จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 371



       ดาบขุมนรก

       ทักษะที่ติดมากับยารุกต์ซึ่งต้องสำเร็จเงื่อนไขบางประการถึงจะใช้ออกไปได้  ความรุนแรงของมันอยู่ในระดับสุดยอด  ไม่แพ้ทักษะเกรดเลเจนดารีอย่างวิชาดาบแพ็กม่าเลยสักนิด  เมื่อกริดได้สำรวจอย่างละเอียดก็พบว่ามันสามารถสร้างความเสียหายได้สูงกว่า<สังหาร>เลเวลสี่เสียอีก

=============================
[ ดาบขุมนรก ]
       สร้างความเสียหายรุนแรง 2,400% ของพลังโจมตีกายภาพ
       หลังจากนั้นจะสร้างรัศมีดาบสีดำจำนวน 24 เส้นขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกโจมตีซ้ำภายในหนึ่งวินาที  รัศมีดาบสีดำจะมีความรุนแรงเส้นละ 100%
________________________________
มานาที่ใช้ : 1,000
ระยะหน่วงหลังใช้ : 15 นาที
=============================

       ชิ้ง!

       ยารุกต์เวอร์ชั่นผสานกับความผิดพลาด       

       ซู่วว!

       ซู่วว!

       เกิดเป็นประกายแสงสีดำห้อมล้อมยารุกต์ไว้  เส้นตรงถูกวาดขึ้นบนลำตัวทีราเม็ทเพื่อแบ่งบางสิ่งออกเป็นสองซีก

       ฉัวะ!

       "...!"

       ทีราเม็ทถูกฟันขาดเป็นสองท่อนตั้งแต่กลางศีรษะลงมาจนถึงหว่างขา  ทันใดนั้นก็เกิดเป็นรัศมีดาบสีดำจำนวน 24 เส้นกลางอากาศรอบกายมัน  กริดเริ่มทำการขยับนิ้วเพื่อออกคำสั่งให้กับรัศมีดำทั้งหมด

       'หนึ่ง'

       ฉัวะ!

       'สอง'

       ฉัวะ!
       
       'สาม'

       ฉัวะ!

       กริดจำเป็นต้องออกคำสั่งกับพวกมันด้วยนิ้วมือตนเองเท่านั้น  จากรัศมีดาบทั้งหมด 24 เส้น  มีเพียงสามเส้นเท่านั้นที่ชายหนุ่มสามารถควบคุมให้โจมตีโดนทีราเม็ท  ส่วนอีก 21 เส้นค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อครบกำหนดหนึ่งวินาที

       'ยากฉิบ'

       กริดยังไม่คุ้นชินกับการออกคำสั่งเป็นชุด  มันทั้งซับซ้อนและมีเวลาจำกัดน้อยเกินไป  ไม่ใช่สิ่งที่จะชำนิชำนาญได้ในการใช้งานจริงเพียงหนหรือสองหน

       'ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้  ตอนเด็กๆ เราน่าจะใช้เวลาฝึกซ้อมเล่นเกมให้มากหน่อย...'

       เขาต้องสูญเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ไปกับการนั่งเรียนหลังขดหลังแข็ง  ที่มุมสายตาของกริดในตอนนี้  หน้าต่างข้อความระบบปริมาณมากกำลังหลั่งไหลไม่หยุด

[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 1,229,112 หน่วย ]
[ ความเสียหายบางส่วนถูกเปลี่ยนเป็นพลังชีวิตจากผลของแหวนเอลฟิน-สโตน ]

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 17,071 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 17,071 หน่วย ]
[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 51,213 หน่วย ]

[ ผลของโทสะช่างตีเหล็กหมดลง ]

       หลังจากการโจมตีอันหนักหน่วงทั้งดาบขุมนรก  มายาร่ายรำ  ร่ายรำสังหาร  ร่ายรำ  สังหาร  ทำลายล้าง  และวังวน  รวมไปถึงไม้ตายก้นหีบอย่างผสานไอเท็มและร่างมืด   

       ณ จุดนี้  กริดมั่นใจมากกว่าทีราเม็ทจะต้องถึงจุดจบแล้วแน่นอน

       'ไม่น่าจะมีตัวอะไรรอดไปจากทั้งหมดนั่นได้...'

       กริดระเบิดพลังเต็มพิกัดใส่ทีราเม็ทตั้งแต่แรกเริ่ม  เขาเหลือมานาเพียง 33 หน่วยหลังจากใช้ทุกทักษะสำคัญ  จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากทีราเม็ทยังไม่ตายงั้นหรือ  ชายหนุ่มก็ต้องตกอยู่ในสถาพตั้งรับเพื่อรอให้โพชั่นมานากลับมาใช้ได้อีกครั้ง

       แต่เรื่องแบบนั้นไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน

       'เฮล-กาโอที่ถูกขุดศิลาอัคคีออกไปหนึ่งก้อนก็ไม่มีทางรอดเมื่อโดนการโจมตีเหล่านั้นเข้าไป...'

       "อ--อะไรกัน..."

       สีหน้าของกริดพลันขาวซีด

       'ทำไมมันถึงยังไม่ตาย...'

       กริดไม่ได้รับข้อความระบบที่บ่งบอกว่าสังหารทีราเม็ทได้แล้ว  ชายหนุ่มเริ่มตื่นตัวอีกครั้ง

       "...อา  นั่นสินะ  นี่คงเป็นสาเหตุที่เอลฟิน-สโตนต้องจบชีวิตลง"

       ทีราเม็ทเปิดปากพูดขึ้นแม้พลังชีวิตของมันจะมิดหลอดแล้วก็ตาม

       "เจ้านั่นมีร่างกายที่บอบบาง...  แตกต่างจากฉันคนนี้!"

       'ได้ยังไง...'

       กริดพลันฉงนทันทีเมื่อเห็นทีราเม็ทยังมีชีวิตอยู่  ร่างของมันในยามนี้สิ้นสภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว  แต่กลับมีมวลพลังเวทย์มหาศาลกำลังอัดแน่นอยู่รอบผ้าขี้ริ้วนั่น

       "ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด  ตัวฉันมีพลังเวทย์มนต์อ่อนแอที่สุด  ไม่อาจใช้เวทย์ทรงพลังได้เหมือนพี่น้องคนอื่นเขา  แต่ก็แลกมาด้วย..."

       "...!"

       ดวงตาของกริดเบิกโพลง  พลังเวทย์มืดรอบกายทีราเม็ทได้ฟื้นฟูร่างที่แหลกเหลวของมันให้กลับมาเป็นปรกติอีกครั้ง

       "ฉันมีพลังเวทย์ชนิดพิเศษสำหรับการฟื้นฟูร่างกาย  จะเรียกว่าอมตะก็ไม่ผิดนักหรอกนะ"

       ทีราเม็ทแสยะยิ้มเผยให้เป็นเขี้ยวอันแหลมคม

       "เอาล่ะ  มาเริ่มกันอีกรอบดีกว่า"

       ตึง!

       ทีราเม็ทตั้งท่าเตรียมสู้  ดูราวกับเป็นนักศิลปะการต่อสู้ยังไงยังงั้น  ใช่แล้ว  เป็นท่าลักษณะเดียวกับที่เรกัสชอบใช้  บอกเป็นนัยว่ามันจะไม่มีวันโดนลอบโจมตีอย่างคาดไม่ถึงอีก

       "จะบอกอะไรให้อย่างนะ  ฉันแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่เกือบตายและคืนชีพกลับมาใหม่สำเร็จ"

       เปรี้ยงงง!

       ทีราเม็ทขยับเท้าหนึ่งครั้งพร้อมกับชกลม  เกิดเป็นพลังเวทย์ปริมาณมหาศาลพุ่งออกมาจากกำปั้นพร้อมกับสายลมคลื่นกระแทก  นี่คือการโจมตีผสานอันหนักหน่วงที่แฝงไว้ทั้งพลังเวทย์และพลังกายภาพ

       'เจ้านี่เป็นแค่วิสเคาต์จริงหรือ'

       หากไม่นับการโจมตีที่ทรงพลัง  ความว่องไวก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นด้วย  กริดเรียกหัตถ์เทวะทั้งหมดกลับมาอยู่ในท่าป้องกันอีกครั้ง  ทั้งนี้ก็เพื่อรอให้ระยะหน่วงของโพชั่นมานาและทักษะต่างๆ กลับมาพร้อมใช้งาน

       แต่ทีราเม็ทได้เกิดใหม่มาพร้อมกับค่าสถานะที่สูงกว่าเดิมมาก  คงเป็นการยากที่กริดจะรับมือได้โดยปราศจากทักษะทั้งปวง

       ผลัก!  ผัวะ!

       ทีราเม็ทเตะต่อยได้รวดเร็วคล่องแคล่วมากขึ้น  หัตถ์เทวะเริ่มใช้งานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพเพราะตกอยู่ในอาการชะงักงันบ่อยครั้ง  กริดเล็งเห็นว่าสถานการณ์แบบนี้คงยื้อต่อไปได้ไม่นานแน่

       'ท่าไม่ดีแล้วสิ'

       ในกรณีของเอลฟิน-สโตนนั้น  ความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ของมันมาจากเขตแดนโลหิตและเวทย์มนต์สร้างอาการผิดปรกติชนิดอื่น  พลังทางกายภาพจึงมีไม่สูงมาก  ทำให้เอลฟิน-สโตนไม่สามารถดึงพลังที่แท้จริงออกมาสู้กับกริดได้  ต่างจากทีราเม็ทที่เน้นหนักไปในด้านพลังกายภาพ  ศัตรูชนิดนี้คือสิ่งที่กริดแพ้ทางมากที่สุด

       'แถมทักษะการชุบชีวิตตัวเองนั่นอีก'

       ชายหนุ่มทำพลาดมหันต์ที่ดันใช้ทักษะทั้งหมดไปกับการมุ่งเน้นปลิดชีพ  ถ้าหากไม่ใช่เพราะสติปัญญาและจิตใจแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้ว  ป่านนี้คงกำลังสิ้นหวังพร้อมกับสติแตกแน่นอน

       เคร้ง!

       ผลั่ก!  ผัวะ!

       ในขณะที่กริดมีแต่จะย่ำแย่ลง  ทีราเม็ทนั้นได้ใจรุกหนัก  กำปั้นและฝ่าเท้าถูกประเคนใส่กริดอย่างพัวพัน  ชายหนุ่มพยายามปัดป้องอย่างสุดชีวิตโดยไร้ทางหนี

       "การที่ฉันเป็นแค่วิสเคาต์  ไม่ใช่เพราะว่าอ่อนแอกว่าเอลฟิน-สโตน  แต่เป็นเพราะฉันไม่ต้องการมีภาระหน้าที่อันยุ่งยากวุ่นวาย!"

       เคร้ง!

       กริดเริ่มหยิบโล่เทวะออกมาป้องกัน

       ทีราเม็ทใช้โล่เทวะเป็นฐานเหยียบเพื่อกระโดด  ในยามที่เอาขาลงพื้นมันก็เริ่มหมุนตัวควงสว่านอย่างรวดเร็วพร้อมกับควบแน่นพลังเวทย์ไว้ที่ปลายนิ้วโป้งเท้า  ก่อเกิดเป็นลมพายุอันรุนแรงเกรี้ยวกราดส่งผลให้ทั่วบริเวณถูกปกคลุมไว้ด้วยพลังเวทย์ปริมาณมาก

       'รับไปตรงๆ ไม่ดีแน่'

       กริดตั้งสติพร้อมกับเตรียมหลบหลีก  แต่คงเป็นการยากที่จะหลบให้พ้นทีราเม็ทซึ่งมีความเร็วระดับนี้  เพราะผลของบัฟ<พลิ้วไหว>ได้หมดลงแล้ว  ทีราเม็ทซัดกริดจนล้มลงไปกองกับพื้น

       "วะฮ่าฮ่าฮ่า!  ต้องอย่างนั้น  มนุษย์อย่างแกคู่ควรกับการนอนเกือกกลิ้งบนพื้นมากกว่า!"

       ทีราเม็ทย่างสามขุมเข้ามาใกล้และใช้เท้าเหยียบไหล่กริดไว้

       โครม!

       "อ๊ากกกก!"

       ชายหนุ่มส่งเสียงร้องอย่างทุกข์ทรมาน  ทีราเม็ทก้มตัวลงไปดึงศีรษะกริดให้ตั้งขึ้นและกระซิบข้างหูว่า

       "ฉันจะบดขยี้แกจนกว่าจะสาแก่ใจ"

       เปรี้ยง!

       ทีราเม็ทประเคนเข่าใส่ใบหน้ากริด

       ผั่วะ!

       ครั้งที่สอง

       ผลั่ก!

       ครั้งที่สาม

       หยาดโลหิตไหลรินท่วมศีรษะกริดจนแดงฉาน  ยูร่าส่งเสียงกรีดร้องราวกับหัวใจกำลังแหลกสลาย

       "กริด!!"

       ***
       
[ มานาถูกใช้ไปกับการกลั่น <กระสุนปัดเป่า> ]
[ ปืนเวทย์มนต์ของท่านไม่สนับสนุนโหมดไรเฟิล  มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดข้อผิดพลาด ]

[ กระสุนปัดเป่าขัดลำกล้อง ]
[ ความคงทนของไอเท็ม <ปืนเวทย์มนต์เอมิลฟา> ลดลง 95 หน่วย  อันตราย!  ไอเท็มใกล้เสียหาย ]

[ มานาถูกใช้ไปกับการใช้งาน <ดาบอาฆาต> ]
[ ปืนเวทย์มนต์ของท่านไม่สนับสนุนโหมดดาบ  มีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนรูปร่างไม่สำเร็จ ]

[ ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นรูปร่างดาบอาฆาตได้ ]
[ ความคงทนของ <ปืนเวทย์มนต์เอมิลฟา> กลายเป็น 0  อาวุธถูกทำลายเป็นการถาวร ]

       นักล่าอสูรยูร่ายังไม่อาจดึงพลังที่แท้จริงออกมาใช้งานได้  เป็นเพราะเธอยังทำภารกิจประจำคลาสไม่เสร็จงั้นหรือ  นั่นก็ใช่  หรือจะเป็นเพราะเธอยังมีเลเวลไม่ถึง 300 กันนะ  จึงยังไม่ได้รับการตื่นของค่าสถานะระดับสาม  นั่นก็ใช่อีกเช่นกัน

       แต่เหตุผลหลักและเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ยูร่าดึงศักยภาพออกมาไม่ได้เต็มที่  คือการที่ปืนเวทย์มนต์ของเธอมีเลเวลเพียง 180 เท่านั้น  เน้นย้ำกันอีกครั้ง  ปืนเวทย์มนต์คืออาวุธที่สร้างได้เฉพาะในโรงแปรธาตุ

       แต่ดูเหมือนปืนเวทย์มนต์ที่สร้างจากโรงแปรธาตุของมนุษย์จะยังเป็นผลผลิตที่มีตำหนิอยู่  เทคโนโลยีแปรธาตุของมนุษย์สามารถเลียนแบบการทำงานของปืนเวทย์มนต์ได้บางส่วนเท่านั้น  ไม่ใช่ทั้งหมด  ปืนเวทย์มนต์ที่แท้จริงจะต้องสนับสนุนทั้งโหมดไรเฟิล  โหมดดาบ  และโหมดปืนสั้นได้อย่างไร้ปัญหา  โดยมีเพียงเผ่าคนแคระเท่านั้นที่สามารถสร้างอาวุธชนิดนี้ได้สมบูรณ์แบบ

       "กริด...!!"

       ชายเพียงคนเดียวในโลกที่สั่นคลอนหัวใจอันเย็นชาของเธอได้  ยูร่ารู้สึกเศร้าใจที่ตนไม่อาจทำอะไรได้เลยในขณะที่ชายหนุ่มกำลังถูกซ้อมอย่างหนัก  หน้าอกพลันเจ็บแปลบ

       'ทำไมนายต้องทำเพื่อฉันขนาดนี้...'

       ทำไมต้องเสียสละตนเองเพื่อเธออีกแล้ว  ยูร่ากล่าวขอโทษกริดในใจนับพันครั้ง  เธอเกลียดตนเองที่ไร้ประโยชน์
       
       'เราต้องหาทางช่วยเขา'

       เธอคิดฝืนใช้ทักษะไพ่ตายของตน  แม้ว่ามันจะทำให้อาวุธสำรองต้องพังเสียหายไปอีกชิ้นก็ตาม  ปืนเวทย์มนต์เลเวล 120 ถูกชักออกจากกระเป๋าสัมภาระ  ปืนเวทย์มนต์เรียนฟ่า  ยูร่าถือมันวิ่งเข้าไปยืนจังก้าต่อหน้าทีราเม็ทโดยอัดแน่นไปด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรีและความห่วงใยที่มีต่อกริด  

       'แกอย่าได้ลืมว่าศัตรูที่แท้จริงคือใคร...!'

       "หยุดนะ!"  ยูร่าตะโกนขึ้นพร้อมหันปากกระบอกปืนเข้าหาทีราเม็ท  แต่ทันใดนั้นก็ต้องชะงักไปหลังจากได้ยินเสียงของใครบางคน       

       "ใจเย็นก่อน  ฉันไม่เป็นอะไร"

       "...เสียงกริดหรือ"

       เสียงของกริดใสกังวาลเกินกว่าจะอยู่ในสภาพปางตายจากการถูกทีราเม็ทซ้อม  แถมยังดังมาจากจุดแปลกประหลาดที่ไม่ถูกไม่ควร  ทันใดนั้นทีราเม็ทก็โพล่งขึ้นอย่างประหลาดใจ

       "ตัวปลอม...!"

       ใช่แล้ว  กริดที่ถูกทีราเม็ทซ้อมอยู่คือแรนดี้  ไม่ใช่ตัวจริง  เป็นเวลาเดียวกันกับที่กริดกระโดดเข้าใส่ทีราเม็ทจากด้านบน  

       ทักษะใหม่ของแรนดี้ซึ่งเธอได้รับมาเมื่อครั้งที่เลื่อนเลเวลถึงระดับ 200 ตอนอยู่บนหมู่เกาะเบเฮ็น  <สลับตำแหน่งกับร่างต้นที่เลียนแบบ>  ถือเป็นทักษะที่มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลาย

       "พวกแกสลับตัวกันงั้นหรือ...!"

       "สังหาร!"

       เปรี้ยง!

       "อ๊ากกกก!"

       ทีราเม็ตส่งเสียงร้องเจ็บปวดเมื่อถูกยารุกต์เสียบเข้าที่ศีรษะ  แต่ก็ยังเร็วไปนักที่จะกล่าวว่ากริดได้รับชัยชนะแล้ว  ชายหนุ่มยังคงมีมานาไม่พอใช้และระยะหน่วงทักษะอื่นก็ยังไม่พร้อม

       แถมยิ่งไปกว่านั้น

       'จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทุ่มพลังทั้งหมดลงไปแล้วมันดันฟื้นกลับมาอีก'

       นั่นยิ่งจะแย่ไปกว่านี้  และอาจเป็นจุดจบของจริงเลยก็ว่าได้

       'มีโอกาสสูงที่บอสตัวนี้จะไม่มีทางเอาชนะได้ถ้างานเงื่อนไขบางประการไม่ตรง'

       กริดหันไปพูดกับยูร่า

       "พวกเราต้องถอยก่อน"

       แต่ยูร่ากลับคิดต่าง  เธอโล่งใจที่กริดปลอดภัยดี  และในระหว่างที่มองกริดสู้อย่างใจเย็น  หัวสมองก็ประมวลผลหาวิธีฆ่าทิราเม็ทออกมาได้  

       "มีบาดแผลที่มันเคยถูกนักล่าอสูรคนก่อนทำร้ายอยู่"

       เหตุใดบาดแผลนั้นถึงไม่หายไปแม้ว่าจะมีพลังรักษาระดับอนันต์เช่นนี้  คำตอบงั้นง่ายมาก  เป็นเพราะบาดแผลดังกล่าวถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของนักล่าอสูรโดยตรง

       "ฉันอาจเป็นคนเดียวที่ฆ่ามันได้"

       ยูร่าคาดเดาจากเหตุผลและหลักฐานที่มี  ในขณะเดียวกันก็มีใครบางคนปรบมือให้กับการสันนิษฐานอันแม่นยำของเธอ  เป็นสติกส์  เขาเฝ้ามองการต่อสู้จากด้านนอกมานานแล้ว  ยามนี้กำลังอมยิ้มอย่างอบอุ่นและหันไปมองยูร่า

       "ที่เธอพูดมานั้นถูกต้องทุกประการ"

       "คุณคือ..."

       นี่คือครั้งแรกในซาทิสฟายที่เธอได้พบกับเผ่าเอลฟ์  ยูร่าเกิดอาการสับสนไปครู่หนึ่งก่อนจะนึกบางสิ่งขึ้นได้

       "กริด  นายเข้ามาในดันเจี้ยนนี้ได้ด้วยฝีมือของเขาใช่ไหม"

       กริดพยักหน้า

       "ถูกต้อง  เขาคือจอมปราชญ์เร้นกายที่มีนามว่าสติกส์"

       สติกส์ยื่นกล่องเล็กๆ ให้กับยูร่า

       "นี่คือปืนกระบอกที่อเล็กซ์ใช้เมื่อยังเยาว์วัย"

       อเล็กซ์  อดีตนักล่าอสูรคนก่อนและเพื่อนสนิทของสติกส์  กริดที่รักษาความเยือกเย็นมาได้ตลอดพลันออกอาการหงุดหงิด

       "นายไม่มีไอเท็มที่แพ็กม่าใช้ตอนเยาว์วัยบ้างรึไง"

       "ไม่เลย  กระผมไม่ได้สนิทกับแพ็กม่า"

       สติกส์ตอบกลับอย่างหนักแน่น  กริดทำได้เพียงคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

       ***

       สันตะปาปาดาเมี่ยน  เขาอาศัยอยู่ในเรย์ดันมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว

       ดาเมี่ยนกำลังมีความสุขมาก  เพราะว่าเขาดีใจที่ได้เห็นโบถส์รีเบคก้าถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วในเรย์ดันงั้นหรือ  เปล่าเลย  นั่นเป็นเพียงเหตุผลรอง

       ลอร์ด-สไตม  การได้เล่นกับบุตรชายกริดกลายเป็นงานอดิเรกในทุกวันไปแล้ว

       "นายเข้าใจหลักการควบคุมพลังเทพแล้วงั้นสินะเจ้าหนู  นายไม่ใช่แค่อัจฉริยะ  แต่เป็นสุดยอดอัจฉริยะ!"

       "บูบู!"

       ลอร์ดพยักหน้าหงึกหงักอย่างภูมิใจเมื่อสามารถสร้างแสงสีขาวออกมาจากปลายนิ้วได้  แม้จะเป็นแสงที่มีความเข้มข้นเจือจางบางเบา  แต่เขาก็เพิ่งจะฝึกมันได้เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น  ลอร์ดเป็นอัจริยะในทุกด้านอย่างไม่ต้องสงสัย  ไม่ว่าใครจะสอนสิ่งใด  ลอร์ดก้สามารถเรียนรู้ได้ในพริบตา

       "นายสามารถใช้พลังเทพในการปกป้องพวกพ้อง  แถมยังใช้มันจัดการกับเผ่าพันธุ์อสูรได้ง่ายดายอีกด้วย  ตัวอย่างเช่นพวกแวมไพร์"

       ดาเมี่ยนเกิดความคิดเอาจริงเอาจังที่จะถ่ายทอดความรู้ของตนให้ลอร์ด

       โดยในขณะเดียวกัน  ทั้งคาซิมและหน่วยมังกรเงินทั้ง 20 คนก็กำลังหลบซ่อนอยู่ในความมืดคอยอารักขานายน้อยผู้นี้

Comments

  1. ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete
  2. ยูร่าเริ่มจะเกิบความรู้สึกไม่อยู่ละเริ่มแสดงออกมาที่ละนิด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00