จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 55

           เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่เรามิได้ก้าวขาออกไปจากโรงตีเหล็กข่านเลยสักครั้ง นับตั้งแต่วินาทีที่เชื่อมต่อกับซาทิสฟายไปจนถึงวินาทีที่ล็อคเอ้าท์ ไม่มีเวลาไหนเลยที่ย่างกรายออกพ้นประตูหน้าร้าน ในระหว่างนี้เรายังได้เรียนรู้เทคนิคใหม่อีกหลายอย่าง รวมถึงการขัดเกลาเทคนิคเดิมให้เฉียบแหลมขึ้น

       ประการแรก การผลิตไอเท็มเดิมซ้ำซากไม่ใช่วิธีการอัพเลเวลทักษะที่ดีนัก ทุกครั้งที่เราสร้างสิ่งใหม่ซึ่งแตกต่างจากเดิม ค่าประสบการณ์กลับขึ้นเป็นที่น่าพึงพอใจ
     
       ประการที่สอง ยิ่งวัสดุเลอค่ามากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสสูงที่ระดับของไอเท็มจะสูงขึ้นเช่นกัน
     
       ตัวอย่างเช่น เมื่อดาบเหล็กสองเล่มถูกสร้างขึ้นด้วยสูตรผลิตเดียวกัน ดาบเหล็กเล่มที่ใช้โลหะคุณภาพต่ำแทบจะร้อยทั้งร้อยที่ออกมาเป็นไอเท็มระดับทั่วไป ส่วนดาบเล่มที่ใช้โลหะคุณภาพสูงนั้นมีโอกาสมากที่จะกลายเป็นไอเท็มระดับแรร์

       ประการที่สาม แม้ไอเท็มจะถูกผลิตขึ้นด้วยสูตรเดียวกันและวัสดุเหมือนกัน แต่ไอเท็มที่เราใช้เวลาอยู่กับมันนานกว่ามักจะออกมามีระดับสูงกว่า

       เป็นเรื่องของโชคล้วนๆ ที่เราสามารถสร้างมีดสั้นระดับยูนีคขึ้นได้ในระยะเวลาเพียงสามชั่วโมง การจะสร้างไอเท็มระดับแรร์ขึ้นมาได้จำเป็นจะต้องใช้เวลากับมันอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ในอีกความหมายหนึ่งก็คือจำนวนไอเท็มที่เราผลิตได้ในแต่ละวันจะถูกจำกัดไว้ตายตัว ดังนั้นการจะเก็บเกี่ยวค่าสถานะกับการผลิตไอเท็มเริ่มจะไม่ใช่ความคิดที่เข้าท่าแล้ว

       ประการที่สี่ ถ้าหากเราอยากเป็นช่างตีเหล็กที่ยอดเยี่ยม การนำแต้มสถานะคงเหลือไปใช้กับความอดทนเป็นสิ่งจำเป็น ยังรวมไปถึงพละกำลังและความชำนาญด้วย     

       ทั้งเครื่องไม้เครื่องมือและแร่วัสดุที่ใช้ต่างมีน้ำหนักมาก เราจำเป็นต้องมีค่าพละกำลังที่สูงเพื่อการขนย้ายอย่างต่อเนื่อง และในระหว่างผลิตไอเท็ม เราจำเป็นจะต้องมีค่าความอดทนที่สูงเพื่อจะได้ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยง่าย

       ค่าพละกำลังและความอดทนจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากในตอนนี้
     
       "แฮ่ก… แฮ่ก… แกยังหนุ่มยังแน่นอยู่มิใช่รึ? จะมาเหนื่อยง่ายๆ ไม่ได้นะ"

       ต่างจากข่านที่ขอพักหายใจทุกครั้งเมื่อผลิตไอเท็มได้สักชิ้น เราสามารถก้มหน้าตีเหล็กได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่เหน็ดเหนื่อย

       ตลอดเดือนที่ผ่านมา เราสร้างไอเท็มขึ้นมาได้ทั้งหมด 73 ชิ้น ค่าเฉลี่ยตกอยู่ที่วันละสองถึงสามชิ้น โดยจากในบรรดาทั้งหมด มี 11 ชิ้นที่เป็นระดับแรร์ และ 3 ชิ้นที่เป็นระดับอีปิก ทำให้ค่าสถานะทั้งหมดของเราเพิ่มขึ้นอย่างละ 34 แต้ม

       ตัวเราในตอนนี้มีค่าสถานะ 11 ชนิด : พละกำลัง ความอดทน ความว่องไว สติปัญญา ความชำนาญ ความพากเพียร ความเยือกเย็น ความทรหด ความทรนง วิสัยทัศน์ และความกล้าหาญ  เมื่อทุกชนิดค่าสถานะเพิ่มขึ้นมาทั้งหมด 34 แต้ม ทำให้สถานะโดยรวมเพิ่มขึ้นสูงถึง 374 แต้ม เทียบเท่าได้กับการอัพเลเวล 37 ครั้ง

       แต่เราผิดหวังในผลลัพธ์นี้อย่างมาก ทำไมน่ะหรือ? เพราะเราใช้เวลามากถึงหกชั่วโมงต่อวันตลอดหนึ่งเดือนเต็ม และใช้วัสดุคุณภาพสูงสุดที่เราสามารถหาได้ในตอนนี้

       ถึงกระนั้นไอเท็มระดับยูนีคและเลเจนดารีกลับไม่โผล่หัวออกมาสักชิ้น มันจะไม่แย่เกินไปหน่อยหรือ?

       'แถมยังเป็นอีปิกแค่ 3 ชิ้นเท่านั้น… นี่ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ เราเป็นช่างตีเหล็กในตำนานไม่ใช่รึไง?'

       'เฮ่อ เหนื่อยใจจัง '

       ทุกครั้งที่ผลิตไอเท็มขึ้น เราได้แต่สวดภาวนาอยู่ในใจขอให้เป็นระดับยูนีคอย่างน้อย แต่เกือบจะทุกครั้ง สิ่งที่ได้รับกลับต้องเป็นระดับทั่วไปจนเริ่มจะรู้สึกชินชาเสียแล้ว และทุกครั้งเราจะต้องลั่นวาจาก่นด่าสาปแช่งเกมนี้ด้วยความผิดหวังปนหัวเสียรำไป

       สิ่งเดียวที่ยังพอหล่อเลี้ยงจิตใจที่ผิดหวังได้คือระดับทักษะที่เพิ่มขึ้น

[ การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
 เลเวล : 2
* ท่านสามารถผลิตไอเท็มทุกชนิดขึ้นตามสูตรผลิตที่มี
* ท่านสามารถสร้างสูตรผลิตได้เองจากทักษะ 'การสรรสร้างของช่างตีเหล็กในตำนาน'
* มีโอกาสปานกลางที่จะได้รับไอเท็มระดับแรร์ถึงอีปิก
* มีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้รับไอเท็มระดับยูนีค
* มีโอกาสต่ำมากที่จะได้รับไอเท็มระดับเลเจนดารี
* ไอเท็มที่ผลิตขึ้นจะมีคุณสมบัติพื้นฐานเพิ่มขึ้น 12%
* เมื่อไอเท็มระดับแรร์ถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทุกชนิดจะเพิ่มเป็นการถาวร 2 แต้ม ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 30 หน่วย
* เมื่อไอเท็มระดับอีปิกถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทุกชนิดจะเพิ่มเป็นการถาวร 4 แต้ม ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 80 หน่วย
* เมื่อไอเท็มระดับยูนีคถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทุกชนิดจะเพิ่มเป็นการถาวร 12 แต้ม ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 300 หน่วย
* เมื่อไอเท็มระดับเลเจนดารีถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทุกชนิดจะเพิ่มเป็นการถาวร 25 แต้ม ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 1,000 หน่วย
* จะมีบางสิ่งพิเศษเกิดขึ้นในทุกๆ ห้าเลเจนดารีไอเท็มที่สร้างสำเร็จ

[ การสรรสร้างของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
* ท่านจะได้รับแต้มสร้างสูตรผลิตเป็นจำนวน 3 แต้มในทุกครั้งที่ทักษะ 'การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน' เลเวลอัพ
* จำนวนของสูตรผลิตที่สามารถสร้างได้ : 5/6
* ทันทีไอเท็มถูกสร้างขึ้นด้วยสูตรผลิตจากทักษะนี้ ชื่อของผู้สร้างจะปรากฏอยู่บนชื่อไอเท็มด้วย

[ ลมหายใจของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
เลเวล 2
* เมื่อใดก็ตามที่ท่านใจจดใจจ่ออยู่กับการสร้างไอเท็ม จิตวิญญานแห่งแพ็กม่าจะเข้ามาสถิตอยู่ภายในไอเท็มด้วย
* คุณสมบัติพื้นฐานของไอเท็มที่สร้างขึ้นจะเพิ่ม 7%
* มีโอกาสต่ำมากที่ไอเท็มจะปรากฏเอฟเฟคลับ

       นอกเหนือจากการอัพเลเวลทักษะอันเป็นที่น่าพึงพอใจแล้ว ตลอดหนึ่งเดือนเราได้ใช้เวลาสร้างไอเท็มขึ้นมาหลากหลายชนิดภายในโรงตีเหล็กข่าน เป็นเพราะข่านต้องการสอนทุกสิ่งที่มีให้กับเราก่อนเขาเกษียณ จึงได้ถ่ายทอดสูตรการผลิตไอเท็มแทบทั้งหมดที่รู้มาให้โดยไม่ปิดบัง ในทุกวันเราจึงได้เรียนสูตรการผลิตใหม่ๆ อยู่เสมอ

        มีแต่ได้กับได้ เป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดอย่างแท้จริง เดิมทีนั้นการจะได้ครอบครองสูตรการผลิตสักชนิด มีแต่ต้องไปทำภารกิจมาอย่างลำบากยากเข็ญเท่านั้น มันจึงเป็นการยากที่ใครสักคนจะมีสูตรการผลิตติดตัว แต่กับเรานั้นไม่ ข่านถ่ายทอดทุกสิ่งมาโดยไม่หวงวิชา ต้องขอบคุณจริงๆ ที่มีวาสนาได้เป็นผู้สืบทอดโรงตีเหล็กข่าน

       เราหยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋าสัมภาระหนึ่งเล่ม ชื่อของมันก็คือ 'รายชื่อสูตรการผลิตไอเท็ม' หนังสือเล่มนี้ได้เขียนถึงสูตรการผลิตต่างๆ ที่เราเคยเรียนมาทั้งหมด ในตอนนี้สารบัญได้เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนมากโข นับตั้งแต่ 'ความผิดพลาด' ไปจนถึงลูกธนูยัฟฟ่าที่เรียนมาจากไบรัน และต่อมาด้วยไอเท็มที่เรียนรู้จากข่านอีกมากมาย...

       ใช่แล้ว เรากำลังตื่นเต้น

       'เมื่อครั้งยังอยู่หมู่บ้านไบรัน ตอนนั้นเรายังมีเพียงสี่สูตรการผลิต ประกอบด้วยขวาน จอบสองหัว ลูกธนูยัฟฟ่า และความผิดพลาด...'

       เราเลื่อนลงไปดูรายชื่อสูตรการผลิตอย่างใจลอย ทันใดนั้นใบหน้าของยูเฟอมิน่าก็พลันปรากฏในหัวสมอง

       'ทำไมหล่อนถึงยังไม่เอาสูตรผลิตลูกแก้วเวทย์มาให้เราสักทีนะ?'

       ยูเฟอมิน่ามีความต้องการอย่างยิ่งยวดที่จะให้เราสร้างลูกแก้วเวทย์ให้ หมายความว่าเธอจะต้องนำสูตรผลิตลูกแก้วชั้นยอดติดตัวมาแน่นอน และเราก็จะได้เรียนสูตรนั้นโดยไม่เสียเงินแม้แต่แดงเดียว
     
       แค่คิดก็มีความสุขแล้ว

       แต่เดี๋ยวนะ...

       "ถ้ามันมีโอกาสเพียงครั้งเดียวล่ะ?  ถ้าวัสดุที่ยูเฟอมิน่านำมาเพียงพอต่อการสร้างแค่ครั้งเดียว…  แล้วเราดันซวยผลิตลูกแก้วเวทย์ระดับธรรมดาออกมา… "

       หล่อนจะสังหารเราให้ตายคาที่เลยรึเปล่านะ? บางทีหล่อนอาจจับเราไปขังไว้สักแห่งจนกว่าเราจะผลิตลูกแก้วระดับยูนีคขึ้นมาได้

       "ถ้าเป็นหล่อนล่ะก็…"  เราหวนย้อนนึกกลับไปถึงรอยยิ้มอันเยือกเย็นในยามที่ยูเฟอมิน่าสะบัดปลายแขนเสกเวทย์มนต์ไฟแผดเผาองครักษ์ทั้งสิบหกคนของบารานโลวทั้งเป็น "...เราจะโดนลงโทษสถานไหนกันนะ?"

       ช่างยูเฟอมิน่าปะไร เราจะไม่คิดถึงเรื่องหล่อนอีกแล้ว บางที หากหล่อนไม่มาหาเราอีกคงเป็นการดีกว่า ร่างกายเราสั่นระรัวไม่หยุด ทันใดนั้นประตูโรงตีเหล็กถูกผลักออก

       "เอ๋? ยะ--ยูเฟอมิน่าหรือ?"

       มีคนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า เข้าป่าอย่าพูดถึงเสือ ไม่งั้นเสือจะออกมา เรารู้สึกหลอนราวกับยูเฟอมิน่ากำลังรอให้เรียกชื่อแล้วค่อยปรากฏตัว แต่โชคยังเข้าข้างอยู่ คนที่เปิดประตูโรงตีเหล็กเข้ามาไม่ใช่ยูเฟอมิน่า เพียงชำเลืองสายตามองผ่านก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นผู้เล่นเพศชายเลเวลสูง

       "ใช่โรงตีเหล็กข่านรึเปล่า?"

       "ฉันคือข่านเอง… พวกนายมีอะไรรึ?"

       พวกเขาเริ่มบทสนทนากับข่านทันที "คุณเข้าแข่งผลิตไอเท็มกับนักเดินทางนามว่าเอริน่าเมื่อเดือนก่อน ผมพูดถูกไหม?"

       "ใช่แล้ว..."

       "หล่อนเป็นช่างตีเหล็กจริงรึ? คุณเห็นด้วยตาตนเองรึเปล่าว่าหล่อนสร้างไอเท็มขึ้นมา"

       "เป็นคำถามที่ค่อนข้างแปลกนะ หากถามว่าหล่อนเป็นช่างตีเหล็กไหมน่ะหรือ? แน่นอนว่าใช่ หล่อนถูกจ้างมาโดยบริษัทเมโร่เพื่อแข่งขันกับฉัน หล่อนมีทักษะที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว ว่าแต่พวกนายเป็นใครกัน? เหตุใดถึงได้ถามอะไรแปลกๆ เช่นนี้?"

       พวกมันหาได้ใส่ใจคำถามของข่าน เอาแต่พูดคุยกันเองอย่างเสียมารยาท และหลังจากนั้นก็ยิงคำถามขึ้นมาอีก

       "บริษัทเมโร่เป็นเพียงบริษัทเดียวที่เกี่ยวข้องกับการแข่งนี้แน่หรือ? รีว่ายังมีใครที่อยู่เบื้องหลังอีก?"

       "อะแฮ่ม!"

       ข่านเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจ ในตอนแรกที่เขาพูดจาเป็นมิตรด้วยก็เพราะคนหนุ่มทั้งสองมีวัยไล่เลี่ยกับลูกชาย แต่นอกจากทั้งสองจะไม่สนใจคำถามข่าน พวกมันกลับยังยิงคำถามเอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว แถมยังขุดคำถามชุดต่อไปออกมาเรื่อยๆ

       "ทำไมถึงไม่ตอบมาล่ะ? ถ้ารู้อะไรก็พูดมาสิ มันดีต่อทั้งสองฝ่ายนะ จะได่ไม่มีใครต้องเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์"
     
       นี่ไม่ต่างอะไรกับคำข่มขู่

       ช่างน่าขันนัก

       ที่นี่คือโรงตีเหล็กข่าน พวกมันเป็นเพียงผู้มาเยือน ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะตั้งคำถามกับข่านด้วยซ้ำ แล้วทัศนคตินั่นมันอะไรกัน?

       พวกมันกำลังแสดงท่าทีดูแคลนข่าน ผู้ซึ่งอายุอานามไม่ต่างกับปู่พวกมันเลย ท่าทีรังเกียจดูแคลนเช่นนี้เกิดจากการที่ข่านเป็นเพียงเอ็นพีซี ที่จริงผู้เล่นหลายคนก็มีนิสัยเช่นนี้ ชอบเหยียดหยันเอ็นพีซีเป็นเพียงเครื่องจักรไร้หัวใจ หาได้ให้ความยำเกรง

       แต่ตัวเรารู้ดี นอกเหนือจากปัญญาประดิษในตัวข่านแล้ว เขายังมีความทรงจำและอดีตอันขมขื่นของตน ข่านสามารถโมโห โกรธ เศร้าโศกเสียใจได้เหมือนกับคน เขาหัวเราะเมื่อมีความสุข ร้องไห้เมื่อเสียใจ ข่านคือคนที่เราพึงพาได้ และบางครั้งเขาก็มองเราเป็นเหมือนกับลูกชายคนหนึ่ง

       จึงไม่แปลกที่เราจะรู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีที่เห็นผู้เล่นข่มขู่ข่าน จึงรีบเดินเข้าไปใกล้และโพล่งวาจาต่อว่าออกไป "เฮ้พวกนายน่ะ ทัศนคติแบบนั้นหมายความว่าไงกัน? พวกนายมีสิทธิ์อะไรมาขู่ข่าน?  หือ?"

       ทันทีที่พวกมันหันมาเห็นชุดเก่าเกรอะกรังที่เราสวม เห็นค้อนเก่าซ่อมซ่อในมือที่เราถือ เสียงหัวเราะอันแสนเย้ยหยันจึงบังเกิด

       "ฮะฮะ หมอนี่ใครกัน? เข้ามาตอนไหน?"     

       เห? ขนาดรู้ว่าเราไม่ใช่เอ็นพีซี พวกมันยังมีถ้อยคำดูแคลนถึงเพียงนี้เชียวรึ?

       "เข้ามาตอนไหนน่ะหรือ? ฉันเป็นพนักงานของที่นี่อยู่แล้ว ว่าแต่พวกนายทำไมถึงคิดเดินเข้ามากำแหงในร้านคนอื่นได้? หรือนี่เป็นงานของพวกนาย?"

       "กำแหง? น่าขัน พวกเราแค่ต้องการความร่วมมือเท่านั้น"

       "นั่นเป็นท่าทีของคนที่มาขอความร่วมมือรึไง?"

       "ฮ่าฮ่า… หรือว่าพวกเราต้องเดินถือน้ำส้มเข้าสักแก้วมามอบให้ด้วยล่ะ?"

       เราเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด หากดูจากอุปกรณ์สวมใส่ คงไม่พ้นเป็นผู้เล่นติดอันดับที่มีเลเวลราว 200  แต่ถึงกระนั้นเราก็อดหัวเสียกับท่าทีต่ำทรามของพวกมันไม่ได้

       ดูเหมือนเพื่อนของมันอีกคนพยายามกล่าวห้ามปราม "อย่าไปมีเรื่องกับผู้เล่นใหม่เลยน่า"

       "เฮ่อ ก็ได้ โอเคฉันจะใจเย็นลง บ้าฉิบ ตั้งแต่เฟคเกอร์โดนทำร้าย จิตใจของฉันมันสับสนว้าวุ่นไปหมด"

       "เฮ้ นายน่ะ ผู้เล่นช่างตีเหล็กหน้าใหม่ พวกเรากำลังมองหาผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แล้วก็ค่อนข้างรีบมากด้วย ก็เลยเสียมารยาทกับเอ็นพีซีโดยไม่ตั้งใจ ขอโทษทีนะ แค่นี้พอใจแล้วรึยัง?  ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยหลีกทางให้หน่อย"

       "พวกนายต้องขอโทษข่าน ไม่ใช่ฉัน"

       "......"

       แต่ดูเหมือนพวกมันจะมิได้สนใจคำพูดเราแล้ว  ทั้งคู่หันไปถามข่านอีกครั้ง

       "ข่าน ตอบมาตามตรง คุณรู้รึเปล่าว่าใครอยู่เบื้องหลังเอริน่า นอกเหนือจากบริษัทเมโร่น่ะ"

       ราวกับข่านกลัวว่าเราจะถูกทำร้าย เขาจึงดึงให้เราไปหลบด้านหลังพร้อมกับเอาตัวมาบังไว้และตอบสองคนนั้นไปว่า

Comments

  1. มารยาทไม่ดีเอาสะเลย

    ReplyDelete
  2. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. ถ้ามันคุยดีดีคงได้เรื่องไปนานละ

    ReplyDelete
  4. กร่างฉิบหาย ทำตัวเป็นเกรียนเลเวลสูง

    ReplyDelete
  5. ตัวละครเรื่องนี้นิสัยแปลกๆหลายตัวเลยล่ะ

    ReplyDelete
  6. คนที่อยู่ตรงหน้ามึงอะดูด้วยไคร555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00