จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 102

       "เยี่ยม… ไร้ที่ติ"

       การเตรียมการสำหรับสร้างแฟลมเบิร์จเสร็จสิ้น เราหยิบสูตรการผลิตที่ได้จากไอเบลลินในตอนเช้าออกมาอ่าน

[ สูตรการผลิต 'หนาม'  ]
เงื่อนไขการเรียน : ทักษะช่างตีเหล็กขั้นสูง เลเวล5 หรือสูงกว่า
...
* หนาม : แฟลมเบิร์จที่มีหนามเล็กๆ ของกุหลาบสีดำปรากฏแทนหยักคลื่น… ให้ความรู้สึกเหมือนกับก้านกุหลาบ
เมื่อถูกอาวุธนี้สัมผัสเข้า เป้าหมายจะเจ็บปวดทุรนทุราย
...
เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล210 หรือสูงกว่า

       หอกวายุที่มีเลเวล240ต้องการทักษะช่างตีเหล็กขั้นสูงเลเวล4… ทว่าแฟลมเบิร์จที่มีเลเวลต่ำกว่าถึง30ระดับ กลับต้องการทักษะช่างตีเหล็กขั้นสูงเลเวล5  

       'การสร้างแฟลมเบิรจ์คงจะยากมากจริงๆ'

       เดิมทีแฟลมเบิร์จจะต้องมีรูปร่างคล้ายหยักคลื่น…  แต่จากคำอธิบาย... 'หนาม' คงจะมีรูปทรงเป็นคมหนามขึ้นมาแทนหยักคลื่น… นั่นทำให้แฟลมเบิร์จชนิดนี้ยิ่งสร้างยากขึ้นไปอีก 

       'เราต้องสร้างคมดาบเล็กๆ เหมือนกับหนามขึ้น… และที่สำคัญต้องไม่ให้คมเล็กๆ นั่นแตกหักง่าย… งานยากแน่นอน'

       เมื่อเราเรียนสูตรการสร้างหนามเสร็จ รายละเอียดตัวเต็มก็ปรากฏอยู่บนหน้าจอ

[ ท่านเรียนรู้วิธีสร้าง 'หนาม' ]

[ หนาม ]
เกรด: แรร์ ~ เลเจนดารี
...
* เกรดแรร์
ความคงทน: 135
พลังโจมตี: 190
* มองข้ามพลังป้องกันเป้าหมาย +30%
* หากโจมตีสำเร็จจะทำให้เป้าหมายเกิดอาการ 'เลือดไหล'
* เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะได้รับทักษะประเภทฮีลเบาลง30%
...
* เกรดอีปิก
ความคงทน: 160
พลังโจมตี: 230
* มองข้ามพลังป้องกันเป้าหมาย  +35%
* หากโจมตีสำเร็จจะทำให้เป้าหมายเกิดอาการ 'เลือดไหล'
* เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะได้รับทักษะประเภทฮีลเบาลง35%
...
* เกรดยูนีค
ความคงทน: 191
พลังโจมตี: 280
* มองข้ามพลังป้องกันเป้าหมาย  +45%
* หากโจมตีสำเร็จจะทำให้เป้าหมายเกิดอาการ 'เลือดไหล'
* เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะได้รับทักษะประเภทฮีลเบาลง40%
...
* เกรดเลเจนดารี
ความคงทน: 226
พลังโจมตี: 344
* มองข้ามพลังป้องกันเป้าหมาย  +60%
* หากโจมตีสำเร็จจะทำให้เป้าหมายเกิดอาการ 'เลือดไหล'
* เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะได้รับทักษะประเภทฮีลเบาลง50%
* ได้รับทักษะ 'ฉีกกระชาก'
...
       แฟลมเบิร์จที่มีหนามเล็กๆ ของกุหลาบสีดำปรากฏแทนหยักคลื่น… ให้ความรู้สึกเหมือนกับก้านกุหลาบ
       เมื่อถูกอาวุธนี้สัมผัสเข้า เป้าหมายจะเจ็บปวดทุรนทุราย
...
เงื่อนไขการสวมใส่ :
- เลเวล210 หรือสูงกว่า
- พละกำลัง750 หรือสูงกว่า
- ความว่องไว300 หรือสูงกว่า
- ทักษะชำนาญดาบขั้นสูง เลเวล2 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก: 300หน่วย

        "ฉึกกระชากงั้นหรอ… ชื่อทักษะฟังดูโหดไม่ใช่เล่น… ขอดูรายละเอียดหน่อย"

[ ฉีกกระชาก ]
       ร่างกายของเป้าหมายจะถูกฉีกกระชากอย่างรุนแรงจาก 'หนาม'… เป้าหมายจะได้รับความเสียหายเท่ากับ60%ของพลังชีวิตปัจจุบัน
...
มานาที่ใช้ : 500หน่วย
เงื่อนไขการใช้งาน : เป้าหมายต้องตกอยู่ในอาการที่ทำให้ขยับตัวไม่ได้

       'เห… 60%ของพลังชีวิตปัจจุบันเลยหรอ… สำหรับคลาสที่เลือดน้อยคงไม่เห็นผลมาก… แต่กับพวกแทงค์เนี่ยสิ… ปางตายเอาได้เลยนะ'

       แม้เงื่อนไขการใช้งานจะดูยุ่งยาก… แต่ยังมันก็เป็นถึงทักษะที่ติดมากับอาวุธเกรดเลเจนดารี 

       ดวงเรากำลังขึ้น… มีโอกาสสร้างไอเท็มเลเจนดารีได้แน่คราวนี้ 

       'เริ่มเลยแล้วกัน'
       
       เราหยิบวัสดุที่ไอเบลลินเตรียมไว้สำหรับการสร้างหนามออกมา… ในขณะที่กำลังจะเริ่ม... 

       ชิ้ง! เคร้ง! แคร้ง!

       "...!!"

       เคร้ง! ตึก! เคร้ง!

       "เสียงดังอะไรกัน..."

       เราได้ยินเสียงลางๆ ของคนตะโกน ผสานเข้ากับเสียงของอาวุธกระทบกันจากด้านนอก… น่าเสียดายที่ไม่ได้ยินรายละเอียดชัดเจนนัก เพราะเรากำลังแอบฟังผ่านกำแพงโรงตีเหล็ก 

       "ไม่มีอะไรสนุกไปกว่าการได้ดูคนทะเลาะกันอีกแล้ว..."

       พวกดื่มยันเช้าเมาแล้วทะเลาะกันงั้นหรอ… หรือว่าผิดใจกันเรื่องผู้หญิง… ถ้าเป็นตัวเราคนเดิมคงเปิดหน้าต่างออกไปชมแล้ว… แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทำแบบนั้น

       "แทนที่จะยุ่งเรื่องคนอื่น… ทำงานของตัวเองให้หนักแล้วหาเงินดีกว่า"

       ป็อนสัญญาว่าจะจ่ายเงินค่าหอกวายุภายใน3วัน… ดังนั้นความตั้งใจของเราคือรีบสร้างดาบของไอเบลลินให้เสร็จ และรับเงินก้อนโตไปพร้อมกัน… ทันทีที่ล้างหนี้ครอบครัวหมด แผนต่อไปคือการซื้อรถหรู 

       'อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว... เราต้องมีรถ… ต้องซื้อรถที่แพงที่สุดไปงานรวมรุ่น... อาฮยองจะได้สำนึกเสียใจที่ล้อเล่นกับความรู้สึกเรา'

       เคร้ง! เคร้ง!

       เราขยับมือไปพลาง สวดภาวนาไปพลาง

       ***

       โครม! ฟรึ่บ! ซู่ววว! 

       เคร้ง! เป้ง! 

       ผืนดินและต้นไม้พังทะลาย… เปลวเพลิงและสายน้ำโถมท่วมท้องฟ้า… กำปั้นและคมดาบปะทะกันจนเกิดประกายไฟ… นี่มันเกินกว่าการดวลธรรมดาไปมากแล้ว… 

       ในที่สุดมิฮาร่าก็สร้างระยะห่างกับเรกัสได้… เวทย์อันรุนแรงที่กินมานาจำนวนมากพลันถูกใช้ออกไป      

       พรึ่บ! ฟู่วววว!

       เปลวเพลิงขนาดยักษ์ถูกพ่นใส่ใบหน้าเรกัสอย่างรวดเร็ว…  ความรุนแรงของมันราวกับออกมาจากปากกระบอกปืนยิงไฟ… ทว่าเรกัสก็หลบได้ไม่ยากนัก

       แม้เวทย์ของตนจะพลาดไป... แต่มิฮาร่าก็ไม่ได้แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา… มันกลับแสยะยิ้มเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ เพราะมันต้องการให้เรกัสหลบอยู่แล้ว… การโจมตีด้วยดาบพุ่งใส่เรกัสอย่างพริ้วไหวดั่งสายน้ำ… เป้าหมายอยู่ที่ช่องท้องของเรกัส เป็นการโจมตีที่แทบไม่มีทางหลบได้เลย    

       ทว่าความอ่อนตัวของเรกัสดุจดั่งเสื้อดาว… เขาม้วนตัวเพื่อหลบดาบและกลิ้งขึ้นมาประเคนลูกเตะใส่ 

       แคร้ง!

       วิถีดาบของมิฮาร่าเองก็อยู่ในจุดสูงสุด… มันสามารถปรับสมดุลร่างกายและปัดป้องลูกเตะเรกัสไว้ด้วยดาบ… ต่อจากนั้นก็เรียกเวทย์เพลิงซัดใส่เรกัสอีกครั้ง

       พรึ่บ พรึ่บ!

       เรกัสหลบการโจมตีนี้ไม่พ้น แต่เขาก็สามารถใช้หมัดชกเปลวเพลิงให้สลายไปได้ไม่ยาก… ดาบของมิฮาร่าโผล่ออกมาจากเศษเปลวไฟที่กำลังกระจัดกระจายในอากาศ… เรกัสเห็นดังนั้นก็เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยด้วยสีหน้าผิดหวัง 

       "ลูกไม้เดิมๆ สองครั้งติด… ไม่เล่นง่ายไปหน่อยหรอ… ทำแบบนี้ฉันก็ไม่ได้ฝึกซ้อมกันพอดี"

       "จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ… คราวนี้มันไม่เหมือนเดิมหรอกนะ!  แล้วก็นี่ไม่ใช่การฝึก!"

       ชิ้งงงง!

       "...!"

       ดวงตาเรกัสเบิกโพลง… กว่าจะรู้ตัวว่าดาบของมิฮาร่ากำลังส่องประกายก็สายเกินไปเสียแล้ว 

       เปรี้ยะ! บึ้มมมมม!

       อากาศแห้งสนิทจากการที่มิฮาร่าใช้เวทย์ไฟติดๆ กัน… และด้วยเหตุนั้น ทันทีที่มิฮาร่าใช้เวทย์สายฟ้า… จึงพลันเกิดระเบิดขึ้นบนคมดาบที่อยู่ห่างจากศีรษะเรกัสไม่กี่คืบ!  

       "อ๊ากกกกกก!"

       เรกัสร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด… หน้าต่างข้อความระบบปรากฏขึ้นทันที 

[ ท่านสูญเสียการมองเห็นของดวงตาข้างซ้าย ]
[ ค่าสถานะทุกชนิดจะลดลง30% จนกว่าบาดแผลจะได้รับการรักษา ]
[ ท่านกำลังตกอยู่ในอาการสับสน ]

       ค่าสถานะลดลงเกิดจากอาการสับสน… ถึงมันจะดีกว่าอาการมึนงง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการสับสนคือหนึ่งในอาการที่เลวร้ายที่สุดของเกม… เรกัสไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ดังใจนึก ภายในใจก็รู้สึกสำนึกผิดในความโง่เขลาของตน  

       'นี่เป็นคอมโบพื้นฐานของการโจมตีแบบธาตุ… เรายังฝึกฝนไม่พอจริงๆ'

       เรกัสตัดพ้อใจใน… ส่วนมิฮาร่าก็ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดหรอด 

       'จะจบในครั้งเดียวเลยก็แล้วกัน!'

       มิฮาร่าตัดสินใจใช้เวทย์ท่าไม้ตายใหญ่สุดของมัน… อัญมนีถูกหยิบออกมาเพื่อลดระยะเวลาในการร่าย 

       "ไพลินสีน้ำเงินเข้มอันเป็นตัวแทนความโหดร้ายแห่งน้ำแข็ง… ทับทิมสีแดงสดอันเป็นตัวแทนความเกรี้ยวกราดแห่งเปลวเพลิง…  มรกตห้าแฉกเอ๋ย… มรกตหกแฉกเอ๋ย… จงช่วยเสกลมพายุอันคุ้มคลั่งโหมกระหน่ำ… พลังสองชนิดที่ไม่มีวันผสานกันได้… จงถูกหลอมรวมกันเป็นหนึ่งในเกลียวคลื่นพายุ… และทำลายผู้ที่มาขวางทางให้สิ้นซาก!"

       ร่างกายของมิฮาร่าโงนเงนเล็กน้อย เป็นผลพวงจากการใช้มานารวดเร็วหมดหลอด… สภาพจิตใจอ่อนแรงถึงขีดสุด ส่งผลให้หลังจากนี้จะใช้ทักษะไม่ได้อีกสักพัก... 

       เพียงพริบตาเดียว ลมพายุที่ใหญ่โตราวกับจะกลืนกินบ้านได้ทั้งหลังพลันปรากฏขึ้น...  มิฮาร่าหัวเราราวกับผู้มีชัย

       "วะฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นยังไงบ้างล่ะ… นี่คือเวทย์มนต์ที่ทรงพลังที่สุดของฉัน… มันสามารถจัดการสาวกแห่งยาธานได้180คนในพริบตา!  ฉันตั้งชื่อมันว่า… โคตรพายุไฟน้ำแข็งของมิฮาร่า!"

       แต่ก็ไม่เกินจริงไปนัก… มันคือสุดยอดพายุที่เปี่ยมไปด้วยพลังของน้ำแข็งและไฟ… เกล็ดน้ำแข็งอันแหลมคมนับหมื่นชิ้นหมุนวนไปรอบๆ อย่างเกรี้ยวกราด… ส่วนเปลวไฟอันร้อนระอุก็หมุนรวมไปกับพายุ… และทั้งหมดกำลังกลืนกินร่างของเรกัส… ที่กำลังจะกลายเป็นผุยผงในไม่ช้านี้...    

       ย้อนกลับไปเมื่อ2วินาทีก่อน...

       "หืม… พลังรุนแรงเอาเรื่อง… แต่ไม่ใช่ว่าร่ายนานเกินไปหน่อยหรอ..."

       เรกัสที่โชกเลือดพูดขึ้นพร้อมกับพักหายใจ… หลังจากนั้นเขาก็ตั้งท่าเตรียมเตะ… โดยที่ขาข้างถนัดกำลังรายล้อมไปด้วยออร่าสีทองอร่ามอันทรงพลังของสายฟ้า  

       มิฮาร่าสัมผัสได้ถึงสิ่งนั้น "นายหลุดพ้นจากอาการสับสนได้ยังไง..."

       โดยทั่วไป อาการสับสนจะมีระยะเวลา5วินาที… ดังนั้นมิฮาร่าที่ยืมความสามารถของอัญมณีลดเวลาร่าย… มันคาดว่าจะสร้างพายุท่าไม้ตายได้สำเร็จภายใน3วินาที ซึ่งเรกัสจะถูกพายุไฟน้ำแข็งจู่โจมเข้าก่อนที่จะได้สติกลับคืนมาแน่นอน…    

       แต่ความจริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่...

       เรกัสอธิบายให้กับมิฮาร่าที่กำลังสับสน "ฉันไม่ได้ฝึกแค่ร่างกายหรอกนะ… แต่จิตใจเองก็ด้วย… นักสู้ควรจะสงบนิ่งได้ในทุกสถานการณ์"

       คลาสนักสู้จะหลุดพ้นจากอาการผิดปรกติได้เร็วกว่าคลาสอื่น… ในขณะที่เรกัสพูดอธิบาย พายุก็ก่อตัวขึ้นล้อมร่างกายเขาไว้… ด้วยความที่สูญเสียการมองเห็นไปหนึ่งข้าง เรกัสในตอนนี้จึงมีพลังต่อสู้ไม่เต็มร้อย… มิฮาร่าจึงยืนหัวเราะอย่างสะใจเมื่อได้เรกัสถูกพายุกลืนกิน     

       "วะฮ่าฮ่า! เป็นยังไงล่ะเจ้างั่ง! ความตายของนายได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว!"

       สำหรับผู้เล่นติดอันดับ การตายแต่ละครั้งสงผลเสียหายร้ายแรง… ค่าประสบการณ์ที่ลดลงไปอาจทำให้ตำแหน่งของตนถูกคนอื่นแซงหน้า… มิฮาร่าคือผู้ที่อยากเห็นเรกัสตายมากที่สุด  

       แกร่ก! แกร่ก! แกร่ก!

       เกิดเสียงดังขึ้นจากด้านในพายุ เป็นเสียงของคมมีดเกล็ดน้ำแข็งกำลังปะทะเข้ากับบางสิ่ง… มิฮาร่าคิดว่าเรกัสคงกำลังถูกเฉือนกระดูกและผิวหนังทั้งเป็น… 

       แต่กลับต้องได้เสียงที่สั่นสะท้อนไปทั่วบริเวณตามมา...

       เปรี้ยงงงงงงง!

       แรงระเบิดอันรุนแรงเกิดจาก ณ ใจกลางของพายุ… สถานที่โดยรอบราบเรียบเป็นหน้ากลอง… ร่างมิฮาร่าถูกซัดกระเด็นไปด้านหลัง แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมัวรู้จึกเจ็บปวดอยู่… เรกัสพลันปรากฏตัวออกมาจากท่ามกลางเศษซากพายุ   

       ลำตัวเรกัสเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นและขี้เถ้า… แต่เขายังคงมีชีวิตอยู่… ถึงจะได้รับบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง แต่ก็ยังน้อยกว่าที่มิฮาร่าคาดไว้มาก… ออร่าสีทองอร่ามยังคงหลงเหลือเจอจางอยู่ที่ปลายเท้าเรกัส 

       "อย่าบอกนะว่า… นายทำลายพายุของฉันด้วยลูกเตะ..."

       แฮ่ก… แฮ่ก...

       บาดแผลของเรกัสสาหัสมากจนไม่มีเวลาพูดคุย… เขากระโจนเป็นทางไกลเข้าใส่มิฮาร่าด้วยกำลังเฮือกสุดท้าย… ทันทีที่ร่างของมิฮาร่าอยู่ในระยะ เรกัสพลันหมุนตัวเตะแบบเทควอนโดเข้าใส่ในขณะที่ตัวกำลังลอยอยู่กลางอากาศ…  นี่เป็นทักษะผสานใหม่ที่เรกัสเรียนรู้หลังจากการล่ามาลาคัส…  เป็นการผสานระหว่างท่าโจมตี 'มังกรทอง' และการหมุนตัวของเทควอน

       เปรี้ยงงง!

       ความผิดพลาดใหญ่สุดของมิฮาร่าคือการที่มันใช้มานาทั้งหมดไปกับพายุไฟน้ำแข็ง… มันคิดว่าจะปิดบัญชีเรกัสได้อย่างสวยงามโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ซาก… ทว่าการใช้มานาไปทั้งหมด ส่งผลให้ในตอนนี้มิฮาร่าไม่อาจใช้ทักษะใดได้อีกสักพักใหญ่… ลูกเตะของเรกัสจึงกระแทกใส่หน้าอกเข้าอย่างจัง   

       "อ๊ากกกก!"

       เกราะโซ่แตกกระจายเป็นชิ้นๆ… หน้าอกเหวอะหวะ…กระดูกแตกยับ...  

[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง! ]
[ ท่านเสียชีวิต ]

       'บ้าจริง!'

       ภาพของมิฮาร่ากลายเป็นสีเทาจาง… เมื่อเรกัสยืนยันได้ว่ามิฮาร่าหายไปแล้ว เขาก็นั่งลงอย่างหมดสภาพ 
       
       "ยากไม่ใช่เล่น..."

       เขาอยากจะกลับไปหากริดในทันทีก็จริง แต่สภาพก็ไม่เอื้ออำนวยนัก อาการบาดเจ็บรุนแรง ค่าความเหน็ดเหนื่อยก็เหลือต่ำมาก… เรกัสจำต้องพักพื้นซดโพชั่นไปก่อน

       ***

       ดวงอาทิตย์คล้อยดับ เหลือไว้เพียงจันทร์สีเงินสาดส่อง… ท่ามกลางทะเลทรายอันหนาวเหน็บยามค่ำคืน 

       เมื่ออัสเซลลัสจ้องมองดูสนามรบอย่างถี่ถ้วน... มันก็พลันต้องขมวดคิ้ว… เป็นอากับกริยาที่อัสเซลลัสไม่ได้แสดงออกบ่อยนัก

       "ยิ่งได้เห็น… ก็ยิ่งผิดความคาดหมายขึ้นไปเรื่อยๆ"

       เพียงแค่10คนเท่านั้น… สมาชิกกิดล์ไจแอนท์กว่า200กำลังถูกบดขยี้โดยผู้เล่นจำนวน10คน 

       อัสเซลลัสจ้องมองไปยังจิสึกะ… ทุกครั้งที่เธอง้างคันศร จะต้องมีสมาชิกกิลด์ไจแอนท์อย่างน้อย3คนเสียชีวิตหรือไม่ก็ปางตาย…   

       ก่อนหน้านี้อัสเซลลัสต้องรู้สึกขบขันเมื่อได้ยินผู้คนยกย่องจิสึกะว่าเป็นเทพีแห่งคันศร… แต่ดูเหมือนในตอนนี้จะเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว 

       'พลังโจมตีจากคลาสนักธนูสูงที่สุดในเกมก็จริง… แต่จิสึกะกลับอยู่เหนือจุดนั้นขึ้นไปอีก… ไม่มีสมาชิกธรรมดาคนใดในกิลด์ที่สามารถทนต่อการโจมตีจากเธอได้'

       เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นกิลด์ไจแอนท์คือ130… ซึ่งนับว่าอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้เล่นทั่วไปมากแล้ว… แต่ตัวเลขแค่นี้มันน้อยนิดมากเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเซดาก้าห์… ด้วยความต่างชั้นที่มีมากเกิน... จำนวนจึงไม่ใช่สิ่งที่จะข่มความได้เปรียบอีกต่อไป   

       'เอาจิสึกะให้ลงซักคนก็ยังดี...'

       อัสเซลลัสสั่งให้คนของมันทำการรุมโจมตีใส่จิสึกะ แต่อย่าลืมว่าโทบันเองก็เป็นพาลาดินอันดับ1ของโลก… การจะฝ่าแนวป้องกันของพาลาดินระดับนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย… แม้จะผ่านไปนานกว่า2ชั่วโมงแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ดูไม่เหน็ดเหนื่อย ในขณะที่ฝั่งของไจแอนท์มีแต่จะสูญเสียคนมากขึ้นเรื่อยๆ

       'คนพวกนี้เริ่มเล่นซาทิสฟายหลังเราจริงหรือ...'

       ตั้งแต่ที่อัสเซลลัสรู้จักกับเซดาก้าห์... ดูเหมือนพวกเขาจะอ่อนแอกว่าสมัยเกมแอล ที เอสมาก…  ก่อนหน้านี้ที่มันไม่เคยให้ความสนใจ กลับกลายเป็นว่าตัวจริงเก่งไม่ใช่เล่น

       'แรกเริ่มเดิมที แผนคือการกำจัดเซาดาก้าห์ให้สิ้นซาก… แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้... แค่ถ่วงเวลาไว้จนกว่าจะได้รับข่าวดีจากฝั่งช่างฝีมือนิรนามก็พอ'

       ในความเป็นจริง ถ้าหากอัสเซลลัสเข้าร่วมโจมตีด้วยตนเอง บางทีประตูแห่งชัยชนะอาจเปิดออก… แต่มันถือเป็นพวกระวังตัวจัด การใช้เวทย์มนต์ออกไปอาจทำให้ถูกเผยตำแหน่ง… และมีความเป็นไปได้สูงที่จะโดนจิสึกะลอบสังหาร... อัสเซลลัสจึงเอาแต่หลบซ่อนตัวตั้งแต่ต้นจนจบ  

       ด้วยแผนนี้… ทั้งจิสึกะและกำลังหลักที่เหลือของเซดาก้าห์จึงถูกตรึงไว้ที่ทะเลทราย 

       ***

       "แฮ่ก… แฮ่ก..."

       ณ ด้านหน้าโรงตีเหล็กข่าน

       ไอเบลลินกำลังต่อสู้อยู่กับสมาชิกกิลด์ไจแอนที่จะมาหากริด… แต่ฝ่ายศัตรูมีถึง16คน แถมทั้งหมดก็ยังมีตำแหน่งระดับสูงในกิลด์…  ซึ่งเลเวลแต่ละคนก็ล้วนเกินกว่า150ทั้งนั้น… ถึงแม้ไอเบลลินจะมีเลเวล212และเป็นผู้เล่นตัดอันดับ… แต่นั่นก็ยังไม่พอที่จะรับมือทั้งหมดในคราวเดียว 

       โดยเฉพาะอย่างยิ่ง… การที่แฟลมเบิร์จไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักกับผู้เล่นที่สวมเกราะหนัก… ด้วยค่าความทนของอาวุธที่ต่ำ การโจมตีเข้าใส่เกราะหนักจะยิ่งเร่งให้ความคงทนหมดลงอย่างรวดเร็ว… กว่าครึ่งของศัตรูคือคลาสสายนักรบที่สวมเกราะหนักทั้งตัว

       เปรี้ยง!

       "อ๊ากก!"

       หลังจากดิ้นรนขัดขืนมานานกว่า3ชั่วโมง… ไอเบลลินสังหารศัตรูไปได้4คน โดยที่ยังเหลืออีกถึง12… ในตอนนี้พละกำลังของเขาถดถอย เพราะค่าความเหน็ดเหนื่อยกำลังจะหมดลงแล้ว… ค้อนยักษ์จึงถูกฟาดใส่หัวไหล่อย่างง่ายดาย… ไอเบลลินไหล่หักในทันที... 

       เขาล้มพุบลงกับพื้นและร้องโอดโอย… เมื่อสมาชิกไจแอนท์ที่เหลือเห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามาใช้เท้าเหยียบไว้ 

       "พวกเซดาก้าห์ก็ไม่เท่าไรนี่นา… คิดว่าจะเป็นขุนพลหัวกะทิกลุ่มเล็กๆ ซะอีก… ทำไมถึงรับไอ้เด็กไร้ประโยชน์คนนี้เข้ากิลด์ได้นะ… ว่ามั้ย... "

       "ใช่แล้ว… แม้ในแอล ที เอสพวกมันจะเก่ง… แต่ในซาทิสฟายนั้นคนละเรื่องกัน! พวกเรากิลด์ไจแอนท์ต่างหากคือที่1!… ไอ้พวกเซดาก้าห์กระจอก!"

       คนของกิลด์ไจแอนท์พูดจาดูแคลนกันเต็มที่… แม้ว่าจะเอาชนะไอเบลลินด้วยการรุมได้อย่างหืดขึ้นคอ… แต่ชัยชนะก็คือชัยชนะ… ไอเบลลันพลันหลั่งน้ำตาทันทีที่ได้ยินคนพวกนี้ดูถูกเพื่อนร่วมกิลด์ของตน  

       'ตัวเราช่างอ่อนแอซะจริง… เหตุใดถึงปล่อยให้พวกมันเยาะเย้ยเพื่อนเราได้ถึงเพียงนี้...'

       แต่แทนที่จะเข้าใจในอารมณ์ของเด็กหนุ่ม พวกสมาชิกไจแอนท์ต่างพากันหัวเราะยิ่งกว่าเดิม

       "อะไรกันเนี่ย… นี่แกร้องไห้งั้นหรอ… ไอ้เด็กขี้แย แกเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่… ใบหน้าก็น่ารักอยู่ดีหว่า แถมหุ่นก็เหมือนผู้หญิงอีก… แต่หน้าอกนี่ก็..."

       สมาชิกไจแอนท์คนหนึ่งได้เสียบดาบลงไปยังหน้าอกของไอเบลลินที่นอนอยู่บนพื้น… เขาพยายามดิ้นรนขัดขืนในเฮือกสุดท้าย… แต่ด้วยศัตรูจำนวนมากขนาดนี้...

       ผู้เล่นที่เฝ้าดูอยู่บนถนนต่างก็พากันซุบซิบนินทา

       "พวกติดอันดับก็ไม่เท่าไรนี่นา..."

       "เห็นด้วย… ถึงอีกฝ่ายจะมีคนเยอะก็เถอะ แต่การต่อสู้ควรจะดุเดือดกว่านี้ไม่ใช่หรอ… นี่มันถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียวเลยนะ… หรือฉันคาดหวังสูงไป"

       "พวกติดอันดับไม่ได้อ่อนแอหรอก… แต่กิลด์ไจแอนท์แข็งแกร่งเกินไปต่างหาก… พวกเขาคือกิลด์ที่เก่งที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่หรอ… แล้วพวกเซดาก้าห์มัวทำอะไรกันอยู่… เพื่อนโดนรุมมาตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่มีใครโผล่หัวออกมาช่วยสักคน"

       "คงจะกลัวจนหนีไปแล้วมั้ง… ถึงจะเป็นกลุ่มขุนพลหัวกะทิก็เถอะ… ช่างน่าสมเพช"

       กิลด์เซดาก้าห์กำลังถูกดูหมิ่น… ไอเบลลินพลันรู้สึกเสียใจว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความอ่อนแอของตน… เขากล่าวโทษตัวเองที่ไร้ความสามารถ 

       "คิกคิก… ได้เวลาเริ่มทำตามเป้าหมายแล้ว"

       สมาชิกไจแอนท์เมื่อเล่นกับไอเบลลินจนพอใจแล้ว พวกมันก็เดินไปเปิดประตูโรงตีเหล็กข่าน… โดยการมาที่นี่ของพวกมัน คือการหวังได้พบกับช่างฝีมือนิรนาม

       ไอเบลลินใช้กำลังเฮือกสุดท้ายมายืนขวางไว้ "ฉันจะปล่อยให้พวกแกเข้าไปกวนเขาไม่ได้..." 

       พวกไจแอนท์พลันยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่

       "เฮ่อ… ไอ้เด็กบ้านี่ตามตื้อจังเลย… เฮ้ ทำไมนายไม่ลองให้ช่างฝีมือนิรนามเป็นฝ่ายเลือกล่ะ… ว่าจะอยู่กิลด์ที่ยิ่งใหญ่อย่างไจแอนท์… หรือจะอยู่กิลด์กระจอกๆ นั่นต่อไป… หือ… ล็อคเอาท์ออกไปซะ!"

       ผัวะ!

       พวกมันซัดไอเบลลินเข้าอย่างแรงจนเศษชุดเกราะชิ้นใหญ่หลุดกระเด็นเข้าไปในร้าน… และทิศทางทีกระเด็นไปก็คือ...  

       โครมมม!

       "..."

       หน้าเตาหลอม…  กริดซึ่งกำลังใช้ค้อนทุบบางสิ่งอยู่ จึงไม่ได้สนใจเสียงรบกวนภายนอก… ทันใดนั้นต้องพลันชะงักทันที… กริดที่ทำขั้นตอนการอบคืนตัวบนทั่งเหล็กมานาน… แต่ในยามนี้กลับมีเศษเหล็กเปื้อนเลือดกระเด็นมาผสมกับของเก่ามั่วไปหมด… สิ่งที่เขาทำมาตลอดหลายชั่วโมงนี้ต้องสูญเปล่าในทันที    

       "..."

       ร่างกายของกริดกำลังสั่นระริก...

       เขาตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก… สมาชิกกิลด์ไจแอนท์เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับกล่าวทักทาย        

       "นายคือช่างฝีมือนิรนามใช่ไหม… สวัสดี! พวกเรามาจากกิลด์ไจแอนท์ วันนี้พวกเรามาชักชวนนายเข้ากิดล์ในนามของคริส… หัวกิลด์ของพวกเรา และผู้เล่นอันดับ3ของโลก..."

       "ไอ้พวกระยำ!"

       "......"

       พวกมันต่างชะงักไปทันที… อุตส่าห์ทักทายด้วยความเป็นมิตรสูงสุดแล้ว แต่กลับได้ยินเสียงสาปแช่งดังออกมาจากปากกริด… 

       ทันทีที่กริดหันมา… คนของไจแอนท์พลันต้องรู้สึกเย็นสันหลังวาบทันที   

       "พวกแกรู้มั้ยว่าทำอะไรลงไป..."

       นี่เป็นครั้งแรกที่กริดถูกขัดจังหวะในระหว่างสร้างไอเท็ม… เหลืออีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แฟลมเบิร์จที่กริดคาดว่าจะเป็นเกรดเลเจนดารีกำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว… แต่ทุกอย่างกลับต้องสูญเปล่า  

       "ไปตายซะ..."

       ดวงตาของกริดคลุ้มคลั่งดุจดั่งคนเสียสติ… ดาบเล่มยักษ์ปรากฏขึ้นในมือ… บนศีรษะมีหมวกกะโหลกรูปร่างประหลาดโผล่ขึ้น  

Comments

  1. เอาแล้ววว เฮียแม่งของขึ้นแล้วว่ะ

    ReplyDelete
  2. กริดเปิดโหมดคลั่ง งานนี้ตัวประกอบทั้ง 12 คงกลับจุดเซฟอย่างรวดเร็วแน่นอน

    ReplyDelete
  3. ฮ่าฮ่าฮ่า กริดโชว์เทพให้พวกนั้นประจักษ์เล๊ยยยย

    ReplyDelete
  4. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  5. รอ..รอ..รอ..ฉันรออยู่นะเธอ

    ReplyDelete
  6. เอาเลยกริด บังอาจทำไอเบลลิน จัดการ!!

    ReplyDelete
  7. เอาแล้วทำแบบนี้ต่อไห้พยามดึงตัวแค่ไหนก็ไม่มีใครไปอยู่ด้วยแล้ว มีเรื่องกับพระเอกหาเรื่องเข้าเมื่องนี้ไม่ได้ไปตลอด แน่ๆ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00