จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 41
"ไอ้พวกสวะ! แกไม่มีวันเอาชนะข้าได้ด้วยวิธีปกติสินะ! ถึงต้องทำเรื่องชั่วช้าแบบนี้!"
บัลมงต์ได้แต่หัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นกริดถูกกลุ่มอัศวินลากตัวไปขังคุก. หลังจากนั้น, มันก็หันมากระซิบกับแร็บบิทว่า.
"เห็นมั้ยล่ะ? มันถูกจับตัวไปก่อนที่ผลการแข่งจะประกาศออกมาเสียอีก. ดังนั้น, พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกสังคมภายนอกรุมประนามแล้วใช่ไหม?"
"...ขอรับ."
การกระทำของบัลมงต์เป็นสิ่งที่เข้าใจได้, โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะผู้บริหารแห่งบริษัทเมโร่. แม้จะเป็นตัวแร็บบิทเองก็ตาม, แต่ถ้าเขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน, ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำเช่นนี้.
ทว่า, แร็บบิทกลับรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก.
'เด็กหนุ่มที่ชื่อกริดคนนั้น...'
กริดสามารถสร้างมีดสั้นที่อาจกลายเป็นตำนานไปตลอดกาล, ได้ด้วยระยะเวลาเพียงไม่ถึง 3 ชั่วโมงเท่านั้น. ช่างตีเหล็กที่มีพรสวรรค์สูงเช่นนี้, บางทีว่า, ทั่วทั้งทวีปอาจไม่มีอีกแล้วก็ได้. การขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพตนด้วยวัยเพียงเท่านี้. ถือเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย.
'ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า, ในภายภาคหน้า, เด็กหนุ่มคนนี้จะเติบโตกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน. ถ้าหากเราหาทางร่วมมือกับเขาได้. เงินทองจะต้องไหลมาเทมาไม่ขาดสายแน่นอน...'
คนอย่างแร็บบิทจะเลือกรับใช้เฉพาะผู้ที่ทำเงินมหาศาลได้เท่านั้น. สัญชาตญานพ่อค้าของเขาได้มุ่งเป้าความสนใจมาที่กริดอย่างรวดเร็ว.
...
ตรงข้ามกับกริด, ยูเฟอมิน่ายังคงยืนอยู่บนเวทีการแข่งขันกลางจัตุรัส.
'ผลการแข่งขันออกมาแล้ว.'
หลังจากที่เธอสร้างมีดสั้นทรงเสน่ห์ขึ้นมาได้. ความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะก็เพิ่มขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม. มีดสั้นทรงเสน่ห์นั้นเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่คาดฝัน. ทว่า, วินาทีที่ได้ชำเลืองสายตาไปเห็นมีดสั้นของกริด, เธอก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าทั้งหมดเป็นความคิดที่ผิดมหันต์.
แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ, แต่ก็มากพอที่จะเห็นถึงความยอดเยี่ยมจากมีดสั้นของกริด. เธอพ่ายแพ้อย่างหมดรูป. อนาคตถูกกำหนดไว้แล้ว, ทันทีที่มีดสั้นของกริดแสดงรายละเอียดขึ้นบนจอฉายภาพขนาดยักษ์, ทุกอย่างก็จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้และภารกิจที่ล้มเหลวของเธอ. ทว่า, กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสียก่อน. กริดถูกจับกุมงั้นหรอ? ช่างเป็นจังหวะที่เหมาะเจาะเสียจริง.
'มันน่าละอายอยู่บ้างก็จริง, แต่ว่า...'
ยูเฟอมิน่าเดินลงจากเวทีเข้าไปหาแร็บบิท, และกระซิบออกไปเบาๆ.
"สถานการณ์เลยเถิดไปไกลกว่าที่คาดมาก. แต่กลุ่มคนดูยังคงคิดว่าชั้นเป็นฝ่ายชนะอยู่, ถึงแม้การแข่งจะหยุดไปกลางคันก็ตามที. ดังนั้น, ในเมื่อพวกเขาคิดว่าชั้นชนะ, มันก็ตรงกับสิ่งที่บริษัทเมโร่ต้องการแล้วมิใช่รึ? ชั้นจึงต้องรางวัลในส่วนที่ควรจะได้."
แร็บบิทพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับตอบกลับไป. "ก็เป็นอย่างที่คุณว่ามา. ตกลง. ผมจะตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้."
ยูเฟอมิน่าดวงตาเป็นประกายที่ได้เห็นข้อความระบบ. เธอรีบเปิดหน้าต่างสถานะของตนขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้นดีใจ.
'ทักษะเสี่ยงโชคของแท้เลยแฮะ.'
ค่าสถานะจิตวิญญานนักสู้กับความโชคดีนั้น, ผลของมันยอดเยี่ยมจนทำให้เราสามารถลืมความเจ็บปวดจากภารกิจปิอาโร่ไปได้ชั่วคราว. แต่ทางด้านทักษะทอยลูกเต๋ายังคงคลุมเคลืออยู่. มันคงดีถ้าเราสามารถทอยได้ 4 แต้มขึ้นไปทุกครั้ง, แต่ความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น.
'ทว่า, ถ้าในอนาคตเราสามารถเพิ่มค่าความโชคดีได้มากขึ้น, ก็หมายความว่าทักษะทอยลูกเต๋าก็อาจมีประสิทธิ์ภาพ, และหวังผลได้มากขึ้นตามไปด้วย. ไว้ถึงวันนั้นค่อยลองดูก็ยังไม่สาย.'
ยูเฟอมิน่ากำลังพยายามมองหาข้อดีของสิ่งที่ใหม่ที่เพิ่มจะได้รับมา.
ในที่สุด, เธอก็ตัดสินใจกล่าวคำอำลากับแร็บบิท. แต่ก่อนจะไปได้หันหลังกลับมาถามหนึ่งประโยค.
"ว่าแต่, คนๆ นั้นถูกจับในข้อหาอะไร?"
"มีคนเห็นเขายืนพูดคุยอย่างสนิทสนมอยู่กับคนที่เป็นศัตรูของหมู่บ้านนี้."
"ก็เลยถูกจับในข้อหาสมคบคิด?"
"ถูกต้อง."
"อา..."
เด็กหนุ่มที่ชื่อกริดนั่นพูดจาเยาะเย้ยดูถูกเธอไว้มาก. หากเป็นไปได้, เธอก็อยากจะซัดหน้าหมอนั่นสักเปรี้ยงอยู่เหมือนกัน. แต่เขาก็ดันถูกจับไปเสียก่อน.
'ต้องขอบใจในเรื่องนั้นล่ะนะ. เพราะในที่สุด, เราก็ทำภารกิจสำเร็จเสียที.'
ถึงมันจะเหมือนกับโชคหล่นทับก็ตาม. แต่เธอก็รู้สึกเสียดายไม่น้อย.
'คลาสลับของหมอนั่น, จะเป็นคลาสแบบไหนกันนะ...'
ถ้ากริดเป็นคลาสระดับยูนีคจริง, การได้สร้างความสนิทสนมกันไว้จะถือเป็นกำไรมหาศาลสำหรับเธอ.
'ไม่สิ, ไม่ได้, เราจะไม่มีวันไปเจอกับหมอนั่นอีกเด็ดขาด! นิสัยนั่นมันอะไรกัน? น่าขยะแขยงชะมัด. ยิ่งอยู่ใกล้เจ้าบ้านั่นเท่าไร, ดูเหมือนรอยตีนกาบนใบหน้าของเราก็จะยิ่งขึ้นมากเท่านั้น.'
ยูเฟอมิน่าตัดสินใจสลัดความคิดไร้สาระทั้งหมดทิ้งเสีย. แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเดินจากไป, แร็บบิทกลับตะโกนเรียกเธออีกครั้ง. "อันที่จริงแล้ว, คุณไม่ใช่ช่างตีเหล็กใช่ไหม?"
"......!?"
ยูเฟอมิน่ารีบตอบกลับไปด้วยท่าทีร้อนรนในทันที. ใบหน้าของเธอแสดงความสับสนอย่างมากออกมา.
"คะ--คุณต้องการจะพูดอะไร? ชั้นเพิ่งสร้างมีดสั้นขึ้นมาได้ไม่ใช่รึไง? ถ้าไม่ใช่ช่างตีเหล็ก, ชั้นคงไม่มีทางทำภารกิจนี้สำเร็จได้แน่, ถูกไหม?"
"ผมสืบรู้มาว่า, เอริน่าไม่ใช่ชื่อจริงของคุณ. ยิ่งไปกว่านั้น, ไม่มีช่างตีเหล็กคนไหนบนโลกที่มีนิ้วมือขาวนวลและเรียวงามเช่นนี้ได้แน่."
ด้วยธรรมชาติของช่างตีเหล็กแล้ว, ฝ่ามือที่หยาบกร้านและผิวแข็งกระด้านนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้. เพราะพวกเขาต้องถูกความร้อนแผดเผาอยู่ตลอดเวลา. แต่อยู่เฟอมิน่ากลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง.
"แถมท่วงท่าการถือค้อนก็ยังดูเงอะงะอย่างน่าประหลาด. แม้แต่ช่างตีเหล็กขั้นต้นยังทำได้ดีกว่าคุณเลย."
"......"
"ผมจับพิรุธได้ในตอนที่คุณต้องการให้ข่านร่วมแข่งด้วย. หลังจากนั้นก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก, เมื่อท่าทางการตีเหล็กของคุณดันไปตรงกับข่านทุกประการ. บางทีคุณคงจะมีความสามารถในการลอกเลียนแบบผู้อื่นอยู่สินะ."
อันที่จริง, ยูเฟอมิน่าสามารถโต้แย้งแร็บบิทที่ไร้หลักฐานกลับไปได้ทุกเวลา. แต่เธอกลับยังคงยืนฟังอย่างเงียบๆ. นั่นก็เพราะสัมผัสได้ว่า, แร็บบิทกำลังจะมอบภารกิจใหม่ให้กับเธอ.
"แล้วไงล่ะ? คุณต้องการอะไร?"
แร็บบิทรีบพูดเข้าประเด็นทันที. "ผมต้องการให้คุณไปช่วยกริดออกมา."
"เห? ทำไมกัน? ไม่ใช่ว่าหมอนั่นคือศัตรูของคุณหรอกรี?"
แร็บบิทยักไหล่เล็กน้อย. "ไม่มีทั้งมิตรแท้และศัตรูถาวร, ถ้าหากมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้องล่ะนะ."
"ชั้นไม่เข้าใจ, คุณต้องการจะทำอะไรกันแน่?"
เมื่อยูเฟอมิน่าต้องการคำอธิบายที่มากขึ้น, แร็บบิทจึงพาเธอมายังซอยเปลี่ยวที่ไร้ผู้คน. เขากวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้ยินบทสนทนาต่อจากนี้.
"บริษัทเมโร่นั้นละโมภเกินไป. พวกมันพยายามขูดรีดหาผลประโยชน์กับชาวบ้านวินสตันให้ได้มากที่สุด, โดยไม่คำนึงถึงจิตใจของผู้คน. ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลาที่รอวันทำลายตัวเอง. ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าหากสักวันเอิร์ลสไตม์ได้รู้ความจริงเข้า. ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ, บริษัทเมโร่ไม่มีอนาคตอีกต่อไปแล้ว. ผมจึงตัดสินใจถอยออกมา."
แร็บบิทพูดด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย.
"ทันทีที่ผมเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของกริด. ผมก็รู้ได้ทันทีว่า, อนาคตสามารถฝากไว้กับใครได้. โรงตีเหล็กของข่าน, ผมจะไปทำงานที่นั่น. ผมจะร่วมมือกับกริดโดยใช้เส้นสายธุรกิจที่มีอยู่, และหากรวมเข้ากับทักษะการทำธุรกิจอันยอดเยี่ยมของผม, กริดจะต้องสร้างกำไรได้ไม่แพ้บริษัทระดับกลางอย่างแน่นอน."
"ขะ--ขนาดนั้นเลยหรอ?"
ดวงตาของยูเฟอมิน่าเปล่งประกายออกมาเช่นกัน. การที่ผู้เล่นคนหนึ่งสามารถก้าวไปสู่จุดสูงสุดของธุรกิจได้, นั่นเกินกว่าคำว่ายอดเยี่ยมไปไกลมากแล้ว.
'ในบรรดาผู้เล่นช่างตีเหล็กตอนนี้, ใครอยู่ลำดับที่ 1 กันนะ?'
ยูเฟอมิน่าพยายามขุดคุ้ยความทรงจำของตนขึ้นมาอีกครั้ง.
'ใช่แล้ว, เบย์ก้านี่เอง. เขาก้าวขึ้นมาเเป็นช่างตีเหล็กลำดับ 1 ได้สำเร็จตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนก่อน. แต่เราก็ได้ยินมาว่า, ธรุกิจของเขาไปได้ไม่สวยเท่าใดนัก. ไม่อาจเทียบกับธุรกิจร้านตีเหล็กทั่วไปของเอ็นพีซีได้เลย.'
ในอีกความหมายหนึ่ง, ผู้เล่นช่างตีเหล็กอันดับ 1 ของเกมยังไม่สามารถทำกำไรได้เทียบเท่ากับธรุกิจขนาดเล็กได้. แล้วทำไมคนอย่างกริดถึงมีแววที่จะทำกำไรได้เทียบเท่าธรุกิจขนาดกลางเลยล่ะ?
'เรารู้ดีว่าหมอนั่นจะต้องไม่ใช่คลาสธรรมดา. แต่นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยหรอ?'
แร็บบิทค่อยๆ อธิบายแผนการอันแยบยลของเขาให้ยูเฟอมิน่าฟัง.
"มันมีเงื่อนไขอยู่หลายข้อที่ผมจะต้องเคลียให้ได้, ไม่อย่างนั้นก็มิอาจไปทำงานให้กับโรงตีเหล็กของข่าน. เงื่อนไขประการแรก, การล่มสลายของบริษัทเมโร่และบารอนโลว. ประการที่สอง, ทำให้ยังไงก็ได้, ให้ชาวบ้านมองผมด้วยสายตาที่ดีขึ้นกว่าเดิม. และประการสุดท้าย, สิ่งนี้สำคัญที่สุด, คือการช่วยเหลือกริดออกมาให้ได้. ถ้าหากเราช่วยกริดออกมาได้พร้อมกับการล่มสลายของบริษัทเมโร่และบารอนโลว, ถึงตอนนั้นผมก็จะสามารถทำงานให้กับกริดได้อย่างเปิดเผย."
"ก็เลยอยากให้ชั้นช่วย?"
"ถูกต้อง, ผมเฝ้าจับตามองทักษะของคุณมาสักพักแล้ว. คุณทำได้แน่."
'นี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ..."
เมื่อยูเฟอมิน่าอ่านภารกิจอย่างละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว, เธอก็หมดคำพูดในทันที. ภารกิจระดับ S หรือแม้กระทั่งภารกิจที่มอบสมญานามนั้นเป็นสิ่งที่หายากมากภายในซาทิสฟาย. ทว่า, นับตั้งแต่ได้รู้จักกริด. ภารกิจเหล่านั้นกลับผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อนราวกับเป็นเรื่องธรรมดา. อย่างน้อยเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า, กริดนั้นสำคัญต่อหมู่บ้านวินสตันมากแค่ไหน.
'เจ้ากริดนั่น... แม้อุปนิสัยส่วนตัวจะห่วยแตก, แต่เราก็ต้องยอมรับว่าทั้งตัวตนและทักษะเป็นของจริง. คงจะเป็นการดีกว่า, ถ้าหากเราสานสัมพันธ์กับหมอนั่นเอาไว้ด้วยบุญคุญในครั้งนี้.'
ยูเฟอมิน่าตัดสินใจรับภารกิจทันที.
"ได้เลย, ชั้นจะทำมันเอง!"
เพียงเพราะพ่อค้าคนหนึ่งอยากเปลี่ยนงาน. ส่งผลให้ทั้งเจ้าของบริษัทใหญ่, และลอร์ดของหมู่บ้านต้องตกที่นั่งลำบากในทันที.
...
...
...
ณ โรงตีเหล็กของข่าน, ชาวบ้านวินสตันเกือบทั้งหมดกำลังรวมตัวกันอยู่ที่นี่.
"ดูเหมือนข่าวลือที่ฮิวรอยถูกจับตัวไปขณะกำลังออกจากหมู่บ้านจะเป็นความจริง."
"งั้นก็แปลว่าลอร์ดชั่วมันรู้เรื่องที่พวกเราไหว้วานฮิวรอยงั้นรึ? เรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย. ต่อไปนี้การตรวจตราจะยิ่งแน่นหนาขึ้นกว่าเดิม. และฮิวรอยคนถัดไปก็จะไม่มีวันปรากฏตัวขึ้นอีกแน่."
"พวกเรายังทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น. ด้วยฝีมือของบริษัทเมโร่, ไม่มีใครสามารถหนีออกจากวินสตันได้แม้แต่คนเดียว."
ชาวบ้านต่างกำลังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย. ถ้าหากเป็นเวลาปรกติ, ข่านจะเป็นดั่งพี่ใหญ่ที่คอยปลอบประโลมและกำลังใจทุกคน. ทว่า, สภาพของข่านในตอนนี้จะไปปลอบใจใครได้.
'กริด...'
ฮิวรอยนั้นถูกจับด้วยสาเหตุที่เขาพยายามจะไปพบกับเอิร์ลสไตม์. ดังนั้น, ต่อให้ลอร์ดวินสตันและบัลมงต์จะหัวขี้เลื่อยขนาดไหน, แต่พวกมันก็ไม่โง่พอที่จะปล่อยตัวฮิวรอยออกมาในเร็ววันแน่. บางทีอาจถูกขังลืมไปชั่วชีวิตเลยก็เป็นได้. กริดเองก็เช่นกัน, กริดนั้นสนิทสนมกับพวกชาวบ้านมาก, โดยเฉพาะข่าน. กริดน่าจะมีชะตากรรมที่ไม่แตกต่างจากฮิวรอยมากนัก.
'เราจะปล่อยให้กริดถูกขังคุกไปตลอดชีวิตไม่ได้. เราต้องทำอะไรเข้าซักอย่าง!!'
ข่านตัดสินใจอย่างแน่วแน่พร้อมกับตะโกนขึ้นเสียงดัง.
"พวกเราจะเพิกเฉยต่อความอยุติธรรมไม่ได้! พวกเราจะต้องปกป้องศักดิ์ศรีและอนาคตด้วยสองมือของเราเอง! ทุกคน! หยิบอาวุธขึ้นมาซะ! พวกเราจะไปขับไล่ลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่ให้พ้นจากวินสตัน!"
บัลมงต์ได้แต่หัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นกริดถูกกลุ่มอัศวินลากตัวไปขังคุก. หลังจากนั้น, มันก็หันมากระซิบกับแร็บบิทว่า.
"เห็นมั้ยล่ะ? มันถูกจับตัวไปก่อนที่ผลการแข่งจะประกาศออกมาเสียอีก. ดังนั้น, พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกสังคมภายนอกรุมประนามแล้วใช่ไหม?"
"...ขอรับ."
การกระทำของบัลมงต์เป็นสิ่งที่เข้าใจได้, โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะผู้บริหารแห่งบริษัทเมโร่. แม้จะเป็นตัวแร็บบิทเองก็ตาม, แต่ถ้าเขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน, ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำเช่นนี้.
ทว่า, แร็บบิทกลับรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก.
'เด็กหนุ่มที่ชื่อกริดคนนั้น...'
กริดสามารถสร้างมีดสั้นที่อาจกลายเป็นตำนานไปตลอดกาล, ได้ด้วยระยะเวลาเพียงไม่ถึง 3 ชั่วโมงเท่านั้น. ช่างตีเหล็กที่มีพรสวรรค์สูงเช่นนี้, บางทีว่า, ทั่วทั้งทวีปอาจไม่มีอีกแล้วก็ได้. การขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพตนด้วยวัยเพียงเท่านี้. ถือเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย.
'ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า, ในภายภาคหน้า, เด็กหนุ่มคนนี้จะเติบโตกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน. ถ้าหากเราหาทางร่วมมือกับเขาได้. เงินทองจะต้องไหลมาเทมาไม่ขาดสายแน่นอน...'
คนอย่างแร็บบิทจะเลือกรับใช้เฉพาะผู้ที่ทำเงินมหาศาลได้เท่านั้น. สัญชาตญานพ่อค้าของเขาได้มุ่งเป้าความสนใจมาที่กริดอย่างรวดเร็ว.
...
ตรงข้ามกับกริด, ยูเฟอมิน่ายังคงยืนอยู่บนเวทีการแข่งขันกลางจัตุรัส.
'ผลการแข่งขันออกมาแล้ว.'
หลังจากที่เธอสร้างมีดสั้นทรงเสน่ห์ขึ้นมาได้. ความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะก็เพิ่มขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม. มีดสั้นทรงเสน่ห์นั้นเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่คาดฝัน. ทว่า, วินาทีที่ได้ชำเลืองสายตาไปเห็นมีดสั้นของกริด, เธอก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าทั้งหมดเป็นความคิดที่ผิดมหันต์.
แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ, แต่ก็มากพอที่จะเห็นถึงความยอดเยี่ยมจากมีดสั้นของกริด. เธอพ่ายแพ้อย่างหมดรูป. อนาคตถูกกำหนดไว้แล้ว, ทันทีที่มีดสั้นของกริดแสดงรายละเอียดขึ้นบนจอฉายภาพขนาดยักษ์, ทุกอย่างก็จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้และภารกิจที่ล้มเหลวของเธอ. ทว่า, กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสียก่อน. กริดถูกจับกุมงั้นหรอ? ช่างเป็นจังหวะที่เหมาะเจาะเสียจริง.
'มันน่าละอายอยู่บ้างก็จริง, แต่ว่า...'
ยูเฟอมิน่าเดินลงจากเวทีเข้าไปหาแร็บบิท, และกระซิบออกไปเบาๆ.
"สถานการณ์เลยเถิดไปไกลกว่าที่คาดมาก. แต่กลุ่มคนดูยังคงคิดว่าชั้นเป็นฝ่ายชนะอยู่, ถึงแม้การแข่งจะหยุดไปกลางคันก็ตามที. ดังนั้น, ในเมื่อพวกเขาคิดว่าชั้นชนะ, มันก็ตรงกับสิ่งที่บริษัทเมโร่ต้องการแล้วมิใช่รึ? ชั้นจึงต้องรางวัลในส่วนที่ควรจะได้."
แร็บบิทพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับตอบกลับไป. "ก็เป็นอย่างที่คุณว่ามา. ตกลง. ผมจะตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้."
[ ภารกิจเสร็จสิ้น! ]
[ ท่านได้รับ 1,500 เหรียญทอง. ]
[ ท่านได้รับสมญานาม 'นักแข่งขัน'. ]
[ ค่าสถานะ 'จิตวิญญานนักสู้' ถูกเปิดใช้งาน. ]
[ ค่าสถานะ 'โชคดี' ถูกเปิดใช้งาน. ]
[ ท่านได้รับทักษะ 'ทอยลูกเต๋า'. ]
ยูเฟอมิน่าดวงตาเป็นประกายที่ได้เห็นข้อความระบบ. เธอรีบเปิดหน้าต่างสถานะของตนขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้นดีใจ.
[ ค่าสถานะจิตวิญญาณนักสู้ ]
ยิ่งระดับพลังชีวิตต่ำลง, พลังโจมตีและและสมาธิก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น.
* เอฟเฟคจะยิ่งแสดงผลมากขึ้น, เมื่อมีค่านี้สูงขึ้น.
* ไม่สามารถนำค่าสถานะคงเหลือมาเพิ่มได้.
[ ค่าสถานะความโชคดี ]
ความโชคดีอย่างไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่าเดิม.
* เอฟเฟคจะยิ่งแสดงผลมากขึ้น, เมื่อมีค่านี้สูงขึ้น.
* ไม่สามารถนำค่าสถานะคงเหลือมาเพิ่มได้.
[ ทักษะทอยลูกเต๋า ]
ทำการทอยลูกเต๋าเพื่อเสี่ยงดวงกับเป้าหมาย. เอฟเฟคจะขึ้นอยู่กับตัวเลขที่ทอยได้.
* ถ้าเป้าหมายคือตนเองหรือพันธมิตร : หากทอยได้ตั้งแต่ 4 แต้มขึ้นไป, จะเกิดสถานะเสริมพลังสุ่มให้กับตัวละคร. แต่กลับกัน, ถ้าหากทอยได้ตั้งแต่ 3 แต้มลงมา, จะเกิดสถานะผิดปรกติขึ้นกับตัวละครดังกล่าว.
* ถ้าเป้าหมายคือศัตรู : หากทอยได้ตั้งแต่ 4 แต้มขึ้นไป, จะเกิดสถานะผิดปรกติขึ้นกับเป้าหมาย. แต่กลับกัน, ถ้าหากทอยได้ตั้งแต่ 3 แต้มลงมา, จะเกิดสถานะเสริมพลังสุ่มให้กับตัวละครศัตรู.
'ทักษะเสี่ยงโชคของแท้เลยแฮะ.'
ค่าสถานะจิตวิญญานนักสู้กับความโชคดีนั้น, ผลของมันยอดเยี่ยมจนทำให้เราสามารถลืมความเจ็บปวดจากภารกิจปิอาโร่ไปได้ชั่วคราว. แต่ทางด้านทักษะทอยลูกเต๋ายังคงคลุมเคลืออยู่. มันคงดีถ้าเราสามารถทอยได้ 4 แต้มขึ้นไปทุกครั้ง, แต่ความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น.
'ทว่า, ถ้าในอนาคตเราสามารถเพิ่มค่าความโชคดีได้มากขึ้น, ก็หมายความว่าทักษะทอยลูกเต๋าก็อาจมีประสิทธิ์ภาพ, และหวังผลได้มากขึ้นตามไปด้วย. ไว้ถึงวันนั้นค่อยลองดูก็ยังไม่สาย.'
ยูเฟอมิน่ากำลังพยายามมองหาข้อดีของสิ่งที่ใหม่ที่เพิ่มจะได้รับมา.
ในที่สุด, เธอก็ตัดสินใจกล่าวคำอำลากับแร็บบิท. แต่ก่อนจะไปได้หันหลังกลับมาถามหนึ่งประโยค.
"ว่าแต่, คนๆ นั้นถูกจับในข้อหาอะไร?"
"มีคนเห็นเขายืนพูดคุยอย่างสนิทสนมอยู่กับคนที่เป็นศัตรูของหมู่บ้านนี้."
"ก็เลยถูกจับในข้อหาสมคบคิด?"
"ถูกต้อง."
"อา..."
เด็กหนุ่มที่ชื่อกริดนั่นพูดจาเยาะเย้ยดูถูกเธอไว้มาก. หากเป็นไปได้, เธอก็อยากจะซัดหน้าหมอนั่นสักเปรี้ยงอยู่เหมือนกัน. แต่เขาก็ดันถูกจับไปเสียก่อน.
'ต้องขอบใจในเรื่องนั้นล่ะนะ. เพราะในที่สุด, เราก็ทำภารกิจสำเร็จเสียที.'
ถึงมันจะเหมือนกับโชคหล่นทับก็ตาม. แต่เธอก็รู้สึกเสียดายไม่น้อย.
'คลาสลับของหมอนั่น, จะเป็นคลาสแบบไหนกันนะ...'
ถ้ากริดเป็นคลาสระดับยูนีคจริง, การได้สร้างความสนิทสนมกันไว้จะถือเป็นกำไรมหาศาลสำหรับเธอ.
'ไม่สิ, ไม่ได้, เราจะไม่มีวันไปเจอกับหมอนั่นอีกเด็ดขาด! นิสัยนั่นมันอะไรกัน? น่าขยะแขยงชะมัด. ยิ่งอยู่ใกล้เจ้าบ้านั่นเท่าไร, ดูเหมือนรอยตีนกาบนใบหน้าของเราก็จะยิ่งขึ้นมากเท่านั้น.'
ยูเฟอมิน่าตัดสินใจสลัดความคิดไร้สาระทั้งหมดทิ้งเสีย. แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเดินจากไป, แร็บบิทกลับตะโกนเรียกเธออีกครั้ง. "อันที่จริงแล้ว, คุณไม่ใช่ช่างตีเหล็กใช่ไหม?"
"......!?"
ยูเฟอมิน่ารีบตอบกลับไปด้วยท่าทีร้อนรนในทันที. ใบหน้าของเธอแสดงความสับสนอย่างมากออกมา.
"คะ--คุณต้องการจะพูดอะไร? ชั้นเพิ่งสร้างมีดสั้นขึ้นมาได้ไม่ใช่รึไง? ถ้าไม่ใช่ช่างตีเหล็ก, ชั้นคงไม่มีทางทำภารกิจนี้สำเร็จได้แน่, ถูกไหม?"
"ผมสืบรู้มาว่า, เอริน่าไม่ใช่ชื่อจริงของคุณ. ยิ่งไปกว่านั้น, ไม่มีช่างตีเหล็กคนไหนบนโลกที่มีนิ้วมือขาวนวลและเรียวงามเช่นนี้ได้แน่."
ด้วยธรรมชาติของช่างตีเหล็กแล้ว, ฝ่ามือที่หยาบกร้านและผิวแข็งกระด้านนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้. เพราะพวกเขาต้องถูกความร้อนแผดเผาอยู่ตลอดเวลา. แต่อยู่เฟอมิน่ากลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง.
"แถมท่วงท่าการถือค้อนก็ยังดูเงอะงะอย่างน่าประหลาด. แม้แต่ช่างตีเหล็กขั้นต้นยังทำได้ดีกว่าคุณเลย."
"......"
"ผมจับพิรุธได้ในตอนที่คุณต้องการให้ข่านร่วมแข่งด้วย. หลังจากนั้นก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก, เมื่อท่าทางการตีเหล็กของคุณดันไปตรงกับข่านทุกประการ. บางทีคุณคงจะมีความสามารถในการลอกเลียนแบบผู้อื่นอยู่สินะ."
อันที่จริง, ยูเฟอมิน่าสามารถโต้แย้งแร็บบิทที่ไร้หลักฐานกลับไปได้ทุกเวลา. แต่เธอกลับยังคงยืนฟังอย่างเงียบๆ. นั่นก็เพราะสัมผัสได้ว่า, แร็บบิทกำลังจะมอบภารกิจใหม่ให้กับเธอ.
"แล้วไงล่ะ? คุณต้องการอะไร?"
แร็บบิทรีบพูดเข้าประเด็นทันที. "ผมต้องการให้คุณไปช่วยกริดออกมา."
"เห? ทำไมกัน? ไม่ใช่ว่าหมอนั่นคือศัตรูของคุณหรอกรี?"
แร็บบิทยักไหล่เล็กน้อย. "ไม่มีทั้งมิตรแท้และศัตรูถาวร, ถ้าหากมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้องล่ะนะ."
"ชั้นไม่เข้าใจ, คุณต้องการจะทำอะไรกันแน่?"
เมื่อยูเฟอมิน่าต้องการคำอธิบายที่มากขึ้น, แร็บบิทจึงพาเธอมายังซอยเปลี่ยวที่ไร้ผู้คน. เขากวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้ยินบทสนทนาต่อจากนี้.
"บริษัทเมโร่นั้นละโมภเกินไป. พวกมันพยายามขูดรีดหาผลประโยชน์กับชาวบ้านวินสตันให้ได้มากที่สุด, โดยไม่คำนึงถึงจิตใจของผู้คน. ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลาที่รอวันทำลายตัวเอง. ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าหากสักวันเอิร์ลสไตม์ได้รู้ความจริงเข้า. ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ, บริษัทเมโร่ไม่มีอนาคตอีกต่อไปแล้ว. ผมจึงตัดสินใจถอยออกมา."
แร็บบิทพูดด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย.
"ทันทีที่ผมเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของกริด. ผมก็รู้ได้ทันทีว่า, อนาคตสามารถฝากไว้กับใครได้. โรงตีเหล็กของข่าน, ผมจะไปทำงานที่นั่น. ผมจะร่วมมือกับกริดโดยใช้เส้นสายธุรกิจที่มีอยู่, และหากรวมเข้ากับทักษะการทำธุรกิจอันยอดเยี่ยมของผม, กริดจะต้องสร้างกำไรได้ไม่แพ้บริษัทระดับกลางอย่างแน่นอน."
"ขะ--ขนาดนั้นเลยหรอ?"
ดวงตาของยูเฟอมิน่าเปล่งประกายออกมาเช่นกัน. การที่ผู้เล่นคนหนึ่งสามารถก้าวไปสู่จุดสูงสุดของธุรกิจได้, นั่นเกินกว่าคำว่ายอดเยี่ยมไปไกลมากแล้ว.
'ในบรรดาผู้เล่นช่างตีเหล็กตอนนี้, ใครอยู่ลำดับที่ 1 กันนะ?'
ยูเฟอมิน่าพยายามขุดคุ้ยความทรงจำของตนขึ้นมาอีกครั้ง.
'ใช่แล้ว, เบย์ก้านี่เอง. เขาก้าวขึ้นมาเเป็นช่างตีเหล็กลำดับ 1 ได้สำเร็จตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนก่อน. แต่เราก็ได้ยินมาว่า, ธรุกิจของเขาไปได้ไม่สวยเท่าใดนัก. ไม่อาจเทียบกับธุรกิจร้านตีเหล็กทั่วไปของเอ็นพีซีได้เลย.'
ในอีกความหมายหนึ่ง, ผู้เล่นช่างตีเหล็กอันดับ 1 ของเกมยังไม่สามารถทำกำไรได้เทียบเท่ากับธรุกิจขนาดเล็กได้. แล้วทำไมคนอย่างกริดถึงมีแววที่จะทำกำไรได้เทียบเท่าธรุกิจขนาดกลางเลยล่ะ?
'เรารู้ดีว่าหมอนั่นจะต้องไม่ใช่คลาสธรรมดา. แต่นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยหรอ?'
แร็บบิทค่อยๆ อธิบายแผนการอันแยบยลของเขาให้ยูเฟอมิน่าฟัง.
"มันมีเงื่อนไขอยู่หลายข้อที่ผมจะต้องเคลียให้ได้, ไม่อย่างนั้นก็มิอาจไปทำงานให้กับโรงตีเหล็กของข่าน. เงื่อนไขประการแรก, การล่มสลายของบริษัทเมโร่และบารอนโลว. ประการที่สอง, ทำให้ยังไงก็ได้, ให้ชาวบ้านมองผมด้วยสายตาที่ดีขึ้นกว่าเดิม. และประการสุดท้าย, สิ่งนี้สำคัญที่สุด, คือการช่วยเหลือกริดออกมาให้ได้. ถ้าหากเราช่วยกริดออกมาได้พร้อมกับการล่มสลายของบริษัทเมโร่และบารอนโลว, ถึงตอนนั้นผมก็จะสามารถทำงานให้กับกริดได้อย่างเปิดเผย."
"ก็เลยอยากให้ชั้นช่วย?"
"ถูกต้อง, ผมเฝ้าจับตามองทักษะของคุณมาสักพักแล้ว. คุณทำได้แน่."
[ ภารกิจ 'ช่วยทำให้แร็บบิทกลายเป็นคนใหม่' ถูกสร้างขึ้น. ]
[ ภารกิจ 'ช่วยทำให้แร็บบิทกลายเป็นคนใหม่' ]
ระดับความยาก : S
แร็บบิทรู้สึกไม่มั่นใจกับอนาคตของบริษัทเมโร่อีกต่อไป. เขาคาดการณ์ว่าบริษัทเมโร่กำลังจะล่มสลายในไม่ช้า. ดังนั้น, เพื่อที่จะเอาชนะใจชาวบ้านวินสตันแล้ว, แร็บบิทจึงจำเป็นต้องทำลายบริษัทเมโร่ด้วยมือตนเอง.
ท่านจะต้องทำตามคำขอร้องของแร็บบิท. โดยการเข้าไปช่วยเหลือกริดออกมา. นั่นจะทำให้บริษัทเมโร่และลอร์ดวินสตันล่มสลายไปในเวลาเดียวกัน.
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ช่วยเหลือกริดออกมาจากคุกใต้ดินของปราสาทวินสตัน, บริษัทเมโร่และลอร์ดวินสตันล่มสลายไปในเวลาเดียวกัน.
รางวัลสำเร็จภารกิจ : เงินจำนวน 5,000 เหรียญทอง, ค่าความสัมพันธ์กับแร็บบิทและชาวบ้านวินสตันเพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด.
บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว : เลเวลลดลง 2 ระดับ, เอ็นพีซีที่ชื่อแร็บบิทจะตาย, และภารกิจที่เกี่ยวข้องกับแร็บบิททั้งหมดจะถูกลบออกจากเกม.
[ ท่านจะรับทำภารกิจนี้หรือไม่?]
'นี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ..."
เมื่อยูเฟอมิน่าอ่านภารกิจอย่างละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว, เธอก็หมดคำพูดในทันที. ภารกิจระดับ S หรือแม้กระทั่งภารกิจที่มอบสมญานามนั้นเป็นสิ่งที่หายากมากภายในซาทิสฟาย. ทว่า, นับตั้งแต่ได้รู้จักกริด. ภารกิจเหล่านั้นกลับผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อนราวกับเป็นเรื่องธรรมดา. อย่างน้อยเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า, กริดนั้นสำคัญต่อหมู่บ้านวินสตันมากแค่ไหน.
'เจ้ากริดนั่น... แม้อุปนิสัยส่วนตัวจะห่วยแตก, แต่เราก็ต้องยอมรับว่าทั้งตัวตนและทักษะเป็นของจริง. คงจะเป็นการดีกว่า, ถ้าหากเราสานสัมพันธ์กับหมอนั่นเอาไว้ด้วยบุญคุญในครั้งนี้.'
ยูเฟอมิน่าตัดสินใจรับภารกิจทันที.
"ได้เลย, ชั้นจะทำมันเอง!"
[ ท่านรับภารกิจเรียบร้อยแล้ว. ]
เพียงเพราะพ่อค้าคนหนึ่งอยากเปลี่ยนงาน. ส่งผลให้ทั้งเจ้าของบริษัทใหญ่, และลอร์ดของหมู่บ้านต้องตกที่นั่งลำบากในทันที.
...
...
...
ณ โรงตีเหล็กของข่าน, ชาวบ้านวินสตันเกือบทั้งหมดกำลังรวมตัวกันอยู่ที่นี่.
"ดูเหมือนข่าวลือที่ฮิวรอยถูกจับตัวไปขณะกำลังออกจากหมู่บ้านจะเป็นความจริง."
"งั้นก็แปลว่าลอร์ดชั่วมันรู้เรื่องที่พวกเราไหว้วานฮิวรอยงั้นรึ? เรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย. ต่อไปนี้การตรวจตราจะยิ่งแน่นหนาขึ้นกว่าเดิม. และฮิวรอยคนถัดไปก็จะไม่มีวันปรากฏตัวขึ้นอีกแน่."
"พวกเรายังทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น. ด้วยฝีมือของบริษัทเมโร่, ไม่มีใครสามารถหนีออกจากวินสตันได้แม้แต่คนเดียว."
ชาวบ้านต่างกำลังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย. ถ้าหากเป็นเวลาปรกติ, ข่านจะเป็นดั่งพี่ใหญ่ที่คอยปลอบประโลมและกำลังใจทุกคน. ทว่า, สภาพของข่านในตอนนี้จะไปปลอบใจใครได้.
'กริด...'
ฮิวรอยนั้นถูกจับด้วยสาเหตุที่เขาพยายามจะไปพบกับเอิร์ลสไตม์. ดังนั้น, ต่อให้ลอร์ดวินสตันและบัลมงต์จะหัวขี้เลื่อยขนาดไหน, แต่พวกมันก็ไม่โง่พอที่จะปล่อยตัวฮิวรอยออกมาในเร็ววันแน่. บางทีอาจถูกขังลืมไปชั่วชีวิตเลยก็เป็นได้. กริดเองก็เช่นกัน, กริดนั้นสนิทสนมกับพวกชาวบ้านมาก, โดยเฉพาะข่าน. กริดน่าจะมีชะตากรรมที่ไม่แตกต่างจากฮิวรอยมากนัก.
'เราจะปล่อยให้กริดถูกขังคุกไปตลอดชีวิตไม่ได้. เราต้องทำอะไรเข้าซักอย่าง!!'
ข่านตัดสินใจอย่างแน่วแน่พร้อมกับตะโกนขึ้นเสียงดัง.
"พวกเราจะเพิกเฉยต่อความอยุติธรรมไม่ได้! พวกเราจะต้องปกป้องศักดิ์ศรีและอนาคตด้วยสองมือของเราเอง! ทุกคน! หยิบอาวุธขึ้นมาซะ! พวกเราจะไปขับไล่ลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่ให้พ้นจากวินสตัน!"
คนตามกริดจะโชคดีทุกคน ยกดว้นตัวมันเองมักจะโชคร้าย
ReplyDeleteกริดผู้โชคร้ายกลับกลายเป็นมอบโชคให้คนอื่น สงสาร มันน่าสงสารจริงๆ
ReplyDeleteอนาคตไม่ได้อยู่ในกำมือตัวเองเลย เศร้าแท้
ReplyDeleteกริดน้อมอบแต่ภารกิจให้คนอื่นตัวเองดันซวย
ReplyDeleteต้องเข้าใจครับเรื่องนี้คนแต่งโรคจิตสัสๆ ขอถามหน่อยเถอะจะมีใครเดินเหยียบหนามเหยียบแก้วมันทุกก้าว
ReplyDeleteต่อให้รวมคนทั้งโลกก็เถอะ มันต้องมีเว้นช่วงบ้าง ผมขัดใจคนแต่งมากๆ เลยครับ ก็ไม่ได้อยากดูพระเอกมันเทพอะไรมากนักหรอกนะแต่นี่มันค่าโชคติดลบ 9999999 เลยทีเดียวทั้งเรื่องในชีวิตจริงทั้งในเกมของมัน ผมนี่อยาก
กระทืบคนแต่งให้สมองมันหายเพี้ยนเสียให้ได้ (ไม่ได้ว่าคนแปลนะ คนแปลๆ ดีมากๆ)
ผมก็คิกเหมือนกัน ผีเกมเห้ไร อินโนเซ้นโครตๆ
Deleteตอนผมอ่าน ลีเจนดาลี่ ผมโคตรไม่ชอบพระเอกที่มันฉลาดแต่ทึ่มเรื่องความรัก+งกฉิบหาย พอผมมาอ่านเรื่องเจ้ากริด มันไม่ฉลาดออกไปทางสมองทึบ+โชคร้ายชิบหาย ทำให้ผมมองลีเจนดาลี่ใหม่ดีขึ้นทันตา 5555
Deleteอยากไปกระทืบคนแต่งจริงๆแหะ แต่งไรของมันเนี่่่ย เล่นมุกโชคร้ายบ่อยจนน่ารำคาญมากๆ
ReplyDeleteถ้าคนแต่งอยู่ใกล้ๆนี่กุตบหัวทิ่มเลย มันก้อโชคร้ายเกิ้น คนแปลแปลดีมากครับ
ReplyDeleteเชี่ยไรว่ะทำให้คนอื่นได้ดีแต่ตัวเองโชคร้ายตลอดตั้งแต่
ReplyDeleteไอคลาสเวทย์มืดล่ะ ขึ้นเลยว่ะ และไอหญิงนี่2เควสล่ะ
คือมึงทำไรได้บ้างไอกริดเหมือนมึงไม่สู้อ่ะ มึงแทบไม่เคยขัดขืนใครเลย
ทำตามเค้าทุกอย่างนี่ถ้าผมเป็นมันตอนโดนจับผมด่าทุกอย่างไปแล้ว
ล่ะที่คิดออกคือ ด่าจนกว่าจะทวงความยุติธรรมได้อ่ะ คือไม่ยอมอ่ะ
อ่านซ้ำอีกที . . . ก็ยังรังเกียจอยู่ดี
ReplyDeleteทั้งเมโร่ ทั้งยูเฟอมิน่า สวะสิ้นดี