จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 59

       "ไอเท็มที่ถูกประมูลออกไปมีรายการดังนี้  ชิ้นแรก 'สร้อยคอฝังเพชรที่สวมแล้วให้ความรู้สึกแปลกใหม่' ของคุณผู้หญิงแคลรีซ ถูกประมูลไปด้วยราคา 453 เหรียญทอง ต่อไป 'ชุดเกราะชั้นในต้านทานความเย็น' ของคุณกรีซ ถูกประมูลไปด้วยราคา 189 เหรียญทอง ต่อไป 'โพชั่นพละกำลังสุดเจ๋งแต่มีรสขม' ของคุณพิกเล็ต ถูกประมูลไปในราคา 15 เหรียญทองต่อหนึ่งขวด ต่อไป 'ดาบยาวที่สอดประสานกับเวทย์มนต์ได้อย่างเป็นเลิศ' ของคุณสเต็ง ถูกประมูลไปในราคา 1,900 เหรียญทอง"

       เมื่อชื่อใครถูกประกาศ คนผู้นั้นย่อมส่งเสียงเชียร์ดีใจ

       แม้แต่สเต็งก็ไม่เว้น

       "ผลงานอาจารย์ถูกประมูลออกไปแล้ว! เขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ!"

       แถมตัวสเต็งเองก็ยังจะได้รับสูตรการผลิตชนิดใหม่ตอบแทนอีกด้วย เขาพยายามวิ่งเข้ามาหาเราเพื่อแสดงให้ร่วมแสดงความยินดี แต่ตัวเรานั้นกำลังมีอาการท้องไส้ปั่นป่วน ริมฝีปากมิอาจอ้าขยับได้แม้แต่น้อย

       'บ้าฉิบ ขายไม่ออกสินะ… รู้อย่างนี้ตั้งราคาให้ถูกลงซะก็ดี '

       ในระหว่างที่เรากำลังนึกเสียใจกับความโง่เง่าของตน

       "และสองรายการสุดท้ายจากคุณกริด 'เกราะเหล็กปราณีตบรรจง' ถูกประมูลไปในราคา 3,500 เหรียญทอง และ 'ถุงมือที่ไม่ธรรมดา' ถูกประมูลไปในราคา 2,000 เหรียญทอง "

       "...เอ๋?"

       เราแทบไม่เชื่อหูตนเอง…  เขาพูดว่า 3,500 เหรียญทองใช่ไหม?  

       ผู้คนต่างตกตะลึงสุดขีด
       
       "บ้าน่า…  ทำไมถึงได้แพงขนาดนั้น? "

       "ยอดเลย! สมแล้วที่เป็นไอเท็มเกรดอีปิก! แถมเลเวลยังสูงเกินกว่า 100 อีกด้วย..."

       สเต็งยืนจ้องมองเราด้วยสีหน้าอิจฉา "อาจารย์ของคุณจะต้องเป็นคนที่เยี่ยมยอดมากเลยสินะ! เขาจะต้องมีทักษะการผลิตของช่างตีเหล็กขั้นสูงด้วยใช่ไหม?  หือ?"

       "..."

       หูเราดับไปแล้ว ไม่ได้ยินอะไรอีกทั้งนั้น ในหัวมีแต่คำว่า 'เราจะรวย' และ 'แจ็คพอต' ล่องลอยอยู่เต็มไปหมด โดย 5,500 เหรียญทองนั้นจะเท่ากับ...

       '6,600,000 วอน...'       

       รายได้เทียบเท่ากับงานก่อสร้างรวมกัน 73 วันถูกหาได้ภายในอาทิตย์เดียวเท่านั้น แถมยังจากไอเท็มที่มีเกรดแค่อีปิกเพียง 2 ชิ้น

       "อะ...เอ่อ..."

       เรานึกอยากจะแสดงความดีใจออกไป แต่ดูเหมือขากรรไกรจะค้างเสียแล้ว ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ประมูลได้พูดแทรกขึ้นในระหว่างที่เรากำลังสติแตก

       "คุณกริด ท่านเทศมนตรีวินสตันต้องการจะพบคุณ รบกวนช่วยตามมาด้วย"

       สเต็งกล่าวคำแสดงความดีใจกับเราทันที "ว้าว! ยอดเลย หลังจากนี้คงได้ทำงานร่วมกับทางปราสาทแล้วล่ะ แล้วโรงตีเหล็กของคุณก็จะยุ่งวุ่นวายจนไม่ได้ทำงานอื่นเลย แถมเรื่องรายได้ก็หายห่วง จะต้องรวยไม่รู้เรื่องแน่นอน! ดีใจด้วย!"

       สเต็งนั้นแสดงความยินดีกับเราจากใจจริง ต่างจากตัวเราที่เมื่อได้เห็นสินค้าของเขาถูกประมูลออกไปก็ต้องมีสีหน้าเศร้าหมอง เด็กคนนี้คงมีอายุราวสิบกลางๆ เท่านั้น แต่กลับผูกมิตรกับผู้คนได้อย่างง่ายดาย เราชื่นชอบคนที่มีนิสัยเช่นนี้มาก วันใดที่ได้กลายเป็นเจ้าของโรงเหล็กเต็มตัว เราจะจ้างเขามาเป็นพนักงานอย่างแน่นอน เพราะเขาดูเหมือนพวกที่ ต่อให้เราจิกหัวใช้เยี่ยงทาสยังไงก็คงไม่ปริปากบ่น

       "ขอบคุณที่ร่วมแสดงความยินดี แล้วเจอกันนะ"

       เรากล่าวคำอำลาพร้อมยิ้มให้เขาเล็กน้อย โดยหวังว่าคงมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง แต่เมื่อสเต็งได้เห็นรอยยิ้มของเรากลับต้องหน้าซีด เขาผงะถอยหลังเบาๆ ก่อนจะตอบรับกลับมาว่า
       
       "อะ--โอเค แล้วเจอกัน"

       หลังจากอำลาจากสเต็งเราก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของเทศมนตรีเมืองวินสตัน เทศมนตรีคนดังกล่าวเป็นชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราสุดเจ๋งและรอยยิ้มอันอบอุ่น

       "โอ้ คุณคือกริดเองรึ!  ผลงานของคุณยอดเยี่ยมไร้ที่ติ ฉันเคยสงสัยว่าเหตุไฉนด้วยอายุเพียงเท่านี้ถึงสามารถกลายเป็นผู้สืบทอดต่อจากข่านได้ แต่ทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว! มา นั่งลงก่อน"       

       เรากับเทศมนตรีนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกัน สาวใช้พลันรีบเดินเข้ามารินชาทันที

       'หืม…  กลิ่นชาเอลปาที่นี่หอมจังแฮะ'

       ชาเอลปาที่ข่านรินให้เราทุกวันนั้นแทบไม่มีกลิ่นหอม ขนาดว่ายกแก้วขึ้นมาแนบชิดกับรูจมูกแล้วก็ตาม ทว่าชาที่นี่ต่างออกไป เป็นกลิ่นอันเข้มข้นที่อัดแน่นเข้ามาเตะจมูกเพียงแค่วางอยู่บนโตะ 

       'ใบชาแพงแน่นอน'

       จะมีโอกาสอีกเมื่อไรกันที่เราจะได้ดื่มชาแพงขนาดนี้? ไม่รอช้า เราบรรจงกรอกชาร้อนๆ เข้าปากด้วยความไวแสงและส่งแก้วเปล่ากลับคืนไปให้สาวใช้

       "ขออีกแก้ว"

       "ค่ะ"

       อึก อึก อึก

       "อีกแก้ว"
       
       "ค่ะ"

       "ฮ่าห์~~  อีกแก้ว"

       "...ค--ค่ะ" 

       เทศมนตรีถึงกับระเบิดหัวเราะออกมาในแก้วที่สี่ "ฮะฮะ! จากคำบอกเล่าของชาวเมือง ตัวตนของคุณเป็นดั่งวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่…  ผมจึงไม่แปลกใจเลยที่คุณไม่มีอาการประหม่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่มีตำแหน่งระดับสูง"

       ทำอะไรผิดรึไปเปล่านะ? เราชะงักไปเล็กน้อยพร้อมกับแสดงสีหน้าสงสัย แต่เหมือนเทศมนตรีจะอ่านใจออก เขาส่ายศีรษะเล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า

       "ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านเถอะ"

       "...ครับ"

       ดูเหมือนคนๆ นี้จะไม่ชอบพิธีรีตองมากนัก เขารีบพูดเข้าประเด็น "ฉันอยากจะให้คุณเป็นผู้สร้างยุทธภัณฑ์สำหรับอัศวินและทหารในสังกัดของท่านหญิงไอรีน คุณคิดว่ายังไงบ้าง? อยากทำธุรกิจกับเราไหม?"

       นั่นไง ในที่สุดก็ออกมาแล้ว ใจหนึ่งเราอยากจะตอบรับข้อเสนอซะเดี๋ยวนี้ แต่อีกใจก็ยั้งคิดเผื่อไว้สักเรื่องสองเรื่อง

       "ผมไม่ทราบว่าคุณรู้รึเปล่านะ  แต่ตอนนี้กิจการของโรงตีเหล็กข่านกำลังไปได้สวย งานของผมก็นับว่าไม่น้อย จึงไม่แน่ใจว่าจะมีเวลามากพอผลิตไอเท็มให้กับทั้งกองทัพไหม"

       เราไม่อยากเสียเวลานั่งผลิตไอเท็มให้กับทหารชั้นเลว เลเวลของพวกนั้นมีไม่สูง คงไม่แคล้วได้นั่งทำชุดเกราะเลเวล 50 ทั้งวันทั้งคืนแน่ เสียเวลาเกินไป

       'หลังจากเสร็จงานประมูลนี้ทำให้เราได้รู้ ยิ่งไอเท็มเลเวลสูงก็ยิ่งขายได้ราคาดี คงเป็นการฉลาดกว่าที่จะสร้างไอเท็มเลเวล 120 หนึ่งชิ้น แทนที่จะเสียเวลาไปสร้างไอเท็มเลเวล 50 เป็นโหลๆ'

       เทศมนตรีพยักหน้าเบาๆ

       "เข้าใจแล้ว เมื่อลองมานึกดู ฉันคงเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย หากดูจากความสุดยอดของไอเท็มแต่ละชิ้น คุณคงพิถีพิถันเป็นอย่างมากกว่าจะรังสรรค์ขึ้นมาได้ ฉันไม่ฉลาดเลยที่ไปขอให้คุณผลิตไอเท็มให้กับทหารเป็นพันๆ คน ถ้างั้นเอาอย่างนี้เป็นไง ขอเปลี่ยนข้อเสนอเล็กน้อย  ฉันต้องการให้คุณผลิตไอเท็มสำหรับอัศวินในสังกัดท่านหญิงไอรีน"

       "เข้าใจแล้ว"

       เรื่องราวดำเนินไปได้ด้วยดี แต่คำพูดหลังจากนั้นของเทศมนตรีได้ทำให้เราต้องอ้าปากค้าง "แต่ฉันมีเงื่อนไข ไอเท็มที่ผลิตขึ้นหลังจากนี้จะต้องดีกว่าหรือเท่ากับสองชิ้นที่คุณนำมาประมูล"

       "เห?"       

       ไอเท็มสองชิ้นที่นำมาประมูลในวันนี้ต่างมีเกรดอีปิกทั้งคู่ ในอีกความหมายหนึ่ง เทศมนตรีคนนี้ต้องการให้เราส่งมอบไอเท็มที่ยอดเยี่ยมกว่าหรือเท่ากับเกรดอีปิก

       'หมอนี่บ้าไปแล้วรึไง ต่อให้เราใช้เวลามากถึงชิ้นละ 20 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีอะไรรับประกันด้วยซ้ำว่าไอเท็มที่ได้จะไม่ใช่เกรดทั่วไป'

       ในขณะที่เราลังเล เทศมนตรีก็กล่าวต่อไป

       "ฉันรู้ดีว่ามันเป็นงานที่ยาก แต่ทางนี้ก็ยินดีจ่ายในราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน"

       "สูงขึ้น...?"

       "หากได้คุณภาพคล้ายเดิม ราคาจะสูงขึ้น 10% ของราคาไอเท็มประมูลวันนี้ แต่ถ้าหากไอเท็มที่ผลิตขึ้นมันยอดเยี่ยมกว่าเดิมมาก ราคาที่จะจ่ายให้รับรองว่าคุณต้องคาดไม่ถึงแน่"

       ไม่มีความจำเป็นอะไรให้รีรออีก เรารีบลุกขึ้นพร้อมกับตอบกลับไปเสียงดัง "ตกลง! งั้นผมขอตัวกลับโรงตีเหล็กก่อน"

       แต่เทศมนตรีได้พูดเบรกเราที่กำลังเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นเกินเหตุไว้เสียก่อน

       "ประการแรก ช่วยสร้างดาบขึ้นมาสามเล่ม มีดาบของอัศวินบางคนเริ่มจะเสียหายเมื่อไม่นานมานี้"

       หน้าต่างแจ้งภารกิจเด้งขึ้น

[ ทำธุรกิจกับเทศมนตรีเมืองวินสตัน (1) ]
ระดับความยาก: A
       เทศมนตรีเมืองวินสตันนาม 'วลาดี้' ขอร้องให้คุณช่วยผลิตยุทธภัณฑ์สำหรับอัศวินขึ้น
       เขายินดีจ่ายเงินให้เป็นจำนวนมหาศาลเนื่องมาจากทักษะที่เฉิดฉายของท่าน ถ้าหากครั้งนี้ทำให้เขาผิดหวัง แผนการทำธุรกิจระหว่างท่านกับเขาคงจบลงเพียงเท่านี้
* เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ส่งมอบดาบเกรดอีปิกอย่างน้อยสามเล่มให้กับเทศมนตรี โดยทุกเล่มจะต้องมีเลเวลอยู่ระหว่าง 120-180 และทั้งหมดต้องเสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์
* ของรางวัลภารกิจ : ขึ้นอยู่กับคุณภาพของดาบที่ส่งมอบ
* บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว : แผนการทำธุรกิจกับเทศมนตรีหลังจากนี้จะถูกพับเก็บไปทั้งหมด

       'ก็พอรับได้อยู่ละนะ...'

       สองสามวันที่ผ่านมาเราใช้เวลา 20 ชั่วโมงต่อการผลิตไอเท็มหนึ่งชิ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือไอเท็มเลเวล 120 จำนวนสามชิ้น และสองในสามก็เป็นเกรดอีปิก ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากนักที่ต้องทำภารกิจนี้ให้เสร็จภายใน 7 วัน

       'ถ้าไม่อับโชคจนเกินไป… เราคงไม่ซวยถึงขนาดที่ไอเท็มเกรดอีปิกไม่โผล่ออกมาเลยหรอกมั้ง?'

       เราเดินออกมาจากปราสาทด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม แต่ในขณะที่กำลังเดินอยู่ระหว่างทาง ชาวเมืองกลุ่มหนึ่งได้เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับกระซิบกระซาบ

       "คุณกริด มีใครบางคนกำลังสะกดรอยตามคุณมา"

       "ใช่แล้ว คุณต้องระวังตัวไว้นะ บางทีอาจเป็นพวกคนชั่ว"

       ค่าความสัมพันธ์กับชาวเมืองของเราถึงขีดจำกัด ดังนั้นเวลามีอันตราย ชาวเมืองก็มักจะช่วยสอดส่องดูแลให้

       "ตามฉันหรือ?"

       ใครกันนะ? เรากวาดสายตามองไปด้านหลังเพื่อหาพิกัด เจอแล้ว คนนึงอยู่ทางเข้าซอยฝั่งตรงข้าม  คนนึงอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ คนนึ่งอยู่หลบหลังร้านแผงลอย และยังมีอีกมากที่ทำท่าทางลับๆ ล่อๆ คล้ายกัน

       "ว้าว…  เยอะไปเลยไม่ใช่รึไง?"

       ร่างกายขนลุกซู่ทันที นี่เราต้องตกเป็นเป้าขององค์กรณ์นักฆ่าแบบเดียวกับในภาพยนต์แล้วงั้นหรือ?

       ...ไม่สิ ดูไม่เหมือนแบบนั้นเท่าไร หากสังเกตจากชุดที่พวกเขาสวมใส่ ถ้าจำไม่ผิดเกือบทั้งหมดล้วนมาจากโรงประมูลเมื่อครู่ คงมาสืบดูว่าเราเป็นช่างตีเหล็กของร้านไหนละมั้ง

       เราหันกลับไปกระซิบกับชาวเมือง "ไปจัดการพวกนั้นให้หน่อย แต่ไม่ต้องรุนแรงนะ คนพวกนี้ไม่มีพิษมีภัย"

       ชาวเมืองเหล่านี้ตอบกลับมาหนักแน่นฉะฉาน

       "ได้เลย ผมยินดีทำเพื่อคุณอยู่แล้ว!"

       "เดี๋ยวผมจัดการเอง!"

       กลุ่มชาวเมืองนับสิบถกแขนเสื้อขึ้นพร้อมกับตะโกนโหวกแหวกและวิ่งตรงไปยังพวกที่มาซุ่มดู       

       "อะ--เอ๋?  ชาวเมืองพวกนี้จะทำอะไร?"

       "อึก! เอ็นพีซีพวกนี้เสียสติไปแล้วรึไง?"
       
       "หนีกันเถอะ!"

       ทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็ว เรากล่าวขอบคุณชาวเมืองกลุ่มนั้นพอเป็นพิธี หลังจากนั้นก็เดินกลับไปยังโรงตีเหล็กข่าน 

       เราอธิบายถึงภารกิจคร่าวๆ ให้ข่านฟังและล็อคเอ้าท์ออกจากเกม

       ***

       "ฮุ…  ฮุฮุฮุ!"

       ภายในร้านเช่าแคปซูล เรามิอาจทนกลั้นเสียหัวเราะแห่งความสุขนี้ไว้ได้

       "อุวะฮ่าฮ่าฮ่า! เรากำลังจะรวยแล้ว!"

       เมื่อได้ตะโกนออกมา ทุกสิ่งจึงดูไม่เป็นเพียงแค่ฝัน เราทำเงินได้มากถึง 6.6 ล้านวอนภายในอาทิตย์เดียว! แถมยังมีอนาคตทางธุรกิจอันรุ่งโรจน์กับปราสาทวินสตันอีกด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป หนีสิ้นจำนวน 10 ล้านวอนคงถูกชำระได้ไม่ยาก เราจะกลายเป็นคนไร้หนี้สักที

       และสักวัน เราก็จะมีรถหรูเป็นของตัวเอง!       

       'อาฮยอง เบาะนั่งข้างคนขับรถหรูกำลังจะเป็นของเธอแล้ว!'

       ฮุฮุฮุ…  เราหยุดหัวเราะไม่ได้จริงๆ  ความพึงพอใจมันมีมากเสียจนน้ำตาใสๆ ไหลริน จนกระทั่งมีพนักงานคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาเราและพูดว่า 

       "คุณกำลังรบกวนลูกค้าท่านอื่นอยู่นะ ช่วยเบาเสียงลงด้วย"

       "ขอโทษครับ"

       เราจ่ายค่าเช่าแคปซูลพร้อมกับตรงดิ่งกลับบ้าน

       ***

       เมื่อชินยองวูเดินออกไปจากร้าน

       พนักงานต่างพากันจุ๊ปากเบาๆ

       "หมอนั่นบอกว่ากำลังจะรวยด้วยล่ะ…  แถมยังหัวเราะไปพูดไป ต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ"

       "ดูเหมือนพวกไม่มีงานทำนะ ไม่รู้จะมีบ้านด้วยรึเปล่า เขาใส่ชุดเดิมๆ มาที่นี่ทุกวันเลยจริงไหม?"

       "คิดอยู่เหมือนกัน…  แถมเป็นคนที่เช่าแคปซูลบ่อยมาก"

       กลุ่มพนักงานที่เป็นนักศึกษาต่างพากันนินทาชินยองวู ชายคนนี้รีบมาที่ร้านตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยชุดเดิมๆ ทุกวัน แลดูน่าสมเพชอย่างบอกไม่ถูก

       "เห็นประวัติลูกค้าที่กรอกเอาไว้ ตอนนี้เขาอายุ 26 แล้วด้วย จุ๊จุ๊ ชีวิตน่าสมเพชขนาดไหนกันนะ? ฉันคงอยู่แบบนั้นหลังจากที่เรียนจบแล้วไม่ได้แน่"

       "เลิกคุยเรื่องเขาเถอะ กลับมาพูดถึงซาทิสฟายต่อดีกว่า รู้รึเปล่าว่าฉันอัพเลเวลเป็น 40 ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ?"

       "ว้าว จริงหรอ?  ฉันยัง 39 อยู่เลย  ทำยังไงถึงอัพเลเวลได้ไวจัง?"
       
       "ออกล่าน่ะสิ แต่โชคดีหน่อยที่ได้อาวุธเกรดแรร์มา ก็เลยล่าได้ง่ายขึ้น อาวุธช่วยได้มากเลยทีเดียว"
       
       "ไอเท็มของจอมเวทย์ไปไหนหมดนะ? เฮ่อ~~~~ อยากได้ไอเท็มเกรดแรร์บ้างจัง ว่าแต่คนไร้บ้านเมื่อครู่จะเลเวลเท่าไรกัน?"

       "อุฟ~~ ดูจากสภาพแล้ว เขาไม่น่าจะใช่คนที่เล่นเกมเก่งนะ ซาทิสฟายโหดร้ายกว่าโลกจริงเยอะ ไอ้ขี้แพ้ในโลกจริงก็เลยมักจะเป็นไอ้ขี้แพ้ในซาทิสฟายด้วย ไม่มีทางที่เขาจะเป็นผู้เล่นเลเวลสูงได้หรอก"

Comments

  1. ก็แค่ช่างตีแหล็กในกำนานผ่านมา//กริดไม่ได้กล่าวไว้

    ReplyDelete
  2. ก้แค่เกรดแรร์กริดผลิตอีปิกนะเฟ้ย

    ReplyDelete
  3. ชีวิตกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีล่ะ ถ้าไม่มีอะไรมาขัดขวางซะก่อน

    ReplyDelete
  4. ผมกลัวอยู่สองอย่างตอนนี้
    1.มันหวังมากเกินจนเป็นลางร้าย
    2.มันพูดอัปมงคลจนเป็นเรื่องจริง

    ผมว่าคนที่พระเอกชอบเนี่ย(จำชื่อตัวละครไม่เคยได้'')ต้องเป็นลูกคนใหญ่แน่นอนหรือบางทีต้องมีคนคนรวยๆมาชอบแล้วทำให้ผม
    จนเคลียดอีก

    ReplyDelete
  5. จะทนอ่านจนถึงตอน 100+ นะกริด ตามที่เขารีวิวมา บักอับโชค

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00