จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 78

       อย่างที่หลายคนรู้ น้ำตกสูงที่สุดของโลกคือ 'น้ำตกเอนเจล' (Angel Falls) ตั้งอยู่ในเวเนซูเอล่า มีความสูงถึง 979 เมตร น้ำตกแห่งนี้มีความประหลาดอย่างหนึ่งคือ น้ำที่ไหลลงไปจะไม่สามารถตกถึงพื้นได้ ทั้งหมดจะกลายเป็นไอหมอกระหว่างทางเสียก่อน เนื่องด้วยความสูงเกือบหนึ่งกิโลเมตรของมัน

       ใช่แล้ว นี่คือความรู้จากโทรทัศน์ มันคือน้ำตกที่สวยงามและลึกลับ ให้ความรู้สึกถึงเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ เป็นน้ำตกสวยที่สุดของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ซาทิสฟายก็สามารถสร้างน้ำตกที่ยอดเยี่ยมกว่า ลึกลับกว่า สวยงามกว่า และตื่นตาตื่นใจกว่าน้ำตกเอนเจลขึ้นมาได้

       น้ำตกที่ว่านั่น ตั้งอยู่ในดินแดนตอนเหนือของอาณาจักรอีเทอนัล แล้วมันอยู่ตรงส่วนไหนน่ะหรือ...     

       "ตรงนี้ไง"

       ซุ่วววว!

       ทางผาทิศเหนือของหุบเขาเคซาน น้ำตกสูง 1,300 เมตรตั้งเด่นตระหง่านอยู่ในส่วนลึกสุดของหุบเขา ละอองน้ำรอบๆ ได้เนรมิตรบรรยากาศสุดพิเศษขึ้น สายรุ้งล่องลอยอยู่เต็มไปหมด ราวกับเป็นดินแดนในฝันของทุกคน

       ภาพตรงหน้า ทำให้เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจสุดขีด โดยเฉพาะการซ้อนเรียงกันของหมู่สายรุ้งพวกนั้น...

       "นี่คือน้ำตกโลรันอันเลื่องชื่อสินะ...เราเคยได้ยินมาแต่ข่าวลือ"

       ชื่อของน้ำตกแห่งนี้ ถูกตั้งขึ้นตามผู้ค้นพบ ใช่แล้ว เขาคือคนเดียวกับผู้ก่อตั้งอาณาจักรอีเทอนัล โลรัน และน้ำตกแห่งนี้ ยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรอีเทอนัลด้วย

       แต่สิ่งเหล่านั้น ไม่เพียงพอที่จะดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยวเลยสักนิด เพราะหุบเขาเคซานน่ากลัวเกินไป ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางต่อกรกับมอนสเตอร์ในนี้ได้ จึงต้องกลายเป็นสถานที่รกร้าง ไม่มีผู้ใดกล้าย่างกราย

       ว่ากันตามตรง ผู้เล่นหัวกะทิชั้นนำทั่วทั้งโลก มีเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น ที่สามารถเยือนหุบเขาแห่งนี้ได้อย่างปลอดภัย

       ซู่วววว!

       "สุดยอดไปเลย..."

       เดิมที่ เราก็ไม่ใช่คนที่ชื่นชอบในวิวทิวทัศน์อะไรนัก ไม่เคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวธรรมชาติอันสวยงามเหมือนคนอื่น...สวยงามแล้วยังไง...มันทำให้เราอิ่มท้องได้หรอ...ก็เปล่า นี่คือความคิดที่เราเคยมีต่อธรรมชาติ

       แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเล็กน้อย เราเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าทำไมผู้คนถึงหลงไหลในบรรยากาศอันงดงาม

       "สวยมาก...ในที่สุดก็เข้าใจ ว่าโลกแห่งตึกระฟ้าและยางมะตอยที่อาศัยอยู่ มันน่าอึดอัดมากแค่ไหน"

       ตึกระฟ้าสูงตระหง่านที่มีดีไซน์การออกแบบเลิศหรู...แล้วมันยังไงล่ะ...หรือจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก นั่นก็ไม่เลว แต่มันก็เทียบไม่ได้เลย กับภาพบรรยากาศดุจดั่งสรวงสวรรค์ที่อยู่ด้านหน้าเราตอนนี้
     
       โลกอันคับแคบของเราถูกขยายให้กว้างขึ้นทีละนิด มุมมองต่อโลกใบนี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย

       'ขนาดแค่ในเกม...ยังทำให้ขนลุกได้ขนาดนี้ ถ้าหากมีโอกาสไปเห็นของจริง จะรู้สึกดีขนาดไหนกันนะ...เมื่อไรที่ใช้หนี้หมด เราควรออกไปท่องโลกให้หนำใจสักรอบ ทั้งน้ำตกเอนเจล น้ำตกอีกวาซู ป่าอะเมซอน หรือไม่ว่าจะเป็น แกรนแคนย่อน...รวมไปถึงสถานที่ชื่อดังอื่นๆ ด้วย'
     
       ทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้า ได้ชำระล้างจิตใจของเราทีละนิด

       แต่ผ่านไปเพียงไม่นาน...ราวกับนึกขึ้นได้ว่ามีสิ่งสำคัญอย่างอื่นอยู่

       "เรามาทำอะไรที่นี่กันนะ...ใช่แล้ว เราต้องไปตามหาวิถีดาบแห่งแพ็กม่า!"

       ผาทิศเหนือที่ว่า อยู่ด้านล่างน้ำตกโลรันนี่เอง เราพยายามเดินค้นหาภาพสลักวิถีดาบแห่งแพ็กม่าจนทั่ว

       10 นาทีก็แล้ว...30 นาทีก็แล้ว

       1 ชั่วโมงผ่านไป… 3ชั่วโมงผ่านไป…เรายังคงไม่พบภาพสลักวิถีดาบแห่งแพ็กม่าเสียที 

       แม้จะลงทุนปีนไต่หน้าผา แต่ก็ไม่ช่วยอะไร ไม่มีภาพสลักใดอยู่ทั้งนั้น เวลาผ่านไปนานโดยไม่รู้ตัว หันมาอีกทีก็ตะวันเริ่มตกดินแล้ว นั่นยิ่งทำให้ดงสายรุ้งงดงามมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อถูกแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดทอด สายรุ้งเหล่านั้นค่อยๆ กลายเป็นรุ้งสีทอง ช่างเป็นภาพที่ยากจะลืมเลือน...แต่เราจะหยุดค้นหาภาพสลักไม่ได้เด็ดขาด

       "ชักจะหงุดหงิดแล้วนะ..."

       บรรพบุรุษข่านบอกว่า เขาทำการสลักภาพวิถีดาบแห่งแพ็กม่าไว้บนผาหินทิศเหนือ...นั่นเป็นเรื่องอำกันรึเปล่า...หรือเราจะต้องเสียแรงฟรี หลงมาที่นี่เพียงเพราะคำลวงของผี...

       "...เรามันโง่เอง ที่ดันไปเชื่อสิ่งที่ผีพูด"

       ใช่แล้ว...ผีกับความชั่วร้ายคือของคู่กัน! เวลาปรากฏตัวในภาพยนต์แต่ละครั้ง จึงต้องออกมามีรูปลักษณ์น่าเกลียดอยู่เสมอ ดังนั้น เราถึงพยายามระวังตัวเองจากผีมาโดยตลอด...

       "บ้าจริง! นี่เราทำอะไรลงไป!"

       "...หืม...เอ๋!"

       ในระหว่างที่กำลังหัวเสีย สายตาพลันชำเลืองไปเห็นเงาลางๆ หลังน้ำตก

       "บางที..."

       ในช่วงมัธยมต้น เราชื่นชอบหนังกำลังภายในอย่างมาก และในบ่อยครั้ง ที่ตัวเอกในเรื่องมักค้นพบวิชาลับจากหลังน้ำตก

       'ถ้าเกิดว่า คนสร้างซาทิสฟายก็ชื่นชอบหนังกำลังภายในแบบเราล่ะ...'
     
       เราตัดสินใจกระโดดลงไปในลำธารด้านล่างน้ำตก แล้วก็เป็นอย่างที่คิด มีถ้ำเล็กๆ ซ่อนอยู่ด้านหลังผืนน้ำตกโลรัน...

       ที่ผนังด้านในถ้ำ มีภาพการร่ายรำเพลงดาบของชายคนหนึ่งถูกสลักไว้ โดยทั้งหมดเรียงตามลำดับขั้นตอน ก่อนไปหลัง

       "ว้าว..."

       แต่เราก็ยังคงหัวเสียกับคำบอกเล่าของผีตนนั้นอยู่

       "ผีบ้านั่น...ทำไมถึงไม่บอกว่าอยู่หลังน้ำตกโลรันฟะ! ทำไมถึงพูดแค่ผาทิศเหนือ...บ้าจริง! ถ้าหากไม่ใช่บรรพบุรุษข่านล่ะก็ ฉันจะกลับไปพังหลุมศพนั่นทิ้งซะ! ถือว่ารอดตัวไป"
     
       '...เดี๋ยวก่อนสิ...ถ้าเกิดว่าผีตนนั้นได้ยินสิ่งที่เราพูดล่ะ...'

       เกิดอาการเหลียวซ้ายแลขวาขั้นมาทันที แต่เมื่อไม่เห็นใคร เราก็ตั้งใจมองดูภาพสลักบนผนังต่อ แม้มันจะถูกสลักไว้นานจนเก่าและจางเต็มที แต่การทำความเข้าใจก็ไม่ใช่เรื่องยาก

       "นี่คือแพ็กม่างั้นหรอ..."

       ดวงตาของชายในภาพสลัก คมกริดดุจดั่งเหยี่ยว ใบหน้าทรงไข่ที่เรียวและผอม ริมฝีปากรูปทรงเดียวกับที่หญิงสาวส่วนมากโปรดปราน

       "หืม...แพ็กม่าก็หล่อไม่เบานี่นา..."

       เคยจินตนาการไว้ว่า บางทีแพ็กม่าอาจเป็นชายกำยำหน้าโหด เหมือนกับพวกช่างตีเหล็กที่เคยผ่านตามาทุกคน แต่กลายเป็นว่า แพ็กม่าคนนี้รูปร่างผอมเพรียว แต่งกายดีดูดีและสะอ้านสะอ้าน...ตัวเราที่จงเกลียดจงชังกับคนหน้าตาดี ความศรัทธาในตัวแพ็กม่าจึงพลันดิ่งลงเหว

       "...คนที่ตายไปแล้ว เราจะสนใจรูปลักษณ์เขาทำไมกัน"

       ได้เวลาตั้งใจศึกษาภาพวาดต่อ
     
       "นั่นมัน...ดาอินสเลฟ"

       หากเทียบสัดสวนของภาพสลัก แพ็กม่านับว่ามีส่วนสูงที่ไม่เลวทีเดียว แต่ดาบยักษ์ในมือกลับยังใหญ่กว่ามาก แปลว่าต้องเป็นดาอินสเลฟแน่นอน เพราะมันคือดาบยักษ์ที่ยาว 3 เมตร กับอีก 20 เซนติเมตร

       "เจ๋งไปเลยแฮะ"

       ในภาพ แพ็กม่ากำลังกวัดแกว่งดาอินสเลฟด้วยมือข้างเดียว พละกำลังคงต้องสูงมากแน่ ซึ่งขัดกับรูปร่างผอมบางโดยสิ้นเชิง แต่ถึงจะดูแข็งกร้าว กลับพริ้วไหวดุจผีเสืออย่างงดงาม นี่สินะ...ความงดงามของวิถีแห่งดาบ...ดุดันและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน เราจะทำแบบนั้นได้รึเปล่านะ...ในระหว่างที่ดูภาพสลักไป เราก็เห็นถึงอานุภาพกระบวนดาบที่สูงส่งเสียดแทงท้องฟ้า

       เราจ้องมองรูปสลักทุกภาพ ตั้งแต่ต้นจนจบ

       "หืม...แล้วทำไมถึงยังเรียนวิถีดาบแห่งแพ็กม่าไม่ได้สักทีล่ะ..."

       จากการมองดูและคิดตาม เราสามารถเข้าใจในแก่นของวิถีดาบแห่งแพ็กม่าเบื้องต้นได้แล้ว แต่มีบางอย่างแปลกไป ราวกับว่า แค่เพียงจ้องมอง มันยังไม่เพียงพอให้เราเรียนทักษะมาได้

       "หรือต้องใช้มือสัมผัส..."

       เราวางมือลูบไล้เบาๆ ไปบนภาพสลัก แต่ก็เหมือนเดิม วิถีดาบแห่งแพ็กม่ายังไม่ยอมเข้ามาอยู่ในตัว

       "หืม...แค่มองดูหรือสัมผัสคงยังไม่พอ แล้วต้องทำยังไงล่ะ หรือต้องร่ายรำกระบวนท่าตามไปด้วย..."

       ...ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือ...ต้องเลียนแบบทุกสิ่งเลยใช่ไหม...

       "เฮ่อ...น่าเบื่อฉิบ"

       แต่ก็ช่วยไม่ได้ ไม่ว่าจะน่าเบื่อแค่ไหนก็ต้องทำ เราบ่นอุบอิบเล็กน้อยก่อนจะชักมีดสั้นในอุดมคติออกมา หลังจากนั้น การร่ายรำตามกระบวนท่าแพ็กม่าก็เริ่มขึ้น ในตอนแรกยังคงรู้สึกไม่คุ้นชิน จึงลองซ้ำอีกครั้ง...แต่มันก็...ยากไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเนี่ย

       สามชั่วโมงผ่านไป ไม่รู้แล้วว่าเราร่ายรำไปทั้งหมดกี่ชุด แต่ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยมาก จำเป็นต้องนั่งพัก เพื่อฟื้นฟูให้ค่าความเหน็ดเหนื่อยกลับคืนมาเสียก่อน วิถีดาบแห่งแพ็กม่ากินพลังงานกว่าที่คิดไว้มาก

       "ย--ยากฉิบ..."

       ถึงจะจดจำภาพสลักได้ทั้งหมด แต่เราก็ยังไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายตามได้ แม้จะลองอีกหลายครั้ง ผลก็ไม่ต่างจากเดิม เมื่อลองย้อนนึกดูก็พบว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราไม่เคยเต้นมาก่อนเลยสักครั้ง

       "แม้จะเคยไปผับมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เต้นเป็นจริงเป็นจังนัก...สงสัย คนอย่างเราคงเกิดมามีเท้าซ้ายสองข้าง ไม่มีทางเลียนแบบภาพสลักวิถีดาบแห่งแพ็กม่าได้แน่..."

       ...เดี๋ยวก่อน

       "มันใช่หรอ..."

       ทักษะที่ไม่ยอมให้เรียน ถ้าหากเต้นไม่เป็น...ของแบบนั้นมันจะไปมีได้ยังไง!

       "ไม่มีทาง ไม่อย่างนั้น คนที่เต้นไม่เป็นมิต้องติดแหง่กอยู่กับภารกิจนี้ไปจนตายเลยหรือ...ไม่ใช่แน่ ต้องมีเหตุผลอื่น"

       หลังจากที่เพ่งพิจารณารูปสลักอย่างตั้งใจ ทำให้เราพบว่า...มีตะไคร่น้ำสีเขียวปกคลุมบางส่วนของรูปสลักสุดท้ายไว้

       "หืม...อย่าบอกนะว่า...เป็นเพราะรูปสลักสุดท้ายถูกตะไคร่น้ำบัง ก็เลยยังเรียนทักษะไม่ได้น่ะ...จะไปมีเรื่องบ้าบอคอแตกแบบนั้นได้ยังไง"

       เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด แต่เราก็เดินไปเด็ดตะไคร่น้ำออกจนหมด ทันใดนั้น เราพลันพบว่า มีรูปสลักใหม่อีกภาพหนึ่ง ถูกวาดต่อจากรูปสลักเดิมที่เราคิดว่าเป็นภาพสุดท้าย โดยมันถูกซ่อนไว้ใต้แผงตะไคร่น้ำที่ดึงออกมาเมื่อครู่

       หน้าต่างข้อความระบบพลันเด้งขึ้น

[ ท่านได้รับวิถีดาบแห่งแพ็กม่า ]
[ ท่านสำเร็จภารกิจคลาสแรก กรุณากลับไปหาช่างตีเหล็กข่าน ]

       "...แล้วสองสามชั่วโมงที่ผ่านมา...เราทำบ้าอะไรลงไป..."

       บ้าฉิบ...ฝ่ามือของเราสั่นระริกด้วยความโมโห นี่ต้องสูญค่าความเหน็ดเหนื่อยจำนวนมากไปกับตะไคร่น้ำหรอเนี่ย!  อยากฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆ แล้วตะโกนสาปแช่งให้สาแก่ใจ แต่ก็จำต้องหยุดไว้เพียงแค่นั้น เราไม่อยากเสียเวลากับตะไคร่น้ำไปมากกว่านี้อีกแล้ว ควรใช้เวลาที่เหลือไปใส่ใจกับวิถีดาบแห่งแพ็กม่าจะดีกว่า

       "รอดตัวไปนะ...ไอ้พวกตะไคร่น้ำเวรตะไล!"

       เราใช้เท้าขยี้ๆ บี้ๆ ไปบนแผงตะไคร่น้ำที่เด็ดออกมาจากกำแพง หลังจากนั้นไม่นาน เราพยายามตั้งสติ สูดหายใจเข้าลึก...

       วิถีดาบแห่งแพ็กม่าที่มีอานุภาพเสียดแทงท้องฟ้า...มันคืออะไรกันแน่นะ...จะเป็นทักษะติดตัว หรือทักษะที่เกี่ยวกับการโจมตีกันแน่

       ชักอยากรู้แล้วสิ...

       ไม่ว่าจะเป็นอะไร มันก็ดีต่อเราทั้งนั้น ทักษะสายต่อสู้เราน้อยมาก การได้มาเสริม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ก็น่ายินดีทั้งหมด หน้าต่างทักษะถูกเปิดขึ้นด้วยอาการตื่นเต้น

       หลังจากนั้น เราก็ได้รับรู้ว่า...วิถีดาบแห่งแพ็กม่า ยอดเยี่ยมกว่าที่จินตนาการไว้หลายสิบเท่าตัว

[ วิถีดาบแห่งแพ็กม่า ]
เลเวล : 1
---(โหมดปรกติ)---
       ท่านจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับดาบอยู่ตลอดเวลา
* พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 20%
* อัตราการโจมตีคริติคอลเพิ่มขึ้น 10%
* คุณสมบัติข้างต้น จะแสดงผลเฉพาะเวลาที่สวมใส่อาวุธประเภทดาบเท่านั้น
* ทักษะนี้ไม่ใช้มานา
---(โหมดกระบวนดาบ)---
       หลอมหลวมกายใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับดาบ ท่านจะสามารถใช้สุดยอดกระบวนดาบทั้ง 5 ได้ ประกอบด้วย คลื่น หน่วง ร่ายรำ สังหาร และมายา
* เมื่อเปิดใช้งาน ค่าสถานะตอนปิดใช้งานจะไม่แสดงผล
* การเปิดใช้งานต้องใช้มานา 20 หน่วย
* เมื่อปิดการใช้งาน จะมีระยะหน่วง 10 วินาทีในการเปิดใหม่อีกครั้ง
* การปิดใช้งานไม่สูญเสียมานา

[ คลื่น ]
       ปลดปล่อยปรานดาบอันดุดันดุจดั่งคลื่นทะเลถาโถมไปรอบตัว
* โจมตีศัตรูทุกตัวในรัศมี 1 เมตร
* ความรุนแรงเท่ากับ 155% ของพลังโจมตี
* ลดความเร็วเคลื่อนที่ของเป้าหมายทุกคน
เงื่อนไขการใช้งาน : สวมใส่อาวุธประเภทดาบ
มานาที่ใช้ : 350 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 120 วินาที

[ หน่วง ]
        ทำการหน่วงดาบอย่างสง่างาม
* เป้าหมายโดยรอบจะถูกสะกด ไม่สิ่งใดกล้าย่างกรายเข้าใกล้ท่าน เป็นระยะเวลา 3 วินาที
* ไม่ส่งผลต่อเป้าหมายประเภท 'อันเดด'
เงื่อนไขการใช้งาน : สวมใส่อาวุธประเภทดาบ
มานาที่ใช้ : 300 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 300 วินาที

[ ร่ายรำ ]
        ทำการร่ายรำกระบวนดาบอันงดงาม ประหนึ่งผีเสื้อกระพือปีกร่ายรำบนท้องฟ้า
* สร้างความเสียหาย 500% ของพลังโจมตี
* โจมตีใส่ 1 เป้าหมาย
เงื่อนไขการใช้งาน : สวมใส่อาวุธประเภทดาบ
มานาที่ใช้ : 350 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 100 วินาที

[ สังหาร ]
       ฟาดฟันศัตรูด้วยจิตสังหารสูงสุด
* สร้างความเสียหาย 1500% ของพลังโจมตี
* โจมตีใส่ 1 เป้าหมาย
* ศัตรูจะติดอาการ 'เลือดออก'
* ศัตรูจะติดอาการ 'สิ้นหวัง'
เงื่อนไขการใช้งาน : สวมใส่อาวุธประเภทดาบ
มานาที่ใช้ : 1,200 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 500 วินาที
ค่าความเหน็ดเหนื่อยที่ใช้ : 50%


[ มายา ]
       กระบวนดาบมายาที่เหนือล้ำจินตนาการ
* พลังโจมตีพื้นฐานเพิ่มขึ้น 2 เท่า
* การโจมตีธรรมดาจะกลายเป็นจะโจมตีระยะไกล
เงื่อนไขการใช้งาน : สวมใส่อาวุธประเภทดาบ
มานาที่ใช้ : 1,800 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 3,000 วินาที
ระยะเวลาแสดงผล : 30 วินาที

Comments

  1. ฟัคดาเมจนี่ไม่ใช้ตัวเลขธรรมดาเลยนะเองมาเป็นเปอเซนเลยนะ

    ReplyDelete
  2. ฟันไกล โกงชิบ

    ReplyDelete
  3. ท่า มายา นี่ใช้มานามากไปไหม แบบนี้ต้องตี้อาวุธอัพสเตตัสลูกเดียว

    ReplyDelete
  4. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  5. ท่าสังหารนี่อย่างโกง 1500% wtf
    จะโหดเกินไปแล้ว

    ReplyDelete
  6. แบบนี้สิถึงเป็นคลาสลีเจน

    ReplyDelete
  7. สกิลดีแต่ไม่มีมานา55555

    ReplyDelete
  8. คงต้องสร้างดาบแล้วละแล้วก็ลงเพิ่มมานาอีก 5555

    ReplyDelete
  9. นี้เเค่เวล1นะ

    ReplyDelete
  10. ต้องลงผัญญบ้างละแต่ละทักษะแต่มานามึงมีแค่500=-=

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00