จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 50
หน้าต่างสถานะของกริดนับว่าเป็นที่น่าตื่นตะลึงอย่างมาก. ในขณะที่มีเลเวลเพียงแค่ 45, แต่ค่าสถานะโดยรวมทั้งหมดกลับเทียบเท่ากับผู้เล่นเลเวล 200 กลางๆ. แถมยังมีค่าสถานะพิเศษที่หายากอยู่มากถึง 6 ชนิด, ประกอบไปด้วยความพากเพียร, ความเยือกเย็น, ความทรหด, ความหยิ่งทระนง, วิสัยทัศน์, และความกล้าหาญ.
เท่านั้นยังไม่พอ. กริดยังมีอีก 4 สมญานามสำคัญที่คนอื่นไม่มี. เดิมทีแล้วในซาทิสฟาย, การจะได้มาแต่ละสมญานามนับว่าแสนยากลำบาก. ทั้ง 4 สมญานามที่กริดมี, ล้วนแล้วแต่พบได้เฉพาะผู้เล่นระดับสูงเท่านั้น. แต่กริดกลับมีทั้ง 4 อันด้วยเลเวลเพียง 45. อีกทั้งเขายังเป็นคลาสเลเจนดารีเพียงคนเดียวในเกม. เป็นหน้าตาสถานะตัวละครที่ไม่ว่าใครมาเห็นก็คงไม่เชื่อสายตา.
แต่กริดกลับรู้สึกหงุดหงิดกับมันมากกว่าจะพึงพอใจ.
'ชิ! อุตส่าห์ลงทุนตีเหล็กทั้งวันทั้งคืนเพื่อหวังเพิ่มค่าสถานะ. แถมรับภารกิจยากๆ มาทำอีกมากมาย, แล้วนี่มันอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าเราเพิ่งเอาชนะอัศวินมาได้รึไง? ทำไมค่าสถานะถึงยังน้อยขนาดนี้ได้? มันควรจะมีอย่างน้อย 300 แต้มในทุกค่าสถานะสิ. เป็นคลาสเลเจนดารีประสาอะไร, ห่วยแตกชะมัด...'
'บ้าฉิบ! ยูเฟอมิน่าที่มีแค่คลาสอีปิกกลับโกงได้ถึงขนาดนั้น. หล่อนสามารถใช้เวทย์มนต์ทุกชนิดบนโลกได้โดยไม่ต้องร่ายคาถาเชียวนะ...'
กริดบ่นอุบอิบพร้อมกับชำเลืองสายตาไปมองยังยูเฟอมิน่าและแร็บบิท.
ยูเฟอมิน่ากำลังสวมชุดจอมเวทย์, ส่วนแร็บบิทนั้นสวมเกราะโซ่และห้อยดาบราคาแพงอยู่ที่เอว. ทางด้านลูกน้องของแร็บบิทต่างมีอาวุธครบมือไม่ว่าจะเป็นดาบ, หอก, ธนู.
'พวกมันไม่ได้สวมเกราะหนัก... ถ้าหากเราเพิ่มพลังโจมตีเข้าไปล่ะก็, คงสามารถจัดการได้อย่างไม่ยากเย็นนัก. แต่ในตอนนี้เราเองก็ไม่ได้สวมเกราะอยู่. ทางทีดีควรจะเพิ่มพลังป้องกันกับความอดทนให้มากเข้าไว้จะดีกว่า. ส่วนค่าความว่องไวนั้นมีมากพอแล้วจากมีดสั้นในอุดมคติ.'
เป็นสถานการณ์สิ้นหวังอย่างสุดขีด... กริดรีบตัดสินใจลวกๆ โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนนัก.
'ใช้ 150 แต้มเพิ่มค่าพละกำลัง, และ 90 แต้มเพิ่มค่าความอดทน.'
ในการที่กริดเป็นช่างตีเหล็ก, ค่าสถานะที่เหมาะสมที่สุดก็คือความชำนาญ. ยิ่งมีความชำนาญมาก, ระดับไอเท็มที่ผลิตขึ้นก็จะยิ่งสูง, และยังใช้เวลาในการทำน้อยลงด้วย. แต่กริดนั้นเกิดมาเป็นสายเลือดนักรบ. เขามักมีความต้องการที่จะสู้รบให้เก่งอยู่เสมอ. และเขาก็คิดว่ามันคงเป็นการดี, หากทำให้ตัวละครแข็งแกร่งเข้าไว้, จะได้รับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ทุกชนิด.
'อีกอย่าง, ค่าความชำนาญของเราก็เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่สร้างไอเท็มอยู่แล้ว. จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทุ่มเทให้มันมากเกินไป.'
ยิ่งไปกว่านั้น, การได้รับสมญานาม 'ผู้สร้างไอเท็มระดับยูนีคคนแรก' จากการสร้างมีดสั้นในอุดมคติขึ้นมา, ทำให้กริดได้รับค่าความชำนาญมากถึง 200 แต้มเป็นรางวัล. เขาจึงไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ไม่ได้นำแต้มคงเหลือไปใช้กับความชำนาญ.
"ยืนยัน."
'ยืนยัน'
'เออ, เลิกถามสักที, ไม่มีเวลาแล้ว.'
ในตอนนี้, กริดมีค่าพละกำลังที่สูงถึง 316 แต้ม, และค่าความอดทนอีก 334 แต้ม. โดยที่ค่าเฉลี่ยของผู้เล่นช่างตีเหล็กทั่วไปจะอยู่ที่ 80 และ 100 แต้มตามลำดับ. ค่าสถานะของกริดจึงนับว่าสูงกว่าชาวบ้านหลายเท่าตัว.
ไม่สิ, ถ้าจะเปรียบเทียบให้ถูก, ต้องนำค่าสถานะของกริดไปเทียบกับคลาสสายต่อสู้จึงจะเห็นภาพชัดเจนกว่า.
คลาสสายต่อสู้อื่นๆ ที่เลเวล 45 จะมีค่าเฉลี่ยของพละกำลังอยู่ที่ 210 แต้ม, และความอดทนอยู่ที่ 100 แต้ม. ส่วนคลาสสายแท้งค์หรือสายป้องกันอื่นๆ จะมีค่าสถานะเฉลี่ยอยู่ที่ 100 และ 230 ตามลำดับ. ทางด้านคลาสสายความเร็วจะอยู่ที่ 120 และ 80 ตามลำดับ. เหนือสิ่งอื่นใด, ไม่มีคลาสใดในเลเวล 45 ที่มีค่าสถานะรวมทั้งหมดเกิน 500 แต้มเหมือนกับกริดอีกแล้ว.
หากเทียบกับผู้เล่นทั่วไป, ตัวละครของกริดจะอยู่เหนือคนอื่นที่เลเวลใกล้เคียงกันอยู่หลายขุม. แต่ตัวของกริดเองกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น.
เริ่มตั้งแต่เอิร์ลอัชเชอร์และอัศวินของมัน, โดรัน, ยูร่า, เลโอ, จนมาถึงยูเฟอมิน่า. นับตั้งแต่ที่กริดได้เป็นคลาสเลเจนดารี, โชคชะตาของเขาก็ต้องนำพาไปพบกับภารกิจระดับสูงและคนเก่งๆ อยู่ตลอดเวลา. ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กริดจะคิดว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่นอยู่เสมอ.
แต่ความจริงคืออะไรรู้มั้ย? ยามใดที่กริดถือมีดสั้นในอุดมคติอยู่ในมือ, เขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้เล่นสายต่อสู้เลเวล 100 เสียอีก.
โดยไม่รอเป็นฝ่ายถูกโจมตีก่อน, กริดรีบชิงจังหวะหมายจะโจมตีเข้าใส่ยูเฟอมิน่าและแร็บบิท.
แต่ทันใดนั้น...
"เฮ้แร็บบิท! ทำไมนายถึงเอาแต่พูดกับนังปีศาจนั่นอยู่ได้ล่ะ? รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!"
คำพูดของบารอนโลวทำให้แร็บบิทต้องหันไปมอง. หลังจากนั้นแร็บบิทก็ตอบกลับไปด้วยสีหน้าอันเย็นชาไร้อารมณ์. "คุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกรึ? ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยคุณ. ผมคือคนที่ว่าจ้างให้ยูเฟอมิน่าจัดการกับคุณตั้งแต่แรกแล้ว."
"อะไรนะ?"
"เอ๋?"
บารอนโลวกับกริดส่งเสียงขึ้นพร้อมกัน. แร็บบิทรีบพูดจาตัดบทออกมาในทันที. "ผมไม่ใช่คนของบริษัทเมโร่อีกต่อไปแล้ว."
"หมายความว่าไง...?"
"บัลมงต์เริ่มจะขูดรีดชาวบ้านจนล้ำเส้นเกินไป. มันเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ที่เขาผูกการค้าของวินสตันเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวด้วยอำนาจจากคุณ. ซึ่งแน่นอนว่า, คนที่อ่านสถานการณ์เช่นนี้ไม่ออก, มักจะอยู่ได้ไม่นานนัก. ด้วยอนาคตอันมืดมนของบริษัทเมโร่, ผมจึงตัดสินใจลาออกก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป. และในวันนี้, ผมมาเพื่อจัดการกับทั้งคุณและบัลมงต์."
ใบหน้าของบารอนโลวแดงก่ำไปด้วยความโกรธ. "นายมันไอ้คนทรยศ! นายมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษพวกเรา? เป็นแค่พ่อค้า, ไม่ใช่สาวกแห่งความเที่ยงธรรมสักหน่อย!"
"ใช่แล้ว, คุณพูดถูก, ผมเป็นแค่พ่อค้า. ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะอยู่ฝั่งที่ทำกำไรได้มากกว่า. ผมไม่มีความถูกต้องในหัวใจตั้งแต่แรกแล้ว. และเขาคนนั้นก็คือสาเหตุที่คุณกับบัลมงต์ต้องตายในวันนี้."
แร็บบิทพูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วมายังกริด. กริดต้องประหลาดใจทันที.
'เอ๋? เราหรือ?'
แร็บบิทโค้งคำนับให้กับกริดผู้ซึ่งกำลังสับสน. "ผมดีใจที่คุณปลอดภัย, กริด. คิดถูกจริงๆ ที่ให้ยูเฟอมิน่าจัดการเรื่องนี้."
"ทำไมนายถึงต้องทรยศบริษัทเมโร่เพราะฉันด้วย?"
แร็บบิทยิ้มเล็กน้อยและอธิบายต่อไป. "ผมเห็นทักษะการตีเหล็กอันแสนยอดเยี่ยมของคุณแล้ว. คุณคือแสงแห่งความหวังครั้งใหม่อย่างแท้จริง."
"แสงแห่งความหวังครั้งใหม่?"
"กริด, ผมคิดว่าคุณเองก็คงจะรู้ตัวดี. แต่ผมจะพูดย้ำอีกครั้งก็แล้วกัน, ศักยภาพในตัวคุณนั้นมีสูงมาก. สักวันผลงานที่คุณสร้างขึ้นจะต้องถูกซื้อขายในราคาที่สูงลิบ. แล้วเงินทองก็จะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย. แต่มันคงเป็นเรื่องยากที่คนๆ เดียวจะทำการใหญ่ได้. มันมีข้อจำกัดด้านธุรกิจที่จะเป็นตัวถ่วงไว้ให้คุณไม่เติบโต. ดังนั้น, ผมจึงขอเสนอตัวช่วยคุณเอง. ด้วยประสบการณ์อันมากล้นและเส้นสายธุรกิจของผม. มั่นใจได้เลยว่า, ผู้คนจำนวนมากจะต้องได้เห็นความยอดเยี่ยมของคุณ. ทั้งจากภายในอาณาจักรอีเทอนัล, จนไปถึงอาณาจักรอื่นที่อยู่ใกล้เคียง."
แร็บบิทพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น.
"พวกเราจะสร้างโรงตีเหล็กชั้นยอดขึ้นมา, โรงตีเหล็กที่มีผลกำไรเทียบเท่ากับบริษัทระดับกลาง. ถ้าหากคุณกับผมร่วมมือกัน, เราทำได้แน่. แต่เพื่อที่จะให้ชาวบ้านวินสตันยอมรับในตัวผม, มีแต่ต้องช่วยคุณออกมาอย่างปลอดภัย, และจัดการลอร์ดชั่วกับบริษัทเมโร่ด้วยมือคู่นี้เท่านั้น."
"อา... นายคิดทรยศบริษัทเมโร่เพราะอยากจะทำงานกับฉัน. ก็เลยจ้างวานให้ยูเฟอมิน่าไปช่วยฉันออกมา?"
"ถูกต้อง."
"เรื่องนั่นก็เข้าใจได้อยู่. แต่ทำไมต้องทำอะไรที่ยุ่งยากอย่างการทำให้ชาวบ้านวินสตันพึงพอใจด้วย?"
"ธุรกิจของคุณกับผมจะเริ่มที่โรงตีเหล็กข่าน. เพราะว่าสถานที่แห่งนั้นมีประวัติยาวนาน, จึงนับเป็นฐานหลักสำคัญของธุรกิจ. ในอีกความหมายหนึ่ง, ผมแค่ต้องการจะไปทำงานที่โรงตีเหล็กข่าน. แต่ผมจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรถ้าหากชาวบ้านยังไม่ยอมรับในตัวผม?"
"...อา, เข้าใจแล้ว. แล้วนายมีแผนจะทำธุรกิจยังไง?"
ยูเฟอมิน่าเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดตัดบทกับแร็บบิท. "จะยืนคุยกันอีกนานไหม? เราไม่มีเวลาแล้วนะ."
"เข้าใจแล้ว, คุณกริด. ผมเกรงว่าเรื่องรายละเอียดคงต้องอธิบายให้ฟังในภายหลัง. แต่สิ่งแรกและสิ่งเดียวที่คุณต้องรู้ในตอนนี้, ผมจะทำให้คุณร่ำรวยมหาศาลด้วยมือคู่นี้เอง. ขอตัวก่อนครับ."
แร็บบิทโค้งคำนับกริดอย่างนอบน้อมพร้อมกับหันหลังกลับไป. ชายผู้ซึ่งเคยเป็นศัตรูมาก่อน, ยามนี้กลับมาพูดคุยเรื่องธุรกิจกับเรา... กริดรู้สึกสับสนและปรับตัวไม่ทันกับสถานการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว.
"ช่วยไม่ได้แฮะ. บางทีเราคงเหนื่อยเกินไป, สมองก็เลยไม่แล่น. ล็อคเอ้าท์ออกไปพักผ่อนก่อนดีกว่า."
ยูเฟอมิน่าตะโกรเรียกกริดที่ทำท่าจะออกจากเกม. "เฮ้กริด, นายลืมอะไรไปรึเปล่า?"
'ผู้หญิงคนนี้, การที่เธอทำดีกับเรา, และลงมาช่วยเราก็เพียงเพราะได้รับภารกิจมาจากแร็บบิทเท่านั้น. แต่อย่างน้อย... เธอก็ช่วยเราออกมาได้สำเร็จและอุตส่าห์นำมีดมาคืนให้ด้วย.'
ถ้าไม่มียูเฟอมิน่าล่ะก็, กริดคงไม่มีทางทำภารกิจช่วยเหลือฮิวรอยสำเร็จ. กริดรู้สึกขอบคุณเธอจากใจจริง.
"ขอบใจมาก."
ยูเฟอมิน่าได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว. "นายคิดว่าฉันอยากฟังคำขอบคุณรึไง? นี่นายลืมไปแล้วจริงๆ หรอเนี่ย?"
"ลืมอะไร?"
"นายสัญญาว่าจะสร้างลูกแก้วเวทย์ระดับยูนีคให้."
"ฉะ--ฉันจะไปลืมได้ไงล่ะ? ต้องจำได้อยู่แล้วน่า."
ที่จริงเขาลืมไปแล้ว. ความรู้สึกขนลุกซู่แผ่ไปทั่วทั้งร่างกาย. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอไม่เตือนและเขาลืมไปเลย? ไม่ใช่ว่าหล่อนจะฆ่าเขาทิ้งหรอกรึ?
"ฉันทำให้แน่. แต่ว่า, ก่อนอื่นฉันต้องมีสูตรการผลิตลูกแก้วก่อน. แล้วก็, ฉันต้องการวัสดุในการสร้างด้วย."
กริดเป็นคนจริงใจและตรงไปตรงมา. เขาต้องการจะสร้างลูกแก้วระดับสูงให้ยูเฟอมิน่าจากใจจริง.
เพื่อตอบแทบบุณคุณที่เธอไปช่วยออกมางั้นหรือ? เปล่าเลย, กริดไม่ใช่คนแบบนั้นแน่. เขามีเหตุผลอื่น.
'นี่เป็นโอกาสที่จะได้เรียนสูตรผลิตลูกแก้วเวทย์ฟรี. อุวะฮ่าฮ่า!'
เท่านั้นยังไม่พอ. ทุกครั้งที่สร้างไอเท็มขึ้น, ระดับทักษะและค่าประสบการณ์ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย. มันจึงเป็นการดีที่จะได้พัฒนาทักษะของตนเองโดยใช้วัสดุที่คนอื่นหามาให้ฟรี.
"เข้าใจแล้ว. ไว้ฉันจะติดต่อกลับไปอีกครั้งในตอนที่พร้อมก็แล้วกัน."
ยูเฟอมิน่าบอกลากับกริดที่ตรงนี้.
กริดเอาแต่นึกถึงคำพูดของแร็บบิทซ้ำไปมาในหัวอยู่ตลอดเวลา 'ถ้าหากเราร่วมมือกับแร็บบิท, เราจะกลายเป็นช่างตีเหล็กที่มีกำไรเทียบเท่ากับธรุกิจระดับกลางได้เชียวหรือ?'
กริดก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้างว่าคลาสของเขาเป็นคลาสที่ร่ำรวย. โดยถ้าหากพยายามมากพอ, เขาจะสามารถปลดหนี้ได้ไม่ยาก. บางทีอาจถึงขึ้นซื้อรถหรูสักคันได้เลย. แต่สิ่งที่แร็บบิทพูด, มันยิ่งใหญ่เกินไปกว่านั้นมากนัก.
เศษเหรียญทองทีมีในตอนนี้มันเทียบไม่ได้เลยกับรายได้ของธุรกิจระดับเล็ก. หากเพียงกริดมีรายได้เทียบเท่าธุรกิจระดับเล็กล่ะก็, เขาก็จะสามารถซื้อรถหรูพร้อมกับปลดหนี้ได้ในพริบตา.
'ไม่ใช่แค่รถหรูแค่คันเดียว. แต่เราจะได้อาศัยอยู่ในแมนชั่นหลังใหญ่ไปพร้อมๆ กับรถหรูนับสิบ. ถ้าเรารวยขนาดนั้นจริง, อาฮยองจะต้องหันมามองเราแน่.'
ร่างกายของกริดสั่นระริกด้วยความตื่นเต้นดีใจ.
อีกฝากฝั่งหนึ่ง, แร็บบิทกำลังยืนสนทนากับยูเฟอมิน่าหลังจากที่กริดออกไปแล้ว.
"ดูเหมือนกริดจะหวาดกลัวคุณอยู่นะ. เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?"
"เห? มันจะเป็นแบบนั้นได้ไงเล่า?"
ยูเฟอมิน่าหัวเราะคิกคัก.
"กริดเป็นถึงคนที่สังหารอัศวินฉายากัมปนาทแดนเหนือผู้นั้นเชียวนะ. แถมอัศวินอีก 4 คนที่เหลือก็ต้องต้องยืนสั่นกลัวเพียงเพราะจิตสังหารที่เขาปล่อยออกมา. คุณคิดว่าคนแบบนั้นจะไปกลัวอะไรได้อีกล่ะ? เขาก็แค่แสร้งทำเป็นกลัวฉันเท่านั้นเอง."
"โฮ่... เดี๋ยวก่อน...? เมื่อครู่คุณว่ายังไงนะ?" แร็บบิทแสดงสีหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน. "กริดจัดการกับอัศวินได้เชียวรึ?"
"ใช่แล้ว."
"ไม่ใช่ว่ากริดเป็นช่างตีเหล็กหรอกหรือ?"
"ใช่, เขาเป็นช่างตีเหล็กแน่นอน. แต่ก็ยังแข็งแกร่งในเวลาเดียวกันด้วย. ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะ, ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคลาสใดกันแน่."
"......"
ช่างตีเหล็กที่สามารถสร้างไอเท็มระดับยูนีคขึ้นมาได้, แถมยังแข็งแกร่งในเวลาเดียวกันอีกด้วย? แร็บบิทเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางตัวตนที่แท้จริงของกริด.
'บางทีเขาอาจจะเป็น...'
ในตำนานเคยมีบันทึกกล่าวถึงช่างตีเหล็กคนหนึ่ง, นามของเขาคือแพ็กม่า. ผู้คนอาจเคยได้ยินชื่อของแพ็กม่าในความยอดเยี่ยมด้านการตีเหล็ก, แต่แร็บบิทได้สืบข้อมูลไปลึกมากกว่านั้น. จากเอกสารบางฉบับที่เกี่ยวข้องได้ทำให้เขาเขาพบว่า, บางที, แพ็กม่าอาจไม่ใช่ช่างตีเหล็กเพียงอย่างเดียว.
'ถ้าเขาได้รับสืบทอดทักษะของแพ็กม่ามาล่ะก็... ไม่เพียงแต่จะฝีมือการตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น, แต่ทักษะการต่อสู้ก็ยังไม่เป็นสองรองใคร. หรือว่ากริดจะเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่ากันนะ? ต้องใช่แน่. นั่นเป็นสิ่งเดียวที่อธิบายเรื่องนี้ได้.'
เขาไม่คิดนึกฝันมาก่อนว่าคนที่ตัดสินใจทำธุรกิจด้วยจะเป็นผู้สืบทอดของบุคคลในตำนาน! แร็บบิทดีใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้.
'โชคเข้าข้างแล้ว. นี่เป็นโอกาสทองที่จะขายผลงานซึ่งมีจิตวิญญานของแพ็กม่าสถิตอยู่.'
ถ้าหากเราได้ร่วมงานกับผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าจริง, กำไรที่ได้จะไม่ใช่แค่บริษัทระดับกลางแล้ว, แต่จะเทียบได้กับบริษัทขนาดใหญ่เลยทีเดียว. แร็บบิทรู้สึกอิ่มเอมหัวใจเป็นอย่างมาก. เขาเร่งฝีเท้าขึ้นจากเดิมเพื่อรีบจัดการกับบริษัทเมโร่ให้เร็วที่สุด.
"ร--แร็บบิท! ไอ้สารเลว!"
บัลมงต์และฟิลิปสันที่ไม่ได้รู้ถึงข่าวคราวการบุกชิงตัวนักโทษจากปราสาท, พวกมันจึงถูกจู่โจมอย่างฉับพลันโดยแร็บบิทและยูเฟอมิน่า. ฟิลิปสันถูกสังหารในชั่วพริบตาจากยูเฟอมิน่าที่กำลังโกรธจัด, เพราะเธอได้รู้เรื่องที่มันไปลักพาตัวเด็กผู้หญิงมา.
บัลมงต์และบารอนโลวถูกส่งตัวไปยังเมืองฟรอนเทียร์, เมืองหลวงของเอิร์ลสไตม.
ทั้งคู่ถูกสั่งประหารในทันที.
แต่มันยังไม่จบเพียงเท่านี้.
"มันก็จริงอยู่ที่แร็บบิทได้ช่วยเหลือชาวบ้านวินสตันจากความชั่วร้าย, แต่ตัวเขาเองก็เป็นที่รู้จักในนามมือขวาแห่งบริษัทเมโร่มาอย่างยาวนาน. แร็บบิทจึงถือว่าเข้าข่ายมีความผิดร้ายแรงที่เคยทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนเช่นกัน. ดังนั้น, ข้าขอสั่งจำคุกเขาเป็นเวลา 10 ปี."
ความผิดพลาดเดียวของแร็บบิทในแผนการครั้งนี้ก็คือการที่เขาไม่รู้จักเอิร์ลสไตมดีพอ. แร็บบิทคิดว่าการจับตัวบารอนโลวและบัลมงต์มาส่งจะเพียงพอต่อการชดเชยความผิดในอดีตของตนได้. ทว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น, เอิร์ลสไตมตัดสินโทษจำคุกเขาเป็นเวลานานถึง 10 ปี.
แร็บบิทไม่ปลื้มใจเท่าใดนัก, แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก. เพราะนั่นเป็นคำตัดสินอันเด็ดขาดจากปากเอิร์ลสไตมเอง.
"น่าเสียดายนัก, อุตส่าห์ได้สร้างความรู้จักไว้กับคุณกริดแล้วเชียว... น่าเสียดายจริงๆ. แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รับรู้ถึงความดีของเรา. เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว."
แร็บบิทยิ้มเล็กน้อยในขณะที่กำลังถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ. เขารู้สึกพึงพอใจที่ตนเองได้กลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของชายหนุ่มที่กำลังจะเติบโตไปเป็นตำนานของโลกใบนี้.
...
...
วินสตันกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่.
หมู่บ้านวินสตันถูกยกระดับกลายเป็นเมืองวินสตันอย่างเป็นทางการ. และลอร์ดคนใหม่ของวินสตันก็คือตัวของเอิร์ลสไตมเอง. สิ้นค้าจำนวนมากถูกแจกจ่ายไปยังชาวบ้านเพื่อชดเชยเรื่องที่เกิดขึ้น. หนี้สินทั้งหมดที่เกิดจากความไม่ชอบธรรมได้ถูกยกเลิก.
ชาวเมืองวินสตันเริ่มพูดกันปากต่อปากถึงวีรษุรุษกลุ่มใหม่ที่ได้ปลดปล่อยพวกเขาจากความชั่วร้าย.
"พวกนายรู้จักคนที่ชื่อแร็บบิทรึเปล่า? เดิมทีนั้น, แร็บบิทคือมือขวาคนสำคัญของบริษัทเมโร่. แต่เขาทนไม่ได้ที่เห็นบัลมงต์และลอร์ดชั่วกดขี่ชาวบ้าน, จึงได้ก่อกบฏขึ้นเพื่อขจัดคนชั่วให้พ้นจากวินสตันไป. แม้ในตอนนี้เขาจะอยู่ในคุก, แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่พวกเราสุขสบายในทุกวันนี้ล้วนเพราะเขา."
"แล้วนายรู้จักหญิงสาวที่สวยที่สุดในโลกรึเปล่า? จิตใจของเธอนั้นงดงามเฉกเช่นเดียวกับใบหน้า, เธอเสี่ยงชีวิตบุกเข้าไปในคุกใต้ดินปราสาทวินสตันเพื่อช่วยชาวบ้านออกมาเป็นจำนวนมาก. เธอคือแกนหลักในการนำพาความสงบสุขของวินสตันกลับมา."
"ยังมีอีกคน, ช่างตีเหล็กหนุ่มผู้มากไปด้วยพรสวรรค์. ชายคนนี้เปี่ยมด้วยคุณธรรมความถูกต้องในหัวใจ. เขาเองก็เป็นหนึ่งคนที่สู้อย่างสุดความสามารถเพื่อต่อต้านลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่. อีกทั้งเขายังพยายามจะปกป้องโรงตีเหล็กของข่าน, โดยการเสนอตัวเข้าแข่งกับบริษัทเมโร่แทนข่านที่สุขภาพไม่ดี. เท่านั้นยังไม่พอ, เขายังเสี่ยงชีวิตเข้าไปในคุกใต้ดินเพื่อช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่ถูกจับเพราะพยายามออกจากหมู่บ้านไปร้องเรียนกับเอิร์ลสไตม, และช่างตีเหล็กหนุ่มคนนั้นก็สามารถช่วยเหลือออกมาได้จนสำเร็จ. ตัวฉันอายุก็ปาไป 80 แล้ว, เด็กคนนั้นมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลานของฉัน. แต่ฉันกลับรู้สึกนับถือในคุณธรรมและความกล้าหาญของเขาจากใจจริง. การที่เด็กหนุ่มจะมีจิตใจแน่วแน่เช่นนี้นับว่าหายากแล้ว."
แร็บบิท, หญิงงาม, และช่างตีเหล็กหนุ่ม.
นักเดินทางที่มายังเมืองวินสตันต่างได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้จากปากของชาวเมือง. เห็นได้ชัดว่าค่าชื่อเสียงในวินสตันของทั้งสามได้เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัดแล้ว.
ไอรีน, แม่เมืองคนใหม่ของวินสตัน, ได้ให้ความสนใจในตัวหญิงงามและช่างตีเหล็กหนุ่มเป็นอย่างมาก.
"คุณงามความดีของพวกเขาต้องได้รับการเชิดชู. ฉันอยากจะพบหน้าพวกเขาสักครั้งจัง."
เท่านั้นยังไม่พอ. กริดยังมีอีก 4 สมญานามสำคัญที่คนอื่นไม่มี. เดิมทีแล้วในซาทิสฟาย, การจะได้มาแต่ละสมญานามนับว่าแสนยากลำบาก. ทั้ง 4 สมญานามที่กริดมี, ล้วนแล้วแต่พบได้เฉพาะผู้เล่นระดับสูงเท่านั้น. แต่กริดกลับมีทั้ง 4 อันด้วยเลเวลเพียง 45. อีกทั้งเขายังเป็นคลาสเลเจนดารีเพียงคนเดียวในเกม. เป็นหน้าตาสถานะตัวละครที่ไม่ว่าใครมาเห็นก็คงไม่เชื่อสายตา.
แต่กริดกลับรู้สึกหงุดหงิดกับมันมากกว่าจะพึงพอใจ.
'ชิ! อุตส่าห์ลงทุนตีเหล็กทั้งวันทั้งคืนเพื่อหวังเพิ่มค่าสถานะ. แถมรับภารกิจยากๆ มาทำอีกมากมาย, แล้วนี่มันอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าเราเพิ่งเอาชนะอัศวินมาได้รึไง? ทำไมค่าสถานะถึงยังน้อยขนาดนี้ได้? มันควรจะมีอย่างน้อย 300 แต้มในทุกค่าสถานะสิ. เป็นคลาสเลเจนดารีประสาอะไร, ห่วยแตกชะมัด...'
'บ้าฉิบ! ยูเฟอมิน่าที่มีแค่คลาสอีปิกกลับโกงได้ถึงขนาดนั้น. หล่อนสามารถใช้เวทย์มนต์ทุกชนิดบนโลกได้โดยไม่ต้องร่ายคาถาเชียวนะ...'
กริดบ่นอุบอิบพร้อมกับชำเลืองสายตาไปมองยังยูเฟอมิน่าและแร็บบิท.
ยูเฟอมิน่ากำลังสวมชุดจอมเวทย์, ส่วนแร็บบิทนั้นสวมเกราะโซ่และห้อยดาบราคาแพงอยู่ที่เอว. ทางด้านลูกน้องของแร็บบิทต่างมีอาวุธครบมือไม่ว่าจะเป็นดาบ, หอก, ธนู.
'พวกมันไม่ได้สวมเกราะหนัก... ถ้าหากเราเพิ่มพลังโจมตีเข้าไปล่ะก็, คงสามารถจัดการได้อย่างไม่ยากเย็นนัก. แต่ในตอนนี้เราเองก็ไม่ได้สวมเกราะอยู่. ทางทีดีควรจะเพิ่มพลังป้องกันกับความอดทนให้มากเข้าไว้จะดีกว่า. ส่วนค่าความว่องไวนั้นมีมากพอแล้วจากมีดสั้นในอุดมคติ.'
เป็นสถานการณ์สิ้นหวังอย่างสุดขีด... กริดรีบตัดสินใจลวกๆ โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนนัก.
'ใช้ 150 แต้มเพิ่มค่าพละกำลัง, และ 90 แต้มเพิ่มค่าความอดทน.'
ในการที่กริดเป็นช่างตีเหล็ก, ค่าสถานะที่เหมาะสมที่สุดก็คือความชำนาญ. ยิ่งมีความชำนาญมาก, ระดับไอเท็มที่ผลิตขึ้นก็จะยิ่งสูง, และยังใช้เวลาในการทำน้อยลงด้วย. แต่กริดนั้นเกิดมาเป็นสายเลือดนักรบ. เขามักมีความต้องการที่จะสู้รบให้เก่งอยู่เสมอ. และเขาก็คิดว่ามันคงเป็นการดี, หากทำให้ตัวละครแข็งแกร่งเข้าไว้, จะได้รับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ทุกชนิด.
'อีกอย่าง, ค่าความชำนาญของเราก็เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่สร้างไอเท็มอยู่แล้ว. จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทุ่มเทให้มันมากเกินไป.'
ยิ่งไปกว่านั้น, การได้รับสมญานาม 'ผู้สร้างไอเท็มระดับยูนีคคนแรก' จากการสร้างมีดสั้นในอุดมคติขึ้นมา, ทำให้กริดได้รับค่าความชำนาญมากถึง 200 แต้มเป็นรางวัล. เขาจึงไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ไม่ได้นำแต้มคงเหลือไปใช้กับความชำนาญ.
[ ท่านจะนำแต้มสถานะคงเหลือไปใช้เพิ่มค่าพละกำลังเป็นจำนวน 150 แต้ม. กรุณายืนยัน. ]
"ยืนยัน."
[ เมื่อค่าสถานะถูกใช้ไปแล้วจะไม่มีการนำกลับคืนมาได้. กรุณายืนยัน. ]
'ยืนยัน'
[ ท่านจะนำแต้มสถานะคงเหลือไปใช้เพิ่มค่าความอดทนเป็นจำนวน 90 แต้ม. กรุณายืนยัน. ]
'เออ, เลิกถามสักที, ไม่มีเวลาแล้ว.'
[ ค่าสถานะคงเหลือถูกใช้งาน. ]
ในตอนนี้, กริดมีค่าพละกำลังที่สูงถึง 316 แต้ม, และค่าความอดทนอีก 334 แต้ม. โดยที่ค่าเฉลี่ยของผู้เล่นช่างตีเหล็กทั่วไปจะอยู่ที่ 80 และ 100 แต้มตามลำดับ. ค่าสถานะของกริดจึงนับว่าสูงกว่าชาวบ้านหลายเท่าตัว.
ไม่สิ, ถ้าจะเปรียบเทียบให้ถูก, ต้องนำค่าสถานะของกริดไปเทียบกับคลาสสายต่อสู้จึงจะเห็นภาพชัดเจนกว่า.
คลาสสายต่อสู้อื่นๆ ที่เลเวล 45 จะมีค่าเฉลี่ยของพละกำลังอยู่ที่ 210 แต้ม, และความอดทนอยู่ที่ 100 แต้ม. ส่วนคลาสสายแท้งค์หรือสายป้องกันอื่นๆ จะมีค่าสถานะเฉลี่ยอยู่ที่ 100 และ 230 ตามลำดับ. ทางด้านคลาสสายความเร็วจะอยู่ที่ 120 และ 80 ตามลำดับ. เหนือสิ่งอื่นใด, ไม่มีคลาสใดในเลเวล 45 ที่มีค่าสถานะรวมทั้งหมดเกิน 500 แต้มเหมือนกับกริดอีกแล้ว.
หากเทียบกับผู้เล่นทั่วไป, ตัวละครของกริดจะอยู่เหนือคนอื่นที่เลเวลใกล้เคียงกันอยู่หลายขุม. แต่ตัวของกริดเองกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น.
เริ่มตั้งแต่เอิร์ลอัชเชอร์และอัศวินของมัน, โดรัน, ยูร่า, เลโอ, จนมาถึงยูเฟอมิน่า. นับตั้งแต่ที่กริดได้เป็นคลาสเลเจนดารี, โชคชะตาของเขาก็ต้องนำพาไปพบกับภารกิจระดับสูงและคนเก่งๆ อยู่ตลอดเวลา. ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กริดจะคิดว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่นอยู่เสมอ.
แต่ความจริงคืออะไรรู้มั้ย? ยามใดที่กริดถือมีดสั้นในอุดมคติอยู่ในมือ, เขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้เล่นสายต่อสู้เลเวล 100 เสียอีก.
โดยไม่รอเป็นฝ่ายถูกโจมตีก่อน, กริดรีบชิงจังหวะหมายจะโจมตีเข้าใส่ยูเฟอมิน่าและแร็บบิท.
แต่ทันใดนั้น...
"เฮ้แร็บบิท! ทำไมนายถึงเอาแต่พูดกับนังปีศาจนั่นอยู่ได้ล่ะ? รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!"
คำพูดของบารอนโลวทำให้แร็บบิทต้องหันไปมอง. หลังจากนั้นแร็บบิทก็ตอบกลับไปด้วยสีหน้าอันเย็นชาไร้อารมณ์. "คุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกรึ? ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยคุณ. ผมคือคนที่ว่าจ้างให้ยูเฟอมิน่าจัดการกับคุณตั้งแต่แรกแล้ว."
"อะไรนะ?"
"เอ๋?"
บารอนโลวกับกริดส่งเสียงขึ้นพร้อมกัน. แร็บบิทรีบพูดจาตัดบทออกมาในทันที. "ผมไม่ใช่คนของบริษัทเมโร่อีกต่อไปแล้ว."
"หมายความว่าไง...?"
"บัลมงต์เริ่มจะขูดรีดชาวบ้านจนล้ำเส้นเกินไป. มันเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ที่เขาผูกการค้าของวินสตันเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวด้วยอำนาจจากคุณ. ซึ่งแน่นอนว่า, คนที่อ่านสถานการณ์เช่นนี้ไม่ออก, มักจะอยู่ได้ไม่นานนัก. ด้วยอนาคตอันมืดมนของบริษัทเมโร่, ผมจึงตัดสินใจลาออกก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป. และในวันนี้, ผมมาเพื่อจัดการกับทั้งคุณและบัลมงต์."
ใบหน้าของบารอนโลวแดงก่ำไปด้วยความโกรธ. "นายมันไอ้คนทรยศ! นายมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษพวกเรา? เป็นแค่พ่อค้า, ไม่ใช่สาวกแห่งความเที่ยงธรรมสักหน่อย!"
"ใช่แล้ว, คุณพูดถูก, ผมเป็นแค่พ่อค้า. ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะอยู่ฝั่งที่ทำกำไรได้มากกว่า. ผมไม่มีความถูกต้องในหัวใจตั้งแต่แรกแล้ว. และเขาคนนั้นก็คือสาเหตุที่คุณกับบัลมงต์ต้องตายในวันนี้."
แร็บบิทพูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วมายังกริด. กริดต้องประหลาดใจทันที.
'เอ๋? เราหรือ?'
แร็บบิทโค้งคำนับให้กับกริดผู้ซึ่งกำลังสับสน. "ผมดีใจที่คุณปลอดภัย, กริด. คิดถูกจริงๆ ที่ให้ยูเฟอมิน่าจัดการเรื่องนี้."
"ทำไมนายถึงต้องทรยศบริษัทเมโร่เพราะฉันด้วย?"
แร็บบิทยิ้มเล็กน้อยและอธิบายต่อไป. "ผมเห็นทักษะการตีเหล็กอันแสนยอดเยี่ยมของคุณแล้ว. คุณคือแสงแห่งความหวังครั้งใหม่อย่างแท้จริง."
"แสงแห่งความหวังครั้งใหม่?"
"กริด, ผมคิดว่าคุณเองก็คงจะรู้ตัวดี. แต่ผมจะพูดย้ำอีกครั้งก็แล้วกัน, ศักยภาพในตัวคุณนั้นมีสูงมาก. สักวันผลงานที่คุณสร้างขึ้นจะต้องถูกซื้อขายในราคาที่สูงลิบ. แล้วเงินทองก็จะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย. แต่มันคงเป็นเรื่องยากที่คนๆ เดียวจะทำการใหญ่ได้. มันมีข้อจำกัดด้านธุรกิจที่จะเป็นตัวถ่วงไว้ให้คุณไม่เติบโต. ดังนั้น, ผมจึงขอเสนอตัวช่วยคุณเอง. ด้วยประสบการณ์อันมากล้นและเส้นสายธุรกิจของผม. มั่นใจได้เลยว่า, ผู้คนจำนวนมากจะต้องได้เห็นความยอดเยี่ยมของคุณ. ทั้งจากภายในอาณาจักรอีเทอนัล, จนไปถึงอาณาจักรอื่นที่อยู่ใกล้เคียง."
แร็บบิทพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น.
"พวกเราจะสร้างโรงตีเหล็กชั้นยอดขึ้นมา, โรงตีเหล็กที่มีผลกำไรเทียบเท่ากับบริษัทระดับกลาง. ถ้าหากคุณกับผมร่วมมือกัน, เราทำได้แน่. แต่เพื่อที่จะให้ชาวบ้านวินสตันยอมรับในตัวผม, มีแต่ต้องช่วยคุณออกมาอย่างปลอดภัย, และจัดการลอร์ดชั่วกับบริษัทเมโร่ด้วยมือคู่นี้เท่านั้น."
"อา... นายคิดทรยศบริษัทเมโร่เพราะอยากจะทำงานกับฉัน. ก็เลยจ้างวานให้ยูเฟอมิน่าไปช่วยฉันออกมา?"
"ถูกต้อง."
"เรื่องนั่นก็เข้าใจได้อยู่. แต่ทำไมต้องทำอะไรที่ยุ่งยากอย่างการทำให้ชาวบ้านวินสตันพึงพอใจด้วย?"
"ธุรกิจของคุณกับผมจะเริ่มที่โรงตีเหล็กข่าน. เพราะว่าสถานที่แห่งนั้นมีประวัติยาวนาน, จึงนับเป็นฐานหลักสำคัญของธุรกิจ. ในอีกความหมายหนึ่ง, ผมแค่ต้องการจะไปทำงานที่โรงตีเหล็กข่าน. แต่ผมจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรถ้าหากชาวบ้านยังไม่ยอมรับในตัวผม?"
"...อา, เข้าใจแล้ว. แล้วนายมีแผนจะทำธุรกิจยังไง?"
ยูเฟอมิน่าเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดตัดบทกับแร็บบิท. "จะยืนคุยกันอีกนานไหม? เราไม่มีเวลาแล้วนะ."
"เข้าใจแล้ว, คุณกริด. ผมเกรงว่าเรื่องรายละเอียดคงต้องอธิบายให้ฟังในภายหลัง. แต่สิ่งแรกและสิ่งเดียวที่คุณต้องรู้ในตอนนี้, ผมจะทำให้คุณร่ำรวยมหาศาลด้วยมือคู่นี้เอง. ขอตัวก่อนครับ."
แร็บบิทโค้งคำนับกริดอย่างนอบน้อมพร้อมกับหันหลังกลับไป. ชายผู้ซึ่งเคยเป็นศัตรูมาก่อน, ยามนี้กลับมาพูดคุยเรื่องธุรกิจกับเรา... กริดรู้สึกสับสนและปรับตัวไม่ทันกับสถานการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว.
"ช่วยไม่ได้แฮะ. บางทีเราคงเหนื่อยเกินไป, สมองก็เลยไม่แล่น. ล็อคเอ้าท์ออกไปพักผ่อนก่อนดีกว่า."
ยูเฟอมิน่าตะโกรเรียกกริดที่ทำท่าจะออกจากเกม. "เฮ้กริด, นายลืมอะไรไปรึเปล่า?"
'ผู้หญิงคนนี้, การที่เธอทำดีกับเรา, และลงมาช่วยเราก็เพียงเพราะได้รับภารกิจมาจากแร็บบิทเท่านั้น. แต่อย่างน้อย... เธอก็ช่วยเราออกมาได้สำเร็จและอุตส่าห์นำมีดมาคืนให้ด้วย.'
ถ้าไม่มียูเฟอมิน่าล่ะก็, กริดคงไม่มีทางทำภารกิจช่วยเหลือฮิวรอยสำเร็จ. กริดรู้สึกขอบคุณเธอจากใจจริง.
"ขอบใจมาก."
ยูเฟอมิน่าได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว. "นายคิดว่าฉันอยากฟังคำขอบคุณรึไง? นี่นายลืมไปแล้วจริงๆ หรอเนี่ย?"
"ลืมอะไร?"
"นายสัญญาว่าจะสร้างลูกแก้วเวทย์ระดับยูนีคให้."
"ฉะ--ฉันจะไปลืมได้ไงล่ะ? ต้องจำได้อยู่แล้วน่า."
ที่จริงเขาลืมไปแล้ว. ความรู้สึกขนลุกซู่แผ่ไปทั่วทั้งร่างกาย. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอไม่เตือนและเขาลืมไปเลย? ไม่ใช่ว่าหล่อนจะฆ่าเขาทิ้งหรอกรึ?
"ฉันทำให้แน่. แต่ว่า, ก่อนอื่นฉันต้องมีสูตรการผลิตลูกแก้วก่อน. แล้วก็, ฉันต้องการวัสดุในการสร้างด้วย."
กริดเป็นคนจริงใจและตรงไปตรงมา. เขาต้องการจะสร้างลูกแก้วระดับสูงให้ยูเฟอมิน่าจากใจจริง.
เพื่อตอบแทบบุณคุณที่เธอไปช่วยออกมางั้นหรือ? เปล่าเลย, กริดไม่ใช่คนแบบนั้นแน่. เขามีเหตุผลอื่น.
'นี่เป็นโอกาสที่จะได้เรียนสูตรผลิตลูกแก้วเวทย์ฟรี. อุวะฮ่าฮ่า!'
เท่านั้นยังไม่พอ. ทุกครั้งที่สร้างไอเท็มขึ้น, ระดับทักษะและค่าประสบการณ์ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย. มันจึงเป็นการดีที่จะได้พัฒนาทักษะของตนเองโดยใช้วัสดุที่คนอื่นหามาให้ฟรี.
"เข้าใจแล้ว. ไว้ฉันจะติดต่อกลับไปอีกครั้งในตอนที่พร้อมก็แล้วกัน."
ยูเฟอมิน่าบอกลากับกริดที่ตรงนี้.
กริดเอาแต่นึกถึงคำพูดของแร็บบิทซ้ำไปมาในหัวอยู่ตลอดเวลา 'ถ้าหากเราร่วมมือกับแร็บบิท, เราจะกลายเป็นช่างตีเหล็กที่มีกำไรเทียบเท่ากับธรุกิจระดับกลางได้เชียวหรือ?'
กริดก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้างว่าคลาสของเขาเป็นคลาสที่ร่ำรวย. โดยถ้าหากพยายามมากพอ, เขาจะสามารถปลดหนี้ได้ไม่ยาก. บางทีอาจถึงขึ้นซื้อรถหรูสักคันได้เลย. แต่สิ่งที่แร็บบิทพูด, มันยิ่งใหญ่เกินไปกว่านั้นมากนัก.
เศษเหรียญทองทีมีในตอนนี้มันเทียบไม่ได้เลยกับรายได้ของธุรกิจระดับเล็ก. หากเพียงกริดมีรายได้เทียบเท่าธุรกิจระดับเล็กล่ะก็, เขาก็จะสามารถซื้อรถหรูพร้อมกับปลดหนี้ได้ในพริบตา.
'ไม่ใช่แค่รถหรูแค่คันเดียว. แต่เราจะได้อาศัยอยู่ในแมนชั่นหลังใหญ่ไปพร้อมๆ กับรถหรูนับสิบ. ถ้าเรารวยขนาดนั้นจริง, อาฮยองจะต้องหันมามองเราแน่.'
ร่างกายของกริดสั่นระริกด้วยความตื่นเต้นดีใจ.
อีกฝากฝั่งหนึ่ง, แร็บบิทกำลังยืนสนทนากับยูเฟอมิน่าหลังจากที่กริดออกไปแล้ว.
"ดูเหมือนกริดจะหวาดกลัวคุณอยู่นะ. เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?"
"เห? มันจะเป็นแบบนั้นได้ไงเล่า?"
ยูเฟอมิน่าหัวเราะคิกคัก.
"กริดเป็นถึงคนที่สังหารอัศวินฉายากัมปนาทแดนเหนือผู้นั้นเชียวนะ. แถมอัศวินอีก 4 คนที่เหลือก็ต้องต้องยืนสั่นกลัวเพียงเพราะจิตสังหารที่เขาปล่อยออกมา. คุณคิดว่าคนแบบนั้นจะไปกลัวอะไรได้อีกล่ะ? เขาก็แค่แสร้งทำเป็นกลัวฉันเท่านั้นเอง."
"โฮ่... เดี๋ยวก่อน...? เมื่อครู่คุณว่ายังไงนะ?" แร็บบิทแสดงสีหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน. "กริดจัดการกับอัศวินได้เชียวรึ?"
"ใช่แล้ว."
"ไม่ใช่ว่ากริดเป็นช่างตีเหล็กหรอกหรือ?"
"ใช่, เขาเป็นช่างตีเหล็กแน่นอน. แต่ก็ยังแข็งแกร่งในเวลาเดียวกันด้วย. ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะ, ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคลาสใดกันแน่."
"......"
ช่างตีเหล็กที่สามารถสร้างไอเท็มระดับยูนีคขึ้นมาได้, แถมยังแข็งแกร่งในเวลาเดียวกันอีกด้วย? แร็บบิทเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางตัวตนที่แท้จริงของกริด.
'บางทีเขาอาจจะเป็น...'
ในตำนานเคยมีบันทึกกล่าวถึงช่างตีเหล็กคนหนึ่ง, นามของเขาคือแพ็กม่า. ผู้คนอาจเคยได้ยินชื่อของแพ็กม่าในความยอดเยี่ยมด้านการตีเหล็ก, แต่แร็บบิทได้สืบข้อมูลไปลึกมากกว่านั้น. จากเอกสารบางฉบับที่เกี่ยวข้องได้ทำให้เขาเขาพบว่า, บางที, แพ็กม่าอาจไม่ใช่ช่างตีเหล็กเพียงอย่างเดียว.
'ถ้าเขาได้รับสืบทอดทักษะของแพ็กม่ามาล่ะก็... ไม่เพียงแต่จะฝีมือการตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น, แต่ทักษะการต่อสู้ก็ยังไม่เป็นสองรองใคร. หรือว่ากริดจะเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่ากันนะ? ต้องใช่แน่. นั่นเป็นสิ่งเดียวที่อธิบายเรื่องนี้ได้.'
เขาไม่คิดนึกฝันมาก่อนว่าคนที่ตัดสินใจทำธุรกิจด้วยจะเป็นผู้สืบทอดของบุคคลในตำนาน! แร็บบิทดีใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้.
'โชคเข้าข้างแล้ว. นี่เป็นโอกาสทองที่จะขายผลงานซึ่งมีจิตวิญญานของแพ็กม่าสถิตอยู่.'
ถ้าหากเราได้ร่วมงานกับผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าจริง, กำไรที่ได้จะไม่ใช่แค่บริษัทระดับกลางแล้ว, แต่จะเทียบได้กับบริษัทขนาดใหญ่เลยทีเดียว. แร็บบิทรู้สึกอิ่มเอมหัวใจเป็นอย่างมาก. เขาเร่งฝีเท้าขึ้นจากเดิมเพื่อรีบจัดการกับบริษัทเมโร่ให้เร็วที่สุด.
"ร--แร็บบิท! ไอ้สารเลว!"
บัลมงต์และฟิลิปสันที่ไม่ได้รู้ถึงข่าวคราวการบุกชิงตัวนักโทษจากปราสาท, พวกมันจึงถูกจู่โจมอย่างฉับพลันโดยแร็บบิทและยูเฟอมิน่า. ฟิลิปสันถูกสังหารในชั่วพริบตาจากยูเฟอมิน่าที่กำลังโกรธจัด, เพราะเธอได้รู้เรื่องที่มันไปลักพาตัวเด็กผู้หญิงมา.
บัลมงต์และบารอนโลวถูกส่งตัวไปยังเมืองฟรอนเทียร์, เมืองหลวงของเอิร์ลสไตม.
ทั้งคู่ถูกสั่งประหารในทันที.
แต่มันยังไม่จบเพียงเท่านี้.
"มันก็จริงอยู่ที่แร็บบิทได้ช่วยเหลือชาวบ้านวินสตันจากความชั่วร้าย, แต่ตัวเขาเองก็เป็นที่รู้จักในนามมือขวาแห่งบริษัทเมโร่มาอย่างยาวนาน. แร็บบิทจึงถือว่าเข้าข่ายมีความผิดร้ายแรงที่เคยทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนเช่นกัน. ดังนั้น, ข้าขอสั่งจำคุกเขาเป็นเวลา 10 ปี."
ความผิดพลาดเดียวของแร็บบิทในแผนการครั้งนี้ก็คือการที่เขาไม่รู้จักเอิร์ลสไตมดีพอ. แร็บบิทคิดว่าการจับตัวบารอนโลวและบัลมงต์มาส่งจะเพียงพอต่อการชดเชยความผิดในอดีตของตนได้. ทว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น, เอิร์ลสไตมตัดสินโทษจำคุกเขาเป็นเวลานานถึง 10 ปี.
แร็บบิทไม่ปลื้มใจเท่าใดนัก, แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก. เพราะนั่นเป็นคำตัดสินอันเด็ดขาดจากปากเอิร์ลสไตมเอง.
"น่าเสียดายนัก, อุตส่าห์ได้สร้างความรู้จักไว้กับคุณกริดแล้วเชียว... น่าเสียดายจริงๆ. แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รับรู้ถึงความดีของเรา. เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว."
แร็บบิทยิ้มเล็กน้อยในขณะที่กำลังถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ. เขารู้สึกพึงพอใจที่ตนเองได้กลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของชายหนุ่มที่กำลังจะเติบโตไปเป็นตำนานของโลกใบนี้.
...
( ผู้แปล : ขออธิบายเรื่อง 'ยศ' และ 'ตำแหน่ง' เล็กน้อยนะครับ. ในเรื่องที่เคยแปลมา ยศของขุนนางเท่าที่รู้ตอนนี้จะมี 'เอิร์ล' กับ 'บารอน' ซึ่งเอิร์ลจะเป็นยศที่สูงกว่า ยศในทีนี้เหมือนกับ พลเอก พลโท พลตรีน่ะแหละครับ. ต่อไปก็เรื่องตำแหน่ง ตำแหน่ง 'ลอร์ด' นั้นเหมือนกับตำแหน่ง ผบทบ. หรือตำแหน่งแม่ทัพภาค. ของทางทหารไทย. ดังนั้น พวกเจ้าเมือง/ ผู้ปกครองหมู่บ้าน จะมี 'ตำแหน่ง' เป็น 'ลอร์ด' ของหมู่บ้านนั้น/เมืองนั้น. )
...
วินสตันกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่.
หมู่บ้านวินสตันถูกยกระดับกลายเป็นเมืองวินสตันอย่างเป็นทางการ. และลอร์ดคนใหม่ของวินสตันก็คือตัวของเอิร์ลสไตมเอง. สิ้นค้าจำนวนมากถูกแจกจ่ายไปยังชาวบ้านเพื่อชดเชยเรื่องที่เกิดขึ้น. หนี้สินทั้งหมดที่เกิดจากความไม่ชอบธรรมได้ถูกยกเลิก.
ชาวเมืองวินสตันเริ่มพูดกันปากต่อปากถึงวีรษุรุษกลุ่มใหม่ที่ได้ปลดปล่อยพวกเขาจากความชั่วร้าย.
"พวกนายรู้จักคนที่ชื่อแร็บบิทรึเปล่า? เดิมทีนั้น, แร็บบิทคือมือขวาคนสำคัญของบริษัทเมโร่. แต่เขาทนไม่ได้ที่เห็นบัลมงต์และลอร์ดชั่วกดขี่ชาวบ้าน, จึงได้ก่อกบฏขึ้นเพื่อขจัดคนชั่วให้พ้นจากวินสตันไป. แม้ในตอนนี้เขาจะอยู่ในคุก, แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่พวกเราสุขสบายในทุกวันนี้ล้วนเพราะเขา."
"แล้วนายรู้จักหญิงสาวที่สวยที่สุดในโลกรึเปล่า? จิตใจของเธอนั้นงดงามเฉกเช่นเดียวกับใบหน้า, เธอเสี่ยงชีวิตบุกเข้าไปในคุกใต้ดินปราสาทวินสตันเพื่อช่วยชาวบ้านออกมาเป็นจำนวนมาก. เธอคือแกนหลักในการนำพาความสงบสุขของวินสตันกลับมา."
"ยังมีอีกคน, ช่างตีเหล็กหนุ่มผู้มากไปด้วยพรสวรรค์. ชายคนนี้เปี่ยมด้วยคุณธรรมความถูกต้องในหัวใจ. เขาเองก็เป็นหนึ่งคนที่สู้อย่างสุดความสามารถเพื่อต่อต้านลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่. อีกทั้งเขายังพยายามจะปกป้องโรงตีเหล็กของข่าน, โดยการเสนอตัวเข้าแข่งกับบริษัทเมโร่แทนข่านที่สุขภาพไม่ดี. เท่านั้นยังไม่พอ, เขายังเสี่ยงชีวิตเข้าไปในคุกใต้ดินเพื่อช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่ถูกจับเพราะพยายามออกจากหมู่บ้านไปร้องเรียนกับเอิร์ลสไตม, และช่างตีเหล็กหนุ่มคนนั้นก็สามารถช่วยเหลือออกมาได้จนสำเร็จ. ตัวฉันอายุก็ปาไป 80 แล้ว, เด็กคนนั้นมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลานของฉัน. แต่ฉันกลับรู้สึกนับถือในคุณธรรมและความกล้าหาญของเขาจากใจจริง. การที่เด็กหนุ่มจะมีจิตใจแน่วแน่เช่นนี้นับว่าหายากแล้ว."
แร็บบิท, หญิงงาม, และช่างตีเหล็กหนุ่ม.
นักเดินทางที่มายังเมืองวินสตันต่างได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้จากปากของชาวเมือง. เห็นได้ชัดว่าค่าชื่อเสียงในวินสตันของทั้งสามได้เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัดแล้ว.
ไอรีน, แม่เมืองคนใหม่ของวินสตัน, ได้ให้ความสนใจในตัวหญิงงามและช่างตีเหล็กหนุ่มเป็นอย่างมาก.
"คุณงามความดีของพวกเขาต้องได้รับการเชิดชู. ฉันอยากจะพบหน้าพวกเขาสักครั้งจัง."
แรบบิทนอนคุก สรุปกริดก็จนต่อไป ว่าแต่แม่เมืองคนใหม่นี่ใช่วาสที่ไปช่วยในเควสแรกหลังเปลี่ยนคลาสป่าว ถ้าใช่นี่คงไม่ลำบากเท่าไหร่แล้วมั๊ง
ReplyDeleteคนที่ไปช่วยตอนที่โดรันบังคับรับเควสสินะ
ReplyDeleteหนทางร่ำรวยยังอีกยาวไกลจริงๆ
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteพระเอกสวะ
ReplyDelete