัวละคร เลเวล 3 ]
ท่านจะไม่เพียงได้รับรู้ข้อมูลส่วนตัวและทักษะของเป้าหมายเท่านั้น… แต่จะรวมไปถึง <ค่าสถานะในปัจจุบัน> และ <ค่าสถานะขีดจำกัด> ที่เป้าหมายจะพัฒนาไปถึงด้วย
...
* เป้าหมายจะต้องเป็นฝ่ายเดียวกันเท่านั้น
ชื่อ : จู๊ด
อายุ : 25
เพศ : ชาย
ตำแหน่ง : กัปตันแห่งกองร้อยที่13ของวินสตัน
เลเวล : 103
พละกำลัง : 818/2,080
ความอดทน : 431/908
ความว่องไว : 34/330
สติปัญญา : 11/20
...
ทักษะ :
- ขโมยอาวุธจากศัตรูมาใช้ (S)
- เงียบ (A)
- ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน (SS-)
...
เจ้างั่งที่เติบโตขึ้นในวินสตันตั้งแต่เด็ก… หากเป็นเรื่องพละกำลัง เขาไม่เคยแพ้ใคร… ด้วยความที่เป็นนักรบในสายเลือด จึงไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด
แต่โชคไม่ดีนัก สมองของจู๊ดเชื่องช้ากว่าคนอื่นมาก… ทำให้ไม่ว่าเขาจะสู้รบเก่งขนาดไหน แต่ก็ไม่อาจก้าวขึ้นไปในตำแหน่งสูงกว่านี้ได้… การได้เป็นกัปตันกองร้อยก็นับว่าปาฏิหาริย์มากแล้ว
'งั้นถ้าเป็นพวกอัศวินล่ะ'
กริดหันไปใช้ทักษะ <ตรวจสอบตัวละคร> กับทั้งเด็คและโรมิโอ
ชื่อ : โรมิโอ ลานิเช่
อายุ : 34
เพศ : ชาย
ตำแหน่ง : อัศวินแห่งท่านหญิงไอรีน
เลเวล : 196
พละกำลัง : 878/910
ความอดทน : 420/441
ความว่องไว : 253/270
สติปัญญา : 174/200
...
ทักษะ :
- จิตวิญญานหัวกะทิ (A+)
- การโจมตีอันหนักหน่วง (A+)
- สุขุมเยือกเย็น (B)
...
บุตรชายของวิสเคาท์ลานิเช่ และหนึ่งในศิษย์ของฟินิกซ์… เขาดำเนินเส้นทางอัศวินตามรอยฟินิกซ์ทุกประการ และตอนนี้กำลังรับให้ใช้กับตระกูลสไตม
พรสวรรค์ของโรมิโอเฉิดฉายตั้งแต่ยังเด็กจนถูกจับให้เรียนในคลาสหัวกะทิ… ทว่าในตอนนี้ เขากำลังกังวลเรื่องที่พัฒนาของตนช้าลงอย่างมากในระยะหลัง
ชื่อ : เด็ค
อายุ : 34
เพศ : ชาย
ตำแหน่ง : อัศวินแห่งท่านหญิงไอรีน
เลเวล : 185
พละกำลัง : 750/1,050
ความอดทน : 334/536
ความว่องไว : 213/320
สติปัญญา : 199/230
...
ทักษะ :
- ประจบประแจง (B+)
- เข้าใจในสถานการณ์เป็นเลิศ (S-)
- วิชาดาบเก่าแก่ (B)
...
เด็คสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้รวดเร็วและปรับตัวให้เข้ากับมันเป็นอย่างดี… ในฐานะผู้บัญชาการ เด็ดจัดว่าเป็นคนมีพรสวรรค์คนหนึ่ง
หากมองจากค่าสถานะโดยรวม พวกอัศวินอาจดูดีกว่าจู๊ดก็จริง
'แต่ต้องอย่าลืมด้วยว่าจู๊ดเลเวลน้อยกว่าอัศวินมาก… ถ้าเลเวลเท่ากันล่ะก็ หมอนี่จะต้องกลายเป็นปีศาจแน่'
พรสวรรค์ของจู๊ดมีสูงกว่าอัศวินสองคนนี้หลายเท่า… แต่นั่นคือเรื่องปรกติ โลกนี้คนเราเกิดมามีไม่เท่ากันอยู่แล้ว… จู๊ดฉายแววมากกว่าทั้งโรมิโอและเด็คอย่างเห็นได้ชัด
'นอกเหนือจากค่าสถานะปัจจุบัน… ยังมีค่าสถานะขีดจำกัดอีก'
ถ้าหากจู๊ดพัฒนาตนเองถึงขีดสุด… เขาจะเก่งกว่าโรมิโอราว2เท่าทีเดียว
'ข้อเสียเพียงหนึ่งอย่างคือสติปัญญาที่น้อยนิดราวกับแมลง… แต่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ก็มากพอจะกลบข้อด้อยนั้นไป '
กริดสังเกตเห็นเกรดของทักษะที่จู๊ดมี… ทั้งหมดล้วนเป็นเกรด A ถึง SS ซึ่งนับว่าสูงกว่าอัศวินเสียอีก… และทักษะพวกนี้ก็คงเป็นสาเหตุที่ทำให้จู๊คแข็งแกร่งขนาดนี้… กริดตัดสินใจได้ทันที
'จู๊ด… นายต้องมาเป็นหนึ่งในอัศวินของฉัน!'
ในฐานะวิสเคาท์ กริดมีสิทธิ์แต่งตั้งอัศวินได้3คน… หากเป็นคนทั่วไปคงต้องการอัศวินที่เฉลียวฉลาดคอยให้คำปรึกษา ทว่ากริดคิดต่างออกไป
'เราจะพลาดเรื่องง่ายๆ แค่นี้ไม่ได้'
กริดต้องการอัศวินผู้ซื่อสัตย์ประหนึ่งสุนัขรับใช้… กริดแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะใช้ทักษะตรวจสอบกับทหารที่เหลือ… แต่โชคไม่ดีนัก ในบรรดาทั้ง100คนตรงนี้ ไม่มีใครที่ยอดเยี่ยมไปกว่าจู๊ดอีกแล้ว… ถึงคนพวกนี้จะมีความยอดเยี่ยมกว่ากองทหารทั่วไปก็เถอะ
ถ้าหากกริดนำมาช่วยล่าบอสล่ะก็… ไม่สิ ก่อนอื่นต้องฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้นก่อน… คนพวกนี้อาจเป็นกองรบพิเศษชั้นแนวหน้าที่คอยปกป้องไอรีนในอนาคต
'ท่านหญิงโชคดีจังเลยนะ ที่ได้ชายคนนี้มาเป็นสามี'
'นั่นเขากำลังทำอะไรอยู่'
นับตั้งแต่กริดปรากฏตัวออกมา เขายังไม่ทันจะกล่าวอะไร มีเพียงชักดาบและกวาดสายตามองดูทุกคนด้วยรอยยิ้ม… เริ่มมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลแล้ว… เหตุไฉนวีรบุรุษผู้น่ายกย่องกลับทำตัวแปลกประหลาดเช่นนี้… กองร้อยที่13ทั้งหมดจึงอดหวาดระแวงมิได้
'นี่มันออกจะ...'
'เหมือนกับข่าวลือไม่มีผิดเลยสินะ...'
พวกทหารเริ่มรู้สึกผิดหวังในตัวกริด
หลังจากที่เขาตรวจสอบรายละเอียดทหารทุกคนจนเสร็จ ชายหนุ่มก็เก็บดาบใส่ฝักและพูดเข้าประเด็น
"อีกเดี๋ยวพวกเราจะเดินทางไปยังหมู่บ้านไบรัน"
"ไบรัน..."
"ทำไมต้องไปที่นั่นด้วย...!"
กลุ่มทหารเริ่มส่งเสียงอื้ออึง… โรมิโอจึงขมวดคิ้วและโพล่งขึ้น
"เฮ้! ตั้งใจฟังหน่อย!!"
"ข--ขอโทษครับ..."
"ตกใจหมดเลย"
กริดที่ยืนอยู่ข้างโรมิโอเองก็ก็ผงะไปเล็กน้อย… ชายหนุ่มยิ้มจางๆ ก่อนจะอธิบายต่อไป
"พวกเราจะไปหมู่บ้านไบรันเพื่อจัดการกับผู้พิทักษ์พงไพร… มันคงเป็นการเดินทางที่ยากลำบากไม่น้อย… ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้ดี"
"เฮ้ย!!"
เสียงอุทานอย่างตกใจไม่ได้มาจากกองทหาร… แต่เป็นของโรมิโอ… เขากำลังมองกริดด้วยสีหน้าเป็นกังวล… ในฐานะอัศวินรับใช้ตระกูลขุนนางใหญ่… โรมิโอย่อมมีศักดิ์ศรีและภาพลักษณ์อยู่พอสมควร ทว่ายามนี้เขากลับกำลังสั่นกลัวต่อหน้ากองร้อยทหารอย่างไม่อายสายตา
"ท--ท่านวิสเคาท์… ท่านจะออกล่าผู้พิทักษ์พงไพรด้วยจำนวนคนเพียงเท่านี้งั้นหรือ… ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม"
"แน่นอน"
"ห๋าา! ทำไมท่านถึงได้พูดจาไร้สาระเช่นนี้ออกมา!"
ผู้พิทักษ์พงไพรคือมอนสเตอร์โกเล็มระดับแถวหน้า… ดาบและธนูไม่สามารถขีดข่วนผิวหนังของมันให้เป็นรอยได้… เพราะร่างกายนั้นปกคลุมไปด้วยหินแข็งและโอริชาลคั่ม… นอกจากนั้นยังคอยเสกสมุนโกเล็มออกมาช่วยต่อสู้เป็นระยะ รวมไปถึงพลังโจมตีอันสะเทือนแผ่นดินนั่นอีก… เป็นหนึ่งในปีศาจทรงพลังของแดนเหนือก็ว่าได้
"ต่อให้ท่านนำกำลังทั้งวินสตันออกไป… ก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จด้วยซ้ำ!"
โรมิโอยังคงยืนกราน… คำพูดของเขาไม่ได้เกินจริงไปเลยสักนิด… หากเป็นในยามปรกติ จอมเวทย์หลายสิบคน หรืออย่างน้อยจอมเวทย์ชั้นสูง2-3คนมีความจำเป็นอย่างมากในการล่าผู้พิทักษ์พงไพร… แต่จอมเวทย์ที่ประจำการอยู่ในวินสตันมีเพียง4คนเท่านั้น แถมทั้งหมดก็ไม่ได้เก่งกาจอะไร
ไม่มีทางที่จะล้มผู้พิทักษ์พงไพรด้วยกำลังทหารเลวเพียง2พันคนแน่นอนหากปราศจากเวทย์มนต์อันทรงพลัง… กองทัพคงได้หายไปในพริบตาที่บอสทำการโจมตีเข้ามา
แต่กริดกลับคิดจะล่าผู้พิทักษ์พงไพรด้วยทหารเพียง100คน กับอัศวินอีก2คนเนี่ยนะ
ทันใดนั้น โรมิโอพลันนึกถึงกิลด์เซดาก้าห์ขึ้นมา
"อ้อ… ท่านคิดจะยืมกำลังของกิลด์เซดาก้าห์ใช่ไหม… เหมือนตอนที่เอาชนะมาลาคัสนั่นไง"
"นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่"
แม้จะเป็นความจริงที่ทุกอย่างคงง่ายดาย หากกริดร่วมมือกับเซดาก้าห์เพื่อล่ามัน… ทว่ากริดมิได้คิดจะทำเช่นนั้น… เอ็นพีซีทหารและอัศวินต่างมีเงินเดือนจ้าง… พวกเขาจึงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับไอเท็มดรอป… แต่กลับกัน ถ้าเป็นผู้เล่นด้วยกันเอง พวกเขาจะถือตัวเสมอกริด
การล่าผู้พิทักษ์พงไพรกับกิลด์เซดาก้าห์ย่อมทำให้กริดต้องหารไอเท็มและเงินที่ได้รับ… เขาไม่ต้องการแบบนั้น ชายหนุ่มคิดจะยืมมือเอ็นพีซีและยึดทุกสิ่งที่ดรอปจากบอสมาเป็นของตนทั้งหมด
'ที่จริงเราไม่จำเป็นต้องยืมมือพวกนั้นเลยสักนิด'
อย่าลืมว่ากริดสังหารสันตะปาปาเดรวิโก้ได้ตามลำพังโดยที่ยังไม่มีเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ… กับอิแค่ผู้พิทักษ์พงไพร
"ทุกคนออกเดินทางได้แล้ว! พวกเราจะเดินตรงไปยังไบรัน!"
"ซวยชะมัด..."
สีหน้าของทั้งอัศวินและกองทหารต่างอาลัยอาวรณ์… พวกเขาคิดว่าตนเองคงไม่รอดแน่… หลังจากกลายเป็นสามีของท่านหญิง วิสเคาท์กริดทำเรื่องโง่ๆ ลงไปทันที… ทหารทุกคนต่างกังวลถึงอนาคตของตน
ทว่ามีเพียงจู๊ดเท่านั้นที่เดินตามชายหนุ่มมาเรื่อยๆ โดยไม่ปริปากบ่น
วันแรกคือการฝึกระเบียบกองทหาร
***
ขณะเดียวกัน ณ โรงตีเหล็กข่าน
"...กริดจะกลับมาทำงานตอนไหน"
แวนท์เนอร์รีบมาที่โรงตีเหล็กและนั่งรอกริดมา5ชั่วโมงเต็มแล้ว… เมื่อวานเขาเสียใจมากไปหน่อย ก็เลยพูดไม่ดีออกไปกับกริด… วันนี้จึงอยากมาขอโทษ และขอร้องให้กริดสร้างชุดเกราะให้
เป็นเวลานานกว่า40วันที่แวนท์เนอร์เฝ้ารอ… เขาได้แต่หวังให้กริดกลับมาทำงานโดยเร็ว… ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้โผล่มาที่โรงตีเหล็กอีกเลย แม้จะผ่านเวลาพักเที่ยงไปแล้วก็ตาม
จนกระทั่งค่ำมืด...
'หมอนั่นคงเพลินอยู่กับการฮันนีมูนจนลืมหน้าที่ไปหมดแล้วมั้ง… บ้าจริง… ไม่ว่าจะแชทกิลด์หรือข้อความส่วนตัวก็ไม่ยอมตอบสักคำ'
สีหน้าของแวนท์เนอร์พลันตึงเครียด
ฟาร์มโดยใช้ NPC แบบฟรี ๆ สบายไปเลยนะกริด
ReplyDeleteรอต่อไปนะแวนเนอร์ กริดกำลังไปฟาร์มต่อ 555+
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteเห้ออ พาคนอืาไปตายมากกว่ามั้ง
ReplyDelete#โลภไปไหม
#เราก็ไม่ได้อยากจะพิมว่าหรอก
#เราเเค่ไม่ชอบคนนิสัยเเบบนี้เฉยๆ