จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 355



       หลังจากเกิดความเงียบงันไปพักใหญ่

       แวนเนอร์ยืนจ้องมองไปยังจุดที่ครอเกลล็อกเอาต์ด้วยสายตาเหม่อลอย

       "พวกเราควรรออยู่ที่นี่จนกว่าครอเกลจะกลับเข้าเกมมาอีกครั้ง"

       "น่าสนใจดีนี่  ทันทีที่ออนไลน์  ก็ทำการกักตัวเขาไว้ทันที"

       "ดีล่ะ!  เปลี่ยนให้เจ้านั่นกลายเป็นแรงงานทาสของโอเวอร์เกียร์กันเถอะ"

       "โฮ่!  อันดับหนึ่งของโลกจะเข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์งั้นหรือ"

       ในขณะที่ชาวโอเวอร์เกียร์เกิดไอเดียบ้าบิ่น  กริดก็ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดสั้นๆ 
       "พอแค่นั้นแหละ  ห้ามฝืนใจเขาเด็ดขาด"

       จิสึกะพลันประหลาดใจ

       "นายไม่อยากได้ขุมกำลังรบที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นรึไง"

       เนื้อแท้ของกริดเป็นคนละโมภสุดโต่ง  หากประเมินจากนิสัยในจุดนั้น  มีความเป็นไปได้สูงมากที่กริดจะทำทุกวิธีเพื่อให้ครอเกลเข้าร่วมกิลด์  จิสึกะจึงอดแปลกใจกับท่าทีในปัจจุบันของเขาไม่ได้

       'หรือกริดจะไม่ชอบหน้าครอเกลกันนะ'

       กริดพูดต่อไปเพื่อคลายข้อสงสัยของทุกคน
       
       "มิตรสหายไม่ใช่สิ่งที่ได้มาจากการบีบบังคับ  ฉันพูดถูกไหม"

       แน่นอนว่าเคยมีใครบางคนที่เข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์อย่างไม่เต็มใจนัก  หนึ่งในนั้นคือลอเอล  เขาไม่ชอบชื่อกิลด์เอาเสียเลย  แต่ลอเอลก็มีความกระหายในไอเท็มอย่างแรงกล้าเป็นทุนเดิม  แตกต่างจากครอเกลที่แม้จะแสวงหาความแข็งแกร่ง  ทว่าเขาก็ไม่ชอบอยู่รวมกับผู้อื่นเป็นหมู่คณะ

       หากฝืนดันทุรังให้ครอเกลเข้ากิลด์โดยไม่เต็มใจ  เขาจะกลายมาเป็นมิตรแท้ได้จริงหรือ

       "แถมฉันก็มีเพื่อนที่สุดยอดอย่างพวกนายอยู่แล้ว  ไม่เห็นจำเป็นต้องมีครอเกลเลยสักนิด  ดังนั้นอย่าไปยึดติดกับเขามากนักเลย"       

       นั่นไม่ใช่คำพูดเสแสร้งเพื่อให้ดูดี  กริดรู้สึกจากใจจริงว่าเขาสามารถไปถึงเป้าหมายได้ด้วยพวกพ้องที่มีในปัจจุบัน  ดังนั้นการเสียครอเกลในคราวนี้ไม่ทำให้เขารู้สึกแย่สักเท่าใด  

       ยิ่งไปกว่านั้น  ภายใจกริดต้องการให้ครอเกลเป็นตัวตนที่มีความหมายอย่างอื่นมากกว่า

       'ครอเกล'       

       จงเติบโตขึ้นบนเส้นทางที่นายเลือกเดิน  จงกลายเป็นอิรยะดาบให้ได้  และเมื่อถึงวันที่เราต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้ง

       'จงทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นไปอีก'

       กริดได้รับประสบการณ์ล้ำค่ามากมายในการต่อสู้กับครอเกลที่ผ่านมา  ทั้งวิธีรับมือกับทักษะล็อคเป้า  วิธีหลบหลีกทักษะไม่ล็อคเป้า  วิธีการบริหารมานา  วิธีการใช้ไอเท็มและทักษะ  รวมไปถึงการใช้ภูมิประเทศ  กริดสามารถจดจำทุกการเคลื่อนไหวและการตัดสินใจของครอเกลไว้ได้ทั้งหมด

       'แน่นอนว่าเราคงเลียนแบบเขาไม่ได้'

       แต่กริดก็เชื่อมั่นว่า  หากเขาฝึกซ้อมและทุ่มเทความพยายามมากขึ้น  สักวันจะลดระยะห่างจากครอเกลลงได้แน่

       ใช่แล้ว  กริดต้องการปล่อยให้ครอเกลกลายเป็นตัวตนคู่ปรับตลอดกาล  ไอ้งั่งคนหนึ่งคิดจะเทียบฝีมือกับอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลกงั้นหรือ  หากใครมาได้ยินคงหัวเราะจนฟันร่วงแน่  แต่กริดก็ไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่เฟ้อฝัน  เขามีความทระนงในศักดิ์ศรี  แม้โลกภายนอกจะโหดร้ายเช่นไร  ทว่าในซาทิสฟายนั้นตรงกันข้าม  เขาคือตัวตนอันแสนพิเศษบนโลกใบนี้  เขาคือชายที่เพิ่งโค่นฟ้าเหนือฟ้าลงได้  แม้จะอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ก็ตาม  แต่ความมั่นใจนั้นก็ทำให้กริดรู้สึกว่าตัวเขามีดีพอจะเป็นคู่ปรับตลอดกาลของครอเกล
       
       ***

       จิสึกะที่เดินทางกลับปราสาทพร้อมกับกริดได้ถามขึ้น

       "ทำไมนายถึงไม่ติดต่อพวกเราในตอนที่รู้ว่าถูกกองทัพองค์ชายเร็นบุก  นายเข้าใจความรู้สึกของฉันรึเปล่าว่ามันแย่แค่ไหน  ที่ต้องได้ยินข่าวเมืองตัวเองโดนบุกจากในทีวีน่ะ"

       "พวกเธอกำลังมีสมาธิอยู่กับการล่าแวมไพร์  ฉันก็เลยไม่อยากรบกวน  แล้วก็คิดว่าเรื่องนี้สามารถแก้ปัญหาได้ตามลำพังแค่ฉันกับลอเอล"

       "ถ้ามีเรื่องร้ายแรงก็ต้องรีบติดต่อพวกเราสิ!  ถ้าหากนายเกิดอันตรายขึ้นมาแล้วฉันจะทำยังไง!"

       "..."

       หากเป็นกริดในอดีตคงพูดว่า        
       'ถ้าฉันจวนตัวจริง  เดี๋ยวก็ใช้ทักษะอัญเชิญอัศวินเรียกมาเองแหละน่า'

       แต่กริดในตอนนี้กลับคิดอย่างอื่น  เขาก้มหัวลงและขอโทษจิสึกะจากใจ

       "ขอโทษที่การตัดสินใจของฉันทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ"

       ไม่ใช่เพราะกริดคิดว่าคนพวกนี้ไร้ประโยชน์  แต่เขาไม่ต้องการรบกวนเวลาอันมีค่าของแร้งเกอร์ที่กำลังพยายามทำอันดับโลก  เพียงแค่สติปัญญาของลอเอลก็มากพอจะรับมือกับปัญหาได้แล้ว  กริดทำทุกสิ่งลงไปด้วยเจตนาหวังดีอย่างแท้จริง  แต่ถึงกระนั้นเขาก็กล่าวคำขอโทษกับจิสึกะด้วยสายตาสำนึกผิด  ทำเอาจิสึกะนิ่งอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

       'ฉันรับมือเขาได้ยากขึ้นทุกวัน'

       ก่อนหน้านี้กริดยังมีจุดอ่อนและมุมเด็กน้อยให้เธอใช้เล่นงานได้บ้าง  แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะถูกลบล้างออกไปจนหมดแล้ว  ตั้งแต่เขาเป็นพ่อคน  การวางตัวและความรับผิดชอบก็สูงขึ้นจนน่าตกตะลึง  จุดอ่อนที่เคยมีค่อยๆ จางหายไปทีละนิด

       จิสึกะรู้สึกชื่นชอบกริดในปัจจุบันมาก

       'ถ้าเขาอายุย่าง 30 เมื่อไร  จะต้องกลายเป็นชายหนุ่มที่ดูอบอุ่นและพึ่งพาได้มากแน่'

       เธออยากจะพบกับกริดในวัยกลางคนใจแทบขาด  ในขณะที่จิสึกะกำลังจมอยู่กับมโนภาพในจินตนาการ  ลอเอลก็เดินเข้ามาหากริดพร้อมกับขอโทษอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

       "ฉันขอโทษ"
       
       "เกิดอะไรขึ้น"

       "เอ่อ..."

       ลอเอลสารภาพออกไปตามจริง

       "เมื่อได้เห็นนายในสงครามกับองค์ชายเร็นก่อนหน้านี้  ฉันยังรู้สึกว่านายมีข้อบกพร่องในการต่อสู้อีกมาก  แต่ว่านั้นกลับไม่จริงเลย  นายสามารถเอาชนะฟ้าเหนือฟ้าคนนั้นมาได้  ขอโทษที่ดูนายผิดไป  และสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก"

       หลังจากงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่หนึ่ง  ลอเอลได้เข้ามาเป็นมือขวาของกริด  แม้จะผ่านมาแล้วสิบเดือนเต็มในชีวิตจริง  แต่เขาก็ไม่เคย<อิจฉา>หรือ<เคารพ>ในฝีมือการต่อสู้ของกริดเลยแม้แต่ครั้งเดียว  ทว่าความรู้สึกนั้นกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล  แววตาของลอเอลอัดแน่นไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย

       "ตัวฉัน... ลอเอล  หลังจากนี้ขอเลิกติดตามนายเพียงเพราะไอเท็มเฉกเช่นอดีต  ในอนาคตนับแต่นี้เป็นต้นไป  ฉันขอติดตามนายด้วยความจงรักภักดีโดยปราศจากความเคลือบแคลงสงสัย  นี่คือคำสัตย์จากดวงวิญญานของฉันในทุกชาติภพไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน"

       กริดและชาวโอเวอร์เกียร์ต่างพากันขนลุกให้กับคำสาบานของลอเอล  มือเท้าของพวกเขาล้วนหดเกร็งอย่างกระอักกระอ่วน  เหงื่อไคลไหลซึม  บรรกาศอึดอัดคละคลุ้ง  มีเพียงฮิวรอยเท่านั้นที่กำลังสั่นระริกไปด้วยความขนลุก

       ***

       ย้อนกลับไปในขณะที่กริดเพิ่งจะสังหารเอลฟิน-สโตนลงได้

       『สันตะปาปาองค์ใหม่ถูกแต่งตั้งแล้วครับ!  แถมยังเป็นผู้เล่นอีกด้วย!  เป็นคนญี่ปุ่นครับ!』

       ชาวญี่ปุ่นต่างพากันโห่ร้องยินดี       

       ดาเมี่ยน  ตัวตนอันแสนพิเศษที่สามารถก้าวไปถึงอันดับสองของพาลาดินได้แม้จะมาจากโบสถ์รีเบคก้า  แต่แล้ววันหนึ่ง  ชื่อเขาก็หายไปจากตารางอันดับอย่างไร้สาเหตุ  มีข่าวลือมากมายระบุว่าเขากลายเป็นคลาสลับไปเรียบร้อยแล้ว  เป็นโอตาคุคลาสลับ

       หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นถูกเลือกให้เป็นสันตะปาปาคนล่าสุดของโบสถ์รีเบคก้า  ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากพากันตื่นเต้นดีใจและเฉลิมฉลอง  แม้ผลงานของประเทศญี่ปุ่นในงานแข่งนานาชาติหนแรกจะไม่น่าประทับใจนัก  พวกเขาไม่ได้เหรียญใดเลยสักเหรียญเดียว  แต่ในที่สุดก็มีวีรบุรุษถือกำเนิดขึ้นในประเทศของตนจนได้

       『ดาเมี่ยน!  ขอแสดงความยินดีที่ได้รับเลือกให้เป็นสันตะปาปาครับ!  ชาวญี่ปุ่นภูมิใจในตัวคุณมากทีเดียว 』 

       『ขอบคุณครับ』

       『ยากไหมครับที่กว่าจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นสันตะปาปาได้  ผู้ชมทั่วทั้งประเทศต้องการทราบรายละเอียดของเรื่องนี้  คุณผ่านบททดสอบต่างๆ นานๆ และกลายมาเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร』

       พลังอำนาจของสันตะปาปาแห่งโบสถ์รีเบคก้านั้นเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาก  ถึงขนาดที่กษัตริย์อาณาจักรเล็กๆ ยังต้องก้มศีรษะให้  สิ่งนี้จึงทำให้ชาวญี่ปุ่นต่างมีความหวังขึ้นมาทันที  ดาเมี่ยนจะใช้ตำแหน่งสันตะปาปาคอยอำนวยความสะดวกให้ชาวญี่ปุ่นได้อย่างไรบ้างนะ

       แต่ความคิดทั้งหมดก็กลายเป็นเพียงมโนภาพเมื่อดาเมี่ยนเริ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อ

       『เป็นเพราะกริด  ผมถึงกลายเป็นสันตะปาปาได้อย่างทุกวันนี้』
       
       『คุณหมายถึงช่างตีเหล็กในตำนานกริดคนนั้นน่ะหรือ  เห็นว่ามีการต่อสู้กับอัศวินสีชาดในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ของผู้สมัครลงชิงตำแหน่งสันตะปาปาด้วย  กริดเกี่ยวข้องกับคุณอย่างไรบ้างครับดาเมี่ยน 』

       『ไม่ใช่แค่เรื่องเหตุการณ์ในวันนั้น  ทว่าตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว  ผมมีโอกาสเป็นสันตะปาปาได้ก็เพราะบุญคุณของกริด』

       พักหลังมานี้  ความนิยมในตัวกริดยิ่งเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า

       โดยเฉพาะอย่างยิ่งกริดในร่างผมขาว  เสียงกรี๊ดกร๊าดที่เกิดขึ้นนั้นมากพอจะสร้างคลื่นเกาหลีใต้ลูกที่ห้าในญี่ปุ่นโดยมีกริดเป็นตัวเอก  แต่ก็มีชาวญี่ปุ่นน้อยคนนักที่ให้ความสนใจหรือฮือฮาไปกับคลื่นเกาหลีใต้

       คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจ  คำกล่าวของดาเมี่ยนจึงเหมือนกับการเทน้ำมันราดลงบนกองไฟ  ชาวญี่ปุ่นขวาจัดชาตินิยมที่เกลียดชังกริดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ยิ่งทวีความคลุ้มคลั่ง  ยิ่งดาเมี่ยนเยินยอกริด  สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลง

       "ทำไมดาเมี่ยนถึงยกความสำเร็จทั้งหมดให้กริดกันนะ"

       "เขาไม่รู้รึไงว่าญี่ปุ่นต้องเจ็บปวดเพราะกริดมากแค่ไหน"

       "กริดเป็นศัตรูของพวกเรา!  ไม่เพียงแต่จะสังหารชาวญี่ปุ่นในการแข่งซาทิสฟายหนแรกจนราบคาบ  กริดยังต่อสู้กับกิลด์ซารุกะในศึกเกาะคอร์กเมื่อหลายเดือนก่อนด้วย!"

       "อะไรกัน... ทำไมดาเมี่ยนถึงต้องยกย่องไอ้บัดซบกริดนั่นด้วย  หรือความจริงแล้วดาเมี่ยนจะเป็นพวกไซนิจิ*"

(*ชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น)

       "เป็นไปได้!  ไม่มีทางที่สายเลือดญี่ปุ่นแท้ๆ จะเป็นคนทรยศแน่!"

       ชาวญี่ปุ่นคลั่งชาติต่างพากันเกรี้ยวกราด

       ข้อความ<ดาเมี่ยนคือไซนิจิ>ได้ปรากฏบนโซเชียลมีเดียญี่ปุ่นจำนวนมาก  และยังมีข่าวลือว่าดาเมี่ยนพยายามจะทำสร้างความนิยมเกาหลีใต้ในประเทศญี่ปุ่นขึ้น  นี่เป็นผลมาจากข่าวลวงอันน่ารังเกียจที่พวกญี่ปุ่นขวาจัดสร้างขึ้น

       แต่ดาเมี่ยนก็หาได้ใส่ใจ  เขาเคยถูกล้อว่าเป็นโอตาคุมาทั้งชีวิต  เรื่องแค่นี้ไม่มีทางทำอะไรได้แน่

       『ข่าวลือกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารย์อย่างกว้างขวางครับ  แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่  คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับดาเมี่ยน 』

       『ผมเป็นญี่ปุ่นสายเลือดแท้』

       『แต่ว่านะครับดาเมี่ยน  คุณเล่นสรรเสริญกริดและเกาหลีใต้กับทุกสื่อที่ให้การสัมภาษณ์  ผู้คนมากมายจึงสงสัยว่าคุณต้องการจะทำอะไรกันแน่ 』

       『ผมไม่เคยสรรเสริญเกาหลีใต้เลยสักครั้งเดียว  ที่ผมทำไปเพราะสำนึกในบุญคุณของกริด  แต่มีบางคนตีความหมายผิดเพี้ยนไปเอง』

       『แต่ไม่ว่ายังไง  ก็ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าชื่อเสียงของคุณในประเทศค่อนข้างติดลบ  ทำไมถึงไม่ลองแก้ไขสถานการณ์โดยการสร้างโบสถ์รีเบคก้าบนดินแดนที่ชาวญี่ปุ่นปกครองดูล่ะครับ』

       『ในการจะสร้างโบสถรีเบคก้าขึ้นมาใหม่สักแห่ง  เงื่อนไขต้องเข้าข่ายตามที่กำหนดไว้ทุกประการ  ผมไม่อาจสร้างโบสถ์รีเบคก้าพร่ำเพรื่อเพียงเพราะพวกเราเป็นคนประเทศเดียวกัน』

       『ถ้าอย่างนั้นนะครับดาเมี่ยน  คุณมีแผนอย่างไรบ้างที่จะช่วยเหลือญี่ปุ่นหลังจากกลายเป็นสันตะปาปา』

       『ผมเป็นสันตะปาปาแล้วเกี่ยวอะไรกับประเทศญี่ปุ่นครับ  สันตะปาปาต้องวางตัวเป็นกลางให้ได้มากที่สุด 』

       『...เข้าใจแล้ว  ถ้าอย่างนั้นขอถามสักข้อครับ  สิ่งแรกที่คุณจะทำหลังจากได้รับตำแหน่งสันตะปาปาคืออะไร』

       『สร้างโบสถ์รีเบคก้าขึ้นในเรย์ดันครับ』

       『เดี๋ยวก่อนนะครับ  เมื่อครู่คุณยังบอกอยู่เลยว่าการสร้างโบสถ์ต้องผ่านเกณฑ์เงื่อนไขหลายประการ  เรย์ดันที่มีประชากรเพียง 20,000 ไม่น่าจะผ่านเงื่อนไขนั้นนะครับ  นี่ไม่แสดงให้เห็นว่าคุณเข้าข้างกริดอย่างออกนอกหน้างั้นหรือ』

       ฟูจิทีวี  นับเป็นสถาณีโทรทัศน์ญี่ปุ่นขวาจัดอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้  ผู้ชมส่วนมากล้วนเป็นพวกชาตินิยม  การที่ดาเมี่ยนตอบเช่นนี้ย่อมส่งผลเสียร้ายแรงมาก  

       หากเป็นคนทั่วไป  ดาเมี่ยนคงยากจะต้านทานแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากฝ่ายชาตินิยมได้  แต่เขาคือโอตาคุผู้ซึ่งเชื่อมั่นสิ่งใดแล้วจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ

       『ผมไม่ได้เข้าข้างกริดอย่างออกนอกหน้า  ทั้งหมดที่ทำลงไปก็เพื่อตอบแทนบุญคุณในอดีต  กริดคือชายผู้ที่เคยช่วยเหลือตัวผมและโบสถ์รีเบคก้าไว้  องค์เทพธิดารีเบคก้าได้กระซิบที่ข้างหูของผมทุกคืนวันว่า  จงตอบแทนกริดซะ...  จงสรรเสริญก็อดกริด!!』

       『 ... 』

       "เจ้าบ้านี่!"
       
       ฝั่งชาตินิยมต่างพากันเดือดดาลเป็นไฟลามทุ่ง  ทั้งที่ประเทศญี่ปุ่นได้ครอบครองสุดยอดพลังอยู่ในมือแท้ๆ   แต่นอกจากจะไม่ช่วยคนประเทศเดียวกันเอง  ดาเมี่ยนกลับคิดรับใช้เกาหลีใต้ศัตรูคู่อาฆาตเสียอีก  

       แผนชั่วของพวกมันจึงอุบัติขึ้น

Comments

  1. 55555 โอตาคุ นายแน่มาก สนุกมากครับ

    ReplyDelete
  2. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. กำหลีก็ไม่ธรรมดานิยายแต่ละเรื่องที่ไม่แซะญี่ปุ่นหายาก ชาตินิยมหนักกวืาญี่ปุ่นอีก ไม่เคยปล่อยวางซักทีนี้ล่ะนร้าชาติขี้ข้าสมัยก่อน

    ReplyDelete
    Replies
    1. เกือบทุกเรื่องครับมีโอกาสต่ำมากที่จะไม่เอาประเทศญี่ปุ่นมาเกี่ยวข้อง เหมือนเด็กมีปม เขียนให้ประเทศตัวเองเหนือกว่าไปซะทุกด้าน แล้วเอาญี่ปุ่นมายำเล่นให้เหมือนตัวร้าย ทั้งๆที่นิสัยคนญี่ปุ่นในนิกายเกาหลี - จีน นั้นแถบจะไม่มีความเป็นจริงเลย // ผมชอบอ่านนิยายจีน-เกาหลีนะ แต่ถ้าพวกยุคปัจจุบัน พอเอาประเทศญี่ปุ่นเข้ามาด้วยความชอบลดลงเยอะเลย เขียนข่มเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีมั้งที่สมัยก่อนโดนมาเยอะ พวกไม่รู้จักปล่อยวาง

      Delete
    2. เกาหลีคงมีปมอะคนเกาหลีอ่านคงจะฟินแต่ชาติอื่นอ่านก็คงรู้สึกอะไรจะขนาดนั้นนนนน

      Delete
    3. ใช้ทั้งจีนและเกาหลี รู้ว่าเคยทำอะไร แต่ว่าทุกคนไม่ควรจะหนักแบบนี้นะ ยกเว้นนิยายต่างโลกนิยายที่อิงมาโดยโลกจริง หากไม่ แซะญี่ปุ่น คงทำอะไรไม่ได้ละนะ บางทีก็รู้สึกแย่นะ ช่วยไม่ได้ละนะ ยังไงบางคนก็ลืมไม่ได้ หากเราโดนบางบางคนก็ปล่อยวางไม่ได้เหมือนกัน

      Delete
  4. พวกคนเขียนนิยายประเทศจีน - เกาหลี ถ้าดำเนินยุคปัจจุบัน มักจะเอาญี่ปุ่นมาเขียนเสียๆหายๆ ผมเห็นน่าจะทุกเรื่อง แซะเขาเพราะสู้ไม่ได้ แต่พอญี่ปุ่นเขียนนิดเขียนหน่อยที่ไม่ได้ตั้งใจ แม้งเป็นเรื่องใหญ่โตระดับโลกเลย รู้สึกคนเกาหลีกับจีนจะทำไรไม่ได้นอกจากแซะญี่ปุ่นเหมือนเด็กน้อย เขียนเพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าเหนือกว่าเขามั้ง ทั้งๆที่สู้อะไรไม่ได้

    ReplyDelete
    Replies
    1. ส่วนตัวสำหรับ ใครที่ไม่ชอบเรื่องเหยียด หลังๆจะไม่ค่อยเท่าไรแล้วนะครับ ใครที่เห็นเม้นแล้วหมดอารมณ์ หรือพึ่งอ่านใหม่มันจะมีแค่ช่วงนี้แหละ กับงานแข่งให้ถือว่าเป็นสีสัน อย่าไปคิดกับมันมาก เหมือน Solo leveling ที่เหยียดญี่ปุ่นเล่นซะประเทศยับเยิน มันจะมีแค่พวกขวาจัดเท่านั้นครับ พวกที่ไม่สนก็มีเยอะ ให้คิดเหมือนม็อบ กับสลิ่มอะครับ อย่าพึ่งหมดอารมณ์สนุกกันเลย ข้อเสียเรื่องนี้ก็พวกให้ประเทศอื่นมาเหยียดประเทศตัวเองเหมือนให้ประเทศอื่นผิดก็ประมาณนี้

      Delete
  5. เบื่อมังฮวาเกาหลีเพราะชอบเหยียดชอบขยี้นี่แหละ ก็รู้นะว่าสมัยสงครามโดนทำไว้หนัก แต่ผ่านมาจะร้อยปีแล้ว เหมือนเด็กมีปมอ่ะไม่โตซักที

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าไปอ่านประวัติจะรู้นะทำไมประเทษถึงเกลียดแล้วอีกอย่างนิยายเขียนให้คนประเทศเขาอ่านไม่ได้เขียนให้ประเทษอื่น​ ก็เหมือนนิยายไทยที่เขียนให้ไทยเก่งที่สุด​ ถ้าไม่ชอบก็ควรเลิกอ่านนะ

      Delete
  6. เทพธิดากระซิบให้สรรเสริญ ก็อดกริด มีลั่น🤣🤣🤣

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00