จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 101

       ณ เมืองเล็กๆ นามว่าเปรโด… ดินแดนตอนใต้ของอาณาจักรอีเทอนัล 

       เป็นเมืองที่ไม่ได้มีทรัพยาใดล้ำค่าเป็นพิเศษ…  ไม่มีความสำคัญทางภูมิศาสตร์… แต่ก็มีผลไม้ท้องถิ่น ซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่นอยู่ชนิดหนึ่ง… กล้วยรสสตรอเบอรี่… แต่ผู้คนก็ไม่ค่อยชื่นชอบมันนัก   

       'ทำไมกินกล้วยแล้วต้องได้กลิ่นสตรอเบอรี่ด้วย' 

       'ถ้าอยากกินสตรอเบอรี่ ฉันก็คงไปหาผลสตรอเบอรี่มากินตั้งแต่แรกแล้ว'

       'กล้วยสีชมพูมันน่าขยะแขยงมาก...'

       กล้วยสตรอเบอรี่ขายได้ไม่ดีนัก.... ดังนั้นจึงไม่ใช่ผลไม้ที่เป็นแหล่งขุมทรัพย์ทำเงินอะไร

       แต่สำหรับกิลด์ไจแอนท์แล้ว เปรโดเป็นราวกับแดนสวรรค์… เพราะการมีตัวตนของแวมไพร์บารอน มอนสเตอร์ระดับบอสที่จะเกิดใหม่ทุกๆ 11ชั่วโมงในคุกใต้ดินของปราสาทเปรโด… แวมไพร์บารอนนั้นดรอปเครื่องประดับเซ็ตแวมไพร์และโอสถหลากหลายชนิด… มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะบอกว่าคริสเลือกเป็นลอร์ดเปรโดเพียงเพราะแวมไพร์บารอนตัวเดียว

       "เจ้าพวกมนุษย์… แล้วฉันจะเกิดใหม่มาคิดบัญชีแค้นหนนี้!"

       แวมไพร์บารอนร้องตะโกนสั่งเสียในขณะที่ถูกดาบ3เล่มเสียบเข้าที่หัวใจ… คริสแสยะยิ้มและพูดว่า "ต้องอย่างนั้น… อย่าลืมเกิดมาใหม่ก็แล้วกัน"        

       "อ๊ากกกก!"

       ร่างของแวมไพร์บารอนสลายไปเป็นเพียงเถ้าธุลี… หลังจากนั้นไอเท็มดรอปอันหรูหราก็ปรากฏขึ้นแทนจุดที่มันสลายไป... ในบรรดากองไอเท็มเหล่านั้น นอกจากจะมีโอสถเพิ่มพละกำลังและโอสถเพิ่มความว่องไวแล้ว ยังมีสร้อยคอแวมไพร์ดรอปมาด้วย… คริสพลันหยิบขวดโอสถทั้งสองยกซดโดยที่ไม่ถามสมาชิกคนอื่นสักคำ 

[ พละกำลังของท่านเพิ่มขึ้น 3 แต้มเป็นการถาวร ]
[ ความว่องไวของท่านเพิ่มขึ้น 3 แต้มเป็นการถาวร ]

       ในการเลเวลอัพ1ครั้ง ผู้เล่นจะได้รับแต้มสถานะทั้งหมด10แต้ม… ดังนั้นการดื่มโอสถของคริส3ขวดก็จะได้รับค่าสถานะเทียบเท่ากับ1เลเวลเช่นกัน… สำหรับเขาแล้ว ขวดโอสถเหล่านี้มีค่ามาก… ในช่วงเลเวล290เช่นนี้ กว่าจะอัพได้หนึ่งเลเวล คริสต้องใช้เวลานานถึง2สัปดาห์เลยทีเดียว… คริสพลันแสดงสีหน้ามีความสุขเมื่อได้ดื่มโอสถ2ขวดและหยิบสร้อยแวมไพร์ขึ้นมา
        
       "ด้วยสร้อยเส้นนี้… เซ็ตแวมไพร์ของฉันก็ครบทุกชิ้นแล้ว"

       "ดีใจด้วยคริส"
       
       "นายแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วนะ"

       สมาชิกปาร์ตี้ต่างส่งเสียเชียร์ให้กำลังใจ คริสได้ปลอบใจทุกคนกลับไปว่า "ไม่ต้องห่วง แวมไพร์บารอนเกิดเรื่อยๆ อยู่แล้ว สักวันพวกนายเองก็ต้องได้ครบเหมือนกับฉัน... อดทนก่อนนะ"

       "ครับ!"

       ในการจะปกครองกิลด์ที่มีสมาชิก530คนให้มีประสิทธิภาพ… ลำดับชั้นของตำแหน่งต้องชัดเจน… ในขณะที่กิลด์เล็กๆ จะมีบรรยากาศคล้ายคลึงครอบครัว แต่กิลด์ใหญ่อย่างไจแอนท์ก็เลือกที่จะทำเหมือนค่ายทหาร… ลำดับชั้นที่สูงกว่าเป็นสิทธิเด็ดขาด… ระบบทหารของคริสได้นำพากิลด์ไจแอนท์มาไกลถึงจุดนี้ได้

       หลังจากจบการล่าแวมไพร์บารอน

       หัวหน้าหน่วยคนหนึ่งที่กำลังเข้าประชุมอยู่กับคริส ได้รับข้อความส่วนตัวจากคนในสังกัด… 'คนที่น่าสงสัยว่าจะเป็นช่างฝีมือนิรนามได้ปรากฏตัวขึ้นที่วินสตัน' 

       ในขณะที่คริสกำลังดื่มไวน์… ข้อความของสายลับในสังกัดของหัวหน้าหน่วยระดับสูงคนหนึ่ง… บูกลิม่า… ได้ถูกเรียบเรียงและส่งต่อให้กับคริส 

       "พบตัวช่างฝีมือนิรนามที่วินสตัน… แต่ดูเหมือนจะเข้าร่วมกิลด์เซดาก้าห์ไปเรียบร้อยแล้ว"

       "กิลด์เซดาก้าห์..."

       เปลือกตาของคริสพลันกระตุกเล็กน้อย ร่างกายสั่นระริกเงียบๆ ไม่มีผู้ใดรู้

       เซดาก้าห์คือกิลด์อันดับ1แห่งเกมแอล ที เอส… เกมออนไลน์ยอดนิยมก่อนที่ซาทิสฟายจะถือกำเนิดขึ้น… แม้พวกเขาจะมีจำนวนน้อย แต่ก็สร้างตำนานขึ้นในเกมอย่างไม่หยุดหย่อน… และกิลด์ไจแอนท์ก็คือหนึ่งในเหยื่อของตำนานอันยิ่งใหญ่นั้น

       เหตุผลหลักที่กิลด์ไจแอนท์  หนึ่งในห้ากิลด์ใหญ่ของแอล ที เอสตัดสินใจเลิกเล่นและย้ายมาซาทิสฟาย… คงไม่พ้นเป็นเพราะการมีตัวตนอยู่ของกิลด์เซดาก้าห์นี่เอง…   แต่ซาทิสฟายนั้นเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมกว่าแอล ที เอส… หมายความว่ากิลด์ไจแอนท์ตัดสินใจได้ถูกต้อง… แต่ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่า พวกเขาเคยถูกบดขยี้จนอับอายด้วยฝีมือของเซดาก้าห์มาก่อน     

       "ไอ้พวกบ้านั่น… พักนี้เริ่มจะได้ยินชื่อมันบ่อยขึ้นอีกแล้วนะ..."

       คริสได้แต่นั่งสั่นอย่างเงียบๆ โดยไม่ให้ใครเห็น… ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ถูกกำราบโดยคนของเซดาก้าห์พลันย้อนกลับมาอีกครั้ง… ทว่าการที่ต้องถูกแย่งช่างฝีมือนิรนามไป… ในเรื่องนี้คริสไม่อาจนิ่งดูดายได้อีก   

       "ให้อัสเซลลัส มิฮาร่า และเซอร์คานออกไปจัดการ… สั่งให้ทั้งสามอัดคนของเซดาก้าห์ให้น่วม จนกว่าพวกมันจะยอมปล่อยมือจากช่างฝีมือนิรนาม"

       "สามคนนั่น… พร้อมกันเลยหรือ... "

       "ไม่ทำเกินไปหน่อยหรอ..."

       หัวหน้าหน่วยระดับสูงของคริสเริ่มตื่นตระหนก… สามรายชื่อที่คริสเอ่ยออกมานั้น… มีตัวตนเป็นถึง3ใน5ขุนพลสูงสุดของกิลด์ไจแอนท์… แต่ละคนล้วนมีผู้เล่นในบัญชาการหลัก100… การทำเช่นนี้ย่อมหมายถึงสั่งให้ผู้เล่นกว่า300ของกิลด์ไจแอนท์มุ่งสู่วินสตันเพื่อทำสงคราม… กับกิลด์เซดาก้าห์ที่มีสมาชิกไม่ถึง20คน...     

       "นี่มันไม่เป็นการเอาดาบราคาแพงไปไล่ฟันไก่ฟันวัวเล่นหรอ..."

       กิลด์ไจแอนท์ประกอบด้วย11หัวหน้าหน่วย... ซึ่ง5ใน11คนนี้คือขุนพลสูงสุด… และในบรรดาทั้ง11 มีอยู่6คนที่เล่นร่วมกันมาตั้งแต่สมัยแอล ที เอส… ส่วนอีก5คนที่เหลือมารู้จักกันในซาทิสฟายทีหลัง… ซึ่งปัญหาอยู่ที่5คนใหม่… พวกเขาเคยได้ยินเซดาก้าห์จากข่าวลือเท่านั้น แต่ไม่เคยปะทะกันโดยตรงมาก่อน… จึงไม่ได้สนใจหรือให้ราคาแต่อย่างใด 

       คริวหัวเราะร่วน

       "ไก่… วัว… พวกนายเปรียบเซดาก้าห์กับของกระจอกแบบนั้นหรอ… ใช่… พวกนายคงยังไม่รู้… คนพวกนั้นไม่ใช่ไก่หรือวัว… แต่เป็นมังกร… แม้ในตอนนี้จะยังขดตัวอยู่ในซอกหลืบ  แต่จะผงาดขึ้นมาวันไหนก็ไม่ได้ใครรู้ได้!"

       คริสเคยปะทะกับเซดาก้าห์มามากกว่าร้อยครั้งแล้วในแอล ที เอส… เขาจึงรู้จักเซดาก้าห์ยิ่งกว่าใครทั้งหมด… ความแข็งแกร่งของสุดยอดขุนพลหัวกะทิเพียงหยิบมือเหล่านั้นคริสไม่มีวันลืมลง… แม้ในตอนนี้สถานการณ์จะแตกต่างจากแอล ที เอสอยู่บ้าง เพราะคริสนั้นถือไพ่เหนือกว่ามาก… แต่เขาไม่ใช่คนโง่หรือคนประมาท ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางนำพาไจแอนท์มาได้ไกลขนาดนี้... 

       "ส่งสามคนนั้นไป… ไม่ว่ายังไงก็ต้องปิดตายการผงาดของมังกรให้ได้"

       คริสจำเป็นต้องทุ่มกำลังทั้งหมดที่มี

       ***

       วันนี้คือวันที่4ที่กริดเข้าร่วมเซดาก้าห์… เพียงระยะเวลาสั้นๆ… กริดสามารถยกระดับกิลด์ได้ในพริบตา ทั้งการอัพเกรดอุปกรณ์สวมใส่ที่มีอยู่แล้ว… และการสร้างหอกเกรดยูนีคให้ป็อน   
       
       และวันนี้ เซดาก้าห์ก็ได้ข้อสรุป ว่ากริดจะต้องสร้างไอเท็มให้ใครต่อไป

       คนนั้นคือเด็กหนุ่มวัย16ปีที่มีนามว่า 'ไอเบลลิน'...  แม้จะยังเป็นเด็ก แต่ก็สามารถขึ้นมาอยู่ในอันดับที่3ของโลกในคลาสตัวเองได้… ไอเบลลินดูดีมีอนาคตและอาจสูสีกับเรกัสในวันข้างหน้า กิลด์เซดาก้าห์จึงสนับสนุนเขาเป็นพิเศษ 

       ครั้งนี้กริดได้รับข้อเสนอให้สร้างดาบขึ้นมา… ทว่ามันไม่ใช่ดาบธรรมดา… แต่เป็นแฟลมเบิร์จ (Flamberge)… แฟลมเบิร์จนั้นเป็นดาบที่จะมีคมดาบหยักคล้ายรูปคลื่น ด้วยลักษณะพิเศษเช่นนี้... ยามที่มันได้เฉือนเนื้อหนังของศัตรู จะก่อให้เกิดเป็นบาดแผลเหวอะหวะยากแก่การรักษาฟื้นฟู

       ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะขึ้นรูปคมดาบให้กลายเป็นหยักคลื่นได้

       การขึ้นรูปโลหะคือการใช้ค้อนทุบลงไปยังโลหะที่ร้อนอยู่ เพื่้อดัดให้มันเป็นรูปทรงที่ต้องการ... ยิ่งทุบมากเท่าใดโลหะก็จะยิ่งเย็นตัวลง… ส่วนการอบคืนตัวจะทำให้โลหะแข็งตัวมากขึ้น… รูปร่างอันซับซ้อนของแฟลมเบิร์จจึงทำให้ขั้นตอนกับขึ้นรูปยากเป็นเท่าตัว 

       แล้วถ้าจะอบคืนตัวหลังจากการขึ้นรูปแทนล่ะ… จะทำให้ง่ายขึ้นรึเปล่า… ไม่เลย…  ทำเช่นนั้นไม่ได้… การอบคืนตัวจะทำให้โลหะเสียรูปทรง… สิ่งที่ขึ้นรูปไว้ในตอนแรกก็จะเสียทรงไปจากเดิม… ดังนั้น ขั้นตอนการอบคืนตัวและการขึ้นรูปมีแต่ต้องทำควบคู่กันไป…  ส่งผลให้ช่องตีเหล็กทั่วไปหลายคน เมื่อต้องทำการขึ้นรูปแฟลมเบิร์จ พวกเขาจะตัดสินใจทำขั้นตอนอบคืนตัวเพียงครึ่งเดียวเพื่อให้ขึ้นรูปง่ายกว่าเดิม

       แต่เหนือสิ่งอื่นใด การที่ดาบจะถูกเรียกว่าแฟลมเบิร์จได้นั้นขึ้นอยู่กับรูปร่าง… ถ้าไม่มีคลื่นหยักก็จะไม่ถูกเรียกว่าแฟลมเบิร์จ ดังนั้นรูปร่างจึงสำคัญที่สุด… สำคัญกว่าขั้นตอนการอบคืนตัวเพื่อให้โลหะมีความแกร่งเสียอีก… เป็นเหตุผลที่ในซาทิสฟายจึงไม่ค่อยมีแฟลมเบิร์จเกรดอีปิกหรือสูงกว่า… โลหะที่ไม่ผ่านการอบคืนตัวอย่างเหมาะสม จะมีค่าความคงทนที่ต่ำ และขาดความแกร่งในตัว…  แฟลมเบิร์จที่ผลิตขึ้นโดยมากจะมีเกรดแรร์และทั่วไป… ส่วนเกรดที่สูงกว่าอีปิกจะได้จากการดรอปมอนสเตอร์เท่านั้น 

       ทว่ากริดก็ไม่อยากเห็นไอเท็มที่ตนสร้างขึ้นเป็นเกรดทั่วไปหรือแรร์เช่นกัน… เขาต้องการอย่างน้อยเป็นเกรดอีปิกเพื่อที่จะเรียกเงินแพงๆ 

       "หน้าต่างสถานะ"

ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 97
ค่าประสบการณ์ : 140,090/5,531,200
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม  มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม  มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข  แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
...
สมญานาม :  ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง   ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
...
สมญานาม : ผู้สร้างไอเท็มเกรดยูนีคคนแรก
* ค่าความชำนาญ +200 แต้ม.
...
สมญานาม : ผู้รังสรรค์ไอเท็มเกรดเลเจนดารีหนึ่งเดียวของโลก
* ค่าความชำนาญ +350 แต้ม.
...
สมญานาม : ผู้สังหารอัศวิน
* ค่าความอดทน +100 แต้ม,  ค่าพละกำลัม +30 แต้ม.
...
สมญานาม : สาวกเที่ยงธรรม
* ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10 แต้ม.
* ทักษะติดตัว 'ความกล้าหาญที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ'.
...
พลังชีวิต:  9,016/9,016 มานา: 819/819
พละกำลัง:  824,  ความอดทน: 572,  ความว่องไว: 257
สติปัญญา: 279,  ความชำนาญ: 904,  ความพากเพียร: 273
ความเยือกเย็น: 204,  ความทรหด: 230,  ความหยิ่งทระนง: 204
วิสัยทัศน์:  204,  ความกล้าหาญ: 148
ค่าสถานะคงเหลือ : 0 แต้ม
น้ำหนักสัมภาระ:  15,508/21,940  

        'หากรวมค่าสถานะที่ได้จากสมญานามเข้าไปด้วย… ค่าความชำนาญของเราคงเกือบ1,500แต้มได้'

       ตัวข่านมีทักษะช่างตีเหล็กขั้นสูงเลเวล2… กริดที่อยู่กับข่านมานานจึงคาดเดาได้ลางๆ ว่า ค่าความชำนาญของข่านคงอยู่ราว500~600แต้ม… หากคำนึงถึงชื่อเสียงข่านและความเป็นช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งของแดนเหนือ… แปลว่ากริดจะมีค่าความชำนาญมากกว่าเอ็นพีซีช่างตีเหล็กชื่อดังอยู่ราว3เท่า   

       ดังนั้นกริดจึงมั่นใจว่าเขาจะสามารถทำขั้นตอนอบคืนตัวแฟลมเบิร์จได้อย่างไม่มีปัญหา

       "เราจะสร้างมันขึ้นมาเองกับมือ… แฟลมเบิร์จที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก… ที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน"

       ความมั่นใจของกริดพุ่งสูงขึ้นสู่อวกาศ... โดยไม่มีทีท่าว่าจะหวนกลับลงมายังโลกเลยสักนิด

       ***

       "ย่าห์!"

       ผลั่ก!

       "ฮ่าห์!"

       ผัวะ!

       เรกัสที่เร่งรีบหาเบาะแสโล่เทวะให้กริด… ตลอดทางได้ไล่สังหารมอนสเตอร์ที่มาเกะกะจนถนนชะโลมไปด้วยเลือด 

       เรกัส ปรมาจารย์เทควอน… เขาถูกยกให้เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมแอล ที เอสด้านการต่อสู้… แม้แต่จิสึกะที่มีอันดับโลกสูงที่สุดในเซดาก้าห์ แต่เธอก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับเรกัสคนนี้ 

       ทักษะการต่อสู้ของเรกัสเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดเดาได้… ยิ่งเขาได้สู้ ตัวเขาก็จะยิ่งเก่งขึ้น… ไม่มีใครไม่รู้จักเรกัส และไม่มีใครกล้าหาเรื่องเรกัสมาก่อน

       แต่ในตอนนี้...  
       
       "ฮายย~ เรกัส… ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" มิฮาร่า… หนึ่งในห้าขุนพลสูงสุดของกิลด์ไจแอนท์ปรากฏตัวขึ้นและขวางทางเรกัสไว้… ในเกมแอล ที เอส ชายคนนี้เรียกตัวเองว่าเป็นคู่แข่งอันดับ1ของเรกัส...  "ดีใจจังเลยนะที่ได้มีโอกาสสู้กันอีก… หัวของฉันงี้ปั่นป่วนไปหมดเลยล่ะ… หึหึหึ!" 

       มิฮาร่าคือผู้เล่นจอมดาบเวทย์ที่อยู่อันดับ19ของโลก… เป็นเพียงไม่กี่คนที่ฝึกฝนทั้งวิชาดาบและเวทย์มนต์จนชำนาญขั้นสูงสุด… เขาสามารถเอาชนะนักดาบแท้ๆ ได้ด้วยวิชาดาบ… และสามารถเอาชนะจอมเวทย์แท้ๆ ได้ในการดวลเวทย์มนต์… แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเรกัส อีกฝ่ายพลันต้องใช้ทั้งหมดที่มีออกมาตั้งแต่แรก    

       พรึบ! ฉัวะ!

       มันสร้างเสาเพลิงขึ้นมาจำนวน3เสา พร้อมกับซัดดาบเข้าขวางช่องทางหลบหนีของเรกัสในเวลาเดียวกัน… มิฮาร่าต้องรู้สึกตื่นเต้นทันทีที่เห็นเลือดสาดกระเซ็นออกมาจากหน้าอกเรกัส 

       "วะฮ่าฮ่า! เรกัส! นายอ่อนแอลงกว่าสมัยแอล ที เอสเยอะเลยนะ! ชายที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุด… เหตุไฉนถึงอ่อนแอเพียงนี้!"

       "..."

       เรกัสหลบเสาเพลิงอย่างยากลำบาก… เขาบรรจงเช็ดเลือดที่อกอย่างเงียบงัน… และเอ่ยปากถามมิฮาร่าที่กำลังจะร่ายเวทย์ชุดต่อไป  

       "นายเป็นใคร..."

       "...!"

       มิฮาร่าตกตะลึงจนไม่อาจร่ายเวทย์ได้จบ… มันพลันโพล่งขึ้นอย่างโกรธแค้น "นายจำฉันไม่ได้รึไง! เจ้างั่งเอ้ย… เอ๋"

       ในขณะที่มันกำลังสั่นไปด้วยความโกรธ เรกัสไม่พลาดโอกาสนี้มุดไปโผล่ด้านข้างลำตัว… ภาพที่มิฮาร่าเห็นพลันกลับบนเป็นล่างในพริบตา 

       ผัวะ!

       "...อั่ก..."

       เรกัสโค้งคารวะให้กับมิฮาร่าที่นอนกองอยู่กับพื้นจากหมัดอัปเปอร์คัต

       "ถึงฉันจะไม่รู้ว่านายเป็นใคร… แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยเป็นคู่ต่อสู้ให้ การได้สู้กับคนเก่งๆ มีแต่จะทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น… ดังนั้นช่วยลุกขึ้นมาชี้แนะด้วย..."

       "นี่นาย...!"

       ***

       ในขณะที่เรกัสกำลังรับมือกับมิฮาร่า… จิสึกะได้นำโทบันและอีก8สมาชิกเซดาก้าห์ออกล่าบอสบาซิลิสก์… ราชันย์แห่งทะเลทรายเจ้าของฉายามังกรไร้ปีก… เจ้าบาซิลิสก์ตัวนี้มีออร่าชนิดหนึ่งที่แสดงผลอยู่ตลอดเวลาเป็นวงกว้าง… เวทย์สาปหิน… เป็นออร่าที่จะสาปทุกคนในระยะให้กลายเป็นหิน… ดังนั้นทุกคนที่มาร่วมล่าครั้งนี้จะต้องมีค่าต้านทานสาปหินอย่างต่ำอยู่ที่60%
       
       ทว่า… บนท้องฟ้ากลับมีเวทย์ที่สามารถล็อคขาของทุกคนพลันปรากฏขึ้น 

       'ใครกัน… ที่สามารถใช้เวทย์สาปหินทรงพลังขนาดนี้ได้...'

       จอมเวทย์อัสเซลลัสปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเหล่าสมาชิกเซดาก้าห์ที่กำลังสับสน

       "หืม… มีแค่ขาเท่านั้นหรอที่กลายเป็นหิน… ที่จริงเวทย์ของฉันสมบูรณ์แบบล่ะนะ… แต่ดูเหมือนจะมาผิดจังหวะไปหน่อย… ทว่าแค่พวกนายหนีไปไหนไม่ได้ก็เพียงพอแล้ว"

       เมื่ออัสเซลลัสให้สัญญาน สมาชิกกิลด์ไจแอนท์กว่า200คนได้โผล่ออกมาจากทะเลทรายทุกทิศทาง

       "พวกนายเป็นใคร!" โทบันคำรามอย่างดุดัน ส่วนอัสเซลลัสก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

       "กิลด์ไจแอนท์… ฉันมาที่นี่เพื่อขอให้พวกนายวางมือจากช่างฝีมือนิรนามซะ… ไม่อย่างนั้นพวกนายจะต้องถูกฆ่าไปเรื่อยๆ จนไม่อาจเล่นเกมได้อย่างมีความสุขอีกต่อไป…"

       ***

       ณ ดันเจี้ยนแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากวินสตันนัก

       ในขณะที่ป็อนกำลังล่ามอนสเตอร์เพื่อเก็บเลเวลตามปรกติ… ได้มีดาบเล่มหนึ่งพุ่งซัดเข้าใส่ด้วยความเร็วสูง 
       
       แคร้ง!

       "อึก..."

       ป็อนสามารถใช้หอกปัดดาบออกไปได้ก็จริง แต่ด้วยแรงปะทะอันมหาศาล จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดอาการชาขึ้น… เมื่อได้เห็นเจ้าของดาบโผล่ออกมาจากความมืด ป็อนพลันต้องประหลาดใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

       "เซอร์คาน...!"

       ป็อนรู้จักคนๆ นี้เป็นอย่างดี… เพราะในเกมแอล ที เอส… ทั้งคู่เคยต้องประมือกันมาเป็นร้อยๆ รอบ

       "ไม่เจอกันนานนะ… ป็อน"

       ในแอล ที เอส… เซอร์คานเป็นอับดับ4ของโลก… รองจากเรกัส จิสึกะ และป็อน… แต่ตอนนี้ล่ะ… ในซาทิสฟาย เซอร์คานคืออันดับ11ของโลก อยู่เหนือเซดาก้าห์อย่างจิสึกะ เรกัส และป็อนทุกคน    

       เซอร์คานชี้ดาบมาที่หน้าของป็อนและกล่าวว่า "นายต้องอยู่ที่นี่เล่นกับฉันสักหน่อย"

       'หากหมอนี่มาอยู่กับเรา… แปลว่าสมาชิกกิลด์คนอื่นก็คง... '

       ป็อนยั่วยุเซอร์คาน "ยังรับใช้ไอ้กระจอกคริสอยู่อีกหรอ..."

       เซอร์คานหัวเราะเล็กน้อย "ฮะฮะ! หัวหน้าเติบโตขึ้นจนแม้แต่ฉันเองก็ยังคาดไม่ถึง… เขาเหนือกว่าตัวนายในอดีตไปแล้วด้วยซ้ำ… การรับใช้เขานับเป็นเรื่องที่คุ้มค่าแล้ว"

       "ชิ! ถ้าตาลุงนั่นได้ยินมันคงดีใจแย่… ช่างเถอะ… งั้นเดี๋ยวฉันจัดการนายก่อนก็แล้วกัน… เหมือนกับเมื่อก่อนไงล่ะ"

       ***

       ในเวลาเดียวกัน ณ โรงตีเหล็กข่าน

       'ตัวตนที่แท้จริงของกริดเป็นแบบนี้นี่เอง...'
       
       ไอเบลลินเฝ้ามองกริดค่อยๆ ถลุงโลหะอย่างปราณีตบรรจง… ในยามที่กริดยืนอยู่หน้าเตาหลอม เขาจะแผ่ออร่าประหลาดอันน่าเกรงขามออกมาให้ผู้คนได้พบเห็น… ไอเบลลินจึงทำได้เพียงยืนมองอย่างเงียบงันโดยไม่คิดรบกวน  

       แต่ทันใดนั้น… ที่ด้านนอกร้าน ไอเบลลินพลันเห็นกลุ่มผู้เล่นสวมตรากระบองสีทองปรากฏตัวขึ้นที่หน้าโรงตีเหล็ก 

       "คนของกิลด์ไจแอนท์หรอ..."

       และเป็นเวลาเดียวกันกับที่ช่องสนทนากิลด์กำลังวุ่นวาย

       { พวกกิลด์ไจแอนท์มันจงใจเล่นงานเรา… ใครที่ยังว่างอยู่รีบไปคุ้มกันกริดโดยด่วน! }

       "เห..." ดวงตาของไอเบลลินเป็นประกายพร้อมกับชักแฟลมเบิร์จประจำตัวออกมา… เขาเดินออกไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูร้านและโพล่งขึ้น "น่าสนุกดีนี่..." 

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00