จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 63

       หลังจากบรรลุข้อตกลงการค้ากับกริด เทศมนตรีก็รีบเดินกลับไปยังห้องประชุมของพวกขุนนางทันที ไอรีนและคนอื่นๆ ต่างนั่งรอฟังผลอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อชี้แจงออกไป ไม่มีใครเลยสักคนที่รู้สึกว่าราคา 220,000 เหรียญทองเป็นเรื่องเกินเหตุ เพราะดาบเล่มนี้มีคุณสมบัติที่หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว

       "เซอร์ฟินิกซ์ จงรับดาบเล่มนี้ไปจัดการกับคนชั่วที่วิหารยาธานซะ!"

       ทุกต่างจดจ้องไปยังอัศวินเลื่องชื่อ ฟินิกซ์ ในยามนี้เขากำลังคุกเข่าและยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อรอให้ไอรีนมอบดาบแห่งการตื่นรู้มาให้

       "เพื่อเกียรติยศแห่งเอิรล์สไตมและแดนเหนือ ผมจะต้องนำชัยชนะกลับมาได้แน่!"

       ในที่สุด ฟินิกซ์ก็รับดาบแห่งการตื่นรู้ไป

[ ดาบแห่งการตื่นรู้ ]
เกรด: เลเจนดารี
ความคงทน: 365/365
พลังโจมตี: 356
ความเร็วโจมตี: +6%
ความแม่นยำ: +10%
อัตราการโจมตีและป้องกัน: +10%
* ในทุกการโจมตี จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม 200 หน่วย
* ได้รับทักษะ 'การตื่นรู้แห่งสัจธรรม'
       ดาบที่สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือทักษะเยี่ยมผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ แต่ยังขาดประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
       แต่ในครั้งนี้ ช่างฝีมือคนดังกล่าวได้ละทิ้งความคิดและความปรารถอันไม่จำเป็นทั้งปวงออกไป สมาธิตั้งมั่นจดจ่ออยู่กับการรังสรรค์สุดยอดสรรพาวุธขึ้นมาด้วยใจสงบนิ่ง
       บางทีช่างฝีมือผู้นี้อาจไม่รู้ตัว แต่เขาได้สร้างสุดยอดแห่งดาบที่ไม่เคยปรากฏบนโลกใบนี้มาก่อน
* เงื่อนไขการสวมใส่: เลเวล 160 หรือสูงกว่า ค่าพละกำลัง 950 หรือสูงค่า ทักษะความชำนาญดาบขั้นสูงเลเวล 2 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก: 400 หน่วย

[ การตื่นรู้แห่งสัจธรรม ]
       ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็นเวลา 2 นาที โดยในระหว่างนี้ อาการผิดปรกติทุกชนิดจะไม่มีผลกับผู้ใช้งาน
* ท่านไม่สามารถควบคุมตนเองในระหว่างทักษะนี้ได้
* เมื่อทักษะนี้หมดฤทธิ์ ท่านจะไม่สามารถขยับร่างกายได้เป็นเวลา 2 วินาที ในช่วงนี้พลังป้องกันกายภาพและเวทมนต์จะลดลง 30%
มานาที่ใช้ : 1,000 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 3,000 วินาที ( 50 นาที )

       "รีบเคลื่อนพลทันที! จงกลับมาพร้อมกับศีรษะของหนึ่งในเจ็ดข้ารับใช้แห่งยาธานผู้นั้น!"

       "ขอรับ!"

       หลังจากที่ได้รับคำสั่ง ฟินิกซ์ได้นำทัพอัศวิน 12 นายและทหารอีก 1,500 นายมุ่งหน้าไปยังวิหารยาธาน แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีเพียง 150 คนเท่านั้น แต่ผู้ศรัทธาแห่งยาทานต่างก็มีเลเวลขั้นต่ำอยู่ที่ 160 ตรงกันกันกับทหารเลว พวกเขามีเลเวลเพียง 50 เท่านั้น จึงไม่มีใครสน ว่าการเคลื่อนพลครั้งนี้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุรึไม่
     
       ความต่างชั้นของบุคลากรมีมากเกินไป แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นถึงข้ารับใช้ทั้งเจ็ด แผนการอันแอบยลและกำลังพลที่มากพอ จึงเป็นสิ่งจำสำคัญสำหรับชัยชนะครั้งนี้

       เมื่อฟินิกซ์นำกองทัพเคลือนพลมาถึงจุดที่วิหารยาธานอยู่ในระยะมองเห็น เขาก็กล่าวปลุกใจกับทหารทั้งหมดทันที

       "อย่าหวาดกลัว! ผมจะเป็นคนนำหน้าพวกคุณเอง! ในนามแห่งอัศวินผู้แข็งแกร่งที่สุดของแดนเหนือ ตัวข้า ฟินิกซ์ จะเด็ดหัวหนึ่งในข้ารับใช้ทั้งเจ็ดคนนั้นให้จงได้! ขอเพียงพวกคุณเชื่อมั่นในตัวผมและตามมา ชัยชนะจะอยู่ในกำมือพวกเรา!!"

       "โอ้ววว!"

       ถ้อยคำปลุกใจสงครามเริ่มขึ้นแล้ว เสียงดึงกระหึ่มไปไกลถึงวิหารยานเลยทีเดียว

       "คนเถื่อนพวกนี้มาอีกแล้ว! พวกมันไม่รู้จักเข็ดหลาบกับอำนาจของเทพยาธานรึไง? ถึงได้กล้ามาเหยียบหน้าผาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้หนแล้วหนเล่า!" ผู้ศรัทธาแห่งยาธานคนหนึ่งที่กำลังยืนอย่างสั่นกลัวได้ร้องตะโกน
     
       ยูร่ายืนอยู่สุดขอบหลังคาวิหารที่ตั้งอยู่บนผาชัน จุดนี้นับเป็นจุดสูงสุดที่สังเกตการณ์ได้ง่าย กองทัพเกรียงไกรชูเชิดโบกสะบัดธงเอิร์ลสไตมเด่นตระหง่านมาแต่ไกล "ชิงความได้เปรียบจากพื้นที่สูง กระหนำใช้มนต์ดำลงไปในช่องแคบ ขอเพียงระวังนักธนูให้ดีก็พอ"

       "แล้วคุณล่ะ? ยูร่า..."

       หัวหน้าวิหารหันมามองเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล แต่ยูร่ากลับเชิดใส่อย่างเยือกเย็นพร้อมกับตอบว่า "ฉันจะลงไปด้านล่างคอยขัดขวางพวกมันไว้"

       ยูร่ารู้อยู่แก่ใจดีว่าวิหารยาธานอยู่ฝั่งชั่วร้าย เธอเริ่มระแคะระคายตั้งแต่ที่รับทำภารกิจแปลกๆ เรื่อยมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนที่ถูกเรียกว่าข้ารับใช้ทั้งเจ็ด พวกมันล้วนต่ำทรามชั่วร้าย ปลุกปั่นผู้คนด้วยความเกลียดชัง

       แต่เธอขี่หลังเสือแล้ว ย่อมมิอาจลงได้โดยง่าย ถึงยังไงที่นี่ก็คือซาทิสฟาย หาใช่โลกความจริง เธอจะไม่มีวันถอยหลังเด็ดขาด นอกเสียจากว่าจะได้รับคลาสพิษอย่างแอ็กนัสหรือแค็ทซ์ ถ้าไม่อยากเสียตำแหน่ง มีแต่ต้องก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น

       เธอคุ้นชินกับการถูกผู้คนตราหน้าเป็นอย่างดีแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกเรียกว่า 'แม่มดโลหิต'  แผนการสังหารหมู่ครั้งนี้จึงมีขึ้นโดยปราศจากความลังเล

       ตึก!

       ยูร่ากระโดดจากผาสูงและร่อนลงที่หน้ากองทหารอย่างนิ่มนวล เมื่อฟินิกซ์ได้เห็นเธอ เขาก็สั่งหยุดการเคลือนพลพร้อมกับตะโกนว่า "พลังเวทย์ร้ายกาจ! เธอคงเป็นหนึ่งในเจ็ดข้ารับใช้แห่งยาธานสินะ! แต่น่าเสียดาย ชื่อเสียงของเธอกำลังจะสิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้!"

       ฟินิกซ์นั้นคาดการณ์พลาดไป ยูร่ามิใช่หนึ่งในเจ็ดข้ารับใช้ เธอเป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือกที่อาจได้เป็นข้ารับใช้คนที่แปดเท่านั้น พลังของยูร่ายังนับว่าหากจากข้ารับใช้ทั้งเจ็ดตัวจริงมาก แต่ฟินิกซ์และกองทัพไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาจึงเก็บอาการสั่นกลัวไว้ไม่อยู่

       ยูร่าไม่คิดก้าวถอยหลังอีก วิหารยาธานแห่งนี้เหลือผู้ศรัทธาอยู่ทั้งหมด 143 คน และเธอจำเป็นต้องช่วยชีวิตทุกคนให้ได้ เพื่อให้ภารกิจลุล่วง และเพื่อให้เธอถือกำเนิดใหม่กลายเป็นข้ารับใช้ลำดับแปดตัวจริง

       "ข้าแต่องค์เทพผู้ยิ่งใหญ่ ข้ารับใช้ผู้ต่ำต้อยคนนี้ขออัญเชิญท่าน ได้โปรดช่วยเติมเต็มสถานที่แห่งนี้ด้วยความมืดมิดชั่วกัปชั่วกัลป์ ได้โปรดเติมเต็มความหวาดกลัวในหัวใจของศัตรู ได้โปรดสำแดงพลังเพื่อปกป้องผู้ที่บูชาท่าน"

       ท้องฟ้ามืดลงโดยพลัน แม้จะดวงอาทิตย์จะฉายแสงเด่นตระหง่านด้านบน แต่บรรยากาศโดยรอบกลับมืดสนิทเสียยิ่งกว่าสีดำ กองทหาร 1,500 นายต่างตกอยู่ในความโกลาหลตั้งแต่วินาทีแรกที่ยูร่าแสดงพลัง

       "วายุทมิฬ!"

       ซู่ววว!

       เกิดลมพายุสีดำขนาดยักษ์กลืนกินหนึ่งในสี่ของกองทหารจนราบเป็นหน้ากลอง ยูร่าคิดในใจว่า คนพวกนี้ ถ้าหากไม่ตายก็ต้องสาหัส เธอจึงเตรียมหยุดใช้วายุทมิฬ และกำลังจะปลดปล่อยมนต์ดำชนิดต่อไป

       "......!"     

       เป็นสถานการณ์ที่คาดเดาได้ไม่ยาก อัศวินผู้หนึ่งนามฟินิกซ์พุ่งออกมาจากวังวนลมพายุสีดำอันเกรี้ยวกราด ชายคนดังกล่าวพุ่งมาหายูร่าด้วยความเร็วอันน่าตื่นตะลึง ยูร่าไม่ลังเล ทักษะบาเรียเพชรถูกใช้ออกมาทันที

       เคร้ง!

       การโจมตีของฟินิกซ์ปะทะบาเรียเข้าอย่างจัง เกิดเป็นประกายแสงระยิบระยิบสวยงาม บาเรียเพชรนับว่ามีความแข็งเกินกว่าที่คาดไว้มาก การโจมตีกายภาพแทบไร้ผล ฟินิกซ์ตัดสินใจงัดไม้ตายใหม่ออกมาใช้อย่างรวดเร็ว

       "อย่าคิดแตะต้องพวกทหาร! ศัตรูของเธอคือฉันคนนี้!"
     
       "การตื่นรู้แห่งสัจธรรม!"

       ย๊าาากกก!

       ออร่าสีม่วงค่อยๆ ระเหยออกมาจากร่างของฟินิกซ์  และทันใดนั้นเอง
     
       เปรี้ยะ!

       "อ--อะไรกัน...?"

       ดาบของฟินิกซ์เริ่มสร้างรอยขีดข่วนให้บาเรียเพชร นี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ บาเรียเพชรคือทักษะที่ทนทานต่อการโจมตีทางกายภาพทั้งมวล โดยแม้แต่มอนสเตอร์ระดับบอสยังไม่สามารถทำอะไรมันได้ แล้วทำไมอัศวินคนนี้ถึงได้...

       เพล้ง!

       บาเรียเพชรแตกออกเป็นสองส่วน ฟินิกซ์พุ่งทะยานปรี่เข้าไปหายูร่าด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย

       "ขุมนรก!"

       ยูร่าใช้ทักษะประเภทสาปเพื่อหวังให้ฟินิกซ์ติดอาการหวาดกลัว

       ซู่ววว!

       ผงสีดำจำนวนมากรายล้อมร่างของฟินิกซ์ไว้ อีกไม่นานเขาจะต้องตกอยู่ในอาการหวาดกลัวและไร้ทางต่อต้าน ยูร่าคิดเช่นนั้น ทว่านอกจากฟินิกซ์จะไม่เป็นอะไรเลย เขายังคงพุ่งเข้าใส่ยูร่าอย่างไม่ลดละ ก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ทักษะการตื่นรู้แห่งสัจธรรมมีผลทำให้ผู้ร่ายไม่ถูกครอบงำด้วยอาการผิดปรกติทุกชนิด

       ยูร่าถึงคราวลำบากเสียแล้ว

       ทันใดนั้น ยูร่าพลันนึกถึงใครบางคนที่เคยทนทานต่อมนต์ดำของเธอได้แบบเดียวกัน

       'กริด...'

       เหมือนดังสวรรค์กลั่นแกล้ง  เมื่อในอดีต ภารกิจระดับ S ของกริดได้ถูกทำให้ล้มเหลวโดยฝีมือของยูร่า และในตอนนี้ ภารกิจระดับ SS ของยูร่าก็กำลังตกที่นั่งลำบากด้วยดาบที่กริดเป็นผู้สร้างขึ้น

       ยูร่าขยับปากมุบมิบพร้อมกับร่ายมนต์ดำชนิดใหม่ขึ้นมา "ความมืดมิด!"

       เมื่อ 17 วันก่อน ยูร่าเพิ่มค่าความศรัทธาจนถึง 100,000 แต้มสำเร็จ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระซิบจากเทพยาธานที่ข้างหูทันที

       'หากเจ้าพึงปรารถสิ่งใด จงสวดภาวนา แล้วเราจะมอบพลังให้เจ้า'

       ยูร่าสวดภาวนา เธอหวังจะได้พลังไว้ต่อกรกับผู้ที่ทนทานต่อความมืดทุกชนิด!

       ในที่สุดเทพยาธานก็ได้มอบพลังใหม่มาให้ ต้องขอบใจกริด ที่ทำให้ยูร่าตระหนักถึงความเลวร้ายเมื่อเธอต้องต่อสู้กับผู้ที่ทนทานความมืด และพลังใหม่นั้นก็ถูกใช้ออกมาครั้งแรก

       ***

       เรานำไอเท็มทุกชิ้นในตัวออกมาขายจนเกลี้ยงคลัง โดยดาบใหญ่แห่งมาม่อนและเกราะหนักแห่งเมนเกลก็ไม่มีข้อยกเว้น ผลลัพธ์ที่ได้ ในตอนนี้เรามีเงินติดตัวทั้งหมด 240,023 เหรียญทอง จึงตัดสินใจลงทะเบียนแลกเปลี่ยน 220,000 ทองเป็นเงินจริงผ่านเว็บไซต์

       การค้าขายแลกเปลี่ยนผ่านไปอย่างราบรื่น แต่ติดตรงที่เว็ปไซต์นั้นคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 5%  ลองคิดดูสิ 5% ของ 264 ล้านวอนนั้นเท่ากับ 13.2 ล้านวอนเชียวนะ! เงินที่เราแลกมาด้วยเลือดและหยาดเหงื่อ แต่พวกมันกลับทำตัวเป็นเสือนอนกินชุบมือเปิดเอาไปเสียง่ายดาย

       "วิธีสูบเงินจากผู้คนนั้นมีมากมายจริงๆ"

       เรารู้สึกชื่นชมไม่น้อย ถ้าเราฉลาดพอที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ ชีวิตคงไม่ต้องตกระกำลำบากขนาดนี้...

       ด้วยความไวแสง เราเจียดเงินออกมา 10 ล้านวอนเพื่อล้างหนี้ของตัวเองไปก่อน ได้เวลาโบกมือลาบริษัทมาร์เธอร์อีสแฮปปี้เสียที หลังจากนั้นเราก็นำสมุดบัญชีของเงินจำนวนที่เหลือไปมอบให้กับพ่อ ยอดของมันตอนนี้คือ 240,800,000 วอน แน่นอนว่าเป็นตัวเลขที่พวกเขาย่อมไม่เชื่อสายตา

       "นี่มัน… บัญชีปลอมรึเปล่า? "

       แม่เอ่ยปากถามอย่างสงสัย

       "แกไม่ได้ไปทำอะไรผิดกฏหมายมาแน่นะ?"

       พ่อเองก็ยังคงตั้งคำถาม

       "พี่…  พี่ไม่ได้แอบผ่าไตไปขายใช่มั้ย? ไหนถกเสื้อขึ้นให้หนูดูหน่อย มีรอยผ่าตัดรึเปล่า"

       เซฮีเองก็ยังไม่เชื่อเรา

       ไม่มีใครสักคนที่เชื่อเรา ภายในใจลึกๆ ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย แต่นั่นก็อยู่ในขอบเขตที่เข้าใจและยอมรับได้

       คนอย่างเรา ชายหนุ่มวัย 26 ที่ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง มีหนี้สินล้นพ้นตัว แถมติดเกมจนโงหัวไม่ขึ้น ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆ จะหาเงิน 240 ล้านวอนเข้าบ้านได้

       หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดพวกเขาก็ยอมรับว่าเป็นของจริงและเริ่มเปิดปากพูด

       "เป็นเรื่องดี ที่แกสามารถหาเงินจากสิ่งที่รักได้  การเล่นเกมตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาไม่นับว่าสูญเปล่า  เข้าใจแล้ว…  หลังจากนี้พวกเราจะไม่ห้ามแกอีก อยากทำอะไรก็ทำได้เลยตามที่ต้องการ…   ฉันเองก็รู้สึกโล่งใจที่แกค้นพบตัวเองเสียที"

       "ยองวู เพื่อนแม่เล่าให้ฟังว่า มีเพื่อนของลูกชายหล่อนคนนึงเล่นซาทิสฟายเก่งมาก  ถ้าลูกหาเงินได้ขนาดนี้ แปลว่าลูกคือผู้เล่นติดอันดับพวกนั้นใช่ไหม?  ลูกเคยได้ออกทีวีบ้างรึเปล่า?  ไม่สิ ลูกกำลังจะได้ออกทีวีใช่มั้ย?"

       "พี่นี่ยอดไปเลยนะ  ในที่สุดก็หาตัวเองพบ…  หืมมม เยี่ยมเลย หนูรู้มาว่า ในบรรดาผู้เล่นกว่าสองพันล้านคน มีเพียงเสี้ยวหยิบมือเท่านั้นที่สามารถทำเงินมหาศาลจากเกม  พี่ได้แสดงให้เห็นแล้ว ว่าพี่เองก็เป็นสุดยอดผู้เล่นจากทั้งสองพันล้านคนนั้น…  สมแล้วที่เป็นพี่ของหนู"

       เรารับรู้ได้ว่าแววตาของพวกเขาเปลี่ยนไป ท่าทีที่เคยมี สีหน้าที่เคยผิดหวัง ในตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนไปเป็น 'ลูกชายของฉันยอดไปเลย' และ 'หลังจากนี้ต้องทำดีกับพี่ให้มากขึ้นอีก'

       'เรารู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก…  ฮุฮุฮุ'

       ทันใดนั้น เซฮีก็พูดขัดจังหวะ "อย่าหัวเราะสิ เวลาที่พี่หัวเราะมันทำให้หนูหงุดหงิดนะ"

       "......"

Comments

  1. เอิ่มเอ็งหัวเราะแบบชั่วร้่ายยังไงฟร้ากริด

    ReplyDelete
  2. หดหู่มาก

    ตอนไม่มีเงินก็ดูถูก กดขี่ แดกดัน ด่ากระจาย
    พอหาเงินได้ล่ะลูกรักกกกกก

    มันไม่ใช่เรื่องดวงแล้ว
    โชคชะตาตกฟ้า กรรมเก่า เจ้ากรรมนายเวร วิญญาณอาฆาตพยาบาท ยมบาลส่งมาเกิดผิด
    ชะตากรรมไปตัดกับอีกคน โดนสาป รวมกันยังไม่เท่าสิ่งที่เกิดกับไอหมอนี่เลย

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไม่อ่ะพ่อแม่ก็รักเหมือนเดิมนั่นแหละแต่ตอนนั้นมันก็ผิดหวังไง
      แต่ตอนนี้เค้าภูมิใจลูกเค้าในที่สุดก็ได้ดีสักที
      เห็นป่ะตอนมันกลับจากทำงานแล้วเจ็บตัวพ่อกับแม่ยังห่วง
      #แต่น้องสาวนี่เหมาะเป็นแฟนมันดีโคตรห่วงโคตรแคร์ถึงจะปากแข็งเหอะขอให้มันไม่สมหวังกับไออาฮยอง(จำชื่อได้แล้ว)

      Delete
  3. ฮุฮุฮุ อยากให้ถึงช่วงที่ กริด เติบโตไวๆจังเลย

    ReplyDelete
  4. อย่างน้อยตอนนี้ก็ทำให้ยิ้มได้นะ แต่รอยยิ้มพระเอกมันน่าเกลียดขนาดไหนเนี่ย ไปหาผ้าปิดปากมาใส่ซะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00