จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 58

       แรร์ไอเท็มไม่เคยอยู่ในสายตาของเรา แต่ก็ช่วยไม่ได้ เราจำต้องพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยไปตามมารยาทเพราะยังไม่อยากสร้างศัตรูในตอนนี้ สเต็งเห็นดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ พร้อมกับเก็บดาบเล่มนั้นไป

       "เฮ่อ…  เมื่อไหร่ผู้เล่นอย่างเราจะสามารถผลิตไอเท็มส่งเข้าประมูลงานของท่านหญิงได้บ้างนะ?"

       เรารู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มต้นบทสนทนาแล้ว แต่เราจำเป็นต้องถามสเต็งย้ำกลับไปอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ

       "เหตุผลที่นายมาที่นี่…  ไม่ใช่เพื่อนำไอเท็มของตนเองเข้าประมูล แต่เพื่อทำภารกิจที่อาจารย์ของนายไหว้วานมาอีกทีใช่ไหม?"

       สเต็งยิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบกลับมา "ถูกต้อง ขนาดช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งอย่างแพนเมียร์ยังไม่สามารถผลิตไอเท็มที่มีคุณภาพสูงพอจะร่วมงานประมูลได้ แล้วผมจะไปทำได้ยังไงกัน?"

       "...นายช่วยแบ่งปันข้อมูลภารกิจมาให้ดูหน่อยได้ไหม?"

       "หืม? ทำไมล่ะ?"

       "อยากเห็นเฉยๆ"

       "ได้อยู่แล้ว มันไม่ใช่ความลับอะไรหรอก"

[ ผู้เล่น 'สเต็ง' ต้องการจะแบ่งปันข้อมูลภารกิจกับท่าน  กรุณายืนยัน ]

        ตกลง

[ งานไหว้วานจากอาจารย์ ]
ระดับความยาก : C
       นี่คืองานประมูลของอัศวินครั้งแรกที่แม่เมืองคนใหม่จัดขึ้น
       ช่างตีเหล็กนาม 'ราสแวน' หวังใช้โอกาสนี้แสดงศักยภาพของตนออกมาให้เป็นที่ประทับใจของแม่เมืองวินสตัน
       เขาจึงตัดสินใจไหว้วานให้ท่านซึ่งเป็นศิษย์ มานำไอเท็มมาเข้าร่วมประมูล
* เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : นำผลงานของราสแวนไปลงทะเบียนประมูลในงานแม่เมืองวินสตัน     
* รางวัลตอบแทนภารกิจ : เงินจำนวน 20 เหรียญทอง
* หากมีผู้ใดประมูลงานของราสแวนไป เขาจะมอบสูตรการผลิตไอเท็มชนิดใหม่ให้ท่าน...

       เราลืมไปเลยว่าผู้เล่นคนอื่นก็สามารถเป็นศิษย์ของเอ็นพีซีได้ เพียงแค่พวกเขาทำภารกิจตามที่อาจารย์ไหว้วานให้สำเร็จลุล่วง การเพิ่มระดับทักษะและเรียนรู้สูตรผลิตใหม่ก็จะขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

       แต่เรานับว่าโชคดีกว่ามาก ข่านถ่ายทอดทุกอย่างมาให้โดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน

       หลังจากที่ได้เห็นรายละเอียดภารกิจของสเต็ง เราก็เริ่มคิดได้

       ไม่มีผู้เล่นคนใดมาที่นี่เพื่อนำสิ้นค้าของตนเข้าร่วมประมูล ทั้งหมดล้วนทำภารกิจให้อาจารย์ตนทั้งสิ้น เช่นสเต็งเป็นต้น ก็อย่างที่สเต็งกล่าวมา ไม่มีทางเลยที่ผู้เล่นทั่วไปจะสามารถผลิตไอเท็มซึ่งมีคุณสมบัติเข้าร่วมงานประมูลได้ในตอนนี้

       เมื่อมีข้อเปรียบเทียบ ในที่สุดเราก็มองเห็นข้อแตกต่างระหว่างเรากับผู้เล่นทั่วไป ตัวเราที่ไม่ได้รู้สึกดีเมื่อผลิตไอเท็มเกรดอีปิกขึ้นมา แต่กับคนอื่นๆ ต่างดีใจจนกระโดดโลดเต้นเมื่อได้เห็นไอเท็มเกรดแรร์ ความแตกต่างของคลาส เราเพิ่งประจักษ์ชัดก็ในวันนี้
     
       "ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมขอดูไอเท็มที่อาจารย์คุณผลิตขึ้นได้ไหม?" สเต็งถามด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น

       เราตัดสินใจตอบปฏิเสธ ในใจลึกๆ เรากังวลว่าอาจมีปัญหาตามมาภายหลังได้ "คงไม่สะดวก"

       สเต็งเสียดายเล็กน้อย "เข้าใจแล้ว ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ มันคงจะเป็นไอเท็มที่ยอดเยี่ยมมากเลยสินะ แต่อาจารย์ของคุณไม่ได้บอกราคาไว้งั้นหรือ?"

       "ใช่ พอจะทราบราคาของชุดเกราะกับถุงมือเลเวล 120 บ้างไหม?"

       "ตอบยาก ถึงไอเท็มจะชนิดเดียวกัน แต่ก็ยังแบ่งแยกด้วยคุณสมบัติและเอฟเฟค ชุดเกราะเกรดทั่วไปจะอยู่ที่ 300 เหรียญทอง และถุงมือเกรดทั่วไปจะอยู่ที่ 100 เหรียญทอง"

       "ถ้าเกรดอีปิกล่ะ?"

       "ว้าว! อาจารย์ของคุณสร้างไอเท็มเกรดอีปิกเลยหรือ? ไม่ธรรมดาจริงๆ!" สเต็งกล่าวชื่นชมก่อนจะประเมิณราคาคร่าวๆ มาให้ "ราคาอีปิกนั้นตียาก ขึ้นอยู่กับเอฟเฟคเป็นส่วนใหญ่ แต่ขั้นต่ำของชุดเกราะเลเวล 120 คือ 1,800 เหรียญทอง ส่วนถุงมือก็ 600 เหรียญทองละมั้ง"

       "...ว่าไงนะ?"

       100 เหรียญทองเท่ากับ 120,000 วอน ในอีกความหมายหนึ่ง ถ้าหากเกราะเหล็กปราณีตบรรจงและถุงมือที่ไม่ธรรมดาสามารถขายออกไปได้ 1,800 และ 600 เหรียญทองจริง เงินจำนวน 2.88 ล้านวอนก็จะเข้ากระเป๋าเราทันที

       หลังจากทำงานในร้านแคปซูลเพียงเจ็ดวันก็ทำเงินก้อนโตได้ขนาดนี้แล้ว

       'ไม่สิ ถ้าหากหักค่าวัตถุดิบและค่าเช่าแคปซูลออกไป กำไรจะอยู่ที่ราว 2 ล้านวอน'

       ก็ยังถือเป็นจำนวนที่มากอยู่ เราค่อนข้างพึงพอใจกับมัน นี่ขนาดยังไม่มีไอเท็มเกรดยูนีคหรือเลเจนดารีออกมา เพียงแค่การสร้างไอเท็มอีปิกขึ้นมาได้อาทิตย์ละสองชิ้น เราจะสามารถทำเงินได้เดือนละ 8 ล้านวอนเลยทีเดียว!

       'เราปลดหนี้ได้แน่!'
     
       หนี้สินของเรามีทั้งหมด 10 ล้านวอน หลังจากได้คลาสเลเจนดารีมาครอบครอง ดูเหมือนเงิน 10 ล้านวอนจะไม่ใช่เรื่องที่มากมายอะไรอีกต่อไป แต่เดือนที่ผ่านมานั้นยากลำบากต่อเรามาก ต้องไปทำงานก่อสร้างเพื่อหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยจนแทบไม่มีเวลาเล่นเกม  แต่ตอนทุกสิ่งนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว...

       อีกไม่ช้า เราก็จะได้ใช้ชีวิตที่ปราศจากหนี้สินเสียที จะได้ไม่ต้องคอยหลบหน้าคนทวงหนี้ของบริษัทมาร์เธอร์อีสแฮปปี้อีก

       "คุคุคุคุ..."

       ปลดหนี้! เรารู้สึกดีใจจนมิอาจกลั้นขำไว้ แต่ทันใดนั้นเราก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ สเต็งกำลังยืนจ้องมองเราตาแป๋วด้วยใบหน้าที่งุนงงว่าหมอนี่มันหัวเราะอะไร

       ...ตั้งแต่เด็กแล้ว รอยยิ้มของเรามักนำพาเรื่องเลวร้ายมาให้เสมอ

       เด็กเล็กมักจะร้องไห้เมื่อเห็นเรายิ้ม ผู้ใหญ่บางคนถึงกับสบถคำหยาบออกมา รุ่นพี่บางคนเข้ามาไถตังทันทีเมื่อเห็นเรายิ้ม เพื่อนบางคนใช้ให้เราไปซื้อบุหรี่เมื่อเห็นเรายิ้ม และผู้หญิงมักจะทำหน้าบูดบึ้งเมื่อเห็นเรายิ้ม

       'หลังจากปลดหนี้ เราจะไปศัลยกรรมรอยยิ้มนั่นออกซะ...'

       ในระหว่างที่กำลังเครียดอยู่ เราตัดสินใจตั้งราคาประมูลขั้นต่ำตามคำแนะนำของสเต็ง

[ ราคาขั้นต่ำของเกราะเหล็กปราณีตบรรจงคือ 1,800 เหรียญทอง กรุณายืนยัน ]

       "ยืนยัน"

[ ราคาขั้นต่ำของถุงมือที่ไม่ธรรมดาคือ 600 เหรียญทอง กรุณายืนยัน ]

       "ยืนยัน"

[ ไอเท็มถูกลงทะเบียนเข้าประมูลเรียบร้อยแล้ว ]

       ช่างตีเหล็กทุกคนลงทะเบียนเรียบร้อยหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำทางเราไปยังห้องพักรับรอง บนพื้นห้องมีพรมหนังเสือตัวใหญ่พาดวางอยู่ บนชั้นวางของมียุทธภัณฑ์สงครามสุดหรูส่องประกายสีเงิน สีทอง วางเรียงราย โคมไฟระย้าด้านบนส่องแสงระยิบระยับงดงาม เป็นสถานที่สุดแสนหรูหราที่ไม่เหมาะกับคนอย่างเราสักนิด

       'ห้องท่านหญิงจะหรูหราขนาดไหนกันนะ?'

       ในขณะที่เรากำลังทึ่งกับความร่ำรวยของพวกขุนนาง สเต็งได้เดินเข้ามาทักอีกครั้ง

       "ของแสดงโชว์พวกนี้ห้ามจับเด็ดขาดเลยนะ หลายครั้งหลายหนที่ผมมาขายของประมูลแทนอาจารย์ มักจะมีคนที่พยายามขโมยยุทธภัณฑ์สุดหรูพวกนี้ออกไป และทุกครั้งพวกมันก็จะโดนจับได้ ส่วนบทลงโทษนั้น… กริด คุณอย่าคิดทำเชียวนะ"

       "อา เข้าใจแล้ว… เดี๋ยวนะ! นี่นายคิดว่าฉันเป็นพวกหัวขโมยรึไง? ใครได้ฟังก็ต้องคิดแบบฉันทั้งนั้น"

       "ขะ--ขอโทษ" สเต็งขอโทษขอโพยพร้อมผละจากไป แต่เขาก็ยังแอบหันมามองอยู่เป็นระยะ สงสัยว่าคงจะกลัวเราขโมยของออกไปจริงๆ  การหัวเราะต่อหน้าสเต็งในครั้งนั้นได้ทำให้ถูกตราหน้าว่าเป็นหัวขโมยไปเสียแล้ว

       'เฮ่อ… ไอ้เด็กบ้านั่น  ตาแหลมฉิบ'

       เราล้มเลิกความพยายามที่จะฉกของทิ้งไป ที่จริงเราแค่ต้องการจิ๊กเชิงเทียนติดตัวไปสักอันเท่านั้น แต่คงทำไม่ได้แล้วถ้าหากต้องถูกจับตามองขนาดนี้ เราตัดสินใจนั่งลงบนโซฟาและหลับรอการประมูลอันยาวนานกว่าสามชั่วโมงที่กำลังจะมีขึ้น

       ***
     
       ไอรีนคือแม่เมืองคนใหม่ของวินสตัน เธอเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของเอิร์ลสไตม ตอนนี้แม้จะมีศักดิ์เป็นว่าที่เอิร์ล แต่ในไม่ช้าเธอก็จะได้เป็นเอิร์ลเต็มตัว ในอีกความหมายหนึ่ง เธอคือผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการของเอิร์ลสไตม และในอนาคตก็จะกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนตอนเหนือคนต่อไป

       ดังนั้น อัศวินข้างกายไอรีนจะต้องรับหน้าที่อันใหญ่หลวงที่ผู้คนทั่วไปไม่มีวันจินตนาการออก

       'พวกเราจะต้องเป็นอัศวินที่ยอดเยี่ยมเพื่อท่านหญิงไอรีน'

       อัศวินแห่งไอรีนทุกคนจะต้องผ่านการฝึกอันทรหด แต่พวกเขาก็หาได้ย่อท้อไม่ ถึงกระนั้นร่างกายมนุษย์ก็ยังมีขีดจำกัด ดังนั้นจึงจำเป็นที่พวกเขาจะต้องมียุทธภัณฑ์สวมใส่ที่ดีที่สุดเพื่อชดเชยจุดอ่อน

       ทว่า การประมูลในวันนี้เป็นที่น่าผิดหวังของเหล่าอัศวินอย่างยิ่ง

       "ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแฮะ"

       ในพักหลัง วินสตันได้กลายเป็นเมืองใหญ่เนื่องมาจากเป็นศูนย์กลางการเดินทางของดินแดนเหนือ แต่ก็ยังนับว่าด้อยกว่าเมืองฟรอนเทียร์อยู่มาก  สิ้นค้าที่นำมาแสดงแทบไม่มีอะไรโดดเด่น ทั้งหมดล้วนด้อยกว่าสินค้าที่จากฟรอนเทียร์อยู่เล็กน้อย แม้จะมีบางอันที่ดูเข้าท่า แต่มันก็ยังไม่ดีพอสำหรับอัศวินเหล่านี้

       สองชั่วโมงผ่านไป การประมูลดำเนินไปอย่างจืดชืด ยังไม่มีอัศวินคนใดเสนอราคาออกมาแม้แต่ครั้งเดียว ในระหว่างบรรยากาศอันหม่นหมอง โฆษกการประมูลได้แสยะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

       "ผมว่าพวกคุณควรจับตามองสองสิ่งนี้ให้ดี"

       "โอ้ววว...!"

       หนึ่งชุดเกราะ หนึ่งถุงมือถูกเผยโฉม บรรดาอัศวินที่อยู่ในอาการกึ่งหลับกึ่งตื่นได้ดีดตัวขึ้นมาทันที

       "ยอดมาก!"

       "ชุดเกราะแบบนี้…  ในฟรอนเทียร์ไม่มีแน่"

       กลุ่มอัศวินต่างจ้องมองชุดเกราะและถุงมือด้วยอาการบ้างตื่นเต้น บ้างตกตะลึง  ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเอ่ยปากถามกับโฆษกประมูลว่า

       "ช่างตีเหล็กผู้ยอดเยี่ยมคนใดกันที่รังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาได้?  หรือจะเป็นข่านผู้โด่งดังคนนั้น?"

       ข่านนับว่าเป็นช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียงของวินสตัน โดยแม้แต่ในฟรอนเทียร์เองก็มีไม่น้อยที่รู้จักข่าน บรรดาอัศวินจึงคิดว่าน่าจะเป็นข่านคนนั้น ทว่าคำตอบของโฆษกทำให้ทุกคนต้องอึ้ง

       "ไม่ถูกนัก ไอเท็มทั้งสองถูกสร้างขึ้นโดยผู้สืบทอดของข่าน เขาคนนี้ได้รับการยกย่องจากชาวเมืองให้เป็นหนึ่งในสามวีรบุรุษแห่งวินสตัน"

       "โฮ่…  หมายถึงช่างตีเหล็กหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมคนนั้นน่ะรึ?"

       "ถูกต้อง"

       พวกอัศวินต่างยิ้มอย่างอบอุ่น

       "วินสตันนับว่าโชคดีนัก ที่ได้คนสุดยอดเช่นนี้คอยผลิตไอเท็มให้ หากยากนะ ผู้ที่มีทั้งจิตใจอันงดงามและสุดยอดทักษะในเวลาเดียวกัน…  สักวันเขาจะต้องได้ทำงานให้กับท่านหญิงไอรีนแน่"

       "ราคาของมันสูงกว่านี้ ฉันขอเสนอราคา 2,000 เหรียญทอง"

       "นายให้แค่ 2,000 เท่านั้นเองหรือ? มีตาหามีแววไม่!  2,500 เหรียญทอง!"

       "2,800!"

       "คิดจะแย่งรึไง? ฉันเป็นคนเห็นก่อนนะ! 3,000 เหรียญทอง! ยอมแพ้เถอะน่า!"

       เอิร์ลสไตมถูกยกให้เป็นขุนนางที่มั่งคั่งที่สุดในอาณาจักรอีเทอนัล ดังนั้นอัศวินในสังกัดจึงถูกจ้างด้วยค่าแรงมหาศาล พวกอัศวินที่ร่ำรวยจึงแข่งกันเสนอราคาไอเท็มที่สร้างขึ้นโดยกริดอย่างบ้าคลั่ง ราคาของมันพุ่งทะยานในชั่วพริบตา

       ***

       "คุณกริด คุณกริดครับ"
     
       งืมงำ…  อะไรนะ?  ได้เวลาไปทำงานก่อสร้างแล้วหรือ? เราหลับเป็นตายจนกระทั่งมีใครมาคนมาเขย่าตัวเพื่อปลุก

       "คุณกริด งานประมูลจบลงแล้ว"

       "อ้อ..."

       จริงด้วยสินะ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเรา

       'บ้าฉิบ…  เราเลิกทำงานก่อสร้างมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ยังกลับฝันถึงมันอยู่เนี่ยนะ... '

       เราจำเป็นต้องสลัดฝันร้ายจากงานก่อสร้างออกไปให้เร็วที่สุด สเต็งนำทางพาออกไปยังห้องโถงที่มีเจ้าหน้าที่ประมูลยืนรออยู่  เมื่อผู้จัดการยืนยันจำนวนคนเรียบร้อยจึงพูดขึ้น

       "มีไอเท็มทั้งหมดหกชิ้นที่ถูกประมูลออกไป"

       ฝูงชนต่างแตกตื่นในทันที
     
       "แค่หกเองหรือ? ฉันคนเดียวก็เสนอขายตั้งเจ็ดชิ้นแล้วนะ..."

       "มีไอเท็มเข้าประมูลกว่าหนึ่งร้อยรายการเลยไม่ใช่รึไง? ทำไมมีแค่หกที่ขายออกล่ะ?"

       ลางไม่ดีซะแล้ว...     

       'ถ้าไอเท็มที่ขายไม่ออกคือของเราล่ะ? หรือว่าจะตั้งราคาสูงไปนะ? รู้อย่างนี้ตั้งให้ต่ำๆ หน่อยก็ดี'

       ในระหว่างที่กำลังกระวนกระวาย เจ้าหน้าที่ประมูลก็อ่านรายชื่อของไอเท็มที่ถูกขายออกไปทั้งหมด

Comments

  1. กริดน่าจะรวยแน่เลย
    ขอบคุณผู้แปลครับ

    ReplyDelete
  2. หนทางรวยมาแล้ว

    ReplyDelete
  3. ไม่มีทาง ตามสไตล์กริดมันต้อง...

    "ขอระงับการจ่ายเงินให้กับกริดเพราะมีแนวโน้มว่าถูกส่งมาป่วนการประมูล
    และขอยึดทรัพย์สินที่นำมาประมูลเพื่อเป็นของกลาง
    รวมถึงบังคับให้กริดจ่ายค่าชดใช้ที่ทำให้การจัดงานประมูลไม่เป็นไปตามที่คิด"

    แล้วก็ต้อง

    "เนื่องจากกริดป่วนงานประมูลจึงโดนแบนไม่ให้ส่งของและเข้าร่วมประมูลตลอดชีวิต"

    ตามด้วย

    "กริดอ้างชื่อข่านช่างตีเหล็กที่โด่งดัง(กริดบอกว่าเอาของข่านมาขายแต่ข่านไม่ได้ส้รางสไตล์นี้อะไรแบบนั้น) เลยออกหมายจับกริด และแจ้งเตือนไปยังโรงตีเหล็กทั่วราชอาณาจักรให้แบนกริดในฐานะช่างตีเหล็ก"

    แน่นอน!! ความเฮงซยในชีวิตมันต้องมาทางนี้แน่ๆ!

    ReplyDelete
    Replies
    1. 555 คิดไปได้ แต่ก้มีแววจริงๆนะ

      Delete
  4. ได้ตังค์ล่ะเหวย คงไม่มีอะไรมาขัดลาภนะ

    ReplyDelete
  5. อยากให้พระเอกอัพค่าความฉลาด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00