จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 89

       "นี่มัน...!"

       มาลาคัส ผู้ที่กำลังจะบีบหัวของเรกัสให้แหลกคามือ พลันต้องชะงักไปทันที

       'เรื่องบังเอิญงั้นหรือ...'

       ก่อนที่กิลด์เซดาก้าห์จะมาถึงที่นี่ มาลาคัสได้เผชิญหน้ากับกริดตัวต่อตัวแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ต้องพลาดโอกาสสังหารเขาไป กริดไม่ใช่คนแข็งแกร่ง เรียกว่าอ่อนแอเลยก็ยังได้ หากมาลาคัสต้องการ เพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถดับลมหายใจกริดได้แล้ว ทว่า...แม้จะมีเลเวลที่ต่ำต้อย แต่กริดมีบางสิ่งแปลกไปจากคนอื่น ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนแอนั่น กลับสามารถแผ่ออร่าประหลาดออกมาได้...จนทำให้มาลาคัสต้องถอยหนี

       'เราไม่เข้าใจเลย...'

       เรื่องในคราวก่อน มาลาคัสไม่อยากไปนึกถึงมันอีก แต่ครั้งนี้ มันกลับเกิดขึ้นซ้ำอีกหน จะต้องไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน แรงกดดันจากกริดเป็นของจริง...แต่ว่า...ทำไมคนที่อ่อนแออย่างเขา ถึงได้มีแรงกดดันมหาศาลเช่นนี้ได้

       'ตัวเรา...เกรงกลัวต่อผู้เดียวเท่านั้น...คือองค์เทพยาธาน!'

       มาลาคัสที่ถูกรบกวน จำใจต้องปล่อยเรกัสไป เป็นเวลาเดียวกับที่กริดวิ่งเข้ามาหา

       'ชิ!'

       มาลาคัสถอยหนีจนสุดระยะ ในขณะที่กริดช่วยเรกัสได้สำเร็จ

       "เรกัส นายเป็นอะไรรึเปล่า..."

       "กริด..."

       เรกัสจ้องมองกริดด้วยแววตาที่เจิดจ้าดั่งโคมไฟ  เพียงการร่ายรำกระบวนดาบเดียว กริดสามารถข่มขวัญมาลาคัส ผู้ซึ่งกำลังจับตัวอันดับ2แห่งกิลด์เซดาก้าห์ไว้เป็นตัวประกัน... 

       ลำพังกริดเคลื่อนไหวคนเดียว ส่งผลยอดเยี่ยมยิ่งกว่ากิลด์เซดาก้าห์ทั้ง17คนรวมกัน...17ผู้เล่นที่ติดอันดับ100แรกของโลก...

       ในสายตาเรกัส กริดจึงยิ่งใหญ่กว่าผู้เล่นคนใดที่เขาเคยพบมา

       'แม้เขาจะไม่ใช้ผู้เล่นที่โด่งดัง...แต่ก็มีศักดิ์ศรีและความกล้าหาญ'

       เรกัสย้อนนึกไปถึงตอนที่พบกริดครั้งแรก กริดเคยพูดไว้ว่า: ฉันไม่จำเป็นต้องสวมเกราะ แค่มีดาบเล่มเดียวก็เพียงพอแล้ว...

       คำพูดเหล่านั้นทำให้ทุกคนหัวเราะเยอะกริด บ้างหาว่าเขาเป็นไอ้ขี้โม้ แต่เรกัสกลับเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม...เขาคิดว่ากริดคือหนึ่งในคนที่พึ่งพาได้

       "ยิ่งฉันเฝ้ามอง...ตัวตนของนายก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ"

       เรกัสรั้งอันดับท็อป30ของโลกในตอนนี้ แต่เขากลับรู้สึกอิจฉาคนอย่างกริด...จึงไม่แปลกที่กริดจะรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นพิเศษ

       'จนถึงเมื่อครู่...เราเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น...แต่ผู้เล่นติดอันดับอย่างเรกัสกลับชื่นชมเรา'

       สำหรับกริดในตอนแรก ตัวตนของผู้เล่นติดอันดับ สิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจเอื้อมถึง เป็นกลุ่มคนที่เขาสามารถพบเห็นได้ในโทรทัศน์เท่านั้น ทว่า...นับตั้งแต่การได้เป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ชีวิตก็ราวกับเดินไปคนละเส้นทางจากเดิม

       'ริมฝีปากของเรากำลังสั่นระริก...'

       กริดอยากจะดื่มด่ำกับคำชมของเรกัสให้นานกว่านี้ แต่โชคไม่ดีนัก กระบวนดาบหน่วงมีผลเพียงแค่3วินาที ไม่เหลือที่ว่างให้หายใจหายคอทั้งสิ้น

       'แต่ก็ยังมีโชคอยู่บ้าง...ในสถานการณ์แบบนี้...'

       สมองกริดกำลังคำนวน บวกลบผลดีผลเสีย ในขณะที่กำลังวิ่งหนีไปพร้อมเรกัส

       'หลังจากใช้กระบวนดาบเมื่อครู่ เราก็รู้ได้ทันทีว่า การทำเช่นนี้จะต้องเป็นกำไรมหาศาลแน่ หากดูจากนิสัยของเรกัส หนี้ชีวิตคราวนี้ เขาจะต้องชดใช้ให้ด้วยความเต็มใจ...และเป็นการตอบแทนที่คุ้มค่า'

       3วินาที...นับเป็นเวลาที่สั้นมาก เมื่อผลของกระบวนดาบหน่วงหมดลง มาลาคัสก็ได้อิสระคืนมา ทันใดนั้น มันก็พลันปรากฏตัวด้านหน้ากริดอย่างรวดเร็ว...

       นี่ไม่ใช่ทักษะพุ่งตัวหรืออะไรเทือกนั้น แต่เป็นเวทย์มนต์ชั้นสูง สำหรับการบิดเบือนและเคลื่อนตัวเองข้ามผ่านมิติเวลา

       "เอ๋..."

       กริดต้องตกตะลึงที่เห็นมาลาคัสโผล่ออกมา

       "ผ--ผี..."

       มาลาคัสแสยะยิ้ม

       "ความรู้สึกกดดันจากแกเมื่อครู่ ยามนี้มันหายไปหมดสิ้น ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ก่อน...ฉันเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่านะ...หรือว่า...เป็นไปไม่ได้! นี่แกตบตาฉันเชียวหรือ...ช่างน่ารังเกียจนัก! จงแสดงลูกไม้เมื่อครู่ออกมาซะ! ไม่อย่างนั้น ฉันไม่ปล่อยให้แกตายดีแน่!"

       เป็นน้ำเสียงที่ฟังดูประหลาดและน่าเกลียด ราวกับเป็นสองเสียงประสานกัน

       "อึ๋ย!"

       ใบหน้าของกริดซีดเผือด ริมฝีปากกลายเป็นสีม่วง ราวกับกำลังขาดออกซิเจน เขาพลันก้มหัวลงเพื่อหวังร้องขอชีวิต แต่ทันใดนั้นเอง ลูกไฟขนาดยักษ์ได้พุ่งกระแทกใส่มาลาคัสเข้าอย่างจัง

       บึ้มมมม!

       "จังหวะนี้แหละ! หนีเร็ว!"

       ในขณะที่มาลาคัสจมอยู่ในแรงระเบิด กริดรีบหันไปกลับไปด้านหลัง และได้พบกับใบหน้าที่คุ้ยเคยเป็นอย่างมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป...

       "ล--ลาเอลล่า..."

       ลาเอลล่า สาวน้อยชาวอังกฤษวัย18ปี นักร้องระดับโลกที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ แถมยังเป็นผู้เล่นติดอันดับของซาทิสฟายด้วย...ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้...

       "อย่าบอกนะว่า..." กริด ผู้ซึ่งเป็นแฟนตัวยง ได้หันไปถามเรกัสทันที "เรกัส! ลาเอลล่าอยู่กิลด์นายหรอ..."

       ดวงตาของกริดแดงก่ำ รูจมูกบานออกอย่างน่าเกลียด เรกัสหัวเราะเล็กน้อย และหันไปพยักหน้าให้กับลาเอลล่า "ถูกต้อง เธอเป็นเพื่อนซี้ของพวกเราที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกม แอล ที เอสแล้ว...กริด นายชอบเพลงของเธอรึเปล่า..."

       "โว้ว...ยอดเลย! ที่จริง ฉันชอบหน้าอกของลาเอลล่ามากเลยล่ะ...เอ่อ...ฉันหมายถึง...เสียงร้องน่ะ...ฮะฮะ!"

       กริดที่กำลังตื่นเต้นกับเรื่องของลาเอลล่า พลันลืมสถานการณ์ปัจจุบันไปหมดสิ้น

       จิสึกะตะโกนขึ้นอย่างร้อนรน "พวกนายคิดจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม...รีบมาทางนี้เร็วเข้า!"

       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ

       เมื่อพูดจบ จิสึกะก็ยิ่งฝนธนูนับสิบดอกขึ้นไปบนท้องฟ้า จุดตกของห่าธนูเหล่านั้นคือศีรษะของมาลาคัส ซึ่งมันไม่สามารถมองเห็นการโจมตีดังกล่าวได้ เพราะฝุ่นควันจากการระเบิดกำลังคละคลุ้งอยู่ทั่วบริเวณ...ท่าทีของกริดได้ทำให้มาลาคัสสูญเสียความเยือกเย็นไป แถมในตอนนี้กำลังมองไม่เห็น มันจึงถูกลูกธนูนับสิบปักเข้าจากด้านบน จนมีลักษณะดูคล้ายเม่นขึ้นมาทันที

       กริดและเรกัสรีบวิ่งหนีไปทางจิสึกะ ทว่า...เป็นอีกครั้งที่มาลาคัสมาโผล่ดักอยู่ด้านหน้า

       "คิดว่าจะหนีรอดงั้นหรือ..."

       ซู่ววว!

       มาลาคัสใช้เวทย์มนต์ดึงลูกธนูบนแผ่นหลังออกทุกดอก หลังจากนั้นมันก็สะบัดฝ่ามือเล็กน้อย พลันเกิดเป็นหอกความมืดสีดำจำนวน3เล่มขึ้นกลางอากาศ และพุ่งตรงมาหากริดด้วยความรวดเร็ว

       "เอ๋...ทำไมเจ้าบ้านี่ถึงไล่ตามแต่เรา...ชิ! มันกลัวเราขนาดนั้นเลยรึไง!"

       ในจังหวะนั้น กริดรีบชักดาอินสเลฟออกมาถือ ทว่า...พลันมีเงาลางสีดำคล้ายร่างคน โผล่ออกมาบังกริดและเรกัสไว้

       หอกความมืดที่ควรจะแทงใส่กริด กลับถูกปัดตกลงไปกระแทกกับพื้นดินและระเบิดออก ใบหน้าของมาลาคัสบิดเบี้ยวทันที

       "ในกลุ่มสุนัขจรจัด...มีลูกหนูแฝงตัวอยู่ด้วยงั้นหรอ..."

       มาลาคัสสร้างคมมีดสีดำขึ้นอีกหนึ่งเล่ม หลังจากนั้นก็ซัดมันเข้าใส่เงาดำที่ยืนบังกริดอยู่       

       ฉึก! ฉึก!

       เงาดำดังกล่าวหลบการโจมตีนี้ไม่พ้น จึงโดนคมมีดเวทย์เฉือนเข้าอย่างจัง ทว่า...แทนที่จะมีเลือดไหล แต่มันกลับสลายกลายเป็นกลุ่มหมอกอย่างเงียบงัน

       "ร่างปลอมงั้นหรอ...ชิ! วุ่นวายจังนะ!"

       มาลาคัสต้องการจะร่ายเวทย์ใส่กริดซ้ำอีกครั้ง แต่คราวนี้ เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีแววตาเย็นชา ได้พุ่งตัวเข้ามาขวางไว้ เพียงเขาโยกร่างกายซ้ายขวาเล็กน้อย พลันเกิดเป็นร่างแยกขึ้นนับสิบที่ตรงหน้า

       ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ

       มีดสั้นและบรรดาอาวุธขว้างจำนวนมาก ถูกซัดออกไปด้วยจังหวะที่แตกต่าง ไม่มีทางที่มาลาคัสจะรับมือทั้งหมดพร้อมกันได้แน่...หากเป็นเช่นนั้น...การโจมตีครั้งนี้ประสบความสำเร็จงั้นหรือ...คำตอบนั้นง่ายมาก

       ไม่เลย...ยังคงทะลวงไม่ผ่านบาเรียสีดำนั่น!

       คราวนี้ บาเรียสีดำของมาลาคัสได้ห่อหุ้มร่างกายมันไว้โดยสมบูรณ์! แวนท์เนอร์ที่เห็นภาพดังกล่าว อดคิดไม่ได้ว่า...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่

       "แบบนี้ไม่โกงไปหน่อยรึไง...บาเรียเวทย์นี่มัน...เอาเปรียบกันชัดๆ...สามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องร่าย แถมยังห่อหุ้มร่างกายได้ทุกส่วนอีกเนี่ยนะ...ขาดสมดุลย์เกินไปแล้ว! แบบนี้จะเอาอะไรไปชนะมันได้!"

       แต่ป็อนไม่เห็นด้วย

       "บาเรียเวทย์นั่นไม่ได้ไร้เทียมทานอย่างที่นายคิด...ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หมอนี่คงเปิดใช้งานไว้ตลอดเวลาแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำ...อีกทั้ง จิสึกะก็ยังสามารถยิงเข้าเป้าได้หลายครั้ง...สิ่งที่มันทำตั้งแต่เริ่ม คือการสร้างบาเรียขึ้นมาป้องกันในส่วนที่ถูกโจมตีเท่านั้น แล้วมันก็เอาแต่ทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา...หมายความว่า...จำนวนพลังเวทย์ที่ต้องการสำหรับกางบาเรีย คงเป็นปัญหาใหญ่หลวงของมัน"

       "ฉันก็เห็นด้วย..."

       หลังจากนั้น มาลาคัสก็เสกโซ่ความมืดขึ้นมาพันขาร่างแยกไว้ทั้งหมด และเรียกเพลิงนรกขึ้นมาแผดเผา
       
       ชายที่เป็นร่างเงา ผู้ซึ่งช่วยกริดและเรกัสไว้ ได้ออกความเห็นว่า "ถ้าหากจำนวนพลังเวทย์ที่ใช้ เป็นจุดอ่อนของบาเรียนั่นอย่างที่ป็อนบอกล่ะก็...คงถึงตาพวกเรารุมกระหน่ำโจมตีเข้าไปบ้างแล้ว รับรองได้เลย ว่ามันคงไม่อยากสูญเสียพลังไปกับการกางบาเรียทิ้งแน่...แล้วจังหวะนั้น ก็จะเป็นเวลาที่มันเริ่มใช้ท่าโจมตี"

       เป็นความคิดที่ถูกแผงทุกประการ

       "จอมราชันย์แห่งนรกผู้ยิ่งใหญ่เอ๋ย...ได้โปรดปลดปล่อยฝูงสุนัขรับใช้ ที่ท่านเลี้ยงให้เชื่องตลอดหลายปีมานี้! จงออกคำสั่งให้มันเข้ากระโจนขย้ำหัวใจ ของผู้ที่เป็นปรปักษ์ต่อข้ารับใช้ผู้ต่ำต้อยคนนี้ด้วยเถิด!"

       ท้องฟ้าพลันมืดลงทันใด ไม่เหลือแสงสว่างจากดวงจันทร์หรือดวงดาวอีก มีเพียงสีดำ...สีดำสนิทเท่านั้น ไอความมืดเข้มข้นได้แผ่ปกคลุมทั่วทั้งผืนป่า พลังเวทย์ที่อัดแน่นอยู่เต็มบรรยากาศ ทำให้สมาชิกกิลด์เซดาก้าพลันต้องรู้สึกเย็นสันหลังขึ้นมาทันใด

       ป็อนพึมพำ "พวกเรากำลังจะตายงั้นหรอ..."

       จิสึกะรีบตะโกนออกมาทันที "ปกป้องกริด!"

       เมื่อครู่ เธอได้เห็นกับตาของตนเองแล้ว...จึงไม่กล้าพูดว่ากริดเป็นช่างตีเหล็กอีก คลาสของกริดน่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับจอมดาบร่ายรำ...แต่ถึงกระนั้น จิสึกะก็ยังมีหวังในตัวกริด...เขาสามารถบอกชื่อลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษได้ทันทีที่เห็นเพียงเสี้ยวพริบตา ดังนั้น การคุ้มกันกริดยังคงเป็นเป้าหมายหลัก

       "โอ้ววว!"

       โทบันรีบพุ่งตัวเข้ามาเป็นโล่กำบังให้กริด ทักษะสายป้องกันถูกกางออกนับไม่ถ้วน ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งแวนท์เนอร์ ป็อน เฟคเกอร์ ลาเอลล่า และสมาชิกที่เหลือของเซดาก้าห์ ทุกคนต่างมาล้อมกริดไว้

       พื้นดินในจุดที่มาลาคัสยืนอยู่ ได้ขยับไปมาประหนึ่งเป็นลาวาร้อน หลังจากนั้นก็เริ่มมีเงาดำพวยพุ่งออกมา กลุ่มเงาเหล่านั้นค่อยๆ ก่อตัวกันเป็นรูปร่างสุนัขสีดำที่มีสามหัว

       กรรรรร

       โฮ่งงงง! โฮ่งงง!

       ฝูงสุนัขขนาดใหญ่กว่า2เมตร ซึ่งแต่ละตัวสามารถพ่นเปลวเพลิง น้ำแข็ง และพิษออกมาจากทั้งสามหัว นัยน์ตาสีแดงก่ำประหนึ่งหมาบ้า แถมเสียงเห่าก็ยิ่งเหมือนกับหมาบ้าเข้าไปใหญ่ มาลาคัสจ้องมองพวกมันอย่างเอ็นดู และเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุขให้เห็น

       "ฝูงผู้เฝ้าประตูนรกได้มาเยือนที่นี่แล้ว!"

       โฮกกก!

       ผู้เฝ้าประตูนรกกลุ่มหนึ่งวิ่งตรงมายังสมาชิกเซดาก้าห์อย่างบ้าคลั่ง

       "หมาพวกนี้คิดจะทำอะไร..."

       ขวานคู่ของแวนท์เนอร์อาจไร้ค่ากับมาลาคัสก็จริง แต่หากเป็นหมาล่ะก็...แวนท์เนอร์กระโจนออกไปอย่างมั่นใจ และควงขวานกระหน่ำใส่ผู้เฝ้าประตูนรกราวกับพายุบุแคม

       "โอร่า!โอร่า!โอร่า!"

       ฉับ! ฉึบ!

       โฮ่ง! โฮ่ง!

       ในช่วงแรก ดูเหมือนแวนท์เนอร์จะได้เปรียบอยู่ก็จริง ทว่า...ทุกอย่างพลันเปลี่ยนไปในเสี้ยววิ...ทั้งที่ผู้เฝ้าประตูนรกถูกฟันขาดออกเป็นสองท่อน แต่มันกลับไม่ยอมตาย แถมร่างกายแวนท์เนอร์ก็ยังถูกแผดเผาจนทั่ว ขาถูกแช่แข็งไม่อาจขยับได้ ผิวหนังเริ่มกลายเป็นสีเขียว แวนท์เนอร์กระอักเลือดสีดำออกมาคำโต แสดงให้เห็นว่า เขาถูกพิษเข้าแล้ว โดยแม้กระทั่งขวานทั้งสองเล่มก็ยังผุกร่อน มิอาจแสดงความเป็นอาวุธได้อีก

       นั่นเป็นผลจากเปลวเพลิง น้ำแข็ง และพิษ ในแต่ละหัวของผู้เฝ้าประตูนรก ซึ่งพวกมันทุกตัวล้วนกระทำแบบเดียวกัน

       ป็อนเห็นท่าไม่ดี จึงซัดหอกคลื่นเสียงเพื่อช่วยให้แวนท์เนอร์หนีออกมาได้

       ฟิ้ววว!

       คลื่นเสียงสีแดงพลันพุ่งเข้าใส่ฝูงผู้เฝ้าประตูนรกที่ล้อมรอบแวนท์เนอร์ทันที

       เอ๋ง! อิ๋ง!

       ฝูงผู้เฝ้าประตูนรกเกิดความหวาดกลัวและกระจายออกไปตัวละทิศละทาง แวนท์ฉวยโอกาสดังกล่าวพักหายใจหายคอ และใช้ทักษะอมตะหนีรอดมาได้

       สีหน้าของโทบันแย่ลงทันทีที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

       "ไม่มีตัวไหนตายเลย..."

       หากเป็นมอนสเตอร์ทั่วไป หอกคลื่นเสียงของป็อนถือว่าทรงพลังชนิดที่ไม่มีใครเกินอีกแล้ว ยิ่งถ้าหากติดคริติคอล แม้กระทั่งมอนสเตอร์บอสก็ถึงกับจุกอยู่เหมือนกัน ทว่า...ฝูงผู้เฝ้าประตูนรกเหล่านี้กลับรอดจากหอกคลื่นเสียงมาได้ ย่อมแปลว่า ทั้งพลังป้องกันและพลังชีวิต จะต้องอยู่เหนือมอนสเตอร์ทั่วไปหลายเท่า

       จิสึกะและสมาชิกกิลด์คนอื่นเองก็สัมผัสได้ถึงความย่ำแย่ในครั้งนี้

       "แม้แวนท์เนอร์จะนำแต้มสถานะไปลงกับพละกำลังก็จริง แต่ยังไงเสีย เขาก็ยังเป็นคลาสอัศวินผู้พิทักษ์ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แวนท์เนอร์คือผู้ที่มีพลังป้องกันและป้องกันเวทย์มนต์สูงสุดของกิลด์เรา แต่เมื่อเห็นเขาต้องกลายเป็นกระดาษเปื่อยยุยในพริบตา...ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน...พลังโจมตีของสุนัขพวกนี้ จะต้องสูงกว่ามอนสเตอร์ทุกตัวที่พวกเราเคยพบมามาก"

       ป็อนเห็นด้วย "หากสุนัขพวกนี้มีเลเวลอย่างต่ำ300...พวกเราคงรับมือได้อย่างมากก็2-3ตัวต่อคน"       

       สุนัข29ตัวที่มีเลเวลอย่างน้อย300 แถมยังแฝงไว้ด้วยคุณสมบัติธาตุ3ชนิด...ยังไม่รวมถึงตัวมาลาคัสเองด้วย โอกาสชนะเหลือไม่มากแล้ว...บรรยากาศแย่ลงทันตา ฝูงผู้เฝ้าประตูนรกเริ่มไล่ตะครุบใส่สมาชิกกิลด์

       จิสึกะออกคำสั่ง

       "ตอบโต้ด้วยการโจมตีระยะไกล!"

       ในตอนนี้ แม้แต่การต่อสู้ตัวต่อตัวยังทำได้ยาก คำสั่งของจิสึกะจึงถือเป็นเรื่องที่ฉลาดมาก ทว่า...กิลด์เซดาก้าห์มีคลาสสายโจมตีระยะไกลอยู่น้อยมาก

       โฮ่ง! โฮ่ง!

       "อั่ก!"

       ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไรนัก ฝูงผู้เฝ้าประตูนรกได้ทะลวงผ่านแนวรับของกิลด์เซดาก้าห์อย่างง่ายดาย โทบันรีบใช้โล่ปัดป้องการพ่นพิษของพวกมัน...

       ทันใดนั้น กริด ผู้ซึ่งกำลังเป็นอันตรายถึงชีวิต เมื่อได้เห็นโล่ของโทบันกลายเป็นเศษเหล็ก ชายหนุ่มจึงพลันควักโล่สีทองจากกระเป๋าออกมาถือ

       ทันใดนั้นเอง เรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น...

       วิ้งงงงง!

       ฝูงผู้เผ้าประตูนรก...มอนสเตอร์ที่ไม่คิดถอยหนีแม้จะโดนลูกธนูของจิสึกะเสียบเข้า ทว่า...พวกมันกลับกำลังแตกฮืออย่างอลหม่าน เพียงเพราะได้เห็นโล่ในมือของกริด

Comments

  1. โล่ส่งเควสระดับกากอะนะ 555

    ReplyDelete
  2. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. อ้ากกกก ตัดบดจบอีกแล้ว ค้างคาอย่างแรง

    ReplyDelete
  4. อ้ากกกก ตัดบดจบอีกแล้ว ค้างคาอย่างแรง

    ReplyDelete
  5. ตัดบทดีจริงๆเรื่องนี้

    ReplyDelete
  6. โล่อีกอันไปอยู่ที่ไหนแล้ว

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00