จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 370
เอลฟิน-สโตน ผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ลำดับ 13 มันมีบรรดาศักดิ์ขุนนางเป็นถึงแวมไพร์ชั้นเอิร์ล แต่เมืองหลักสิบแห่งอื่นๆ กลับมีบอสเป็นแวมไพร์วิสเคาต์ทั้งสิ้น ยูร่าจึงตระหนักถึงความเก่งกาจของแวมไพร์วิสเคาต์เป็นอย่างดี
'จะต้องใช้หัวกะทิของโอเวอร์เกียร์อย่างน้อยห้าคนในการล่าวิสเคาต์'
อันที่จริงเธอเองก็สามารถล่าได้ตามลำพังถ้าหากสำเร็จภารกิจประจำคลาสทั้งหมดและมีเลเวลสูงกว่า 300 แต่ไม่ใช่กับตอนนี้ การต่อสู้ของยูร่าจึงมีจุดประสงค์เดียวคือการยื้อเวลาไว้ให้นานเท่าที่จะทำได้ โดยหวังว่าเพื่อนในปาร์ตี้จะค้นหาเธอพบก่อนจะหมดลมหายใจไป
ทว่าดูเหมือนทีราเม็ทจะมีพลังโจมตีที่หนักหน่วงรุนแรงผิดปรกติ แข็งแกร่งยิ่งกว่าแวมไพร์วิสเคาต์ทุกตนที่เธอเคยพบพาน
'ถึงขนาดรอดชีวิตจากน่าล่าอสูรคนก่อนมาได้...'
ช่างเป็นสถานการณ์อันแสนสิ้นหวังที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน...
'บอสพิเศษสินะ...'
ปัง!
ปังปังปัง!
"อา..."
ยูร่าหลบหลีกเวทย์มนต์สาปเลือดไหลมาได้ก็จริง แต่ขอบเขตการเคลื่อนไหวถูกจำกัดไว้หมดสิ้น อีกไม่ช้าก็เร็ว ลูกเตะของทีราเม็ทคงกระแทกเข้ากับใบหน้าตนอย่างจัง
'หลบไม่พ้น...'
ยูร่าเตรียมใจสูญเสียพลังชีวิตหนึ่งในสามไว้แล้ว แต่ปัญหาก็คือ เธอจะถูกโจมตีต่อเนื่องไม่ได้เด็ดขาด ยูร่าคำนวนทิศทางของลูกเตะและเริ่มวางแผน หากเธอถูกซัดเข้าใบหน้า ร่างกายจะต้องกระเด็นไปกระแทกเสาหินด้านหลัง และนั่นคือช่องว่างที่จะใช้หลบการโจมตีถัดไป
แต่ทันใดนั้นเอง
ฟุ่บ~
เปรี้ยง!
โล่สีทองอร่ามได้บินเข้ามาปกป้องยูร่าไว้จากลูกเตะของทีราเม็ทพอดิบพอดี
"...!"
ดวงตาที่เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลาของยูร่า ยามนี้กำลังลุกวาวพร้อมกับเปล่งประกาย เพราะเจ้าของโล่สีทองอันนี้ เธอรู้จักดียิ่งกว่าใครทั้งหมดบนโลก
'กริด!'
เขาควรจะอยู่ที่หมู่เกาะเบเฮ็นมิใช่หรือ เหตุใดถึงเข้ามาในดันเจี้ยนลับอย่างเมืองแวมไพร์ได้
แถมยัง... ทำไมถึงต้องปรากฏตัวในจังหวะแบบนี้ตลอด...
'ถ้าเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แล้วชีวิตฉันจะขาดนายได้อย่างไรกัน'
สีหน้าอันเศร้าหมองขมขื่นของยูร่ายังคงดูเจิดจ้าและงดงามเฉกเช่นทุกครั้ง
***
แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์นั้นแบ่งได้เป็นสองประเภท
หนึ่งคือผู้สืบทอดโดยตรงจากชิโซ-เบริอาเช่ทั้งเก้าตน ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือแวมไพร์ที่ถูกสร้างขึ้นจากเลือดของทายาทโดยตรงเหล่านั้น วิสเคาต์ทีราเม็ทเองก็เป็นหนึ่งในผู้สืบสายเลือดโดยตรงทั้งเก้า มันแข็งแกร่งกว่าแวมไพร์ชั้นวิสเคาต์ทั่วไปถึงสามเท่า อันที่จริงควรถูกเรียกว่าเป็นแวมไพร์ควอไซ-เอิร์ล*ด้วยซ้ำ
( ควอไซ - quasi / เสมือน )
"วิชาดาบแพ็กม่า... ร่ายรำสังหาร!"
ฉึก!
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
"อ๊ากกก!"
ร่างกายทีราเม็ทถูกดาบใหญ่สีดำ-น้ำเงินเสียบเข้าตามลำตัวห้าจุด มันส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดแหบพร่า มนุษย์ผมดำที่เพิ่งปรากฏตัวนั้นมีพลังโจมตีมหาศาลเกินคาดเดา
"แกนะแก!"
ทีราเม็ทผู้โกรธแค้นได้สะบัดฝ่ามือหนึ่งครั้ง พลังเวทย์อันดุดันเริ่มมีการเคลื่อนไหว นี่คือเวทย์มนต์กลืนโลหิตแบบกลุ่มที่สามารถแปรเปลี่ยนพลังชีวิตศัตรูหมู่มากให้มาเป็นของตน
'ทักษะชนิดไม่ล็อคเป้าสินะ'
มนุษย์ผมดำ กริด แววตาของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ชายหนุ่มชักดาบใหญ่ที่ปักอยู่ในอกทีราเม็ทกลับมาพร้อมกับขยับตัวตามจังหวะเท้า<ร่ายรำ> ฉากที่กริดโยกตัวหลบเวทย์กลืนโลหิตนั้นน่าตื่นตะลึงมาก โดยเฉพาะหากเทียบกับความเร็วที่เวทย์มนต์พุ่งเข้าใส่ร่าง แน่นอนว่าผ้าปิดตาเพชฆาตและค่าวิสัยทัศน์ช่วยเขาได้มากทีเดียว
"ไอ้หนูสกปรก!"
ทีราเม็ทตะเบ็งอย่างฉุนเฉียวเมื่อดูดพลังชีวิตไม่สำเร็จ มันเหวี่ยงกำปั้นที่เต็มไปโดยโทสะเข้าใส่ แต่กริดก็เตรียมการทุกสิ่งเสร็จสรรพแล้ว เมื่อครู่ที่เต้นด้วยจังหวะเท้า<ร่ายรำ>ทิ้งไว้ เขาไม่ได้ปล่อยมันไปอย่างเสียเปล่า
"ร่ายรำ"
การโจมตีศัตรูให้โดนศีรษะนั้นจะสร้างความเสียหายมากกว่าตามลำตัว แต่การที่ก่อนหน้านี้กริดไม่ได้เล็ง<ร่ายรำสังหาร>เข้าที่หัวของทีราเม็ท ไม่ใช่เพราะเขาคิดปราณีมัน ทว่าท่าแทงของกริดในตอนนี้ยังไม่มีความแม่นยำพอจะส่งให้ดาบเข้าเป้าทุกดอกได้
ในทางกลับกัน <ร่ายรำ> นั้นต่างออกไป นี่ไม่ใช่ท่าแทงที่มีวงแคบ แต่มันคือท่าฟันซึ่งมีขอบเขตระยะกว้างกว่า
"มันจะเจ็บหน่อยนะ..."
ฟุ่บ!
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ! ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
"อ๊ากกกก!"
หลังจากกริดส่งคำเตือนได้ไม่นาน สีหน้าของทีราเม็ทก็บิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด มันสั่นระริกไปทั่วร่างพร้อมกับงัดไพ่ตายออกมาใช้
"พายุโลหิต!"
ฟ้าวววว!
พลังเวทย์หมุนวนรอบกายทีราเม็ทประหนึ่งลมกระโชก ร่างกายกริดถูกสายลมอันรุนแรงผลักให้ถอยไปด้านหลัง
"ฉันจะฆ่าแก!"
ฟ้าววว!
ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!
เกิดเป็นศรโลหิตจำนวนห้าดอกพุ่งเข้าใส่กริด
"หัตถ์เทวะ!"
บึ้ม! บึ้ม!
หัตถ์เทวะจำนวนสองข้างได้พุ่งเข้ามาปกป้องกริดตามคำสั่งพร้อมกับกางฝ่ามือออก ทันทีที่ศรโลหิตกระแทกเข้าและระเบิดขึ้น พวกมันก็เกิดการชะงักงันเป็นเวลานาน ส่วนศรโลหิตที่เหลืออีกสามดอกได้ปะทะกับศีรษะและหน้าอกของกริดอย่างจัง
บึ้มบึ้มบึ้ม!
"แค่ก!"
เกิดระเบิดตามลำตัวจนชายหนุ่มต้องกระอักเลือดสีแดงสดออกมา ทีราเม็ทเห็นดังนั้นจึงหัวเราะอย่างตื่นเต้น
"วะฮ่าฮ่าฮ่า! ถึงจะดูเหมือนแข็งแกร่ง แต่มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์วันยังค่ำ! พลังพื้นฐานของฉันกับแกนั้นแตกต่างราวฟ้ากับเหว! กายาของแวมไพร์ทนทานประหนึ่งเหล็กกล้า แต่กายาของมนุษย์เป็นราวกับเศษใบไม้แห่งเท่านั้น!"
คำพูดนี้เป็นความจริง แต่ถึงกระนั้นร่างกายทีราเม็ทก็เต็มไปด้วยบาดแผลไม่ต่างกัน พลังโจมตีอันเหนือจินตนาการจากมนุษย์ทำให้พลังชีวิตของมันลดไปแล้วครึ่งหนึ่ง
'แต่ว่า!'
มันยังคงมีเวทย์แวมไพร์อันทรงพลังอยู่กับตัว ทีราเม็ทแสยะยิ้มพร้อมกับยิงเวทย์ใส่กริดและยูร่าพร้อมกัน
"ไม่ใช่เลย... กายาของของฉันแข็งแกร่งดุจดั่งหินผาต่างหาก!"
"...!"
ดวงตาของทีราเม็ทพลันเบิกโพลงเมื่อเห็นว่ามนุษย์ที่ควรจะใกล้ตายนั้นมีชีวิตชีวามากกว่าที่ตนคาดไว้
"ทำไมแกถึงได้ทนทานนัก...!"
"ศรเวทย์"
ฟ้าว~
บึ้ม!
"แค่ก!"
ศรเวทย์(พัฒนา) เลเวลสอง เวทย์มนต์เกรดเลเจนดารีที่ยกระดับขึ้นในระหว่างการตะลุยหมู่เกาะเบเฮ็น ได้พุ่งเข้าเสียบหัวใจของทีราเม็ทอย่างแม่นยำรุนแรง ดวงตาของทีราเม็ทพลันเบิกโพลงอย่างฉงน
'นี่เราถูกศรเวทย์ทำให้บาดเจ็บงั้นหรือ'
เจ้าบ้านี่เป็นจอมเวทย์รึไง แล้วถ้าใช่ ทำไมถึงได้อึดถึกทนนัก แล้วยังมีดาบใหญ่นั่นอีก ในขณะที่ทีราเม็ทกำลังสับสน กริดก็พุ่งตัวขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะของมันพร้อมกับดื่มโพชั่น
เคร้ง!
ดาบใหญ่สีน้ำเงิน-ดำฟาดฟันลงมาอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้า แต่ทีราเม็ทก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาบล็อคได้ทันท่วงที
"ฉันไม่ถูกลูกไม้เดิมเล่นงานซ้ำสองหรอกนะ!"
ทีราเม็ทเหวี่ยงมือขวาออกไปคว้าคอกริดด้วยความเร็วอันน่าสะพรึง หลังจากนั้นก็ออกแรงขว้างร่างของชายหนุ่มให้กระเด็นอัดติดกับเสาหินภายในห้อง
"เผาผลาญโลหิต!"
บึ้ม!
ร่างของกริดที่กระแทกกับเสาหินได้ถูกระเบิดเลือดปะทะซ้ำเข้าไปอีกครั้งจนกระเด็น เสาหินแตกละเอียด
"กริด!"
สีหน้าของยูร่าขาวซีดประหนึ่งกระดาษ ไม่ว่ากริดจะมีไอเท็ม ค่าสถานะ หรือคลาสที่ดีขนาดไหน แต่จะให้ไม่เป็นอะไรเลยจากการโจมตีนี้มันก็เกินไปหน่อย เธอพลันลืมไปชั่วครู่ว่า กริดเคยเป็นคนที่เอาชนะครอเกลมาได้
"ถึงกับทำให้ฉันคนนี้ต้องใช้แหวนโดรันเชียวหรือ"
รูปกายภาพนอกของกริดยังดูสบายดีทุกประการ แต่ภายในใจกลับเริ่มหวั่นวิตก
'เรายังอ่อนหัด...'
ครอเกลไม่มีทางถูกคว้าคอหลังจากที่โจมตีพลาดแน่
'ตั้งแต่การโจมตีครั้งแรกด้วยร่ายรำสังหารแล้ว ถ้าเป็นหมอนั่นคงจะเล็งไปที่ศีรษะอย่างมั่นใจแน่'
กริดรู้สึกสินหวังไหมน่ะหรือที่ได้รู้ความจริงว่าตนยังอ่อนประสบการณ์อยู่แม้ว่าจะผ่านบททดสอบบนหมู่เกาะเบเฮ็นมามากมายแล้วก็ตาม ไม่เลย เฉกเช่นครอเกลและยูร่า เขาจะใช้มันเป็นแรงผลักดันให้ตนเองขึ้นไปยังจุดสูงสุด
"มาเอาจริงกันดีกว่า"
"แกพล่ามไร้สาระอะไรอยู่… เห..."
ทีราเม็ทที่เคยแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัย ยามนี้มันกลับรีบทั้งท่าป้องกันตัวโดยพลันเมื่อเห็นหัตถ์เทวะจำนวนสองข้างกำลังลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับถือสุดยอดอาวุธไว้ในมือ
นี่มันอะไรกัน… มือที่ขยับได้เองและยังใช้งานอาวุธได้อีก
'ของวิเศษที่มีจิตวิญญานซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งรับและรุก… ชักไม่ธรรมดาซะแล้ว...'
เคร้ง! เคร้ง!
ความชำนาญดาบของหัตถ์เทวะเลื่อนระดับจากขั้นต้นมาเป็นขั้นกลาง ผลพวงมาจากการที่กริดใช้งานพวกมันอย่างหนักเมื่อตอนอยู่บนหมู่เกาะเบเฮ็น หัตถ์เทวะข้างหนึ่งถือมีดสั้นอุดมคติ ส่วนอีกข้างกำลังถือดาบใหญ่เลียนแบบ พวกมันทั้งคู่กระหน่ำยิงศรเวทย์อยู่เป็นระยะและคอยกวนใจทีราเม็ท
แต่นั่นก็ยังไม่มากพอจะกดดันให้ทีราเม็ทตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียว
"แกคิดจะพึงพาของวิเศษกระจอกพวกนี้ไปจนถึงเมื่อไร!"
เคร้ง! เคร้ง!
ทีราเม็ทอ่านทิศทางการโจมตีของหัตถ์เทวะและโยกตัวหลบ หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าประชิดตัวกริดอย่างรวดเร็ว
"ตายซะ!"
ซู่ววว!
มันทำการยิงโลหิตอัคคีออกมา เวทย์มนต์ชนิดนี้จะมีความรุนแรงขึ้นอยู่กับพลังชีวิตของผู้ร่าย เมื่อกริดสัมผัสได้ว่ามีพลังงานความร้อนเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มก็เริ่มปลดปล่อยพลังที่แท้จริงทันที
"ร่างมืด"
[ พลังเวทย์มืดของท่านเพิ่มขึ้น ]
[ ท่านไม่มีพลังเวทย์มืด จะถูกแทนที่ด้วยพลังอสูร ]
[ ขณะอยู่ในร่างมืด เผ่าพันธุ์ของท่านจะกลายเป็นครึ่งอสูร ]
[ ในฐานะครึ่งอสูร พลังชีวิตสูงสุดจะลดลง 50% แต่พลังโจมตี พลังเวทย์ และความว่องไวจะเพิ่มขึ้นอย่างละ 20% ]
[ การโจมตีทุกชนิดจะถูกเปลี่ยนให้เป็นธาตุมืด ]
"พลิ้วไหว"
[ ทักษะที่ติดมากับไอเท็ม <มีดสั้นอุดมคติ> ในมือของ <หัตถ์เทวะ> แสดงผล ]
[ อัตราหลบหลีกเพิ่มขึ้น 30% ความว่องไวเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นเวลาหนึ่งนาที ]
"โทสะช่างตีเหล็ก"
[ พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 25% ความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น 40% เป็นเวลา 35 วินาที ]
หลังจากนั้นก็...
[ ท่านผสานไอเท็มสำเร็จ! ]
[ ไอเท็มผสานที่เกิดจาก <ความผิดพลาด> และ <ยารุกต์> จะคงอยู่ได้สองนาที ]
เหตุผลที่กริดใช้หัถต์เทวะเพียงสองข้างไม่ใช่เพราะต่อให้ทีราเม็ท แต่เพราะเขาตระหนักถึงความแข็งแกร่งของมันเป็นอย่างดี จึงใช้หัตถ์เทวะอีกสองข้างคอยผสานไอเท็มก่อนที่จะเริ่มเอาจริง
หมับ!
หัตถ์เทวะนำอาวุธผสานมาโยนให้กริด ด้วยค่าความว่องไวที่สูงขึ้นหลายเท่า ชายหนุ่มจึงหลบโลหิตอัคคีที่พุ่งเข้ามาได้ไม่ยาก พร้อมกันนั้นก็ส่งเสียงออกคำสั่งกับหัตถ์เทวะทั้งหมด
"ศรเวทย์เต็มกำลัง!"
ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
ฝ่ามือสีทองกระจายตัวกันและเล็งยิงศรเวทย์ใส่ทีราเม็ทอย่างแม่นยำ คงเป็นการยากที่มันจะหลบได้พ้นทั้งหมด
"ลูกไม้สกปรกของแกนี่มัน…! เฮ้ย!"
ในขณะที่ทีราเม็ทโพล่งขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับสร้างบาเรียโลหิตเพื่อป้องกันศรเวทย์ ชายผมดำที่ในยามนี้เรียกว่ามนุษย์ได้ไม่เต็มปากนัก กำลังคิดเข้ามาต่อสู้ประชิดตัวงั้นหรือ
"โลหิตสูบฉีด!"
"กระหน่ำแทง!"
ฉึก!
ฉึก! เคร้ง! ฉีก!
เป๊ง! ฉีก!
ทีราเม็ทไม่ได้กระจอก ด้วยเวทย์โลหิตสูบฉีด มันสามารถเร่งค่าสถานะและพลังป้องกันขึ้นได้ในพริบตา เมื่อกริดคิดว่าการกระหน่ำแทงให้ครบห้าครั้งคงไม่ใช่เรื่องที่ดี เขาจึงยกเลิกกลางคันและหันไปใช้<โลหิตกรีดร้อง>แทน
กรี๊~!!
"อึก… บ้าน่า! นั่นมัน...! ของเอลฟิน-สโตน!"
ดวงตาทีราเม็ทพลันเบิกโพลง กริดรีบฉวยโอกาสนี้ฟาดอาวุธผสานลงไปยังหัวไหล่ของทีราเม็ทด้วยวิชาดาบแพ็กม่า<ทำลายล้าง> โดยการโจมตีหลังจากนี้ได้รับความช่วยเหลือจากยารุกต์มากพอสมควร
[ ท่านสำเร็จสามคอมโบ! ]
[ เป้าหมายจะถูกโจมตีแรงขึ้นสองเท่าเป็นเวลาหนึ่งวินาที ]
"สังหาร"
[ คริติคอล ]
"อ๊าก...!"
ใบหน้าทีราเม็ทเหี่ยวย่นทันทีเมื่อรับการโจมตีเข้าไป แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคิดตอบโต้เพื่อต้องการแสดงพลัง แม้ทีราเม็ทจะเทียบเท่าเอลฟิน-สโตนไม่ได้ ทว่าก็เหนือกว่าเฮล-กาโอร่างไม่สมบูรณ์มาก ทางด้านกริดเองก็คาดเดาไว้แล้วว่ามันจะต้องสวนกลับมา
"วังวน"
ท่าโจมตีโต้กลับจากทีราเม็ทกลายเป็นดาบสองคมที่หันกลับทำร้ายตนเอง การคาดคะเนของกริดสัมฤทธิ์ผลอย่างไร้ที่ติ
[ ท่านสำเร็จห้าคอมโบ! ]
[ เป้าหมายอยู่ในอาการชะงัก 0.3 วินาที ]
[ ท่านสามารถใช้ทักษะ <ดาบขุมนรก> ]
ทักษะที่ต้องใช้ภายใน 0.3 วินาที แม้จะฟังดูยาก แต่กริดในปัจจุบันก็กระทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
"ดาบขุมนรก"
ขอบคุณมากครับ
ReplyDeleteเฮ้ย มันส์~~~ ค้างงงงงงงงงงงง ><
ReplyDeleteโคตร มันนนน
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteยูร่า บอกชีวิตนี้ขาดกริดไม่ได้แล้วมาถูกเวลาตลอดรักกว่าเดิมแน่ๆ
ReplyDelete