จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 368



       "ก--กริดได้ 92 แต้มงั้นหรือ!"

[ ท่านสร้างสถิติใหม่ของอาวุธประเภทธนูในการทดสอบกำลังพลสำรองเมืองแพเทรี่ยน! ]       
[ ท่านมีความเข้าใจในพื้นฐานการยิงธนู  การใช้คันศร  และการใช้ลูกธนูที่สูงกว่าทักษะที่มีอยู่ ]
[ ของรางวัลลับจะถูกจัดสรรให้อย่างเหมาะสม ]
[ ท่านได้รับทักษะเกรดทั่วไป <ความชำนาญธนู> ]

=============================
[ ความชำนาญธนู ]
ขั้นต้น : เลเวลหนึ่ง
________________________________
       ท่านสามารถสวมใส่ไอเท็มประเภทธนูได้ทุกชนิด       
       เมื่อสวมใส่ธนู  พลังโจมตีและความแม่นยำจะเพิ่มขึ้น 4%  โดยโอกาสเกิดคริติคอลจะขึ้นอยู่กับค่าความว่องไว
________________________________
โอกาสคริติคอลจากธนูในปัจจุบัน : 0%
=============================

       'ความชำนาญธนู!'

       คลาสนักธนูมักถูกยกย่องให้เป็นอันดับหนึ่งในด้านพลังโจมตีทางกายภาพอยู่เสมอ  เหตุผลน่ะหรือ  หนึ่งในสาเหตุดังกล่าวมาจากทักษะความชำนาญธนูนี่เอง  ทักษะความชำนาญธนูจะเพิ่มความแม่นยำให้ผู้ใช้สูงกว่าทักษะความชำนาญอาวุธชนิดใดทั้งหมด  เป็นที่มาของการโจมตีอันแม่นยำและต่อเนื่อง

       'ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับทักษะความชำนาญธนู'

       อันที่จริง  กริดก็เป็นหนึ่งในผู้ที่โจมตีระยะกลางถึงไกลได้รุนแรง  เพราะเขามีทักษะเกรดเลเจนดารีอย่างวิชาดาบแพ็กม่า<มายา>  <มายาร่ายรำ>  รวมไปถึงเวทย์มนต์อย่างศรเวทย์  แต่นั่นก็ต่อเมื่อเขามีมานาพอใช้และระยะหน่วงของสกิลข้างต้นยังอยู่

       'ในทางกลับกัน  อาวุธประเภทธนูจะสร้างความเสียหายได้ต่อเนื่องกว่าถ้าหากมีลูกธนูที่มากพอ'

       กริดนั้นมีค่าความว่องไวที่สูงลิบเพราะลอกค่าสถานะมาจากปิอาโร่  ส่งผลให้ทักษะความชำนาญธนูเป็นประโยชน์ต่อเขาไม่น้อยทีเดียว

       'ถ้าเราได้ทักษะความชำนาญอาวุธทุกชนิดมาด้วยล่ะก็...'

       เสาเข็มอันเป็นพื้นฐานที่จะส่งให้กริดกลายเป็นอันดับหนึ่งในอนาคตก็จะถูกตอกฝังลงดินอย่างหนักแน่นมั่นคง

       ***

       แม้ว่าค่าสถานะของกริดเลเวล 23 จะถูกอัพอย่างผิดเพี้ยน  แต่พลังต่อสู้ของกำลังพลสำรองที่เข้าร่วมสอบการดวลก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน  กริดสามารถคว้าชัยชนะได้เรื่อยๆ จนจบด้วยคะแนนที่หนึ่งในการสอบดวล  ทุกแมทช์ล้วนเป็นการถล่มคู่ต่อสู้อย่างราบคาบ

       "ผู้ที่ได้ผลสอบอันดับหนึ่ง...  กริด!"

       แปะ! แปะ! แปะ!

       ณ พิธีจบการฝึกซ้อม  ครูฝึกคาเอซูลเอ่ยชื่อกริดออกมาอย่างเสียงดังฟังชัด  ทั้งผู้ช่วยครูฝึกและกำลังพลสำรองคนอื่นต่างก็ปรบมืออย่างพร้อมเพรียง  กริดแสดงความยอดเยี่ยมออกมาจนทุกคนให้การยอมรับ

       'ไม่ใช่ด้วยพลังของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า...'

       'แต่เป็นชินยองวู...'  

       ตัวกริดได้รับการยอมรับจากทุกคน  เขารู้สึกตื้นตันใจกับความสำเร็จเล็กๆ ก้าวแรกด้วยลำแข้งของตน  ชายหนุ่มอมยิ้มก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที

       ทันใดนั้น...

[ ท่านสอบได้อันดับที่หนึ่งในการฝึกกำลังพลสำรองของแพเทรี่ยน! ]

[ ท่านได้รับรางวัลตอบแทนชั้นเลิศอย่าง <จดหมายชมเชยกำลังพลสำรองรุ่นพี่> ]

=============================
[ จดหมายชมเชยกำลังพลสำรองรุ่นพี่ ]
       ท่านจะกลายเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของกำลังพลสำรองแพเทรี่ยนรุ่นถัดไป
       ฉันขอขอบใจในความกระตือรือร้นระหว่างการฝึก
- เอิร์ลอัชเชอร์       
=============================

       "..."

       ไม่จริงใช่ไหม  กริดต้องการรางวัลที่มันยิ่งใหญ่กว่านี้  สีหน้าของเขาจึงเปี่ยมไปด้วยความฉงนอย่างหนัก  ครูฝึกคาเอซูลฉีกยิ้มกว้างและหันมาพูดว่า

       "เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับคำชมเชยจากเอิร์ลอัชเชอร์  ลอร์ดแห่งแพเทรี่ยน  หนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทวีป  สิ่งนี้สามารถเป็นมรดกตกทอดสืบต่อกันรุ่นสู่รุ่นของตระกูลนายได้เลย"

       "บ้าบอสิ้นดี...  ไม่มีรางวัลอื่นอีกแล้วจริงหรือ"

       ในขณะที่กริดหันไปถาม

[ ท่านผ่านบททดสอบของเกาะหมายเลข 31 เรียบร้อย! ]
[ ท่านได้รับคะแนนท้าท้าย 600 แต้ม ]
[ เลเวลของท่านกลับสู่ปรกติ ]

[ ท่านได้รับทักษะ<ขว้างหอก>  <กระหน่ำแทง> และ <ความชำนาญธนู> ]

       เพล้ง~

       ทั้งเมืองป้อมปราการแพเทรี่ยน  ครูฝึกคาเอซูล  ครูผู้ช่วย  และพวกพ้องที่ร่วมฝึกมาด้วยกัน  ฉากจำลองเสมือนจริงทั้งหมดแตกออกประหนึ่งเศษกระจก  เหลือเพียงเกาะหมายเลข 31 อันเวิ้งว้างว่างเปล่า  ชายหนุ่มยืนอยู่กึ่งกางพร้อมกับกำลังระงับโทสะที่หมายจะฉีกคำชมเชยจากเอิร์ลอัชเชอร์ให้ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเอาไว้

       "...เก็บไว้เป็นของที่ระลึกก็ไม่เลว"

       นี่อาจเป็นรางวัลแรกในชีวิตที่เขาเคยได้รับ...  แถมกริดก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังเอิร์ลอัชเชอร์เหมือนก่อนอีกแล้ว  ชายหนุ่มจึงนำมันไปเก็บไว้ในซอกหลืบของกระเป๋าสัมภาระ

       ***

       เรย์ดันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายในขณะที่กริดไม่อยู่

       ประการแรก  มอนสเตอร์รอบเหมืองมิธริลสีเหลืองเริ่มแห้งเหือด  เป็นเพราะเหล่าอัศวินจากวินสตันได้ตามมาสมทบและออกล่าจนหมดสิ้น  เรย์ดันสามารถสกัดมิธริลสีเหลืองออกมาใช้อย่างเต็มกำลังโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง  มิธริลสีเหลืองนั้นส่งผลให้เทคโนโลยีของโรงแปรธาตุในเรย์ดันเติบโตเร็วมาก  จนในที่สุดผงนางฟ้าก็ผลักดันให้โรงแปรธาตุอยู่ในระดับที่สามารถร่วมมือกับโรงตีเหล็กได้เสียที

       ประการที่สอง  พรสวรรค์ด้านเวทย์มนต์ของ<ชนเผ่าอัล>ที่กริดช่วยเหลือมาจากจักรวรรดิซาฮารันกำลังปะทุถึงขีดสุด  ทำให้เรย์ดันในตอนนี้มีจอมเวทย์สูงถึง 930 คน  ในบรรดาคนเหล่านั้น  องค์หญิงฮวารินแห่งชนเผ่าอัลคือที่สุด   พรสวรรค์ด้านเวทย์มนต์ของเธอเหนือล้ำสุดหยั่ง  โดยเฉพาะทักษะติดตัวที่ส่งผล<เพิ่มพลังโจมตีเวทย์มนต์ของสมาชิกในปาร์ตี้ 30%>   สิ่งนี้คือสมบัติล้ำค่าระดับทวีป

       ประการที่สาม  ขอบเขตฟาร์มของเรย์ดันแผ่ขยายกว้างไกลไปจนถึงภูเขาอัลเทส  กำลังการผลิตพืชผลจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกสามเท่าตัว

       ลอเอลไม่อาจเข้าใจสถานการณ์นี้ได้เลย 
       'เรย์ดันมีจำนวนชาวนาน้อยมาก  แถมงบประมาณก็จำกัด  แล้วปิอาโร่ใช้วิธีใดพัฒนาไปได้ไกลขนาดนี้  เขาไม่มีทางทำสำเร็จตามลำพังได้แน่...'

       จนถึงตอนนี้ลอเอลยังคงไม่รู้ว่าในฟาร์มมีทั้งออร่ามาสเตอร์ฮูเร็นและจ้าวแห่งสัตว์เลี้ยงเนี๊ยวมงกำลังอยู่ในกำมือของปิอาโร่

       ประการที่สี่  โบสถ์รีเบคก้าแห่งใหม่ถูกสร้างขึ้นที่เรย์ดันในนามสันตะปาปาดาเมี่ยน  เมืองทั้งเมืองจะถูกอวยพรจากเทพธิดา  เรย์ดันจะมีนักบวชที่เป็นฮีลเลอร์ซึ่งสามารถร่วมปาร์ตี้กับผู้เล่นได้  อีกไม่ช้าก็เร็ว  ผู้เล่นจำนวนมากก็จะหลั่งไหลมายังเรย์ดันไม่ขาดสาย

       ประการที่ห้า  เด็กสาวที่ถูกเลือกของโบสถ์รีเบคก้าที่ดาเมี่ยนนำมา  พวกเธอทั้ง 200 คนได้เข้าร่วมกับเรย์ดันอย่างเป็นทางการ  ปิอาโร่ทำการฝึกฝนพวกเธออย่างหนักโดยหมายมั่นจะสร้างสุดยอดชาวนาในอนาคต  ไม่สิ  ต้องเป็นหน่วยพาลาดินศักดิ์สิทธิ์ต่างหาก

       ลอเอลเป็นกังวลกับข้อนี้มาก

       "แบบนี้จะดีแล้วหรือ..."

       บุตรีแห่งรีเบคก้านั้นคือขุมกำลังสูงสุดของโบสถ์มาโดยตลอด  ไม่เกินจริงไปนักที่จะกล่าวว่า  หากไม่มีบุตรีแห่งรีเบคก้า  โบสถ์รีเบคก้าก็คงไม่มีตัวตนอยู่นานแล้ว  เมื่อรู้ว่าดาเมี่ยนไม่ยอมนำเด็กสาวที่ถูกเลือกไปฝึกฝนด้วยหลักสูตรของโบสถ์  ทางสภาอาวุโสจะต้องไม่พอใจแน่

       "นายอาจถูกไล่ออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระก็ได้นะ  นายควรอยู่ในตำแหน่งให้นานที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของกริดถึงจะถูก"

       พลังอำนาจของสันตะปาปานั้นยิ่งใหญ่ยากหยั่งถึง  อันที่จริง  ดาเมี่ยนควรพยายามดำรงตำแหน่งสันตะปาปาต่อไปเรื่อยๆ จนตายเลยด้วยซ้ำ  แต่ดูเหมือนเขาอาจต้องถูกขับไล่เพียงเพราะดันเห็นอกเห็นใจกับเด็กสาวตัวเล็กๆ เหล่านี้  

       ลอเอลคิดว่ามันบ้าบอสิ้นดี

       แต่ดาเมี่ยนก็หัวรั้นไม่แพ้ใคร

       "เหตุผลที่ฉันเป็นสันตะปาปาก็เพราะไม่อยากให้มีอิสซาเบล  ริน  และลูน่ารุ่นต่อไปอีกแล้ว  นายไม่มีวันเข้าใจหรอก  เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ต้องถูกริดรอนความสะดวกสบาย  ต้องถูกล้างสมองและฝึกหนักราวกับขุมนรก...  ทั้งชีวิตถูกใช้เป็นเพียงอาวุธ  เป็นเพียงเครื่องมือ  ฉันไม่อาจอธิบายความเลวร้ายทั้งหมดเป็นคำพูดได้หรอกนะ"

       "หืม..."

       ลอเอลคือคนประเภทที่สามารถฆ่าผู้บริสุทธิ์เป็นผักปลาได้โดยไม่ประพริบตาเพื่อแลกกับผลลัพธ์ที่ตนพึงพอใจ  เขาจึงไม่เข้าใจดาเมี่ยนที่เห็นอกเห็นใจเอ็นพีซี  แต่ลอเอลก็พยายามทำความเข้าใจอยู่  เพราะกริดเองก็มีความสนิทสนมต่อเอ็นพีซีมาก  ทั้งภรรยาอย่างไอรีนและบุตรอย่างลอร์ด

       ลอเอลมีหน้าที่ต้องแก้ปัญหาให้ดาเมี่ยน

       "...ด้วยความสัตย์จริง  ฉันยังคงไม่เข้าใจความคิดของทั้งนายและกริด  แต่ฉันก็ไม่คิดดูแคลนหรอกนะ  เดี๋ยวจะหาทางแก้ไขปัญหาที่อาจตามมาให้ก็แล้ว"

       สีหน้าของดาเมี่ยนที่เคยเป็นกังวลพลันผ่อนคลายลง

       "ขอบคุณมาก!"

       'ขาดการติดต่อจากทีมล่าแวมไพร์มานานแล้วสินะ... แถมงานของเราก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นในทุกวัน'  ขอบตาดำของลอเอลดูเหมือนจะขยายขนาดขึ้นจากเดิมเล็กน้อย

       ***

       เกาะในช่วงเกาะหมายเลข 30 ทั้งหมดจะเกี่ยวกับการจำลองฝันร้ายในอดีต  ไม่ว่าจะครั้งการตายบ่อยสุด  ภารกิจล้มเหลวมากสุด  และอื่นๆ   บรรดาแร้งเกอร์ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ตั้งแต่ต้น  เกาะหลัก 30 เป็นต้นไปนั้นไม่ต่างอะไรกับขุมนรกบนดิน

       แต่สำหรับกริดแล้วไม่ใช่  ความยากลำบากในอดีตของกริดนั้นอ่อนหัดมาก  ชายหนุ่มฝ่าฟันผ่านบททดสอบชนิดต่างๆ มาได้ราวกับเดินบนกลีบกุหลาบ

[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลข 40 ]
[ ที่นี่คือจุดเซฟ  ท่านต้องการบันทึกตำแหน่งรึไม่ ]
[ บันทึกตำแหน่งเรียบร้อย  ครั้งหน้าที่ท่านเข้าสู่ดันเจี้ยนหมู่เกาะเบเฮ็น  บททดสอบจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เกาะหมายเลข 40 เป็นต้นไป ]

       "สุดยอด... ท่านยอดเยี่ยมที่สุด!"       

       สติกส์กล่าวชมกริดไม่หยุดปาก  เพราะไม่เพียงแต่กริดจะเอาชนะตัวตนในอดีตได้สำเร็จ  เขากลับยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง

       "การจับออร์คกับก็อบลินมันน่าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยหรือ"

       กริดอมยิ้มและหันไปตรวจสอบนาฬิกา

       'ถึงเวลาพักแล้วสินะ'

       หนึ่งเดือนเต็มผ่านไปนับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่หมู่เกาะเบเฮ็น  เป็นระยะเวลาซึ่งนานกว่าที่กริดคาดไว้ในตอนแรก  เขาจึงต้องเริ่มบริหารร่างกายอย่างมีวินัยบ้างแล้ว  เมื่อครบหกชั่วโมง  กริดจะล็อกเอาต์เพื่อกินอาหารและออกกำลังกาย  

       ***

       'เกาะช่วงหมายเลข 30 ถึง 39 ให้รางวัลตอบแทนที่น่าสนใจมาก'

       นอกจากขว้างหอก  กระหน่ำแทง  และความชำนาญธนูแล้ว  ชายหนุ่มยังได้รับค่าพละกำลังและความอดทนอีกเจ็ดแต้ม  ความว่องไวและสติปัญญาอีกห้าแต้ม 

       นับเป็นของรางวัลที่มากมายมหาศาลเทียบเท่าโอสถสองขวด  ชักอยากรู้แล้วสิ  ว่าภายในเกาะที่เหลือจะมอบอะไรให้กับตนบ้างนะ

       หมู่เกาะเบเฮ็น  ไม่มีสถานที่แห่งใดเหมาะกับการพัฒนาตนเองไปมากกว่านี้อีกแล้ว

       'คงต้องให้สมาชิกในกิลด์มาลองท้าทายดูสักครั้งก่อนที่เราจะชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นที่ปนเปื้อนสำเร็จ'

       อดีตสมาชิกเซดาก้าห์  ยูร่า  และพีคซอร์ด  ฝีมือของคนเหล่านี้คงผ่านไปจนถึงเกาะหมายเลข 20 ได้ไม่ยากเย็นนัก  และหากพบกับร้านค้าท้าทายเข้า  การแลกอิลิกเซอร์สักสองสามขวดก็จะช่วยเสริมเขี้ยวเล็บให้กับโอเวอร์เกียร์อย่างมาก  

       ติ้ง~

       ในขณะที่ชินยองวูกำลังครุ่นคิดอยู่ที่โลกภายนอก  มีข้อความจากใครบางคนส่งมายังโทรศัพท์มือถือของเขา

       >>  ท่านได้รับจดหมาย

       'คงเป็นรายงานทั่วไปจากลอเอลละมั้ง'

       ยองวูหยุดวิ่งและเปิดอ่านข้อความ

=============================
       สัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายน

       โรงแปรธาตุสามารถสร้างผงนางฟ้าได้สำเร็จแล้ว  
* ทันทีที่กริดกลับมา  พวกเรามีแผนจะผสานศาสตร์แปรธาตุเข้ากับเทคนิคการตีเหล็ก

       กองทัพจอมเวทย์ถูกสร้างขึ้นจากชนเผ่าอัลโดยมีองค์หญิงฮวารินเป็นศูนย์กลาง  

       ปิอาโร่ขยายขนาดของฟาร์มไปจนถึงภูเขาอัลเทส

...
...

       คณะล่าแวมไพร์เข้าสำรวจเมืองแวมไพร์ลำดับเก้านานถึง 24 วันในซาทิสฟายแล้ว  ฉันขาดการติดต่อจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
=============================

       สีหน้าของยองวูพลันตึงเครียดทันทีที่ได้อ่านเนื้อความจดหมาย  และชื่อของสิ่งมีชีวิตระดับปีศาจก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที

       แมรี่-โรส       

       'อย่าบอกนะว่า...!'

       ยองวูรีบวิ่งกลับบ้านทันทีผ่านเส้นทางที่เขาเพิ่งจะวิ่งมา  แม้จะออกอาการเหนื่อยหอบเจียนตาย  แต่เขาก็ไม่ยอมล้มลง

Comments

  1. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  2. ถ้าเจอดันแมรี่โรสจริงวันเดียวก็ตายแล้ว แต่ถ้าเจอตัวก็10วิ

    ReplyDelete
  3. จะไปช่วยให้ได้อะไรอ่ะ ไม่เข้าใจ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00