จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 81

       ข่านกล่าวต้อนรับทันทีที่เห็นเรากลับจากหุบเขาเคซาน 

       "แกจัดการมอนสเตอร์ที่น่ากลัวพวกนั้นได้ด้วยหรือ...ยอดเยี่ยมมาก! เป็นไงบ้าง ได้พบวิถีดาบแห่งแพ็กม่ารึเปล่า..."

       "แน่นอน"

       "ช่วยแสดงให้เห็นหน่อยได้ไหม ถึงความยอดเยี่ยมของวิถีดาบแห่งแพ็กม่าอันงดงาม ที่บรรพบุรุษของฉันล่ำลือสืบต่อกันมา"

       "ย่อมได้ แต่ในนี้แคบไปหน่อย ออกไปที่สวนเถอะ"

       เราควักมีดอุดมคติออกมา และเดินตรงไปยังสวนหลังโรงตีเหล็ก ที่มีฟืนอยู่เต็ม หลังจากนั้น เราก็ทำการสลับวิถีดาบแห่งแพ็กม่าไปเป็นโหมดกระบวนดาบ

       "วิถีดาบแห่งแพ็กม่า...คลื่น!"

       เราเริ่มร่ายรำกระบวนดาบ คลื่นปราณดาบสีฟ้าพลันพุ่งออกจากร่างทุกทิศทาง ข่านต้องตะลึงในความงดงามของมัน

       "โอ้! ยอดมาก! ทั้งสวยงามและดุดัน!"

       "ที่จริง มันยังเหลืออีกสี่กระบวนดาบ แต่วันนี้พอแค่นี้ก่อน"

       "ทำไมกัน...ฉันอยากเห็นมันทั้งหมด"     

       เราก็ต้องการแสดงให้ดูอยู่หรอก แต่มานาสูงสุดตอนนี้มีแค่630หน่วย หลังจากสลับโหมดและใช้คลื่นไป มานาจึงเหลือเพียง260หน่วย ไม่เพียงพอจะใช้ทักษะใดได้อีก

       "ผมไม่มีมานาเหลือแล้ว ที่จริงจะดื่มโพชั่นเพิ่มก็ได้ แต่มันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ"

       "อา...เข้าใจแล้ว งั้นก็ช่วยไม่ได้ ตามฉันมา"

       ข่านนำทางเข้าไปในโรงตีเหล็ก หลังจากนั้นก็เดินขึ้นชั้นสอง หยิบดาอินสเลฟขึ้นมาจากชั้นวางและหันมายื่นให้เรา

       "นี่คือรางวัลตามสัญญา ในเมื่อเจ้าคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าที่แท้จริง สิ่งนี้สมควรเป็นของเจ้าแล้ว"

[ ท่านได้รับไอเท็ม ดาอินสเลฟ (แบบจำลอง) ]
[ ภารกิจสำเร็จ! ]

[ ดาอินสเลฟ (แบบจำลอง) ]
เกรด : ยูนีค
ค่าความคงทน : 500/500
พลังโจมตี :  451~635
ความเร็วในการโจมตี: -8%
* สร้างความเสียหายเพิ่มเติมเท่ากับ10%ของพลังป้องกันเป้าหมาย
* ยิ่งมีศัตรูอยู่ในรัศมีการโจมตีมาก  พลังโจมตีก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น
* ผู้สวมใส่จะได้รับทักษะ 'ประกายสีทอง'
       สุดยอดผลงานที่สร้างขึ้นโดย 'อัลบาติโน่' มนุษย์คนแรกที่ถูกขนานนามว่า 'ช่างฝีมือ' ก่อนจะถึงยุคสมัยของแพ็กม่า เขามีความตั้งใจจะสร้างดาบในตำนานขึ้นใหม่ โดยใช้ดาบต้นแบบที่มีนามว่า 'ดาอินสเลฟ'
       แม้จะด้อยกว่าดาอินสเลฟตามตำนานมาก แต่เขาก็ประสบความสำเร็จ ในการนำความสามารถบางประการของดาอินสเลฟ เข้ามาใส่ในดาบเล่มนี้
       ดาบเล่มนี้ถูกขนานนามให้เป็น 'ผลงานชิ้นเอกของมวลมนุษยชาติ' จากผู้ก่อตั้งอาณาจักรอีเทอนัล และกษัตริย์แห่งแดนเหนือที่มีนามว่า 'โลรัน'
       แม้แต่ช่างตีเหล็กในตำนานอย่างแพ็กม่า ก็ยังกล่าวว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจในชิ้นงาน มาจากความวิริยะอุสาหะของอัลบาติโน่
* เงื่อนไขการสวมใส่ : 
- เลเวลตัวละคร250 หรือสูงกว่า
- ค่าพละกำลัง1,800แต้ม หรือสูงกว่า
- ทักษะความชำนาญดาบขั้นสูง
* น้ำหนัก : 1,580หน่วย

       เงื่อนไขการสวมใส่ค่อนข้างสูง แต่เท่าที่ดูผ่านๆ ก็เหนือกว่าดาบตื่นรู้มากทีเดียว บางที ดาอินสเลฟอาจเป็นอาวุธที่มีค่าพลังโจมตีสูงสุดของซาทิสฟายในตอนนี้แล้ว

       'อาวุธสุดยอดขนาดนี้ ผู้ที่มีโอกาสได้ครอบครอง คงมีเพียงผู้เล่นติดอันดับหลักเดียวเท่านั้น'
     
       เราชอบดาอินสเลฟมาก ประการแรก มันคือดาบใหญ่ ประการที่สอง คุณสมบัติอันยอดเยี่ยม และประการสุดท้าย รูปลักษณ์ที่สวยงาม ดาอินสเลฟมีความยาว3เมตร กับอีก20เซนติเมตร มีความเด่นสง่าเตะตาผู้คนมาก คมดาบทำจากโลหะสีดำ แสดงถึงความงดงามและแข็งกร้าวในเวลาเดียวกัน ส่วนด้ามจับสีเงินทำมาจากมิธริล แม้จะไม่มีอะไรให้โอ้อวด แต่ก็ดูเข้ากันดีระหว่างสีดำและเงิน

       หากสะพายไว้ที่หลัง การไปไหนมาไหนคงมีแต่คนจ้องมองด้วยความอิจฉาแน่

       'ถ้าเสริมแกร่งให้ถึง +6...มันจะสวยงามขนาดไหนกันนะ...'

       ตัวเราที่กำลังยืนสั่นระริกด้วยความยินดี พลันตะโกนออกไปอย่างดุดัน "เยี่ยม! ต่อไปก็วัลฮัลล่า!"     

       ข่านกำลังรอใครสักคน ที่มีคุณสมบัติมากพอจะใช้งานทั้งดาอินสเลฟและวัลฮัลล่า และใครคนนั้นก็ย่อมเป็นเรา

       "ข่าน! ต่อไปจะให้ทำอะไร...ผมต้องการวัลฮัลล่า!"

       ข่านตบบ่าของเราเล็กน้อย "ให้ฉันพักผ่อนสักหน่อย ถ้าหากฝืนมากไป เกรงว่าสุขภาพอาจแย่ลงได้"

       ดูจากท่าทีข่านแล้ว ตอนนี้เราคงยังไม่เข้าเงื่อนไขการรับภารกิจคลาสที่สอง เราพยักหน้าเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้ และหวังว่าสักวันจะถึงเวลานั้น

       ***

       การปรากฏตัวของข้ารับใช้คนที่แปด ส่งผลให้ผู้เล่นทุกคนที่สังกัดวิหารยาธาน ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น20%เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากเรื่องนี้ ทำให้มีผู้เล่นจำนวนมาก แห่กันไปสมัครเข้าสังกัดวิหารยาธานเพื่อเก็บเลเวล

       ด้วยเหตุดังกล่าว วิหารยาธานจึงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ ว่าจะเติบโตไปได้ถึงระดับไหนกัน แน่นอนว่า ฝั่งวิหารยาธานคือลัทธิชั่วร้ายอันดับหนึ่งของซาทิสฟาย ยิ่งขยายตัวมาก ผลกระทบก็ยิ่งเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง

       ผู้คนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า สังคมซาทิสฟายจะเข้าสู่วิกฤติ

       "ถ้าวิหารยาธานยังคงเติบโตต่อไป ความปลอดภัยในเกมคงรักษาไว้ได้ยาก แม้กระทั่งตอนนี้ เอ็นพีซีที่ตกเป็นเหยื่อมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จำนวนประชากรทุกเมืองลดลงทันตา ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต้องสาปสูญ ไม่ว่ายังไง ฝั่งพันธมิตรก็ต้องเอาชนะวิหารยาธานในสงครามให้ได้"

       และอีกหลายคน ที่แสดงความเห็นถึงการเติบโตของยูร่า

       "ข้ารับใช้คนที่แปดคือยูร่าแน่นอน การที่มีตำแหน่งระดับสูง การเติบโตของวิหารยาธานย่อมทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย ในจุดนั้น ผู้เล่นทั่วไปจะไม่มีวันจินตนาการได้เลย! และหลังจากนี้ การเผชิญหน้ากันเองระหว่างผู้เล่นระดับสูง จะไม่ใช่การต่อสู้ที่สูีอีกต่อไป"

       แต่ถึงจะมีคนให้ความสนใจขนาดไหน เราก็ไม่ได้เก็บมาใส่สมองเลยสักนิด

       'ลำพังชีวิตตัวเองก็ยุ่งมากพอแล้ว ถึงแม้จะเจ็บใจที่เห็นยูร่าได้ดิบได้ดี แต่มันไม่แปลกไปหน่อยรึไง ที่เพิ่งจะมาอิจฉาเธอเอาตอนนี้ ก็ยูร่าโด่งดังและประสบความสำเร็จมาตั้งนานแล้วนี่'

       สามวันผ่านไป นับตั้งแต่กลับจากหุบเขาเคซาน ระหว่างนั้น เราทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการผลิตไอเท็ม

       แต่ทั้งสามวัน เรากลับได้เพียงไอเท็มเกรดทั่วไป3ชิ้น และแรร์อีก1ชิ้น...

       "อัตราการผลิตน่าเกลียดมาก รู้แบบนี้ออกไปล่ามอนสเตอร์หาเงินดีกว่ามั้ง...เมื่อไรจะล้างหนี้ได้เนี่ย...เฮ่อ"

       เราอยากจะตรงดิ่งไปยังทุ่งหิมะแดนเหนือซะเดี๋ยวนี้ เพราะที่นั่น เราได้ทั้งการล่าออร์คน้ำแข็ง และยังได้เกล็ดซิลฟิดที่ขาดอยู่

       'ถ้าได้เกล็ดซิลฟิดครบ20ชิ้นก็คงจะดี จะได้รีบสร้างเสื้อคลุมแบบซิบให้จบๆ ไป...แล้วยังได้เลเวลอัพเป็นของแถมด้วย'

       แต่เกล็ดของซิลฟิดมีอัตราดรอปห่วยมาก ซึ่งในอีก5วันข้างหน้า จะถึงเวลาที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ที่บ้านแล้ว ดังนั้น เราจึงไม่ควรไปคาดหวังกับสิ่งที่มีอัตราดรอปต่ำ

       'รีบผลิตไอเท็มหาเงินดีกว่า ตอนนี้่ เราต้องการสิ่งที่มั่นคงเพื่อจ่ายดอกเบี้ย ไม่อย่างนั้น ทรัพย์สินในบ้านอาจโดนยึดไป'

       "คุณกริดอยู่รึเปล่าครับ..."

       ระหว่างที่กำลังตัดพ้อชีวิต ทหารสองคนได้ถามหาเราอยู่หน้าโรงตีเหล็ก

       "มีอะไร..." เราที่กำลังเซ็ง จึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา

       "ท่านเทศมนตรีมีคำสั่งให้ตามหาตัวคุณโดยด่วน"

       "อ่อ..."

       สงสัยเป็นภารกิจต่อเนื่อง จากภารกิจหลัก 'ทำการค้ากับเทศมนตรี'

       'คราวนี้จะให้สร้างอะไรอีกล่ะ...'

       จะฟลุครวยแบบครั้งก่อนรึเปล่านะ...เราเดินตามทหารไปปราสาท ด้วยท่าทีตื่นเต้นสุดขีด

       ณ ห้องทำงานเทศมนตรี ทันทีที่เข้าไป เทศมนตรีก็ยื่นม้วนกระดาษใบหนึ่งมาให้ ราวกับเตรียมรอไว้นานแล้ว

       "เรื่องนี้เร่งด่วน คุณสามารถผลิตไอเท็มจากสูตรนี้ได้รึเปล่า..."

       "ขอดูก่อน..."

       เราคลี่ม้วนกระดาษออก

[ สูตรการผลิต 'โล่เทวะ' ]
เงื่อนไขการเรียน : ทักษะช่างตีเหล็กขั้นสูงเลเวล3 หรือสูงกว่า
* โล่เทวะ : โล่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังของ 'รีเบคก้า'  เทพธิดาแห่งแสง ด้วยคุณสมบัติต่อต้านความมืด ทำให้เหล่าปีศาจและคนจากวิหารยาธานต้องตกที่นั่งลำบาก เมื่ออยู่ต่อหน้าโล่ชนิดนี้
เงื่อนไขการใช้งาน : เลเวล190 หรือสูงกว่า

       "เฮ้ย..."

       นี่เราจะได้สูตรผลิตฟรีอีกแล้วหรอ...

       เทศมนตรีถามด้วยสีหน้าสงสัย "คุณสร้างมันไม่ได้หรือ..."

       เราส่ายศีรษะ "เปล่าเลย สร้างได้สบายมาก"

       "โอ้! งั้นก็เยี่ยมเลย รีบสร้างขึ้นให้ที"

       โอกาสเรียนสูตรผลิตไอเท็มเลเวล190อยู่ตรงหน้า ไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ แต่ก็ยังติดอยู่เรื่องหนึ่ง

       "ฉันสามารถสร้างโล่ขึ้นตามสูตรการผลิตได้ก็จริง แต่มันยังไม่สมบูรณ์ จำเป็นต้องมีคนบรรจุพลังเทวะลงไป"

       ไอเท็มที่แฝงคุณสมบัติธาตุทุกชิ้น ไม่มีทางถูกสร้างขึ้นโดยช่างตีเหล็กตามลำพัง จำเป็นจะต้องให้นักบวชหรือจอมเวทย์บรรจุพลังลงไป และดูเหมือนเทศมนตรีจะรู้เรื่องนี้ดี

       "ไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมนักบวชไว้แล้ว"

       เทศมนตรีหันหน้าไปมองด้านข้าง เราจึงหันตามไปมอง ก็ต้องพบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งในชุดคลุมสีขาว ตรงกลางชุดมีตราสัญลักษณ์ของเทพธิดารีเบคก้าสลักอยู่     

       'ใครกันนะ...'

       แม้จะอยู่ในห้องเดียวกันมาตั้งแต่แรก แต่เรากลับไม่ทันสังเกตุเห็นเลยสักนิด ว่ามีนักบวชประหลาดยืนอยู่ ตัวตนของชายคนนี้เบาบางเหลือกิน กระทั่งตอนที่มองหน้ากัน ความรู้สึกชวนอึดอัดกลับยิ่งคุกรุ่นภายในใจ

       นักบวชหนุ่มมิได้สนใจท่าทีของเรา เขาทักทายอย่างเป็นกันเอง "ผมชื่อแคสซัส ทั้งกายและใจรับใช้องค์เทพธิดารีเบคก้า คงต้องขอรบกวนคุณด้วย"

       ชื่อเหนือศีรษะของแคสซัสเป็นสีเขียว หมายความว่าหมอนี่เป็นเอ็นพีซี

       "อา...รบกวนด้วย"

       ข้อความภารกิจแสดงขึ้นบนหน้าจอทันที
     

[ ทำการค้ากับเทศมนตรี (2) ]
ระดับความยาก : AA
       วินสตันกำลังตกที่นั่งลำบาก จากการพ่ายแพ้วิหารยาธานหลายครั้งติดต่อกัน กองทหารสูญเสียไพร่พลไปเป็นจำนวนมาก
       เทศมนตรีวลาดี้ต้องการโล่เทวะ เพื่อนำไปใช้ต่อกรกับวิหารยาธาน     
       ท่านจะต้องทำงานร่วมกับแคสซัส นักบวชผู้รับใช้เทพธิดารีเบคก้า เพื่อให้โล่เทวะมีความสมบูรณ์สูงสุด
* เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ :
- ส่งมอบโล่เทวะที่มีเกรดอีปิกขึ้นไป
- ต้องทำให้เสร็จภายในระยะเวลา 2วัน
* ของรางวัลเมื่อรับภารกิจ : สูตรการผลิตโล่เทวะ
* ของรางวัลเมื่อสำเร็จภารกิจ : ขึ้นอยู่กับเกรดของโล่ที่นำมาส่ง
* บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว : การค้ากับเทศมนตรีจะสิ้นสุดลงแค่นี้

[ ท่านจะรับทำภารกิจหรือไม่ ]

       ไม่มีเหตุผลใดให้ปฏิเสธ ไม่สิ ต้องเรียกว่า เรารอภารกิจนี้มานานแล้ว แต่ก็ยังมีอีกสิ่ง ที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วย

       "วิหารยาธานกำลังจะบุกวินสตันงั้นหรือ..."

       "หากพวกมันคิดรุกคืบเข้ามาถึงวินสตัน จำเป็นต้องผ่านป้อมปราการคินบันเสียก่อน แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ป้อมปราการคินบันเต็มไปด้วยนักรบหัวกะทิของดินแดนตอนเหนือ การบุกมาถึงวินสตันจึงเป็นไปได้ยาก แต่จะละเลยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้ บางทีพวกมันอาจลอบแทรกซึมเข้ามา โล่เทวะจึงมีไว้เพื่อการนั้น"

       "หืม...เข้าใจแล้ว หวังว่าผลงานของผมจะมีประโยชน์นะ"

[ ท่านรับภารกิจ ]
[ ท่านได้รับสูตรการผลิต โล่เทวะ ] 

• Next
• Previous