จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 363
เกาะหมายเลข 25 ค่อนข้างเล็กและโทรม เป็นเกาะที่กว้างเพียง 10 พยองและมีต้นปาล์มประจายอยู่ทั่ว กริดก้มลงไปมองสติกส์ที่นอนอยู่ใต้ร่มเงาพร้อมกับพูดขึ้น
"ถ้านายยังอยากมีชีวิตอยู่ ก็รีบบอกสูตรผลิตยากับฉันมาเร็วเข้า"
"แค่ก… แค่ก..."
สติกส์หายใจหอบหืดพร้อมกับเหงื่อที่โซมกาย อาการของเขาแย่มากจนมิอาจเปล่งเสียงออกมาได้ถนัด กริดลองนำโพชั่นชนิดต่างๆ ที่พกติดตัวมาด้วยให้สติกส์ดื่ม แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเลยสักนิด
ภูติช่วยเหลืออย่างบีนี่กำลังสั่นระริกด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"ท่านผู้ท้าทาย! ได้โปรดใช้พรสวรรค์ของท่านช่วยสติกส์ด้วย!"
เขาจะทำยังไงดีนะ หากเป็นกริดในอดีตคงสติแตกจนทำอะไรไม่ถูก แต่หลังจากสู้กับครอเกลและผ่านบททดสอบมากมายของหมู่เกราะเบเฮ็น สติปัญญาของชายนหนุ่มดูเหมือนจะกระเตื้องขึ้นบ้างแล้ว เขาใช้ปัญญาที่ได้รับมาเพื่อขบคิดแก้ไขปัญหาตรงหน้า
"เชื่อมือฉันแล้วรออยู่ที่นี่"
กริดปลอบใจบีนี่พร้อมกับชักดาบเล่มหนึ่งออกมา
[ ดาบแห่งลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ ]
ดาบหายากที่จะมอบให้เฉพาะดยุคของอาณาจักรเท่านั้น มันจะช่วยเพิ่มทั้ง
ค่าวิสัยทัศน์ ความน่าเกรงขาม และความเป็นผู้นำให้ผู้สวมใส่ แถมยังมีทักษะสำรวจตัวละครที่ช่วยให้ทราบรายละเอียดเชิงลึกของเอ็นพีซีเป้าหมาย
'สติกส์… ถ้านายอยากมีชีวิตรอดจริง ได้โปรดช่วยบอกใบ้อะไรด้วยเถอะ'
[ ท่านใช้ทักษะสำรวจตัวละคร ]
ชิ้ง~
========================
ชื่อ : สติกส์
อายุ : 881 ปี
เพศ : ชาย
เผ่าพันธุ์ : เอลฟ์
ตำแหน่ง : จอมปราชญ์
สมญานาม : ดวงดาวแห่งปัญญา
* ทั้งฉลาดและมีจิตใจเมตตา ภูมิปัญญาของเขานั้นยิ่งใหญ่นัก
* เนื่องด้วยปลีกตัวจากโลกใบนี้มานานแล้ว ทำให้ความรู้ที่มีล้วนเป็นของเก่าทั้งหมด
___________________________
เลเวล : 401
พละกำลัง : 403 (▼)
ความอดทน : 880 (▼)
ความว่องไว : 1,201 (▼)
สติปัญญา : 1,930 (▼)
ภูมิปัญญา : 2879 (▼)
ความน่าหลงไหล : 2,490 (▼)
___________________________
รายการทักษะ :
- การยิงธนู (B)
- สังคมศาสตร์ (B▼)
- วิศวกรรมศาสตร์ (B▼)
- เภสัชศาสตร์ (B▼)
- มนุษย์ศาสตร์ (B▼)
- ศิลปศาสตร์ (S)
- ศาสตร์เวทย์มนต์ (S)
- ศาสตร์เกี่ยวกับธรรมชาติ (S▼)
- วิทยาศาสตร์พื้นฐาน (S+)
- การเรียนรู้ (SS)
- การให้ความรู้ (SS)
___________________________
ไฮเอลฟ์ที่มีสายเลือดชั้นสูงติดตัว
เดิมทีเขามีอายุไขที่ใกล้เคียงกับชีวิตนิจนิรันดร์มาก แต่ในระหว่างที่ทำการปกป้องต้นไม้โลก เขาได้ถูกคำสาปความโกรธเกรี้ยวจากมังกรจอมเขมือบ<เรย์เดอร์ส>เข้า จนทำให้ต้องติดโรคร้าย
* ส่งผลให้ค่าสถานะทุกชนิดกำลังลดลงเรื่อยๆ
========================
ต้นไม้โลกนั้นตั้งอยู่ในเขตป่าเอลฟ์ หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ สติกส์คือผู้ที่มาจากป่าเอลฟ์ เหตุใดสติกส์ถึงมาอยู่ที่หมู่เกาะเบเฮ็นได้ กริดครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองบีนี่
"ทำไมสติกส์ถึงมาที่หมู่เกาะเบเฮ็น นั่นเกี่ยวข้องอะไรกับโรคร้ายที่ติดจากเรย์เดอร์สรึเปล่า"
"ใช่แล้ว จุดประสงค์หลักที่สติกส์มาที่นี่ก็เพื่อรักษาโรคร้าย!"
"ตัวยาหาได้จากเกาะแห่งนี้เท่านั้นหรือ"
"เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้ ตั้งแต่มาที่นี่ก็เห็นสติกส์กินแต่มะพร้าวสีน้ำเงิน… หรือว่า!"
"ไอ้นั่นแหละ"
สิ่งนั้นจะช่วยบรรเทาอาการของสติกส์ได้ กริดกวาดสายตาไปมองดงต้นปาล์มรอบเกาะอีกครั้ง ลูกมะพร้าวสีน้ำเงินกำลังละลานตาเต็มไปหมด กริดสั่งให้หัตถ์เทวะไปเก็บมะพร้าวและนำมามอบให้สติกส์
"ช่วยใจเย็นแล้วกินนี่เข้าไปก่อนได้ไหม"
เมื่อสติกส์ได้เห็นมะพร้าวสีน้ำเงิน เขาก็พยายามพะงาบปากเพื่อกล่าวบางสิ่ง
"น--นั่น… ถ้ามีใบของต้นไม้โลกด้วยล่ะก็..."
"นำมาผสมกันใช่ไหม"
สติกส์พยักหน้า กริดไม่รีรอ เขารีบผ่าเปลือกมะพร้าวออกและหันไปถามบีนี่
"ใบของต้นไม้โลกอยู่ที่ไหน"
"เดี๋ยวกระผมหาให้เอง!"
บีนี่รื้อค้นชุดคลุมของสติกส์ทุกซอกทุกมุม เพียงไม่นานก็หยิบใบไม้สีเขียวออกมาและยื่นให้กริด
[ ท่านได้รับไอเท็ม <ใบของต้นไม้โลก> จำนวนหกใบ ]
========================
[ ใบของต้นไม้โลก ]
ใบไม้ที่ร่วงโรยจากต้นไม้โลกซึ่งพยายามปกป้องธรรมชาติมาโดยตลอด พวกมันจะไม่มีวันเหือดแห้งแม้ว่าจะผ่านไปเป็นร้อยปีก็ตาม
___________________________
น้ำหนัก : 0.1
========================
"สัดส่วนการผสมคือเท่าไร"
สติกส์ยกขึ้นหนึ่งนิ้วเพื่อตอบคำถามกริด ชายหนุ่มรีบนำใบต้นไม้โลกมาใส่ในลูกมะพร้าวที่เปิดฝาไว้ ทันใดนั้น ปรากฏการณ์ที่น่าตกตะลึงก็บังเกิด สีของน้ำมะพร้าวที่เคยใสได้เปลี่ยนไปเป็นเขียวมรกตอย่างงดงาม
[ ท่านสำเร็จการสร้าง <ยาแห่งปาฏิหาริย์ของเผ่าเอลฟ์> ]
[ ท่านได้รับสูตรการผลิต <ยาแห่งปาฏิหาริย์ของเผ่าเอลฟ์> ]
========================
[ ยาแห่งปาฏิหาริย์ของเผ่าเอลฟ์ ]
รักษาอาการผิดปรกติทุกชนิดในพริบตา
แม้ผลของมันจะยอดเยี่ยมมาก แต่สูตรและวิธีการสร้างกลับง่ายกว่าที่คิด ไม่ว่าใครก็ทำได้หากมีวัตถุดิบอยู่ในมือ
========================
กริดพลันตกตะลึง
'รักษาอาการผิดปรกติทุกชนิดในพริบตาเนี่ยนะ!'
เป็นยาที่ยอดมาก สมาชิกโอเวอร์เกียร์คงไม่ต้องพบกับความยากลำบากเมื่อครั้งล่าเอลฟิน-สโตนถ้าหากพวกเขามียาชนิดนี้อยู่กับตัว
'แต่ปัญหาคือจะไปหาใบของต้นไม้โลกและผลมะพร้าวสีน้ำเงินได้จากไหนบ้าง'
อึก… อึก...
คนที่ขาดน้ำมาเป็นสิบปีจะดื่มด้วยสีหน้าหิวกระหายเช่นนี้รึเปล่านะ กริดพลางขบคิดในขณะที่สติกส์ซดยาเข้าปากไม่หยุด เพียงไม่หน้าก็มีข้อความระบบแสดงขึ้นตามมา
[ ท่านสำเร็จการปฐมพยาบาลสติกส์! ]
[ เอลฟ์จะไม่มีวันลืมบุญคุณ! สติกส์จะมองท่านเป็นผู้มีพระคุณและคอยช่วยเหลือท่านนับแต่นี้ไป! ]
"แฮ่ก… แฮ่ก… ขอบคุณมาก ขอบคุณมากจริงๆ ฉันรอดชีวิตมาได้อย่างฉิวเฉียด"
สติกส์ลุกขึ้นพร้อมกับโค้งคำนับอย่างนอบน้อม
"ขอแนะนำตัว ฉันคือไฮเอลฟ์ที่ชื่อว่าสติกส์ ไม่ทราบว่าชื่อของท่านผู้มีพระคุณคือ..."
เมื่อสีหน้ากลับมาเป็นปรกติ ออร่าความสง่างามของสติกส์ได้ส่องประกายเจิดจ้าขึ้นจากเดิมหลายเท่า เขามีความงามบนใบหน้าที่ไม่แพ้ยูร่าหรือจิสึกะเลยแม้ว่าจะเป็นเพศชายก็ตาม
"กริด"
ชายหนุ่มตอบกลับอย่างสั้นห้วน
"ท่านคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าใช่ไหม"
"ถูกต้อง นายรู้ได้ยังไง"
สติกล์หยิบลูกแก้วเวทย์มนต์โปร่งใสออกมา
"กระผมเฝ้ามองท่านจากสิ่งนี้มาตลอดจนได้พบความจริง ทั้งวิชาดาบที่ทรงพลังรุนแรง ทั้งของวิเศษติดตัวมากมาย และทักษะการตีเหล็กอันเหนือชั้น… เมื่อรวมทุกสิ่งเข้าด้วยกัน มีบุคคลเพียงผู้เดียวในโลกที่เข้าข่ายนี้"
กริดพยักหน้าเบาๆ และถามต่อไป
"หอเกียรติยศที่ปนเปื้อนหมายถึงอะไร"
"กระผมหมายถึงสภาพของหมู่เกาะเบเฮ็นในปัจจุบัน เดิมทีหมู่เกาะเบเฮ็นเคยถูกเรียกว่าหอเกียรติยศมาก่อน"
"หอเกียรติยศ..."
"สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเหล่าตำนานเคยใช้นัดพบปะกัน..."
ดวงตาของสติกส์พลันส่องประกายในยามที่จ้องมองกริด
"มันคือสถานที่แห่งการสืบทอด พลังของตำนานรุ่นก่อนจะถูกถ่ายทอดมายังตำนานรุ่นใหม่ การที่ท่านเดินทางมาที่นี่จะต้องเป็นโชคชะตาอย่างแน่นอน"
"อะไรนะ..."
เป็นคำตอบที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ข้อความระบบได้แสดงขึ้นทันทีในเวลาเดียวกัน
[ ภารกิจคลาสเกรดเลเจนดารี <หอเกียรติยศ> ถูกสร้างขึ้น ]
[ ภารกิจคลาสเกรดเลเจนดารี <หอเกียรติยศ> เปลี่ยนชื่อเป็น <★ภารกิจลับ★ หอเกียรติยศที่ปนเปื้อน> ]
***
อดีตสมาชิกเซดาก้าห์รวมไปถึงยูร่า ฮิวรอย และพีคซอร์ดต่างกำลังพัฒนาตนเองอย่างก้าวกระโดด พวกเขาทั้งหมดจับกลุ่มกันออกล่าเมืองแวมไพร์ซ้ำไปมาจนตารางอันดับเลเวลระดับโลกเกิดการพลิกผันในทุกวัน
โดยเฉพาะแหวนแวมไพร์นั้นส่งผลมหาศาลมาก ไม่เหมือนกริดที่มีแหวนโดรันและเอฟเฟคจากเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยฟื้นฟูพลังชีวิต ผู้เล่นทั่วไปต่างโหยหาไอเท็มดูดเลือดแทบขาดใจ
"ไปเมืองถัดไปกันเถอะ"
ณ เมืองแวมไพร์ลำดับสิบ ราวสองเดือนก่อน กริดได้พบกับดวงวิญญานบราฮัมที่นี่ เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างก้มหน้าเก็บเลเวลโดยไม่ได้ใส่ใจกับเมืองที่ปราศจากบอสใหญ่มากนัก ภายในใจพวกเขาต้องการศัตรูที่แข็งแกร่งเพื่อเร่งให้ตนเองมีพัฒนาการไวขึ้น
"นายท่านเคยบอกไปแล้วว่าอย่าได้คิดไปลุยเมืองแวมไพร์หลักเดียว ไม่อย่างนั้นอาจพบกับแวมไพร์ที่ชื่อแมรี่-โรสจนเกิดหายนะเอาได้"
"ไม่ต้องถึงขนาดแมรี่-โรสหรอก แค่บอสระดับเอลฟิน-สโตน พวกเราที่ไร้กริดไม่มีทางโค่นล้มได้แน่"
ฮิวรอยและพีคซอร์ดต่างไม่ประมาทและเชื่อในคำเตือนของกริด แต่คิดว่ายูร่าและอดีตสมาชิกเซดาก้าห์เป็นใครกัน พวกเขาหวังจะปืนป่ายให้ขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดเสมอ ความพึงพอใจของคนเหล่านี้ย่อมไม่เหมือนกับผู้เล่นทั่วไป
"การได้เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งคือประสบการณ์ที่ดีนะ"
"ถึงตายแล้วยังไงกันล่ะ หากได้พบกับที่ล่าใหม่เจ๋งๆ ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก แต่ถ้าหากพบศัตรูที่แข็งแกร่งเกินจนต้องตายก็ไม่อะไรที่เสียหาย อย่างน้อยก็ดีกว่าการจมปลักอยู่แต่จุดเดิมไปวันๆ สิ่งนี้คือหัวใจสำคัญของการเติบโตอยู่แล้ว"
"พวกเราในตอนนี้มีพลังมากพอจะล่าเอลฟิน-สโตนได้โดยไม่ต้องพึ่งกริด"
ชาวโอเวอร์เกียร์ล้วนพัฒนาตนเองขึ้นมาก เป็นเพราะพวกเขาได้เห็นกริดโค่นครอเกลลงอย่างเต็มสองตา ทุกคนในที่นี้เคยเยินยอให้ครอเกลเป็นฟ้าเหนือฟ้าที่ไม่มีวันก้าวข้ามได้ แต่ทันทีที่กริดพังกำแพงนั้นลง ทั้งหมดพลันตาสว่างทันที
เหตุไฉนต้องพันธนาการตนเองไว้ในกรอบความคิดด้วย ไม่ใช่ว่าประสบการณ์ใหม่ๆ จะเป็นกลายเป็นครูที่ดีหรอกหรือ
"ได้เวลาท้าทายสิ่งใหม่แล้ว"
"ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเผชิญหน้ากับแวมไพร์ที่แข็งแกร่งกว่าเอลฟิน-สโตน เพราะคราวนี้มีฉันอยู่ด้วย!"
อันที่จริง ทั้งยูร่าและจิสึกะต่างก็เข้าใจหัวอกทั้งสองฝ่าย พวกเธอไม่อยากฝ่าฝืนคำเตือนของกริด แต่อีกใจหนึ่งก็ต้องการความท้าทาย เมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งฮิวรอยและพีคซอร์ดจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไหลไปตามน้ำ
และในวันนี้นี่เอง
คณะล่าแวมไพร์ได้เริ่มต้นบุกเบิกสถานที่เก็บเลเวลแห่งใหม่ เมืองแวมไพร์ลำดับที่เก้า
***
ผ่านมาแล้ว 97 ปี
สติกส์ผู้ที่คิดเดินทางมายังหมู่เกาะเบเฮ็นเพียงเพราะต้องการมะพร้าวสีน้ำเงินพลันต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า สถานที่แห่งนี้มีทิวทัศน์สวยสดงดงามรายล้อมรูปปั้นของตำนานคนก่อนในอดีตมากมาย แถมยังมีวิหารศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอัดแน่นไปด้วยบรรยากาศแปลกประหลาด
แต่หลังจากนั้นมันก็ถูกใครบางคนแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นหมู่เกาะซึ่งเต็มไปด้วยบททดสอบ
"การที่ตำนานรุ่นปัจจุบันจะได้รับพลังระดับตำนานที่แท้จริงไปครอบครอง พวกเขาแต่ละคนต้องมาที่นี่เพื่อหาร่องรอยของตำนานคนเก่าและสืบทอดพลังนั้นต่อไป แต่ดูเหมือนบททดสอบนั้นยากเกินกว่าที่จะฝ่าฟันไปได้ตามลำพัง กระผมจึงต้องเสียสละตนเองเฝ้าคอยอยู่ที่นี่"
สติกส์รอตำนานคนที่ใช่มาโดยตลอด เขาหวังจะท่ายทอดความสำคัญที่แท้จริงของหมู่เกาะเบเฮ็นและขจัดมลพิษร่วมกันคนผู้นั้น สติกส์เฝ้าฝันถึงวันดังกล่าวคืนแล้วคืนเล่า
[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลข 29 ]
[ ที่นี่คือจุดเซฟ ท่านต้องการจะบันทึกตำแหน่งหรือไม่ ]
[ ท่านทำการบันทึกตำแหน่งเรียบร้อย นับแต่นี้ไป เมื่อท่านเข้าสู่ดันเจี้ยนหมู่เกาะเบเฮ็น จุดเริ่มต้นจะกลายเป็นเกาะแห่งนี้ ]
กริดผ่านบททดสอบมาเรื่อยๆ พร้อมกับฟังเรื่องราวจากสติกส์ ชายหนุ่มอมยิ้มและหันไปพูดกับสติกส์เมื่อเดินทางมาถึงเกาะหมายเลข 29
"ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ความพยายามของนายต้องสูญเปล่า"
กริดเห็นมากับตาแล้วว่าสติกส์มีรายการทักษะชั้นเลิศจำนวนมาก โดยเฉพาะการเรียนรู้และการให้ความรู้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีสติกส์คอยมอบความรู้ให้กับบุคคลพรสวรรค์สูงภายในเรย์ดัน หรือแม้กระทั่งการสอนสั่งบุตรชายของเขาเอง ใช่แล้ว กริดต้องการได้ตัวสติกส์ เขาถึงพยายามซื้อใจสติกส์ให้ได้มากที่สุด
"เชื่อมือฉัน"
กริดพูดขึ้นอย่างมั่นใจพร้อมกับย่างเท้าเข้าสู่ประตูมิติของเกาะหมายเลข 30
ทันใดนั้นเอง
[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลข 30 ]
[ เลเวลของท่านกลายเป็น 1 ]
"เอ๋..."
ดวงตาของกริดพลันเบิกโพลงอย่างฉงน
"นี่คือเหตุผลที่แม้แต่ฉันเองก็ยังไม่อาจผ่านเกาะหมายเลข 30 ไปได้"
สติกส์ถอนหายใจเบาๆ อย่างสิ้นหวัง
"เกาะแห่งนี้มีคำสาปรุนแรงมาก ฉันไม่อาจแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้เลย"
"..."
กริดได้แต่ขมวดคิ้ว
สนุกมากครับ ขอคุณที่แปลครับ
ReplyDeleteเวล1แล้วไง รู้จักไหมพลังแห่งไอเท็ม กริดแม่งตัวเกิดมาทำลายดันนี้ชัดๆ ใส่ของไม่จำกัดเวล สกิลกันตาย
ReplyDeleteกดเวลได้สุดมาก 555555
ReplyDeleteขอบคุณครับ
ReplyDelete