จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 355
หลังจากเกิดความเงียบงันไปพักใหญ่
แวนเนอร์ยืนจ้องมองไปยังจุดที่ครอเกลล็อกเอาต์ด้วยสายตาเหม่อลอย
"พวกเราควรรออยู่ที่นี่จนกว่าครอเกลจะกลับเข้าเกมมาอีกครั้ง"
"น่าสนใจดีนี่ ทันทีที่ออนไลน์ ก็ทำการกักตัวเขาไว้ทันที"
"ดีล่ะ! เปลี่ยนให้เจ้านั่นกลายเป็นแรงงานทาสของโอเวอร์เกียร์กันเถอะ"
"โฮ่! อันดับหนึ่งของโลกจะเข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์งั้นหรือ"
ในขณะที่ชาวโอเวอร์เกียร์เกิดไอเดียบ้าบิ่น กริดก็ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดสั้นๆ
"พอแค่นั้นแหละ ห้ามฝืนใจเขาเด็ดขาด"
จิสึกะพลันประหลาดใจ
"นายไม่อยากได้ขุมกำลังรบที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นรึไง"
เนื้อแท้ของกริดเป็นคนละโมภสุดโต่ง หากประเมินจากนิสัยในจุดนั้น มีความเป็นไปได้สูงมากที่กริดจะทำทุกวิธีเพื่อให้ครอเกลเข้าร่วมกิลด์ จิสึกะจึงอดแปลกใจกับท่าทีในปัจจุบันของเขาไม่ได้
'หรือกริดจะไม่ชอบหน้าครอเกลกันนะ'
กริดพูดต่อไปเพื่อคลายข้อสงสัยของทุกคน
"มิตรสหายไม่ใช่สิ่งที่ได้มาจากการบีบบังคับ ฉันพูดถูกไหม"
แน่นอนว่าเคยมีใครบางคนที่เข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์อย่างไม่เต็มใจนัก หนึ่งในนั้นคือลอเอล เขาไม่ชอบชื่อกิลด์เอาเสียเลย แต่ลอเอลก็มีความกระหายในไอเท็มอย่างแรงกล้าเป็นทุนเดิม แตกต่างจากครอเกลที่แม้จะแสวงหาความแข็งแกร่ง ทว่าเขาก็ไม่ชอบอยู่รวมกับผู้อื่นเป็นหมู่คณะ
หากฝืนดันทุรังให้ครอเกลเข้ากิลด์โดยไม่เต็มใจ เขาจะกลายมาเป็นมิตรแท้ได้จริงหรือ
"แถมฉันก็มีเพื่อนที่สุดยอดอย่างพวกนายอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องมีครอเกลเลยสักนิด ดังนั้นอย่าไปยึดติดกับเขามากนักเลย"
นั่นไม่ใช่คำพูดเสแสร้งเพื่อให้ดูดี กริดรู้สึกจากใจจริงว่าเขาสามารถไปถึงเป้าหมายได้ด้วยพวกพ้องที่มีในปัจจุบัน ดังนั้นการเสียครอเกลในคราวนี้ไม่ทำให้เขารู้สึกแย่สักเท่าใด
ยิ่งไปกว่านั้น ภายใจกริดต้องการให้ครอเกลเป็นตัวตนที่มีความหมายอย่างอื่นมากกว่า
'ครอเกล'
จงเติบโตขึ้นบนเส้นทางที่นายเลือกเดิน จงกลายเป็นอิรยะดาบให้ได้ และเมื่อถึงวันที่เราต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
'จงทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นไปอีก'
กริดได้รับประสบการณ์ล้ำค่ามากมายในการต่อสู้กับครอเกลที่ผ่านมา ทั้งวิธีรับมือกับทักษะล็อคเป้า วิธีหลบหลีกทักษะไม่ล็อคเป้า วิธีการบริหารมานา วิธีการใช้ไอเท็มและทักษะ รวมไปถึงการใช้ภูมิประเทศ กริดสามารถจดจำทุกการเคลื่อนไหวและการตัดสินใจของครอเกลไว้ได้ทั้งหมด
'แน่นอนว่าเราคงเลียนแบบเขาไม่ได้'
แต่กริดก็เชื่อมั่นว่า หากเขาฝึกซ้อมและทุ่มเทความพยายามมากขึ้น สักวันจะลดระยะห่างจากครอเกลลงได้แน่
ใช่แล้ว กริดต้องการปล่อยให้ครอเกลกลายเป็นตัวตนคู่ปรับตลอดกาล ไอ้งั่งคนหนึ่งคิดจะเทียบฝีมือกับอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลกงั้นหรือ หากใครมาได้ยินคงหัวเราะจนฟันร่วงแน่ แต่กริดก็ไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่เฟ้อฝัน เขามีความทระนงในศักดิ์ศรี แม้โลกภายนอกจะโหดร้ายเช่นไร ทว่าในซาทิสฟายนั้นตรงกันข้าม เขาคือตัวตนอันแสนพิเศษบนโลกใบนี้ เขาคือชายที่เพิ่งโค่นฟ้าเหนือฟ้าลงได้ แม้จะอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ก็ตาม แต่ความมั่นใจนั้นก็ทำให้กริดรู้สึกว่าตัวเขามีดีพอจะเป็นคู่ปรับตลอดกาลของครอเกล
***
จิสึกะที่เดินทางกลับปราสาทพร้อมกับกริดได้ถามขึ้น
"ทำไมนายถึงไม่ติดต่อพวกเราในตอนที่รู้ว่าถูกกองทัพองค์ชายเร็นบุก นายเข้าใจความรู้สึกของฉันรึเปล่าว่ามันแย่แค่ไหน ที่ต้องได้ยินข่าวเมืองตัวเองโดนบุกจากในทีวีน่ะ"
"พวกเธอกำลังมีสมาธิอยู่กับการล่าแวมไพร์ ฉันก็เลยไม่อยากรบกวน แล้วก็คิดว่าเรื่องนี้สามารถแก้ปัญหาได้ตามลำพังแค่ฉันกับลอเอล"
"ถ้ามีเรื่องร้ายแรงก็ต้องรีบติดต่อพวกเราสิ! ถ้าหากนายเกิดอันตรายขึ้นมาแล้วฉันจะทำยังไง!"
"..."
หากเป็นกริดในอดีตคงพูดว่า
'ถ้าฉันจวนตัวจริง เดี๋ยวก็ใช้ทักษะอัญเชิญอัศวินเรียกมาเองแหละน่า'
แต่กริดในตอนนี้กลับคิดอย่างอื่น เขาก้มหัวลงและขอโทษจิสึกะจากใจ
"ขอโทษที่การตัดสินใจของฉันทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ"
ไม่ใช่เพราะกริดคิดว่าคนพวกนี้ไร้ประโยชน์ แต่เขาไม่ต้องการรบกวนเวลาอันมีค่าของแร้งเกอร์ที่กำลังพยายามทำอันดับโลก เพียงแค่สติปัญญาของลอเอลก็มากพอจะรับมือกับปัญหาได้แล้ว กริดทำทุกสิ่งลงไปด้วยเจตนาหวังดีอย่างแท้จริง แต่ถึงกระนั้นเขาก็กล่าวคำขอโทษกับจิสึกะด้วยสายตาสำนึกผิด ทำเอาจิสึกะนิ่งอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
'ฉันรับมือเขาได้ยากขึ้นทุกวัน'
ก่อนหน้านี้กริดยังมีจุดอ่อนและมุมเด็กน้อยให้เธอใช้เล่นงานได้บ้าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะถูกลบล้างออกไปจนหมดแล้ว ตั้งแต่เขาเป็นพ่อคน การวางตัวและความรับผิดชอบก็สูงขึ้นจนน่าตกตะลึง จุดอ่อนที่เคยมีค่อยๆ จางหายไปทีละนิด
จิสึกะรู้สึกชื่นชอบกริดในปัจจุบันมาก
'ถ้าเขาอายุย่าง 30 เมื่อไร จะต้องกลายเป็นชายหนุ่มที่ดูอบอุ่นและพึ่งพาได้มากแน่'
เธออยากจะพบกับกริดในวัยกลางคนใจแทบขาด ในขณะที่จิสึกะกำลังจมอยู่กับมโนภาพในจินตนาการ ลอเอลก็เดินเข้ามาหากริดพร้อมกับขอโทษอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ฉันขอโทษ"
"เกิดอะไรขึ้น"
"เอ่อ..."
ลอเอลสารภาพออกไปตามจริง
"เมื่อได้เห็นนายในสงครามกับองค์ชายเร็นก่อนหน้านี้ ฉันยังรู้สึกว่านายมีข้อบกพร่องในการต่อสู้อีกมาก แต่ว่านั้นกลับไม่จริงเลย นายสามารถเอาชนะฟ้าเหนือฟ้าคนนั้นมาได้ ขอโทษที่ดูนายผิดไป และสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก"
หลังจากงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่หนึ่ง ลอเอลได้เข้ามาเป็นมือขวาของกริด แม้จะผ่านมาแล้วสิบเดือนเต็มในชีวิตจริง แต่เขาก็ไม่เคย<อิจฉา>หรือ<เคารพ>ในฝีมือการต่อสู้ของกริดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทว่าความรู้สึกนั้นกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล แววตาของลอเอลอัดแน่นไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย
"ตัวฉัน... ลอเอล หลังจากนี้ขอเลิกติดตามนายเพียงเพราะไอเท็มเฉกเช่นอดีต ในอนาคตนับแต่นี้เป็นต้นไป ฉันขอติดตามนายด้วยความจงรักภักดีโดยปราศจากความเคลือบแคลงสงสัย นี่คือคำสัตย์จากดวงวิญญานของฉันในทุกชาติภพไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน"
กริดและชาวโอเวอร์เกียร์ต่างพากันขนลุกให้กับคำสาบานของลอเอล มือเท้าของพวกเขาล้วนหดเกร็งอย่างกระอักกระอ่วน เหงื่อไคลไหลซึม บรรกาศอึดอัดคละคลุ้ง มีเพียงฮิวรอยเท่านั้นที่กำลังสั่นระริกไปด้วยความขนลุก
***
ย้อนกลับไปในขณะที่กริดเพิ่งจะสังหารเอลฟิน-สโตนลงได้
『สันตะปาปาองค์ใหม่ถูกแต่งตั้งแล้วครับ! แถมยังเป็นผู้เล่นอีกด้วย! เป็นคนญี่ปุ่นครับ!』
ชาวญี่ปุ่นต่างพากันโห่ร้องยินดี
ดาเมี่ยน ตัวตนอันแสนพิเศษที่สามารถก้าวไปถึงอันดับสองของพาลาดินได้แม้จะมาจากโบสถ์รีเบคก้า แต่แล้ววันหนึ่ง ชื่อเขาก็หายไปจากตารางอันดับอย่างไร้สาเหตุ มีข่าวลือมากมายระบุว่าเขากลายเป็นคลาสลับไปเรียบร้อยแล้ว เป็นโอตาคุคลาสลับ
หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นถูกเลือกให้เป็นสันตะปาปาคนล่าสุดของโบสถ์รีเบคก้า ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากพากันตื่นเต้นดีใจและเฉลิมฉลอง แม้ผลงานของประเทศญี่ปุ่นในงานแข่งนานาชาติหนแรกจะไม่น่าประทับใจนัก พวกเขาไม่ได้เหรียญใดเลยสักเหรียญเดียว แต่ในที่สุดก็มีวีรบุรุษถือกำเนิดขึ้นในประเทศของตนจนได้
『ดาเมี่ยน! ขอแสดงความยินดีที่ได้รับเลือกให้เป็นสันตะปาปาครับ! ชาวญี่ปุ่นภูมิใจในตัวคุณมากทีเดียว 』
『ขอบคุณครับ』
『ยากไหมครับที่กว่าจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นสันตะปาปาได้ ผู้ชมทั่วทั้งประเทศต้องการทราบรายละเอียดของเรื่องนี้ คุณผ่านบททดสอบต่างๆ นานๆ และกลายมาเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร』
พลังอำนาจของสันตะปาปาแห่งโบสถ์รีเบคก้านั้นเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาก ถึงขนาดที่กษัตริย์อาณาจักรเล็กๆ ยังต้องก้มศีรษะให้ สิ่งนี้จึงทำให้ชาวญี่ปุ่นต่างมีความหวังขึ้นมาทันที ดาเมี่ยนจะใช้ตำแหน่งสันตะปาปาคอยอำนวยความสะดวกให้ชาวญี่ปุ่นได้อย่างไรบ้างนะ
แต่ความคิดทั้งหมดก็กลายเป็นเพียงมโนภาพเมื่อดาเมี่ยนเริ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อ
『เป็นเพราะกริด ผมถึงกลายเป็นสันตะปาปาได้อย่างทุกวันนี้』
『คุณหมายถึงช่างตีเหล็กในตำนานกริดคนนั้นน่ะหรือ เห็นว่ามีการต่อสู้กับอัศวินสีชาดในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ของผู้สมัครลงชิงตำแหน่งสันตะปาปาด้วย กริดเกี่ยวข้องกับคุณอย่างไรบ้างครับดาเมี่ยน 』
『ไม่ใช่แค่เรื่องเหตุการณ์ในวันนั้น ทว่าตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว ผมมีโอกาสเป็นสันตะปาปาได้ก็เพราะบุญคุณของกริด』
พักหลังมานี้ ความนิยมในตัวกริดยิ่งเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกริดในร่างผมขาว เสียงกรี๊ดกร๊าดที่เกิดขึ้นนั้นมากพอจะสร้างคลื่นเกาหลีใต้ลูกที่ห้าในญี่ปุ่นโดยมีกริดเป็นตัวเอก แต่ก็มีชาวญี่ปุ่นน้อยคนนักที่ให้ความสนใจหรือฮือฮาไปกับคลื่นเกาหลีใต้
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจ คำกล่าวของดาเมี่ยนจึงเหมือนกับการเทน้ำมันราดลงบนกองไฟ ชาวญี่ปุ่นขวาจัดชาตินิยมที่เกลียดชังกริดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ยิ่งทวีความคลุ้มคลั่ง ยิ่งดาเมี่ยนเยินยอกริด สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลง
"ทำไมดาเมี่ยนถึงยกความสำเร็จทั้งหมดให้กริดกันนะ"
"เขาไม่รู้รึไงว่าญี่ปุ่นต้องเจ็บปวดเพราะกริดมากแค่ไหน"
"กริดเป็นศัตรูของพวกเรา! ไม่เพียงแต่จะสังหารชาวญี่ปุ่นในการแข่งซาทิสฟายหนแรกจนราบคาบ กริดยังต่อสู้กับกิลด์ซารุกะในศึกเกาะคอร์กเมื่อหลายเดือนก่อนด้วย!"
"อะไรกัน... ทำไมดาเมี่ยนถึงต้องยกย่องไอ้บัดซบกริดนั่นด้วย หรือความจริงแล้วดาเมี่ยนจะเป็นพวกไซนิจิ*"
(*ชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น)
"เป็นไปได้! ไม่มีทางที่สายเลือดญี่ปุ่นแท้ๆ จะเป็นคนทรยศแน่!"
ชาวญี่ปุ่นคลั่งชาติต่างพากันเกรี้ยวกราด
ข้อความ<ดาเมี่ยนคือไซนิจิ>ได้ปรากฏบนโซเชียลมีเดียญี่ปุ่นจำนวนมาก และยังมีข่าวลือว่าดาเมี่ยนพยายามจะทำสร้างความนิยมเกาหลีใต้ในประเทศญี่ปุ่นขึ้น นี่เป็นผลมาจากข่าวลวงอันน่ารังเกียจที่พวกญี่ปุ่นขวาจัดสร้างขึ้น
แต่ดาเมี่ยนก็หาได้ใส่ใจ เขาเคยถูกล้อว่าเป็นโอตาคุมาทั้งชีวิต เรื่องแค่นี้ไม่มีทางทำอะไรได้แน่
『ข่าวลือกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารย์อย่างกว้างขวางครับ แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับดาเมี่ยน 』
『ผมเป็นญี่ปุ่นสายเลือดแท้』
『แต่ว่านะครับดาเมี่ยน คุณเล่นสรรเสริญกริดและเกาหลีใต้กับทุกสื่อที่ให้การสัมภาษณ์ ผู้คนมากมายจึงสงสัยว่าคุณต้องการจะทำอะไรกันแน่ 』
『ผมไม่เคยสรรเสริญเกาหลีใต้เลยสักครั้งเดียว ที่ผมทำไปเพราะสำนึกในบุญคุณของกริด แต่มีบางคนตีความหมายผิดเพี้ยนไปเอง』
『แต่ไม่ว่ายังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าชื่อเสียงของคุณในประเทศค่อนข้างติดลบ ทำไมถึงไม่ลองแก้ไขสถานการณ์โดยการสร้างโบสถ์รีเบคก้าบนดินแดนที่ชาวญี่ปุ่นปกครองดูล่ะครับ』
『ในการจะสร้างโบสถรีเบคก้าขึ้นมาใหม่สักแห่ง เงื่อนไขต้องเข้าข่ายตามที่กำหนดไว้ทุกประการ ผมไม่อาจสร้างโบสถ์รีเบคก้าพร่ำเพรื่อเพียงเพราะพวกเราเป็นคนประเทศเดียวกัน』
『ถ้าอย่างนั้นนะครับดาเมี่ยน คุณมีแผนอย่างไรบ้างที่จะช่วยเหลือญี่ปุ่นหลังจากกลายเป็นสันตะปาปา』
『ผมเป็นสันตะปาปาแล้วเกี่ยวอะไรกับประเทศญี่ปุ่นครับ สันตะปาปาต้องวางตัวเป็นกลางให้ได้มากที่สุด 』
『...เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นขอถามสักข้อครับ สิ่งแรกที่คุณจะทำหลังจากได้รับตำแหน่งสันตะปาปาคืออะไร』
『สร้างโบสถ์รีเบคก้าขึ้นในเรย์ดันครับ』
『เดี๋ยวก่อนนะครับ เมื่อครู่คุณยังบอกอยู่เลยว่าการสร้างโบสถ์ต้องผ่านเกณฑ์เงื่อนไขหลายประการ เรย์ดันที่มีประชากรเพียง 20,000 ไม่น่าจะผ่านเงื่อนไขนั้นนะครับ นี่ไม่แสดงให้เห็นว่าคุณเข้าข้างกริดอย่างออกนอกหน้างั้นหรือ』
ฟูจิทีวี นับเป็นสถาณีโทรทัศน์ญี่ปุ่นขวาจัดอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ ผู้ชมส่วนมากล้วนเป็นพวกชาตินิยม การที่ดาเมี่ยนตอบเช่นนี้ย่อมส่งผลเสียร้ายแรงมาก
หากเป็นคนทั่วไป ดาเมี่ยนคงยากจะต้านทานแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากฝ่ายชาตินิยมได้ แต่เขาคือโอตาคุผู้ซึ่งเชื่อมั่นสิ่งใดแล้วจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ
『ผมไม่ได้เข้าข้างกริดอย่างออกนอกหน้า ทั้งหมดที่ทำลงไปก็เพื่อตอบแทนบุญคุณในอดีต กริดคือชายผู้ที่เคยช่วยเหลือตัวผมและโบสถ์รีเบคก้าไว้ องค์เทพธิดารีเบคก้าได้กระซิบที่ข้างหูของผมทุกคืนวันว่า จงตอบแทนกริดซะ... จงสรรเสริญก็อดกริด!!』
『 ... 』
"เจ้าบ้านี่!"
ฝั่งชาตินิยมต่างพากันเดือดดาลเป็นไฟลามทุ่ง ทั้งที่ประเทศญี่ปุ่นได้ครอบครองสุดยอดพลังอยู่ในมือแท้ๆ แต่นอกจากจะไม่ช่วยคนประเทศเดียวกันเอง ดาเมี่ยนกลับคิดรับใช้เกาหลีใต้ศัตรูคู่อาฆาตเสียอีก
แผนชั่วของพวกมันจึงอุบัติขึ้น
55555 โอตาคุ นายแน่มาก สนุกมากครับ
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteกำหลีก็ไม่ธรรมดานิยายแต่ละเรื่องที่ไม่แซะญี่ปุ่นหายาก ชาตินิยมหนักกวืาญี่ปุ่นอีก ไม่เคยปล่อยวางซักทีนี้ล่ะนร้าชาติขี้ข้าสมัยก่อน
ReplyDeleteเกือบทุกเรื่องครับมีโอกาสต่ำมากที่จะไม่เอาประเทศญี่ปุ่นมาเกี่ยวข้อง เหมือนเด็กมีปม เขียนให้ประเทศตัวเองเหนือกว่าไปซะทุกด้าน แล้วเอาญี่ปุ่นมายำเล่นให้เหมือนตัวร้าย ทั้งๆที่นิสัยคนญี่ปุ่นในนิกายเกาหลี - จีน นั้นแถบจะไม่มีความเป็นจริงเลย // ผมชอบอ่านนิยายจีน-เกาหลีนะ แต่ถ้าพวกยุคปัจจุบัน พอเอาประเทศญี่ปุ่นเข้ามาด้วยความชอบลดลงเยอะเลย เขียนข่มเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีมั้งที่สมัยก่อนโดนมาเยอะ พวกไม่รู้จักปล่อยวาง
Deleteเกาหลีคงมีปมอะคนเกาหลีอ่านคงจะฟินแต่ชาติอื่นอ่านก็คงรู้สึกอะไรจะขนาดนั้นนนนน
Deleteใช้ทั้งจีนและเกาหลี รู้ว่าเคยทำอะไร แต่ว่าทุกคนไม่ควรจะหนักแบบนี้นะ ยกเว้นนิยายต่างโลกนิยายที่อิงมาโดยโลกจริง หากไม่ แซะญี่ปุ่น คงทำอะไรไม่ได้ละนะ บางทีก็รู้สึกแย่นะ ช่วยไม่ได้ละนะ ยังไงบางคนก็ลืมไม่ได้ หากเราโดนบางบางคนก็ปล่อยวางไม่ได้เหมือนกัน
Deleteพวกคนเขียนนิยายประเทศจีน - เกาหลี ถ้าดำเนินยุคปัจจุบัน มักจะเอาญี่ปุ่นมาเขียนเสียๆหายๆ ผมเห็นน่าจะทุกเรื่อง แซะเขาเพราะสู้ไม่ได้ แต่พอญี่ปุ่นเขียนนิดเขียนหน่อยที่ไม่ได้ตั้งใจ แม้งเป็นเรื่องใหญ่โตระดับโลกเลย รู้สึกคนเกาหลีกับจีนจะทำไรไม่ได้นอกจากแซะญี่ปุ่นเหมือนเด็กน้อย เขียนเพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าเหนือกว่าเขามั้ง ทั้งๆที่สู้อะไรไม่ได้
ReplyDeleteส่วนตัวสำหรับ ใครที่ไม่ชอบเรื่องเหยียด หลังๆจะไม่ค่อยเท่าไรแล้วนะครับ ใครที่เห็นเม้นแล้วหมดอารมณ์ หรือพึ่งอ่านใหม่มันจะมีแค่ช่วงนี้แหละ กับงานแข่งให้ถือว่าเป็นสีสัน อย่าไปคิดกับมันมาก เหมือน Solo leveling ที่เหยียดญี่ปุ่นเล่นซะประเทศยับเยิน มันจะมีแค่พวกขวาจัดเท่านั้นครับ พวกที่ไม่สนก็มีเยอะ ให้คิดเหมือนม็อบ กับสลิ่มอะครับ อย่าพึ่งหมดอารมณ์สนุกกันเลย ข้อเสียเรื่องนี้ก็พวกให้ประเทศอื่นมาเหยียดประเทศตัวเองเหมือนให้ประเทศอื่นผิดก็ประมาณนี้
Deleteเบื่อมังฮวาเกาหลีเพราะชอบเหยียดชอบขยี้นี่แหละ ก็รู้นะว่าสมัยสงครามโดนทำไว้หนัก แต่ผ่านมาจะร้อยปีแล้ว เหมือนเด็กมีปมอ่ะไม่โตซักที
ReplyDeleteถ้าไปอ่านประวัติจะรู้นะทำไมประเทษถึงเกลียดแล้วอีกอย่างนิยายเขียนให้คนประเทศเขาอ่านไม่ได้เขียนให้ประเทษอื่น ก็เหมือนนิยายไทยที่เขียนให้ไทยเก่งที่สุด ถ้าไม่ชอบก็ควรเลิกอ่านนะ
Deleteเทพธิดากระซิบให้สรรเสริญ ก็อดกริด มีลั่น🤣🤣🤣
ReplyDelete