จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 359
[ ท่านสำเร็จบททดสอบของเกาะหมายเลขเก้า! ]
[ ท่านได้รับคะแนนท้าทาย 24 แต้ม ]
'มีทั้งหมด 102 แต้มแล้วสินะ'
กริดผ่านมาถึงเกาะหมายเลขเก้าด้วยความเร็วที่ไม่เลวนัก ไม่มีทีท่าหรืออาการเหนื่อยหอบให้เห็น ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะอุปสรรคที่ผ่านมาล้วนไม่มีสิ่งใดยากสำหรับกริดเลยสักนิด
"ง่ายกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว"
กริดรู้สึกโล่งใจมาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ประมาทไม่ได้เด็ดขาด หมู่เกาะเบเฮ็นแห่งนี้คือสถานที่ซึ่งครอเกลออกปากเองเลยว่ามีระดับความยากสูงมาก
'ความยากคงจะเพิ่มทวีคูณในเกาะถัดไปที่กำลังจะถึง'
กริดพยายามไม่ประมาทโดยระแวดระวังตนเองอยู่ตลอด เพราะสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าคืออะไรบ้าง เขาไม่รู้เลยสักนิด
เกาะหมายเลขหนึ่งที่มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมาไม่หยุด เกาะหมายเลขสองที่มีกุญแจลับซ่อนอยู่บนเกาะที่กว้างใหญ่ เกาะหมายเลขสามที่ต้องไล่จับจิ้งจอกหนู เกาะหมายเลขสี่ที่ต้องอดทนกับเปลวเพลิงอันร้อนแรง เกาะหมายเลขห้าที่ต้องอดทนกับพายุหิมะอันหนาวเหน็บ เกาะหมายเลขหกที่เต็มไปด้วยหมอกพิษ เกาะหมายเลขเจ็ดและแปดที่มีมอนสเตอร์บอสอันแข็งแกร่งปรากฏตัว...
และเกาะหมายเลขเก้าที่เขาเพิ่งจะเคลียร์ไปได้นั้น...
เกาะหมายเลขเก้าไม่ง่ายเลยในสายตาของผู้เล่นทั่วไป คงมีเพียงกริดเท่านั้นกระมังที่คิดว่าสถานที่ซึ่งเหมือนขุมนรกเหล่านี้สามารถผ่านไปโดยง่ายดาย แม้กระทั่งครอเกลก็ยังลำบากใจอย่างมากในเกาะหมายเลขหนึ่งและสอง
[ ท่านต้องการจะเดินทางไปยังเกาะหมายเลขสิบรึไม่ ]
"ยืนยัน"
กริดถูกดูดเข้าไปในประตูมิติอีกครั้ง
***
งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่สองกำลังจะมีขึ้นที่กรุงปารีสในอีกสองเดือนข้างหน้า
ด้วยเหตุนี้ พนักงานของเอส-เอ-กรุ๊ปส่วนใหญ่จึงกำลังวุ่นวายหัวปั่น พวกเขากินข้าวพลางไปทำงานล่วงเวลาไปพลางจนสุขภาพเริ่มย่ำแย่ แต่ทุกสิ่งในงานจะต้องเรียบร้อยก่อนกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
"เฮ่อ... เหนื่อยจัง"
แม้กระทั่งลิมชอลโฮที่มุ่งมั่นมากกว่าคนปรกติก็ยังต้องออกอาการล้า ทันทีที่กลับจากการประชุมในปารีส เขาก็รีบกลับมานั่งพักผ่อนบนเก้าอี้นวดหลังเพื่อให้ตนเองผ่อนคลาย
"เราคงแก่ตัวแล้วสินะ ไม่ว่าจะบริหารเวลาได้ดียังไง แต่ก็แก้ไขอาการเหนื่อยง่ายไม่ได้สักที"
กรึก... กรึก...
เก้าอี้นวดราคาแพงกำลังทำหน้าที่นวดหลังและหัวไหล่อย่างไร้ที่ติ ประธานลิมชอลโฮที่เริ่มหายจากอาการล้าได้เอ่ยปากถามซุปเปอร์คอมพิวเตอร์มอร์เฟียส
"มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาบ้างไหม"
พวกเขาในที่นี้ย่อมหมายถึง<ห้าบุคคลปาฏิหารย์>ซึ่งรวมถึงกริดและครอเกล ทั้งห้าคนมักกระทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของมอร์เฟียสเสมอ ประธานลิมชอลโฮจึงชอบที่จะเฝ้ามองพวกเขาอย่างสนใจ
ดังนั้นก่อนที่จะออกเดินทางไปยังปารีส ลิมชอลโฮจึงสั่งให้มอร์เฟียสติดตามรายละเอียดของพวกเขาทุกฝีเก้า มอร์เฟียสตอบกลับมาทันทีด้วยเสียงที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น
[ ครอเกลและกริดได้ต่อสู้กัน ส่วนแอ็กนัสก็ได้พบกับดวงวิญญาณของบราฮัมแล้ว ในขณะที่อีกสองคนไม่มีสิ่งใดพิเศษ พวกเขาเพียงแค่อัพเลเวลไปตามปรกติ ]
"หือ..."
ลิมชอลโฮไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง สิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่เรื่องที่แอ็กนัสได้พบกับดวงวิญญาณบราฮัม เพราะเรื่องนั้นไม่อาจเลี่ยงได้ด้วยเงื่อนไขภารกิจ แต่การพบพานระหว่างกริดและครอเกลนั้นไม่ปรกติเลยสักนิด
"นายบอกฉันว่าอะไรนะ ครอเกลและกริดสู้กันงั้นหรือ เพราะอะไรกัน"
[ ครอเกลเดินทางไปยังเรย์ดันทันทีหลังจากได้รับภารกิจเปลี่ยนเป็นอริยะดาบ ]
"เห...! เขาได้รับภารกิจคลาสอริยะดาบเร็วขนาดนี้เชียว!"
ครอเกลคือบุคคลแสนวิเศษ เขาไม่มีจุดบกพร่องใดเลยแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้เล่นธรรมดาที่มีคลาสทั่วไป ไม่สิ ความสมบูรณ์พร้อมในทุกด้านเช่นนี้สามารถเรียกได้ว่าก้าวข้ามความปรกติไปไกลแล้ว เป็นเหตุให้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อย่างมอร์เฟียสไม่อาจคาดเดาการกระทำของครอเกลได้เลย
"เขาคงกลายเป็นอริยะดาบเรียบร้อยแล้วสินะ"
ครอเกลไม่มีทางพ่ายแพ้ผู้เล่นที่อ่อนแอกว่าอย่างกริดแน่
อริยะดาบ คลาสสายต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกซาทิสฟาย หลังจากนี้ครอเกลจะเติบโตไปได้ไกลแค่ไหนกัน ความอยากรู้อยากเห็นของประธานลิมชอลโฮเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่เป็นฝ่ายมอร์เฟียสที่ตอบข้อความอันน่าตกตะลึงกลับมา
[ ครอเกลล้มเหลวในการเปลี่ยนเป็นคลาสอริยะดาบ ]
"..."
ดวงตาของลิมชอลโฮพลันลุกวาว
"อย่าบอกนะว่า... พูดเป็นเล่นน่า นี่เขาแพ้กริดงั้นหรือ"
ประธานลิมชอลโฮรู้ดีกว่าใครถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ของกริด สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่กล่าวเกินจริง ลิมชอลโฮประเมินตัวของกริดไว้สูงกว่าที่กริดประเมินตนเองเสียอีก แต่ครอเกลคือบุคคลพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเก่งกาจในด้านการดวล หากไม่นับแอ็กนัสแล้ว คงไม่มีใครที่สามารถดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับครอเกลได้อย่างสูสีแน่นอน
มอร์เฟียสอธิบายรายละเอียดกับลิมชอลโฮที่กำลังสับสน
[ ครอเกลอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ระยะหน่วงหลังใช้ของทักษะสำคัญยังไม่พร้อม แถมไอเท็มบางชิ้นมีค่าความคงทนต่ำ ครอเกลจึงไม่สวมมันในตอนที่สู้กับกริด ทำให้โอกาสชนะของกริดเพิ่มจาก 21.13% กลายเป็น 54.98% ]
"โอกาสที่กริดจะชนะมีสูงขนาดนั้นตั้งแต่แรกเลยหรือ"
[ ผมคำนวนจากทักษะ ไอเท็ม และข้อมูลการต่อสู้ของคนทั้งสองในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่นั่นก็ยังไม่แม่นยำร้อยเปอเซ็นต์ เพราะครอเกลเคยทำให้การคำนวนของผมผิดพลาดมาแล้ว 185 ครั้ง ส่วนกริด 13 ครั้ง ]
นี่คือเหตุผลที่พวกเขาถูกเรียกว่าบุคคลผู้สร้างปาฏิหาริย์ ลิมชอลโฮอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข
'สงสัยวันนี้ต้องสั่งไก่กับเบียร์มากินสักหน่อย'
ลิมชอลโฮเตรียมหาไก่ทอดและเบียร์เย็นๆ มากินในระหว่างชมแมทช์หยุดโลกของครอเกลและกริด นับเป็นความสุขเล็กๆ ของชายซึ่งมีทรัพสินมากที่สุดของโลกในตอนนี้
***
[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลขสิบ ]
มันควรจะถูกเรียกว่าห้องมากกว่าเกาะ เพราะทั้งพื้น กำแพง และเพดานต่างถูกทาไว้ด้วยสีขาว ขนาดของห้องนี้ไม่อาจประเมินได้ด้วยตาเปล่า กริดพยายามกะความใหญ่คร่าวๆ ด้วยสายตา แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยในระหว่างที่กำลังมองไปรอบๆ
"คราวนี้เป็นอะไรอีก"
บนพื้นห้องมีเสาปลายแหลมสีขาวตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ไม่ห่างกันมาก พวกมันคือเสาโลหะทรงกระบอกเล็กๆ ที่มีความหนาห้าเซนติเมตรและยาวสองเมตร
"มีเป็นร้อย... ไม่สิ เป็นพันอันได้เลยมั้ง"
เสาพวกนี้ไว้ใช้ทำอะไรกันนะ...
หลังจากนั้นไม่นาน ข้อความระบบก็แสดงขึ้น
[ บททดสอบถูกสร้างขึ้น ]
========================
[ เกาะหมายเลขสิบ ]
จงหลบสายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากด้านบน!
สายฟ้าชนิดนี้รุนแรงจนไม่อาจถูกผ่าตรงๆ ได้ทุกกรณี ท่านจะต้องหลบให้พ้นเท่านั้น
___________________________
เงื่อนไขผ่านบททดสอบ : ไปให้ถึงประตูที่จะนำพาท่านไปยังเกาะหมายเลขสิบเอ็ด
รางวัลผ่านบททดสอบ : คะแนนท้าทาย 30 แต้ม
* ท่านจะเสียชีวิตทันทีหากถูกฟ้าผ่า
========================
[ บททดสอบจะเริ่มขึ้นในอีก 30 นาทีข้างหน้า ]
[ เพดานกำลังเปิดออก ]
ครืนนนนน!
เกิดเสียงฟ้าร้องคำรามดังขึ้นจากด้านบนทันที เมื่อกริดเงยหน้าขึ้นไปดูก็ต้องพบว่าเพดานที่เคยเป็นสีขาวได้ถูกแทนที่ด้วยท้องฟ้าเรียบร้อยแล้ว แถมยังเป็นฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆฝนฟ้าคะนองสีดำสนิท
'สายฟ้าที่โดนแล้วต้องตาย...'
สายฟ้ามรณะได้กระหน่ำผ่าลงมาไม่หยุดหย่อน หากมองจากความถี่และความเร็วของพวกมัน บททดสอบนี้ไม่มีทางสำเร็จได้ด้วยการวิ่งฝ่าออกไปธรรมดา หรืออาจจะเป็นไปได้ถ้าหากผู้เล่นคนนั้นมีทักษะควบคุมตัวละครอยู่ในระดับพระเจ้า เฉกเช่นครอเกล เรกัส หรือเฟคเกอร์
"ความยากค่อยๆ เพิ่มขึ้นแล้วสินะ"
กริดเริ่มสัมผัสกับความตึงเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว ในขณะที่เขายืนครุ่นคิด กริดก็ให้ความสนใจกับเสาสีขาวซึ่งปรากฏอยู่ในทุกที่
'พวกมันจะต้องไม่ใช่สิ่งที่มีไว้ตั้งโชว์แน่'
สิ่งสำคัญตอนนี้คงไม่พ้นการหาวิธีใช้งานเสาสีขาว กริดเดินไปยังเสาที่ใกล้ที่สุดพร้อมกับใช้ทักษะ
"การตรวจสอบของช่างตีเหล็กในตำนาน"
[ ท่านใช้งานทักษะ <การตรวจสอบของช่างตีเหล็กในตำนาน> ]
[ ช่างตีเหล็กในตำนานมีสายตาเฉียบแหลมดุจดั่งพญาเหยี่ยว หากไอเท็มใดมีคุณสมบัติลับซ่อนอยู่ มันจะไม่มีวันรอดพ้นสายตาของเขาไปได้แน่นอน ]
ชิ้ง~
========================
[ แท่งสายฟ้า ]
ความคงทน : 1/20
___________________________
แท่งโลหะปลายแหลมที่สามารถเหนี่ยวนำสายฟ้าและดูดซับพลังทำลายไว้
ค่าความคงทนของมันต่ำมากเพราะอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม โดยจะกลายเป็นเพียงเศษขี้เถ้าทันทีหากถูกฟ้าผ่าเข้าหนึ่งครั้ง
___________________________
น้ำหนัก : 3
========================
[ ไม่มีคุณสมบัติลับซ่อนอยู่ ]
[ ความเข้าใจในไอเท็ม <แท่งสายฟ้า> กลายเป็น 100% เต็ม ]
[ ท่านได้รับสูตรการผลิต <แท่งสายฟ้า> ]
"อ้อ... เป็นแท่งสายฟ้าเองสินะ เราคงต้องใช้มันเพื่อผ่านบททดสอบนี้"
กริดที่เข้าใจถึงวิธีการใช้งานแท่งสายฟ้าเรียบร้อยแล้วได้เพ่งพิจารณามันอย่างละเอียด ระยะห่างจากแท่งสายฟ้าแต่ละต้นจะอยู่ที่ 15 เมตร ผู้ท้าทายต้องใช้ทักษะจำพวกเคลื่อนที่ไปด้านหน้าเพื่อใช้แท่งสายฟ้าเป็นตัวล่อ
'เราจะทำแบบนั้นได้รึเปล่านะ'
กริดไม่ควรมั่นใจในฝีมือควบคุมของตนเกินไปนัก เขากังวลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเกิดความคิดบางประการ
'หรือเราควรสร้างพวกมันขึ้นมาใหม่'
สิ่งที่กริดนำออกมาจากกระเป๋าสัมภาระในครั้งนี้คือ<เตาหลอมแบบพกพา>ที่เขาเคยสร้างขึ้น
***
ผู้เล่นที่เคยท้าทายหมู่เกาะเบเฮ็นมีจำนวนทั้งหมด 990 คน เกินกว่าครึ่งเป็นแร้งเกอร์ระดับสูงที่ไม่ผ่านบททดสอบตั้งแต่เกาะหมายเลขหนึ่งและสอง มีเพียง 392 คนเท่านั้นที่สามารถผ่านมาถึงเกาะหมายเลขสิบได้
แต่จาก 392 คนนี้ มีอยู่ 65 คนที่ผ่านบททดสอบของเกาะหมายเลขสิบได้สำเร็จ นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าเกาะแห่งนี้มีความยากในระดับสูงขนาดไหน
"แฮ่ก... แฮ่ก..."
เหงื่อไคลเม็ดเป้งไหลรินลงมาถึงคางของสติกส์ในขณะที่เขานั่งลงบนพื้น หัวใจต้องรับภาระหนักมากจนเกิดอาการบีบรัดเจ็บปวด สติกส์พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกและมองกลับไปยังลูกแก้วเวทย์อีกครั้ง
"เขาต้องไม่ผ่านเกาะนี้แน่"
ผู้ท้าทายปริศนาคนนี้ทำให้อาการหัวใจของสติกส์ย่ำแย่ลง สติกส์จึงเริ่มอคติและสาปส่งให้เขารีบๆ ล้มเหลวไปซะ แม้จะรู้ดีว่าชายคนนี้มีพลังและทักษะแปลกประหลาดอยู่มากมาย แต่เกาะหมายเลขสิบนั้นต้องพึ่งพาฝีมือควบคุมตัวละครในระดับสูง จึงไม่มีทางที่คนอย่างหมอนี่จะผ่านได้แน่
'ของวิเศษต่างก็ไร้ความหมายบนเกาะหมายเลขสิบ!'
ชายผมดำคนนี้จะสามารถเคลื่อนที่เป็นระยะทาง 2,000 เมตรได้โดยมีสายฟ้าฟาดลงมาสามถึงสี่ครั้งต่อหนึ่งวินาทีได้หรือ สติกส์เชื่ออย่างสุดหัวใจว่าเป็นไปไม่ได้แน่ ความคิดของเขาไม่ได้เกิดจากอคติที่มี แต่เกิดจากการเฝ้ามองชายผมดำมาเป็นเวลานาน ดูเหมือนคนๆ นี้จะมีฝีมือควบคุมตัวละครในระดับแค่พอใช้เท่านั้น
"การเคลื่อนที่แบบทั่วไปไม่มีทาง... เอ๋...!"
สติกส์พึมพำกับตนเองด้วยน้ำเสียงสับสน ท่ามกลางมิติเวทย์ที่ว่างเปล่าของเกาะหมายเลขสิบ เหตุใดชายผมดำถึงนำเตาหลอมขนาดเล็กออกมาพร้อมกับที่เป่าลม
"เขาคิดจะทำอะไรอีก..."
แม้จะรอบรู้มากเพียงใด แต่สติกส์ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องของ<เตาหลอมขนาดพกพา>มาก่อนเลยสักครั้ง สิ่งนี้เป็นไอเท็มเฉพาะของช่างตีเหล็ก คลาสอื่นไม่มีทางใช้งานได้อย่างเกิดประสิทธิภาพแน่นอน
"ไม่เพียงเท่านั้น..."
ทำไมเขาถึงนำมันออกมาในเวลาเช่นนี้
'เสียสติไปแล้วหรือ'
ไม่สิ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาเสียสติหรือไม่ ความสับสนของสติกส์ยิ่งมีมากขึ้นเมื่อชายผมดำเริ่มนำเหล็กออกมาถลุงอย่างเอาจริงเอาจัง
"เอ๋...!"
แม้สติกส์จะมีภูมิความรู้ระดับจอมปราชญ์ แต่เขาก็อดใบ้กินไม่ได้
"หมายความว่ายังไงกัน... ทักษะการถลุงแร่นั่น!"
ชายผมดำได้แสดงสุดยอดเทคนิคการถลุงแร่ซึ่งแม้แต่ผู้ทรงปัญญาอย่างสติกส์ก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน แท่งเหล็กถูกถลุงอย่างไร้ที่ติในเวลาเพียงชั่วครู่ ถัดมาคือการทำให้บริสุทธิ์
"ช่างตีเหล็กในตำนาน...!"
ก่อนหน้านี้ เขาดูเหมือนจอมเวทย์ในยามที่ยิงศรเวทย์ ดูเหมือนนักรบในยามที่กวัดแกว่งดาบ ดูเหมือนจอมโจรในตำนานยามที่เปิดหีบสมบัติทั้งสิบกล่องได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีของวิเศษติดตัวอีกจำนวนมาก
และคราวนี้ เขายังดูเหมือนช่างตีเหล็กในตำนานอีกงั้นหรือ
"นายเป็นใครกันแน่"
เกิดเป็นเครื่องหมายคำถามอันใหญ่ขึ้นเหนือศีรษะของสติกส์
เคร้ง! เคร้ง!
เมื่อชายผมดำปริศนาเสร็จการถลุงแร่ เขาก็เริ่มลงมือตีเหล็กต่อทันที และหลังจากนั้นไม่นาน...
"แท่งสายฟ้า...!"
ใช่แล้ว แท่งสายฟ้าโลหะที่เหมือนกับแท่งสายฟ้าสีขาวซึ่งตั้งอยู่บนพื้นของเกาะหมายเลขสิบทุกประการ บัดนี้มันถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยฝีมือของชายผมดำปริศนา แถมขนาดก็ยังใหญ่เป็นพิเศษ ความยาวมีมากถึงเจ็ดเมตรเห็นจะได้
"..."
คราวนี้สติกส์ไม่แสดงท่าทีประหลาดใจออกมาอีกแล้ว ไม่สิ เขาพยายามข่มเอาไว้มากกว่า ไม่อย่างนั้นสุขภาพของหัวใจอาจย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้
ครืนนนน! เปรี้ยงง!
เกิดเสียงฟ้าผ่าโครมครามดังสนั่นไปทั่วเกาะหมายเลขสิบ แต่ชายผมดำกลับสามารถฝ่าไปได้อย่างไร้รอยขีดข่วน เนื่องด้วยเพราะมีฝ่ามือสีทองด้านบนซึ่งกำลังถือแท่งโลหะใหญ่พิเศษไว้บนอากาศ ฉากตรงหน้าดูราวกับเป็นขุนนางชั้นสูงที่มีกลุ่มผู้ติดตามคอยเดินกางร่มในยามฝนตกหนัก
"อะ... อั่ก...!"
ลงเอยด้วยอาการหัวใจของสติกส์ต้องกำเริบจากความตื่นเต้นอีกครั้ง เขากุมหน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวดและล้มลงกับพื้น ช่างเป็นภาพที่น่าสมเพชซึ่งตรงข้ามกับกริดอย่างสิ้นเชิง
สนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ
ReplyDeleteกริดดูดีขึ้นเยอะเลย พอไล่อ่านจากตอนแรกขึ้นมาใหม่อีกรอบ 😁😁
ReplyDelete55555 สงสารจอมปราชญ์ขึ้นมาเลย
ReplyDelete185ครั้ง กับ 13ครั้ง ต่างกันเกิ๊นน
ReplyDelete