จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 347



       รายได้หลักขอกนักจัดรายการเกมออนไลน์ส่วนใหญ่จะมาจาก<ลูกโป่งจันทร์>ที่คนดูมอบให้

(ระบบของขวัญ  เหมือนกับเพชร เครื่องบิน บิท หัวใจ และอื่นๆ ที่คล้ายกัน)


       แต่ความจริงแล้ว  รายได้สูงสุดของวงการนี้จะมาจากเงินค่าโฆษณา

       เจ้าของแบรนด์จะโฆษณาด้วยการให้นักจัดรายการสวมใส่สิ้นค้าที่เป็นของแบรนด์ตน  เช่นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับต่างๆ  อีกทั้งยังมีรูปแบบการแปะประกาศโฆษณาไว้บนหน้าจอแสดงภาพ  เพื่อให้คนที่เข้ามาดูเห็นและเกิดความสนใจอยากซื้อสินค้า

       ดังนั้น  ยิ่งมียอดผู้เข้าชมมาก  นักจัดรายการเกมก็ยิ่งร่ำราย

       และผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของวงการนี้  บันนี่บันนี่  หลังจากกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นอันดับหนึ่งคืนมาเมื่อครั้งเผยแพร่วิดีโอ<เจ็ดกิลด์ใหญ่บุกเรย์ดัน>  ยอดผู้ชมเฉลี่ยของบันนี่บันนี่ก็พุ่งสูงถึง 150,000 คน  โดยระยะหลังมานี้  ทันทีที่การแพร่ภาพเริ่มขึ้น  ผู้ชมก็จะกระหนำกด<ลูกโป่งจันทร์>เพื่อเป็นกำลังใจให้นักจัดรายการ  ในเวลาเดียวกัน  เจ้าของสินค้าก็รู้สึกพึงพอใจกับยอดคนดูมาก

       "วิดีโอครั้งใหม่จะยิ่งเพิ่มความนิยมในตัวเราขึ้นไปอีก"

       ต็อกแต๊ก... ต็อกแต๊ก...

       บันนี่บันนี่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์มาสามวันติดต่อกันแล้ว  แม้กระทั่งการทานอาหารก็ยังทำหน้าคอมพิวเตอร์  เขาลดเวลานอนตนเองลงเพื่อรีบปั่นงานให้เสร็จ  ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อตัดต่อวิดีโอที่ถ่ายมาอย่างยากลำบาก  

       ณ ยามนี้  ใบหน้าของเขากำลังสวมแว่นหนาเตอะซึ่งบ่งบอกว่าต้องใช้สมาธิและสายตามากขนาดไหน

       "เอาล่ะ  เยี่ยมมาก"

       บันนี่บันนี่พึงพอใจกับวิดีโอความยาวสิบชั่วโมงซึ่งเป็นผลลัพธ์สุดท้ายของความเหน็ดเหนื่อยตลอดสามวันที่ผ่านมา

       ภายในวิดีโอมีทั้งฉากกองทัพอันเกรียงไกรขององค์ชายเร็น  อัศวินหนุ่มอัจฉริยะแห่งแดนเหนือที่ปะทะกับนักดาบผู้ยิ่งใหญ่อย่างชักสเล่ย์ด้วยสีหน้าอันแสนสิ้นหวัง  การปรากฏตัวของกริดในจังหวะสมบูรณ์แบบราวกับบทภาพยนต์  กองทัพเรย์ดันที่แปรเปลี่ยนทหารกองทัพหลวงให้กลายเป็นแหล่งอัพเลเวลชั้นเลิศ  และเหนือสิ่งอื่นใด  จุดจบขององค์ชายเร็น  องค์รัชทายาทแห่งอีเทอนัลที่คุกเข่าลงเบื้องหน้ากริดอย่างหมดสภาพ  ก่อนที่กริดจะตัดสินใจอภัยโทษและลุกเดินจากไปพร้อมกับทหารที่ขนาบข้างสองฝั่งอย่างเกรียงไกร  

       ถือเป็นฉากสุดยิ่งใหญ่อลังการ  

       และยังมีฉากแถมโบนัส  ฮูเร็นถูกชาวนาบดขยี้...

       ภาพบรรยากาศของทัพหลวงจำนวนมหาศาล  และกองทัพอันแสนดุดันขึงขังของเรย์ดัน  ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นเป็นต้องขนลุกซู่  ประหนึ่งเป็นการถ่ายทำภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ก็มิปาน  ฉากบรรยากาศสงครามได้สร้างอารมณ์ร่วมในทุกชั่วขณะ  ฝีมือการตัดต่อและถ่ายภาพของบันนี่บันนี่ทำให้ผู้ชมไม่รู้เบื่อ  

       'โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ฉากจบของสงครามครั้งนี้คือจุดพีคอย่างแท้จริง'

       กริดนั่งอยู่บนบัลลังก์หรูพร้อมกับจ้องมององค์ชายเร็นซึ่งกำลังคุกเข่าอย่างหมดสภาพ  ดวงตาของชายหนุ่มแผ่อำนาจอันสุดแสนน่าเกรงขามโดยปราศจากความสั่นคลอน

       ใครก็ตามที่ได้เห็นกริดระงับความโกรธและลั่นวาจาออกไปว่า  
       'ฉันโทษให้นาย'
       
       ทุกคนคงต้องคิดแบบเดียวกันแน่

       'กริดฉลาดมาก  เขาเห็นอนาคตสำคัญกว่าความแค้นส่วนตัว'

       และใครก็ตามที่เคยเย้ยหยันในสติปัญญาของกริด  พวกมันจะต้องปิดปากเงียบไปอีกนาน

       บันนี่บันนี่ชื่นชอบกริดมาก  ในฐานะลอร์ด  กริดแสดงความองอาจออกมาได้อย่างไร้ที่ติ  สุนทรพจน์ที่เปล่งต่อหน้าผู้คนจำนวนมากก็ล้วนคงไว้ซึ่งพลังอำนาจสุดหยั่ง  ผนวกกับการที่มักปรากฏตัวในฉากสำคัญเสมอ  กริดคือพระเอกในฝันที่บันนี่บันนี่ต้องการ

       'กริด… ยิ่งถ่าย  นายก็ยิ่งขึ้นกล้อง'

       ลำตัวของกริดดูบึกบึนมากขึ้น  เนื่องมาจากการออกกำลังกายและกินอาหารที่ดีในชีวิตจริง  ใบหน้าที่ซูบผอมในตอนแรกถูกแทนด้วยความสมส่วนอวบอิ่ม  แม้ตัวจริงของกริดจะยังไม่เข้าขั้นหล่อเหล่า  แต่หากเป็นภาพที่ถ่ายในกล้องนั้นจะต่างออกไป  

       สิ่งนี้เรียกว่าการขึ้นกล้อง  

       'ในอนาคต  เราคงต้องตีสนิทกริดให้มากเข้าไว้  จะได้มีโอกาสถ่ายวิดีโอเขาบ่อยๆ'

       กริ๊ง~

       บันนี่บันนี่กดปุ่มสุดท้ายเพื่อเสร็จสิ้นการตัดต่อวิดิโอ  เป็นเวลาเดียวกับที่อีเมลของลอเอลถูกส่งมาหาพอดี  เขาพลันหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่ออ่านเนื้อความในจดหมายจบ

       "เป็นคนละเอียดรอบคอบอย่างที่ลือกันเลยสินะ"

       ลอเอลมีคำขอร้องเพียงสองข้อเท่านั้น  หนึ่งคือจ่ายส่วนแบ่ง 40% ของฉากที่เกี่ยวกับกริดและโอเวอร์เกียร์มาทั้งหมด  

       และสองคือ...  ตัดฉากที่กริดไว้ชีวิตองค์ชายเร็นออกไป

       'รายได้คราวนี้คงจะสูงกว่าปรกติราวสองเท่าเห็นจะได้...'

       เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเท่าไร  เขาสามารถยอมรับเงื่อนไขส่วนแบ่งของลอเอลได้  แต่สิ่งที่บันนี่บันนี่ค้างคาใจก็คือ  ให้ตัดฉากเด็ดซึ่งจะยิ่งทำให้กริดโด่งดังออกทำไม

       เพราะอะไรกันนะ  บันนี่บันนี่ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่  จนในที่สุด  เขาก็เริ่มเข้าใจความคิดของลอเอลได้บ้างแล้ว

       'นั่นสินะ... ตอนนี้กริดถูกตราหน้าว่าเป็นคนฆ่าองค์ชายเร็น'

       ในสถานการณ์เช่นนี้  จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีวิดีโอที่กริดอภัยโทษองค์ชายเร็นถูกเผยแพร่ออกไป

       '...คนจะยิ่งคิดว่า  กริดหักหลักองค์ชายและส่งคนตามไปลอบสังหาร'

       จะเกิดความเข้าใจผิดตามมาอีกมากแน่

       'ในความเป็นจริง  ยังไม่มีหลักฐานว่าใครกันแน่เป็นคนฆ่าองค์ชายเร็น...  ถ้าหากวิดีโอนี้เผยแพร่ออกไปและกริดพยายามอธิบายกับทุกคน  บางที  เขาอาจแก้ไขความเข้าใจผิดนั้นได้'
       
       แต่ก็อย่างที่ว่า  หลายคนหลากความคิด  อาจยังมีคนที่ไม่เชื่อกริดและคิดว่าเขาเป็นผู้ลงมืออยู่ดี

       'นั่นสินะ... ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องไปยุ่งกับเหตุการณ์ซึ่งสงบลงไปแล้ว'

       บันนี่บันนี่ตีความออกทันที  หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือตัดต่อวิดีโออีกครั้ง

       สองวันถัดมา

       วิดีโอสงครามระหว่างกริดและองค์ชายเร็นที่มีความยาวเก้าชั่วโมงถูกแพร่ภาพทางอินเทอร์เน็ตในช่องของบันนี่บันนี่  จำนวนผู้ชมหลั่งไหลเข้ามาอย่างล้นหลามจนแม้แต่ตัวบันนี่บันนี่เองก็ยังคาดไม่ถึง  

       ===  สุดยอด... อัศวินที่ชื่อลาเด็นคนนั้น  แม้จะยังหนุ่ม  แต่กลับมีฝีมือและความจงรักภักดีอยู่ในระดับที่น่าขนลุก  เขายอมสละชีวิตเพื่อให้ลอร์ดของตนปลอดภัย...

       ===  เอ็นพีซีพิเศษสินะ?  ผู้เล่นธรรมดาอย่างเราๆ คงไม่มีโอกาสได้พบแน่นอน...ㅋ

       ===  ชักสเล่ย์เป็นของจริง  สมกับสมญานามนักดาบผู้ยิ่งใหญ่

       ===  นั่น!  กริด!  เขามาแล้ว!

       ===  มันบ้ามาก;  ดูกริดทำเข้าสิ;;;

       ===  เจ๋งโคตร... เขารับมือกับชักสเล่ย์ได้อย่างสูสี  ไม่เพียงเท่านั้น  ระหว่างนี้ก็ปล่อยให้ทหารของเรย์ดันอัพเลเวลกับทัพหลวงไปเรื่อยๆㅋㅋ

       ===  ฉันละสายตาไม่ได้เลย

       ===  ตั้งแต่เมื่อครั้งสู้กับอัศวินสีชาดแล้วนะ  ฝีมือการควบคุมของกริดดีขึ้นมากเลยทีเดียว

       ===  เห็นด้วย  ทำเอาเมื่อครั้งงานแข่งนานาชาติและสงครามไรน์ฮาร์ทเทียบไม่ติด

       ===  ฝ่ามือสีทองนั่น  พวกมันคืออะไรกันแน่... ;;

       ===  กริดคิดจะทำอะไร ㅋㅋㅋ เขาคิดจะสร้างกองทัพด้วยพลังแห่งไอเท็มขึ้นมารึไงㅋㅋㅋㅋㅋ

       ===  ในที่สุด  พี่กริดสุดหล่อก็ใช้ร่างมืดสักที

       ===  แต่ฉันชอบร่างผมขาวมากกว่านะ

       ในอดีต  มีผู้คนมากมายที่ไม่ชอบหน้ากริดเอาเสียเลย  คนส่วนใหญ่ไม่ชอบผู้เล่นที่ไร้ฝีมือแต่ใช้ไอเท็มราคาแพงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ทว่า  นั่นเป็นเรื่องราวในสมัยก่อน

       ผู้คนหลงรักกริดมากขึ้นเรื่อยๆ  จำนวนของคิดที่คิดว่า <สักวันฉันจะเป็นแบบกริดให้ได้> เริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้น

       ===  เอ๋?
       
       ผู้ชมที่กำลังตื่นเต้นพลันเงียบสงัดพร้อมกัน  หลังจากจบสงครามระหว่างกริดกับองค์ชายเร็น  ภาพก็ตัดไปยังฮูเร็นและทหารอีก 2,000 นาย  นับตั้งแต่กล้องจับภาพ  ฮูเร็นก็เอาแต่พูดว่า  ตนจะต้องแก้แค้นกริดให้ได้ในวันนี้  จนกระทั่งกองทัพหลวงเคลื่อนพลลงจากภูเขาอัลเทส

       ===  ชาวนา?

       ใช่แล้ว  มีชาวนาสองคนมาขวางทางกองทัพไว้  คนดูต่างพากันสับสนในสิ่งที่เห็น

       ===  ชาวนาพวกนี้คิดจะทำอะไร ㄷㄷ

       ===  มาขวางกองทัพไว้...  จะฆ่าตัวตายงั้นหรือ

       ===  น่าสงสารฉิบ...

       ทุกคนต่างคิดตรงกันหมด  ชาวนาสองคนนี้ซวยเข้าแล้ว  แต่ความจริงคืออะไรรู้ไหม  กลับกลายเป็นว่า  อีกเพียงไม่กี่อึดใจ  กองทัพทั้ง 2,000 คนจะถูกชาวนาเพียงคนเดียวทำลายลงอย่างราบคาบ  

       คนที่ผู้ชมควรห่วง  คือฝั่งของฮูเร็นมากกว่า

       ฉึก

       "แอ่ก!"

       ฉึก

       "แค่ก!"

       ฉึก

       "อ๊ากกก!"

       "..."

       ณ ตอนนี้  จำนวนผู้ชมออนไลน์ของบันนี่บันนี่เพิ่มขึ้นเป็น 300,000 คนอย่างน่าตกตะลึง  จากการพูดกันปากต่อปากถึงความสนุกตื่นเต้นในการต่อสู้ระหว่างกริด  ดยุคของอาณาจักร์  และเร็น  องค์รัชทายาท  ความสนใจของผู้ชมทั่วโลกต่างหลั่งไหลมายังช่องของบันนี่บันนี่อย่างไม่ขาดสาย  

       คนจำนวนกว่าสามแสนกำลังได้เห็นเต็มสองตาว่า  ฮูเร็นผู้พร่ำบอกตลอดทางว่าจะล้มกริดให้ได้  ถูกชาวนาใช้คราดเล็กแทงไปยังหน้าผากได้สามครั้งติดต่อกัน  และเพียงไม่นานก็หมดสภาพต่อสู้  เหตุการณ์ตรงหน้าเลวร้ายยิ่งกว่าตำนานบทเดิมของมัน <ล็อกเอาท์ในห้าวินาที> เสียอีก

       เกิดเป็นความฮือฮาไปอีกหลายวัน  ข่าวและบทความที่เกี่ยวกับกริดถูกตีพิมพ์นับไม่ถ้วนทั้งในเกาหลีใต้และทั่วโลก

       <ดยุคกริดมีทหารที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในมือ!!>

       <ชาวนาเสียสติของเรย์ดันไม่ใช่ข่าวลือ  เขามีตัวตน!>

       <แม้แต่ชาวนาก็ยังแข็งแกร่งขนาดนี้... พลังที่แท้จริงของเรย์ดันจะอยู่ในระดับไหนกันแน่>

       "สงครามครั้งนี้ยังไม่ใช่พลังทั้งหมดของดยุคกริด  เขายังมีทั้งจิสึกะ  เรกัส  ป็อน  และสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นที่ยังไม่ได้ออกโง"

       "พลังอำนาจของกริดจะต้องสูงกว่าที่พวกเราเห็นแน่นอน"

       สื่อและนักวิชาการทั่วโลกต่างไม่ได้เพ่งเล็งแค่พลังส่วนตัวของกริด  แต่ยังรวมไปถึงพลังอำนาจทั้งหมดที่อยู่ในมือ  พวกเขาคาดการณ์กันว่า  กริดน่าจะแข็งแกร่งกว่านี้สักสองหรือสามเท่า  ช่างน่าขันนัก  สองหรือสามเท่างั้นหรือ  ถ้าหากรวมยูร่าและกิลด์ซิลเวอร์ไนท์เข้าไปด้วยล่ะก็  พลังที่แท้จริงของกริดจะสูงกว่านี้ถึงสิบเท่า!

       และแม้กระทั่งตอนนี้

       กริดกำลังจะเติบโตขึ้นไปอีกก้าวโดยที่แม้แต่เขาก็ไม่รู้ตัว

       "ฉันจะสร้างโบสถ์รีเบคก้าในเรย์ดัน"

       สันตะปาปาองค์ที่ 14  ดาเมี่ยน  ผู้เล่นคนแรกของโลกที่กลายเป็นสันตะปาปา  ทันทีที่รับตำแหน่ง  ภารกิจแรกของดาเมี่ยนคือการสร้างโบสถ์ขึ้นในเรย์ดัน

       ***

       ณ ทุ่งข้าวอันกว้างใหญ่ของเรย์ดัน

       ฮูเร็นต้องก้มหน้าก้มตาทำฟาร์มเป็นเวลากว่าหนึ่วชั่วโมงติดต่อกันแล้ว  ไม่มีช่วงเวลาให้พักหายใจเลยสักนิด  โดยตลอดเวลา  จะมีคำแนะนำที่จู้จี้จุกจิกของปิอาโร่ดังขึ้นไม่ขาดสาย

       "เวลาก้มหลัง  ห้ามงอเข่าเด็ดขาด!"

       แถมยังมีเงื่อนไขที่ยุ่งวุ่นวายอีกมาก  ในที่สุด  ฮูเร็นซึ่งกำลังเหนื่อยล้าสุดขีดได้ออกอาการไม่พอใจ

       "ไม่ให้งอเข่าในตอนที่ก้มตัวลงเนี่ยนะ  นี่คือการทรมาณรูปแบบใหม่รึไง!"

       "งานหนักสามารถหล่อหลอมผู้คนให้แข็งแกร่งได้เสมอ  หากทำแต่งานสบาย  นอกจากร่ายกายจะไม่พัฒนาแล้ว  ในอนาคตจะมีแต่ผลเสียตามมา"

       "...เข้าใจแล้ว"

       ฮูเร็นไม่เข้าใจสถานการณ์เลยสักนิด  นี่เขาเป็นเชลยศึกไม่ใช่หรือ  แต่เหตุใด  ปิอาโร่ถึงคอยฝึกฝนและสั่งสอนอยู่ตลอดเวลาแทนที่จะใช้แรงงานอย่างทารุณ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง <★ภารกิจลับ★การฝึกฝนอันแสนเพลิดเพลินและสนุกสนาน!> ซึ่งมีรางวัลตอบแทนในระดับสูง

       "ทำไมนายถึงดีกับฉันนัก  หรือคิดจะทำให้ฉันกลายเป็นลูกน้องของกริด  ถ้าเป็นเรื่องนั้น  อย่าเสียเวลาเปล่าเลยน่า  เป้าหมายของฉันมีเพียงสิ่งเดียว  คือการเอาชนะกริดให้ได้ภายในสี่วินาที"

       ปิอาโร่ตอบกลับมาด้วยสีหน้าราบเรียบ

       "หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้  ฉันมีแผนจะเดินทางไปยังภูเขาอัลเทสเพื่อบุกเบิกจุดทำฟาร์มใหม่  เพื่อการนั้นแล้ว  แรงงานของฉันจะต้องมีประโยชน์ทุกคน"

       "...ชิ  นั่นสินะ  นึกแล้วว่านายคงไม่ได้สอนฉันอย่างไร้เหตุผล"

       ฮูเร็นบ่นอุบอิบก่อนจะทำตามคำแนะนำของปิอาโร่แต่โดยดี  นั่นเป็นเรื่องช่วยไม่ได้  เมื่อรู้สึกท้อ  มันก็ปลอบใจตนเองทุกครั้งด้วยการอ่านรางวัลตอบแทนภารกิจ  

       ในขณะที่ฮูเร็นกำลังจะก้มหน้าลงไปปลูกข้าวตามปรกติ

       "ไม่เจอกันนานเลยนะพี่ชาย"

       ชายคนหนึ่งที่ปกปิดใบหน้าด้วยหมวกฟางได้ปรากฏตัวขึ้น  เขาเดินลัดผ่านฟาร์มข้าวและตรงเข้ามาทักทายปิอาโร่อย่างเป็นกันเอง

       "นายพัฒนาขึ้นมากเลยนี่!"

       ปิอาโร่  ชาวนาเสียสติคนนี้ได้เริ่มโจมตีผู้คนอย่างไร้เหตุผลอีกแล้ว

       'ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร  แต่ก็อดสงสารแทนไม่ได้แฮะ'

       ฮูเร็นได้แต่ส่ายศีรษะ  ชายลึกลับสวมหมวกฟางตรงหน้า  ชายผู้โง่เขลา  ได้ถูกปิอาโร่โจมตีใส่ทันทีที่ทักทายเสร็จ  ไม่ให้เรียกว่าเสียสติแล้วจะมีคำใดอธิบายได้อีก  คราดเล็กในมือปิอาโร่ทั้งเร็วและเดาทิศทางได้ยาก  แม้กระทั่งออร่ามาสเตอร์อย่างตนยังจนปัญญา  ชายหมวกฟางคนนี้ก็คงไม่รอดแน่นอน

       แต่ผลกลับออกมาตรงกันข้าม

       เคร้ง!

       ดาบสีขาวที่ส่องประกายเจิดจ้าได้บล็อคคราดเล็กไว้อย่างแม่นยำ

       "เชี่ย..."

       คราดเล็กของชาวนาเสียสติถูกบล็อคได้ยังไง  ในขณะที่ฮูเร็นยืนสับสน  ปิอาโร่ก็พูดขึ้นด้วยท่าทีเป็นกันเอง

       "นายสามารถก้าวข้ามตัวฉันในอดีตไปได้แล้ว...!"

       ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา  มีชายเพียงสองคนเท่านั้นที่ทำให้ปิอาโร่รู้สึกถึงอันตรายได้  หนึ่งคือลอร์ดของเขา  ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า  กริด  และอีกคนก็คือ  นักดาบสีขาว  ครอเกล  ใช่แล้ว  ตัวตนของชายปริศนาสวมหมวกฟางคือครอเกล  ผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว

       "ในตอนนี้  ฉันกำลังติดอยู่ที่กำแพงด่านสุดท้ายของเป้าหมายสูงสุด  เพื่อที่จะพังกำแพงนั้นลงให้จงได้  ฉันขอท้าพี่ชายดวลหนึ่งต่อหนึ่งอย่างชอบธรรม"

       จุดสูงสุดของผู้เล่นสองพันล้านคน  ตัวตนพิเศษที่ครอบครองสมญานามล้ำค่าไว้กับตัวมากมาย  

       เขาคิดที่จะก้าวข้ามผู้เล่นทั่วโลกไปอีกครั้ง

       โดยในวันนี้นี่เอง

       กริดและครอเกลจะได้พบกันเป็นหนแรก  นับเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งจะพลิกชะตาชีวิตของคนทั้งสองไปตลอดกาล

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00