จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 40

       นับตั้งแต่ที่การแข่งขันเริ่มขึ้น, เวลาก็ได้ผ่านไปนานถึง 2 ชั่วโมงแล้ว.   เป็นช่วงเวลาที่ผู้ชมด้านนอกเริ่มจะเบื่อหน่ายกับการแข่งตีเหล็กอันปราศจากความตื่นเต้น.    ในขณะที่ยูเฟอมิน่าเสร็จสิ้นการทำในส่วนใบมีดไปเรียบร้อย,  งานต่อไปของเธอก็คือด้ามจับ.    เป็นฝั่งตัวเราเสียเองที่ต้องตามหลังอยู่หนึ่งก้าว,  โดยยังไม่เสร็จแม้กระทั่งการขึ้นโครงใบมีด.   แต่ถึงกระนั้น,  เราก็ยังยืนกรานที่จะอบคืนตัวเหล็กต่อไปอย่างใจเย็น.

       เคร้ง! เคร้ง!

       ต้องขอบคุณข่านที่ใช้แหนบเหล็กคอยคีบโลหะประคองเอาไว้ให้.  เราจึงสามารถเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการใช้ค้อนทุบขึ้นรูปใบมีดอย่างหมดห่วง.

[ ทักษะ 'ความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน' แสดงผล.   ส่งผลให้สมาธิ,  ความอดทน,  และพลังป้องกันของท่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง. ]

       ในขณะที่เรากำลังตั้งสมาธิอย่างใจจดใจจ่อ,  ข้อความระบบก็เด้งขึ้นที่ตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว.   และในเวลาเดียวกัน,   ด้วยสมาธิที่เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด,  จังหวะค้อนที่เราทุบลงไปจึงมีความแม่นยำและน้ำหนักที่เที่ยงตรงไร้ที่ติ.

       แคร้ง~~~!!

       เสียงตะโกนเชียร์เอริน่าจากผู้คนด้านล่างเริ่มเลื่อนลางลงไปจากสตินึกคิดของเราทีละน้อย.   เราค่อยๆ ลืมไปทีละนิดว่ามีผู้ชมหลายพันคนกำลังยืนอยู่รอบๆ จัตุรัส.    แม้กระทั่งการมีตัวตนชองข่านเองก็ด้วย.   เรายืนอยู่อย่างสงบนิ่งราวกับโลกทั้งใบเหลือเพียงแท่งเหล็กที่อยู่ด้านหน้าเท่านั้น.

       แคร้ง~~~!! แคร้ง~~~!!

       ราวกับค้อนเหล็กในมือได้หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับร่างกายไปแล้ว.   เราไม่รู้สึกถึงแรงต้านหรือน้ำหนักจากค้อนเลยซักนิด.  มันเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระตามที่ใจเรานึกคิด.

       แคร้ง~~~!!

       โลหะที่ก้อนถูกค้อนกระทบเข้าได้ส่งเสียงดังก้องกังวาลขึ้นอย่างไพเราะออกไปทั่วบริเวณ.   ทันใดนั้นเอง,  หน้าต่างข้อความระบบได้เด้งขึ้นมาอีกครั้ง.


[ ทักษะ 'ลมหายใจของช่างตีเหล็กในตำนาน' แสดงผล.   ไอเท็มที่ผลิตขึ้นจะมีระดับที่สูงขึ้น.]

       "......!"

       สติที่แน่วแน่,  รวมไปถึงโลกอันเงียบสงัดของเราเมื่อครู่ได้ค่อยๆ กลับกลายเป็นปรกติอีกครั้ง.

       "เอริน่า! เอริน่า! เอริน่า!"

       "ข่าน,  สู้เค้า!"

       "กริด,  นายต้องทำได้!"

       เสียงเชียร์อันแสนอึกทึกจากฝูงชน,  เสียงนกที่กำลังยืนเกาะรั้วไม้พร้อมกับร้องจิ้บๆ,   เสียงเข็มวินาทีของหอนาฬิกที่ดังกริ๊ก...กริ๊ก...,   รวมไปถึงเสียงค้อนทุบของเอริน่า   ทุกสุรเสียงได้พุ่งเข้ามาในโสตประสาทการได้ยินของเราอย่างฉับพลัน.

       "อา..."

       โลกอันเงียบสงัดที่เราสร้างขึ้นเมื่อครู่ได้สลายไปเสียแล้ว.   กลับกลายมาเป็นโลกแห่งความจริงอันแสนวุ่นวายอีกครั้ง.

       'อยากจะอยู่แบบเมื่อกี้ต่ออีกซักหน่อยแฮะ.'

       น่าเสียดายนัก,  นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่เราได้รู้สึกอะไรแบบนี้,  โดยครั้งสุดท้ายคือในระหว่างที่กำลังสร้างลูกธนูยัฟฟ่าขึ้นมา.   เจ็บใจนัก,  เพราะถ้าหากเราสามารถอยู่ภายในโลกเมื่อครู่ได้นานกว่านี้อีกสักหน่อย,  ผลงานที่สร้างขึ้นคงจะยอมเยี่ยมไร้ที่ติยิ่งกว่านี้แน่.

       ในขณะที่เรากำลังนึกเสียดายไม่หาย,  น้ำเสียงอันสั่นระริกของข่านก็ดังขึ้นจากด้านหลัง.

       "ข้าไม่เคยคิดมาก่อน,  ว่าก้อนเหล็กจะสามารถกลายเป็นสิ่งที่งดงามขนาดนี้ได้..."
   
       ในที่สุดเราก็เสร็จสิ้นการสร้างคมมีด.   เมื่อได้เห็นด้วยตาตนเอง,  มันช่างเป็นคมมีดที่สมบูรณ์แบบ, และมีลวดลายซับซ้อนงดงามเกินกว่าจะพรรณาได้หมด.    ถือเป็นงานศิลป์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่เราสร้างไอเท็มขึ้นมาเลยทีเดียว!   สายตาอันแหลมคมของช่างตีเหล็กในตำนานมันร่ำร้องอยู่ในใจ,  ว่าผลงานชิ้นนี้จะต้องยอดเยี่ยม,  และสร้างความตื่นตะลึงให้กับโลกใบนี้ได้มากกว่าลูกธนูยัฟฟ่าแน่นอน.

       "ยะ--ยอดเลย!   มันยอดเยี่ยมมาก!   ถือเป็นเกียรติอย่างสูงของข้าคนนี้ที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของมัน!   ราวกับชีวิตของข้าเกิดมาเพื่อเป็นช่างตีเหล็กสำหรับวันนี้โดยเฉพาะ!"   คำชมได้พรั่งพรูออกมาพร้อมกับอาการตื่นเต้นของข่านอย่างไม่หยุดปาก.

       ทว่า,  เราคงยังสงบใจเอาไว้.   เป็นเพราะยังคงเหลือส่วนสำคัญที่สร้างไม่เสร็จอยู่.

       "เปิดกระเป๋าสัมภาระ."
   
       เราใช้มือหยิบ 'เขาของมิโนทอร์' ออกมาจากกระเป๋า.  เป็นไอเท็มที่เรายอมเสียเงินมากถึง 10 เหรียญทองเพื่อซื้อมาแข่งขันในวันนี้โดยเฉพาะ.  เราจะใช้มันสร้างปลอกและด้ามจับของมีดสั้นขึ้นมา.  ตัวปลอกนั้นไม่ได้เป็นเพียงเครื่องตกแต่งที่ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว,  มันสามารถถูกใช้เป็นไอเท็มป้องกันตัวได้ในบางสถานกาณ์.  ดังนั้นจึงมีความจำเป็นไม่น้อยที่ปลอกของมีดจะต้องถูกสร้างขึ้นจากวัสดุคงทนและมีน้ำหนักเบา.   ส่วนด้านจับนั้นจะต้องไม่แข็งจนเกินไป,  เพราะถือเป็นส่วนที่ฝ่ามือต้องสัมผัสอยู่ตลอดเวลา.

       เขาของมิโนทอร์คือสิ่งที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด.   โดยแม้จะแข็งแรงทนทานและมีน้ำหนักเบา,  แต่กลับยังคงความอ่อนนุ่มไว้อย่างไม่น่าเชื่อ.  แถมที่ด้านบนยังมีลวดลายทองเหลืองถูกสลักเอาไว้อย่างสวยงาม.   มันจึงจัดเป็นไอเท็มที่เหมาะสมในการทำด้ามจับและปลอกทุกประการ.

       ครืด!  ครืด!

       ประการแรกเริ่มที่ปลอก,   ขนาดของปลอกมีดสั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดคมมีดที่สร้างรอไว้ก่อนหน้า.   ส่วนทางด้านด้ามจับ,  ความยาวและความกว้างของด้ามจับจะถูกออกแบบขึ้นตามขนาดของฝ่ามือผู้ใหญ่เพศชาย.   สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหลักพื้นฐานสากลของช่างตีเหล็กทั่วโลก.  แถมเขาของมิโนทอร์ที่ซื้อมานั้นก็มีลวยลายงดงามสลักเอาไว้ด้วยทองเหลืองอยู่แล้ว,  เราแทบไม่ต้องเสียเวลาในส่วนนี้เลยซักนิด.    หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการออกแบบ,  เราก็เพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการลงมือทำทันที.   ทว่า,  จู่ๆ เสียงเชียร์อันกึกก้องก็ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจากกลุ่มผู้ชม.

       เอริน่าเสร็จสิ้นการสร้างมีดสั้นน้ำหน้าเราไปหนึ่งก้าว.  เมื่อพิธีกรเวทีได้เข้าไปตรวจสอบ,  สีหน้าของเขาก็เผยความตกตะลึงออกมา.

       "ยอดเยี่ยมมาก!  การที่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ในระยะเวลาไม่ถึงสามชั่วโมง,   มีแต่ต้องยอมรับในความสุดยอดของเธอจากใจจริง!"

       "มันจะต้องยอดเยี่ยมขนาดไหนกัน?  ถึงได้รับคำชมมากมายขนาดนี้."

       "อย่าดูคนเดียวเซ่!  ส่งมาให้พวกเราดูบ้าง!"

       ผู้ชมต่างแตกตื่นและพากันอยากรู้อยากเห็นในผลงานที่เพิ่งสำเร็จ.   หลังจากที่พิธีกรเวทีเห็นว่าฝูงชนตื่นเต้นเกินกว่าจะควบคุมได้,  เขาก็รีบดึงดูดความสนใจของทุกคนโดยการประกาศออกมาว่า.
   
       "ย่อมได้!   เชิญทุกท่านรับชมให้เต็มตา!"

       บนจอฉายภาพขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านข้าง,  มีดสั้นที่เพิ่งสร้างเสร็จของเอริน่าปรากฏขึ้น.    มันเป็นมีดที่เปี่ยมไปด้วยความคมกริบ,  แต่ก็แฝงไว้ด้วยสมดุลย์อันยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน.   มีดสั้นเล่มนี้จะต้องมีระดับที่สูงอย่างไม่ต้องสงสัย.  แถมพลังแฝงของมันก็จะต้องยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน.   ด้ามจับยังทำจากทองเหลืองที่สลักลวดลายงดงามเอาไว้.   ทำให้มันสามารถเป็นเครื่องประดับที่เลอค่าชิ้นหนึ่งได้ไม่ยาก.

       "โอ้ววว~~~!!"

       "เป็นมีดที่สะท้อนให้เห็นถึงคนทำจริงๆ!  ข้าไม่เคยเห็นมีดสั้นที่งดงามขนาดนี้มาก่อน.  ชักอยากเห็นของจริงซะแล้วสิ!"
   
       "นั่นถือเป็นประเด็นรอง.   แค่ดูก็รู้แล้วว่าจะต้องมีคุณสัมบัติที่สุดยอดแน่.   อยากได้จังแฮะ."

       กลุ่มผู้ชมต่างตกอยู่ในความวุ่นวายทันที.  ไม่เพียงแต่ผู้เล่นเพศชายที่เป็นแฟนคลับของเธออยู่ก่อนแล้ว,  แม้กระทั่งฝั่งผู้เล่นหญิงเองก็ส่งเสียงชื่นชมออกมาไม่หยุดปาก.   และทันใดนั้นเอง, ข้อมูลของมีดสั้นก็ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอฉายภาพ.
   
[ มีดสั้นทรงเสน่ห์ ]
ระดับความหายาก : อีปิก
ความคงทน : 60/60   พลังโจมตี : 122~127   ความเร็วในการโจมตี : +8%
* มีโอกาสปานกลางที่จะทำให้ศัตรูติดสถานะ 'หลงเสน่ห์'.
* ค่าความคงทนจะฟื้นฟูโดยอัตโนมัติเมื่อบล็อคการโจมตีสำเร็จ.
มีดสั้นที่ถูกสร้างขึ้นโดยทักษะอันยอดเยี่ยม,  และอารมณ์ศิลปินที่ไม่เป็นสองรองใคร.
ความงดงามหมดจดของมันสามารถขโมยหัวใจของผู้ที่พบเห็นได้.
ใบมีดอันคมกริบส่งผลให้มีค่าพลังโจมตีสูง,  แต่ก็ต้องชดเชยด้วยจุดอ่อนอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน.   นั่นก็คือค่าความคงทนที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน.
เงื่อนไขการสวมใส่ :  เลเวล 100 หรือสูงกว่า,  ค่าความว่องไว 200 แต้มหรือสูงกว่า,  ค่าพละกำลัง 30 หรือสูงกว่า,  ทักษะความชำนาญมีดสั้นขั้นกลางหรือสูงกว่า.

       แม้จะมีจุดอ่อนคือความคงทน,  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันคือมีดสั้นที่ยอดเยี่ยมเกินพรรณา.  พลังโจมตีสูงกว่าบรรดามีดสั้นในระดับใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก.   แถมยังมีคุณสมบัติในการทำให้เป้าหมายหลงเสน่ห์ได้อีก.   สถานะ 'หลงเสน่ห์' นั้นจะทำให้เป้าหมายไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เป็นระยะเวลา 3 วินาที.   ถือเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับคลาสนักฆ่าทุกชนิดเลยทีเดียว.

       ผู้ชมต่างส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างมั่นใจในทันที.

       "ผลการแข่งขั้นออกมาแล้ว!  เอริน่าไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน!"

       แม้กระทั่งชาวบ้านวินสตันเองก็ยังต้องรู้สึกสิ้นหวัง,  เมื่อได้เห็นมีดสั้นเล่มดังกล่าวอย่างเต็มสองตา.

       "อา...  ผู้หญิงคนนี้เป็นช่างตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมมาก.   แม้กริดจะได้รับคำชื่นชมจากข่าน,  แต่เขาจะสามารถสร้างมีดสั้นที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ขึ้นมาได้เชียวรึ?"

       แม้กระทั่งแร็บบิทและคนของบริษัทเมโร่ที่เหลือเอง,  พวกมันต่างคิดว่าชัยชนะได้ตกเป็นของเอริน่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.   ทว่า,  ตัวเรานั้นยังคงสงบนิ่งเยือกเย็นได้อยู่.   ข่านก็เช่นกัน.

       ข่านหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุข. "ผู้หญิงคนนั้นแม้จะยังเด็ก,  แต่ก็นับว่ามีทักษะที่ไม่เลวเลยทีเดียว.   ปล่อยให้พวกเขาตื่นเต้นกันไปก่อน.  แต่มันจะเป็นเช่นนี้ไปได้อีกไม่นานนักหรอก.  ข้าพูดถูกไหมล่ะ?"
   
       ในที่สุด,  ทั้งปลอกมีดและด้ามจับก็เสร็จสิ้นก่อนที่เวลาจะหมดลง.   เราพยักหน้าให้ข่านเบาๆ พร้อมกับเริ่มขั้นตอนประกอบทุกชิ้นส่วนให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียว.
   
       "แน่นอน,  ผมคือตัวแทนสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำของโลกใบนี้.  ผมจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด."

       เมื่อข่านได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย.  "ชั้นต่ำ?   เจ้าหมายถึงสิ่งใด?  ตัวเจ้าในวันนี้ได้ลุกขึ้นสู้,  เพื่อคอยปกป้องโรงตีเหล็กของผู้อื่นเชียวนะ!"

       "...อา,  ช่างเถอะ.   ลืมมันไปซะ.   แล้วตอนนี้ได้เวลาที่พวกเราจะออกไปแสดงผลงานให้โลกได้เห็น,  และทวงคืนโรงตีเหล็กของลุงกลับมารึยังล่ะ?"

       มีดสั้นของเราเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ.   ร่างกายเกิดการสั่นสะริกอย่างหยุดไม่ได้,  เมื่อเห็นคำอธิบายรายละเอียดของมีดที่เราสร้างขึ้นมากับมือ.    เรายื่นมันออกไปให้กับพิธืกรเวที.  ทว่า,  มันไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมามอง.  ในเวลาเดียวกัน,  มันก็พูดกับกลุ่มผู้ชมผ่านไมโครโฟนออกไปว่า.

       "ขนาดทีมนี้มีสองคน,  พวกเขากลับสร้างมีดสั้นได้ช้ากว่าเอริน่าอีกรึ?   ผลการแข่งในวันนี้คงออกมาเป็นที่แน่ชัดแล้วกระมัง?"

       "ฮ่าฮ่าฮ่า!  ถูกต้อง!   น่าอายฉิบ,  เป็นถึงผู้ชายสองคน,  กลับรุมผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีแค่คนเดียว.   แต่ผลการแข่งมันก็ออกมาแน่ชัดนานแล้ว!"

       กลุ่มผู้ชมต่างตะโกนโห่ร้องอย่างเห็นด้วย.

       เราแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันใส่พวกมันโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง.  "รอชมผลงานของข้าให้ดีเถอะ!  แล้วอย่าหัวใจวายตายไปก่อนซะล่ะ!!"

       แต่ทันใดนั้นเอง,  ทหารองครักษ์ของหมู่บ้านวินสตันได้ปีนเวทีขึ้นมา,  และแย่งมีดไปจากมือเรา.

       "อะ--อะไรกัน?"

       ในขณะที่เรากำลังสับสนสุดขีด,   อัศวินคนหนึ่งที่สวมชุดเกราะครบมือก็ตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง.

       "ข้าได้รับรายงานมาว่า,  แกร่วมมือกับอาชญากรที่มีนามว่า 'ฮิวรอย',  ผู้ซึ่งถูกกุมตัวไปขังในคุกตั้งแต่เมื่อ 8 วันก่อน,  โดยพวกแกทั้งคู่มีความคิดประสงค์ร้ายต่อหมู่บ้านวินสตันแห่งนี้!   แกจะต้องตอบมาตามความเป็นจริงเท่านั้น!"

       "ฮิวรอย?"

       มันกำลังพูดถึงฮิวรอยผู้ที่รับภารกิจ 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน' ไปงั้นหรือ?   ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า,  หมอนั่นทำภารกิจล้มเหลวและถูกจับไปขังอยู่สินะ?

       'ไร้ประโยชน์ฉิบ.  ไม่สิ...  ทำไมเราถึงไปเกี่ยวข้องกับมันได้ล่ะ?'

       เราตอบปฏิเสธพร้อมกับขัดขืนในทันที.  "พวกคุณพูดอะไร?   ผมไม่รู้จักมัน!   ปล่อยผมนะ!"

       อัศวินได้ชักดาบออกมาจอที่คอหอยของเราพร้อมกับพูดว่า.  "อย่าคิดขัดขืนจะดีกว่านะ."

       "กะ--ก็ได้..."

       หากเราขยับแม้เพียงนิด,  เจ้าบ้านี่คงกระซวกดาบที่อยู่ตรงคอหอยเข้ามาแน่!   ตัวเราที่ไร้อาวุธได้แต่ต้องยอมถูกอัศวินลากลงจากเวทีแต่โดยดี.

       ข่านเห็นดังนั้นก็รีบตะโกนขึ้นเสียงดัง.  "พวกแกจะทำอะไร?   ทำไมถึงต้องปรักปรำผู้บริสุทธิ์ด้วย!"

       แต่กองอัศวินองครักษ์หาได้สนใจไม่.   ข่านจึงรีบวิ่งไปยังเขตที่นั่งของกลุ่มผู้บริษัทระดับสูงบริษัทเมโร่ทันที.   เขาตะโกนขึ้นใส่ใครบางคนอย่างสุดเสียง.

       "บัลมงต์!  ไอ้ขี้ขลาด!  แกรู้สินะว่าไม่มีวันเอาชนะในการแข่งนี้ได้.   จึงต้องเล่นลูกไม้สกปรกถึงเพียงนี้!   แกไม่กลัวชาวบ้านลุกขึ้นมาต่อต้านบ้างรึไง?"

       ทว่า,  แม้ข่านจะตะโกนไปมากเท่าไร,  ดังแค่ไหน,  ทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์.  ชายคนดังกล่าวมิได้เหลียวแลเลยสักนิด.  ราวกับเป็นเพียงแค่เสียงเห่าหอนจากสุนัขข้างถนนเท่านั้น.

       ในที่สุด,  ร่างของเราก็ถูกคุมตัวมายืนอยู่ด้านหน้าบัลมงต์.
   
       ...
   
       'นี่มันบ้าชัดๆ...'

       แร็บบิทใช้ชีวิตในการทำธุรกิจมานานกว่า 20 ปีแล้ว,  ในระหว่างนั้นย่อมต้องเคยเห็นไอเท็มชั้นยอดผ่านตามานับไม่ถ้วน.   เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาต้องตกตะลึงอย่างสุดขีด,  เมื่อได้เห็นรายละเอียดของมีดสั้นที่กริดรังสรรค์ขึ้นมา.

       'มีดเล่มนี้...   เป็นไปไม่ได้!  มันคือสุดยอดไอเท็มอย่างไร้ข้อโต้แย้ง,  โดยแม้แต่มีดของเอริน่าก็ยังเทียบไม่ติด.   พวกเรา...   พ่ายแพ้ในการแข่งครั้งนี้.  ไม่เคยคิดมาก่อน,  ว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อกริดจะมีความสามารถถึงเพียงนี้ได้.'

       บัลมงต์,  ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหลังแร็บบิท,  ได้บ่นพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิดฉุนเฉียว.  "ชิ!  พวกเราแพ้มันจริงๆ ให้ตายสิ."

       บัลมงต์นั้นเป็นพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จมากมาย,  เพียงกวาดสายตามองเผินๆ ก็รับรู้ได้ถึงความสุดยอดของมีดสั้นที่รังสรรค์ขึ้นโดยกริดในทันที.   เขาไม่มีทางประเมินไอเท็มที่มีราคาแพงพลาดไปได้แน่.

       แร็บบิทโค้งคำนับด้วยสีหน้าผิดหวัง.  "กระผมต้องขออภัยด้วยจริงๆ.    ดูเหมือนในครั้งนี้จะประมาทเด็กหนุ่มกริดมากไปหน่อย."

       แม้จะแร็บบิทจะล้มเหลวในครั้งนี้,  แต่บัลมงต์ก็หาได้ถือสาเอาความเหมือนกับทุกที.   นั่นเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก.  "มันไม่ใช่ความผิดของแกหรอก.  ช่างตีเหล็กที่แกหามานั้น,  ต่อให้เป็นข้า,  ก็ไม่รู้ว่าจะหาคนที่เก่งกว่านี้ได้อีกรึเปล่า.   เพียงแต่คู่ต่อสู้ของเราเก่งเกินไป.  ช่างขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกซะจริง!"

       บัลมงต์ได้ฉลองชัยชนะอยู่ในใจตั้งแต่ตอนที่เห็นสภาพของกริดเป็นครั้งแรกแล้ว.   ภายนอกของเขาดูซอมซ่อจนเกินกว่าจะเป็นช่างตีเหล็กชั้นยอดได้.    แต่ในเมื่อผลการแข่งขันออกมาขาดลอยถึงเพียงนี้.   มันก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงที่ต้องถึงกับลงโทษแร็บบิท.   ทุกอย่างผิดไปจากที่คาดเพราะว่ากริดแข็งแกร่งเกินไป.

       "เขาใช้แผนตบตาเราด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่เหมือนกับขยะมูลฝอยนั่น,  เป็นเหตุให้เราต้องประมาทจนพลาดท่าเสียที.   นับว่าเป็นแผนที่แยบยลเลยทีเดียว.   แต่ยังไงเสีย,  เราก็ต้องประกาศผลการแข่งให้ผู้คนรับรู้ออกไปอย่างเป็นทางการอยู่ดี.   จะทำยังไงกับเรื่องนี้ได้บ้าง?"
   
       บัลมงต์ต้องการจะครอบครองโรงตีเหล็กเป็นอย่างมาก,  แต่โรงตีเหล็กที่สามารถมีได้เพียงแห่งเดียวกลับตกอยู่ในมือของข่าน.  เขาไม่อยากจะพลาดโอกาสคว้ามันไปเพียงเพราะการแข่งขันอันแสนงี่เง่าในวันนี้.

       แร็บบิทรู้ดีว่าบัลมงต์กำลังคิดสิ่งใดอยู่.  เขาจึงพยายามพูดจาโน้มน้าวออกไป.  "แต่กฏก็ย่อมต้องเป็นกฏ.   ถ้าหากเราไม่ยอมรับผลการแข่ง,  เกรงว่าจะถูกสังคมภายนอกรุมประนามเอาได้."

       บัลมงต์ได้ยินดังนั้นก็เริ่มขึ้นเสียง.  "อย่าพูดจาไร้สาระน่า!   ข้าไม่มีวันยอมปล่อยโรงตีเหล็กนั่นไปหรอก!"
   
       เมื่อแร็บบิ้ทเห็นท่าทีอันฉุนเฉียวของบัลมงต์,  เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก.   ในสถานการณ์แบบนี้,  คนตัวเล็กๆ เช่นเขาจะทำอะไรได้?   กลิ่นตุๆ ของความไม่ชอบมาพากลเริ่มโชยออกมา.
   
       บัลมงต์แสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับพูดขึ้นว่า.  "ในเมื่อกลุ่มผู้ชมยังไม่รู้ผลของการแข่งในครั้งนี้,  ต่างจากพวกเรา.   พวกโง่เง่านั้นไม่มีทางรู้ถึงรายละเอียดของไอเท็มได้เพียงแค่การมองผ่านๆ ได้หรอก.   พวกมันจะไม่มีวันได้รู้ว่ามีดสั้นของกริด, ยอดเยี่ยมกว่ามีดสั้นที่เอริน่าสร้างขึ้น!"
   
       "เซอร์ฟิลิปสัน!"

       'ฟิลิปสัน',  ชายผู้นี้คืออัศวินมือขวา,  องครักษ์ส่วนตัวของ 'บารอนโลว',  ลอร์ดแห่งวินสตัน.    มันมาที่นี่ในฐานะของผู้คุ้มกันให้กับบัลมงต์.   แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า,  อำนาจของบัลมงต์นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหนในวินสตัน.

       บัลมงต์ออกคำสั่งกับฟิลิปสันไปว่า.  "จับหมอนี่ไปขังซะ!  ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับฮิวรอย,  กบฏผู้ซึ่งถูกจับตัวมาในวันก่อน.   เจ้าจะต้องเก็บมีดสั้นเล่มนั้นเอาไว้อย่าให้ห่างตัวเด็ดขาด!   ไม่ว่าใครก็ห้ามรู้รายละเอียดของมันทั้งนั้น!"

       "ขอรับ."

       กลุ่มทหารซึ่งเป็นลูกน้องของฟิลิปสันได้เดินเข้ามาจับตัวกริดในทันที.   พวกมันเดินเข้ามายึดมีดสั้นของกริด,  และนำตัวเขาไปคุมขังยังปราสาทวินสตัน.





Comments

  1. น่าสงสารจริงๆ

    ReplyDelete
  2. เคราะซ้ำกรรมซัด ชีวิตรันทด
    บัดซบจริงๆเล้ย

    ReplyDelete
  3. ซวยบัดซบกริด.....

    ReplyDelete
  4. ไอ่ฮิวรอยนี่พาเควสกริดล่มแถมยังถูกจับด้วยกันอีก

    ReplyDelete
  5. มันจะซวยอะไรขนาดนั้น แล้วจะเาอัำรแหกคุกล่ะทีนี้ เรียนรู้สร้างกรงขัง จากนั้นก็แยกส่วน แล้วหนีเหรอ

    ReplyDelete
  6. ดองไว้3ตอนกลับมาอ่านพระเอกกูโดนจับ คนเขียนจะให้ตูเครียดไปถึงไหนฟะ!!!!

    ReplyDelete
  7. เรื่องนี้โชคของพระเอกคงติดลบแน่ๆๆเลย

    ReplyDelete
  8. นี้เป็นเรื่องที่พระเอกมีชีวิตบัดซบมากที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา ไอ้คนแต่งเองจะเก่งเกินไปแล้วแต่งให้พระเอกบัดซบโครตเลยยย ขอบใจไรต์มากที่แปล แต่เรื่องนี้โครตปวดหัวเลยวะ

    ReplyDelete
  9. อ่าวววว ชีวิตมึงบัดซบชิบหาย สร้างของดีได้แต่ดันไม่มีประโยชน์ อะไรจะอนาถได้ปานนี้

    ReplyDelete
  10. อ่านมาตั้งนาน ยังไม่เกิดแพชขั่น ในเรื่องนี้เลยแหะ น่าเบื่อกับความโชคร้ายของพระเอกละ มีอะมีได้ แต่นี่คนแต่งก็ใส่มาเยอะเกิน จนเอือมละ เห็นเขาบอกว่าหลัง90ไปจะสนุก สงสัยคงจะไม่ถึงซะละ

    ReplyDelete
  11. ถ้าเป็นนิยายแต่ง โดนด่าไปแล้ว

    ReplyDelete
  12. ผิดหวังว่ะผิดหวังผู้แต่งนี่แหละซวยเกินไปแล้ว

    ReplyDelete
  13. ชิบหายเลยไอ้แม้ย้อย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00