จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 79
"สุดยอด..."
วิถีดาบแห่งแพ็กม่า เป็นทักษะที่เหนือล้ำกว่าจินตนาการของเราไปมาก ทั้งคุณสมบัติและความรุนแรงของมัน...เป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
'นอกจากจะเป็นทักษะแบบติดตัวในโหมดทั่วไป มันยังมีความสามารถในการสับเปลี่ยนไปเป็นโหมดกระบวนดาบอย่างอิสระ...ตัวเราที่มีทักษะสายต่อสู้มีไม่มาก นับเป็นของขวัญล้ำค่าอย่างยิ่ง'
โดยทั่วไป คลาสปรกติจะมีความชำนาญอาวุธและชุดเกราะที่แตกต่างกันไป เพื่อส่งเสริมศํกภาพในการต่อสู้ ทว่า ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่ากลับไม่มีสิ่งเหล่านั้น ไม่มีทักษะความชำนาญทางอาวุธหรือชุดเกราะใดๆ เลย ถือเป็นข้อเสียร้ายแรงอย่างหนึ่งที่ไม่น่าพิศมัยของคลาสนี้
"ทว่า...มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว"
ทักษะติดตัวของวิถีดาบแห่งแพ็กม่า จะเพิ่มทั้งพลังโจมตีและอัตราคริติคอลในโหมดปรกติ จึงถือว่ามีความคล้ายคลึงกับทักษะชำนาญอาวุธชนิดอื่น
'แถมคุณสมบัติของมัน ยังเทียบเท่าได้กับความชำนาญอาวุธขั้นกลาง...ถึงแม้ผลนี้จะหายไปถ้าหากเราเปลี่ยนเป็นโหมดกระบวนดาบ แต่นั่นก็ไม่มีปัญหา ในโหมดกระบวนดาบ มีทักษะให้ใช้งานถึง 5 ทักษะ'
วิถีดาบแห่งแพ็กม่า...สมกับเป็นคลาสระดับเลเจนดารีเสียที เราสามารถยืดอกอย่างภาคภูมิใจกับคลาสนี้ได้แล้ว
'ถึงแม้ผลการผลิตไอเท็มจะไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนัก แต่ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าก็ยังได้เปรียบคลาสสายผลิตอื่นอยู่มากโข โดยแม้จะไม่ใช่คลาสสายต่อสู้โดยตรง แต่ก็มีความทนทานร่างกายสูงเป็นพิเศษ โอกาสติดอาการต่างๆ ก็มีต่ำ สามารถเป็นคนรับความเสียหายแทนเพื่อได้บางครั้ง'
'แต่ตอนนี้ การมีวิถีดาบแห่งแพ็กม่าได้ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนไป พลังการต่อสู้ของเราเริ่มขึ้นมหาศาล ทว่า...'
ยังติดปัญหาอยู่เรื่องหนึ่ง...
"...ทำไมแต่ละทักษะถึงใช้มานาเยอะขนาดนี้..."
ตัวเรามีค่ามานาสูงสุดเพียง 500 หน่วยเท่านั้น ในจุดนี้ เราสามารถเพิ่มมานาได้จากการสร้างไอเท็มไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มค่าสติปัญญา แต่ด้วยความที่เราไม่เคยแต้มไปลงกับสติปัญญาเลยสักครั้ง ถ้าหากไม่ได้โบนัสสถานะต่างๆ มาเสริม ในตอนนี้คงมีมานาไม่เกิน 100 หน่วย
และนั่นคือจุดตายที่ทำให้เรายังไม่สามารถใช้บางทักษะได้
"บ้าจริง..."
คลื่น หน่วง ร่ายรำ สังหาร มายา
ในห้าทักษะดาบนี้ ความต้องการมานาขั้นต่ำคือ 300 หน่วย โดยที่ 'สังหาร' ใช้มากถึง 1,200 หน่วย และ 'มายา' ใช้ถึง 1,800 หน่วยเลยทีเดียว การจะทำให้ตัวเราใช้สองทักษะหลังได้ จำเป็นจะต้องนำแต้มไปเพิ่มค่าสติปัญญาให้สูงขึ้นกว่านี้
ทว่า นับตั้งแต่สมัยเป็นนักรบ ตัวเราไม่เคยนำแต้มไปอัพให้กับสติปัญญาเลยสักครั้ง
"หาเป็นจอมเวทย์ การเพิ่มค่าสติปัญญาย่อมหมายถึงการเพิ่มดาเมจ ส่วนมานาเป็นเพียงของแถม จอมเวทย์ทุกคนจึงไม่ลังเลกับการอัพสติปัญญาเลยสักนิด แต่กับคลาสเรา เพื่อต้องการมานาที่มากขึ้น...จำเป็นต้องลงทุนถึงขนาดนั้นเชียวหรือ"
เราไม่ชอบค่าสติปัญญา...ไม่ชอบเลยจริงๆ...ในมุมมองของเรา การใช้แต้มสถานะมุ่งเน้นไปอัพพละกำลังและความอดทนคือความคุ้มค่าสูงสุด พละกำลังและความอดทนจะช่วยเสริมความสามรถในการตีเหล็ก แถมยังมีผลส่งมาถึงพลังโจมตีอีกด้วย
แล้วค่าสติปัญญาล่ะ...มีทักษะใดบ้างที่ค่าสติปัญญาส่งผล...ไม่มี การเพิ่มสติปัญญาก็แค่ทำให้มีมานามากขึ้นเท่านั้น
"ชิ! แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว...ถ้าต้องการมานา นี่คือคำตอบเดียวเท่านั้น"
ถูกต้อง ไม่ว่าเราจะบ่นมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีวันเลี่ยงการอัพสติปัญญาไปได้ ไม่อย่างนั้นทักษะดาบพวกนี้ก็ไร้ค่า
"หน้าต่างสถานะ"
เมื่อแรกก้าวย่างเข้ามาหุบเขาเคซาน เลเวลของเราคือ 85 แต่หลังจากที่จัดการกับมอนสเตอร์ไปมากมาย ทำให้เลเวลเพิ่มขึ้นมาเป็น 92 และได้รับแต้มสถานะเพิ่มอีก 70 แต้ม
"ไม่น่ารีบใช้เลย..."
ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้เราเหลือแต้มสถานะ 0 แต้ม เพราะอะไรน่ะหรือ...ก็เรานำทั้ง 70 แต้มไปใช้กับค่าพละกำลังหมดแล้ว
"ช่วยไม่ได้...ก็มันทำให้เราล่าแมงมุมหุบเขาง่ายขึ้น"
หากไม่ใช่จุดอ่อน แมงมุมหุบเขาถือว่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังป้องกันสูงมาก เราจึงต้องเพิ่มค่าพละกำลังเพื่อให้ล่าได้ง่ายขึ้นเล็กน้อย แต่ตอนนี้กลับต้องมานั่งเสียใจเอาทีหลังที่ไม่ยอมเก็บแต้มไว้
"ที่จริง...ควรเก็บแต้มสถานะทั้งหมดไว้รอวิถีดาบแห่งแพ็กม่าตั้งแต่แรก..."
ค่ามานาสูงสุดจะเพิ่มขึ้นราว 3 หน่วยต่อแต้มสติปัญญา 1 แต้ม ถ้าหากเราเก็บ 70 แต้มเมื่อวานไว้ ตอนนี้เราคงมีมานาสูงสุดเพิ่มขึ้นอีกมากโข...แต่เราก็ไม่ได้ทำ
"...ต้องเพิ่มค่าสติปัญญา"
ถือเป็นเรื่องหัวเสียอย่างมาก ลองคิดดู ในเมื่อทักษะมีให้ใช้งานแล้วตรงหน้า แต่กลับไม่สามารถใช้ออกไปได้เพียงเพราะมานาไม่พอ...การมีทักษะแต่ใช้ไม่ได้...เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดที่คอยกวนใจอยู่ตลอดเวลา
"ต้องออกล่า! ต้องเลเวลอัพ! การเพิ่มสติปัญญาจะได้จากเลเวลอัพเท่านั้น ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องใช้ทักษะ 'สังหาร' ให้ได้!"
ทักษะ สังหาร มีความรุนแรงถึง 1500% ของพลังโจมตี แต่ติดตรงที่ต้องการมานา 1,200 หน่วย หากลองคำนวนหยาบๆ ตัวเราตอนนี้ยังต้องการค่าสติปัญญาอีกถึง 400 แต้มทีเดียว
"400 แต้ม! ต้องหาจากการเก็บเลเวลเท่านั้น!"
...แต่เราก็ได้แค่คิด
"ฮะฮะ...ชีวิตช่างบัดซบ!"
ช่วงสองสามวันมานี้ นับเป็นครั้งแรกที่เราได้ออกล่ามอนสเตอร์ในฐานะผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า แต่นั่นเพราะเราต้องทำภารกิจวิถีดาบแห่งแพ็กม่าให้เสร็จ...
การได้ล่าทั้งออร์คน้ำแข็งและมอนสเตอร์หุบเขาเคซาน สำหรับเราแล้ว มันถือเป็นความสนุกที่หาจากไหนไม่ได้อีก
'จริงสินะ...เราหลงไหลในซาทิสฟายก็เพราะความรู้สึกเหล่านั้น'
ยิ่งเลเวลอัพ ความพึงพอใจก็ยิ่งเอ่อล้นออกมา เราชอบที่จะเห็นกองเหรียญทองดรอป ชอบที่จะเห็นไอเท็มตกจากตัวมอนสเตอร์เป็นกอง
เคยคิดอยู่ช่วงหนึ่ง ว่าเราควรเก็บตัวอยู่ที่นี่เพื่อล่ามอนสเตอร์ต่อไปอีกสักหน่อยดีไหม...
แต่ความเป็นจริงล่ะ...ถึงจะชื่นชอบการล่ามากแค่ไหน แต่ครอบครัวที่บ้านกำลังตกระกำลำบากอยู่กับหนี้ก้อนโต พ่อแม่กับเซฮีต้องเป็นกังวลอยู่ทุกคืนวัน ไม่อาจสลัดความเครียดออกไปได้ การกลับโรงตีเหล็กไปสร้างไอเท็มต่อ จึงถือเป็นทางเลือกที่ควรทำมากที่สุด ปากท้องครอบครัวต้องมาก่อนเสมอ
"รีบกลับไปหาข่านก่อนดีกว่า...จะได้มีดาอินสเลฟไว้ใช้งานด้วย...อืม...แบบนั้นก็ไม่เลว"
เราสะกดข่มความรู้สึกอยากล่าไว้ในใจ สองเท้ารีบย่ำเดินออกจากน้ำตกโลรัน ท้องฟ้ายามค่ำคืนสวยงามจนทำให้เราต้องแหงนหน้าขึ้นไปมอง แต่ทันใดนั้น...
"โฮกกกกก!"
เสียงคำรามดังกึกก้องจากก้นลำธารใต้น้ำตก ละอองน้ำสาดกระเซ็นเป็นฝอยกระจาย หลังจากนั้นคือการปรากฏตัวของมนุษย์เงือกจำนวนหกตน
"...ปลาพวกนี้...ชอบดิ้นรนกันจังนะ"
มนุษย์เงือกคือนางเงือกเพศผู้ แต่นางเงือกของซาทิสฟายนั้นไม่ได้งดงามเหมือนกับในนิทานกล่อมเด็ก พวกหล่อนมีความอัปลักษณ์สูงมาก แต่ช่างเถอะ ตอนนี้เบื้องหน้าคือมนุษย์เงือก เรากวาดสายตามองไปรอบๆ และสะดุดเข้าที่เหงือกของพวกมัน
"พวกแกคิดจะขาดอากาศหายใจตายอยู่บนบกรึไง..."
มนุษย์เงือกตัวหน้าสุดโบกสามง่ามไปมาและตะโกนข่มขู่เสียงดัง "ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอกน่า...มอบหัวใจของแกมาซะ!"
มนุษย์เงือกต้องการหัวใจมนุษย์เพื่อไปบำรุงร่างกาย...ช่างน่าขยะแขยงเหมือนกับรูปลักษณ์ไม่มีผิดเพี้ยน
'หกตัว...'
มนุษย์เงือกขึ้นชื่อเรื่องการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด พวกมันจึงเป็นมอนสเตอร์ที่พบได้ทั่วทั้งทวีป แต่มนุษย์เงือกของหุบเขาเคซานค่อนข้างจะพิเศษหน่อย ด้วยเลเวลที่สูงถึง 175 พวกมันจึงถูกจัดให้เป็นมนุษย์เงือกที่ดุร้ายมากที่สุดจากบรรดาทั้งหมด
'มนุษย์เงือกจะแข็งแกร่งมากในน้ำ แถมยังมีถึงหกตัว...'
หากเป็นก่อนหน้าที่เราจะมีวิถีดาบแห่งแพ็กม่า การต้องปะทะกับมนุษย์เงือกถึงหกตัวในคราวเดียว คงคิดอะไรไม่ออกนอกจากเผ่นหนีโดยไม่ลังเล แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว +8 มีดสั้นอุดมคติในมือกำลังเฉิดฉายออร่าสีฟ้าครามท่ามกลางความมืดมิด...มาเจอกันหน่อยเป็นไงไอ้พวกมนุษย์เงือก
"อยากได้หัวใจงั้นหรอ...หรืออยากเป็นฝ่ายถูกกินกันแน่..."
มนุษย์เงือกตนหนึ่งพ่นลมหายใจออกมาบางเบา "เหอะ! ปากดีจังนะ!"
ซวบ! ซวบ!
มนุษย์เงือกเคลื่อนไหวร่างกายในน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว เรากำลังรอจังหวะที่มันเข้ามาใกล้ค่อยลงมือ ในขณะที่หอกสามง่ามกำลังจะแทงเข้ามาโดนลำตัว "วิถีดาบแห่งแพ็กม่า...หน่วง!"
ทันใดนั้น ร่างกายของเราพลันยกมีดขึ้นมาหน่วงไว้ ออร่าสีฟ้าครามของมีดสั้นในอุดมคติส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด...
"...!!"
การบุกโจมตีของมนุษย์เงือกต้องหยุดชะงักราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกมันวิ่งหนีอย่างลนลานไม่คิดชีวิตจากพลังอำนาจของหน่วง
"โทสะช่างตีเหล็ก!"
"ลมเฉือน!"
ฟิ้ววว! ฉัวะ! ฉัวะ!
"กิ๊!"
สายลมที่คมกริบเฉือนเข้าไปยังร่างกายส่วนบนของมนุษย์เงือก
มนุษย์เงือกจะมีพลังป้องกันสูงในร่างกายท่อนล่างที่มีเกล็ดปกคลุม แต่ท่อนบนคือผิวหนังแบบเดียวกับมนุษย์ จึงเปราะบางกว่ามาก ดังนั้นการถูกโจมตีในส่วนบนจึงเกิดความเสียหายรุนแรง เราไม่ปล่อยให้พวกมันได้พักหายใจหายคอนาน การโจมตีระลอกต่อไปถูกกระหน่ำซ้ำต่อเนื่อง
'ชิ! มานาหมด!'
เรารีบหยิบโพชั่นฟื้นฟูมานาออกจากกระเป๋าและซดลงไป หลังจากที่มานาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง เราจึงทำการสลับไปเป็นโหมดปรกติเพื่อใช้ทักษะที่คิดค้นขึ้นเอง
"สายลมเที่ยงธรรม!"
ฟิ้ววว! ฉัวะ! ฉัวะ!
สายลมเที่ยงธรรมมีความรุนแรงชนิดที่ลมเฉือนเทียบไม่ติด ด้วยความที่เราสลับโหมดกลับมาเป็นปรกติ พลังโจมตีและอัตราคริติคอลจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้พลังทำลายสูงขึ้นตามไปด้วย
สายลมเที่ยงธรรมกินระยะเป็นวงกว้าง พวกมนุษย์เงือกทุกตัวโดนเข้าไปอย่างเท่าเทียม แต่ตัวไหนที่โดนเข้าส่วนบน คงได้เจ็บปวดเจียนตายจนร้องไม่ออกกันเลยทีเดียว
"พริ้วไหว!"
ซวบ! ซวบ!
เรากระโจนเข้าไปหามนุษย์เงือกตัวหนึ่งอย่างรวดเร็ว ร่างกายส่วนบนของมันถูก +8 มีดสั้นอุดมคติเฉือนเข้าอย่างจัง
วิถีดาบแห่งแพ็กม่า เป็นทักษะที่เหนือล้ำกว่าจินตนาการของเราไปมาก ทั้งคุณสมบัติและความรุนแรงของมัน...เป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
'นอกจากจะเป็นทักษะแบบติดตัวในโหมดทั่วไป มันยังมีความสามารถในการสับเปลี่ยนไปเป็นโหมดกระบวนดาบอย่างอิสระ...ตัวเราที่มีทักษะสายต่อสู้มีไม่มาก นับเป็นของขวัญล้ำค่าอย่างยิ่ง'
โดยทั่วไป คลาสปรกติจะมีความชำนาญอาวุธและชุดเกราะที่แตกต่างกันไป เพื่อส่งเสริมศํกภาพในการต่อสู้ ทว่า ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่ากลับไม่มีสิ่งเหล่านั้น ไม่มีทักษะความชำนาญทางอาวุธหรือชุดเกราะใดๆ เลย ถือเป็นข้อเสียร้ายแรงอย่างหนึ่งที่ไม่น่าพิศมัยของคลาสนี้
"ทว่า...มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว"
ทักษะติดตัวของวิถีดาบแห่งแพ็กม่า จะเพิ่มทั้งพลังโจมตีและอัตราคริติคอลในโหมดปรกติ จึงถือว่ามีความคล้ายคลึงกับทักษะชำนาญอาวุธชนิดอื่น
'แถมคุณสมบัติของมัน ยังเทียบเท่าได้กับความชำนาญอาวุธขั้นกลาง...ถึงแม้ผลนี้จะหายไปถ้าหากเราเปลี่ยนเป็นโหมดกระบวนดาบ แต่นั่นก็ไม่มีปัญหา ในโหมดกระบวนดาบ มีทักษะให้ใช้งานถึง 5 ทักษะ'
วิถีดาบแห่งแพ็กม่า...สมกับเป็นคลาสระดับเลเจนดารีเสียที เราสามารถยืดอกอย่างภาคภูมิใจกับคลาสนี้ได้แล้ว
'ถึงแม้ผลการผลิตไอเท็มจะไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนัก แต่ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าก็ยังได้เปรียบคลาสสายผลิตอื่นอยู่มากโข โดยแม้จะไม่ใช่คลาสสายต่อสู้โดยตรง แต่ก็มีความทนทานร่างกายสูงเป็นพิเศษ โอกาสติดอาการต่างๆ ก็มีต่ำ สามารถเป็นคนรับความเสียหายแทนเพื่อได้บางครั้ง'
'แต่ตอนนี้ การมีวิถีดาบแห่งแพ็กม่าได้ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนไป พลังการต่อสู้ของเราเริ่มขึ้นมหาศาล ทว่า...'
ยังติดปัญหาอยู่เรื่องหนึ่ง...
"...ทำไมแต่ละทักษะถึงใช้มานาเยอะขนาดนี้..."
ตัวเรามีค่ามานาสูงสุดเพียง 500 หน่วยเท่านั้น ในจุดนี้ เราสามารถเพิ่มมานาได้จากการสร้างไอเท็มไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มค่าสติปัญญา แต่ด้วยความที่เราไม่เคยแต้มไปลงกับสติปัญญาเลยสักครั้ง ถ้าหากไม่ได้โบนัสสถานะต่างๆ มาเสริม ในตอนนี้คงมีมานาไม่เกิน 100 หน่วย
และนั่นคือจุดตายที่ทำให้เรายังไม่สามารถใช้บางทักษะได้
"บ้าจริง..."
คลื่น หน่วง ร่ายรำ สังหาร มายา
ในห้าทักษะดาบนี้ ความต้องการมานาขั้นต่ำคือ 300 หน่วย โดยที่ 'สังหาร' ใช้มากถึง 1,200 หน่วย และ 'มายา' ใช้ถึง 1,800 หน่วยเลยทีเดียว การจะทำให้ตัวเราใช้สองทักษะหลังได้ จำเป็นจะต้องนำแต้มไปเพิ่มค่าสติปัญญาให้สูงขึ้นกว่านี้
ทว่า นับตั้งแต่สมัยเป็นนักรบ ตัวเราไม่เคยนำแต้มไปอัพให้กับสติปัญญาเลยสักครั้ง
"หาเป็นจอมเวทย์ การเพิ่มค่าสติปัญญาย่อมหมายถึงการเพิ่มดาเมจ ส่วนมานาเป็นเพียงของแถม จอมเวทย์ทุกคนจึงไม่ลังเลกับการอัพสติปัญญาเลยสักนิด แต่กับคลาสเรา เพื่อต้องการมานาที่มากขึ้น...จำเป็นต้องลงทุนถึงขนาดนั้นเชียวหรือ"
เราไม่ชอบค่าสติปัญญา...ไม่ชอบเลยจริงๆ...ในมุมมองของเรา การใช้แต้มสถานะมุ่งเน้นไปอัพพละกำลังและความอดทนคือความคุ้มค่าสูงสุด พละกำลังและความอดทนจะช่วยเสริมความสามรถในการตีเหล็ก แถมยังมีผลส่งมาถึงพลังโจมตีอีกด้วย
แล้วค่าสติปัญญาล่ะ...มีทักษะใดบ้างที่ค่าสติปัญญาส่งผล...ไม่มี การเพิ่มสติปัญญาก็แค่ทำให้มีมานามากขึ้นเท่านั้น
"ชิ! แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว...ถ้าต้องการมานา นี่คือคำตอบเดียวเท่านั้น"
ถูกต้อง ไม่ว่าเราจะบ่นมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีวันเลี่ยงการอัพสติปัญญาไปได้ ไม่อย่างนั้นทักษะดาบพวกนี้ก็ไร้ค่า
"หน้าต่างสถานะ"
ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 92
ค่าประสบการณ์ : 1,531,400/3,798,000คลาส :
ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
...
สมญานาม : ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
...
สมญานาม : ผู้สร้างไอเท็มเกรดยูนีคคนแรก
* ค่าความชำนาญ +200 แต้ม.
...
สมญานาม : ผู้รังสรรค์ไอเท็มเกรดเลเจนดารีหนึ่งเดียวของโลก
* ค่าความชำนาญ +350 แต้ม.
...
สมญานาม : ผู้สังหารอัศวิน
* ค่าความอดทน +100 แต้ม, ค่าพละกำลัม +30 แต้ม.
...
สมญานาม : สาวกเที่ยงธรรม
* ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10 แต้ม.
* ทักษะติดตัว 'ความกล้าหาญที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ'.
...
พลังชีวิต: 8,330/8,330 มานา: 522/522
พละกำลัง: 775, ความอดทน: 523, ความว่องไว: 208
สติปัญญา: 180, ความชำนาญ: 855, ความพากเพียร: 210
ความเยือกเย็น: 155, ความทรหด: 176, ความหยิ่งทระนง: 155
วิสัยทัศน์: 155, ความกล้าหาญ: 99
ค่าสถานะคงเหลือ : 0 แต้ม
น้ำหนักสัมภาระ: 9,404/19,700
เมื่อแรกก้าวย่างเข้ามาหุบเขาเคซาน เลเวลของเราคือ 85 แต่หลังจากที่จัดการกับมอนสเตอร์ไปมากมาย ทำให้เลเวลเพิ่มขึ้นมาเป็น 92 และได้รับแต้มสถานะเพิ่มอีก 70 แต้ม
"ไม่น่ารีบใช้เลย..."
ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้เราเหลือแต้มสถานะ 0 แต้ม เพราะอะไรน่ะหรือ...ก็เรานำทั้ง 70 แต้มไปใช้กับค่าพละกำลังหมดแล้ว
"ช่วยไม่ได้...ก็มันทำให้เราล่าแมงมุมหุบเขาง่ายขึ้น"
หากไม่ใช่จุดอ่อน แมงมุมหุบเขาถือว่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังป้องกันสูงมาก เราจึงต้องเพิ่มค่าพละกำลังเพื่อให้ล่าได้ง่ายขึ้นเล็กน้อย แต่ตอนนี้กลับต้องมานั่งเสียใจเอาทีหลังที่ไม่ยอมเก็บแต้มไว้
"ที่จริง...ควรเก็บแต้มสถานะทั้งหมดไว้รอวิถีดาบแห่งแพ็กม่าตั้งแต่แรก..."
ค่ามานาสูงสุดจะเพิ่มขึ้นราว 3 หน่วยต่อแต้มสติปัญญา 1 แต้ม ถ้าหากเราเก็บ 70 แต้มเมื่อวานไว้ ตอนนี้เราคงมีมานาสูงสุดเพิ่มขึ้นอีกมากโข...แต่เราก็ไม่ได้ทำ
"...ต้องเพิ่มค่าสติปัญญา"
ถือเป็นเรื่องหัวเสียอย่างมาก ลองคิดดู ในเมื่อทักษะมีให้ใช้งานแล้วตรงหน้า แต่กลับไม่สามารถใช้ออกไปได้เพียงเพราะมานาไม่พอ...การมีทักษะแต่ใช้ไม่ได้...เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดที่คอยกวนใจอยู่ตลอดเวลา
"ต้องออกล่า! ต้องเลเวลอัพ! การเพิ่มสติปัญญาจะได้จากเลเวลอัพเท่านั้น ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องใช้ทักษะ 'สังหาร' ให้ได้!"
ทักษะ สังหาร มีความรุนแรงถึง 1500% ของพลังโจมตี แต่ติดตรงที่ต้องการมานา 1,200 หน่วย หากลองคำนวนหยาบๆ ตัวเราตอนนี้ยังต้องการค่าสติปัญญาอีกถึง 400 แต้มทีเดียว
"400 แต้ม! ต้องหาจากการเก็บเลเวลเท่านั้น!"
...แต่เราก็ได้แค่คิด
"ฮะฮะ...ชีวิตช่างบัดซบ!"
ช่วงสองสามวันมานี้ นับเป็นครั้งแรกที่เราได้ออกล่ามอนสเตอร์ในฐานะผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า แต่นั่นเพราะเราต้องทำภารกิจวิถีดาบแห่งแพ็กม่าให้เสร็จ...
การได้ล่าทั้งออร์คน้ำแข็งและมอนสเตอร์หุบเขาเคซาน สำหรับเราแล้ว มันถือเป็นความสนุกที่หาจากไหนไม่ได้อีก
'จริงสินะ...เราหลงไหลในซาทิสฟายก็เพราะความรู้สึกเหล่านั้น'
ยิ่งเลเวลอัพ ความพึงพอใจก็ยิ่งเอ่อล้นออกมา เราชอบที่จะเห็นกองเหรียญทองดรอป ชอบที่จะเห็นไอเท็มตกจากตัวมอนสเตอร์เป็นกอง
เคยคิดอยู่ช่วงหนึ่ง ว่าเราควรเก็บตัวอยู่ที่นี่เพื่อล่ามอนสเตอร์ต่อไปอีกสักหน่อยดีไหม...
แต่ความเป็นจริงล่ะ...ถึงจะชื่นชอบการล่ามากแค่ไหน แต่ครอบครัวที่บ้านกำลังตกระกำลำบากอยู่กับหนี้ก้อนโต พ่อแม่กับเซฮีต้องเป็นกังวลอยู่ทุกคืนวัน ไม่อาจสลัดความเครียดออกไปได้ การกลับโรงตีเหล็กไปสร้างไอเท็มต่อ จึงถือเป็นทางเลือกที่ควรทำมากที่สุด ปากท้องครอบครัวต้องมาก่อนเสมอ
"รีบกลับไปหาข่านก่อนดีกว่า...จะได้มีดาอินสเลฟไว้ใช้งานด้วย...อืม...แบบนั้นก็ไม่เลว"
เราสะกดข่มความรู้สึกอยากล่าไว้ในใจ สองเท้ารีบย่ำเดินออกจากน้ำตกโลรัน ท้องฟ้ายามค่ำคืนสวยงามจนทำให้เราต้องแหงนหน้าขึ้นไปมอง แต่ทันใดนั้น...
"โฮกกกกก!"
เสียงคำรามดังกึกก้องจากก้นลำธารใต้น้ำตก ละอองน้ำสาดกระเซ็นเป็นฝอยกระจาย หลังจากนั้นคือการปรากฏตัวของมนุษย์เงือกจำนวนหกตน
"...ปลาพวกนี้...ชอบดิ้นรนกันจังนะ"
มนุษย์เงือกคือนางเงือกเพศผู้ แต่นางเงือกของซาทิสฟายนั้นไม่ได้งดงามเหมือนกับในนิทานกล่อมเด็ก พวกหล่อนมีความอัปลักษณ์สูงมาก แต่ช่างเถอะ ตอนนี้เบื้องหน้าคือมนุษย์เงือก เรากวาดสายตามองไปรอบๆ และสะดุดเข้าที่เหงือกของพวกมัน
"พวกแกคิดจะขาดอากาศหายใจตายอยู่บนบกรึไง..."
มนุษย์เงือกตัวหน้าสุดโบกสามง่ามไปมาและตะโกนข่มขู่เสียงดัง "ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอกน่า...มอบหัวใจของแกมาซะ!"
มนุษย์เงือกต้องการหัวใจมนุษย์เพื่อไปบำรุงร่างกาย...ช่างน่าขยะแขยงเหมือนกับรูปลักษณ์ไม่มีผิดเพี้ยน
'หกตัว...'
มนุษย์เงือกขึ้นชื่อเรื่องการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด พวกมันจึงเป็นมอนสเตอร์ที่พบได้ทั่วทั้งทวีป แต่มนุษย์เงือกของหุบเขาเคซานค่อนข้างจะพิเศษหน่อย ด้วยเลเวลที่สูงถึง 175 พวกมันจึงถูกจัดให้เป็นมนุษย์เงือกที่ดุร้ายมากที่สุดจากบรรดาทั้งหมด
'มนุษย์เงือกจะแข็งแกร่งมากในน้ำ แถมยังมีถึงหกตัว...'
หากเป็นก่อนหน้าที่เราจะมีวิถีดาบแห่งแพ็กม่า การต้องปะทะกับมนุษย์เงือกถึงหกตัวในคราวเดียว คงคิดอะไรไม่ออกนอกจากเผ่นหนีโดยไม่ลังเล แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว +8 มีดสั้นอุดมคติในมือกำลังเฉิดฉายออร่าสีฟ้าครามท่ามกลางความมืดมิด...มาเจอกันหน่อยเป็นไงไอ้พวกมนุษย์เงือก
"อยากได้หัวใจงั้นหรอ...หรืออยากเป็นฝ่ายถูกกินกันแน่..."
มนุษย์เงือกตนหนึ่งพ่นลมหายใจออกมาบางเบา "เหอะ! ปากดีจังนะ!"
ซวบ! ซวบ!
มนุษย์เงือกเคลื่อนไหวร่างกายในน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว เรากำลังรอจังหวะที่มันเข้ามาใกล้ค่อยลงมือ ในขณะที่หอกสามง่ามกำลังจะแทงเข้ามาโดนลำตัว "วิถีดาบแห่งแพ็กม่า...หน่วง!"
ทันใดนั้น ร่างกายของเราพลันยกมีดขึ้นมาหน่วงไว้ ออร่าสีฟ้าครามของมีดสั้นในอุดมคติส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด...
"...!!"
การบุกโจมตีของมนุษย์เงือกต้องหยุดชะงักราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกมันวิ่งหนีอย่างลนลานไม่คิดชีวิตจากพลังอำนาจของหน่วง
( ผู้แปล : สำหรับคนที่สงสัยว่ามีดสั้นใช้ทักษะวิถีดาบได้ยังไง ขอตอบว่า...ผู้แปลเองก็สงสัยเหมือนกัน! บางทีมีดสั้นอาจเข้าข่ายดาบเล่มเล็กก็ได้มั้ง...ช่วยแถได้แค่นี้แหละ )
"โทสะช่างตีเหล็ก!"
[ โทสะช่างตีเหล็กแสดงผล พลังโจมตีและความเร็วในการโจมตีของท่าน จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นระยะเวลา 20 วินาที ]
"ลมเฉือน!"
ฟิ้ววว! ฉัวะ! ฉัวะ!
"กิ๊!"
สายลมที่คมกริบเฉือนเข้าไปยังร่างกายส่วนบนของมนุษย์เงือก
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 3,750 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 3,802 หน่วย ]
มนุษย์เงือกจะมีพลังป้องกันสูงในร่างกายท่อนล่างที่มีเกล็ดปกคลุม แต่ท่อนบนคือผิวหนังแบบเดียวกับมนุษย์ จึงเปราะบางกว่ามาก ดังนั้นการถูกโจมตีในส่วนบนจึงเกิดความเสียหายรุนแรง เราไม่ปล่อยให้พวกมันได้พักหายใจหายคอนาน การโจมตีระลอกต่อไปถูกกระหน่ำซ้ำต่อเนื่อง
'ชิ! มานาหมด!'
เรารีบหยิบโพชั่นฟื้นฟูมานาออกจากกระเป๋าและซดลงไป หลังจากที่มานาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง เราจึงทำการสลับไปเป็นโหมดปรกติเพื่อใช้ทักษะที่คิดค้นขึ้นเอง
"สายลมเที่ยงธรรม!"
ฟิ้ววว! ฉัวะ! ฉัวะ!
สายลมเที่ยงธรรมมีความรุนแรงชนิดที่ลมเฉือนเทียบไม่ติด ด้วยความที่เราสลับโหมดกลับมาเป็นปรกติ พลังโจมตีและอัตราคริติคอลจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้พลังทำลายสูงขึ้นตามไปด้วย
สายลมเที่ยงธรรมกินระยะเป็นวงกว้าง พวกมนุษย์เงือกทุกตัวโดนเข้าไปอย่างเท่าเทียม แต่ตัวไหนที่โดนเข้าส่วนบน คงได้เจ็บปวดเจียนตายจนร้องไม่ออกกันเลยทีเดียว
"พริ้วไหว!"
[ พริ้วไหวแสดงผล ความว่องไวและอัตราการหลบหลีกของท่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นระยะเวลา 1 นาที ]
ซวบ! ซวบ!
เรากระโจนเข้าไปหามนุษย์เงือกตัวหนึ่งอย่างรวดเร็ว ร่างกายส่วนบนของมันถูก +8 มีดสั้นอุดมคติเฉือนเข้าอย่างจัง
นี่ขนาดมีดสั้นนะเนี่ย ถ้าดาอินเสลฟจะขนาดไหน
ReplyDeleteคงประมาณดาบสั้นที่เหมือนของทหารกนีกโบราณมั่ง
ReplyDeleteเริ่มมีความเก่งขึ้นแล้วสิ
ReplyDeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDelete