จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 84
ศึกการต่อสู้ระหว่างฝ่ายพันธมิตรและวิหารยาธานได้ดำเนินไปนานถึง2สัปดาห์แล้ว ในระหว่างนั้น กิลด์ 'ไจแอนท์' คือผู้ที่ได้รับความสำเร็จไปมากมาย วันนี้จึงถึงเวลาเลี้ยงฉลองเสียที
"ดีใจกับหัวหน้าด้วย ได้เป็นถึงลอร์ดเชียวนะ! เชียร์!"
"เชียร์!"
กิลด์ไจแอนท์ นับเป็นหนึงในกิลระดับหัวกะทิของซาทิสฟาย หัวหน้ากิลของพวกเขา 'คริส' คือผู้เล่นติดอันดับหลักเดียว ที่รั้งอันดับ3ของโลกในเวลานี้ คริสเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น 'ลอร์ดแห่งเปรโด' มาหมาดๆ จากผลงานการรบพุ่งอันยอดเยี่ยม ต้องยกความดีความชอบให้สมาชิกกิลด์ทั้ง530คนด้วย
"เอาล่ะ! ถึงเวลาทำให้ทุกอย่างมั่นคงแล้ว! อีก2สัปดาห์ถัดไป พวกเราจะหยุดการเข้าร่วมสงคราม...เป็นเวลาที่ควรปกป้องและเสริมความแข็งแกร่งให้เมืองเปรโด ฐานที่มั่นใหม่ของพวกเรา!"
"แล้วก็..."
คริสชะงักคำพูดไป เขาพลางหยิบเกราะหนังตัวหนึ่งออกมาตรวจดูรายละเอียดอย่างถ้วนถี่อีกครั้ง
ช่างฝีมือนิรนามคนเดียวกันกับที่สร้างลูกธนูเกรดอีปิกชุดแรกของโลก ซึ่งเป็นข่าวดังชั่วข้ามคืนไปในระยะเวลาหนึ่ง...
จะหาเขาได้จากที่ไหนนะ...
คริสเคยลองพยายามค้นหาอย่างไร้เบาะแส แต่ก็มืดแปดด้าน ไม่มีร่องรอยโผล่ออกมาแม้แต่น้อย
ทว่า เมื่อไม่นานมานี้ คริสดันไปพบเบาะแสโดยบังเอิญจากโพสในเว็ปไซต์ชุมชนซาทิสฟาย
'ขอให้ทันเวลาด้วยเถอะ...' เป็นอีกครั้งที่คริสสวดภาวนาอย่างตั้งใจ
"นำสมาชิกครึ่งหนึ่งของกิลด์ แบ่งทีมออกไปตามหาเขาซะ! มุ่งหน้าไปวินสตัน! เป้าหมายคือช่างฝีมือนิรนาม! หาให้พบ และชักชวนเข้ากิลด์ให้ได้! ไม่ว่าเขาจะยื่นข้อเสนออะไรมา รีบตอบรับทันทีโดยไม่ต้องสนใจเงื่อนไข!"
ถ้าอยากยกระดับกิลด์ให้แข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้น การมีคลาสสายต่อสู้จำนวนมากคือคำตอบ แต่ถ้าหากต้องการเสริมความมั่นคงของกิลด์จากรากฐาน ทักษะสายสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งจำเป็น
คริวล้มเหลวในการชักชวนสเต็งกับแพนเมียร์ ช่างตีเหล็กอันดับ1และ2ของโลกในเวลานี้ แต่อย่างน้อย เขาก็ยังสำเร็จในการชวนอันดับ3และ4มาเข้าร่วม
ทว่า...สำหรับคริส มันยังไม่พอ
ดังนั้น เขาจึงต้องการตัวช่างฝีมือนิรนามอย่างมาก ไม่ว่ายังไงก็ตาม คริสหวังจะทำให้กิลด์ไจแอนท์กลายเป็นกิลด์อันดับ1ให้ได้
**
"พวกเราคนไม่พอ!"
กิลด์เซดาก้าห์กำลังวุ่นอยู่กับหลายเรื่อง จนสมาชิกกิลด์เริ่มคุมสติกันไม่ค่อยอยู่ ในขณะนี้ นอกจากพวกเขาต้องทำภารกิจต่อสู้กับวิหารยาธาน ยังต้องตามหาตัวยูเฟอมิน่าและช่างฝีมือนิรนามในเวลาเดียวกัน
ด้วยสมาชิกกิลด์ที่มีอยู่เพียง17คน ถึงทั้งหมดจะเป็นผู้เล่นติดอันดับ แต่ด้วยจำนวนคนเพียงเท่านี้ ถือเป็นข้อเสียอย่างมากในหลายเรื่อง
ท้ายที่สุด สมาชิกกิลด์ก็ไม่สามารถอดทนต่อความอึดอัดนี้ได้ พวกเขาจึงเปิดปากคุยกับจิสึกะออกไปตรงๆ ทำให้เกิดเป็นการประชุมครั้งนี้ขึ้น
"เลิกสนใจยูเฟอมิน่าก่อนดีไหม เหตุผลที่เราตามล่าเธอ เพียงเพราะแก้แค้นให้สมาชิกในกิลด์ และเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงคืนมา...แต่มันไม่มีผลประโยชน์อะไรให้จับต้องได้เลยสักนิด! กลับกัน ทั้งภารกิจต่อต้านวิหารยาธาน และการค้นหาตัวช่างฝีมือนิรนาม ทั้งสองสิ่งต่างก็เป็นเรื่องที่กิลด์ได้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ควรพักเรื่องความแค้นเอาไว้ชั่วคราว แล้วมุ่งเป้ากับสิ่งที่จับต้องได้จะดีกว่า"
"ฉันเห็นด้วย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะจับตัวผู้หญิงที่เอาแต่หลบซ่อนเหมือนกับหนู"
"7เสียงเห็นด้วย 7เสียงคัดค้าน 3เสียงไม่ออกความเห็น"
"ฉันไม่คิดว่าพวกเราควรปล่อยเธอไปกลางคัน ถ้าทำแบบนั้น ชื่อเสียงอาจแย่ลงไปอีก ถ้าหากไม่ไหวจริงๆ ฉันคิดว่าการทิ้งภารกิจเกี่ยวกับวิหารยาธาน ดูจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า ภารกิจยิบย่อยพวกนั้นก็แค่ทำให้เชื่อเสียงกิลด์เพิ่มขึ้น กิลด์อย่างเรา ยังมีอีกหลายร้อยวิธีในการเพิ่มชื่อเสียง"
"ใช่แล้ว การแค้นแก้นมันเกี่ยวพันกับศักดิ์ศรีเชียวนะ! เป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่จะเลื่อนออกไปไม่ได้! ทุกคนลืมความภาคภูมิใจของกิลด์เซดาก้าห์ไปแล้วงั้นหรือ..."
"7เสียงเห็นด้วย 5เสียงคัดค้าน 5เสียงไม่ออกความเห็น"
เรกัส ผู้ที่ชมการประชุมอย่างเงียบงันมาตั้งแต่เริ่ม พลันพูดขึ้นว่า "แล้วการค้นหาช่างฝีมือนิรนามล่ะ..."
จิสึกะถามเรกัสกลับไป "นายคิดว่าเราควรเลื่อนไปก่อนงั้นรึ..."
เรกัสรีบตอบทันที "ไม่เลย...ว่ากันตามตรง หัวหน้าคิดว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุดอยู่แล้วนี่...ใช่ไหมล่ะ"
"อืม..." จิสึกะยอมรับ "ถ้าอย่างนั้น ฉันขอสรุปตามนี้ กิลด์ของเราจะหยุดพักการทำภารกิจต่อต้านวิหารยาธานไว้ก่อน กำลังคนส่วนที่เหลือ จะใช้สำหรับการค้นหาตัวยูเฟอมิน่าและช่างฝีมือนิรนาม"
"ตกลง!"
เมื่อจมการประชุม สมาชิกกิลด์ต่างก็แยกย้ายกันไป
***
ณ เมืองวินสตัน
สมาชิกกิลด์เซดาก้าห์ส่วนมากกำลังรวมตัวอยู่ที่นี่ ด้วยเหตุผลหลายประการ จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ช่างฝีมือนิรนามจะอยู่ในเมืองนี้
"การประชุมน่าเบื่อจังแฮะ...เอ๋!"
หลังเสร็จการประชุม เรกัสก็ได้พบกับเด็กหนุ่มชาวเอเชียในศูนย์อาหารโรงแรม ทันใดนั้น เรกัสพลันกล่าวทักทายและยิ้มให้ทันที
"เฮ้! นายนักรบยอดฝีมือ!"
"...เห..."
กริดที่กำลังเดินคอตก ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อมีใครบางคนยืนขวางทางอยู่ เขาจดจำใบหน้านี้ได้ทันที...เรกัส
"เรกัส..."
"ฮะฮะ! จำฉันได้ด้วยหรือ...นึกว่าจะลืมกันซะแล้ว" เรกัสพูดอย่างดีใจ
กริดนั่งลงบนขอบน้ำพุและตอบกลับไป "คนที่จะให้ยืมเงินอย่างนาย...ไม่สิ นายคือคนเดียวในวันนั้นที่ช่วยพูดให้ฉัน แล้วจะให้ลืมลงได้ยังไง"
หลายเดือนก่อน เมื่อตอนที่กริดยังมีเลเวล-3 เขาพยายามจะเข้าร่วมปาร์ตี้ล่าผู้พิทักษ์พงไพร แต่เมื่อสมัครขอเข้าปาร์ตี้ สมาชิกต่างพากันดูแคลนและหัวเราะเยาะ
ในเวลานั้น มีเพียงเรกัสคนเดียวที่ช่วยพูดให้ แต่แทนที่จะดีใจ กริดกลับรู้สึกอึดอัดเสียมากกว่า นั่นก็เพราะ ความนิสัยดีและซื่อตรงของเรกัส มันช่างตรงกันข้ามกับตัวตนของกริดอย่างสิ้นเชิง แถมหมอนี่ยังหน้าตาดีมากด้วย...
แต่หลังจากได้คุยกันสักพัก ดูเหมือนเรกัสจะซื่อตรงเกินกว่าที่กริดจะขอยืมเงินได้ลง กริดจึงตัดสินใจจบความสัมพันธ์กับคนๆ นี้ให้เร็วที่สุด
ทว่า...คราวนี้ ทั้งคู่ได้มาพบกันอีกครั้ง ในสถานการณ์ที่กริดกำลังนั่งมองข้าวในจานด้วยสีหน้าซังกะตาย
เรกัสเป็นกังวล "สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ...เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรอ..."
กริดแสร้งทำเป็นแสดงสีหน้าเศร้าหมองสุดขีดออกมา ก่อนจะอธิบายต่อไป
"ชายแก่คนหนึ่งขโมยไอเท็มของฉันไป"
เรกัสพลันโมโหทันที
"ชั่วช้าเกินไปแล้ว...! มีคนชั่วแบบนี้อยู่ในโลกด้วยหรือ..."
"ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ คนที่เอาแต่เบียดเบียนผู้อื่น...สมควรตายๆ ไปซะ!"
สีหน้าของกริดโกรธแค้น เรกัสรีบพยักหน้ารับ "คนแบบนั้นจะต้องได้รับทบเรียนอย่างสาสม!"
กริดเริ่มทำท่าจะกินข้าวในจาน "ฮะฮะ...มีคนช่วยมันก็ดีอยู่หรอก...แต่ว่า...เฮ่อ...สิ้นหวังแล้ว ในโลกอันโหดร้ายใบนี้ จะมีใครช่วยเหลือคนอื่นฟรีๆ บ้างล่ะ...จริงไหม..."
เรกัสพลันลุกพรวดขึ้น "โลกนี้โหดร้ายงั้นหรือ...ตรงไหนกัน! โลกใบนี้ทั้งอบอุ่นและงดงามต่างหาก!"
"จะเป็นแบบนั้นหรอ...เหอะๆ...ฉันเพิ่งจะโดนขโมยไอเท็มมาเองนะ...ช่างเป็นโลกที่อาบยาพิษซะจริง..."
"นายโดยขโมยไอเท็มอะไรไป...สำคัญขนาดนั้นเชียวรึ"
"ใช่แล้ว...สำคัญมาก...มันคืออนาคตทั้งหมดของฉันเลยก็ว่าได้...แต่มันก็หายไปแล้ว...กำลังคิดอยู่...ว่าจะฆ่าตัวตายดีมั้ย..."
ใบหน้าเรกัสหวาดผวาทันที "ฆ--ฆ่าตัวตาย! อย่าได้คิดทำบาปแบบนั้นเชียว! ไม่นึกสงสารพ่อกับแม่บางหรอ...อย่าได้ทำตัวอกตัญญูเด็ดขาด! ลืมจิตวิญญานแห่งเทควอนโดไปแล้วรึ..."
"ฉันขอโทษ...แต่ตอนนี้ ทั้งกายและใจเหนื่อยล้าไปหมด คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว"
และในที่สุด เหยื่อก็ติดกับสักที "ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้!! ฉันจะช่วยนายเอง! ฉันไม่มีวันให้อภัยคนที่ทำร้ายจิตใจของผู้อื่น!"
'ปลากินเบ็ดแล้ว...'
กริดรู้โล่งใจขึ้นเล็กน้อย
ป้าป!...
จิสึกะที่ได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสอง ในที่สุดก็ลงมือซัดเข้าไปที่หลังหัวเรกัสอย่างจัง หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วดึงหูเรกัสและพูดว่า "ว่างไปช่วยคนอื่นมากนักรึไง...ลืมงานของตัวเองไปแล้วหรอ..."
ดวงตาของกริดเปล่งประกายทันทีที่เห็นจิสึกะ...
ผิวสีแทน...ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด...ดวงตากลมโตได้สัดส่วน...และหน้าอกขนาดมหึมา! จิสึกะคือสเป็คหญิงสาวในอุดมคติ ที่กริดเฝ้าถวิลหามานาน
"ม--หมายความว่าไง..."
แม้จะถูกดึงใบหูอยู่ แต่เรกัสก็ยังหันมาตอบกริดได้ "เธอคือหัวหน้ากิลด์ของฉันเอง...โอ้ย! มันเจ็บนะครับ!"
"เจ็บหรอ...งั้นก็ดีแล้ว...เจ้างั่ง!"
"โอ้ยยย!"
จิสึกะดึงหูเรกัสแรงขึ้นกว่าเดิม และหันมามองทางกริด
ณ ตอนนี้ กริดกำลังจ้องมองร่างกายของเธอด้วยสายตาตกตะลึงสุดขีด ที่จริง จิสึกะก็คุ้นชินกับการถูกจ้องมองแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังทำใจไม่ได้สักที ถึงแม้จะเป็นเพียงโลกในเกมก็ตาม เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เฮ้! นายน่ะ!"
"หือ...ครับ..."
กริดได้สติกลับมาอีกครั้งจากเสียงเรียกของจิสึกะ เดิมทีแล้ว กริดเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงมากนัก แต่หากเป็นสาวในฝันล่ะก็ นั่นจะเป็นคนละเรื่องกันเลย กริดอดไม่ได้ที่จะยืนสั่นระริกต่อหน้าหญิงสาวในอุดมคติผู้นี้
จิสึกะกวาดสายตามองเล็กน้อย "เจ้าเด็กใหม่ เรกัสกำลังยุ่งอยู่นะ ดังนั้น เรื่องของตัวเอง ก็จัดการด้วยตัวเองไปก่อน...พวกเราขอตัว"
จิสึกะได้เดินจากไปพร้อมกับดึงหูเรกัสลากไปด้วย
เด็กใหม่...เด็กใหม่...เด็กใหม่...เด็กใหม่...
กริดยืนจ้องมองจิสึกะเดินจากไป โดยที่เสียงของเธอยังดังก้องอยู่ในหัว...
"เธอมองเราเหมือนกับสุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น..."
หญิงสาวในฝันแล้วไง...กริดเรียกสติกลับมาได้และเดินตามจิสึกะไป
"เฮ้!"
"...?"
จิสึกะอึ้งไปเล็กน้อย ที่กริด ผู้ซึ่งไม่กล้าสบตาเธอตรงๆ เมื่อครู่ ยามนี้กลับเดินมาขวางทางไว้...แต่กริดก็ทำเช่นนั้นได้เพียงไม่นาน เมื่อจิสึกะเผยรอยยิ้มอย่างผ่อนคลาย และนำแขนหนึ่งข้างมากอดไว้ใต้หน้าอก...การทำเช่นนี้...ส่งผลให้เห็นหน้าอกของเธอเผยรูปทรงเป็นสัดส่วนชัดเจนขึ้น
"นายเรียกฉันทำไม..."
"อึก!"
กริดต้องผงะเมื่อได้เห็นหน้าอกคู่นั้น...แต่ไม่นานนัก เขาก็ดึงสติกลับมาได้ทันควัน
"ส่งเรกัสมาให้ฉัน...เขาสัญญาแล้วว่าจะช่วย เธอมีสิทธิ์อะไรมาขัดขวาง"
"แน่นอน ต้องมีอยู่แล้ว ฉันเป็นหัวหน้ากิลด์ของเขา การทำตามคำสั่งหัวหน้ากิลด์ย่อมเป็นเรื่องปรกติ ความรู้พื้นฐานแบบนี้ก็ไม่มีงั้นหรอ...หลีกทางไปซะ!"
"แค่เพราะคุณคือหัวหน้ากิลด์ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีสิทธิ์เสมอไป"
"แล้วยังไง...จะบอกว่าคนนอกอย่างนายมีสิทธิ์สินะ..."
ในส่วนนี้ จิสึกะมีเหตุผลเหนือกว่ากริดมาก ดังนั้น แทนที่จะทำให้ขุ่นเคืองใจ กริดกลับเลือกใช้วิธีขอร้องแทน
"...ได้โปรด...ฉันหมดสิ้นหนทางแล้วจริงๆ"
"พวกเราเองก็ไม่ได้ดีกว่านายหรอกนะ...การสูญเสียคนไปสักคน นับเป็นความเสียหายร้ายแรง"
"แต่ฉันแย่กว่า!"
"พวกเราต่างหากที่แย่กว่า!"
"ฉันต่างหาก..."
"พวกเรา!..."
"ฉัน!"
ซุบซิบ...ซุบซิบ...
เริ่มมีชาวบ้านหลายคนมามุงดูการทะเลาะกันเป็นเด็ก ของชายหนุ่มกับหญิงสาวที่อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว...โดยเฉพาะจิสึกะ เธอเป็นคงดัง ย่อมเรียกความสนใจได้มาก
"ดีใจกับหัวหน้าด้วย ได้เป็นถึงลอร์ดเชียวนะ! เชียร์!"
"เชียร์!"
กิลด์ไจแอนท์ นับเป็นหนึงในกิลระดับหัวกะทิของซาทิสฟาย หัวหน้ากิลของพวกเขา 'คริส' คือผู้เล่นติดอันดับหลักเดียว ที่รั้งอันดับ3ของโลกในเวลานี้ คริสเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น 'ลอร์ดแห่งเปรโด' มาหมาดๆ จากผลงานการรบพุ่งอันยอดเยี่ยม ต้องยกความดีความชอบให้สมาชิกกิลด์ทั้ง530คนด้วย
"เอาล่ะ! ถึงเวลาทำให้ทุกอย่างมั่นคงแล้ว! อีก2สัปดาห์ถัดไป พวกเราจะหยุดการเข้าร่วมสงคราม...เป็นเวลาที่ควรปกป้องและเสริมความแข็งแกร่งให้เมืองเปรโด ฐานที่มั่นใหม่ของพวกเรา!"
"แล้วก็..."
คริสชะงักคำพูดไป เขาพลางหยิบเกราะหนังตัวหนึ่งออกมาตรวจดูรายละเอียดอย่างถ้วนถี่อีกครั้ง
[ เกราะหนังหนูที่สวมสบายอย่างคาดไม่ถึง ]
เกรด : อีปิก
ความคงทน : 24/24
พลังป้องกัน : 22
ความเร็วเคลื่อนที่ : +3%
เกราะหนังที่สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือทักษะเยี่ยม เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ แต่ยังขาดประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
มันถูกออกแบบให้ผู้สวมใส่เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างไม่ติดขัด เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่เล็กน้อย
ความจริงที่ว่า เกราะหนังตัวนี้ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุคุณภาพต่ำ มันช่างน่าเหลือเชื่ออย่างมาก
* เงื่อนไขการสวมใส่ :
- เลเวล13 หรือสูงกว่า
- ทักษะชำนาญเกราะหนังขั้นต้น
ช่างฝีมือนิรนามคนเดียวกันกับที่สร้างลูกธนูเกรดอีปิกชุดแรกของโลก ซึ่งเป็นข่าวดังชั่วข้ามคืนไปในระยะเวลาหนึ่ง...
จะหาเขาได้จากที่ไหนนะ...
คริสเคยลองพยายามค้นหาอย่างไร้เบาะแส แต่ก็มืดแปดด้าน ไม่มีร่องรอยโผล่ออกมาแม้แต่น้อย
ทว่า เมื่อไม่นานมานี้ คริสดันไปพบเบาะแสโดยบังเอิญจากโพสในเว็ปไซต์ชุมชนซาทิสฟาย
'ขอให้ทันเวลาด้วยเถอะ...' เป็นอีกครั้งที่คริสสวดภาวนาอย่างตั้งใจ
"นำสมาชิกครึ่งหนึ่งของกิลด์ แบ่งทีมออกไปตามหาเขาซะ! มุ่งหน้าไปวินสตัน! เป้าหมายคือช่างฝีมือนิรนาม! หาให้พบ และชักชวนเข้ากิลด์ให้ได้! ไม่ว่าเขาจะยื่นข้อเสนออะไรมา รีบตอบรับทันทีโดยไม่ต้องสนใจเงื่อนไข!"
ถ้าอยากยกระดับกิลด์ให้แข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้น การมีคลาสสายต่อสู้จำนวนมากคือคำตอบ แต่ถ้าหากต้องการเสริมความมั่นคงของกิลด์จากรากฐาน ทักษะสายสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งจำเป็น
คริวล้มเหลวในการชักชวนสเต็งกับแพนเมียร์ ช่างตีเหล็กอันดับ1และ2ของโลกในเวลานี้ แต่อย่างน้อย เขาก็ยังสำเร็จในการชวนอันดับ3และ4มาเข้าร่วม
ทว่า...สำหรับคริส มันยังไม่พอ
ดังนั้น เขาจึงต้องการตัวช่างฝีมือนิรนามอย่างมาก ไม่ว่ายังไงก็ตาม คริสหวังจะทำให้กิลด์ไจแอนท์กลายเป็นกิลด์อันดับ1ให้ได้
**
"พวกเราคนไม่พอ!"
กิลด์เซดาก้าห์กำลังวุ่นอยู่กับหลายเรื่อง จนสมาชิกกิลด์เริ่มคุมสติกันไม่ค่อยอยู่ ในขณะนี้ นอกจากพวกเขาต้องทำภารกิจต่อสู้กับวิหารยาธาน ยังต้องตามหาตัวยูเฟอมิน่าและช่างฝีมือนิรนามในเวลาเดียวกัน
ด้วยสมาชิกกิลด์ที่มีอยู่เพียง17คน ถึงทั้งหมดจะเป็นผู้เล่นติดอันดับ แต่ด้วยจำนวนคนเพียงเท่านี้ ถือเป็นข้อเสียอย่างมากในหลายเรื่อง
ท้ายที่สุด สมาชิกกิลด์ก็ไม่สามารถอดทนต่อความอึดอัดนี้ได้ พวกเขาจึงเปิดปากคุยกับจิสึกะออกไปตรงๆ ทำให้เกิดเป็นการประชุมครั้งนี้ขึ้น
"เลิกสนใจยูเฟอมิน่าก่อนดีไหม เหตุผลที่เราตามล่าเธอ เพียงเพราะแก้แค้นให้สมาชิกในกิลด์ และเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงคืนมา...แต่มันไม่มีผลประโยชน์อะไรให้จับต้องได้เลยสักนิด! กลับกัน ทั้งภารกิจต่อต้านวิหารยาธาน และการค้นหาตัวช่างฝีมือนิรนาม ทั้งสองสิ่งต่างก็เป็นเรื่องที่กิลด์ได้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ควรพักเรื่องความแค้นเอาไว้ชั่วคราว แล้วมุ่งเป้ากับสิ่งที่จับต้องได้จะดีกว่า"
"ฉันเห็นด้วย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะจับตัวผู้หญิงที่เอาแต่หลบซ่อนเหมือนกับหนู"
"7เสียงเห็นด้วย 7เสียงคัดค้าน 3เสียงไม่ออกความเห็น"
"ฉันไม่คิดว่าพวกเราควรปล่อยเธอไปกลางคัน ถ้าทำแบบนั้น ชื่อเสียงอาจแย่ลงไปอีก ถ้าหากไม่ไหวจริงๆ ฉันคิดว่าการทิ้งภารกิจเกี่ยวกับวิหารยาธาน ดูจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า ภารกิจยิบย่อยพวกนั้นก็แค่ทำให้เชื่อเสียงกิลด์เพิ่มขึ้น กิลด์อย่างเรา ยังมีอีกหลายร้อยวิธีในการเพิ่มชื่อเสียง"
"ใช่แล้ว การแค้นแก้นมันเกี่ยวพันกับศักดิ์ศรีเชียวนะ! เป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่จะเลื่อนออกไปไม่ได้! ทุกคนลืมความภาคภูมิใจของกิลด์เซดาก้าห์ไปแล้วงั้นหรือ..."
"7เสียงเห็นด้วย 5เสียงคัดค้าน 5เสียงไม่ออกความเห็น"
เรกัส ผู้ที่ชมการประชุมอย่างเงียบงันมาตั้งแต่เริ่ม พลันพูดขึ้นว่า "แล้วการค้นหาช่างฝีมือนิรนามล่ะ..."
จิสึกะถามเรกัสกลับไป "นายคิดว่าเราควรเลื่อนไปก่อนงั้นรึ..."
เรกัสรีบตอบทันที "ไม่เลย...ว่ากันตามตรง หัวหน้าคิดว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุดอยู่แล้วนี่...ใช่ไหมล่ะ"
"อืม..." จิสึกะยอมรับ "ถ้าอย่างนั้น ฉันขอสรุปตามนี้ กิลด์ของเราจะหยุดพักการทำภารกิจต่อต้านวิหารยาธานไว้ก่อน กำลังคนส่วนที่เหลือ จะใช้สำหรับการค้นหาตัวยูเฟอมิน่าและช่างฝีมือนิรนาม"
"ตกลง!"
เมื่อจมการประชุม สมาชิกกิลด์ต่างก็แยกย้ายกันไป
***
ณ เมืองวินสตัน
สมาชิกกิลด์เซดาก้าห์ส่วนมากกำลังรวมตัวอยู่ที่นี่ ด้วยเหตุผลหลายประการ จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ช่างฝีมือนิรนามจะอยู่ในเมืองนี้
"การประชุมน่าเบื่อจังแฮะ...เอ๋!"
หลังเสร็จการประชุม เรกัสก็ได้พบกับเด็กหนุ่มชาวเอเชียในศูนย์อาหารโรงแรม ทันใดนั้น เรกัสพลันกล่าวทักทายและยิ้มให้ทันที
"เฮ้! นายนักรบยอดฝีมือ!"
"...เห..."
กริดที่กำลังเดินคอตก ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อมีใครบางคนยืนขวางทางอยู่ เขาจดจำใบหน้านี้ได้ทันที...เรกัส
"เรกัส..."
"ฮะฮะ! จำฉันได้ด้วยหรือ...นึกว่าจะลืมกันซะแล้ว" เรกัสพูดอย่างดีใจ
กริดนั่งลงบนขอบน้ำพุและตอบกลับไป "คนที่จะให้ยืมเงินอย่างนาย...ไม่สิ นายคือคนเดียวในวันนั้นที่ช่วยพูดให้ฉัน แล้วจะให้ลืมลงได้ยังไง"
หลายเดือนก่อน เมื่อตอนที่กริดยังมีเลเวล-3 เขาพยายามจะเข้าร่วมปาร์ตี้ล่าผู้พิทักษ์พงไพร แต่เมื่อสมัครขอเข้าปาร์ตี้ สมาชิกต่างพากันดูแคลนและหัวเราะเยาะ
ในเวลานั้น มีเพียงเรกัสคนเดียวที่ช่วยพูดให้ แต่แทนที่จะดีใจ กริดกลับรู้สึกอึดอัดเสียมากกว่า นั่นก็เพราะ ความนิสัยดีและซื่อตรงของเรกัส มันช่างตรงกันข้ามกับตัวตนของกริดอย่างสิ้นเชิง แถมหมอนี่ยังหน้าตาดีมากด้วย...
แต่หลังจากได้คุยกันสักพัก ดูเหมือนเรกัสจะซื่อตรงเกินกว่าที่กริดจะขอยืมเงินได้ลง กริดจึงตัดสินใจจบความสัมพันธ์กับคนๆ นี้ให้เร็วที่สุด
ทว่า...คราวนี้ ทั้งคู่ได้มาพบกันอีกครั้ง ในสถานการณ์ที่กริดกำลังนั่งมองข้าวในจานด้วยสีหน้าซังกะตาย
เรกัสเป็นกังวล "สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ...เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรอ..."
กริดแสร้งทำเป็นแสดงสีหน้าเศร้าหมองสุดขีดออกมา ก่อนจะอธิบายต่อไป
"ชายแก่คนหนึ่งขโมยไอเท็มของฉันไป"
เรกัสพลันโมโหทันที
"ชั่วช้าเกินไปแล้ว...! มีคนชั่วแบบนี้อยู่ในโลกด้วยหรือ..."
"ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ คนที่เอาแต่เบียดเบียนผู้อื่น...สมควรตายๆ ไปซะ!"
สีหน้าของกริดโกรธแค้น เรกัสรีบพยักหน้ารับ "คนแบบนั้นจะต้องได้รับทบเรียนอย่างสาสม!"
กริดเริ่มทำท่าจะกินข้าวในจาน "ฮะฮะ...มีคนช่วยมันก็ดีอยู่หรอก...แต่ว่า...เฮ่อ...สิ้นหวังแล้ว ในโลกอันโหดร้ายใบนี้ จะมีใครช่วยเหลือคนอื่นฟรีๆ บ้างล่ะ...จริงไหม..."
เรกัสพลันลุกพรวดขึ้น "โลกนี้โหดร้ายงั้นหรือ...ตรงไหนกัน! โลกใบนี้ทั้งอบอุ่นและงดงามต่างหาก!"
"จะเป็นแบบนั้นหรอ...เหอะๆ...ฉันเพิ่งจะโดนขโมยไอเท็มมาเองนะ...ช่างเป็นโลกที่อาบยาพิษซะจริง..."
"นายโดยขโมยไอเท็มอะไรไป...สำคัญขนาดนั้นเชียวรึ"
"ใช่แล้ว...สำคัญมาก...มันคืออนาคตทั้งหมดของฉันเลยก็ว่าได้...แต่มันก็หายไปแล้ว...กำลังคิดอยู่...ว่าจะฆ่าตัวตายดีมั้ย..."
ใบหน้าเรกัสหวาดผวาทันที "ฆ--ฆ่าตัวตาย! อย่าได้คิดทำบาปแบบนั้นเชียว! ไม่นึกสงสารพ่อกับแม่บางหรอ...อย่าได้ทำตัวอกตัญญูเด็ดขาด! ลืมจิตวิญญานแห่งเทควอนโดไปแล้วรึ..."
"ฉันขอโทษ...แต่ตอนนี้ ทั้งกายและใจเหนื่อยล้าไปหมด คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว"
และในที่สุด เหยื่อก็ติดกับสักที "ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้!! ฉันจะช่วยนายเอง! ฉันไม่มีวันให้อภัยคนที่ทำร้ายจิตใจของผู้อื่น!"
'ปลากินเบ็ดแล้ว...'
กริดรู้โล่งใจขึ้นเล็กน้อย
ป้าป!...
จิสึกะที่ได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสอง ในที่สุดก็ลงมือซัดเข้าไปที่หลังหัวเรกัสอย่างจัง หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วดึงหูเรกัสและพูดว่า "ว่างไปช่วยคนอื่นมากนักรึไง...ลืมงานของตัวเองไปแล้วหรอ..."
ดวงตาของกริดเปล่งประกายทันทีที่เห็นจิสึกะ...
ผิวสีแทน...ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด...ดวงตากลมโตได้สัดส่วน...และหน้าอกขนาดมหึมา! จิสึกะคือสเป็คหญิงสาวในอุดมคติ ที่กริดเฝ้าถวิลหามานาน
"ม--หมายความว่าไง..."
แม้จะถูกดึงใบหูอยู่ แต่เรกัสก็ยังหันมาตอบกริดได้ "เธอคือหัวหน้ากิลด์ของฉันเอง...โอ้ย! มันเจ็บนะครับ!"
"เจ็บหรอ...งั้นก็ดีแล้ว...เจ้างั่ง!"
"โอ้ยยย!"
จิสึกะดึงหูเรกัสแรงขึ้นกว่าเดิม และหันมามองทางกริด
ณ ตอนนี้ กริดกำลังจ้องมองร่างกายของเธอด้วยสายตาตกตะลึงสุดขีด ที่จริง จิสึกะก็คุ้นชินกับการถูกจ้องมองแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังทำใจไม่ได้สักที ถึงแม้จะเป็นเพียงโลกในเกมก็ตาม เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เฮ้! นายน่ะ!"
"หือ...ครับ..."
กริดได้สติกลับมาอีกครั้งจากเสียงเรียกของจิสึกะ เดิมทีแล้ว กริดเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงมากนัก แต่หากเป็นสาวในฝันล่ะก็ นั่นจะเป็นคนละเรื่องกันเลย กริดอดไม่ได้ที่จะยืนสั่นระริกต่อหน้าหญิงสาวในอุดมคติผู้นี้
จิสึกะกวาดสายตามองเล็กน้อย "เจ้าเด็กใหม่ เรกัสกำลังยุ่งอยู่นะ ดังนั้น เรื่องของตัวเอง ก็จัดการด้วยตัวเองไปก่อน...พวกเราขอตัว"
จิสึกะได้เดินจากไปพร้อมกับดึงหูเรกัสลากไปด้วย
เด็กใหม่...เด็กใหม่...เด็กใหม่...เด็กใหม่...
กริดยืนจ้องมองจิสึกะเดินจากไป โดยที่เสียงของเธอยังดังก้องอยู่ในหัว...
"เธอมองเราเหมือนกับสุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น..."
หญิงสาวในฝันแล้วไง...กริดเรียกสติกลับมาได้และเดินตามจิสึกะไป
"เฮ้!"
"...?"
จิสึกะอึ้งไปเล็กน้อย ที่กริด ผู้ซึ่งไม่กล้าสบตาเธอตรงๆ เมื่อครู่ ยามนี้กลับเดินมาขวางทางไว้...แต่กริดก็ทำเช่นนั้นได้เพียงไม่นาน เมื่อจิสึกะเผยรอยยิ้มอย่างผ่อนคลาย และนำแขนหนึ่งข้างมากอดไว้ใต้หน้าอก...การทำเช่นนี้...ส่งผลให้เห็นหน้าอกของเธอเผยรูปทรงเป็นสัดส่วนชัดเจนขึ้น
"นายเรียกฉันทำไม..."
"อึก!"
กริดต้องผงะเมื่อได้เห็นหน้าอกคู่นั้น...แต่ไม่นานนัก เขาก็ดึงสติกลับมาได้ทันควัน
"ส่งเรกัสมาให้ฉัน...เขาสัญญาแล้วว่าจะช่วย เธอมีสิทธิ์อะไรมาขัดขวาง"
"แน่นอน ต้องมีอยู่แล้ว ฉันเป็นหัวหน้ากิลด์ของเขา การทำตามคำสั่งหัวหน้ากิลด์ย่อมเป็นเรื่องปรกติ ความรู้พื้นฐานแบบนี้ก็ไม่มีงั้นหรอ...หลีกทางไปซะ!"
"แค่เพราะคุณคือหัวหน้ากิลด์ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีสิทธิ์เสมอไป"
"แล้วยังไง...จะบอกว่าคนนอกอย่างนายมีสิทธิ์สินะ..."
ในส่วนนี้ จิสึกะมีเหตุผลเหนือกว่ากริดมาก ดังนั้น แทนที่จะทำให้ขุ่นเคืองใจ กริดกลับเลือกใช้วิธีขอร้องแทน
"...ได้โปรด...ฉันหมดสิ้นหนทางแล้วจริงๆ"
"พวกเราเองก็ไม่ได้ดีกว่านายหรอกนะ...การสูญเสียคนไปสักคน นับเป็นความเสียหายร้ายแรง"
"แต่ฉันแย่กว่า!"
"พวกเราต่างหากที่แย่กว่า!"
"ฉันต่างหาก..."
"พวกเรา!..."
"ฉัน!"
ซุบซิบ...ซุบซิบ...
เริ่มมีชาวบ้านหลายคนมามุงดูการทะเลาะกันเป็นเด็ก ของชายหนุ่มกับหญิงสาวที่อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว...โดยเฉพาะจิสึกะ เธอเป็นคงดัง ย่อมเรียกความสนใจได้มาก
นั้นไงคนที่คุณเธอตามหา
ReplyDeleteนั้นไงคนที่คุณเธอตามหา
ReplyDeleteนิยายบรรเทิงเคล้าความเศร้าของตัวเอก โดยมีบทบู๊เป็นฉากประกอบสินะครับ
ReplyDeleteชีวิตนายช่างน่าสงสาร
ReplyDeleteทนอ่านมาหลายตอนความไม่สมเหตุสมผลเยอะมาก อะไร ก็ไม่รู้เลิก
ReplyDelete