จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 374



[ แวมไพร์บารอน  เมาน์เท่น  ถูกสังหาร ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 211,555,002 หน่วย ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <หินเสริมแกร่งเครื่องป้องกันที่ถูกอวยพร> จำนวนสามก้อน ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <หินเสริมแกร่งเครื่องป้องกัน> จำนวนเก้าก้อน ]

[ ท่านได้รับไอเท็ม <หนังสือทักษะ : เสริมแกร่งผิวหนัง> ]

       แวมไพร์บารอน  มอนสเตอร์ระดับบอสย่อยของดันเจี้ยนที่ขุนพลหัวกะทิของโอเวอร์เกียร์ห้าคนต้องใช้เวลาล่านานถึงตนละ 10~15 นาที  แต่เมื่อกริดและยูร่าร่วมมือกัน  เวลาที่ใช้กลับเร็วกว่าสถิติดังกล่าวถึงสามเท่า

       "ล่าบอสย่อยได้ในห้านาทีเท่านั้น..."

       "..."

       พลังอำนาจของกริดและยูร่าแข็งแกร่งจนทั้งป็อน  แวนเนอร์  และเฟคเกอร์ต่างไร้คำพูด  พวกเขารู้อยู่แล้วว่ากริดคือชายผู้ครอบครองสามเหลี่ยมทองคำอย่าง  สุดยอดค่าสถานะ  สุดยอดไอเท็ม  และสุดยอดคลาสไว้กับตัว  แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือพัฒนาการของยูร่าต่างหาก

       "นั่นก็เป็นพลังของไอเท็มและคลาสเช่นกัน"

       ยูร่าอธิบายอย่างเรียบง่าย  เธอได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นพลังแห่งไอเท็มเต็มตัวแล้ว

       ***

       ณ ทางเดินยาวทิศเหนือบนชั้นหนึ่ง  จิสึกะกับเซ็ดนอสกำลังถูกโดดเดี่ยวและล้อมไว้โดยกองทัพศัตรูจากสองฟากฝั่ง  นี่คือผลพวงจากกับดักเคลื่อนย้ายมิติที่เรกัสดันไปเหยียบเข้า

       "ศรกระจาย"

       "คลื่นวายุ"

       จิสึกะจัดการแวมไพร์ด้านขวาทางเดิน  ส่วนเซ็ดนอสจัดการด้านซ้าย  ทั้งลูกธนูและเวทย์มนต์ต่างถูกโปรยเข้าดงแวมไพร์เพื่อลดความเร็วของพวกมัน  แต่แน่นอนว่าสถานการณ์เช่นนี้ย่อมคงอยู่ไม่นาน  จำนวนของแวมไพร์นั้นราวกับจะไม่มีวันหมด  ในขณะที่มานาของทั้งจิสึกะและเซ็ดนอสใกล้กลายเป็นศูนย์แล้ว

       "เจ้าพวกบ้านี่เกิดใหม่เร็วชะมัด"

       "พวกเราดันถูกล้อมไว้ในจุดที่ห่วยแตกที่สุด"

       ค่าเรี่ยวแรงเองก็อยู่ในระดับอันตราย  ทั้งสองต่างเหงื่อไคลชุ่มกายพร้อมหายใจเหนื่อยหอบ

       บึ้ม!

       บึ้ม!

       ในเมื่อเข้าไปใกล้ไม่ได้  ฝูงแวมไพร์จึงอาศัยการยิงเวทย์มนต์จู่โจมเข้าไปแทน  และในที่สุดก็มีบางส่วนลอดพ้นแนวป้องกันเข้ามากระทบกับหัวไหล่จิสึกะจนได้

       "จิสึกะ!"

       จิสึกะพลันชะงักไปทันที่เมื่อเธอกำลังง้างศรเตรียมยิง  เซ็ดนอสเองก็เสียสมาธิเช่นกัน  เขาจึงปล่อยให้แวมไพร์หลั่งไหลเข้ามาจากทั้งสองทิศทาง

       "วายุเฉือน!  ศรวายุ!"

       เซ็ดนอสเริ่มลนลานและออกอาการสติแตก  เขาคิดเพียงปกป้องชีวิตของจิสึกะไว้ให้ได้   จอมเวทย์วายุอันดับหนึ่งผู้นี้จึงไม่สนเรื่องรักษาระดับมานาอีก  เวทย์มนต์ธาตุลมทุกชนิดถาโถมโหมกระหน่ำใส่ฝูงแวมไพร์จนทั้งคู่รอดพ้นจากวิกฤติมาได้ชั่วคราว

[ มานาของท่านไม่พอใช้ ]
[ โพชั่นมานายังไม่พร้อมใช้งาน ]

       "ชิ...!"

       สีหน้าของเซ็ดนอสพลันขาวซีด  ทันใดนั้นจิสึกะก็ตะโกนขึ้น

       "หมอบลง"

       เซ็ดนอสไม่รีรอ  เขาติดตามเป็นลูกน้องจิสึกะมานาน  จึงทำตามคำสั่งของจิสึกะโดยปราศจากความเคลือบแคลงสงสัย

       "ศรฟินิกซ์"
       
       ฟ้าวววว!
       
       นกไฟตัวใหญ่ยักษ์บินโฉบเหนือศีรษะของเซ็ดนอสไปปะทะกับพื้นทางเดินจนเกิดทะเลเพลิงขึ้น  แวมไพร์กว่า 50 ตนถูกกวาดเรียบในพริบตา  จิสึกะรีบออกคำสั่งอีกครั้ง

       "ฉวยโอกาสนี้รีบหนีไปซะ!"

       แต่เซ็ดนอสกลับไม่ยอมขยับตัว

       "เธอคิดจะทำอะไร"

       "ฉันจะถ่วงเวลาให้จนกว่านายจะหนีพ้น"

       จิสึกะลุกยืนขึ้นพร้อมกับยิงเปิดทางให้เซ็ดนอสหนี  แม้ว่าความเร็วในการยิงจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด  แต่ศรทุกดอกที่พุ่งออกไปก็ยังปักศีรษะของแวมไพร์ได้อย่างแม่นยำไร้ที่ติเหมือนเดิม

       ลูกธนูมิธริลและลูกธนูเงินจะสร้างความเสียหายต่อแวมไพร์ได้รุนแรงเป็นพิเศษ  แต่ตอนนี้จิสึกะเหนื่อยล้ามากแล้ว  แม้แวมไพร์จะถูกยิงเข้าที่ศีรษะ  ทว่าพวกมันก็ไม่ตายในทันทีและเข้าประชิดตัวโจมตีใส่จิสึกะ

       "จ--จิสึกะ!"

       "ทำไมนายยังไม่รีบไปอีก... รีบไปสมทบกับเพื่อนคนอื่นซะ!"

       "...เข้าใจแล้ว"

       จิสึกอุตส่าห์ลงทุนเปิดทางให้ด้วยชีวิต  แม้ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะมีแวมไพร์ตนใดดักรออยู่บ้าง  แต่ถึงกระนั้นเซ็ดนอสก็ไม่ต้องการให้จิสิกะสละชีวิตอย่างสูญเปล่า  

       ในขณะที่เซ็ดนอสกำลังจะหนีไป...

       "จิสึกะ  หลบหน่อย"

       ครืด...

       ระหว่างกึ่งกลางของจุดที่จิสึกะและเซ็ดนอสยืนอยู่  มีใครบางคนได้ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าโดยการรูดซิบลง  เป็นกริดที่มาพร้อมกับเสื้อคลุมหัวล่องหนนั่นเอง

       "วิชาดาบแพ็กม่า... มายาร่ายรำ"

       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
       
       รัศมีดาบสีน้ำเงิน-ดำถูกยิงออกไปเป็นสายฝน  แวมไพร์นับสิบตัวที่เคยเข้าใกล้จิสึกะพลันถูกคร่าชีวิตและกลายเป็นหมอกควันในพริบตา  แวมไพร์ชุดใหม่ที่บุกเข้ามาเรื่อยๆ ก็อันตรธานหายไปจากการมองเห็น  ไม่มีตนใดเลยที่สามารถต้านทานการโจมตีอันหนักหน่วงทรงพลังจากกริดได้

       "กริด!"

       จิสึกะถูกกริดช่วยชีวิตไว้ในจังหวะสำคัญอีกครั้ง  เธอรู้สึกตื้นตันใจจนโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างแนบแน่น  ผิวหนังที่กำลังมีเหงื่อไคลชโลมได้เบียดเสียดเข้ามาพร้อมกับบางสิ่งที่มีขนาดใหญ่มหึมาแต่นุ่มนิ่ม  กอปรกับกลิ่นกายหอมหวลรัญจวนใจของเธอ  ทั้งหมดทั้งมวลได้กระตุ้นให้กริดเกิดอารมณ์ขึ้นในบันดล...

       'กะ...  กานะดาระมาบะซา...*'

( *น่าจะเป็นบทสวดของเกาหลีที่ทำใจให้สงบ / เป็นชื่อเพลงด้วย  แต่พยายามหาความหมายแล้วไม่พบ )

       ทั้งนุ่มนิ่มและน่าค้นหา(?)  จมูกของกริดพลันฟุดฟิดอย่างตื่นเต้น  หัวใจสั่นระรัวโครมคราม  ยูร่าที่เพิ่งมาถึงได้ก้มลงไปมองหน้าอกตนเองพร้อมกับพึมพำตัดพ้อ

       'ของฉันก็ไม่เล็กนะ...'

       หน้าอกยูร่านั้นใหญ่กว่ามาตรฐานสาวเกาหลีมากแล้ว  แต่ดูเหมือนสเป็คของกริดจะผิดมนุษย์มนาเกินไปสักหน่อย

       ***

       เรกัสคือชายที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด  ดาบอันทรงพลังของพีคซอร์ดก็ไม่อาจคาดเดาทิศทางได้  ทูนผู้ซึ่งแปรเปลี่ยนเป็นสรรพสัตว์ได้ตามสถานการณ์  ไอเบลลิน  เด็กหนุ่มที่แม้จะยังเติบโตไม่เต็มที่  แต่ปิอาโร่ก็ยอมรับในพรสวรรค์ของเด็กคนนี้  โทบัน  พาลาดินอันหนึ่งของโลกซึ่งมากับพลังเทพที่เป็นของแสลงแวมไพร์  และสุดท้ายคือฮิวรอย  นักพูดอันดับหนึ่งของโลก  สุดยอดบัฟที่รังสรรค์ความเสียหายมหาศาลได้ในพริบตา

       การผสานอย่างลงตัวได้สร้างทีมเวิร์คสุดแสนทรงพลังขึ้นมา  เรกัสและทูนเป็นแถวสองคอยโจมตีสอดประสานกับแนวหน้าอย่างโทบันและฮิวรอย  ส่วนพีคซอร์ดกับไอเบลลินคือคนสร้างความเสียหายหลักจากแนวหลังสุดโดยไม่ต้องพะวงเรื่องป้องกันตัวเอง  แวมไพร์บารอนเพียงสามตนจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเหล่านี้

[ ท่านได้รับไอเท็ม <โอสถพละกำลัง> ]

       "สุดยอด..."

       "ในที่สุด!"

       เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วที่กิลด์โอเวอร์เกียร์เริ่มบุกเบิกดันเจี้ยนเมืองใต้ดินแวมไพร์  พวกเขาสังหารฆ่าฟันแวมไพร์ไปนับหมื่นตน  แต่กลับไม่เคยมีโอสถดรอปมาก่อนเลยแม้แต่ขวดเดียว  จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะรู้สึกปลาบปลื้มมากเป็นพิเศษเมื่อได้รับ
       
       "ไม่มีเวลาให้พักหายใจแล้ว  พวกเราต้องรีบหาคนอื่นให้พบโดยเร็ว"

       แม้คณะล่าแวมไพร์จะแข็งแกร่งด้วยการมีแกนหลักสำคัญอย่างโทบันและฮิวรอย  แต่คงขาดสมดุลอย่างมากแน่ถ้าหากต้องสูญเสียใครไป  พีคซอร์ดตระหนักได้ถึงเรื่องนั้นจึงรีบออกคำสั่งเร่งฝีเท้าทุกคน

       แต่ทันใดนั้นเอง...

       "ทุกคนเป็นยังไงกันบ้าง"

       กริด  หัวหน้าใหญ่ของพวกเขามาถึงแล้ว

       ***

       "เจ้าบ้าเรกัส  ฉันต้องเดือดร้อนขนาดนี้เพราะนาย!"

       "ได้โปรดอย่าเดินนำหน้าอีกเลยนะ"

       "...ฉันขอโทษ"

       ป็อนและแวนเนอร์บ่นอุบใส่เรกัส   ซึ่งเขาสมควรได้รับมันจากความเลินเล่อที่กระทำลงไป

       "ฉันจะพยายามไม่ให้ตัวเองตื่นเต้น"

       เรกัสยอมรับในความผิดของตนพร้อมกับแสดงสีหน้าเศร้าใจ  ป็อนและแวนเนอร์ไม่มีใครกล่าวโทษอีก  พวกเขาเพียงยืนอมยิ้มอย่างเอ็นดู  เป็นฝ่ายจิสึกะที่หันมาถามกริด

       "นายเข้ามาในนี้ได้ยังไง"

       เมืองแวมไพร์ที่ยังไม่ถูกเคลียร์จะมีสภาพเป็นดันเจี้ยนลับปิดตาย  ไม่มีทางเข้า  ไม่มีทางออก  คนภายในและภายนอกไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้

       กริดเริ่มอธิบาย
       "เป็นพลังของเขาคนนี้"

       ทุกคนต่างหันมามองสติกส์เป็นตาเดียว  เผ่าพันธุ์เอลฟ์นั้นถูกยกย่องให้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งความงามที่ต่อสู้เพื่อปกป้องธรรมชาติของโลกใบนี้  ในบรรดาเอลฟ์ทั้งหมด  ไฮเอลฟ์อันโด่งดังคือสายเลือดที่สติกส์สืบทอดมา

       "สวัสดีครับ  กระผมมีนามว่าสติกส์  เป็นหนี้บุญคุณชีวิตกับท่านกริด"

       'เอ็นพีซีพิเศษอีกแล้วสินะ...'

       เครือข่ายของกริดแผ่ขยายกว้างไกลขึ้นทุกวัน  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนอดชื่นชมพร้อมกับตกตะลึงไม่ได้  ดูเหมือนกริดจะมีพรสวรรค์อีกสิ่งที่แม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่รู้  การดึงดูดเอ็นพีซีพิเศษ  ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้น  กริดก็เปิดปากขึ้น

       "รีบออกไปจากที่นี่ก่อน  หากมีพลังของสติกส์ล่ะก็  การออกไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก"

       "ทำไมล่ะ"

       ทุกคนต่างไม่มีใครเข้าใจ

       "กริด  คิดดีแล้วหรือที่จะกลับออกไป  โอกาสเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้อยู่ตรงหน้าแล้วนะ"

       "พวกเราเคลียร์ชั้นแรกไปแล้วนี่  ทำไมต้องรีบกลับด้วยล่ะ"

       มีหลายคนที่ยังลังเลอยู่  แต่ก็มีอีกส่วน...

       "ฉันเห็นด้วยกับกริดนะ  ขนาดชั้นแรกยังมีบารอนมากขนาดนี้  ชั้นที่สองจะไม่เต็มไปด้วยวิสเคาต์เลยหรือไง"

       "บอสประจำชั้นที่หนึ่งอย่างแวมไพร์วิสเคาต์ทีราเม็ทนั้นแข็งแกร่งมาก  มีโอกาสสูงที่บอสประจำชั้นถัดไปจะเป็นแวมไพร์ระดับมาร์ควิส"

       "หรือหากโชคร้ายที่สุด  พวกเราต้องเผชิญหน้ากับแมรี่-โรส  ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะเอาชนะเธอได้ในตอนนี้หรอกนะ"

       สมาชิกส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับคำพูดกริด  คนเหล่านั้นคือกลุ่มที่ถูกโดดเดี่ยวตามลำพังและได้กริดช่วยชีวิตไว้  ในขณะที่บรรยากาศกำลังอึมครึมเงียบเชียบ  กริดก็อมยิ้มและกล่าวขึ้นอย่างมีเลศนัย

       "ออกไปฝึกพิเศษข้างนอกกันเถอะ"
       
       "ฝึกพิเศษอะไร"

       "มีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อว่าหมู่เกาะเบเฮ็น  ดันเจี้ยนดังกล่าวจำกัดให้เข้าไปด้านในได้ทีละหนึ่งคนเท่านั้น  แต่ไม่ต้องห่วง  ด้วยความที่มันเป็นดันเจี้ยนลับปิดตาย  ทุกคนจึงแยกเข้าไปทดสอบฝีมือได้พร้อมกัน"

       หมู่เกาะเบเฮ็นคืออะไร  เป็นสถานที่แบบไหน  และจะให้รางวัลใดตอบแทนบ้าง  กริดอธิบายกับทุกคนอย่างละเอียด  เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด  สีหน้าของชาวโอเวอร์เกียร์พลันสดใสเปล่งประกาย

       ***

       ณ สุสานดาบ

       อาวุธนับแสนชิ้นถูกฝังไว้ใต้เนินเขาแห่งนี้  และยังเป็นสถานที่อันโด่งดังซึ่งตามตำนานได้ระบุไว้ว่า  ช่างตีเหล็กในตำนาน  แพ็กม่า  อาศัยอยู่ที่นี่ในวาระสุดท้ายของชีวิต    

       ทว่า… เหตุผลในการมาที่นี่ของแอ็กนัสนั้นไม่เกี่ยวกับแพ็กม่าแต่อย่างใด

       จอมเวทย์ในตำนาน  บราฮัม  แอ็กนัสมาที่นี่เพื่อตามหาร่างเนื้อของบราฮัม

       "ชิ…! ชักจะหงุดหงิดแล้วสิ"

       มันได้ยินมาว่า  ร่างของบราฮัม-เฮชวาลถูกฝังอยู่ภายในกำแพงน้ำแข็งซึ่งถูกซ่อนอยู่สักแห่งภายในสุสานดาบ  แต่จากการค้นหาอย่างยาวนานเกือบหนึ่งเดือนเต็ม  แอ็กนัสกลับไม่พบเบาะแสเลยแม้แต่อย่างเดียว

       "ตอนนั้นฉันน่าจะเอาดวงวิญญานของมันมาด้วย"

       เมื่อราวหนึ่งเดือนก่อน  แอ็กนัสได้พบกับดวงวิญญานของบราฮัม  แต่ดันพลาดโอกาสคว้ามาไว้เป็นของตน  ทุกครั้งที่นึกย้อนกลับไป  แอ็กนัสพลันรู้สึกเดือดดาลจนร่างกายสั่นระริก

       "ไม่เคยรู้มาก่อนว่าดวงวิญญานของมันจะใช้เวทย์มนต์ทรงพลังได้ด้วย"

       แกร่ก!

       แกร่ก! แกร่ก!

       ในขณะที่แอ็กนัสกำลังยืนกอดอกและเอนหลังพิงอยู่กับดาบใหญ่เล่มหนึ่ง  โครงกระดูกนับร้อยที่เป็นบริวารของมันก็ลงมือขุดค้นสุสานดาบอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย  แม้ว่ายอดเขาแห่งนี้จะถูกแอ็กนัสรื้อค้นจนพรุนมานานแล้ว  แต่การหาร่างเนื้อของบราฮัมก็ยังคงเป็นเพียงความฝัน

       "...ฉันอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้หรอกนะ"

       โชคดีที่บริเวณนี้ยังมีมอนสเตอร์แข็งแกร่งให้มันออกล่า  อันดับเลเวลของแอ็กนัสจึงยังไม่ตกลงไปแม้จะต้องแช่อยู่ที่สุสานดาบนานถึงหนึ่งเดือนเต็ม  แต่ข้อเสียก็ใช่ว่าจะไม่มี  ภารกิจอีกมากมายที่ค้างคาอยู่ของมันปราศจากความคืบหน้า  แอ็กนัสที่ยืนเซ็งได้ทำการตรวจสอบรายละเอียด <อักขระความตาย> อีกครั้ง

=============================
[ อักขระความตาย ]
ไอเท็มผูกมัดตัวละคร
________________________________
       ไอเท็มชิ้นนี้จะฝังอยู่ในกระเป๋าสัมภาระของท่านเป็นการถาวร  ท่านไม่สามารถค้าขาย  โยนทิ้ง  หรือทำลายมันได้
________________________________
- ผลกระทบการใช้งาน : เพิ่มความสามารถให้กับทักษะอัญเชิญของท่าน  แต่ต้องแลกมาด้วยแต้มสถานะค่าความเป็นผู้นำ
* เพิ่มค่าสถานะทุกชนิดให้กับอสูรอัญเชิญ 20%

* เอฟเฟคพิเศษ : หากท่านรวบรวมร่างเนื้อของเอ็นพีซีพิเศษหรือมอนสเตอร์พิเศษมาเป็นของตนได้  ท่านสามารถดูดซับพลังของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมาเป็นพลังของตน

* ความศรัทธาของอัศวินสีน้ำเงิน : สร้างบาเรียที่สามารถดูดซับความเสียหาย 10,000 หน่วย  ระยะหน่วงหลังใช้ : หนึ่งชั่วโมง

* เครื่องรางของเบนทาโอ : ทำการสลับพลังชีวิตของท่านและเป้าหมาย  ระยะหน่วงหลังใช้ : 12 ชั่วโมง

* วิชาดาบทารันต์ : ได้รับทักษะความชำนาญดาบขั้นสูงติดตัว  สามารถใช้ทักษะ <ไร้โลหิต> เมื่อสวมอาวุธประเภทดาบ  เอฟเฟคนี้จะติดตัวไปตลอด

* ภูมิปัญญาของมูมัด : ร่ายเวทย์เร็วขึ้น 15%  ฟื้นฟูมานาตามธรรมชาติเร็วขึ้น 30%  เอฟเฟคนี้จะติดตัวไปตลอด
=============================

       หากเป็นไปตามแผนที่แอ็กนัสวางไว้แต่แรก  ชื่อของบราฮัมก็จะถูกสลักอยู่ในอักขระความตายนี้ด้วย

       'เราอยากได้ลิชเกรดเลเจนดารี!'

       แอ็กนัสส่งข้อความไปหาเวอราดิน

       >>  รังของจอมอสูรเฟอร์ฟูอยู่ที่ไหน

       มิติแห่งเวลานั้นจะมอบความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมเสมอ  ในขณะที่กริดและโอเวอร์เกียร์เติบโตขึ้น  ผู้เล่นคนอื่นก็ไม่หยุดอยู่กับที่เช่นกัน

Comments

  1. เหยยย นึกว่าแพกม่าต้องมาเป็นลิสของแอกนัสสะแล้ว รีบไปเลยแกกก

    ReplyDelete
  2. 가나다라마바사
    คาน่ะดาร่ะมาบ่ะซา
    เป็นการนำอักษรเกาหลีมาร้องเป็นเพลง
    เหมือน​ กอ​ ขอ​ คอ​ ฆอ​ งอ​ จอ​ ฉอ ชอ ซอ​ ญอ​ ประมาณนี้แหละ

    ReplyDelete
  3. แอกนัสก็มีพลังของแพ็กม่ายุแล้ว เพราะตอนนี้มันได้คลาสรองของเเพ็กม่าไง

    ReplyDelete
  4. im bob lee จากสหรัฐอเมริกา ฉันยินดีต้อนรับ VIWERS ทุกคนของฉันที่ยินดีเข้าร่วม Illuminati ที่ซึ่งคุณสามารถกลายเป็นคนรวยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในโลกได้ คุณเป็นนักธุรกิจหรือผู้หญิง นี่คือโอกาสของคุณที่จะบรรลุความฝันในชีวิตของคุณ เรื่องราวของฉันเปลี่ยนไป สมาชิกใหม่ทุกคนจะได้รับผลประโยชน์ 10 ล้านและรถใหม่ที่คุณเลือก ไม่มีอันตรายใดที่อิลลูมินาติมีอยู่จริง เพราะวันนี้ได้ช่วยฉันด้วยจริงๆ เช่นกัน ชื่อของฉันคือ บ็อบ ลี ฉันมาที่นี่เพื่อแบ่งปันคำให้การเกี่ยวกับวิธีที่ฉันเข้าร่วมกลุ่มภราดรภาพที่ยิ่งใหญ่ของอิลลูมินาติ และเรื่องราวชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปทันที ฉันยากจนมาก ไม่มีงานทำ และฉันไม่มีเงินแม้แต่จะเลี้ยงดูและดูแลครอบครัวของฉัน ฉันสับสนในชีวิต ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ฉันพยายามสุดความสามารถเพื่อหาเงิน แต่ไม่มีใครทำงานให้ฉัน วันที่ฉันเสียน้ำตา ฉันแค่มองหาครอบครัวที่ไม่มีเงินเพื่อดูแลพวกเขา จนวันหนึ่งฉันตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มอิลลูมินาติผู้ยิ่งใหญ่ ฉันเจอพวกเขาในอินเทอร์เน็ต ฉันไม่เคยเชื่อเลยว่าฉันบอกว่าให้ฉันลอง ส่งอีเมลถึงพวกเขาทั้งหมด สิ่งที่พวกเขากล่าวว่าเราเกิดขึ้นในชีวิตของฉันเพิ่งเริ่มต้น มันเหมือนกับความฝันสำหรับฉัน พวกเขาเปลี่ยนเรื่องราวของฉันโดยสิ้นเชิง พวกเขาให้เงินฉัน $3,200,000 และอีกหลายอย่าง ผ่านอิลลูมินาติฉันสามารถรวยและมีอุตสาหกรรมมากมายด้วยตัวเองและมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในประเทศของฉันวันนี้ฉันและครอบครัวอยู่อย่างมีความสุขและฉันเป็นคนที่มีความสุขที่สุดที่นี่เป็นโอกาสสำหรับคุณที่จะเข้าร่วม อิลลูมินาติและกลายเป็นคนรวยและมีชื่อเสียงในชีวิตและเป็นเหมือนคนอื่น ๆ และชีวิตของคุณเราจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หากคุณสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นพี่น้องที่ดีอิลลูมินาติติดต่อเขา +2347051758952 หรือสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
    morganilluminatirich@gmail.com แอดไลน์ไอดี boblee12345

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00