จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 150
เดิมทีนั้น บริเวณโดยรอบหมู่บ้านไบรันมีสถานที่เก็บเลเวลในช่วง100-200อยู่มาก… ประชากรผู้เล่นที่อาศัยในหมู่บ้านไบรันจึงมีพอสมควร… แต่ด้วยความที่เป็นหมู่บ้านเล็ก การพัฒนาและขยับขยายจึงทำได้ลำบาก แถมยังมีเมืองใหญ่อย่างวินสตันอยู่ห่างไปไม่ไกล ทำให้บรรดาผู้เล่นไม่ค่อยนิยมมาพักอาศัยยังหมู่บ้านนี้
หากนับรวมเอ็นพีซีไปด้วย ประชากรทั้งหมดจะมีอยู่ราว500คนเท่านั้น
ทว่า
เมื่อไม่นานมานี้ งานแต่งของท่านหญิงไอรีนได้ทำให้หมู่บ้านไบรันได้รับอานิงส์ไปเต็มๆ… ผ่านไปเพียงอาทิตย์เดียว จำนวนประชากรของหมู่บ้านนี้เพิ่มขึ้นจนกลายเป็น5,000คนในพริบตา… เซดาก้าห์ได้ทุ่มเงินจ้างวิศกรมาก่อสร้างที่พักอาศัยเพิ่มจำนวนมากเพื่อรองรับ อีกทั้งยังจ้างผู้เชี่ยวชาญจากด้านอื่นๆ ของแดนเหนือทั้งหมดให้มารวมตัวกันพัฒนาหมู่บ้าน… การเติบโตระยะหลังจึงเป็นไปอย่างก้าวกระโดด
"คนละเรื่องกับที่เราเคยมาเมื่อเดือนก่อนเลยแฮะ"
"เมื่อก่อนจะมีเพียงร้านค้าและตึกเล็กๆ… แต่เดี๋ยวนี้กลับมีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นนับไม่ถ้วน "
ผู้เล่นที่นานๆ ครั้งจะมาไบรันต่างอดตกตะลึงกับภาพที่เห็นไม่ได้… คนงานนับร้อยกำลังเร่งก่อสร้างที่อยู่อาศัย ถือเป็นฉากที่สนใจไม่น้อย… ถ้าหากตึกทุกหลังสร้างเสร็จเมื่อใด ไบรันคงกลายเป็นเมืองใหญ่เต็มตัว
"นอกจากการพัฒนาที่ก้าวกระโดดแล้ว ระดับความปลอดภัยของที่นี่ยังสูงจนน่าเหลือเชื่อ"
"กิลด์เซดาก้าห์เป็นผู้ปกครองดินแดนนี้… ใครมันจะบ้าพอกล้ามาก่อความวุ่นวายกัน"
"ฉันล่ะอิจฉากิลด์เซดาก้าห์จริงๆ… อีเวนท์ครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ... ไม่มีกิลด์ไหนจะได้ครอบครองดินแดนล้ำค่าขนาดนี้อีกแล้ว… ป่านนี้คงนั่งอยู่บนกองเงินกองทองแล้วมั้ง"
"พวกเขาต้องขอบคุณงานแต่งของท่านหญิงไอรีน… มาได้จังหวะพอดีเลย"
"แล้วใครเป็นสามีของท่านหญิง"
"ใครจะรู้ล่ะ… ก็คงพวกขุนนางนั่นแหละ"
ถนนไบรันคราค่ำไปด้วยผู้คนมหาศาล นี่ยังไม่นับว่ามีอีกมากที่กระจายออกไปอยู่ตามแหล่งเก็บเลเวล… หากนับเอ็นพีซีเข้าไปด้วย ภายในหมู่บ้านจะมีประชากรอย่างต่ำ2,000คนอยู่ตลอดเวลา
"เห… นั่นอะไรน่ะ"
"พลังเวทย์… ดูน่ากลัวมากด้วย"
ในขณะที่ผู้คนกำลังทำธุระส่วนตัวตามไปปรกติ จู่ๆ ผู้เล่นคลาสจอมเวทย์เลเวลสูงก็พลันต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว… ท่ามกลางตึกสูงที่เรียงรายกันมากมาย ออร่าพลังเวทย์ลึกลับได้ปรากฏตัวขึ้นเหนือจุดสูงสุงของปราสาทไบรันที่ตั้ง ณ ใจกลางหมู่บ้าน
ในตอนแรกเป็นเพียงร่องรอยออร่าเล็กๆ ของเวทย์มนต์ ทว่ามันกลับขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้เล่นระดับสูงสามารถรู้ได้ทันทีว่ามันคือเวทย์มนต์ชนิดใด
<เคลื่อนย้ายมิติแบบกลุ่ม>
"นั่นมัน… เวทย์มนต์ของคลาสจอมเวทย์ระดับ3ใช่ไหม"
"เกิดอะไรขึ้น… มีอีเวนท์อะไรงั้นเหรอ"
"ต้องใช่แน่… อีเวนท์ไงล่ะ!"
"อ๊ากกก! นี่มันอะไรกัน!"
ฉากแสงสีบนท้องฟ้าช่างงดงามตระการตา… ลำแสงนับร้อยถูกยิงออกมาจากออร่าเวทย์เหนือปราสาทราวกับฝนดาวตก ลำแสงพุ่งตรงไปยังทุกส่วนของหมู่บ้านอย่างทั่วถึง… ผู้เล่นต่างพากันตื่นเต้นเพราะคิดว่าคงเป็นอีเวนท์พิเศษที่เกี่ยวข้องกับการคัดตัวนักกีฬาเข้าแข่ง… ทว่าเสียงโห่ร้องดีใจพลันกลายเป็นเสียงกรีดร้องโหยหวนในพริบตา
"จงลงโทษไอ้พวกนอกรีตในนามแห่งองค์เทพยาธานซะ!"
"แสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพขององค์เทพ!"
ซู่ววว!
ตัวตนของลำแสงนับพันบนท้องฟ้าคือเวทย์ส่งข้ามมิติ… สาวกยาธานจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นในทุกหย่อมหญ้าของหมู่บ้านไบรัน… เวทย์มืดถูกร่ายออกมาพร้อมกันในพริบตา หมู่บ้านไบรันต้องถูกปกคลุมด้วยหมอกพิษสีดำทันที
"นี่มัน...!"
"อ๊าาาก! ช--ช่วยฉันด้วย!"
ตึกรามบ้านช่องที่กิลด์เซดาก้าห์ลงทุนลงแรงอย่างหนัก ทุกสิ่งพลันต้องสลายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน… ดอกไม้และพืชพรรณนานาชนิดที่ปลูกไว้ตามท้องถนนเกิดเหี่ยวเฉากลายเป็นสีดำสนิท… เปลวไฟลุกโชนไปทั่วเมือง โลหิตหลั่งไหลออกมาราวกับสายน้ำ ราวกับเป็นฉากหนึ่งของขุมนรกก็มิปาน
"เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น"
เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นหมู่บ้านไบรันคือ140… ณ เดือนกุมภาพันธ์ปี20XX เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นซาทิสฟายทั่วทั้งโลกคือ93… จึงถือว่าผู้เล่นของหมู่บ้านนี้มีเลเวลเฉลี่ยที่สูงมากแล้ว… ทว่าสาวกยาธานล้วนมีเลเวลขั้นต่ำ160… ท่ามกลางกองทัพกว่า1พันคนที่ปรากฏขึ้นพร้อมกัน ในบรรดานั้นเป็นสาวกยาธานอาวุโสถึง200คน ซึ่งพวกมันต่างก็มีเลเวล200ขึ้นไปทั้งสิ้น
"อย่าคิดสู้เด็ดขาด! การฝืนสู้ไปมีแต่ความตายที่รออยู่!"
"นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น!"
ในบรรดาประชากร2,000คนที่อยู่ภายในหมู่บ้าน ณ ตอนนี้... มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้เล่น ส่วนอีกครึ่งคือเอ็นพีซีที่ไร้ความสามารถในการต่อสู้
"นี่คือการลงทันฑ์จากองค์เทพยังไงล่ะ"
"อ๊าาากก!"
"ตายซะ! ไอ้พวกนอกรีต!"
"อั่ก!"
เป็นการซุ่มโจมตีที่ยากจะตั้งตัวได้ทัน… กองทัพยาธานคุมสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมด… เอ็นพีซีที่อ่อนแอถูกฆ่าในพริบตา ส่วนพวกผู้เล่นระดับสูงหน่อยก็ทำได้เพียงตั้งรับเพื่อเอาตัวรอด
"ชิ! ล็อคเอ้าท์"
"ฉันไปด้วย!"
ผู้เล่นคนใดก็ตามที่ถูกโจมตีอยู่จะไม่สามารถล็อคเอ้าท์ออกจากเกมได้ เพราะจะถือว่าติดอยู่ใน <สถานะต่อสู้> ส่วนคนที่ยังไม่โดนโจมตีและไหวตัวทัน พวกเขาเหล่านั้นได้ล็อคเอ้าท์ออกจากเกมไปจนหมดสิ้น… ทำให้เหลือผู้เล่นที่คอยต่อต้านอยู่เพียง300คนเท่านั้น
"บ้าจริง..."
"โธ่เว่ย! จำนวนคนของพวกเราตกเป็นรอง!"
สาวกวิหารยาธานต่างบุกเข้าโจมตีด้วยความอำมหิต… พวกมันฆ่าทุกคนที่เห็นโดยไม่สนว่าเป็นผู้เล่นหรือเอ็นพีซี
"ปกป้องพวกเขาไว้!"
เปล่าประโยชน์! กองทัพอันบ้าคลั่งได้กวาดทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไป… เหยื่อของความเสียหายเพิ่มจำนวนขึ้นราวกับติดจรวด… ทว่าการรุกรานอยู่ฝ่ายเดียวก็เกิดขึ้นได้ไม่นานนัก… เป็นเพราะกิลด์เซดาก้าห์มีการตอบสนองอันยอดเยี่ย่ม
"อะไรนะ… ใครมันกล้ากำแหงในเขตของฉันฟะ! ข๊ากกก~ ถุ้ย!"
ด้วยความเป็นคนตรงๆ ทูนจึงถูกจิสึกะใช้งานได้ง่าย… ตอนนี้เขาคือหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านไบรัน ทูนจึงรีบนำอัศวินและกองทหารออกไปรับมือ
"พวกนายทุกคนรีบไปช่วยเหลือพลเรือนซะ… ข๊ากกก~ ถุ้ย!"
เขาออกคำสั่งพร้อมกับถุยน้ำลายตามนิสัยปรกติ หลังจากนั้นทูนก็กระโดดเข้าใส่กลุ่มสาวกวิหารยาธานตามลำพัง… สาวกยาธานงั้นเหรอ… สำหรับผู้เล่นอันดับ35ของโลกซึ่งมีคลาสลับเกรดแรร์ <อสูรนักล่า>อย่างทูนแล้ว เอ็นพีซีจอมเวทย์มืดเลเวล160พวกนี้ไม่ต่างอะไรกับเหยื่อชั้นดี
"ราชันย์แห่งสัตว์ป่า!"
ทูนไขว้แขนอันยาวเหยียดของเขาพร้อมกับตะโกนชื่อทักษะ… หลังจากนั้นร่างกายก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นสิงโตตัวมหึมา… ขนาดของเขาในตอนนี้ใหญ่กว่าสิงโตเพศผู้ตัวเต็มวัยตามปรกติถึง2เท่า
"โฮกกก!"
"เฮ้ย!"
"อ๊ากกกก!
เป็นฝ่ายสาวกยาธานที่เริ่มกรีดร้องบ้าง… ทุกครั้งที่กรงเล็บยักษ์ตะปบเข้าไป กระดูกของพวกมันพลันต้องแหลกละเอียด… คมเขี้ยวที่กัดกระโหลกจนแตกได้สังหารสาวกยาธานในพริบตา
"พันธนาการแห่งความมืดจะสะกดร่างกายของแกไว้!"
ในขณะที่สมุนกำลังถูกโจมตี สาวกยาธานอาวุโสได้ใช้เวทย์มืดเพื่อเสกโซ่ยักษ์มาล่ามสิงโตตัวใหญ่เอาไว้
"ราชันย์แห่งท้องฟ้า!"
ทูนทนทานต่อพันธนาการได้ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะใช้ทักษะถัดไปออกมา… ทันใดนั้น ร่างกายทูนได้หดเล็กลงจนกลายเป็นพญาอินทรีบินขึ้นฟ้า… โซ่พันธนาการคลายออกจนทำให้ทูนหนีรอดมาได้… เขาพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้งและใช้จงอยปากจิกใส่กระโหลกสาวกยาธานจนแตกละเอียด… หลังจากนั้นก็กลับร่างสิงโตและคำรามเสียงดังสั่น
"โฮกกกกกก!"
"อ๊ากกกกก!"
สาวกยาธานนับสิบมีเลือดไหลออกจากหูพร้อมกับนั่งทรุดลงไปบนพื้น… ทูนตะปบศีรษะพวกมันเรียงตัวจนกลายเป็นแสงสีเทาติดๆ กัน
"วะฮ่าฮ่าฮ่า! วู้ววว! สนุกจังโว้ยยย!"
"คุณทูน… แม้นิสัยจะแปลกไปบ้าง แต่ฝีมือของเขาเป็นของจริง"
ณ บนแพง… ลาเอลล่า อันดับ2แห่งคลาสจอมเวทย์สายผสมกำลังยืนมองทูนไล่สังหารสาวกยาธานด้วยความชื่นชม หลังจากนั้นเธอก็กำลูกแก้วในมือแน่น… เป็นลูกแก้วมนต์ดำที่ดรอปมาจากมาลาคัสคราวก่อนนั่นเอง… ลาเอลล่าใช้มันเพื่อเร่งอานุภาพเวทย์ไฟของเธอและยิงเข้าใส่สาวกยาธานที่รายล้อมกองทหารไว้
"ความพิโรธของแม่มดสีชาด!"
ซู่วววว!
เสาเปลวเพลิงถูกยิงออกไปเป็นเส้นตรง… สาวกยาธานคนใดก็ตามที่อยู่ในเส้นทางล้วนถูกเผาจนไหม้เกรียมในพริบตา… เป็นเพราะลาเอลล่า กองทหารชุดนี้ถึงรอดชีวิตมาได้ พวกเขาเริ่มกระจายตัวออกไปช่วยชาวบ้าน
ณ ประตูทิศตะวันออก
"หืม… เหยื่อตัวใหญ่!"
แวนเนอร์ที่ต้องถูกเรียกตัวมาในระหว่างกำลังระบายอารมณ์จากกริด… เขากลับมาทันเห็นผู้เล่น3คนกำลังเสียท่าให้สาวกยาธานพอดิบพอดี
"จงลงนรกแล้วกลายเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ขององค์เทพยาธานไปซะ!"
สาวกยาธานอาวุโสซึ่งสวมผ้าคลุมดำได้ตะโกนใส่ผู้เล่น… แวนเนอร์เห็นดังนั้นจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับกวัดแกว่งขวานคู่ในมือ
"อ๊าากกก!"
ร่างสาวกยาธานอาวุโสพลันขาดครึ่งกลายเป็นเพียงแสงสีเทาในทันที… ผู้เล่นที่รอดตายอย่างหวุดหวิดได้แต่นั่งทรุดลง แข้งขาอ่อนแรง
"ข--ขอบคุณมาก!"
"คุณคือ… อัศวินผู้พิทักษ์อันดับ1 แวนเนอร์! คุณช่วยพวกเราไว้… ฉันจะเอาเรื่องนี้ไปโม้ในอินเทอเน็ต!"
"แข็งแกร่งสมคำล่ำลือ ยอดมากคุุณแวนเนอร์!"
"ฮะฮะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกน่า..."
ตลอด2เดือนที่ผ่านมา กริดทำเหมือนแวนเนอร์เป็นเพียงคนไร้ตัวตนมาตลอด แวนเนอร์ที่สูญเสียความมั่นใจไปมากจากกริด เมื่อถูกผู้เล่นกล่าวชม เขาจึงอดเป็นปลื้มไม่ได้… เขาใช้มือเกาศีรษะอันปราศจากเส้นผมเล็กน้อยอย่างเขินอาย ก่อนที่จะรีบตรงไปหาจิสึกะที่ยืนรออยู่บนดาดฟ้าตึกสูง3ชั้น
สาวกยาธานอาวุโสจำนวน3คนได้พุ่งใส่ด้านหลังของจิสึกะในขณะที่เธอกำลังเล็งไปที่สาวกจุดอื่น… แตกต่างจากสาวกยาธานทั่วไป คนพวกนี้สวมผ้าคลุมที่ดูพิเศษ
'สาวกระดับสูงสินะ'
แวนเนอร์เร่งความเร็วขึ้นอีก… หลังจากนั้นเขาก็ช่วยจิสึกะซึ่งมีสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ไว้ได้
"นายไม่มาช้าไปหน่อยรึไง"
ฟันขาวๆ ของจิสึกะได้ตัดกับผิวพรรณสีแทนจนเด่นชัด… แวนเนอร์ชูนิ้วโป้งขึ้นพร้อมกับตะโกนออกมาว่า
"ฉันจะคอยระวังหลังให้เอง เธอซัดพวกมันให้หนำใจไปเลย!"
"ตกลง"
ฟุ่บ!
สมกับเป็นเทพีแห่งคันศร… แวนเนอร์อดชื่นชมไม่ได้ แม้เขาจะเห็นทักษะธนูของจิสึกะมาแล้วบ่อยครั้ง แต่ทุกหนก็สร้างความตื่นตะลึงได้เสมอ… ลูกศรถูกยิงออกไปไกล100เมตรและสังหารสาวกยาธานที่กำลังจะฆ่าชาวบ้าน… หลังจากนั้นเธอก็หันกลับไปยิงใส่ดาดฟ้าอีกตึกหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล… สาวกยาธาน5คนซึ่งกำลังร่ายเวทย์ได้กลายเป็นลูกชิ้นเสียบไม้ในพริบตาด้วยลูกศรเพียงดอกเดียว
"แค่นี้ของกล้วยๆ น่า"
เธอพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
"จอมเวทย์! รีบฆ่าจอมเวทย์ก่อน!"
สาวกยาธานอาวุโส5คนเคลื่อนไหวพร้อมกัน… เป้าหมายของพวกมันคือลาเอลล่าและเซ็ดนอสที่กระหน่ำร่ายเวทย์โจมตีลงมาจากกำแพงไม่หยุดหย่อน… ทว่าจู่ๆ กลับมีเสียงอันเย็นยะเยือกดังขึ้นที่ข้าหูของพวกมันทั้ง5คน
"พวกแกควรหัดระวังหลังบ้างนะ..."
"...!"
สาวกอาวุโสทั้ง5ส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นตระหนกพร้อมกัน
"ได้ยังไง--อั่กกก! "
"แค่ก!"
เป็นเฟคเกอร์… เขาเชือดคอหอยของอาวุโสยาธานทั้ง5ในพริบตา… หยดเลือดสาดกระเซ็นพุ่งออกจากลำคออย่างโหดเหี้ยม ร่างของพวกมันค่อยๆ ทรุดลงและกลายเป็นสีเทา
"จุดต่อไป..."
ซู่ววว
เฟคเกอร์หันไปมองด้านข้างก่อนจะพรางตัวอีกครั้งด้วยทักษะล่องหน
'คนที่เหลือคงไม่ต้องเป็นห่วงแล้วมั้ง'
ณ ประตูทิศเหนือ
เด็กหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งมีหน้าสะสวยคล้ายเด็กผู้หญิงกำลังยืนอยู่… หลังจากกวาดสายตามองไปรอบๆ หมู่บ้านที่มีเสียงกรีดร้องดังไม่หยุด ในที่สุดเขาก็เริ่มขยับตัว
ณ บ้านหลังหนึ่งซึ่งกำลังมีเปลวเพลิงลุกไหม้… มีผู้คนจำนวนมากอยู่ภายในห้องแคบๆ นี้
"บ--บ้าจริง...! นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมฉันต้องมาตายที่นี่ด้วย… ไม่ยุติธรรมเลย!"
"ค่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยากลำบากกำลังจะสูญไป..."
"ฉันยังไม่อยากตาย… ใครก็ได้ช่วยที"
สาวกยาธานอาวุโสจำนวน4คนกำลังไล่ต้อนผู้เล่น6คนให้จนมุม… ผู้เล่นกลุ่มนี้กำลังบาดเจ็บหนักและใกล้ตายเต็มที พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกนอกจากการร้องขอให้คนช่วย
ตุ้บ!
ไอเบลลินพุ่งตัวความเร็วสูงสุด… เขาแทรกตัวเข้าไประหว่างช่องประตูที่เปิดอยู่ หลังจากนั้นก็เหยียบเก้าอี้และกระโดดขึ้นไปด้านบน… ร่างของไอเบลลินตกลงมาขวางตรงกลางระหว่างกลุ่มผู้เล่นและสาวกยาธานพอดิบพอดี… เด็กหนุ่มได้ชักดาบที่มีรูปทรงคล้ายก้านกุหลาบออกมาพร้อมแสยะยิ้ม
"คนเดียวงั้นรึ"
"แกเป็นใครกัน"
ไอเบลลินตอบกลับไป
"โอเวอร์เกียร์หมายเลข2"
เป็นชื่อที่แวนเนอร์ตั้งให้อย่างประชดประชัน… เพราะระยะหลังมานี้ แวนเนอร์แดกดันป็อนด้วยการเรียกว่า<โอเวอร์เกียร์หมายเลข1> และตั้งให้ไอเบลลินเป็นหมายเลข2… ซึ่งเด็กหนุ่มกลับชอบชื่อนี้มาก
(ผู้แปล : ตรงนี้ขอทับศัพท์ <โอเวอร์เกียร์> ไปเลยนะครับ เพราะหาคำไทยที่ สั้น กระชับ และครอบคลุมความหมายไม่ได้จริงๆ… อีกทั้งในอนาคตคำๆ นี้จะมีความสำคัญอีกประการหนึ่ง รอติดตามกันนะ)
ฉึก! ฉัวะ ฉัวะ!
แฟลมเบิร์จอันดับ1ของโลก <หนามแห่งความเคียดแค้น>ถูกไอเบลลินกวัดแกว่งอย่างรวดเร็วจนมองไม่เห็น… ทว่าอาวุโสยาธานพวกนี้ไม่กระจอก มันตอบสนองอย่างรวดเร็วและหลบพ้นจุดตายไปได้ ทว่าก็ต้องแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส
"แผลของฉัน… อั่ก!"
ใบหน้าสาวกอาวุโสกลายเป็นสีม่วง… แม้จะถูกเฉือนเพียงแผลเล็กๆ แต่เลือดที่พุ่งกระฉูดออกมากลับน่าสะพรึงกลัวจนผิดปรกติ
"น--นั่นมัน… ดาบเวทย์มนต์!"
กลุ่มสาวกรีบถอยหนี พวกมันระวังตัวจากหนามแห่งความเคียดแค้นมากเป็นพิเศษ… แต่ไอเบลลินก็ไม่ปล่อยให้ทำเช่นนั้น… เขาพุ่งตัวตามติดไปด้วยความเร็วสูง
"นี่ไม่ใช่ดาบเวทย์มนต์หรอกนะ… มันคือดาบแห่งคำสาปต่างหาก!"
ฉึก ฉัวะ! ฉัวะ
ด้วยรูปร่างที่แปลกประหลาดของอาวุธ การเคลื่อนไหวจึงไม่สามารถเดาทิศทางได้ง่าย พวกมันไร้ซึ่งวิธีการรับมือโดยสิ้นเชิง… เลือดไหลราวกับน้ำพุพุ่งจากบ่อ
ผสานเข้ากับเสียงกรีดร้องอันโหยหวนอย่างลงตัวได้พอดิบพอดี
ค้างอย่างหนักเลยครับท่าน ขอบคุณครับ
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDelete