จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 347
รายได้หลักขอกนักจัดรายการเกมออนไลน์ส่วนใหญ่จะมาจาก<ลูกโป่งจันทร์>ที่คนดูมอบให้
(ระบบของขวัญ เหมือนกับเพชร เครื่องบิน บิท หัวใจ และอื่นๆ ที่คล้ายกัน)
แต่ความจริงแล้ว รายได้สูงสุดของวงการนี้จะมาจากเงินค่าโฆษณา
เจ้าของแบรนด์จะโฆษณาด้วยการให้นักจัดรายการสวมใส่สิ้นค้าที่เป็นของแบรนด์ตน เช่นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับต่างๆ อีกทั้งยังมีรูปแบบการแปะประกาศโฆษณาไว้บนหน้าจอแสดงภาพ เพื่อให้คนที่เข้ามาดูเห็นและเกิดความสนใจอยากซื้อสินค้า
ดังนั้น ยิ่งมียอดผู้เข้าชมมาก นักจัดรายการเกมก็ยิ่งร่ำราย
และผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของวงการนี้ บันนี่บันนี่ หลังจากกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นอันดับหนึ่งคืนมาเมื่อครั้งเผยแพร่วิดีโอ<เจ็ดกิลด์ใหญ่บุกเรย์ดัน> ยอดผู้ชมเฉลี่ยของบันนี่บันนี่ก็พุ่งสูงถึง 150,000 คน โดยระยะหลังมานี้ ทันทีที่การแพร่ภาพเริ่มขึ้น ผู้ชมก็จะกระหนำกด<ลูกโป่งจันทร์>เพื่อเป็นกำลังใจให้นักจัดรายการ ในเวลาเดียวกัน เจ้าของสินค้าก็รู้สึกพึงพอใจกับยอดคนดูมาก
"วิดีโอครั้งใหม่จะยิ่งเพิ่มความนิยมในตัวเราขึ้นไปอีก"
ต็อกแต๊ก... ต็อกแต๊ก...
บันนี่บันนี่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์มาสามวันติดต่อกันแล้ว แม้กระทั่งการทานอาหารก็ยังทำหน้าคอมพิวเตอร์ เขาลดเวลานอนตนเองลงเพื่อรีบปั่นงานให้เสร็จ ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อตัดต่อวิดีโอที่ถ่ายมาอย่างยากลำบาก
ณ ยามนี้ ใบหน้าของเขากำลังสวมแว่นหนาเตอะซึ่งบ่งบอกว่าต้องใช้สมาธิและสายตามากขนาดไหน
"เอาล่ะ เยี่ยมมาก"
บันนี่บันนี่พึงพอใจกับวิดีโอความยาวสิบชั่วโมงซึ่งเป็นผลลัพธ์สุดท้ายของความเหน็ดเหนื่อยตลอดสามวันที่ผ่านมา
ภายในวิดีโอมีทั้งฉากกองทัพอันเกรียงไกรขององค์ชายเร็น อัศวินหนุ่มอัจฉริยะแห่งแดนเหนือที่ปะทะกับนักดาบผู้ยิ่งใหญ่อย่างชักสเล่ย์ด้วยสีหน้าอันแสนสิ้นหวัง การปรากฏตัวของกริดในจังหวะสมบูรณ์แบบราวกับบทภาพยนต์ กองทัพเรย์ดันที่แปรเปลี่ยนทหารกองทัพหลวงให้กลายเป็นแหล่งอัพเลเวลชั้นเลิศ และเหนือสิ่งอื่นใด จุดจบขององค์ชายเร็น องค์รัชทายาทแห่งอีเทอนัลที่คุกเข่าลงเบื้องหน้ากริดอย่างหมดสภาพ ก่อนที่กริดจะตัดสินใจอภัยโทษและลุกเดินจากไปพร้อมกับทหารที่ขนาบข้างสองฝั่งอย่างเกรียงไกร
ถือเป็นฉากสุดยิ่งใหญ่อลังการ
และยังมีฉากแถมโบนัส ฮูเร็นถูกชาวนาบดขยี้...
ภาพบรรยากาศของทัพหลวงจำนวนมหาศาล และกองทัพอันแสนดุดันขึงขังของเรย์ดัน ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นเป็นต้องขนลุกซู่ ประหนึ่งเป็นการถ่ายทำภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ก็มิปาน ฉากบรรยากาศสงครามได้สร้างอารมณ์ร่วมในทุกชั่วขณะ ฝีมือการตัดต่อและถ่ายภาพของบันนี่บันนี่ทำให้ผู้ชมไม่รู้เบื่อ
'โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉากจบของสงครามครั้งนี้คือจุดพีคอย่างแท้จริง'
กริดนั่งอยู่บนบัลลังก์หรูพร้อมกับจ้องมององค์ชายเร็นซึ่งกำลังคุกเข่าอย่างหมดสภาพ ดวงตาของชายหนุ่มแผ่อำนาจอันสุดแสนน่าเกรงขามโดยปราศจากความสั่นคลอน
ใครก็ตามที่ได้เห็นกริดระงับความโกรธและลั่นวาจาออกไปว่า
'ฉันโทษให้นาย'
ทุกคนคงต้องคิดแบบเดียวกันแน่
'กริดฉลาดมาก เขาเห็นอนาคตสำคัญกว่าความแค้นส่วนตัว'
และใครก็ตามที่เคยเย้ยหยันในสติปัญญาของกริด พวกมันจะต้องปิดปากเงียบไปอีกนาน
บันนี่บันนี่ชื่นชอบกริดมาก ในฐานะลอร์ด กริดแสดงความองอาจออกมาได้อย่างไร้ที่ติ สุนทรพจน์ที่เปล่งต่อหน้าผู้คนจำนวนมากก็ล้วนคงไว้ซึ่งพลังอำนาจสุดหยั่ง ผนวกกับการที่มักปรากฏตัวในฉากสำคัญเสมอ กริดคือพระเอกในฝันที่บันนี่บันนี่ต้องการ
'กริด… ยิ่งถ่าย นายก็ยิ่งขึ้นกล้อง'
ลำตัวของกริดดูบึกบึนมากขึ้น เนื่องมาจากการออกกำลังกายและกินอาหารที่ดีในชีวิตจริง ใบหน้าที่ซูบผอมในตอนแรกถูกแทนด้วยความสมส่วนอวบอิ่ม แม้ตัวจริงของกริดจะยังไม่เข้าขั้นหล่อเหล่า แต่หากเป็นภาพที่ถ่ายในกล้องนั้นจะต่างออกไป
สิ่งนี้เรียกว่าการขึ้นกล้อง
'ในอนาคต เราคงต้องตีสนิทกริดให้มากเข้าไว้ จะได้มีโอกาสถ่ายวิดีโอเขาบ่อยๆ'
กริ๊ง~
บันนี่บันนี่กดปุ่มสุดท้ายเพื่อเสร็จสิ้นการตัดต่อวิดิโอ เป็นเวลาเดียวกับที่อีเมลของลอเอลถูกส่งมาหาพอดี เขาพลันหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่ออ่านเนื้อความในจดหมายจบ
"เป็นคนละเอียดรอบคอบอย่างที่ลือกันเลยสินะ"
ลอเอลมีคำขอร้องเพียงสองข้อเท่านั้น หนึ่งคือจ่ายส่วนแบ่ง 40% ของฉากที่เกี่ยวกับกริดและโอเวอร์เกียร์มาทั้งหมด
และสองคือ... ตัดฉากที่กริดไว้ชีวิตองค์ชายเร็นออกไป
'รายได้คราวนี้คงจะสูงกว่าปรกติราวสองเท่าเห็นจะได้...'
เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเท่าไร เขาสามารถยอมรับเงื่อนไขส่วนแบ่งของลอเอลได้ แต่สิ่งที่บันนี่บันนี่ค้างคาใจก็คือ ให้ตัดฉากเด็ดซึ่งจะยิ่งทำให้กริดโด่งดังออกทำไม
เพราะอะไรกันนะ บันนี่บันนี่ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จนในที่สุด เขาก็เริ่มเข้าใจความคิดของลอเอลได้บ้างแล้ว
'นั่นสินะ... ตอนนี้กริดถูกตราหน้าว่าเป็นคนฆ่าองค์ชายเร็น'
ในสถานการณ์เช่นนี้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีวิดีโอที่กริดอภัยโทษองค์ชายเร็นถูกเผยแพร่ออกไป
'...คนจะยิ่งคิดว่า กริดหักหลักองค์ชายและส่งคนตามไปลอบสังหาร'
จะเกิดความเข้าใจผิดตามมาอีกมากแน่
'ในความเป็นจริง ยังไม่มีหลักฐานว่าใครกันแน่เป็นคนฆ่าองค์ชายเร็น... ถ้าหากวิดีโอนี้เผยแพร่ออกไปและกริดพยายามอธิบายกับทุกคน บางที เขาอาจแก้ไขความเข้าใจผิดนั้นได้'
แต่ก็อย่างที่ว่า หลายคนหลากความคิด อาจยังมีคนที่ไม่เชื่อกริดและคิดว่าเขาเป็นผู้ลงมืออยู่ดี
'นั่นสินะ... ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องไปยุ่งกับเหตุการณ์ซึ่งสงบลงไปแล้ว'
บันนี่บันนี่ตีความออกทันที หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือตัดต่อวิดีโออีกครั้ง
สองวันถัดมา
วิดีโอสงครามระหว่างกริดและองค์ชายเร็นที่มีความยาวเก้าชั่วโมงถูกแพร่ภาพทางอินเทอร์เน็ตในช่องของบันนี่บันนี่ จำนวนผู้ชมหลั่งไหลเข้ามาอย่างล้นหลามจนแม้แต่ตัวบันนี่บันนี่เองก็ยังคาดไม่ถึง
=== สุดยอด... อัศวินที่ชื่อลาเด็นคนนั้น แม้จะยังหนุ่ม แต่กลับมีฝีมือและความจงรักภักดีอยู่ในระดับที่น่าขนลุก เขายอมสละชีวิตเพื่อให้ลอร์ดของตนปลอดภัย...
=== เอ็นพีซีพิเศษสินะ? ผู้เล่นธรรมดาอย่างเราๆ คงไม่มีโอกาสได้พบแน่นอน...ㅋ
=== ชักสเล่ย์เป็นของจริง สมกับสมญานามนักดาบผู้ยิ่งใหญ่
=== นั่น! กริด! เขามาแล้ว!
=== มันบ้ามาก; ดูกริดทำเข้าสิ;;;
=== เจ๋งโคตร... เขารับมือกับชักสเล่ย์ได้อย่างสูสี ไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างนี้ก็ปล่อยให้ทหารของเรย์ดันอัพเลเวลกับทัพหลวงไปเรื่อยๆㅋㅋ
=== ฉันละสายตาไม่ได้เลย
=== ตั้งแต่เมื่อครั้งสู้กับอัศวินสีชาดแล้วนะ ฝีมือการควบคุมของกริดดีขึ้นมากเลยทีเดียว
=== เห็นด้วย ทำเอาเมื่อครั้งงานแข่งนานาชาติและสงครามไรน์ฮาร์ทเทียบไม่ติด
=== ฝ่ามือสีทองนั่น พวกมันคืออะไรกันแน่... ;;
=== กริดคิดจะทำอะไร ㅋㅋㅋ เขาคิดจะสร้างกองทัพด้วยพลังแห่งไอเท็มขึ้นมารึไงㅋㅋㅋㅋㅋ
=== ในที่สุด พี่กริดสุดหล่อก็ใช้ร่างมืดสักที
=== แต่ฉันชอบร่างผมขาวมากกว่านะ
ในอดีต มีผู้คนมากมายที่ไม่ชอบหน้ากริดเอาเสียเลย คนส่วนใหญ่ไม่ชอบผู้เล่นที่ไร้ฝีมือแต่ใช้ไอเท็มราคาแพงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทว่า นั่นเป็นเรื่องราวในสมัยก่อน
ผู้คนหลงรักกริดมากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนของคิดที่คิดว่า <สักวันฉันจะเป็นแบบกริดให้ได้> เริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้น
=== เอ๋?
ผู้ชมที่กำลังตื่นเต้นพลันเงียบสงัดพร้อมกัน หลังจากจบสงครามระหว่างกริดกับองค์ชายเร็น ภาพก็ตัดไปยังฮูเร็นและทหารอีก 2,000 นาย นับตั้งแต่กล้องจับภาพ ฮูเร็นก็เอาแต่พูดว่า ตนจะต้องแก้แค้นกริดให้ได้ในวันนี้ จนกระทั่งกองทัพหลวงเคลื่อนพลลงจากภูเขาอัลเทส
=== ชาวนา?
ใช่แล้ว มีชาวนาสองคนมาขวางทางกองทัพไว้ คนดูต่างพากันสับสนในสิ่งที่เห็น
=== ชาวนาพวกนี้คิดจะทำอะไร ㄷㄷ
=== มาขวางกองทัพไว้... จะฆ่าตัวตายงั้นหรือ
=== น่าสงสารฉิบ...
ทุกคนต่างคิดตรงกันหมด ชาวนาสองคนนี้ซวยเข้าแล้ว แต่ความจริงคืออะไรรู้ไหม กลับกลายเป็นว่า อีกเพียงไม่กี่อึดใจ กองทัพทั้ง 2,000 คนจะถูกชาวนาเพียงคนเดียวทำลายลงอย่างราบคาบ
คนที่ผู้ชมควรห่วง คือฝั่งของฮูเร็นมากกว่า
ฉึก
"แอ่ก!"
ฉึก
"แค่ก!"
ฉึก
"อ๊ากกก!"
"..."
ณ ตอนนี้ จำนวนผู้ชมออนไลน์ของบันนี่บันนี่เพิ่มขึ้นเป็น 300,000 คนอย่างน่าตกตะลึง จากการพูดกันปากต่อปากถึงความสนุกตื่นเต้นในการต่อสู้ระหว่างกริด ดยุคของอาณาจักร์ และเร็น องค์รัชทายาท ความสนใจของผู้ชมทั่วโลกต่างหลั่งไหลมายังช่องของบันนี่บันนี่อย่างไม่ขาดสาย
คนจำนวนกว่าสามแสนกำลังได้เห็นเต็มสองตาว่า ฮูเร็นผู้พร่ำบอกตลอดทางว่าจะล้มกริดให้ได้ ถูกชาวนาใช้คราดเล็กแทงไปยังหน้าผากได้สามครั้งติดต่อกัน และเพียงไม่นานก็หมดสภาพต่อสู้ เหตุการณ์ตรงหน้าเลวร้ายยิ่งกว่าตำนานบทเดิมของมัน <ล็อกเอาท์ในห้าวินาที> เสียอีก
เกิดเป็นความฮือฮาไปอีกหลายวัน ข่าวและบทความที่เกี่ยวกับกริดถูกตีพิมพ์นับไม่ถ้วนทั้งในเกาหลีใต้และทั่วโลก
<ดยุคกริดมีทหารที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในมือ!!>
<ชาวนาเสียสติของเรย์ดันไม่ใช่ข่าวลือ เขามีตัวตน!>
<แม้แต่ชาวนาก็ยังแข็งแกร่งขนาดนี้... พลังที่แท้จริงของเรย์ดันจะอยู่ในระดับไหนกันแน่>
"สงครามครั้งนี้ยังไม่ใช่พลังทั้งหมดของดยุคกริด เขายังมีทั้งจิสึกะ เรกัส ป็อน และสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นที่ยังไม่ได้ออกโง"
"พลังอำนาจของกริดจะต้องสูงกว่าที่พวกเราเห็นแน่นอน"
สื่อและนักวิชาการทั่วโลกต่างไม่ได้เพ่งเล็งแค่พลังส่วนตัวของกริด แต่ยังรวมไปถึงพลังอำนาจทั้งหมดที่อยู่ในมือ พวกเขาคาดการณ์กันว่า กริดน่าจะแข็งแกร่งกว่านี้สักสองหรือสามเท่า ช่างน่าขันนัก สองหรือสามเท่างั้นหรือ ถ้าหากรวมยูร่าและกิลด์ซิลเวอร์ไนท์เข้าไปด้วยล่ะก็ พลังที่แท้จริงของกริดจะสูงกว่านี้ถึงสิบเท่า!
และแม้กระทั่งตอนนี้
กริดกำลังจะเติบโตขึ้นไปอีกก้าวโดยที่แม้แต่เขาก็ไม่รู้ตัว
"ฉันจะสร้างโบสถ์รีเบคก้าในเรย์ดัน"
สันตะปาปาองค์ที่ 14 ดาเมี่ยน ผู้เล่นคนแรกของโลกที่กลายเป็นสันตะปาปา ทันทีที่รับตำแหน่ง ภารกิจแรกของดาเมี่ยนคือการสร้างโบสถ์ขึ้นในเรย์ดัน
***
ณ ทุ่งข้าวอันกว้างใหญ่ของเรย์ดัน
ฮูเร็นต้องก้มหน้าก้มตาทำฟาร์มเป็นเวลากว่าหนึ่วชั่วโมงติดต่อกันแล้ว ไม่มีช่วงเวลาให้พักหายใจเลยสักนิด โดยตลอดเวลา จะมีคำแนะนำที่จู้จี้จุกจิกของปิอาโร่ดังขึ้นไม่ขาดสาย
"เวลาก้มหลัง ห้ามงอเข่าเด็ดขาด!"
แถมยังมีเงื่อนไขที่ยุ่งวุ่นวายอีกมาก ในที่สุด ฮูเร็นซึ่งกำลังเหนื่อยล้าสุดขีดได้ออกอาการไม่พอใจ
"ไม่ให้งอเข่าในตอนที่ก้มตัวลงเนี่ยนะ นี่คือการทรมาณรูปแบบใหม่รึไง!"
"งานหนักสามารถหล่อหลอมผู้คนให้แข็งแกร่งได้เสมอ หากทำแต่งานสบาย นอกจากร่ายกายจะไม่พัฒนาแล้ว ในอนาคตจะมีแต่ผลเสียตามมา"
"...เข้าใจแล้ว"
ฮูเร็นไม่เข้าใจสถานการณ์เลยสักนิด นี่เขาเป็นเชลยศึกไม่ใช่หรือ แต่เหตุใด ปิอาโร่ถึงคอยฝึกฝนและสั่งสอนอยู่ตลอดเวลาแทนที่จะใช้แรงงานอย่างทารุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง <★ภารกิจลับ★การฝึกฝนอันแสนเพลิดเพลินและสนุกสนาน!> ซึ่งมีรางวัลตอบแทนในระดับสูง
"ทำไมนายถึงดีกับฉันนัก หรือคิดจะทำให้ฉันกลายเป็นลูกน้องของกริด ถ้าเป็นเรื่องนั้น อย่าเสียเวลาเปล่าเลยน่า เป้าหมายของฉันมีเพียงสิ่งเดียว คือการเอาชนะกริดให้ได้ภายในสี่วินาที"
ปิอาโร่ตอบกลับมาด้วยสีหน้าราบเรียบ
"หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ ฉันมีแผนจะเดินทางไปยังภูเขาอัลเทสเพื่อบุกเบิกจุดทำฟาร์มใหม่ เพื่อการนั้นแล้ว แรงงานของฉันจะต้องมีประโยชน์ทุกคน"
"...ชิ นั่นสินะ นึกแล้วว่านายคงไม่ได้สอนฉันอย่างไร้เหตุผล"
ฮูเร็นบ่นอุบอิบก่อนจะทำตามคำแนะนำของปิอาโร่แต่โดยดี นั่นเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เมื่อรู้สึกท้อ มันก็ปลอบใจตนเองทุกครั้งด้วยการอ่านรางวัลตอบแทนภารกิจ
ในขณะที่ฮูเร็นกำลังจะก้มหน้าลงไปปลูกข้าวตามปรกติ
"ไม่เจอกันนานเลยนะพี่ชาย"
ชายคนหนึ่งที่ปกปิดใบหน้าด้วยหมวกฟางได้ปรากฏตัวขึ้น เขาเดินลัดผ่านฟาร์มข้าวและตรงเข้ามาทักทายปิอาโร่อย่างเป็นกันเอง
"นายพัฒนาขึ้นมากเลยนี่!"
ปิอาโร่ ชาวนาเสียสติคนนี้ได้เริ่มโจมตีผู้คนอย่างไร้เหตุผลอีกแล้ว
'ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ก็อดสงสารแทนไม่ได้แฮะ'
ฮูเร็นได้แต่ส่ายศีรษะ ชายลึกลับสวมหมวกฟางตรงหน้า ชายผู้โง่เขลา ได้ถูกปิอาโร่โจมตีใส่ทันทีที่ทักทายเสร็จ ไม่ให้เรียกว่าเสียสติแล้วจะมีคำใดอธิบายได้อีก คราดเล็กในมือปิอาโร่ทั้งเร็วและเดาทิศทางได้ยาก แม้กระทั่งออร่ามาสเตอร์อย่างตนยังจนปัญญา ชายหมวกฟางคนนี้ก็คงไม่รอดแน่นอน
แต่ผลกลับออกมาตรงกันข้าม
เคร้ง!
ดาบสีขาวที่ส่องประกายเจิดจ้าได้บล็อคคราดเล็กไว้อย่างแม่นยำ
"เชี่ย..."
คราดเล็กของชาวนาเสียสติถูกบล็อคได้ยังไง ในขณะที่ฮูเร็นยืนสับสน ปิอาโร่ก็พูดขึ้นด้วยท่าทีเป็นกันเอง
"นายสามารถก้าวข้ามตัวฉันในอดีตไปได้แล้ว...!"
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา มีชายเพียงสองคนเท่านั้นที่ทำให้ปิอาโร่รู้สึกถึงอันตรายได้ หนึ่งคือลอร์ดของเขา ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า กริด และอีกคนก็คือ นักดาบสีขาว ครอเกล ใช่แล้ว ตัวตนของชายปริศนาสวมหมวกฟางคือครอเกล ผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว
"ในตอนนี้ ฉันกำลังติดอยู่ที่กำแพงด่านสุดท้ายของเป้าหมายสูงสุด เพื่อที่จะพังกำแพงนั้นลงให้จงได้ ฉันขอท้าพี่ชายดวลหนึ่งต่อหนึ่งอย่างชอบธรรม"
จุดสูงสุดของผู้เล่นสองพันล้านคน ตัวตนพิเศษที่ครอบครองสมญานามล้ำค่าไว้กับตัวมากมาย
เขาคิดที่จะก้าวข้ามผู้เล่นทั่วโลกไปอีกครั้ง
โดยในวันนี้นี่เอง
กริดและครอเกลจะได้พบกันเป็นหนแรก นับเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งจะพลิกชะตาชีวิตของคนทั้งสองไปตลอดกาล
มันมากกกกก
ReplyDeleteค้าง รอลุ้นพรุ่งนี้
ReplyDeleteรักแรกพบทีงี้5555
ReplyDelete55555
Deleteอาจารย์ของนายน้อยลอร์ดสินะ
ReplyDelete