จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 50

       หน้าต่างสถานะของกริดนับว่าเป็นที่น่าตื่นตะลึงอย่างมาก.  ในขณะที่มีเลเวลเพียงแค่ 45,  แต่ค่าสถานะโดยรวมทั้งหมดกลับเทียบเท่ากับผู้เล่นเลเวล 200 กลางๆ.   แถมยังมีค่าสถานะพิเศษที่หายากอยู่มากถึง 6 ชนิด,  ประกอบไปด้วยความพากเพียร,  ความเยือกเย็น,  ความทรหด,  ความหยิ่งทระนง,  วิสัยทัศน์,  และความกล้าหาญ.

       เท่านั้นยังไม่พอ.  กริดยังมีอีก 4 สมญานามสำคัญที่คนอื่นไม่มี.   เดิมทีแล้วในซาทิสฟาย,  การจะได้มาแต่ละสมญานามนับว่าแสนยากลำบาก.  ทั้ง 4 สมญานามที่กริดมี,  ล้วนแล้วแต่พบได้เฉพาะผู้เล่นระดับสูงเท่านั้น.   แต่กริดกลับมีทั้ง 4 อันด้วยเลเวลเพียง 45.  อีกทั้งเขายังเป็นคลาสเลเจนดารีเพียงคนเดียวในเกม.   เป็นหน้าตาสถานะตัวละครที่ไม่ว่าใครมาเห็นก็คงไม่เชื่อสายตา.

       แต่กริดกลับรู้สึกหงุดหงิดกับมันมากกว่าจะพึงพอใจ.

       'ชิ!  อุตส่าห์ลงทุนตีเหล็กทั้งวันทั้งคืนเพื่อหวังเพิ่มค่าสถานะ.   แถมรับภารกิจยากๆ มาทำอีกมากมาย,  แล้วนี่มันอะไรกัน?   ไม่ใช่ว่าเราเพิ่งเอาชนะอัศวินมาได้รึไง?   ทำไมค่าสถานะถึงยังน้อยขนาดนี้ได้?   มันควรจะมีอย่างน้อย 300  แต้มในทุกค่าสถานะสิ.    เป็นคลาสเลเจนดารีประสาอะไร,  ห่วยแตกชะมัด...' 
     
       'บ้าฉิบ!  ยูเฟอมิน่าที่มีแค่คลาสอีปิกกลับโกงได้ถึงขนาดนั้น.   หล่อนสามารถใช้เวทย์มนต์ทุกชนิดบนโลกได้โดยไม่ต้องร่ายคาถาเชียวนะ...'

       กริดบ่นอุบอิบพร้อมกับชำเลืองสายตาไปมองยังยูเฟอมิน่าและแร็บบิท.

       ยูเฟอมิน่ากำลังสวมชุดจอมเวทย์,  ส่วนแร็บบิทนั้นสวมเกราะโซ่และห้อยดาบราคาแพงอยู่ที่เอว.  ทางด้านลูกน้องของแร็บบิทต่างมีอาวุธครบมือไม่ว่าจะเป็นดาบ, หอก, ธนู.

       'พวกมันไม่ได้สวมเกราะหนัก...  ถ้าหากเราเพิ่มพลังโจมตีเข้าไปล่ะก็,  คงสามารถจัดการได้อย่างไม่ยากเย็นนัก.  แต่ในตอนนี้เราเองก็ไม่ได้สวมเกราะอยู่.  ทางทีดีควรจะเพิ่มพลังป้องกันกับความอดทนให้มากเข้าไว้จะดีกว่า.   ส่วนค่าความว่องไวนั้นมีมากพอแล้วจากมีดสั้นในอุดมคติ.'

       เป็นสถานการณ์สิ้นหวังอย่างสุดขีด...  กริดรีบตัดสินใจลวกๆ โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนนัก.

       'ใช้ 150 แต้มเพิ่มค่าพละกำลัง,  และ 90 แต้มเพิ่มค่าความอดทน.'

       ในการที่กริดเป็นช่างตีเหล็ก,  ค่าสถานะที่เหมาะสมที่สุดก็คือความชำนาญ.   ยิ่งมีความชำนาญมาก,  ระดับไอเท็มที่ผลิตขึ้นก็จะยิ่งสูง,  และยังใช้เวลาในการทำน้อยลงด้วย.   แต่กริดนั้นเกิดมาเป็นสายเลือดนักรบ.   เขามักมีความต้องการที่จะสู้รบให้เก่งอยู่เสมอ.  และเขาก็คิดว่ามันคงเป็นการดี,  หากทำให้ตัวละครแข็งแกร่งเข้าไว้,  จะได้รับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ทุกชนิด.

       'อีกอย่าง,  ค่าความชำนาญของเราก็เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่สร้างไอเท็มอยู่แล้ว.  จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทุ่มเทให้มันมากเกินไป.'

       ยิ่งไปกว่านั้น,  การได้รับสมญานาม 'ผู้สร้างไอเท็มระดับยูนีคคนแรก' จากการสร้างมีดสั้นในอุดมคติขึ้นมา,  ทำให้กริดได้รับค่าความชำนาญมากถึง 200 แต้มเป็นรางวัล.  เขาจึงไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ไม่ได้นำแต้มคงเหลือไปใช้กับความชำนาญ.
     
[ ท่านจะนำแต้มสถานะคงเหลือไปใช้เพิ่มค่าพละกำลังเป็นจำนวน 150 แต้ม.  กรุณายืนยัน. ]

       "ยืนยัน."

[ เมื่อค่าสถานะถูกใช้ไปแล้วจะไม่มีการนำกลับคืนมาได้.  กรุณายืนยัน. ]

       'ยืนยัน'
     
[ ท่านจะนำแต้มสถานะคงเหลือไปใช้เพิ่มค่าความอดทนเป็นจำนวน 90 แต้ม.  กรุณายืนยัน. ]

       'เออ,  เลิกถามสักที,  ไม่มีเวลาแล้ว.'

[ ค่าสถานะคงเหลือถูกใช้งาน. ]

       ในตอนนี้,  กริดมีค่าพละกำลังที่สูงถึง 316 แต้ม,  และค่าความอดทนอีก 334 แต้ม.  โดยที่ค่าเฉลี่ยของผู้เล่นช่างตีเหล็กทั่วไปจะอยู่ที่ 80 และ 100 แต้มตามลำดับ.   ค่าสถานะของกริดจึงนับว่าสูงกว่าชาวบ้านหลายเท่าตัว.

       ไม่สิ,  ถ้าจะเปรียบเทียบให้ถูก,  ต้องนำค่าสถานะของกริดไปเทียบกับคลาสสายต่อสู้จึงจะเห็นภาพชัดเจนกว่า.
     
       คลาสสายต่อสู้อื่นๆ ที่เลเวล 45 จะมีค่าเฉลี่ยของพละกำลังอยู่ที่ 210 แต้ม,  และความอดทนอยู่ที่ 100 แต้ม.   ส่วนคลาสสายแท้งค์หรือสายป้องกันอื่นๆ จะมีค่าสถานะเฉลี่ยอยู่ที่ 100 และ 230 ตามลำดับ.    ทางด้านคลาสสายความเร็วจะอยู่ที่ 120 และ 80 ตามลำดับ.   เหนือสิ่งอื่นใด,  ไม่มีคลาสใดในเลเวล 45 ที่มีค่าสถานะรวมทั้งหมดเกิน 500 แต้มเหมือนกับกริดอีกแล้ว.

       หากเทียบกับผู้เล่นทั่วไป,  ตัวละครของกริดจะอยู่เหนือคนอื่นที่เลเวลใกล้เคียงกันอยู่หลายขุม.  แต่ตัวของกริดเองกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น.
     
       เริ่มตั้งแต่เอิร์ลอัชเชอร์และอัศวินของมัน,  โดรัน,  ยูร่า,  เลโอ,  จนมาถึงยูเฟอมิน่า.   นับตั้งแต่ที่กริดได้เป็นคลาสเลเจนดารี,  โชคชะตาของเขาก็ต้องนำพาไปพบกับภารกิจระดับสูงและคนเก่งๆ อยู่ตลอดเวลา.    ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กริดจะคิดว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่นอยู่เสมอ.
     
       แต่ความจริงคืออะไรรู้มั้ย?  ยามใดที่กริดถือมีดสั้นในอุดมคติอยู่ในมือ,  เขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้เล่นสายต่อสู้เลเวล 100 เสียอีก. 
     
       โดยไม่รอเป็นฝ่ายถูกโจมตีก่อน,  กริดรีบชิงจังหวะหมายจะโจมตีเข้าใส่ยูเฟอมิน่าและแร็บบิท.

       แต่ทันใดนั้น...


       "เฮ้แร็บบิท!  ทำไมนายถึงเอาแต่พูดกับนังปีศาจนั่นอยู่ได้ล่ะ?   รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!"

       คำพูดของบารอนโลวทำให้แร็บบิทต้องหันไปมอง.  หลังจากนั้นแร็บบิทก็ตอบกลับไปด้วยสีหน้าอันเย็นชาไร้อารมณ์.  "คุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกรึ?   ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยคุณ.   ผมคือคนที่ว่าจ้างให้ยูเฟอมิน่าจัดการกับคุณตั้งแต่แรกแล้ว."

       "อะไรนะ?"

       "เอ๋?"

       บารอนโลวกับกริดส่งเสียงขึ้นพร้อมกัน.  แร็บบิทรีบพูดจาตัดบทออกมาในทันที. "ผมไม่ใช่คนของบริษัทเมโร่อีกต่อไปแล้ว."

       "หมายความว่าไง...?"

       "บัลมงต์เริ่มจะขูดรีดชาวบ้านจนล้ำเส้นเกินไป.   มันเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ที่เขาผูกการค้าของวินสตันเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวด้วยอำนาจจากคุณ.   ซึ่งแน่นอนว่า,  คนที่อ่านสถานการณ์เช่นนี้ไม่ออก,  มักจะอยู่ได้ไม่นานนัก.   ด้วยอนาคตอันมืดมนของบริษัทเมโร่,  ผมจึงตัดสินใจลาออกก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป.   และในวันนี้,   ผมมาเพื่อจัดการกับทั้งคุณและบัลมงต์."

       ใบหน้าของบารอนโลวแดงก่ำไปด้วยความโกรธ.  "นายมันไอ้คนทรยศ!  นายมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษพวกเรา?   เป็นแค่พ่อค้า,  ไม่ใช่สาวกแห่งความเที่ยงธรรมสักหน่อย!"

       "ใช่แล้ว,  คุณพูดถูก,  ผมเป็นแค่พ่อค้า.   ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะอยู่ฝั่งที่ทำกำไรได้มากกว่า.   ผมไม่มีความถูกต้องในหัวใจตั้งแต่แรกแล้ว.  และเขาคนนั้นก็คือสาเหตุที่คุณกับบัลมงต์ต้องตายในวันนี้."

       แร็บบิทพูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วมายังกริด.   กริดต้องประหลาดใจทันที.

       'เอ๋?  เราหรือ?'

       แร็บบิทโค้งคำนับให้กับกริดผู้ซึ่งกำลังสับสน.  "ผมดีใจที่คุณปลอดภัย,  กริด.   คิดถูกจริงๆ ที่ให้ยูเฟอมิน่าจัดการเรื่องนี้."

       "ทำไมนายถึงต้องทรยศบริษัทเมโร่เพราะฉันด้วย?"
     
       แร็บบิทยิ้มเล็กน้อยและอธิบายต่อไป.  "ผมเห็นทักษะการตีเหล็กอันแสนยอดเยี่ยมของคุณแล้ว.  คุณคือแสงแห่งความหวังครั้งใหม่อย่างแท้จริง."

       "แสงแห่งความหวังครั้งใหม่?"

       "กริด,  ผมคิดว่าคุณเองก็คงจะรู้ตัวดี.  แต่ผมจะพูดย้ำอีกครั้งก็แล้วกัน,  ศักยภาพในตัวคุณนั้นมีสูงมาก.   สักวันผลงานที่คุณสร้างขึ้นจะต้องถูกซื้อขายในราคาที่สูงลิบ.   แล้วเงินทองก็จะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย.   แต่มันคงเป็นเรื่องยากที่คนๆ เดียวจะทำการใหญ่ได้.   มันมีข้อจำกัดด้านธุรกิจที่จะเป็นตัวถ่วงไว้ให้คุณไม่เติบโต.   ดังนั้น,  ผมจึงขอเสนอตัวช่วยคุณเอง.   ด้วยประสบการณ์อันมากล้นและเส้นสายธุรกิจของผม.  มั่นใจได้เลยว่า,  ผู้คนจำนวนมากจะต้องได้เห็นความยอดเยี่ยมของคุณ.  ทั้งจากภายในอาณาจักรอีเทอนัล,  จนไปถึงอาณาจักรอื่นที่อยู่ใกล้เคียง."

       แร็บบิทพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น.

       "พวกเราจะสร้างโรงตีเหล็กชั้นยอดขึ้นมา,  โรงตีเหล็กที่มีผลกำไรเทียบเท่ากับบริษัทระดับกลาง.   ถ้าหากคุณกับผมร่วมมือกัน,  เราทำได้แน่.   แต่เพื่อที่จะให้ชาวบ้านวินสตันยอมรับในตัวผม,  มีแต่ต้องช่วยคุณออกมาอย่างปลอดภัย,  และจัดการลอร์ดชั่วกับบริษัทเมโร่ด้วยมือคู่นี้เท่านั้น."
     
       "อา...  นายคิดทรยศบริษัทเมโร่เพราะอยากจะทำงานกับฉัน.  ก็เลยจ้างวานให้ยูเฟอมิน่าไปช่วยฉันออกมา?"

       "ถูกต้อง."

       "เรื่องนั่นก็เข้าใจได้อยู่.  แต่ทำไมต้องทำอะไรที่ยุ่งยากอย่างการทำให้ชาวบ้านวินสตันพึงพอใจด้วย?"
     
       "ธุรกิจของคุณกับผมจะเริ่มที่โรงตีเหล็กข่าน.   เพราะว่าสถานที่แห่งนั้นมีประวัติยาวนาน,   จึงนับเป็นฐานหลักสำคัญของธุรกิจ.   ในอีกความหมายหนึ่ง,  ผมแค่ต้องการจะไปทำงานที่โรงตีเหล็กข่าน.   แต่ผมจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรถ้าหากชาวบ้านยังไม่ยอมรับในตัวผม?"
     
       "...อา,  เข้าใจแล้ว.  แล้วนายมีแผนจะทำธุรกิจยังไง?"

       ยูเฟอมิน่าเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดตัดบทกับแร็บบิท.  "จะยืนคุยกันอีกนานไหม?  เราไม่มีเวลาแล้วนะ."
     
       "เข้าใจแล้ว,  คุณกริด.  ผมเกรงว่าเรื่องรายละเอียดคงต้องอธิบายให้ฟังในภายหลัง.  แต่สิ่งแรกและสิ่งเดียวที่คุณต้องรู้ในตอนนี้,  ผมจะทำให้คุณร่ำรวยมหาศาลด้วยมือคู่นี้เอง.  ขอตัวก่อนครับ."
     
       แร็บบิทโค้งคำนับกริดอย่างนอบน้อมพร้อมกับหันหลังกลับไป.  ชายผู้ซึ่งเคยเป็นศัตรูมาก่อน,  ยามนี้กลับมาพูดคุยเรื่องธุรกิจกับเรา...   กริดรู้สึกสับสนและปรับตัวไม่ทันกับสถานการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว.

       "ช่วยไม่ได้แฮะ.  บางทีเราคงเหนื่อยเกินไป,  สมองก็เลยไม่แล่น.   ล็อคเอ้าท์ออกไปพักผ่อนก่อนดีกว่า."

       ยูเฟอมิน่าตะโกรเรียกกริดที่ทำท่าจะออกจากเกม.  "เฮ้กริด,  นายลืมอะไรไปรึเปล่า?"
     
       'ผู้หญิงคนนี้,  การที่เธอทำดีกับเรา,  และลงมาช่วยเราก็เพียงเพราะได้รับภารกิจมาจากแร็บบิทเท่านั้น.   แต่อย่างน้อย...  เธอก็ช่วยเราออกมาได้สำเร็จและอุตส่าห์นำมีดมาคืนให้ด้วย.'
     
       ถ้าไม่มียูเฟอมิน่าล่ะก็,  กริดคงไม่มีทางทำภารกิจช่วยเหลือฮิวรอยสำเร็จ.   กริดรู้สึกขอบคุณเธอจากใจจริง.

       "ขอบใจมาก."

       ยูเฟอมิน่าได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว. "นายคิดว่าฉันอยากฟังคำขอบคุณรึไง?  นี่นายลืมไปแล้วจริงๆ หรอเนี่ย?"

       "ลืมอะไร?"

       "นายสัญญาว่าจะสร้างลูกแก้วเวทย์ระดับยูนีคให้."

       "ฉะ--ฉันจะไปลืมได้ไงล่ะ?   ต้องจำได้อยู่แล้วน่า."
     
       ที่จริงเขาลืมไปแล้ว.  ความรู้สึกขนลุกซู่แผ่ไปทั่วทั้งร่างกาย.  จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอไม่เตือนและเขาลืมไปเลย?   ไม่ใช่ว่าหล่อนจะฆ่าเขาทิ้งหรอกรึ?
     
       "ฉันทำให้แน่.  แต่ว่า,  ก่อนอื่นฉันต้องมีสูตรการผลิตลูกแก้วก่อน.  แล้วก็,  ฉันต้องการวัสดุในการสร้างด้วย."

       กริดเป็นคนจริงใจและตรงไปตรงมา.  เขาต้องการจะสร้างลูกแก้วระดับสูงให้ยูเฟอมิน่าจากใจจริง. 
     
       เพื่อตอบแทบบุณคุณที่เธอไปช่วยออกมางั้นหรือ?  เปล่าเลย,  กริดไม่ใช่คนแบบนั้นแน่.   เขามีเหตุผลอื่น.
     
       'นี่เป็นโอกาสที่จะได้เรียนสูตรผลิตลูกแก้วเวทย์ฟรี.  อุวะฮ่าฮ่า!'

       เท่านั้นยังไม่พอ.  ทุกครั้งที่สร้างไอเท็มขึ้น,  ระดับทักษะและค่าประสบการณ์ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย.   มันจึงเป็นการดีที่จะได้พัฒนาทักษะของตนเองโดยใช้วัสดุที่คนอื่นหามาให้ฟรี.
     
       "เข้าใจแล้ว.  ไว้ฉันจะติดต่อกลับไปอีกครั้งในตอนที่พร้อมก็แล้วกัน."

       ยูเฟอมิน่าบอกลากับกริดที่ตรงนี้.

       กริดเอาแต่นึกถึงคำพูดของแร็บบิทซ้ำไปมาในหัวอยู่ตลอดเวลา  'ถ้าหากเราร่วมมือกับแร็บบิท,  เราจะกลายเป็นช่างตีเหล็กที่มีกำไรเทียบเท่ากับธรุกิจระดับกลางได้เชียวหรือ?'
     
       กริดก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้างว่าคลาสของเขาเป็นคลาสที่ร่ำรวย.   โดยถ้าหากพยายามมากพอ,  เขาจะสามารถปลดหนี้ได้ไม่ยาก.   บางทีอาจถึงขึ้นซื้อรถหรูสักคันได้เลย.   แต่สิ่งที่แร็บบิทพูด,  มันยิ่งใหญ่เกินไปกว่านั้นมากนัก.

       เศษเหรียญทองทีมีในตอนนี้มันเทียบไม่ได้เลยกับรายได้ของธุรกิจระดับเล็ก.  หากเพียงกริดมีรายได้เทียบเท่าธุรกิจระดับเล็กล่ะก็,  เขาก็จะสามารถซื้อรถหรูพร้อมกับปลดหนี้ได้ในพริบตา.

       'ไม่ใช่แค่รถหรูแค่คันเดียว.   แต่เราจะได้อาศัยอยู่ในแมนชั่นหลังใหญ่ไปพร้อมๆ กับรถหรูนับสิบ.   ถ้าเรารวยขนาดนั้นจริง,  อาฮยองจะต้องหันมามองเราแน่.'
     
       ร่างกายของกริดสั่นระริกด้วยความตื่นเต้นดีใจ. 
     
       อีกฝากฝั่งหนึ่ง,  แร็บบิทกำลังยืนสนทนากับยูเฟอมิน่าหลังจากที่กริดออกไปแล้ว.

       "ดูเหมือนกริดจะหวาดกลัวคุณอยู่นะ.  เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?"
     
       "เห?  มันจะเป็นแบบนั้นได้ไงเล่า?"
     
       ยูเฟอมิน่าหัวเราะคิกคัก.

       "กริดเป็นถึงคนที่สังหารอัศวินฉายากัมปนาทแดนเหนือผู้นั้นเชียวนะ.   แถมอัศวินอีก 4 คนที่เหลือก็ต้องต้องยืนสั่นกลัวเพียงเพราะจิตสังหารที่เขาปล่อยออกมา.  คุณคิดว่าคนแบบนั้นจะไปกลัวอะไรได้อีกล่ะ?  เขาก็แค่แสร้งทำเป็นกลัวฉันเท่านั้นเอง."

       "โฮ่... เดี๋ยวก่อน...?  เมื่อครู่คุณว่ายังไงนะ?"  แร็บบิทแสดงสีหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน.  "กริดจัดการกับอัศวินได้เชียวรึ?"

       "ใช่แล้ว."
     
       "ไม่ใช่ว่ากริดเป็นช่างตีเหล็กหรอกหรือ?"

       "ใช่,  เขาเป็นช่างตีเหล็กแน่นอน.  แต่ก็ยังแข็งแกร่งในเวลาเดียวกันด้วย.   ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะ,  ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคลาสใดกันแน่."
     
       "......"

       ช่างตีเหล็กที่สามารถสร้างไอเท็มระดับยูนีคขึ้นมาได้,  แถมยังแข็งแกร่งในเวลาเดียวกันอีกด้วย?   แร็บบิทเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางตัวตนที่แท้จริงของกริด.

       'บางทีเขาอาจจะเป็น...'
     
       ในตำนานเคยมีบันทึกกล่าวถึงช่างตีเหล็กคนหนึ่ง,  นามของเขาคือแพ็กม่า.    ผู้คนอาจเคยได้ยินชื่อของแพ็กม่าในความยอดเยี่ยมด้านการตีเหล็ก,  แต่แร็บบิทได้สืบข้อมูลไปลึกมากกว่านั้น.  จากเอกสารบางฉบับที่เกี่ยวข้องได้ทำให้เขาเขาพบว่า,  บางที,  แพ็กม่าอาจไม่ใช่ช่างตีเหล็กเพียงอย่างเดียว.

       'ถ้าเขาได้รับสืบทอดทักษะของแพ็กม่ามาล่ะก็...   ไม่เพียงแต่จะฝีมือการตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น,  แต่ทักษะการต่อสู้ก็ยังไม่เป็นสองรองใคร.   หรือว่ากริดจะเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่ากันนะ?   ต้องใช่แน่.  นั่นเป็นสิ่งเดียวที่อธิบายเรื่องนี้ได้.'

       เขาไม่คิดนึกฝันมาก่อนว่าคนที่ตัดสินใจทำธุรกิจด้วยจะเป็นผู้สืบทอดของบุคคลในตำนาน!  แร็บบิทดีใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้.
     
       'โชคเข้าข้างแล้ว.  นี่เป็นโอกาสทองที่จะขายผลงานซึ่งมีจิตวิญญานของแพ็กม่าสถิตอยู่.'

       ถ้าหากเราได้ร่วมงานกับผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าจริง,  กำไรที่ได้จะไม่ใช่แค่บริษัทระดับกลางแล้ว,  แต่จะเทียบได้กับบริษัทขนาดใหญ่เลยทีเดียว.   แร็บบิทรู้สึกอิ่มเอมหัวใจเป็นอย่างมาก.  เขาเร่งฝีเท้าขึ้นจากเดิมเพื่อรีบจัดการกับบริษัทเมโร่ให้เร็วที่สุด.

       "ร--แร็บบิท!  ไอ้สารเลว!"

       บัลมงต์และฟิลิปสันที่ไม่ได้รู้ถึงข่าวคราวการบุกชิงตัวนักโทษจากปราสาท,  พวกมันจึงถูกจู่โจมอย่างฉับพลันโดยแร็บบิทและยูเฟอมิน่า.  ฟิลิปสันถูกสังหารในชั่วพริบตาจากยูเฟอมิน่าที่กำลังโกรธจัด,  เพราะเธอได้รู้เรื่องที่มันไปลักพาตัวเด็กผู้หญิงมา.   
     
       บัลมงต์และบารอนโลวถูกส่งตัวไปยังเมืองฟรอนเทียร์,  เมืองหลวงของเอิร์ลสไตม.
     
       ทั้งคู่ถูกสั่งประหารในทันที.
     
       แต่มันยังไม่จบเพียงเท่านี้.
     
       "มันก็จริงอยู่ที่แร็บบิทได้ช่วยเหลือชาวบ้านวินสตันจากความชั่วร้าย,  แต่ตัวเขาเองก็เป็นที่รู้จักในนามมือขวาแห่งบริษัทเมโร่มาอย่างยาวนาน.    แร็บบิทจึงถือว่าเข้าข่ายมีความผิดร้ายแรงที่เคยทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนเช่นกัน.   ดังนั้น,  ข้าขอสั่งจำคุกเขาเป็นเวลา 10 ปี."

       ความผิดพลาดเดียวของแร็บบิทในแผนการครั้งนี้ก็คือการที่เขาไม่รู้จักเอิร์ลสไตมดีพอ.   แร็บบิทคิดว่าการจับตัวบารอนโลวและบัลมงต์มาส่งจะเพียงพอต่อการชดเชยความผิดในอดีตของตนได้.   ทว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น,  เอิร์ลสไตมตัดสินโทษจำคุกเขาเป็นเวลานานถึง 10 ปี.

       แร็บบิทไม่ปลื้มใจเท่าใดนัก,  แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก.  เพราะนั่นเป็นคำตัดสินอันเด็ดขาดจากปากเอิร์ลสไตมเอง.

       "น่าเสียดายนัก,  อุตส่าห์ได้สร้างความรู้จักไว้กับคุณกริดแล้วเชียว...  น่าเสียดายจริงๆ.    แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รับรู้ถึงความดีของเรา.  เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว."

       แร็บบิทยิ้มเล็กน้อยในขณะที่กำลังถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ.  เขารู้สึกพึงพอใจที่ตนเองได้กลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของชายหนุ่มที่กำลังจะเติบโตไปเป็นตำนานของโลกใบนี้.

       ...
     
( ผู้แปล : ขออธิบายเรื่อง 'ยศ' และ 'ตำแหน่ง' เล็กน้อยนะครับ.  ในเรื่องที่เคยแปลมา  ยศของขุนนางเท่าที่รู้ตอนนี้จะมี 'เอิร์ล' กับ 'บารอน'  ซึ่งเอิร์ลจะเป็นยศที่สูงกว่า   ยศในทีนี้เหมือนกับ  พลเอก  พลโท  พลตรีน่ะแหละครับ.   ต่อไปก็เรื่องตำแหน่ง  ตำแหน่ง 'ลอร์ด' นั้นเหมือนกับตำแหน่ง  ผบทบ.  หรือตำแหน่งแม่ทัพภาค. ของทางทหารไทย.   ดังนั้น  พวกเจ้าเมือง/ ผู้ปกครองหมู่บ้าน  จะมี 'ตำแหน่ง' เป็น 'ลอร์ด' ของหมู่บ้านนั้น/เมืองนั้น.  )

       ...

       วินสตันกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่.
     
       หมู่บ้านวินสตันถูกยกระดับกลายเป็นเมืองวินสตันอย่างเป็นทางการ.  และลอร์ดคนใหม่ของวินสตันก็คือตัวของเอิร์ลสไตมเอง.   สิ้นค้าจำนวนมากถูกแจกจ่ายไปยังชาวบ้านเพื่อชดเชยเรื่องที่เกิดขึ้น.   หนี้สินทั้งหมดที่เกิดจากความไม่ชอบธรรมได้ถูกยกเลิก.

       ชาวเมืองวินสตันเริ่มพูดกันปากต่อปากถึงวีรษุรุษกลุ่มใหม่ที่ได้ปลดปล่อยพวกเขาจากความชั่วร้าย.

       "พวกนายรู้จักคนที่ชื่อแร็บบิทรึเปล่า?   เดิมทีนั้น,  แร็บบิทคือมือขวาคนสำคัญของบริษัทเมโร่.  แต่เขาทนไม่ได้ที่เห็นบัลมงต์และลอร์ดชั่วกดขี่ชาวบ้าน,  จึงได้ก่อกบฏขึ้นเพื่อขจัดคนชั่วให้พ้นจากวินสตันไป.   แม้ในตอนนี้เขาจะอยู่ในคุก,  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่พวกเราสุขสบายในทุกวันนี้ล้วนเพราะเขา."

       "แล้วนายรู้จักหญิงสาวที่สวยที่สุดในโลกรึเปล่า?   จิตใจของเธอนั้นงดงามเฉกเช่นเดียวกับใบหน้า,   เธอเสี่ยงชีวิตบุกเข้าไปในคุกใต้ดินปราสาทวินสตันเพื่อช่วยชาวบ้านออกมาเป็นจำนวนมาก.  เธอคือแกนหลักในการนำพาความสงบสุขของวินสตันกลับมา."

       "ยังมีอีกคน,  ช่างตีเหล็กหนุ่มผู้มากไปด้วยพรสวรรค์.   ชายคนนี้เปี่ยมด้วยคุณธรรมความถูกต้องในหัวใจ.  เขาเองก็เป็นหนึ่งคนที่สู้อย่างสุดความสามารถเพื่อต่อต้านลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่.   อีกทั้งเขายังพยายามจะปกป้องโรงตีเหล็กของข่าน,  โดยการเสนอตัวเข้าแข่งกับบริษัทเมโร่แทนข่านที่สุขภาพไม่ดี.    เท่านั้นยังไม่พอ,  เขายังเสี่ยงชีวิตเข้าไปในคุกใต้ดินเพื่อช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่ถูกจับเพราะพยายามออกจากหมู่บ้านไปร้องเรียนกับเอิร์ลสไตม,  และช่างตีเหล็กหนุ่มคนนั้นก็สามารถช่วยเหลือออกมาได้จนสำเร็จ.   ตัวฉันอายุก็ปาไป 80 แล้ว,  เด็กคนนั้นมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลานของฉัน.   แต่ฉันกลับรู้สึกนับถือในคุณธรรมและความกล้าหาญของเขาจากใจจริง.  การที่เด็กหนุ่มจะมีจิตใจแน่วแน่เช่นนี้นับว่าหายากแล้ว."
     
       แร็บบิท,  หญิงงาม,  และช่างตีเหล็กหนุ่ม.

       นักเดินทางที่มายังเมืองวินสตันต่างได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้จากปากของชาวเมือง.   เห็นได้ชัดว่าค่าชื่อเสียงในวินสตันของทั้งสามได้เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัดแล้ว.
     
       ไอรีน,  แม่เมืองคนใหม่ของวินสตัน,  ได้ให้ความสนใจในตัวหญิงงามและช่างตีเหล็กหนุ่มเป็นอย่างมาก.

       "คุณงามความดีของพวกเขาต้องได้รับการเชิดชู.  ฉันอยากจะพบหน้าพวกเขาสักครั้งจัง."

Comments

  1. แรบบิทนอนคุก สรุปกริดก็จนต่อไป ว่าแต่แม่เมืองคนใหม่นี่ใช่วาสที่ไปช่วยในเควสแรกหลังเปลี่ยนคลาสป่าว ถ้าใช่นี่คงไม่ลำบากเท่าไหร่แล้วมั๊ง

    ReplyDelete
  2. คนที่ไปช่วยตอนที่โดรันบังคับรับเควสสินะ

    ReplyDelete
  3. หนทางร่ำรวยยังอีกยาวไกลจริงๆ

    ReplyDelete
  4. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00