จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 48
นักคัดลอก, ผู้ซึ่งวิเคราะห์และคัดลอกทักษะเป้าหมายมาเป็นของตน, โดยสามารถใช้ออกไปได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น. เป็นคลาสที่สามารถสนุกอยู่กับทักษะที่คัดลอกมาโดยไม่ต้องพะวงเรื่องช้อเสีย. เป็นคลาสที่จะเปลี่ยนเป็นคลาสใดในซาทิสฟายก็ได้ทั้งนั้น. สามารถเรียกได้อย่างเต็มปาก, ว่านักคัดลอกคือหนึ่งในคลาสสุดโกงของเกมนี้.
คลาสนี้นับว่าเชี่ยวชาญในการต่อสู้เป็นพิเศษ. โดยสามารถนำทักษะชั้นยอดของคลาสอื่นมาผสมผสานกันจนไร้จุดอ่อน. เป็นคลาสที่สามารถล้มมอนสเตอร์บอสได้ด้วยตัวคนเดียว, ถ้าหากมีการเตรียมการมามากพอ. และยังสามารถปรับเปลี่ยนไปเป็นคลาสสายนักฆ่าได้ด้วยถ้าต้องการ. ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง, หรือแบบกองทัพ. นักคัดลอกถึงถูกจัดให้เป็นคลาสใกล้เคียงกับคำว่า 'แข็งแกร่งที่สุด'.
ทว่า, ทุกอย่างย่อมมีจุดอ่อนของมัน, นักคัดลอกก็เช่นกัน.
ประการแรก, ในหนึ่งวันสามารถคัดลอกทักษะได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น. ประการที่สอง, ทักษะที่คัดลอกมาสามารถใช้เพียงแค่ครั้งเดียว. ประการที่สาม, ทักษะประจำตัวจริงๆ ของคลาสมีเพียงแค่ 9 ทักษะเท่านั้น, โดยไม่มีทักษะใดเลยที่เป็นทักษะสำหรับการต่อสู้. ประการที่สี่, พลังทางกายภาพอ่อนแอเฉกเช่นเดียวกับคลาสนักเวทย์อื่น.
ในอีกความหมายหนึ่ง, ยูเฟอมิน่าจะแข็งแกร่งสุดๆ ถ้าหากมีทักษะในมือเป็นจำนวนมาก. ตรงกันข้าม, ถ้าหากทักษะที่คัดลอกมาหมดลง, เธอก็จะกลายเป็นคนที่อ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน. และในตอนนี้, ยูเฟอมิน่าก็กำลังอยู่ในโหมดอ่อนแอที่สุดของเธอ.
"จบสิ้นแล้ว..." ยูเฟอมิน่าตัดพ้อด้วยใบหน้าที่ขาวซีดราวกับกระดาษ.
กริดหนีลงไปทางชั้น 4, โดยทิ้งให้เธอต้องรับมือกับฝูงทหารที่ไม่มีวันหมดตามลำพัง. โดยแม้จะสังหารไปหลายร้อยนายแล้ว, แต่พวกมันก็ไม่มีทีท่าจะลดลงเลยสักนิด, แถมเป็นทักษะของเธอเสียเองที่ลดลงไปเรื่อยๆ. จนตอนนี้เหลือเพียงแค่เวทย์ไฟจำนวน 3 ชนิดเท่านั้น. และการใช้เวทย์ไฟในห้องที่ฝุ่นเยอะขนาดนี้คงเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดนัก.
เท่านั้นยังแย่ไม่พอ, ในตอนนี้, อัศวินจำนวน 4 คนกำลังยืนล้อมกรอบเธอเอาไว้จากทุกทาง.
"เราเสร็จแน่..."
ไม่มีวี่แววว่ากริดจะกลับมาช่วยแม้แต่น้อย. แถมเมื่อครู่ยังมีเสียงระเบิดดังอึกทึกที่ชั้นล่างจนได้ยินมาถึงที่นี่, บางที, กริดอาจม่องเท่งไปแล้วก็ได้.
'หรือถ้าหากหมอนั่นยังไม่ตายและช่วยฮิวรอยออกมาได้สำเร็จ. จะมีอะไรรับประกันได้บ้างว่าเจ้าบ้านั่นจะย้อนกลับมาช่วยเรา?'
กริดอาจจะหนีออกไปข้างนอกเรียบร้อยแล้วก็ได้... อัศวินทั้ง 4 คนกำลังชี้ปลายดาบอันแหลมคมมายังร่างของยูเฟอมิน่า. โดยในตอนนี้, เธอไม่ได้คิดขยับเขยื้อนหรือตอบโต้แม้แต่นิดเดียว, ราวกับดวงวิญญานไม่อยู่กับตัวอีกต่อไปแล้ว.
"เธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ, สามารถจัดการกับทหารได้มากเกินกว่า 500 นายเพียงลำพัง. ไม่ทราบว่า, เธอมีสมญานามเป็นสุดยอดจอมเวทย์ใช่รึเปล่า?"
โชคยังดีที่พวกอัศวินยังไม่กล้าผลีผลามลงมือกับยูเฟอมิน่า. เพราะเธอนั้นฆ่าทหารไปเป็นจำนวนมาก, จึงไม่แปลกที่พวกอัศวินจะรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง. ทว่า, สถานการณ์เช่นนี้คงยื้อเอาไว้ได้อีกไม่นาน.
"กองกำลังของเราเหลือเพียงแค่ทหารองครักษ์ของลอร์ดวินสตันแล้ว. บางทีกริดมันอาจใช้จังหวะนี้หลบหนีไป, เพราะตอนนี้คนของเราไม่พอที่จะปิดทางเข้าออกทุกทาง. และพวกเรา 4 อัศวินก็ต้องคอยรับมือเธอด้วย."
"จะเป็นแบบนั้นได้ไงเล่า? เลโอมันลงไปชั้น 4 เพื่อจัดการด้วยตัวเองเลยไม่ใช่รึไง? ตอนนี้มันคงยิ้มกริ่มอย่างมีความสุขอยู่, ที่ได้เชือดเจ้ากริดนั่นด้วยมือของตัวเอง."
"การต่อสู้ครั้งนี้มีความปลอดภัยของท่านลอร์ดเป็นเดิมพัน. พวกเราจะมองข้ามความเป็นไปได้เล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เด็ดขาด."
"ก็ได้... งั้นก็รีบจัดการหล่อนกันเถอะ. ถึงแม้จะต้องเสียเกียรติของอัศวินไปบ้าง, แต่พวกเราจำเป็นต้องสู้แบบ 4 รุม 1."
อัศวินทั้ง 4 พุ่งเข้าจู่โจมยูเฟอฟิน่าอย่างพร้อมเพรียงกัน. เธอจำเป็นต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายออกมาอย่างไม่มีทางเลือก.
'ชั้นจะตายแบบนี้ไม่ได้.'
ยูเฟอมิน่าตัดสินใจควักลูกเต๋าสีทองมาถือในมือ. มันคือลูกเต๋าที่ได้รับมาเมื่อครั้งชนะการแข่งสร้างไอเท็มกับกริด.
แต่ถ้าทอยไปแล้วเกิดสถานการณ์แย่ลงล่ะ?
'ถ้าเข้าตาจนล่ะก็, คงต้องใช้เวทย์ไฟอย่างเลี่ยงไม่ได้.'
แต่เธอก็ไม่คิดจะตายตามลำพัง, ก่อนตาย, เธอหมายจะลากอัศวินทั้ง 4 ให้ลงนรกไปพร้อมกันกับเธอด้วย. ยูเฟอมิน่าตัดพ้อเล็กน้อยเมื่อไม่เห็นวี่แววว่ากริดจะกลับมา. ถ้าเธอต้องตายไปจริง, ถึงจะยังไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับกริดดี, แต่เธอจะต้องให้หมอนั่นชดใช้อย่างสาสมแน่นอน.
ทันใดนั้นเอง...
"เป็นถึงอัศวินแต่กลับรุมทำร้ายคนที่อ่อนแอ... ไม่สิ, ถึงจะไม่ใกล้เคียงกับคำว่าอ่อนแอเท่าใดนัก. แต่พวกแกมันก็ไม่ต่างอะไรกับหมาหมู่อยู่ดี!"
"กะ--กริด?"
ยูเฟอมิน่ากับอัศวินทั้งสี่รีบหันไปมองทางต้นเสียงทันที. เป็นกริดและฮิวรอยที่ถูกช่วยออกมากำลังยืนอยู่ข้างกัน.
"อา..."
ดวงตาของยูเฟอมิน่าเปล่งประกายทันทีที่เห็นกริดปรากฏตัว. ในตอนแรกเธอคิดว่ากริดนั้นเป็นเพียงขยะมูลฝอยที่ไม่รู้จักบุญคุณ, แต่ความจริงแล้วหมอนั่นก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น. อย่างน้อยก็ยังกลับมาตามที่ได้ให้สัญญาไว้.
'น่ารักจังแฮะ.'
รอยยิ้มของยูเฟอมิน่าเป็นราวกับดอกไม้บานสะพรั่ง. กริดจึงอดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นระรัว.
'ไม่ได้, ห้ามถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเด็ดขาด. หล่อนก็แค่กุหลาบพิษที่งดงามแค่ภายนอกเท่านั้น! อย่าไปหลงกลเข้าสิ, หัวใจของเรา!'
กลุ่มอัศวินทั้งสี่ไม่มีทางเก็บอาการอยู่เมื่อได้เห็นการปรากฏตัวของกริด. ดวงตาของพวกมันจับจ้องมาพร้อมกับอาการสั่นระริก.
"ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้? แล้วเลโอ, ผู้ซึ่งมีฉายากัปนาทแดนเหนือ, ถูกคนอย่างแกจัดการไปแล้วรึ? "
"ข้าก็ไม่รู้หรอกนะว่ากัมปนาทแดนเหนือคือใคร, แต่ถ้าพูดถึงไอ้เด็กอัศวินอ่อนหัดนั่นล่ะก็, หมูชะมัด. ตัวต่อตัว, ไม่มีใครมาเอี่ยว, หมอนั่นตาย, แต่ข้ายังสบายดี. อุวะฮ่าฮ่า!"
"นี่แก!!"
อัศวินทั้งสี่มีสีหน้าแย่ลงทันทีที่รู้ว่าพวกพ้องของตนต้องเสียท่า. แถมกริดในตอนนี้ก็ยังไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยสักนิด. ราวกับว่าการล้มอัศวินเป็นเพียงเรื่องกล้วยๆ สำหรับเขา.
"อา, จงโกรธกันเข้าไป, โมโหกันเข้าไป. แต่พวกแกจะทำอะไรข้าได้ล่ะ? มีน้ำยารึเปล่า?"
"อึก!"
พวกอัศวินสะดุ้งเล็กน้อย. บางทีกริดอาจสังหารเลโอไปแล้วจริงๆ ก็ได้. ในตอนแรกพวกมันประมาทเพราะท่าทีของกริดเหมือนกับขยะมูลฝอย, แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นหรอกรึ?
ยูเฟอมิน่ารู้สึกชื่นชมกริดจากใจจริง. เพราะเมื่อเพียงแค่กริดเอ่ยปากพูด, เหล่าอัศวินทั้งสี่ก็ต่างผงะถอยหลังทันที.
'แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำ... ก็ทำให้อัศวินกลัวได้แล้วรึ? นี่เขาเลเวลเท่าไรกันแน่เนี่ย?'
ตามปรกติ, มอนสเตอร์และเอ็นพีซีศัตรูจะมีท่าทีหวาดกลัวต่อผู้เล่นที่เลเวลสูงกว่าตนเกิน 30 เลเวล. จึงช่วยไม่ได้ที่ยูเฟอมิน่าจะเข้าใจผิด, และคิดว่าเลเวลของกริดจะต้องมากกว่าเอ็นพีซีอัศวินเกิน 30 แน่.
ในขณะเดียวกัน, กริดก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอย, ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าไปหากลุ่มอัศวินอย่างเยือกเย็น. "เฮ้, พวกนายน่ะ, อยากจะตายเยี่ยงสุนัขข้างถนนแบบเลโอรึเปล่าล่ะ? ถ้าไม่, ตอนนี้ยังทันนะ. ข้าจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย."
"ไอ้หมอนี่!!" อัศวินคนหนึ่งเดือดดาลจนปรี่เข้ามาหวังจะทำร้ายกริด. แต่อัศวินอีกคนกลับห้ามไว้ก่อน.
"อย่าไปหลงคำยั่วยุของมันเด็ดขาด! ข้ารู้ว่าแกแข็งแกร่งขนาดไหน, แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะต้องสู้ตัวต่อตัว. บางทีอาจเป็นกับดักก็ได้."
"แกจะกังวลมากเกินไปแล้ว! ลองนึกดูให้ดีสิ. หมอนี่มันก็แค่ช่างตีเหล็ก! ช่างตีเหล็กจะไปทำไรได้วะ?"
"แต่เลโอก็ยังไม่กลับมาเลยนะ. ข้าก็ไม่รู้ว่ามันแกล้งวางท่ารึไม่, แต่มันไม่ใช่คนที่เราจะประมาทได้. "
"อึก...!"
ในขณะที่กริดยังคงเยื้องย่างเข้าไปหา, กลุ่มอัศวินต่างตึงเครียดเพราะต้องเค้นสมองมากเกินไป.
พวกมันจำต้องถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว, เมื่อกริดก้าวเท้าเข้าไปหาหนึ่งก้าว.
ฮิวรอยรู้สึกขนลุกซู่เมื่อได้เห็นกับตาว่ากริดกำลังทำให้กลุ่มอัศวินถอยหลังไปได้ด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว.
'ยอดไปเลย... ถึงแม้ภายนอกของกริดจะดูแปลกประหลาดไปสักนิด. แต่เขาจะต้องเป็นผู้เล่นเลเวลสูงที่สามารถทำให้เหล่าอัศวินสั่นกลัวเพียงแค่จ้องตา. วันก่อนที่เราได้พบเขาและคิดว่าคงเป็นเพียงนักเล่นตลกคนหนึ่ง, ตัวเรานี่ช่างมีตาหามีแววไม่.'
ทั้งยูเฟอมิน่าและฮิวรอยต่างก็เข้าใจในตัวกริดผิดไป. แต่ในขณะที่พวกเขากำลังคิดเช่นนั้น, กริดกลับแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา.
'ด้วยทักษะของยูเฟอมิน่า, อัศวินกระจอกพวกนี้คงไม่ใช่เรื่องยากหรอกมั้ง?'
ใช่แล้ว. การที่กริดมั่นใจจนเกินตัวแบบนี้ก็เป็นเพราะว่า, ฝั่งของเขานั้นมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ายูเฟอมิน่าอยู่. กริดมั่นใจเป็นอย่างมากว่ายูเฟอมิน่าจะสามารถจัดการกับอัศวินพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย.
ตุบ... ตุบ...
กริดยังคงเยื้องย่างต่อไป, ในขณะที่อัศวินทั้งสี่ต่างเอาแต่ก้าวถอยหลังอย่างตื่นตระหนก. ในที่สุดกลุ่มอัศวินก็ถูกกดดันจนต้องถอยมาจนสุดทางเดิน, โดยด้านหลังมีเพียงบันไดที่ใช้ขึ้นไปชั้น 2 เท่านั้น. เมื่อจนตรอก, พวกอัศวินก็ตัดสินใจทำบางอย่างขึ้น.
'พวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่? เราต่างก็เป็นอัศวินผู้มีเกียรติไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมถึงต้องสั่นกลัวต่อนักโทษแหกคุกด้วย? นี่ถือเป็นความอับยศสูงสุดในชีวิตข้า!'
'ถ้าหากปล่อยมันเอาไว้, ท่านลอร์ดจะต้องตกที่นั่งลำบากแน่. ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องขัดขวางพวกมันให้ได้, เพื่อท่านลอร์ดวินสตัน.'
'ถ้ามันจัดการเลโอได้จริง, แปลว่ามันจะต้องไม่ใช่ช่างตีเหล็กธรรมดาแน่. แต่ข้าก็ไม่หวั่นอะไรอีกแล้ว, หลังจากนี้เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี. ข้าจะไม่มีวันถอยหนีอีก.'
'นั่นเพราะเลโอสู้คนเดียวยังไงล่ะ, แต่พวกเรามีสี่. เราทำได้แน่.'
พวกอัศวินไม่คิดถอยหนีอีก, ทำให้กริดเองก็ต้องชะงักฝีเท้าเช่นกัน.
"หืม? คิดสู้งั้นรี? ไม่เสียดายชีวิตแล้วรึไง?"
อัศวินทั้งสี่กำดาบในมือแน่น, คนหนึ่งพลันตะโกนขึ้นว่า. "พวกเราจะสู้จนตัวตาย! เราจะไม่มีวันปล่อยให้อาชญากรอย่างพวกแกหลบหนีเด็ดขาด!"
"...ข้าไม่ใช่อาขญากร. เจ้าพวกโง่."
กริดเริ่มหัวเสีย. เพราะตัวเขาถูกปรักปรำโดยไม่มีมูลความจริงมาตั้งแต่แรก. แถมเกือบจะได้รับรางวัลสำเร็จภารกิจในการแข่งตีเหล็กอยู่แล้ว. แต่กลับต้องถูกจับตัวมาอย่างไม่เป็นธรรมเสียก่อน.
กริดตะโกนออกไปอย่างเดือดดาล. "ยูเฟอมิน่า! แสดงให้พวกมันเห็นไปเลยว่าเธอเก่งแค่ไหน! จัดการพวกมันซะ!"
ยูเฟอมิน่าแสดงสีหน้าตกตะลึงในทันที. "ตอนนี้เนี่ยนะ?... มันออกจะ... แล้วทำไมนายถึงไม่จัดการด้วยตัวเอง?"
"อะไรนะ? ชั้นจะไปทำแบบนั้นได้ไงเล่า."
"เลิกทำเป็นตลกได้แล้วน่า. นายจัดการพวกมันเองไม่ได้รึไง?"
"เธอกำลังพูดเรื่องอะไร? คนที่ต้องสู้คือเธอตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่รึ? ไม่ใช่ชั้น."
"แล้วทำไมนายถึงไม่คิดจะสู้ซักที?"
กริดอธิบายยูเฟอมิน่าออกไปอย่างไม่มีทางเลือก. "ชั้นเอาชนะพวกมันไม่ได้."
"ไม่ต้องมาโกหกเลย. นายสามารถจัดการกับกัมปนาทแดนเหนือได้ด้วยตัวคนเดียวเลยนะ!"
"ไม่, นั่นมัน..."
บทสนทนาอันแปลกประหลาดได้ทำให้สีหน้าของทั้งกริดและยูเฟอมิน่าตึงเครียด. ในขณะเดียวกัน, อัศวินทั้งสี่ก็พุ่งจู่โจมเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต.
"...ชิ!"
ประหนึ่งเป็นการเคลื่อนย้ายตำแหน่งในพริบตา. อัศวินนาม 'รูเพิร์ต' ใช้ทักษะ 'พุ่ง' ซึ่งเป็นทักษะเด่นประจำตัว. เขาสามารถหายตัวมาโผล่ที่ด้านข้างกริดได้อย่างรวดเร็ว. ดาบอันแหลมคมถูกแทงเข้ามาหมายจะเสียบกริดให้ตายคาที. กริดที่ไม่ทันตั้งตัวมีหรือจะหลบพ้น. ในขณะที่ดาบของรูเพิร์ตกำลังจะเฉือนเข้าไปในผิวหนังของชายหนุ่ม, ฮิวรอยได้ผลักกริดจนกระเด็นออกมาและรับการโจมตีนั้นไว้แทน.
"......!"
ใครๆ ต่างก็คิดว่าฮิวรอยคงไม่รอดแน่. สภาพของเขาดูโทรมและไร้เรี่ยวแรงใดๆ, แถมยังไม่มีชุดเกราะคอยป้องกันลำตัวด้วย. ทว่า, สิ่งที่น่าประหลาดกลับเกิดขึ้น.
"นี่มันอะไรกัน...? อั่กกก!!"
รูเพิร์ตตกตะลึงอย่างสุดขีด, ดวงตาเบิกโพลง, นัยน์ตาหดลีบลง. เป็นเพราะดาบของเขาที่ควรจะเสียบเข้าไปที่ช่วงท้องของเป้าหมายกลับหยุดชะงักลงอย่างไร้สาเหตุ. ให้ความรู้สึกเดียวกันกับการแทงใส่แผ่นเหล็ก. กระดูกข้อมือของรูเพิร์ตแตกละเอียดทันที. แต่กลับกัน, เป็นฮิวรอยเสียเองที่ยังสบายดีอยู่. ผู้ที่เป็นฝ่ายโจมตีต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส, แต่ผู้ที่ถูกโจมตีกลับไม่เป็นอะไรเลย.
ยูเฟอมิน่าถามขึ้นอย่างสับสน. "เขาเป็นใครกันแน่? ทำไมการโจมตีของอัศวินจึงไม่สามารถเสียบเข้าไปในร่างได้?"
กริดเองก็จนปัญญา. "...ชั้นก็ไม่รู้..."
"ทำไมถึงได้ตอบอย่างไร้เยื่อใยแบบนี้ล่ะ? นายวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อช่วยคนที่นายไม่รู้จักออกมารึไง? เลิกเล่นตลกแล้วตอบมาตามความเป็นจริงสักครั้งจะได้ไหม?"
"ไม่... ครั้งนี้ชั้นไม่รู้จริงๆ..."
ผู้เล่นคลาสนักสู้ระดับสูงจะมีทักษะการป้องกันตัวชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า 'กายาเหล็กไหล'. แต่ถึงแม้จะเป็นกายาเหล็กไหลของผู้เล่นติดอันดับ, ก็ไม่มีทางที่จะหยุดดาบของอัศวินที่มีเลเวลขั้นต่ำ 180 โดยที่ไม่เกิดบาดแผลได้. เห็นได้ชัดว่าทักษะที่ฮิวรอยใช้เมื่อครู่, จะต้องอยู่เหนือกว่าทักษะป้องกันตัวของคลาสนักสู้ขึ้นไปอีกแน่.
ท่ามกลางความเงียบสงัด, ฮิวรอยได้พูดขึ้นว่า. "ผมจะถ่วงเวลาพวกมันไว้ให้เอง. พวกคุณสองคนรีบฉวยโอกาสนี้หนีไปซะ!"
สาเหตุที่ฮิวรอยสามารถหยุดดาบของอัศวินไว้ได้ด้วยร่างกาย. ต้องขอบคุณทักษะใหม่ที่ได้รับมาจากสมญานาม 'ผู้ที่ก้าวข้ามผ่านความยากลำบาก.'
แม้จะมีระยะหลังใช้ที่นานถึงสองชั่วโมงครึ่ง, แต่ความยอดเยี่ยมของมันก็สามารถพูดออกมาได้อย่างเต็มปาก. มันคือทักษะอันแสนล้ำค่า, ที่เขาได้รับจากการอดทนข้ามผ่านขุมนรกอันยาวนานมาได้. และกริดคือคนที่ปลดปล่อยเขาจากขุมนรกนั้น. ฮิวรอยจึงให้สัตย์สาบานไว้แล้วว่าจะตามรับใช้กริดไปชั่วชีวิต.
การเสียสละตนเองในครั้งนี้ก็เพื่อให้กริดหนีรอดไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย.
"ฮิวรอย..." ถ้าหากยังมีความเป็นคนอยู่บ้าง, การที่พวกพ้องต้องเสียสละชีวิตเพื่อให้คนที่เหลือหนีรอด, เป็นใครก็ต้องหยุดชะงักและเกิดความลังเลขึ้นในหัวใจทั้งนั้น.
แต่กริดไม่ใช่.
"นายจะต้องยื้อพวกมันไว้ให้ได้นานที่สุด, เพื่อที่เราสองคนจะได้หนีรอดไปได้, เข้าใจมั้ย!"
"แล้วพบกันอีกนะ."
ทั้งกริดและยูเฟอนิม่าต่างไม่ใช่พวกที่มีนิสัยอาลัยอาวรณ์ทั้งคู่. ทั้งสองรีบฉวยโอกาสนี้หนีขึ้นไปอย่างรวดเร็วโดยทิ้งให้ฮิวรอยต้องเผชิญหน้ากับอัศวินตามลำพัง.
"นี่มัน...!"
อัศวินที่กำลังจะไล่ตามกริดไปได้ถูกฮิวรอยขวางทางเอาไว้. หลังจากนั้นเขาก็เปิดปากขึ้นด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่นโดยหวังจะช่วยกริดให้ได้.
"ข้าไม่มีทางปล่อยให้พวกแกผ่านไปได้เด็ดขาด, ไอพวกสวะ#*&!($#@. ไอ้สาระเลว!@$#"
"......?"
ฮิวรอยเป็นคลาสนักพูด, ดังนั้น, ถ้อยคำที่ไม่สามารถเขียนออกอากาศได้จึงพรั่งพรูออกมาจากปากมากมาย. อัศวินทั้งสี่ได้รับบาดเจ็บทางจิตใจอย่างรุนแรงจากคำพูดเหล่านั้น. นับเป็นวาจาต่อว่าอย่างรุนแรงชนิดที่พวกมันไม่เคยได้ยินมาก่อน.
นี่คือทักษะ 'วาจาอาฆาต', ไม้ตายก้นหีบของฮิวรอย. ในขณะที่พวกอัศวินกำลังตกอยู่ในสถานะสับสน, และค่าสถานะต่างๆ กำลังลดลง, ฮิวรอยจึงฉวยโอกาสนี้โจมตีซ้ำเข้าไปอีกครั้ง.
"ความยุติธรรมที่ไม่เสื่อมคลาย!"
นี่คือ 1 ใน 2 ทักษะที่ได้รับมาจากคลาสรอง, สหายของสาวกแห่งความเที่ยงธรรม. เป็นการโจมตีอันรุนแรงที่จะสร้างความเสียหายถึง 300% ของพลังโจมตี.
เปรี้ยงงงง!!
หมัดของฮิวรอยกระแทกใส่ใบหน้าอัศวินรูเพิร์ตเข้าอย่างจัง, แรงสั่นสะเทือนอันรุนแรงจากการชกได้แผ่พุ่งออกไปสัมผัสเข้ากับอัศวินอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังรูเพิร์ต. เสียงของกำปั้นปะทะกับใบหน้าได้ดังกึงก้องไปทั่วทั้งคุกใต้ดิน, ส่งผลให้กลุ่มอัศวินมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างอัตโนมัติทันที, พวกมันร้องตะโกนออกมาราวกับเจ็บปวดเจียนตาย.
"โอ้ย!"
แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติเท่านั้น.
"...เอ๋?"
รูเพิร์ตไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย. ก็แน่ล่ะ, เดิมทีคลาสนักพูดก็ไม่ได้มีพละกำลังมากอยู่แล้ว. แถมฮิวรอยในตอนนี้เองก็ไม่ได้ถืออาวุธใดอยู่ในมือ. พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นถึง 300% จึงไม่เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายให้กับอัศวินเกราะเหล็กได้. มันต่างชั้นกันเกินไป.
ฮิวรอยยอมรับผลการโจมตีอย่างใจเย็น. "กะแล้วเชียว, ตัวเราในตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะใช้มันออกมา."
"......"
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ, ฮิวรอยก็ถูกอัศวินจับตัวไปแยกขังเดี่ยวอีกครั้ง. แต่คราวนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว. ไม่มีภารกิจที่ห้ามล็อคเอ้าท์ออกจากเกม 50 ชั่วโมงอยู่อีกต่อไป. ดังนั้นฮิวรอยจึงรีบล็อคเอ้าท์ออกจากเกมและไปพักผ่อนทันที.
ในเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นไปแล้ว, การล็อคเอ้าท์ออกมาจึงทำได้อย่างอิสระ.
'จากสถานการณ์ในตอนนี้, อีกไม่นานลอร์ดแห่งวินสตันก็คงจะถูกจับ. และหลังจากนั้นเราก็จะถูกปล่อยตัวออกจากคุก. กว่าจะถึงตอนนั้น, เรายังมีเวลาอีกมากในการจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนที่จะกลับเข้าเกมไปใหม่อีกครั้ง.
'กริด, ผมหวังว่าคุณจะมีโชคในการหลบหนีครั้งนี้นะ.'
ฮิวรอยล็อคเอ้าท์ออกจากเกม.
คลาสนี้นับว่าเชี่ยวชาญในการต่อสู้เป็นพิเศษ. โดยสามารถนำทักษะชั้นยอดของคลาสอื่นมาผสมผสานกันจนไร้จุดอ่อน. เป็นคลาสที่สามารถล้มมอนสเตอร์บอสได้ด้วยตัวคนเดียว, ถ้าหากมีการเตรียมการมามากพอ. และยังสามารถปรับเปลี่ยนไปเป็นคลาสสายนักฆ่าได้ด้วยถ้าต้องการ. ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง, หรือแบบกองทัพ. นักคัดลอกถึงถูกจัดให้เป็นคลาสใกล้เคียงกับคำว่า 'แข็งแกร่งที่สุด'.
ทว่า, ทุกอย่างย่อมมีจุดอ่อนของมัน, นักคัดลอกก็เช่นกัน.
ประการแรก, ในหนึ่งวันสามารถคัดลอกทักษะได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น. ประการที่สอง, ทักษะที่คัดลอกมาสามารถใช้เพียงแค่ครั้งเดียว. ประการที่สาม, ทักษะประจำตัวจริงๆ ของคลาสมีเพียงแค่ 9 ทักษะเท่านั้น, โดยไม่มีทักษะใดเลยที่เป็นทักษะสำหรับการต่อสู้. ประการที่สี่, พลังทางกายภาพอ่อนแอเฉกเช่นเดียวกับคลาสนักเวทย์อื่น.
ในอีกความหมายหนึ่ง, ยูเฟอมิน่าจะแข็งแกร่งสุดๆ ถ้าหากมีทักษะในมือเป็นจำนวนมาก. ตรงกันข้าม, ถ้าหากทักษะที่คัดลอกมาหมดลง, เธอก็จะกลายเป็นคนที่อ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน. และในตอนนี้, ยูเฟอมิน่าก็กำลังอยู่ในโหมดอ่อนแอที่สุดของเธอ.
"จบสิ้นแล้ว..." ยูเฟอมิน่าตัดพ้อด้วยใบหน้าที่ขาวซีดราวกับกระดาษ.
กริดหนีลงไปทางชั้น 4, โดยทิ้งให้เธอต้องรับมือกับฝูงทหารที่ไม่มีวันหมดตามลำพัง. โดยแม้จะสังหารไปหลายร้อยนายแล้ว, แต่พวกมันก็ไม่มีทีท่าจะลดลงเลยสักนิด, แถมเป็นทักษะของเธอเสียเองที่ลดลงไปเรื่อยๆ. จนตอนนี้เหลือเพียงแค่เวทย์ไฟจำนวน 3 ชนิดเท่านั้น. และการใช้เวทย์ไฟในห้องที่ฝุ่นเยอะขนาดนี้คงเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดนัก.
เท่านั้นยังแย่ไม่พอ, ในตอนนี้, อัศวินจำนวน 4 คนกำลังยืนล้อมกรอบเธอเอาไว้จากทุกทาง.
"เราเสร็จแน่..."
ไม่มีวี่แววว่ากริดจะกลับมาช่วยแม้แต่น้อย. แถมเมื่อครู่ยังมีเสียงระเบิดดังอึกทึกที่ชั้นล่างจนได้ยินมาถึงที่นี่, บางที, กริดอาจม่องเท่งไปแล้วก็ได้.
'หรือถ้าหากหมอนั่นยังไม่ตายและช่วยฮิวรอยออกมาได้สำเร็จ. จะมีอะไรรับประกันได้บ้างว่าเจ้าบ้านั่นจะย้อนกลับมาช่วยเรา?'
กริดอาจจะหนีออกไปข้างนอกเรียบร้อยแล้วก็ได้... อัศวินทั้ง 4 คนกำลังชี้ปลายดาบอันแหลมคมมายังร่างของยูเฟอมิน่า. โดยในตอนนี้, เธอไม่ได้คิดขยับเขยื้อนหรือตอบโต้แม้แต่นิดเดียว, ราวกับดวงวิญญานไม่อยู่กับตัวอีกต่อไปแล้ว.
"เธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ, สามารถจัดการกับทหารได้มากเกินกว่า 500 นายเพียงลำพัง. ไม่ทราบว่า, เธอมีสมญานามเป็นสุดยอดจอมเวทย์ใช่รึเปล่า?"
โชคยังดีที่พวกอัศวินยังไม่กล้าผลีผลามลงมือกับยูเฟอมิน่า. เพราะเธอนั้นฆ่าทหารไปเป็นจำนวนมาก, จึงไม่แปลกที่พวกอัศวินจะรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง. ทว่า, สถานการณ์เช่นนี้คงยื้อเอาไว้ได้อีกไม่นาน.
"กองกำลังของเราเหลือเพียงแค่ทหารองครักษ์ของลอร์ดวินสตันแล้ว. บางทีกริดมันอาจใช้จังหวะนี้หลบหนีไป, เพราะตอนนี้คนของเราไม่พอที่จะปิดทางเข้าออกทุกทาง. และพวกเรา 4 อัศวินก็ต้องคอยรับมือเธอด้วย."
"จะเป็นแบบนั้นได้ไงเล่า? เลโอมันลงไปชั้น 4 เพื่อจัดการด้วยตัวเองเลยไม่ใช่รึไง? ตอนนี้มันคงยิ้มกริ่มอย่างมีความสุขอยู่, ที่ได้เชือดเจ้ากริดนั่นด้วยมือของตัวเอง."
"การต่อสู้ครั้งนี้มีความปลอดภัยของท่านลอร์ดเป็นเดิมพัน. พวกเราจะมองข้ามความเป็นไปได้เล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เด็ดขาด."
"ก็ได้... งั้นก็รีบจัดการหล่อนกันเถอะ. ถึงแม้จะต้องเสียเกียรติของอัศวินไปบ้าง, แต่พวกเราจำเป็นต้องสู้แบบ 4 รุม 1."
อัศวินทั้ง 4 พุ่งเข้าจู่โจมยูเฟอฟิน่าอย่างพร้อมเพรียงกัน. เธอจำเป็นต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายออกมาอย่างไม่มีทางเลือก.
'ชั้นจะตายแบบนี้ไม่ได้.'
ยูเฟอมิน่าตัดสินใจควักลูกเต๋าสีทองมาถือในมือ. มันคือลูกเต๋าที่ได้รับมาเมื่อครั้งชนะการแข่งสร้างไอเท็มกับกริด.
[ ทักษะทอยลูกเต๋า ]
ทำการทอยลูกเต๋าเพื่อเสี่ยงดวงกับเป้าหมาย. เอฟเฟคจะขึ้นอยู่กับตัวเลขที่ทอยได้.
* ถ้าเป้าหมายคือตนเองหรือพันธมิตร : หากทอยได้ตั้งแต่ 4 แต้มขึ้นไป, จะเกิดสถานะเสริมพลังสุ่มให้กับตัวละคร. แต่กลับกัน, ถ้าหากทอยได้ตั้งแต่ 3 แต้มลงมา, จะเกิดสถานะผิดปรกติขึ้นกับตัวละครดังกล่าว.
* ถ้าเป้าหมายคือศัตรู : หากทอยได้ตั้งแต่ 4 แต้มขึ้นไป, จะเกิดสถานะผิดปรกติขึ้นกับเป้าหมาย. แต่กลับกัน, ถ้าหากทอยได้ตั้งแต่ 3 แต้มลงมา, จะเกิดสถานะเสริมพลังสุ่มให้กับตัวละครศัตรู.
ใช้มานา : 1,000 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 3,000 วินาที ( 50 นาที )
แต่ถ้าทอยไปแล้วเกิดสถานการณ์แย่ลงล่ะ?
'ถ้าเข้าตาจนล่ะก็, คงต้องใช้เวทย์ไฟอย่างเลี่ยงไม่ได้.'
แต่เธอก็ไม่คิดจะตายตามลำพัง, ก่อนตาย, เธอหมายจะลากอัศวินทั้ง 4 ให้ลงนรกไปพร้อมกันกับเธอด้วย. ยูเฟอมิน่าตัดพ้อเล็กน้อยเมื่อไม่เห็นวี่แววว่ากริดจะกลับมา. ถ้าเธอต้องตายไปจริง, ถึงจะยังไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับกริดดี, แต่เธอจะต้องให้หมอนั่นชดใช้อย่างสาสมแน่นอน.
ทันใดนั้นเอง...
"เป็นถึงอัศวินแต่กลับรุมทำร้ายคนที่อ่อนแอ... ไม่สิ, ถึงจะไม่ใกล้เคียงกับคำว่าอ่อนแอเท่าใดนัก. แต่พวกแกมันก็ไม่ต่างอะไรกับหมาหมู่อยู่ดี!"
"กะ--กริด?"
ยูเฟอมิน่ากับอัศวินทั้งสี่รีบหันไปมองทางต้นเสียงทันที. เป็นกริดและฮิวรอยที่ถูกช่วยออกมากำลังยืนอยู่ข้างกัน.
"อา..."
ดวงตาของยูเฟอมิน่าเปล่งประกายทันทีที่เห็นกริดปรากฏตัว. ในตอนแรกเธอคิดว่ากริดนั้นเป็นเพียงขยะมูลฝอยที่ไม่รู้จักบุญคุณ, แต่ความจริงแล้วหมอนั่นก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น. อย่างน้อยก็ยังกลับมาตามที่ได้ให้สัญญาไว้.
'น่ารักจังแฮะ.'
รอยยิ้มของยูเฟอมิน่าเป็นราวกับดอกไม้บานสะพรั่ง. กริดจึงอดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นระรัว.
'ไม่ได้, ห้ามถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเด็ดขาด. หล่อนก็แค่กุหลาบพิษที่งดงามแค่ภายนอกเท่านั้น! อย่าไปหลงกลเข้าสิ, หัวใจของเรา!'
กลุ่มอัศวินทั้งสี่ไม่มีทางเก็บอาการอยู่เมื่อได้เห็นการปรากฏตัวของกริด. ดวงตาของพวกมันจับจ้องมาพร้อมกับอาการสั่นระริก.
"ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้? แล้วเลโอ, ผู้ซึ่งมีฉายากัปนาทแดนเหนือ, ถูกคนอย่างแกจัดการไปแล้วรึ? "
"ข้าก็ไม่รู้หรอกนะว่ากัมปนาทแดนเหนือคือใคร, แต่ถ้าพูดถึงไอ้เด็กอัศวินอ่อนหัดนั่นล่ะก็, หมูชะมัด. ตัวต่อตัว, ไม่มีใครมาเอี่ยว, หมอนั่นตาย, แต่ข้ายังสบายดี. อุวะฮ่าฮ่า!"
"นี่แก!!"
อัศวินทั้งสี่มีสีหน้าแย่ลงทันทีที่รู้ว่าพวกพ้องของตนต้องเสียท่า. แถมกริดในตอนนี้ก็ยังไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยสักนิด. ราวกับว่าการล้มอัศวินเป็นเพียงเรื่องกล้วยๆ สำหรับเขา.
"อา, จงโกรธกันเข้าไป, โมโหกันเข้าไป. แต่พวกแกจะทำอะไรข้าได้ล่ะ? มีน้ำยารึเปล่า?"
"อึก!"
พวกอัศวินสะดุ้งเล็กน้อย. บางทีกริดอาจสังหารเลโอไปแล้วจริงๆ ก็ได้. ในตอนแรกพวกมันประมาทเพราะท่าทีของกริดเหมือนกับขยะมูลฝอย, แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นหรอกรึ?
ยูเฟอมิน่ารู้สึกชื่นชมกริดจากใจจริง. เพราะเมื่อเพียงแค่กริดเอ่ยปากพูด, เหล่าอัศวินทั้งสี่ก็ต่างผงะถอยหลังทันที.
'แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำ... ก็ทำให้อัศวินกลัวได้แล้วรึ? นี่เขาเลเวลเท่าไรกันแน่เนี่ย?'
ตามปรกติ, มอนสเตอร์และเอ็นพีซีศัตรูจะมีท่าทีหวาดกลัวต่อผู้เล่นที่เลเวลสูงกว่าตนเกิน 30 เลเวล. จึงช่วยไม่ได้ที่ยูเฟอมิน่าจะเข้าใจผิด, และคิดว่าเลเวลของกริดจะต้องมากกว่าเอ็นพีซีอัศวินเกิน 30 แน่.
ในขณะเดียวกัน, กริดก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอย, ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าไปหากลุ่มอัศวินอย่างเยือกเย็น. "เฮ้, พวกนายน่ะ, อยากจะตายเยี่ยงสุนัขข้างถนนแบบเลโอรึเปล่าล่ะ? ถ้าไม่, ตอนนี้ยังทันนะ. ข้าจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย."
"ไอ้หมอนี่!!" อัศวินคนหนึ่งเดือดดาลจนปรี่เข้ามาหวังจะทำร้ายกริด. แต่อัศวินอีกคนกลับห้ามไว้ก่อน.
"อย่าไปหลงคำยั่วยุของมันเด็ดขาด! ข้ารู้ว่าแกแข็งแกร่งขนาดไหน, แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะต้องสู้ตัวต่อตัว. บางทีอาจเป็นกับดักก็ได้."
"แกจะกังวลมากเกินไปแล้ว! ลองนึกดูให้ดีสิ. หมอนี่มันก็แค่ช่างตีเหล็ก! ช่างตีเหล็กจะไปทำไรได้วะ?"
"แต่เลโอก็ยังไม่กลับมาเลยนะ. ข้าก็ไม่รู้ว่ามันแกล้งวางท่ารึไม่, แต่มันไม่ใช่คนที่เราจะประมาทได้. "
"อึก...!"
ในขณะที่กริดยังคงเยื้องย่างเข้าไปหา, กลุ่มอัศวินต่างตึงเครียดเพราะต้องเค้นสมองมากเกินไป.
พวกมันจำต้องถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว, เมื่อกริดก้าวเท้าเข้าไปหาหนึ่งก้าว.
ฮิวรอยรู้สึกขนลุกซู่เมื่อได้เห็นกับตาว่ากริดกำลังทำให้กลุ่มอัศวินถอยหลังไปได้ด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว.
'ยอดไปเลย... ถึงแม้ภายนอกของกริดจะดูแปลกประหลาดไปสักนิด. แต่เขาจะต้องเป็นผู้เล่นเลเวลสูงที่สามารถทำให้เหล่าอัศวินสั่นกลัวเพียงแค่จ้องตา. วันก่อนที่เราได้พบเขาและคิดว่าคงเป็นเพียงนักเล่นตลกคนหนึ่ง, ตัวเรานี่ช่างมีตาหามีแววไม่.'
ทั้งยูเฟอมิน่าและฮิวรอยต่างก็เข้าใจในตัวกริดผิดไป. แต่ในขณะที่พวกเขากำลังคิดเช่นนั้น, กริดกลับแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา.
'ด้วยทักษะของยูเฟอมิน่า, อัศวินกระจอกพวกนี้คงไม่ใช่เรื่องยากหรอกมั้ง?'
ใช่แล้ว. การที่กริดมั่นใจจนเกินตัวแบบนี้ก็เป็นเพราะว่า, ฝั่งของเขานั้นมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ายูเฟอมิน่าอยู่. กริดมั่นใจเป็นอย่างมากว่ายูเฟอมิน่าจะสามารถจัดการกับอัศวินพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย.
ตุบ... ตุบ...
กริดยังคงเยื้องย่างต่อไป, ในขณะที่อัศวินทั้งสี่ต่างเอาแต่ก้าวถอยหลังอย่างตื่นตระหนก. ในที่สุดกลุ่มอัศวินก็ถูกกดดันจนต้องถอยมาจนสุดทางเดิน, โดยด้านหลังมีเพียงบันไดที่ใช้ขึ้นไปชั้น 2 เท่านั้น. เมื่อจนตรอก, พวกอัศวินก็ตัดสินใจทำบางอย่างขึ้น.
'พวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่? เราต่างก็เป็นอัศวินผู้มีเกียรติไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมถึงต้องสั่นกลัวต่อนักโทษแหกคุกด้วย? นี่ถือเป็นความอับยศสูงสุดในชีวิตข้า!'
'ถ้าหากปล่อยมันเอาไว้, ท่านลอร์ดจะต้องตกที่นั่งลำบากแน่. ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องขัดขวางพวกมันให้ได้, เพื่อท่านลอร์ดวินสตัน.'
'ถ้ามันจัดการเลโอได้จริง, แปลว่ามันจะต้องไม่ใช่ช่างตีเหล็กธรรมดาแน่. แต่ข้าก็ไม่หวั่นอะไรอีกแล้ว, หลังจากนี้เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี. ข้าจะไม่มีวันถอยหนีอีก.'
'นั่นเพราะเลโอสู้คนเดียวยังไงล่ะ, แต่พวกเรามีสี่. เราทำได้แน่.'
พวกอัศวินไม่คิดถอยหนีอีก, ทำให้กริดเองก็ต้องชะงักฝีเท้าเช่นกัน.
"หืม? คิดสู้งั้นรี? ไม่เสียดายชีวิตแล้วรึไง?"
อัศวินทั้งสี่กำดาบในมือแน่น, คนหนึ่งพลันตะโกนขึ้นว่า. "พวกเราจะสู้จนตัวตาย! เราจะไม่มีวันปล่อยให้อาชญากรอย่างพวกแกหลบหนีเด็ดขาด!"
"...ข้าไม่ใช่อาขญากร. เจ้าพวกโง่."
กริดเริ่มหัวเสีย. เพราะตัวเขาถูกปรักปรำโดยไม่มีมูลความจริงมาตั้งแต่แรก. แถมเกือบจะได้รับรางวัลสำเร็จภารกิจในการแข่งตีเหล็กอยู่แล้ว. แต่กลับต้องถูกจับตัวมาอย่างไม่เป็นธรรมเสียก่อน.
กริดตะโกนออกไปอย่างเดือดดาล. "ยูเฟอมิน่า! แสดงให้พวกมันเห็นไปเลยว่าเธอเก่งแค่ไหน! จัดการพวกมันซะ!"
ยูเฟอมิน่าแสดงสีหน้าตกตะลึงในทันที. "ตอนนี้เนี่ยนะ?... มันออกจะ... แล้วทำไมนายถึงไม่จัดการด้วยตัวเอง?"
"อะไรนะ? ชั้นจะไปทำแบบนั้นได้ไงเล่า."
"เลิกทำเป็นตลกได้แล้วน่า. นายจัดการพวกมันเองไม่ได้รึไง?"
"เธอกำลังพูดเรื่องอะไร? คนที่ต้องสู้คือเธอตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่รึ? ไม่ใช่ชั้น."
"แล้วทำไมนายถึงไม่คิดจะสู้ซักที?"
กริดอธิบายยูเฟอมิน่าออกไปอย่างไม่มีทางเลือก. "ชั้นเอาชนะพวกมันไม่ได้."
"ไม่ต้องมาโกหกเลย. นายสามารถจัดการกับกัมปนาทแดนเหนือได้ด้วยตัวคนเดียวเลยนะ!"
"ไม่, นั่นมัน..."
บทสนทนาอันแปลกประหลาดได้ทำให้สีหน้าของทั้งกริดและยูเฟอมิน่าตึงเครียด. ในขณะเดียวกัน, อัศวินทั้งสี่ก็พุ่งจู่โจมเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต.
"...ชิ!"
ประหนึ่งเป็นการเคลื่อนย้ายตำแหน่งในพริบตา. อัศวินนาม 'รูเพิร์ต' ใช้ทักษะ 'พุ่ง' ซึ่งเป็นทักษะเด่นประจำตัว. เขาสามารถหายตัวมาโผล่ที่ด้านข้างกริดได้อย่างรวดเร็ว. ดาบอันแหลมคมถูกแทงเข้ามาหมายจะเสียบกริดให้ตายคาที. กริดที่ไม่ทันตั้งตัวมีหรือจะหลบพ้น. ในขณะที่ดาบของรูเพิร์ตกำลังจะเฉือนเข้าไปในผิวหนังของชายหนุ่ม, ฮิวรอยได้ผลักกริดจนกระเด็นออกมาและรับการโจมตีนั้นไว้แทน.
"......!"
ใครๆ ต่างก็คิดว่าฮิวรอยคงไม่รอดแน่. สภาพของเขาดูโทรมและไร้เรี่ยวแรงใดๆ, แถมยังไม่มีชุดเกราะคอยป้องกันลำตัวด้วย. ทว่า, สิ่งที่น่าประหลาดกลับเกิดขึ้น.
"นี่มันอะไรกัน...? อั่กกก!!"
รูเพิร์ตตกตะลึงอย่างสุดขีด, ดวงตาเบิกโพลง, นัยน์ตาหดลีบลง. เป็นเพราะดาบของเขาที่ควรจะเสียบเข้าไปที่ช่วงท้องของเป้าหมายกลับหยุดชะงักลงอย่างไร้สาเหตุ. ให้ความรู้สึกเดียวกันกับการแทงใส่แผ่นเหล็ก. กระดูกข้อมือของรูเพิร์ตแตกละเอียดทันที. แต่กลับกัน, เป็นฮิวรอยเสียเองที่ยังสบายดีอยู่. ผู้ที่เป็นฝ่ายโจมตีต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส, แต่ผู้ที่ถูกโจมตีกลับไม่เป็นอะไรเลย.
ยูเฟอมิน่าถามขึ้นอย่างสับสน. "เขาเป็นใครกันแน่? ทำไมการโจมตีของอัศวินจึงไม่สามารถเสียบเข้าไปในร่างได้?"
กริดเองก็จนปัญญา. "...ชั้นก็ไม่รู้..."
"ทำไมถึงได้ตอบอย่างไร้เยื่อใยแบบนี้ล่ะ? นายวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อช่วยคนที่นายไม่รู้จักออกมารึไง? เลิกเล่นตลกแล้วตอบมาตามความเป็นจริงสักครั้งจะได้ไหม?"
"ไม่... ครั้งนี้ชั้นไม่รู้จริงๆ..."
ผู้เล่นคลาสนักสู้ระดับสูงจะมีทักษะการป้องกันตัวชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า 'กายาเหล็กไหล'. แต่ถึงแม้จะเป็นกายาเหล็กไหลของผู้เล่นติดอันดับ, ก็ไม่มีทางที่จะหยุดดาบของอัศวินที่มีเลเวลขั้นต่ำ 180 โดยที่ไม่เกิดบาดแผลได้. เห็นได้ชัดว่าทักษะที่ฮิวรอยใช้เมื่อครู่, จะต้องอยู่เหนือกว่าทักษะป้องกันตัวของคลาสนักสู้ขึ้นไปอีกแน่.
ท่ามกลางความเงียบสงัด, ฮิวรอยได้พูดขึ้นว่า. "ผมจะถ่วงเวลาพวกมันไว้ให้เอง. พวกคุณสองคนรีบฉวยโอกาสนี้หนีไปซะ!"
สาเหตุที่ฮิวรอยสามารถหยุดดาบของอัศวินไว้ได้ด้วยร่างกาย. ต้องขอบคุณทักษะใหม่ที่ได้รับมาจากสมญานาม 'ผู้ที่ก้าวข้ามผ่านความยากลำบาก.'
[ จิตวิญญานอันแข็งแกร่ง ]
ทนทานต่อทุกการโจมตีเป็นเวลา 10 วินาทีหลังใช้งาน.
ใช้มานา : 200 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 9,000 วินาที ( 2 ชั่วโมงครึ่ง )
แม้จะมีระยะหลังใช้ที่นานถึงสองชั่วโมงครึ่ง, แต่ความยอดเยี่ยมของมันก็สามารถพูดออกมาได้อย่างเต็มปาก. มันคือทักษะอันแสนล้ำค่า, ที่เขาได้รับจากการอดทนข้ามผ่านขุมนรกอันยาวนานมาได้. และกริดคือคนที่ปลดปล่อยเขาจากขุมนรกนั้น. ฮิวรอยจึงให้สัตย์สาบานไว้แล้วว่าจะตามรับใช้กริดไปชั่วชีวิต.
การเสียสละตนเองในครั้งนี้ก็เพื่อให้กริดหนีรอดไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย.
"ฮิวรอย..." ถ้าหากยังมีความเป็นคนอยู่บ้าง, การที่พวกพ้องต้องเสียสละชีวิตเพื่อให้คนที่เหลือหนีรอด, เป็นใครก็ต้องหยุดชะงักและเกิดความลังเลขึ้นในหัวใจทั้งนั้น.
แต่กริดไม่ใช่.
"นายจะต้องยื้อพวกมันไว้ให้ได้นานที่สุด, เพื่อที่เราสองคนจะได้หนีรอดไปได้, เข้าใจมั้ย!"
"แล้วพบกันอีกนะ."
ทั้งกริดและยูเฟอนิม่าต่างไม่ใช่พวกที่มีนิสัยอาลัยอาวรณ์ทั้งคู่. ทั้งสองรีบฉวยโอกาสนี้หนีขึ้นไปอย่างรวดเร็วโดยทิ้งให้ฮิวรอยต้องเผชิญหน้ากับอัศวินตามลำพัง.
"นี่มัน...!"
อัศวินที่กำลังจะไล่ตามกริดไปได้ถูกฮิวรอยขวางทางเอาไว้. หลังจากนั้นเขาก็เปิดปากขึ้นด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่นโดยหวังจะช่วยกริดให้ได้.
"ข้าไม่มีทางปล่อยให้พวกแกผ่านไปได้เด็ดขาด, ไอพวกสวะ#*&!($#@. ไอ้สาระเลว!@$#"
"......?"
ฮิวรอยเป็นคลาสนักพูด, ดังนั้น, ถ้อยคำที่ไม่สามารถเขียนออกอากาศได้จึงพรั่งพรูออกมาจากปากมากมาย. อัศวินทั้งสี่ได้รับบาดเจ็บทางจิตใจอย่างรุนแรงจากคำพูดเหล่านั้น. นับเป็นวาจาต่อว่าอย่างรุนแรงชนิดที่พวกมันไม่เคยได้ยินมาก่อน.
นี่คือทักษะ 'วาจาอาฆาต', ไม้ตายก้นหีบของฮิวรอย. ในขณะที่พวกอัศวินกำลังตกอยู่ในสถานะสับสน, และค่าสถานะต่างๆ กำลังลดลง, ฮิวรอยจึงฉวยโอกาสนี้โจมตีซ้ำเข้าไปอีกครั้ง.
"ความยุติธรรมที่ไม่เสื่อมคลาย!"
นี่คือ 1 ใน 2 ทักษะที่ได้รับมาจากคลาสรอง, สหายของสาวกแห่งความเที่ยงธรรม. เป็นการโจมตีอันรุนแรงที่จะสร้างความเสียหายถึง 300% ของพลังโจมตี.
เปรี้ยงงงง!!
หมัดของฮิวรอยกระแทกใส่ใบหน้าอัศวินรูเพิร์ตเข้าอย่างจัง, แรงสั่นสะเทือนอันรุนแรงจากการชกได้แผ่พุ่งออกไปสัมผัสเข้ากับอัศวินอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังรูเพิร์ต. เสียงของกำปั้นปะทะกับใบหน้าได้ดังกึงก้องไปทั่วทั้งคุกใต้ดิน, ส่งผลให้กลุ่มอัศวินมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างอัตโนมัติทันที, พวกมันร้องตะโกนออกมาราวกับเจ็บปวดเจียนตาย.
"โอ้ย!"
แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติเท่านั้น.
"...เอ๋?"
รูเพิร์ตไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย. ก็แน่ล่ะ, เดิมทีคลาสนักพูดก็ไม่ได้มีพละกำลังมากอยู่แล้ว. แถมฮิวรอยในตอนนี้เองก็ไม่ได้ถืออาวุธใดอยู่ในมือ. พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นถึง 300% จึงไม่เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายให้กับอัศวินเกราะเหล็กได้. มันต่างชั้นกันเกินไป.
ฮิวรอยยอมรับผลการโจมตีอย่างใจเย็น. "กะแล้วเชียว, ตัวเราในตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะใช้มันออกมา."
"......"
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ, ฮิวรอยก็ถูกอัศวินจับตัวไปแยกขังเดี่ยวอีกครั้ง. แต่คราวนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว. ไม่มีภารกิจที่ห้ามล็อคเอ้าท์ออกจากเกม 50 ชั่วโมงอยู่อีกต่อไป. ดังนั้นฮิวรอยจึงรีบล็อคเอ้าท์ออกจากเกมและไปพักผ่อนทันที.
ในเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นไปแล้ว, การล็อคเอ้าท์ออกมาจึงทำได้อย่างอิสระ.
'จากสถานการณ์ในตอนนี้, อีกไม่นานลอร์ดแห่งวินสตันก็คงจะถูกจับ. และหลังจากนั้นเราก็จะถูกปล่อยตัวออกจากคุก. กว่าจะถึงตอนนั้น, เรายังมีเวลาอีกมากในการจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนที่จะกลับเข้าเกมไปใหม่อีกครั้ง.
'กริด, ผมหวังว่าคุณจะมีโชคในการหลบหนีครั้งนี้นะ.'
ฮิวรอยล็อคเอ้าท์ออกจากเกม.
ถ้าไม่นับยูเฟอนิม่า กริดกับฮิวรอยนี่ตัวฮาชัดๆ
ReplyDeleteแต่ละตัวไม่มีใครจริงจังเลย5555
ReplyDeleteอะไรกันหว่า อะไรกันเหวย
ReplyDeleteนึกว่ากำลังอ่านลัคกี้แมน
สรุปรอดทุกคน
ReplyDeleteอาชีพไอ้ฮิวรอยนี่เป็นตุ ตุไม่เลือกหรอก ใครมันจะบ้าเล่นอาชีพนักพูด ถ้าสุ่มได้กุลบตัวทิ้งเลย ลบตัวไม่ได้กุเลิกเลยครับ ถ้าจะอนาถขนาดนี้
ReplyDeleteให้พ่องมึงอ่านเถอะอธิบายจนลำคาญหมดพระเอกก้ดวงหมาเกินไปละถ้าปกติคงฆ่าตัวตายไปนานละมั้งถึงมันจะสื่อไปทางที่ว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นแต่มันก้ไม่มีคนโง่ขนาดนี้หลออ่าสช่วงแรกๆก้ดีนะเห็นความพยายามแต่พอช่วงตอน25ชักจะพูดมากเกินไปอีกอย่างนะมันจะมีใครโง่ที่คิดดาบความผิดพลาดที่พระเอกที่มันคิดได้วะต้องดางใหญ่เท่านั้นนะโหไอสัสแค่จะใส่มึงยังใส่ไม่ได้เลยมึงยังจะสร้างอีกสมองเหมื่อนเด็กเฮ่อหมอยมากๆไม่เหมือนคนจะอายุ30มึงบ้าป่าวแต่ถ้ามึงบอกว่าอายุ60กว่าๆชื่อตู่กุยังดูแล้วมีความเป็นไปได้มากกว่าอีก
ReplyDelete