จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 88

       "เฮ้! ป็อน! อย่าใช้ฉันเป็นโล่สิฟะเจ้างั่ง! เอาแต่หลบหลังฉัน จะฉวยโอกาสขโมยกินน้ำผึ้งคนเดียวรึไง!"
       
       ป็อน ชายผู้โด่งดังจากการเป็นสุดยอดมือหอกอันดับหนึ่งของโลก หลังจากจู่โจมข่มขวัญมาลาคัสเสร็จ เขาก็จุ๊ปากใส่แวนท์เนอร์ ผู้ที่กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าด้วยความโกรธ

       "แวนท์เนอร์ นายเป็นอัศวินผู้พิทักษ์นะ การถูกใช้เป็นโล่กำบัง ย่อมเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วไม่ใช่หรอ...ตัวแทงค์ต้องคอยดึดดูดความสนใจคู่ต่อสู้ ในการขณะที่ตัวสังหารคือคนปิดเกม: นี่เป็นยุทธวิธีพื้นธานในการรบนะ ดังนั้น ช่วยคิดให้ดีก่อนที่จะโกรธฉันด้วย"

       หากจับแวนท์เนอร์และป็อนมายืนข้างกัน คงดูเหมือนคนที่มีอายุต่างกันราว20ปี แต่ความจริง ทั้งคู่กำลังย่างเข้าวัย36ในปีนี้ ทางด้านแวนท์เนอร์นั้น ทั้งหัวล้าน หนวดเครารุงรัง ดูเหมือนชายวัย40ตอนปลาย ในขณะที่ป็อน ทั้งหล่อเหล่า หุ่นผอมเพรียว ดูราวกับเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น20ตอนปลาย        

       แถมยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ไม่ค่อยจะลงรอยนัก แวนท์ที่มีรูปลักษณ์แย่กว่า รู้สึกไม่ชอบหน้าป็อนทันทีนับตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าพวกเขามีอายุเท่ากัน สวนป็อนก็ไม่ได้ใส่ใจแวนท์เนอร์นัก เพราะเขาคิดว่าหมอนี่ค่อนข้างสมองทึบ

       นับเป็นคู่กัดที่มีความอดทนต่ำด้วยกันทั้งคู่ จิสึกะเคยกล่าวว่า 'คนทั้งสองจะรู้สึกมีคุณค่า เมื่อได้ทำการเหม็นขี้หน้าอีกฝ่าย'

       "คลาสของฉันคืออัศวินผู้พิทักษ์ก็จริง แต่แต้มสถานะเกือบทั้งหมด ถูกใช้ไปกับค่าพละกำลัง ฉันบอกนายไปหลายหนแล้วไง จำซะบ้าง ไอ้หัวไก่! ต้องให้ฉันพร่ำบอกนายอีกกี่รอบกันแน่...แม้จะเป็นอัศวินผู้พิทักษ์ แต่พลังป้องกันของฉันต่ำมาก! ดังนั้น อย่าใช้ฉันเป็นโล่เด็ดขาด! แทงค์หลักของกิลด์เราคือโทบัน ไม่ใช่ฉัน!"
       
       "สมองทึบ...เลือกเล่นคลาสสายป้องกันแท้ๆ แต่กลับไม่ยอมนำแต้มสถานะไปใช้อย่างเหมาะสม จะให้แทงค์ก็ไม่ได้ จะให้โจมตีก็ยังทำได้ไม่ดีอีก ประโยชน์ของนายอยู่ตรงไหนกันแน่..."

       "ว--ว่าไงนะ! เจ้าบ้า! อยากเห็นพลังที่แท้จริงของอัศวินผู้พิทักษ์ในการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นรึเปล่าล่ะ...ฉันขอท้าดวลนาย 1ต่อ1!"

       "ไม่มีปัญหา! แล้วสักวัน ฉันจะทำให้นายรู้ถึงความไร้ประโยชน์นั่นเอง...แต่วันนี้คงต้องขอผ่านก่อน"

       หากว่ากันตามตรง ในการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง วิธีการเล่นของแวนท์เนอร์นับว่ามีประโยชน์มาก

       เขามีทักษะติดตัวที่ชื่อ 'ลดความเสียหายที่ได้รับทั้งหมด' แถมยังมีทักษะเกี่ยวกับการป้องกันอีกเพียบ หรือแม้กระทั่งทักษะฟื้นฟูพลังชีวิต...แตกต่างจากอัศวินผู้พิทักษ์คนอื่น แวนท์เนอร์มีพลังโจมตีที่สูงมาก เป็นจุดเด่นที่ทำให้เขาได้เปรียบอย่างมากในลานประลอง

       หากอีกฝ่ายมีพลังโจมตีสูงมากเกิน แปลว่าฝั่งนั้นก็จะมีพลังป้องกันที่น้อย...หรือหากอีกฝ่ายมีพลังป้องกันสูงมาก พลังโจมตีของฝั่งนั้นก็จะน้อยลงจนไม่อาจสร้างความเสียหายต่อแวนท์เนอร์ได้ ผู้เล่นทั่วไปจึงไม่ใช่คู่มือเขา

       โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัศวินผู้พิทักษ์มีทักษะเป็นอมตะอยู่ ถึงแม้จะมีระยะหน่วงหลังใช้นาน แต่หากเลือกใช้ให้ถูกจังหวะ การโจมตีสำคัญของศัตรูก็จะไร้ผล นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไม อัศวินผู้พิทักษ์จึงมีสัดส่วนมากในการประลองระดับสูง

       แวนทเนอร์กำลังได้ใจ

       "เห...เกิดกลัวขึ้นมารึไง"

       ป็อนพ่นลมหายใจเบาๆ "ไม่เลย นายลืมไปแล้วหรอ ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่...นี่คือการล่าบอสนะ แต่นายกลับอยากจะดวล 1ต่อ1 ตอนนี้...มันจะเป็นไปได้ยังไง...แล้วอีกอย่าง อันดับโลกของฉันก็ดีกว่านายมาก ผลมันก็เห็นกันอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องสู้เลยสักนิด"

       "หุบปาก! นายกลัวรึไง...อย่าหนีสิ! ปากดีนักนะ! หรือจะลองซัดกันในโลกจริงหน่อยเป็นไง!"
       
       "รู้รึเปล่า ถ้าพวกเราได้เจอกันในโลกจริง จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...นายจะไม่มีทางได้แตะตัวฉันแม้เพียงเศษเสี้ยวแน่นอน...ดังนั้น กรุณาทำตัวดีๆ ด้วย ไอ้หัวล้าน"

       แวนท์เนอร์รีบปฏิเสธทันควัน "ตัวจริงฉันไม่ได้หัวล้าน! เพียงแค่ตั้งค่าทรงผมในเกมให้หัวล้านเฉยๆ...ต้องให้ฉันพูดเรื่องนี้อีกกี่ครั้งกัน...ไอ้หัวไก่!"

       "ไม่ใช่ว่า การทำให้ตัวละครในเกมหัวล้าน จะยิ่งทำให้นายดูแก่ลงไปอีกหรอ...นั่นไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย...ฉันว่า นายจะต้องหัวล้านจริงแน่นอน"

       "ถ้าหากตัวจริงฉันหัวล้าน ไม่มีทางที่ในเกมฉันจะตั้งค่าให้หัวล้านอีกหรอก...ต้องเลือกทรงผมให้หนาที่สุด!"

       "ถ้าเกิดนายแกล้งทำตัวเป็นคนหัวไม่ล้านล่ะ ก็เลยจงใจตั้งค่าให้หัวตัวเองล้าน"

       " $#!~$#!!”"

       แวนท์เนอร์ อันดับ1แห่งคลาสอัศวินผู้พิทักษ์ และป็อน อันดับ1แห่งอัศวินหอก ทั้งสองต่างเล่นเป็นคลาสสายเข้าปะทะให้กับกิดล์เซดาก้าห์ แต่ยามนี้กลับกำลังถกเถียงอย่างออกรส แทนที่จะร่วมมือกันต่อสู้ศัตรูเบื้องหน้า

       มาลาคัสรู้สึกโมโหที่ตนเองถูกเมิน มันตัดสินใจจะลงโทษคนทั้งสองอย่างรุนแรง "กัดกันเองซะแล้ว...เฮ่อ...มีพวกน่าคำราญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยแฮะ"

       ซู่ววว!

       ลำแสงมนต์ดำจำนวน8สาย พุ่งตรงเข้าหาป็อนและแวนท์เนอร์ด้วยความเร็วสูง แต่ทั้งคู่ก็รู้สึกตัวทัน และกระโดดหลบกันไปคนละทาง ทว่า...มาลาคัสกลับควบคุมมัน ให้ติดตามป็อนอย่างไม่ลดละ

       "อะไรกัน...ทำไมมันถึงไม่เลือกฉัน...กล้าเมินฉันคนนี้เชียวหรือ!"

       แวนท์เนอร์ผู้ซึ่งกระโดดลงพื้น ได้ตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่ป็อนกำลังหนีหัวซุกหัวซุน

       "เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเวทย์มนต์ประเภทบังคับทิศทางได้ สมแล้วที่เป็น1ใน8ข้ารับใช้...ชื่อเสียงนั่นไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ!"

       ในเมื่อเห็นว่าหนีไม่พ้น ป็อนได้รวบรวมพละกำลังทั้งหมดไว้ที่หอก ทันใดนั้น เปลวเพลิงอันร้อนแรงพลันลุกโชนขึ้นที่ปลายหอก และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ป็อนร่ายทักษะ

       "หอกคลื่นเสียง!"

       บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!

       ปลายหอกสั่นไหวอย่างรุนแรง จนก่อให้เกิดเสียงระเบิดกลางอากาศติดต่อกันหลายชุด เป็นแรงระเบิดที่รุนแรงเสียจน สมาชิกที่เหลือของเซดาก้าห์ รวมไปแวนท์เนอร์ รับรู้ได้ถึงการสั่นสะเทือน

       หากพลังกายภาพอันรุนแรง ปะทะเข้ากับพลังเวทย์มนต์ที่หนักหน่วง ฝ่ายไหนได้เปรียบงั้นหรอ...ไม่มีของแบบนั้นหรอก ฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่า มีพลังเยอะกว่า ย่อมเป็นฝ่ายกำชัยไป 

       ป็อนควงหอกอย่างพริ้วไหว และแทงสวนมนต์ดำทั้ง8สายเข้าไปด้วยคลื่นพลังสีแดง 

       ซู่ววว! บึ้ม!

       คลื่นพลังสีแดงกระแทกกับบาเรียมนต์ดำของมาลาคัสอย่างจัง ทันใดนั้น สีหน้าอันตื่นตะลึงที่ปรากฏขึ้นไม่บ่อยนัก ได้เผยให้เห็นอยู่บนใบหน้าของป็อน

       "ระดับนี้ก็ยังทะลวงไม่ผ่านอีกหรือ..."

       ใช่แล้ว แม้จะเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าบาเรียมาลาคัส มันก็สูญเปล่า

       "...สถานการณ์ไม่ค่อยดีแล้ว..."

       ป็อนคือผู้เล่นอันดับ23ของโลก หากมองในเชิงตัวเลข ในบรรดาผู้เล่นกว่า2พันล้านคน เขาคือคนที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ23ของโลกตอนนี้ เป็นหนึ่งในสามยอดฝีมือแห่งกิลด์เซดาก้าห์ โดยตั้งแต่เล่นเกมนี้มา มีมอนสเตอร์บอสเคยผ่านตาป็อนมากมายนับไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรก...ที่หอกคลื่นเสียงไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย

       สิ่งนี้ แม้จะแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในด้านพลังป้องกันของมาลาคัส แต่ป็อนก็ยังมีเรื่องหงุดหงิดคาใจอยู่นานแล้ว

       'เราใช้หอกเล่มนี้ อัพเลเวลมา50กว่าครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนมันสักที นี่คือขีดจำกัด เราจำเป็นต้องมีอาวุธที่ดีกว่านี้'

       ในตอนนี้ เลเวลของป็อนคือ243 แต่เขายังใช้หอกเลเวล190อยู่ ทว่า...นั่นก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะต่อให้ตามหาจนทั่วแล้ว แต่ก็ไม่มีหอกใดในเกม ที่จะมีคุณสมบัติดีกว่าหอกเล่มนี้ 

       ทำไมน่ะหรือ...หอกที่ป็อนใช้อยู่เป็นเกรดยูนีค ดังนั้น ถึงจะเป็นหอกเลเวล190 แต่มันก็ยังดีกว่าหอกเลเวล240 เกรดแรร์หรืออีปิกมากโข ในอีกความหมายหนึ่ง ป็อนต้องการหอกเกรดยูนิคขึ้นไป ที่มีเลเวลสูงกว่า190 ถึงจะนำมาใช้แทนเล่มเก่าได้

       ทว่า แม้จะรวบรวมวัสดุชั้นเลิศไปมอบให้ช่างตีเหล็กชื่อดัง แต่แทบทุกครั้งก็จะได้เป็นเกรดทั่วไป หรือไม่ก็แรร์ออกมา นานๆ ครั้งถึงจะมีหลุดเป็นเกรดอีปิกมาบ้าง แต่ป็อนก็ยังไม่พอใจ

       'ช่างตีเหล็กชั้นยอด คือสิ่งที่ต้องหาให้พบโดยเร็ว'

       ช่างฝีมือนิรนาม ผู้ที่สร้างความฮือฮาไปทั้งโลก ด้วยการผลิตลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษขึ้น! ป็อนและจิสึกะคือคนที่ต้องการตัวเขายิ่งกว่าใคร

       'ถ้าได้เขาคนนั้นมาช่วยสร้างหอกให้ รับรองได้เลย ว่าบาเรียของมาลาคัสเอาไม่อยู่แน่!'

       แต่อีกฝั่งหนึ่ง ที่จริงมาลาคัสค่อนข้างตึงมือกับการโจมตีเมื่อครู่ของป็อน โดยในขณะที่กำลังบล็อคด้วยบาเรีย มาลาคัสก็พบว่า ความรุนแรงของมันมีมากเกินไป จึงจำเป็นต้องสร้างบาเรียนขึ้นมาซ้อนอีก3ชั้น แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังเกือบจะรับมือป็อนไม่ไหว

       "ความอับอายเช่นนี้...เกิดจากฝีมือพวกนักเดินทางได้ยังไง!"

       แวนท์เนอร์ไม่พลาด ที่จะเห็นว่ามาลาคัสกำลังอ่อนแรง

       "มันกำลังอยู่ในอาการขาตาย!"

       แวนท์เนอร์กำขวานในมือให้แน่นที่สุดเท่าที่จะแน่นได้ และขว้างมันออกไปอย่างสุดแรง

       ฟิ้ววววว!

       การขว้างอาวุธ เป็นหนึ่งในไม่กี่ทักษะสายโจมตีของอัศวินผู้พิทักษ์ แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับหอกคลื่นเสียงของป็อน

       เคร้ง!

       มาลาคัสแสดงสีหน้าเหนื่อยหน่าย ก่อนจะสร้างบาเรียขึ้นเพื่อดีดขวานกลับไป

       "..."

       เมื่อแวนท์เนอร์เห็นกับตา ว่าขวานของตนถูกดีดกระเด็น เขาก็ยกมือขึ้นไปขยี้หัวตัวเองเบาๆ

       "อ๊าากกก! เป็นไปไม่ได้!"

       เขารู้สึกโมโห ที่ตนเองไร้พลัง คลาสที่ชื่อว่าอัศวินผู้พิทักษ์ ทักษะเกือบทั้งหมดมีไว้สำหรับปกป้องพวกพ้อง แต่การจะอัพทักษะเหล่านั้นให้สุดทาง จำเป็นจะต้องมีค่าความอดทนที่สูงมาก

       ทว่า...แต้มสถานะของแวนท์เนอร์ ส่วนใหญ่ถูกนำไปอัพพละกำลัง เพราะมันช่วยให้เก็บเลเวลได้รวดเร็วทันใจ ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถปกป้องพวกพ้องได้อย่างที่อัศวินผู้พิทักษ์ควรจะเป็น และไม่สามารถรุกโจมตีศัตรูได้หนักหน่วงเหมือนกับป็อน

       นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่า ป็อนถึงกล้าทำตัวโอหังใส่แวนท์เนอร์ เพราะในตอนนี้ แวนท์เนอร์คือผู้เล่นอันดับ66ของโลก ซึ่งน้อยกว่าป็อนที่อยู่อันดับ23มาก แวนท์เนอร์รู้สึกเจ็บใจในเรื่องนี้ไม่น้อย

       "มันควรจะมีไอเท็มสำรับล้างแต้มสถานะเพื่ออัพใหม่!"

       "ซาทิสฟายไม่มีระบบเก็บข้อมูลเก่า ดังนั้น ไม่มีทางที่จะมีไอเท็มล้างแต้มสถานะได้หรอก"

       แวนท์เนอร์ชกพื้นอย่างเจ็บใจ ในขณะที่ป็อนก็อธิบายอย่างหวังดี

       "นับแต่นี้ไป เริ่มนำแต้มไปอัพค่าความอดทนได้แล้ว ถ้าหากยังฝืนลงพละกำลังต่อไปล่ะก็ ตัวละครของนายได้กลายเป็นขยะแน่ ดูเหมือนในลานประลองตอนนี้ อัศวินผู้พิทักษ์สายพละกำลังจะเป็นที่นิยมสินะ แต่นายเองก็น่าจะรับรู้ได้ถึงขีดจำกัดของมันใช่ไหม...ยิ่งคู่ต่อสู้เก่งมากเท่าใด อัศวินผู้พิทักษ์สายพละกำลังก็จะยิ่งด้อยค่ามากเท่านั้น"

       "อึก!"

       แวนท์เนอร์ไม่อยากจะยอมรับว่า มันคือความผิดพลาด ที่เขามุ่งจะอัพพละกำลังมากๆ เพื่อให้เก็บเลเวลได้ไว จึงกำลังยืนนึกเสียใจในเรื่องอดีต  และในขณะเดียวกัน ป็อนก็เอาแต่กังวลเรื่องหอกเล่มใหม่อยู่ตลอดเวลา จึงไม่ได้สนใจสถานการณ์รอบข้างมากนัก

       ในตอนนี้ พวกเขาลืมไปแล้ว ว่าเรกัสกำลังถูกทิ้งอยู่ตามลำพัง!

       "เริ่มพูดคุยกันเองอีกแล้วหรอ...มันไม่ค่อยจะตึงเครียดสินะ  งั้นเดี๋ยวฉันจะทำให้ได้รู้เอง ว่าสถานการณ์ของพวกแกเป็นยังไง" มาลาคัสพูดออกมา พร้อมกับใช้มือจับที่หัวของเรกัส ซึ่งกำลังชุ่มไปด้วยเลือด และยกมันขึ้นอีกครั้ง
       
       ในที่สุด ป็อนก็นึกได้ว่าเรกัสยังอยู่ จึงถามขึ้นว่า "อะไรกัน...เรกัส ทำไมนายถึงปางตายแบบนั้น...โพชั่นหมดแล้วหรอ...แล้วทำไมถึงไม่รีบหนีออกมา!"

       เรกัส ผู้ที่กลายเป็นตัวประกันของมาลาคัสไปแล้ว หัวเราะขึ้นเบาๆ อย่างเขินอาย "ฮะฮะ...ฉันอยากจะเห็นน่ะสิ ว่ามาลาคัสที่เขาร่ำลือกัน แข็งแกร่งอยู่ในระดับไหน ก็เลยอยากยืนดูให้ใกล้ที่สุด ฉันคิดว่า มันอาจทำให้ฉันนำความรู้ไปพัฒนาตนเองได้"

       "...งั้นก็ตายไปเถอะ"

       เรกัสเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเล่นเกม แอล ที เอสแล้ว แต่ในกิลด์ก็มีพวกงี่เง่าอยู่ไม่น้อย ป็อนกับแวนท์เนอร์จึงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

       มาลาคัสพลันหันไปตะโกนกับจิสึกะ ผู้ซึ่งยืนเฝ้ามองสนามรบไปพลาง กอดอกไปพลาง "สาวน้อย! ในอีกไม่ช้า เพื่อนของเธอทุกคนจะต้องต้องกลายเป็นแบบหมอนี่!"

       มาลาคัสเริ่มรวบรวมพลังเวทย์ไว้ที่ปลายนิ้ว มันต้องการจะระเบิดกระโหลกของเรกัส ให้แตกกระจายดั่งผลแตงโม

       สำหรับผู้เล่นติดอันดับ การตายหนึ่งครั้งนับว่าเสียหายใหญ่หลวง เทียบเท่าได้กับการเก็บเลเวล1สัปดาห์เต็มเลยทีเดียว ดังนั้น ในยามปรกติ สมาชิกกิลด์เซดาก้าห์ ไม่มีทางที่จะยืนดูเพื่อนตายไปต่อหน้าแน่ พวกเขาจะต้องพยายามทำทุกวิถึทาง เพื่อช่วยเหลือคนๆ นั้นให้ได้

       ทว่า...คราวนี้เป็นกรณียกเว้น หากเรกัสอยากจะหนี เขาก็ทำได้ตั้งแต่แรก แต่ด้วยความงี่เง่า เรกัสกลับนำพาตัวเองไปสู่ความตาย ผลของการกระทำนั้นเป็นที่สมควรแล้ว การฝืนเข้าไปช่วย เป็นเรื่องได้ไม่คุ้มเสีย

       "ตายไปซะ แล้วก็ดัดนิสัยงี่เง่านั่นใหม่ด้วย"

       ไม่มีใครในกิลด์เซดาก้าห์สักคน ที่คิดยื่นมือเข้าไปช่วยเรกัส ซึ่งกำลังรอความตายอยู่

       แต่ทันใดนั้น พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

       "วิถึดาบแพ็กม่า...หน่วง!"

       “…?!”

       สายตาของทุกคน รวมไปถึงมาลาคัสและจิสึกะ ได้หันมามองเป็นทางเดียว และหลังจากนั้น พวกเขาก็ได้เห็นศิษย์เอกข่าน ผู้สร้างลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษ...ไม่สิ บางทีเขาอาจเป็นเพียงช่างตีเหล็กธรรมดาทั่วไป เด็กหนุ่มชาวเอเชียผู้นี้ ที่ตัวตนแท้จริงยังไม่ถูกเปิดเผย...กำลังร่ายรำไป พร้อมกับมีดสั้นในมือที่สองแสง

       "..."

       เขากำลังร่ายรำด้วยสีหน้ามุ่งมั่นตั้งใจ อันที่จริง มันเป็นถึงทักษะกระบวนดาบชั้นสูงที่หายาก...แต่มันกลับดูเหมือน...

       "หมอนี่เสียสติไปแล้วหรอ..."

       สมาชิกกิดล์เซดาก้าห์ต่างพากันหงุดหงิด

       "คิดจะทำอะไร ทำไมอยู่ๆ ถึงได้ร่ายรำขึ้นมา..."

       ท่าทีอันแปลกประหลาดของกริด ย่อมไม่เป็นที่เข้าใจของคนทั่วไป และทันใดนั้น เมื่อโทบันเห็นกริดเข้า เขาก็พลันนึกอะไรบางสิ่งขึ้นมาได้

       "ฉันจำเขาได้..."

       เป็นช่วงหลายเดือนก่อน ในหมู่บ้านไบรัน โทบันกำลังรับสมัครปาร์ตี้ล่าผู้พิทักษ์พงไพร แล้วก็มีนักรบคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะมีเลเวลเพียง80เท่านั้น ได้ทำทีขอเข้าปาร์ตี้ โดยอ้างว่าตนเองมีเลเวลเกิน100 ชายคนนั้นยังโอ้อวดว่า การที่เขาไม่สวมเกราะ เพราะว่าชุดเกราะเป็นสิ่งไม่จำเป็น เขาสามารถหลบการโจมตีศัตรูได้...และชายที่น่าสมเพชคนนั้น...

       ก็คือกริดงั้นหรอ...

       'นี่มัน...'

       โทบันถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันไปพูดกับจิสึกะ

       "หัวหน้า เป็นอย่างที่คิด ดูเหมือนครั้งนี้ก็จะเป็นข่าวลือเช่นกัน กริดเป็นนักรบ ไม่ใช่ช่างตีเหล็ก เขาเป็นพวกโอ้อว--...เอ๋!"

       โทบันต้องชะงักไป...แม้ในช่วงแรก การร่ายรำของกริดจะดูเหมือนคนเสียสติ แต่เพียงผ่านไปสักพัก ยิ่งมองดู หัวใจก็ยิ่งถูกบีบเค้น พลันเกิดความกดดันมหาศาลพวยพุ่งออกจากตัวกริด...

       'นี่คืออะไร...'

       โทบันเลิกพูดจาเหลวไหลอีก เขารู้สึกถูกคุกคามจากกริดจนต้องถอยหลังออกมา ทันใดนั้น ทั้งจิสึกะและสมาชิกกิลด์คนอื่นๆ ต่างก็แสดงออกแบบเดียวกัน...แม้กระทั่ง...

       'แม้กระทั่งมาลาคัส!'

Comments

  1. กรี๊ดร้อง ค้างหนักมากกก

    ReplyDelete
  2. กริดจะได้โชว์เทพไหม หรือว่ามานาจะหมดหว่า

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00