จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 359



[ ท่านสำเร็จบททดสอบของเกาะหมายเลขเก้า! ]

[ ท่านได้รับคะแนนท้าทาย 24 แต้ม ]

       'มีทั้งหมด 102 แต้มแล้วสินะ'

       กริดผ่านมาถึงเกาะหมายเลขเก้าด้วยความเร็วที่ไม่เลวนัก  ไม่มีทีท่าหรืออาการเหนื่อยหอบให้เห็น  ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น  เพราะอุปสรรคที่ผ่านมาล้วนไม่มีสิ่งใดยากสำหรับกริดเลยสักนิด

       "ง่ายกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว"

       กริดรู้สึกโล่งใจมาก  แต่ถึงกระนั้นเขาก็ประมาทไม่ได้เด็ดขาด  หมู่เกาะเบเฮ็นแห่งนี้คือสถานที่ซึ่งครอเกลออกปากเองเลยว่ามีระดับความยากสูงมาก
       
       'ความยากคงจะเพิ่มทวีคูณในเกาะถัดไปที่กำลังจะถึง'
       
       กริดพยายามไม่ประมาทโดยระแวดระวังตนเองอยู่ตลอด  เพราะสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าคืออะไรบ้าง  เขาไม่รู้เลยสักนิด

       เกาะหมายเลขหนึ่งที่มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมาไม่หยุด  เกาะหมายเลขสองที่มีกุญแจลับซ่อนอยู่บนเกาะที่กว้างใหญ่  เกาะหมายเลขสามที่ต้องไล่จับจิ้งจอกหนู  เกาะหมายเลขสี่ที่ต้องอดทนกับเปลวเพลิงอันร้อนแรง  เกาะหมายเลขห้าที่ต้องอดทนกับพายุหิมะอันหนาวเหน็บ  เกาะหมายเลขหกที่เต็มไปด้วยหมอกพิษ  เกาะหมายเลขเจ็ดและแปดที่มีมอนสเตอร์บอสอันแข็งแกร่งปรากฏตัว...

       และเกาะหมายเลขเก้าที่เขาเพิ่งจะเคลียร์ไปได้นั้น...

       เกาะหมายเลขเก้าไม่ง่ายเลยในสายตาของผู้เล่นทั่วไป  คงมีเพียงกริดเท่านั้นกระมังที่คิดว่าสถานที่ซึ่งเหมือนขุมนรกเหล่านี้สามารถผ่านไปโดยง่ายดาย  แม้กระทั่งครอเกลก็ยังลำบากใจอย่างมากในเกาะหมายเลขหนึ่งและสอง

[ ท่านต้องการจะเดินทางไปยังเกาะหมายเลขสิบรึไม่ ]

       "ยืนยัน"

       กริดถูกดูดเข้าไปในประตูมิติอีกครั้ง

       ***

       งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่สองกำลังจะมีขึ้นที่กรุงปารีสในอีกสองเดือนข้างหน้า

       ด้วยเหตุนี้  พนักงานของเอส-เอ-กรุ๊ปส่วนใหญ่จึงกำลังวุ่นวายหัวปั่น  พวกเขากินข้าวพลางไปทำงานล่วงเวลาไปพลางจนสุขภาพเริ่มย่ำแย่  แต่ทุกสิ่งในงานจะต้องเรียบร้อยก่อนกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

       "เฮ่อ... เหนื่อยจัง"

       แม้กระทั่งลิมชอลโฮที่มุ่งมั่นมากกว่าคนปรกติก็ยังต้องออกอาการล้า  ทันทีที่กลับจากการประชุมในปารีส  เขาก็รีบกลับมานั่งพักผ่อนบนเก้าอี้นวดหลังเพื่อให้ตนเองผ่อนคลาย
       
       "เราคงแก่ตัวแล้วสินะ  ไม่ว่าจะบริหารเวลาได้ดียังไง  แต่ก็แก้ไขอาการเหนื่อยง่ายไม่ได้สักที"
       
       กรึก...  กรึก...

       เก้าอี้นวดราคาแพงกำลังทำหน้าที่นวดหลังและหัวไหล่อย่างไร้ที่ติ  ประธานลิมชอลโฮที่เริ่มหายจากอาการล้าได้เอ่ยปากถามซุปเปอร์คอมพิวเตอร์มอร์เฟียส

       "มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาบ้างไหม"

       พวกเขาในที่นี้ย่อมหมายถึง<ห้าบุคคลปาฏิหารย์>ซึ่งรวมถึงกริดและครอเกล  ทั้งห้าคนมักกระทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของมอร์เฟียสเสมอ  ประธานลิมชอลโฮจึงชอบที่จะเฝ้ามองพวกเขาอย่างสนใจ

       ดังนั้นก่อนที่จะออกเดินทางไปยังปารีส  ลิมชอลโฮจึงสั่งให้มอร์เฟียสติดตามรายละเอียดของพวกเขาทุกฝีเก้า  มอร์เฟียสตอบกลับมาทันทีด้วยเสียงที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น

[ ครอเกลและกริดได้ต่อสู้กัน  ส่วนแอ็กนัสก็ได้พบกับดวงวิญญาณของบราฮัมแล้ว  ในขณะที่อีกสองคนไม่มีสิ่งใดพิเศษ  พวกเขาเพียงแค่อัพเลเวลไปตามปรกติ ]

       "หือ..."
       
       ลิมชอลโฮไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง  สิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่เรื่องที่แอ็กนัสได้พบกับดวงวิญญาณบราฮัม  เพราะเรื่องนั้นไม่อาจเลี่ยงได้ด้วยเงื่อนไขภารกิจ  แต่การพบพานระหว่างกริดและครอเกลนั้นไม่ปรกติเลยสักนิด

       "นายบอกฉันว่าอะไรนะ  ครอเกลและกริดสู้กันงั้นหรือ  เพราะอะไรกัน"

[ ครอเกลเดินทางไปยังเรย์ดันทันทีหลังจากได้รับภารกิจเปลี่ยนเป็นอริยะดาบ ]

       "เห...!  เขาได้รับภารกิจคลาสอริยะดาบเร็วขนาดนี้เชียว!"

       ครอเกลคือบุคคลแสนวิเศษ  เขาไม่มีจุดบกพร่องใดเลยแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้เล่นธรรมดาที่มีคลาสทั่วไป  ไม่สิ  ความสมบูรณ์พร้อมในทุกด้านเช่นนี้สามารถเรียกได้ว่าก้าวข้ามความปรกติไปไกลแล้ว  เป็นเหตุให้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อย่างมอร์เฟียสไม่อาจคาดเดาการกระทำของครอเกลได้เลย

       "เขาคงกลายเป็นอริยะดาบเรียบร้อยแล้วสินะ"

       ครอเกลไม่มีทางพ่ายแพ้ผู้เล่นที่อ่อนแอกว่าอย่างกริดแน่

       อริยะดาบ  คลาสสายต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกซาทิสฟาย  หลังจากนี้ครอเกลจะเติบโตไปได้ไกลแค่ไหนกัน  ความอยากรู้อยากเห็นของประธานลิมชอลโฮเพิ่มขึ้นหลายเท่า  แต่เป็นฝ่ายมอร์เฟียสที่ตอบข้อความอันน่าตกตะลึงกลับมา

[ ครอเกลล้มเหลวในการเปลี่ยนเป็นคลาสอริยะดาบ ]

       "..."

       ดวงตาของลิมชอลโฮพลันลุกวาว

       "อย่าบอกนะว่า... พูดเป็นเล่นน่า  นี่เขาแพ้กริดงั้นหรือ"

       ประธานลิมชอลโฮรู้ดีกว่าใครถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ของกริด  สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่กล่าวเกินจริง  ลิมชอลโฮประเมินตัวของกริดไว้สูงกว่าที่กริดประเมินตนเองเสียอีก  แต่ครอเกลคือบุคคลพิเศษ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเก่งกาจในด้านการดวล  หากไม่นับแอ็กนัสแล้ว  คงไม่มีใครที่สามารถดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับครอเกลได้อย่างสูสีแน่นอน  

       มอร์เฟียสอธิบายรายละเอียดกับลิมชอลโฮที่กำลังสับสน

[ ครอเกลอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์  ระยะหน่วงหลังใช้ของทักษะสำคัญยังไม่พร้อม  แถมไอเท็มบางชิ้นมีค่าความคงทนต่ำ  ครอเกลจึงไม่สวมมันในตอนที่สู้กับกริด  ทำให้โอกาสชนะของกริดเพิ่มจาก 21.13% กลายเป็น 54.98% ]

       "โอกาสที่กริดจะชนะมีสูงขนาดนั้นตั้งแต่แรกเลยหรือ"

[ ผมคำนวนจากทักษะ  ไอเท็ม  และข้อมูลการต่อสู้ของคนทั้งสองในช่วงเวลาที่ผ่านมา  แต่นั่นก็ยังไม่แม่นยำร้อยเปอเซ็นต์  เพราะครอเกลเคยทำให้การคำนวนของผมผิดพลาดมาแล้ว 185 ครั้ง  ส่วนกริด 13 ครั้ง ]

       นี่คือเหตุผลที่พวกเขาถูกเรียกว่าบุคคลผู้สร้างปาฏิหาริย์  ลิมชอลโฮอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข

       'สงสัยวันนี้ต้องสั่งไก่กับเบียร์มากินสักหน่อย'

       ลิมชอลโฮเตรียมหาไก่ทอดและเบียร์เย็นๆ มากินในระหว่างชมแมทช์หยุดโลกของครอเกลและกริด  นับเป็นความสุขเล็กๆ ของชายซึ่งมีทรัพสินมากที่สุดของโลกในตอนนี้

       ***

[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลขสิบ ]

       มันควรจะถูกเรียกว่าห้องมากกว่าเกาะ  เพราะทั้งพื้น  กำแพง  และเพดานต่างถูกทาไว้ด้วยสีขาว  ขนาดของห้องนี้ไม่อาจประเมินได้ด้วยตาเปล่า  กริดพยายามกะความใหญ่คร่าวๆ ด้วยสายตา  แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ  ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยในระหว่างที่กำลังมองไปรอบๆ

       "คราวนี้เป็นอะไรอีก"

       บนพื้นห้องมีเสาปลายแหลมสีขาวตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ไม่ห่างกันมาก  พวกมันคือเสาโลหะทรงกระบอกเล็กๆ ที่มีความหนาห้าเซนติเมตรและยาวสองเมตร

       "มีเป็นร้อย...  ไม่สิ  เป็นพันอันได้เลยมั้ง"

       เสาพวกนี้ไว้ใช้ทำอะไรกันนะ...  

       หลังจากนั้นไม่นาน  ข้อความระบบก็แสดงขึ้น

[ บททดสอบถูกสร้างขึ้น ]

========================
[ เกาะหมายเลขสิบ ]
       จงหลบสายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากด้านบน!
       สายฟ้าชนิดนี้รุนแรงจนไม่อาจถูกผ่าตรงๆ ได้ทุกกรณี  ท่านจะต้องหลบให้พ้นเท่านั้น
___________________________
เงื่อนไขผ่านบททดสอบ : ไปให้ถึงประตูที่จะนำพาท่านไปยังเกาะหมายเลขสิบเอ็ด
รางวัลผ่านบททดสอบ : คะแนนท้าทาย 30 แต้ม       
* ท่านจะเสียชีวิตทันทีหากถูกฟ้าผ่า       
========================

[ บททดสอบจะเริ่มขึ้นในอีก 30 นาทีข้างหน้า ]

[ เพดานกำลังเปิดออก ]

       ครืนนนนน!

       เกิดเสียงฟ้าร้องคำรามดังขึ้นจากด้านบนทันที  เมื่อกริดเงยหน้าขึ้นไปดูก็ต้องพบว่าเพดานที่เคยเป็นสีขาวได้ถูกแทนที่ด้วยท้องฟ้าเรียบร้อยแล้ว  แถมยังเป็นฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆฝนฟ้าคะนองสีดำสนิท

       'สายฟ้าที่โดนแล้วต้องตาย...'

       สายฟ้ามรณะได้กระหน่ำผ่าลงมาไม่หยุดหย่อน  หากมองจากความถี่และความเร็วของพวกมัน  บททดสอบนี้ไม่มีทางสำเร็จได้ด้วยการวิ่งฝ่าออกไปธรรมดา  หรืออาจจะเป็นไปได้ถ้าหากผู้เล่นคนนั้นมีทักษะควบคุมตัวละครอยู่ในระดับพระเจ้า  เฉกเช่นครอเกล  เรกัส  หรือเฟคเกอร์

       "ความยากค่อยๆ เพิ่มขึ้นแล้วสินะ"

       กริดเริ่มสัมผัสกับความตึงเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว  ในขณะที่เขายืนครุ่นคิด  กริดก็ให้ความสนใจกับเสาสีขาวซึ่งปรากฏอยู่ในทุกที่

       'พวกมันจะต้องไม่ใช่สิ่งที่มีไว้ตั้งโชว์แน่'

       สิ่งสำคัญตอนนี้คงไม่พ้นการหาวิธีใช้งานเสาสีขาว  กริดเดินไปยังเสาที่ใกล้ที่สุดพร้อมกับใช้ทักษะ

       "การตรวจสอบของช่างตีเหล็กในตำนาน"

[ ท่านใช้งานทักษะ <การตรวจสอบของช่างตีเหล็กในตำนาน> ]

[ ช่างตีเหล็กในตำนานมีสายตาเฉียบแหลมดุจดั่งพญาเหยี่ยว  หากไอเท็มใดมีคุณสมบัติลับซ่อนอยู่  มันจะไม่มีวันรอดพ้นสายตาของเขาไปได้แน่นอน ]

       ชิ้ง~

========================
[ แท่งสายฟ้า ]
ความคงทน : 1/20
___________________________
       แท่งโลหะปลายแหลมที่สามารถเหนี่ยวนำสายฟ้าและดูดซับพลังทำลายไว้
       ค่าความคงทนของมันต่ำมากเพราะอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม  โดยจะกลายเป็นเพียงเศษขี้เถ้าทันทีหากถูกฟ้าผ่าเข้าหนึ่งครั้ง
___________________________
น้ำหนัก : 3
========================

[ ไม่มีคุณสมบัติลับซ่อนอยู่ ]

[ ความเข้าใจในไอเท็ม <แท่งสายฟ้า> กลายเป็น 100% เต็ม ]

[ ท่านได้รับสูตรการผลิต <แท่งสายฟ้า> ]

       "อ้อ... เป็นแท่งสายฟ้าเองสินะ  เราคงต้องใช้มันเพื่อผ่านบททดสอบนี้"

       กริดที่เข้าใจถึงวิธีการใช้งานแท่งสายฟ้าเรียบร้อยแล้วได้เพ่งพิจารณามันอย่างละเอียด  ระยะห่างจากแท่งสายฟ้าแต่ละต้นจะอยู่ที่ 15 เมตร  ผู้ท้าทายต้องใช้ทักษะจำพวกเคลื่อนที่ไปด้านหน้าเพื่อใช้แท่งสายฟ้าเป็นตัวล่อ  

       'เราจะทำแบบนั้นได้รึเปล่านะ'

       กริดไม่ควรมั่นใจในฝีมือควบคุมของตนเกินไปนัก  เขากังวลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเกิดความคิดบางประการ

       'หรือเราควรสร้างพวกมันขึ้นมาใหม่'

       สิ่งที่กริดนำออกมาจากกระเป๋าสัมภาระในครั้งนี้คือ<เตาหลอมแบบพกพา>ที่เขาเคยสร้างขึ้น

       ***

       ผู้เล่นที่เคยท้าทายหมู่เกาะเบเฮ็นมีจำนวนทั้งหมด 990 คน  เกินกว่าครึ่งเป็นแร้งเกอร์ระดับสูงที่ไม่ผ่านบททดสอบตั้งแต่เกาะหมายเลขหนึ่งและสอง  มีเพียง 392 คนเท่านั้นที่สามารถผ่านมาถึงเกาะหมายเลขสิบได้

       แต่จาก 392 คนนี้  มีอยู่ 65 คนที่ผ่านบททดสอบของเกาะหมายเลขสิบได้สำเร็จ  นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าเกาะแห่งนี้มีความยากในระดับสูงขนาดไหน

       "แฮ่ก... แฮ่ก..."

       เหงื่อไคลเม็ดเป้งไหลรินลงมาถึงคางของสติกส์ในขณะที่เขานั่งลงบนพื้น  หัวใจต้องรับภาระหนักมากจนเกิดอาการบีบรัดเจ็บปวด  สติกส์พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกและมองกลับไปยังลูกแก้วเวทย์อีกครั้ง

       "เขาต้องไม่ผ่านเกาะนี้แน่"

       ผู้ท้าทายปริศนาคนนี้ทำให้อาการหัวใจของสติกส์ย่ำแย่ลง  สติกส์จึงเริ่มอคติและสาปส่งให้เขารีบๆ ล้มเหลวไปซะ  แม้จะรู้ดีว่าชายคนนี้มีพลังและทักษะแปลกประหลาดอยู่มากมาย  แต่เกาะหมายเลขสิบนั้นต้องพึ่งพาฝีมือควบคุมตัวละครในระดับสูง  จึงไม่มีทางที่คนอย่างหมอนี่จะผ่านได้แน่

       'ของวิเศษต่างก็ไร้ความหมายบนเกาะหมายเลขสิบ!'

       ชายผมดำคนนี้จะสามารถเคลื่อนที่เป็นระยะทาง 2,000 เมตรได้โดยมีสายฟ้าฟาดลงมาสามถึงสี่ครั้งต่อหนึ่งวินาทีได้หรือ  สติกส์เชื่ออย่างสุดหัวใจว่าเป็นไปไม่ได้แน่  ความคิดของเขาไม่ได้เกิดจากอคติที่มี  แต่เกิดจากการเฝ้ามองชายผมดำมาเป็นเวลานาน  ดูเหมือนคนๆ นี้จะมีฝีมือควบคุมตัวละครในระดับแค่พอใช้เท่านั้น

       "การเคลื่อนที่แบบทั่วไปไม่มีทาง... เอ๋...!"

       สติกส์พึมพำกับตนเองด้วยน้ำเสียงสับสน  ท่ามกลางมิติเวทย์ที่ว่างเปล่าของเกาะหมายเลขสิบ  เหตุใดชายผมดำถึงนำเตาหลอมขนาดเล็กออกมาพร้อมกับที่เป่าลม

       "เขาคิดจะทำอะไรอีก..."

       แม้จะรอบรู้มากเพียงใด  แต่สติกส์ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องของ<เตาหลอมขนาดพกพา>มาก่อนเลยสักครั้ง  สิ่งนี้เป็นไอเท็มเฉพาะของช่างตีเหล็ก  คลาสอื่นไม่มีทางใช้งานได้อย่างเกิดประสิทธิภาพแน่นอน

       "ไม่เพียงเท่านั้น..."

       ทำไมเขาถึงนำมันออกมาในเวลาเช่นนี้

       'เสียสติไปแล้วหรือ'

       ไม่สิ  ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาเสียสติหรือไม่  ความสับสนของสติกส์ยิ่งมีมากขึ้นเมื่อชายผมดำเริ่มนำเหล็กออกมาถลุงอย่างเอาจริงเอาจัง

       "เอ๋...!"

       แม้สติกส์จะมีภูมิความรู้ระดับจอมปราชญ์  แต่เขาก็อดใบ้กินไม่ได้

       "หมายความว่ายังไงกัน... ทักษะการถลุงแร่นั่น!"

       ชายผมดำได้แสดงสุดยอดเทคนิคการถลุงแร่ซึ่งแม้แต่ผู้ทรงปัญญาอย่างสติกส์ก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน  แท่งเหล็กถูกถลุงอย่างไร้ที่ติในเวลาเพียงชั่วครู่  ถัดมาคือการทำให้บริสุทธิ์

       "ช่างตีเหล็กในตำนาน...!"

       ก่อนหน้านี้  เขาดูเหมือนจอมเวทย์ในยามที่ยิงศรเวทย์  ดูเหมือนนักรบในยามที่กวัดแกว่งดาบ  ดูเหมือนจอมโจรในตำนานยามที่เปิดหีบสมบัติทั้งสิบกล่องได้อย่างง่ายดาย  แถมยังมีของวิเศษติดตัวอีกจำนวนมาก  

       และคราวนี้  เขายังดูเหมือนช่างตีเหล็กในตำนานอีกงั้นหรือ

       "นายเป็นใครกันแน่"

       เกิดเป็นเครื่องหมายคำถามอันใหญ่ขึ้นเหนือศีรษะของสติกส์

       เคร้ง! เคร้ง!       

       เมื่อชายผมดำปริศนาเสร็จการถลุงแร่  เขาก็เริ่มลงมือตีเหล็กต่อทันที  และหลังจากนั้นไม่นาน...

       "แท่งสายฟ้า...!"

       ใช่แล้ว  แท่งสายฟ้าโลหะที่เหมือนกับแท่งสายฟ้าสีขาวซึ่งตั้งอยู่บนพื้นของเกาะหมายเลขสิบทุกประการ  บัดนี้มันถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยฝีมือของชายผมดำปริศนา  แถมขนาดก็ยังใหญ่เป็นพิเศษ  ความยาวมีมากถึงเจ็ดเมตรเห็นจะได้

       "..."

       คราวนี้สติกส์ไม่แสดงท่าทีประหลาดใจออกมาอีกแล้ว  ไม่สิ  เขาพยายามข่มเอาไว้มากกว่า  ไม่อย่างนั้นสุขภาพของหัวใจอาจย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้

       ครืนนนน!  เปรี้ยงง!
       
       เกิดเสียงฟ้าผ่าโครมครามดังสนั่นไปทั่วเกาะหมายเลขสิบ  แต่ชายผมดำกลับสามารถฝ่าไปได้อย่างไร้รอยขีดข่วน  เนื่องด้วยเพราะมีฝ่ามือสีทองด้านบนซึ่งกำลังถือแท่งโลหะใหญ่พิเศษไว้บนอากาศ  ฉากตรงหน้าดูราวกับเป็นขุนนางชั้นสูงที่มีกลุ่มผู้ติดตามคอยเดินกางร่มในยามฝนตกหนัก  

       "อะ...  อั่ก...!"

       ลงเอยด้วยอาการหัวใจของสติกส์ต้องกำเริบจากความตื่นเต้นอีกครั้ง  เขากุมหน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวดและล้มลงกับพื้น  ช่างเป็นภาพที่น่าสมเพชซึ่งตรงข้ามกับกริดอย่างสิ้นเชิง

Comments

  1. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete
  3. กริดดูดีขึ้นเยอะเลย พอไล่อ่านจากตอนแรกขึ้นมาใหม่อีกรอบ 😁😁

    ReplyDelete
  4. 55555 สงสารจอมปราชญ์ขึ้นมาเลย

    ReplyDelete
  5. 185ครั้ง กับ 13ครั้ง ต่างกันเกิ๊นน

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00