จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 40
นับตั้งแต่ที่การแข่งขันเริ่มขึ้น, เวลาก็ได้ผ่านไปนานถึง 2 ชั่วโมงแล้ว. เป็นช่วงเวลาที่ผู้ชมด้านนอกเริ่มจะเบื่อหน่ายกับการแข่งตีเหล็กอันปราศจากความตื่นเต้น. ในขณะที่ยูเฟอมิน่าเสร็จสิ้นการทำในส่วนใบมีดไปเรียบร้อย, งานต่อไปของเธอก็คือด้ามจับ. เป็นฝั่งตัวเราเสียเองที่ต้องตามหลังอยู่หนึ่งก้าว, โดยยังไม่เสร็จแม้กระทั่งการขึ้นโครงใบมีด. แต่ถึงกระนั้น, เราก็ยังยืนกรานที่จะอบคืนตัวเหล็กต่อไปอย่างใจเย็น.
เคร้ง! เคร้ง!
ต้องขอบคุณข่านที่ใช้แหนบเหล็กคอยคีบโลหะประคองเอาไว้ให้. เราจึงสามารถเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการใช้ค้อนทุบขึ้นรูปใบมีดอย่างหมดห่วง.
ในขณะที่เรากำลังตั้งสมาธิอย่างใจจดใจจ่อ, ข้อความระบบก็เด้งขึ้นที่ตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว. และในเวลาเดียวกัน, ด้วยสมาธิที่เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด, จังหวะค้อนที่เราทุบลงไปจึงมีความแม่นยำและน้ำหนักที่เที่ยงตรงไร้ที่ติ.
แคร้ง~~~!!
เสียงตะโกนเชียร์เอริน่าจากผู้คนด้านล่างเริ่มเลื่อนลางลงไปจากสตินึกคิดของเราทีละน้อย. เราค่อยๆ ลืมไปทีละนิดว่ามีผู้ชมหลายพันคนกำลังยืนอยู่รอบๆ จัตุรัส. แม้กระทั่งการมีตัวตนชองข่านเองก็ด้วย. เรายืนอยู่อย่างสงบนิ่งราวกับโลกทั้งใบเหลือเพียงแท่งเหล็กที่อยู่ด้านหน้าเท่านั้น.
แคร้ง~~~!! แคร้ง~~~!!
ราวกับค้อนเหล็กในมือได้หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับร่างกายไปแล้ว. เราไม่รู้สึกถึงแรงต้านหรือน้ำหนักจากค้อนเลยซักนิด. มันเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระตามที่ใจเรานึกคิด.
แคร้ง~~~!!
โลหะที่ก้อนถูกค้อนกระทบเข้าได้ส่งเสียงดังก้องกังวาลขึ้นอย่างไพเราะออกไปทั่วบริเวณ. ทันใดนั้นเอง, หน้าต่างข้อความระบบได้เด้งขึ้นมาอีกครั้ง.
"......!"
สติที่แน่วแน่, รวมไปถึงโลกอันเงียบสงัดของเราเมื่อครู่ได้ค่อยๆ กลับกลายเป็นปรกติอีกครั้ง.
"เอริน่า! เอริน่า! เอริน่า!"
"ข่าน, สู้เค้า!"
"กริด, นายต้องทำได้!"
เสียงเชียร์อันแสนอึกทึกจากฝูงชน, เสียงนกที่กำลังยืนเกาะรั้วไม้พร้อมกับร้องจิ้บๆ, เสียงเข็มวินาทีของหอนาฬิกที่ดังกริ๊ก...กริ๊ก..., รวมไปถึงเสียงค้อนทุบของเอริน่า ทุกสุรเสียงได้พุ่งเข้ามาในโสตประสาทการได้ยินของเราอย่างฉับพลัน.
"อา..."
โลกอันเงียบสงัดที่เราสร้างขึ้นเมื่อครู่ได้สลายไปเสียแล้ว. กลับกลายมาเป็นโลกแห่งความจริงอันแสนวุ่นวายอีกครั้ง.
'อยากจะอยู่แบบเมื่อกี้ต่ออีกซักหน่อยแฮะ.'
น่าเสียดายนัก, นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่เราได้รู้สึกอะไรแบบนี้, โดยครั้งสุดท้ายคือในระหว่างที่กำลังสร้างลูกธนูยัฟฟ่าขึ้นมา. เจ็บใจนัก, เพราะถ้าหากเราสามารถอยู่ภายในโลกเมื่อครู่ได้นานกว่านี้อีกสักหน่อย, ผลงานที่สร้างขึ้นคงจะยอมเยี่ยมไร้ที่ติยิ่งกว่านี้แน่.
ในขณะที่เรากำลังนึกเสียดายไม่หาย, น้ำเสียงอันสั่นระริกของข่านก็ดังขึ้นจากด้านหลัง.
"ข้าไม่เคยคิดมาก่อน, ว่าก้อนเหล็กจะสามารถกลายเป็นสิ่งที่งดงามขนาดนี้ได้..."
ในที่สุดเราก็เสร็จสิ้นการสร้างคมมีด. เมื่อได้เห็นด้วยตาตนเอง, มันช่างเป็นคมมีดที่สมบูรณ์แบบ, และมีลวดลายซับซ้อนงดงามเกินกว่าจะพรรณาได้หมด. ถือเป็นงานศิลป์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่เราสร้างไอเท็มขึ้นมาเลยทีเดียว! สายตาอันแหลมคมของช่างตีเหล็กในตำนานมันร่ำร้องอยู่ในใจ, ว่าผลงานชิ้นนี้จะต้องยอดเยี่ยม, และสร้างความตื่นตะลึงให้กับโลกใบนี้ได้มากกว่าลูกธนูยัฟฟ่าแน่นอน.
"ยะ--ยอดเลย! มันยอดเยี่ยมมาก! ถือเป็นเกียรติอย่างสูงของข้าคนนี้ที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของมัน! ราวกับชีวิตของข้าเกิดมาเพื่อเป็นช่างตีเหล็กสำหรับวันนี้โดยเฉพาะ!" คำชมได้พรั่งพรูออกมาพร้อมกับอาการตื่นเต้นของข่านอย่างไม่หยุดปาก.
ทว่า, เราคงยังสงบใจเอาไว้. เป็นเพราะยังคงเหลือส่วนสำคัญที่สร้างไม่เสร็จอยู่.
"เปิดกระเป๋าสัมภาระ."
เราใช้มือหยิบ 'เขาของมิโนทอร์' ออกมาจากกระเป๋า. เป็นไอเท็มที่เรายอมเสียเงินมากถึง 10 เหรียญทองเพื่อซื้อมาแข่งขันในวันนี้โดยเฉพาะ. เราจะใช้มันสร้างปลอกและด้ามจับของมีดสั้นขึ้นมา. ตัวปลอกนั้นไม่ได้เป็นเพียงเครื่องตกแต่งที่ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว, มันสามารถถูกใช้เป็นไอเท็มป้องกันตัวได้ในบางสถานกาณ์. ดังนั้นจึงมีความจำเป็นไม่น้อยที่ปลอกของมีดจะต้องถูกสร้างขึ้นจากวัสดุคงทนและมีน้ำหนักเบา. ส่วนด้านจับนั้นจะต้องไม่แข็งจนเกินไป, เพราะถือเป็นส่วนที่ฝ่ามือต้องสัมผัสอยู่ตลอดเวลา.
เขาของมิโนทอร์คือสิ่งที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด. โดยแม้จะแข็งแรงทนทานและมีน้ำหนักเบา, แต่กลับยังคงความอ่อนนุ่มไว้อย่างไม่น่าเชื่อ. แถมที่ด้านบนยังมีลวดลายทองเหลืองถูกสลักเอาไว้อย่างสวยงาม. มันจึงจัดเป็นไอเท็มที่เหมาะสมในการทำด้ามจับและปลอกทุกประการ.
ครืด! ครืด!
ประการแรกเริ่มที่ปลอก, ขนาดของปลอกมีดสั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดคมมีดที่สร้างรอไว้ก่อนหน้า. ส่วนทางด้านด้ามจับ, ความยาวและความกว้างของด้ามจับจะถูกออกแบบขึ้นตามขนาดของฝ่ามือผู้ใหญ่เพศชาย. สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหลักพื้นฐานสากลของช่างตีเหล็กทั่วโลก. แถมเขาของมิโนทอร์ที่ซื้อมานั้นก็มีลวยลายงดงามสลักเอาไว้ด้วยทองเหลืองอยู่แล้ว, เราแทบไม่ต้องเสียเวลาในส่วนนี้เลยซักนิด. หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการออกแบบ, เราก็เพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการลงมือทำทันที. ทว่า, จู่ๆ เสียงเชียร์อันกึกก้องก็ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจากกลุ่มผู้ชม.
เอริน่าเสร็จสิ้นการสร้างมีดสั้นน้ำหน้าเราไปหนึ่งก้าว. เมื่อพิธีกรเวทีได้เข้าไปตรวจสอบ, สีหน้าของเขาก็เผยความตกตะลึงออกมา.
"ยอดเยี่ยมมาก! การที่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ในระยะเวลาไม่ถึงสามชั่วโมง, มีแต่ต้องยอมรับในความสุดยอดของเธอจากใจจริง!"
"มันจะต้องยอดเยี่ยมขนาดไหนกัน? ถึงได้รับคำชมมากมายขนาดนี้."
"อย่าดูคนเดียวเซ่! ส่งมาให้พวกเราดูบ้าง!"
ผู้ชมต่างแตกตื่นและพากันอยากรู้อยากเห็นในผลงานที่เพิ่งสำเร็จ. หลังจากที่พิธีกรเวทีเห็นว่าฝูงชนตื่นเต้นเกินกว่าจะควบคุมได้, เขาก็รีบดึงดูดความสนใจของทุกคนโดยการประกาศออกมาว่า.
"ย่อมได้! เชิญทุกท่านรับชมให้เต็มตา!"
บนจอฉายภาพขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านข้าง, มีดสั้นที่เพิ่งสร้างเสร็จของเอริน่าปรากฏขึ้น. มันเป็นมีดที่เปี่ยมไปด้วยความคมกริบ, แต่ก็แฝงไว้ด้วยสมดุลย์อันยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน. มีดสั้นเล่มนี้จะต้องมีระดับที่สูงอย่างไม่ต้องสงสัย. แถมพลังแฝงของมันก็จะต้องยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน. ด้ามจับยังทำจากทองเหลืองที่สลักลวดลายงดงามเอาไว้. ทำให้มันสามารถเป็นเครื่องประดับที่เลอค่าชิ้นหนึ่งได้ไม่ยาก.
"โอ้ววว~~~!!"
"เป็นมีดที่สะท้อนให้เห็นถึงคนทำจริงๆ! ข้าไม่เคยเห็นมีดสั้นที่งดงามขนาดนี้มาก่อน. ชักอยากเห็นของจริงซะแล้วสิ!"
"นั่นถือเป็นประเด็นรอง. แค่ดูก็รู้แล้วว่าจะต้องมีคุณสัมบัติที่สุดยอดแน่. อยากได้จังแฮะ."
กลุ่มผู้ชมต่างตกอยู่ในความวุ่นวายทันที. ไม่เพียงแต่ผู้เล่นเพศชายที่เป็นแฟนคลับของเธออยู่ก่อนแล้ว, แม้กระทั่งฝั่งผู้เล่นหญิงเองก็ส่งเสียงชื่นชมออกมาไม่หยุดปาก. และทันใดนั้นเอง, ข้อมูลของมีดสั้นก็ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอฉายภาพ.
แม้จะมีจุดอ่อนคือความคงทน, แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันคือมีดสั้นที่ยอดเยี่ยมเกินพรรณา. พลังโจมตีสูงกว่าบรรดามีดสั้นในระดับใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก. แถมยังมีคุณสมบัติในการทำให้เป้าหมายหลงเสน่ห์ได้อีก. สถานะ 'หลงเสน่ห์' นั้นจะทำให้เป้าหมายไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เป็นระยะเวลา 3 วินาที. ถือเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับคลาสนักฆ่าทุกชนิดเลยทีเดียว.
ผู้ชมต่างส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างมั่นใจในทันที.
"ผลการแข่งขั้นออกมาแล้ว! เอริน่าไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน!"
แม้กระทั่งชาวบ้านวินสตันเองก็ยังต้องรู้สึกสิ้นหวัง, เมื่อได้เห็นมีดสั้นเล่มดังกล่าวอย่างเต็มสองตา.
"อา... ผู้หญิงคนนี้เป็นช่างตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมมาก. แม้กริดจะได้รับคำชื่นชมจากข่าน, แต่เขาจะสามารถสร้างมีดสั้นที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ขึ้นมาได้เชียวรึ?"
แม้กระทั่งแร็บบิทและคนของบริษัทเมโร่ที่เหลือเอง, พวกมันต่างคิดว่าชัยชนะได้ตกเป็นของเอริน่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว. ทว่า, ตัวเรานั้นยังคงสงบนิ่งเยือกเย็นได้อยู่. ข่านก็เช่นกัน.
ข่านหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุข. "ผู้หญิงคนนั้นแม้จะยังเด็ก, แต่ก็นับว่ามีทักษะที่ไม่เลวเลยทีเดียว. ปล่อยให้พวกเขาตื่นเต้นกันไปก่อน. แต่มันจะเป็นเช่นนี้ไปได้อีกไม่นานนักหรอก. ข้าพูดถูกไหมล่ะ?"
ในที่สุด, ทั้งปลอกมีดและด้ามจับก็เสร็จสิ้นก่อนที่เวลาจะหมดลง. เราพยักหน้าให้ข่านเบาๆ พร้อมกับเริ่มขั้นตอนประกอบทุกชิ้นส่วนให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียว.
"แน่นอน, ผมคือตัวแทนสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำของโลกใบนี้. ผมจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด."
เมื่อข่านได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย. "ชั้นต่ำ? เจ้าหมายถึงสิ่งใด? ตัวเจ้าในวันนี้ได้ลุกขึ้นสู้, เพื่อคอยปกป้องโรงตีเหล็กของผู้อื่นเชียวนะ!"
"...อา, ช่างเถอะ. ลืมมันไปซะ. แล้วตอนนี้ได้เวลาที่พวกเราจะออกไปแสดงผลงานให้โลกได้เห็น, และทวงคืนโรงตีเหล็กของลุงกลับมารึยังล่ะ?"
มีดสั้นของเราเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ. ร่างกายเกิดการสั่นสะริกอย่างหยุดไม่ได้, เมื่อเห็นคำอธิบายรายละเอียดของมีดที่เราสร้างขึ้นมากับมือ. เรายื่นมันออกไปให้กับพิธืกรเวที. ทว่า, มันไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมามอง. ในเวลาเดียวกัน, มันก็พูดกับกลุ่มผู้ชมผ่านไมโครโฟนออกไปว่า.
"ขนาดทีมนี้มีสองคน, พวกเขากลับสร้างมีดสั้นได้ช้ากว่าเอริน่าอีกรึ? ผลการแข่งในวันนี้คงออกมาเป็นที่แน่ชัดแล้วกระมัง?"
"ฮ่าฮ่าฮ่า! ถูกต้อง! น่าอายฉิบ, เป็นถึงผู้ชายสองคน, กลับรุมผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีแค่คนเดียว. แต่ผลการแข่งมันก็ออกมาแน่ชัดนานแล้ว!"
กลุ่มผู้ชมต่างตะโกนโห่ร้องอย่างเห็นด้วย.
เราแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันใส่พวกมันโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง. "รอชมผลงานของข้าให้ดีเถอะ! แล้วอย่าหัวใจวายตายไปก่อนซะล่ะ!!"
แต่ทันใดนั้นเอง, ทหารองครักษ์ของหมู่บ้านวินสตันได้ปีนเวทีขึ้นมา, และแย่งมีดไปจากมือเรา.
"อะ--อะไรกัน?"
ในขณะที่เรากำลังสับสนสุดขีด, อัศวินคนหนึ่งที่สวมชุดเกราะครบมือก็ตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง.
"ข้าได้รับรายงานมาว่า, แกร่วมมือกับอาชญากรที่มีนามว่า 'ฮิวรอย', ผู้ซึ่งถูกกุมตัวไปขังในคุกตั้งแต่เมื่อ 8 วันก่อน, โดยพวกแกทั้งคู่มีความคิดประสงค์ร้ายต่อหมู่บ้านวินสตันแห่งนี้! แกจะต้องตอบมาตามความเป็นจริงเท่านั้น!"
"ฮิวรอย?"
มันกำลังพูดถึงฮิวรอยผู้ที่รับภารกิจ 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน' ไปงั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า, หมอนั่นทำภารกิจล้มเหลวและถูกจับไปขังอยู่สินะ?
'ไร้ประโยชน์ฉิบ. ไม่สิ... ทำไมเราถึงไปเกี่ยวข้องกับมันได้ล่ะ?'
เราตอบปฏิเสธพร้อมกับขัดขืนในทันที. "พวกคุณพูดอะไร? ผมไม่รู้จักมัน! ปล่อยผมนะ!"
อัศวินได้ชักดาบออกมาจอที่คอหอยของเราพร้อมกับพูดว่า. "อย่าคิดขัดขืนจะดีกว่านะ."
"กะ--ก็ได้..."
หากเราขยับแม้เพียงนิด, เจ้าบ้านี่คงกระซวกดาบที่อยู่ตรงคอหอยเข้ามาแน่! ตัวเราที่ไร้อาวุธได้แต่ต้องยอมถูกอัศวินลากลงจากเวทีแต่โดยดี.
ข่านเห็นดังนั้นก็รีบตะโกนขึ้นเสียงดัง. "พวกแกจะทำอะไร? ทำไมถึงต้องปรักปรำผู้บริสุทธิ์ด้วย!"
แต่กองอัศวินองครักษ์หาได้สนใจไม่. ข่านจึงรีบวิ่งไปยังเขตที่นั่งของกลุ่มผู้บริษัทระดับสูงบริษัทเมโร่ทันที. เขาตะโกนขึ้นใส่ใครบางคนอย่างสุดเสียง.
"บัลมงต์! ไอ้ขี้ขลาด! แกรู้สินะว่าไม่มีวันเอาชนะในการแข่งนี้ได้. จึงต้องเล่นลูกไม้สกปรกถึงเพียงนี้! แกไม่กลัวชาวบ้านลุกขึ้นมาต่อต้านบ้างรึไง?"
ทว่า, แม้ข่านจะตะโกนไปมากเท่าไร, ดังแค่ไหน, ทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์. ชายคนดังกล่าวมิได้เหลียวแลเลยสักนิด. ราวกับเป็นเพียงแค่เสียงเห่าหอนจากสุนัขข้างถนนเท่านั้น.
ในที่สุด, ร่างของเราก็ถูกคุมตัวมายืนอยู่ด้านหน้าบัลมงต์.
...
'นี่มันบ้าชัดๆ...'
แร็บบิทใช้ชีวิตในการทำธุรกิจมานานกว่า 20 ปีแล้ว, ในระหว่างนั้นย่อมต้องเคยเห็นไอเท็มชั้นยอดผ่านตามานับไม่ถ้วน. เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาต้องตกตะลึงอย่างสุดขีด, เมื่อได้เห็นรายละเอียดของมีดสั้นที่กริดรังสรรค์ขึ้นมา.
'มีดเล่มนี้... เป็นไปไม่ได้! มันคือสุดยอดไอเท็มอย่างไร้ข้อโต้แย้ง, โดยแม้แต่มีดของเอริน่าก็ยังเทียบไม่ติด. พวกเรา... พ่ายแพ้ในการแข่งครั้งนี้. ไม่เคยคิดมาก่อน, ว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อกริดจะมีความสามารถถึงเพียงนี้ได้.'
บัลมงต์, ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหลังแร็บบิท, ได้บ่นพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิดฉุนเฉียว. "ชิ! พวกเราแพ้มันจริงๆ ให้ตายสิ."
บัลมงต์นั้นเป็นพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จมากมาย, เพียงกวาดสายตามองเผินๆ ก็รับรู้ได้ถึงความสุดยอดของมีดสั้นที่รังสรรค์ขึ้นโดยกริดในทันที. เขาไม่มีทางประเมินไอเท็มที่มีราคาแพงพลาดไปได้แน่.
แร็บบิทโค้งคำนับด้วยสีหน้าผิดหวัง. "กระผมต้องขออภัยด้วยจริงๆ. ดูเหมือนในครั้งนี้จะประมาทเด็กหนุ่มกริดมากไปหน่อย."
แม้จะแร็บบิทจะล้มเหลวในครั้งนี้, แต่บัลมงต์ก็หาได้ถือสาเอาความเหมือนกับทุกที. นั่นเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก. "มันไม่ใช่ความผิดของแกหรอก. ช่างตีเหล็กที่แกหามานั้น, ต่อให้เป็นข้า, ก็ไม่รู้ว่าจะหาคนที่เก่งกว่านี้ได้อีกรึเปล่า. เพียงแต่คู่ต่อสู้ของเราเก่งเกินไป. ช่างขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกซะจริง!"
บัลมงต์ได้ฉลองชัยชนะอยู่ในใจตั้งแต่ตอนที่เห็นสภาพของกริดเป็นครั้งแรกแล้ว. ภายนอกของเขาดูซอมซ่อจนเกินกว่าจะเป็นช่างตีเหล็กชั้นยอดได้. แต่ในเมื่อผลการแข่งขันออกมาขาดลอยถึงเพียงนี้. มันก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงที่ต้องถึงกับลงโทษแร็บบิท. ทุกอย่างผิดไปจากที่คาดเพราะว่ากริดแข็งแกร่งเกินไป.
"เขาใช้แผนตบตาเราด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่เหมือนกับขยะมูลฝอยนั่น, เป็นเหตุให้เราต้องประมาทจนพลาดท่าเสียที. นับว่าเป็นแผนที่แยบยลเลยทีเดียว. แต่ยังไงเสีย, เราก็ต้องประกาศผลการแข่งให้ผู้คนรับรู้ออกไปอย่างเป็นทางการอยู่ดี. จะทำยังไงกับเรื่องนี้ได้บ้าง?"
บัลมงต์ต้องการจะครอบครองโรงตีเหล็กเป็นอย่างมาก, แต่โรงตีเหล็กที่สามารถมีได้เพียงแห่งเดียวกลับตกอยู่ในมือของข่าน. เขาไม่อยากจะพลาดโอกาสคว้ามันไปเพียงเพราะการแข่งขันอันแสนงี่เง่าในวันนี้.
แร็บบิทรู้ดีว่าบัลมงต์กำลังคิดสิ่งใดอยู่. เขาจึงพยายามพูดจาโน้มน้าวออกไป. "แต่กฏก็ย่อมต้องเป็นกฏ. ถ้าหากเราไม่ยอมรับผลการแข่ง, เกรงว่าจะถูกสังคมภายนอกรุมประนามเอาได้."
บัลมงต์ได้ยินดังนั้นก็เริ่มขึ้นเสียง. "อย่าพูดจาไร้สาระน่า! ข้าไม่มีวันยอมปล่อยโรงตีเหล็กนั่นไปหรอก!"
เมื่อแร็บบิ้ทเห็นท่าทีอันฉุนเฉียวของบัลมงต์, เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก. ในสถานการณ์แบบนี้, คนตัวเล็กๆ เช่นเขาจะทำอะไรได้? กลิ่นตุๆ ของความไม่ชอบมาพากลเริ่มโชยออกมา.
บัลมงต์แสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับพูดขึ้นว่า. "ในเมื่อกลุ่มผู้ชมยังไม่รู้ผลของการแข่งในครั้งนี้, ต่างจากพวกเรา. พวกโง่เง่านั้นไม่มีทางรู้ถึงรายละเอียดของไอเท็มได้เพียงแค่การมองผ่านๆ ได้หรอก. พวกมันจะไม่มีวันได้รู้ว่ามีดสั้นของกริด, ยอดเยี่ยมกว่ามีดสั้นที่เอริน่าสร้างขึ้น!"
"เซอร์ฟิลิปสัน!"
'ฟิลิปสัน', ชายผู้นี้คืออัศวินมือขวา, องครักษ์ส่วนตัวของ 'บารอนโลว', ลอร์ดแห่งวินสตัน. มันมาที่นี่ในฐานะของผู้คุ้มกันให้กับบัลมงต์. แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า, อำนาจของบัลมงต์นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหนในวินสตัน.
บัลมงต์ออกคำสั่งกับฟิลิปสันไปว่า. "จับหมอนี่ไปขังซะ! ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับฮิวรอย, กบฏผู้ซึ่งถูกจับตัวมาในวันก่อน. เจ้าจะต้องเก็บมีดสั้นเล่มนั้นเอาไว้อย่าให้ห่างตัวเด็ดขาด! ไม่ว่าใครก็ห้ามรู้รายละเอียดของมันทั้งนั้น!"
"ขอรับ."
กลุ่มทหารซึ่งเป็นลูกน้องของฟิลิปสันได้เดินเข้ามาจับตัวกริดในทันที. พวกมันเดินเข้ามายึดมีดสั้นของกริด, และนำตัวเขาไปคุมขังยังปราสาทวินสตัน.
เคร้ง! เคร้ง!
ต้องขอบคุณข่านที่ใช้แหนบเหล็กคอยคีบโลหะประคองเอาไว้ให้. เราจึงสามารถเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการใช้ค้อนทุบขึ้นรูปใบมีดอย่างหมดห่วง.
[ ทักษะ 'ความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน' แสดงผล. ส่งผลให้สมาธิ, ความอดทน, และพลังป้องกันของท่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง. ]
ในขณะที่เรากำลังตั้งสมาธิอย่างใจจดใจจ่อ, ข้อความระบบก็เด้งขึ้นที่ตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว. และในเวลาเดียวกัน, ด้วยสมาธิที่เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด, จังหวะค้อนที่เราทุบลงไปจึงมีความแม่นยำและน้ำหนักที่เที่ยงตรงไร้ที่ติ.
แคร้ง~~~!!
เสียงตะโกนเชียร์เอริน่าจากผู้คนด้านล่างเริ่มเลื่อนลางลงไปจากสตินึกคิดของเราทีละน้อย. เราค่อยๆ ลืมไปทีละนิดว่ามีผู้ชมหลายพันคนกำลังยืนอยู่รอบๆ จัตุรัส. แม้กระทั่งการมีตัวตนชองข่านเองก็ด้วย. เรายืนอยู่อย่างสงบนิ่งราวกับโลกทั้งใบเหลือเพียงแท่งเหล็กที่อยู่ด้านหน้าเท่านั้น.
แคร้ง~~~!! แคร้ง~~~!!
ราวกับค้อนเหล็กในมือได้หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับร่างกายไปแล้ว. เราไม่รู้สึกถึงแรงต้านหรือน้ำหนักจากค้อนเลยซักนิด. มันเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระตามที่ใจเรานึกคิด.
แคร้ง~~~!!
โลหะที่ก้อนถูกค้อนกระทบเข้าได้ส่งเสียงดังก้องกังวาลขึ้นอย่างไพเราะออกไปทั่วบริเวณ. ทันใดนั้นเอง, หน้าต่างข้อความระบบได้เด้งขึ้นมาอีกครั้ง.
[ ทักษะ 'ลมหายใจของช่างตีเหล็กในตำนาน' แสดงผล. ไอเท็มที่ผลิตขึ้นจะมีระดับที่สูงขึ้น.]
"......!"
สติที่แน่วแน่, รวมไปถึงโลกอันเงียบสงัดของเราเมื่อครู่ได้ค่อยๆ กลับกลายเป็นปรกติอีกครั้ง.
"เอริน่า! เอริน่า! เอริน่า!"
"ข่าน, สู้เค้า!"
"กริด, นายต้องทำได้!"
เสียงเชียร์อันแสนอึกทึกจากฝูงชน, เสียงนกที่กำลังยืนเกาะรั้วไม้พร้อมกับร้องจิ้บๆ, เสียงเข็มวินาทีของหอนาฬิกที่ดังกริ๊ก...กริ๊ก..., รวมไปถึงเสียงค้อนทุบของเอริน่า ทุกสุรเสียงได้พุ่งเข้ามาในโสตประสาทการได้ยินของเราอย่างฉับพลัน.
"อา..."
โลกอันเงียบสงัดที่เราสร้างขึ้นเมื่อครู่ได้สลายไปเสียแล้ว. กลับกลายมาเป็นโลกแห่งความจริงอันแสนวุ่นวายอีกครั้ง.
'อยากจะอยู่แบบเมื่อกี้ต่ออีกซักหน่อยแฮะ.'
น่าเสียดายนัก, นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่เราได้รู้สึกอะไรแบบนี้, โดยครั้งสุดท้ายคือในระหว่างที่กำลังสร้างลูกธนูยัฟฟ่าขึ้นมา. เจ็บใจนัก, เพราะถ้าหากเราสามารถอยู่ภายในโลกเมื่อครู่ได้นานกว่านี้อีกสักหน่อย, ผลงานที่สร้างขึ้นคงจะยอมเยี่ยมไร้ที่ติยิ่งกว่านี้แน่.
ในขณะที่เรากำลังนึกเสียดายไม่หาย, น้ำเสียงอันสั่นระริกของข่านก็ดังขึ้นจากด้านหลัง.
"ข้าไม่เคยคิดมาก่อน, ว่าก้อนเหล็กจะสามารถกลายเป็นสิ่งที่งดงามขนาดนี้ได้..."
ในที่สุดเราก็เสร็จสิ้นการสร้างคมมีด. เมื่อได้เห็นด้วยตาตนเอง, มันช่างเป็นคมมีดที่สมบูรณ์แบบ, และมีลวดลายซับซ้อนงดงามเกินกว่าจะพรรณาได้หมด. ถือเป็นงานศิลป์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่เราสร้างไอเท็มขึ้นมาเลยทีเดียว! สายตาอันแหลมคมของช่างตีเหล็กในตำนานมันร่ำร้องอยู่ในใจ, ว่าผลงานชิ้นนี้จะต้องยอดเยี่ยม, และสร้างความตื่นตะลึงให้กับโลกใบนี้ได้มากกว่าลูกธนูยัฟฟ่าแน่นอน.
"ยะ--ยอดเลย! มันยอดเยี่ยมมาก! ถือเป็นเกียรติอย่างสูงของข้าคนนี้ที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของมัน! ราวกับชีวิตของข้าเกิดมาเพื่อเป็นช่างตีเหล็กสำหรับวันนี้โดยเฉพาะ!" คำชมได้พรั่งพรูออกมาพร้อมกับอาการตื่นเต้นของข่านอย่างไม่หยุดปาก.
ทว่า, เราคงยังสงบใจเอาไว้. เป็นเพราะยังคงเหลือส่วนสำคัญที่สร้างไม่เสร็จอยู่.
"เปิดกระเป๋าสัมภาระ."
เราใช้มือหยิบ 'เขาของมิโนทอร์' ออกมาจากกระเป๋า. เป็นไอเท็มที่เรายอมเสียเงินมากถึง 10 เหรียญทองเพื่อซื้อมาแข่งขันในวันนี้โดยเฉพาะ. เราจะใช้มันสร้างปลอกและด้ามจับของมีดสั้นขึ้นมา. ตัวปลอกนั้นไม่ได้เป็นเพียงเครื่องตกแต่งที่ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว, มันสามารถถูกใช้เป็นไอเท็มป้องกันตัวได้ในบางสถานกาณ์. ดังนั้นจึงมีความจำเป็นไม่น้อยที่ปลอกของมีดจะต้องถูกสร้างขึ้นจากวัสดุคงทนและมีน้ำหนักเบา. ส่วนด้านจับนั้นจะต้องไม่แข็งจนเกินไป, เพราะถือเป็นส่วนที่ฝ่ามือต้องสัมผัสอยู่ตลอดเวลา.
เขาของมิโนทอร์คือสิ่งที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด. โดยแม้จะแข็งแรงทนทานและมีน้ำหนักเบา, แต่กลับยังคงความอ่อนนุ่มไว้อย่างไม่น่าเชื่อ. แถมที่ด้านบนยังมีลวดลายทองเหลืองถูกสลักเอาไว้อย่างสวยงาม. มันจึงจัดเป็นไอเท็มที่เหมาะสมในการทำด้ามจับและปลอกทุกประการ.
ครืด! ครืด!
ประการแรกเริ่มที่ปลอก, ขนาดของปลอกมีดสั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดคมมีดที่สร้างรอไว้ก่อนหน้า. ส่วนทางด้านด้ามจับ, ความยาวและความกว้างของด้ามจับจะถูกออกแบบขึ้นตามขนาดของฝ่ามือผู้ใหญ่เพศชาย. สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหลักพื้นฐานสากลของช่างตีเหล็กทั่วโลก. แถมเขาของมิโนทอร์ที่ซื้อมานั้นก็มีลวยลายงดงามสลักเอาไว้ด้วยทองเหลืองอยู่แล้ว, เราแทบไม่ต้องเสียเวลาในส่วนนี้เลยซักนิด. หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการออกแบบ, เราก็เพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการลงมือทำทันที. ทว่า, จู่ๆ เสียงเชียร์อันกึกก้องก็ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจากกลุ่มผู้ชม.
เอริน่าเสร็จสิ้นการสร้างมีดสั้นน้ำหน้าเราไปหนึ่งก้าว. เมื่อพิธีกรเวทีได้เข้าไปตรวจสอบ, สีหน้าของเขาก็เผยความตกตะลึงออกมา.
"ยอดเยี่ยมมาก! การที่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ในระยะเวลาไม่ถึงสามชั่วโมง, มีแต่ต้องยอมรับในความสุดยอดของเธอจากใจจริง!"
"มันจะต้องยอดเยี่ยมขนาดไหนกัน? ถึงได้รับคำชมมากมายขนาดนี้."
"อย่าดูคนเดียวเซ่! ส่งมาให้พวกเราดูบ้าง!"
ผู้ชมต่างแตกตื่นและพากันอยากรู้อยากเห็นในผลงานที่เพิ่งสำเร็จ. หลังจากที่พิธีกรเวทีเห็นว่าฝูงชนตื่นเต้นเกินกว่าจะควบคุมได้, เขาก็รีบดึงดูดความสนใจของทุกคนโดยการประกาศออกมาว่า.
"ย่อมได้! เชิญทุกท่านรับชมให้เต็มตา!"
บนจอฉายภาพขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านข้าง, มีดสั้นที่เพิ่งสร้างเสร็จของเอริน่าปรากฏขึ้น. มันเป็นมีดที่เปี่ยมไปด้วยความคมกริบ, แต่ก็แฝงไว้ด้วยสมดุลย์อันยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน. มีดสั้นเล่มนี้จะต้องมีระดับที่สูงอย่างไม่ต้องสงสัย. แถมพลังแฝงของมันก็จะต้องยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน. ด้ามจับยังทำจากทองเหลืองที่สลักลวดลายงดงามเอาไว้. ทำให้มันสามารถเป็นเครื่องประดับที่เลอค่าชิ้นหนึ่งได้ไม่ยาก.
"โอ้ววว~~~!!"
"เป็นมีดที่สะท้อนให้เห็นถึงคนทำจริงๆ! ข้าไม่เคยเห็นมีดสั้นที่งดงามขนาดนี้มาก่อน. ชักอยากเห็นของจริงซะแล้วสิ!"
"นั่นถือเป็นประเด็นรอง. แค่ดูก็รู้แล้วว่าจะต้องมีคุณสัมบัติที่สุดยอดแน่. อยากได้จังแฮะ."
กลุ่มผู้ชมต่างตกอยู่ในความวุ่นวายทันที. ไม่เพียงแต่ผู้เล่นเพศชายที่เป็นแฟนคลับของเธออยู่ก่อนแล้ว, แม้กระทั่งฝั่งผู้เล่นหญิงเองก็ส่งเสียงชื่นชมออกมาไม่หยุดปาก. และทันใดนั้นเอง, ข้อมูลของมีดสั้นก็ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอฉายภาพ.
[ มีดสั้นทรงเสน่ห์ ]
ระดับความหายาก : อีปิก
ความคงทน : 60/60 พลังโจมตี : 122~127 ความเร็วในการโจมตี : +8%
* มีโอกาสปานกลางที่จะทำให้ศัตรูติดสถานะ 'หลงเสน่ห์'.
* ค่าความคงทนจะฟื้นฟูโดยอัตโนมัติเมื่อบล็อคการโจมตีสำเร็จ.
มีดสั้นที่ถูกสร้างขึ้นโดยทักษะอันยอดเยี่ยม, และอารมณ์ศิลปินที่ไม่เป็นสองรองใคร.
ความงดงามหมดจดของมันสามารถขโมยหัวใจของผู้ที่พบเห็นได้.
ใบมีดอันคมกริบส่งผลให้มีค่าพลังโจมตีสูง, แต่ก็ต้องชดเชยด้วยจุดอ่อนอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน. นั่นก็คือค่าความคงทนที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน.
เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 100 หรือสูงกว่า, ค่าความว่องไว 200 แต้มหรือสูงกว่า, ค่าพละกำลัง 30 หรือสูงกว่า, ทักษะความชำนาญมีดสั้นขั้นกลางหรือสูงกว่า.
แม้จะมีจุดอ่อนคือความคงทน, แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันคือมีดสั้นที่ยอดเยี่ยมเกินพรรณา. พลังโจมตีสูงกว่าบรรดามีดสั้นในระดับใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก. แถมยังมีคุณสมบัติในการทำให้เป้าหมายหลงเสน่ห์ได้อีก. สถานะ 'หลงเสน่ห์' นั้นจะทำให้เป้าหมายไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เป็นระยะเวลา 3 วินาที. ถือเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับคลาสนักฆ่าทุกชนิดเลยทีเดียว.
ผู้ชมต่างส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างมั่นใจในทันที.
"ผลการแข่งขั้นออกมาแล้ว! เอริน่าไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน!"
แม้กระทั่งชาวบ้านวินสตันเองก็ยังต้องรู้สึกสิ้นหวัง, เมื่อได้เห็นมีดสั้นเล่มดังกล่าวอย่างเต็มสองตา.
"อา... ผู้หญิงคนนี้เป็นช่างตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมมาก. แม้กริดจะได้รับคำชื่นชมจากข่าน, แต่เขาจะสามารถสร้างมีดสั้นที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ขึ้นมาได้เชียวรึ?"
แม้กระทั่งแร็บบิทและคนของบริษัทเมโร่ที่เหลือเอง, พวกมันต่างคิดว่าชัยชนะได้ตกเป็นของเอริน่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว. ทว่า, ตัวเรานั้นยังคงสงบนิ่งเยือกเย็นได้อยู่. ข่านก็เช่นกัน.
ข่านหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุข. "ผู้หญิงคนนั้นแม้จะยังเด็ก, แต่ก็นับว่ามีทักษะที่ไม่เลวเลยทีเดียว. ปล่อยให้พวกเขาตื่นเต้นกันไปก่อน. แต่มันจะเป็นเช่นนี้ไปได้อีกไม่นานนักหรอก. ข้าพูดถูกไหมล่ะ?"
ในที่สุด, ทั้งปลอกมีดและด้ามจับก็เสร็จสิ้นก่อนที่เวลาจะหมดลง. เราพยักหน้าให้ข่านเบาๆ พร้อมกับเริ่มขั้นตอนประกอบทุกชิ้นส่วนให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียว.
"แน่นอน, ผมคือตัวแทนสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำของโลกใบนี้. ผมจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด."
เมื่อข่านได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย. "ชั้นต่ำ? เจ้าหมายถึงสิ่งใด? ตัวเจ้าในวันนี้ได้ลุกขึ้นสู้, เพื่อคอยปกป้องโรงตีเหล็กของผู้อื่นเชียวนะ!"
"...อา, ช่างเถอะ. ลืมมันไปซะ. แล้วตอนนี้ได้เวลาที่พวกเราจะออกไปแสดงผลงานให้โลกได้เห็น, และทวงคืนโรงตีเหล็กของลุงกลับมารึยังล่ะ?"
มีดสั้นของเราเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ. ร่างกายเกิดการสั่นสะริกอย่างหยุดไม่ได้, เมื่อเห็นคำอธิบายรายละเอียดของมีดที่เราสร้างขึ้นมากับมือ. เรายื่นมันออกไปให้กับพิธืกรเวที. ทว่า, มันไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมามอง. ในเวลาเดียวกัน, มันก็พูดกับกลุ่มผู้ชมผ่านไมโครโฟนออกไปว่า.
"ขนาดทีมนี้มีสองคน, พวกเขากลับสร้างมีดสั้นได้ช้ากว่าเอริน่าอีกรึ? ผลการแข่งในวันนี้คงออกมาเป็นที่แน่ชัดแล้วกระมัง?"
"ฮ่าฮ่าฮ่า! ถูกต้อง! น่าอายฉิบ, เป็นถึงผู้ชายสองคน, กลับรุมผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีแค่คนเดียว. แต่ผลการแข่งมันก็ออกมาแน่ชัดนานแล้ว!"
กลุ่มผู้ชมต่างตะโกนโห่ร้องอย่างเห็นด้วย.
เราแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันใส่พวกมันโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง. "รอชมผลงานของข้าให้ดีเถอะ! แล้วอย่าหัวใจวายตายไปก่อนซะล่ะ!!"
แต่ทันใดนั้นเอง, ทหารองครักษ์ของหมู่บ้านวินสตันได้ปีนเวทีขึ้นมา, และแย่งมีดไปจากมือเรา.
"อะ--อะไรกัน?"
ในขณะที่เรากำลังสับสนสุดขีด, อัศวินคนหนึ่งที่สวมชุดเกราะครบมือก็ตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง.
"ข้าได้รับรายงานมาว่า, แกร่วมมือกับอาชญากรที่มีนามว่า 'ฮิวรอย', ผู้ซึ่งถูกกุมตัวไปขังในคุกตั้งแต่เมื่อ 8 วันก่อน, โดยพวกแกทั้งคู่มีความคิดประสงค์ร้ายต่อหมู่บ้านวินสตันแห่งนี้! แกจะต้องตอบมาตามความเป็นจริงเท่านั้น!"
"ฮิวรอย?"
มันกำลังพูดถึงฮิวรอยผู้ที่รับภารกิจ 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน' ไปงั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า, หมอนั่นทำภารกิจล้มเหลวและถูกจับไปขังอยู่สินะ?
'ไร้ประโยชน์ฉิบ. ไม่สิ... ทำไมเราถึงไปเกี่ยวข้องกับมันได้ล่ะ?'
เราตอบปฏิเสธพร้อมกับขัดขืนในทันที. "พวกคุณพูดอะไร? ผมไม่รู้จักมัน! ปล่อยผมนะ!"
อัศวินได้ชักดาบออกมาจอที่คอหอยของเราพร้อมกับพูดว่า. "อย่าคิดขัดขืนจะดีกว่านะ."
"กะ--ก็ได้..."
หากเราขยับแม้เพียงนิด, เจ้าบ้านี่คงกระซวกดาบที่อยู่ตรงคอหอยเข้ามาแน่! ตัวเราที่ไร้อาวุธได้แต่ต้องยอมถูกอัศวินลากลงจากเวทีแต่โดยดี.
ข่านเห็นดังนั้นก็รีบตะโกนขึ้นเสียงดัง. "พวกแกจะทำอะไร? ทำไมถึงต้องปรักปรำผู้บริสุทธิ์ด้วย!"
แต่กองอัศวินองครักษ์หาได้สนใจไม่. ข่านจึงรีบวิ่งไปยังเขตที่นั่งของกลุ่มผู้บริษัทระดับสูงบริษัทเมโร่ทันที. เขาตะโกนขึ้นใส่ใครบางคนอย่างสุดเสียง.
"บัลมงต์! ไอ้ขี้ขลาด! แกรู้สินะว่าไม่มีวันเอาชนะในการแข่งนี้ได้. จึงต้องเล่นลูกไม้สกปรกถึงเพียงนี้! แกไม่กลัวชาวบ้านลุกขึ้นมาต่อต้านบ้างรึไง?"
ทว่า, แม้ข่านจะตะโกนไปมากเท่าไร, ดังแค่ไหน, ทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์. ชายคนดังกล่าวมิได้เหลียวแลเลยสักนิด. ราวกับเป็นเพียงแค่เสียงเห่าหอนจากสุนัขข้างถนนเท่านั้น.
ในที่สุด, ร่างของเราก็ถูกคุมตัวมายืนอยู่ด้านหน้าบัลมงต์.
...
'นี่มันบ้าชัดๆ...'
แร็บบิทใช้ชีวิตในการทำธุรกิจมานานกว่า 20 ปีแล้ว, ในระหว่างนั้นย่อมต้องเคยเห็นไอเท็มชั้นยอดผ่านตามานับไม่ถ้วน. เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาต้องตกตะลึงอย่างสุดขีด, เมื่อได้เห็นรายละเอียดของมีดสั้นที่กริดรังสรรค์ขึ้นมา.
'มีดเล่มนี้... เป็นไปไม่ได้! มันคือสุดยอดไอเท็มอย่างไร้ข้อโต้แย้ง, โดยแม้แต่มีดของเอริน่าก็ยังเทียบไม่ติด. พวกเรา... พ่ายแพ้ในการแข่งครั้งนี้. ไม่เคยคิดมาก่อน, ว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อกริดจะมีความสามารถถึงเพียงนี้ได้.'
บัลมงต์, ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหลังแร็บบิท, ได้บ่นพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิดฉุนเฉียว. "ชิ! พวกเราแพ้มันจริงๆ ให้ตายสิ."
บัลมงต์นั้นเป็นพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จมากมาย, เพียงกวาดสายตามองเผินๆ ก็รับรู้ได้ถึงความสุดยอดของมีดสั้นที่รังสรรค์ขึ้นโดยกริดในทันที. เขาไม่มีทางประเมินไอเท็มที่มีราคาแพงพลาดไปได้แน่.
แร็บบิทโค้งคำนับด้วยสีหน้าผิดหวัง. "กระผมต้องขออภัยด้วยจริงๆ. ดูเหมือนในครั้งนี้จะประมาทเด็กหนุ่มกริดมากไปหน่อย."
แม้จะแร็บบิทจะล้มเหลวในครั้งนี้, แต่บัลมงต์ก็หาได้ถือสาเอาความเหมือนกับทุกที. นั่นเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก. "มันไม่ใช่ความผิดของแกหรอก. ช่างตีเหล็กที่แกหามานั้น, ต่อให้เป็นข้า, ก็ไม่รู้ว่าจะหาคนที่เก่งกว่านี้ได้อีกรึเปล่า. เพียงแต่คู่ต่อสู้ของเราเก่งเกินไป. ช่างขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกซะจริง!"
บัลมงต์ได้ฉลองชัยชนะอยู่ในใจตั้งแต่ตอนที่เห็นสภาพของกริดเป็นครั้งแรกแล้ว. ภายนอกของเขาดูซอมซ่อจนเกินกว่าจะเป็นช่างตีเหล็กชั้นยอดได้. แต่ในเมื่อผลการแข่งขันออกมาขาดลอยถึงเพียงนี้. มันก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงที่ต้องถึงกับลงโทษแร็บบิท. ทุกอย่างผิดไปจากที่คาดเพราะว่ากริดแข็งแกร่งเกินไป.
"เขาใช้แผนตบตาเราด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่เหมือนกับขยะมูลฝอยนั่น, เป็นเหตุให้เราต้องประมาทจนพลาดท่าเสียที. นับว่าเป็นแผนที่แยบยลเลยทีเดียว. แต่ยังไงเสีย, เราก็ต้องประกาศผลการแข่งให้ผู้คนรับรู้ออกไปอย่างเป็นทางการอยู่ดี. จะทำยังไงกับเรื่องนี้ได้บ้าง?"
บัลมงต์ต้องการจะครอบครองโรงตีเหล็กเป็นอย่างมาก, แต่โรงตีเหล็กที่สามารถมีได้เพียงแห่งเดียวกลับตกอยู่ในมือของข่าน. เขาไม่อยากจะพลาดโอกาสคว้ามันไปเพียงเพราะการแข่งขันอันแสนงี่เง่าในวันนี้.
แร็บบิทรู้ดีว่าบัลมงต์กำลังคิดสิ่งใดอยู่. เขาจึงพยายามพูดจาโน้มน้าวออกไป. "แต่กฏก็ย่อมต้องเป็นกฏ. ถ้าหากเราไม่ยอมรับผลการแข่ง, เกรงว่าจะถูกสังคมภายนอกรุมประนามเอาได้."
บัลมงต์ได้ยินดังนั้นก็เริ่มขึ้นเสียง. "อย่าพูดจาไร้สาระน่า! ข้าไม่มีวันยอมปล่อยโรงตีเหล็กนั่นไปหรอก!"
เมื่อแร็บบิ้ทเห็นท่าทีอันฉุนเฉียวของบัลมงต์, เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก. ในสถานการณ์แบบนี้, คนตัวเล็กๆ เช่นเขาจะทำอะไรได้? กลิ่นตุๆ ของความไม่ชอบมาพากลเริ่มโชยออกมา.
บัลมงต์แสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับพูดขึ้นว่า. "ในเมื่อกลุ่มผู้ชมยังไม่รู้ผลของการแข่งในครั้งนี้, ต่างจากพวกเรา. พวกโง่เง่านั้นไม่มีทางรู้ถึงรายละเอียดของไอเท็มได้เพียงแค่การมองผ่านๆ ได้หรอก. พวกมันจะไม่มีวันได้รู้ว่ามีดสั้นของกริด, ยอดเยี่ยมกว่ามีดสั้นที่เอริน่าสร้างขึ้น!"
"เซอร์ฟิลิปสัน!"
'ฟิลิปสัน', ชายผู้นี้คืออัศวินมือขวา, องครักษ์ส่วนตัวของ 'บารอนโลว', ลอร์ดแห่งวินสตัน. มันมาที่นี่ในฐานะของผู้คุ้มกันให้กับบัลมงต์. แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า, อำนาจของบัลมงต์นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหนในวินสตัน.
บัลมงต์ออกคำสั่งกับฟิลิปสันไปว่า. "จับหมอนี่ไปขังซะ! ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับฮิวรอย, กบฏผู้ซึ่งถูกจับตัวมาในวันก่อน. เจ้าจะต้องเก็บมีดสั้นเล่มนั้นเอาไว้อย่าให้ห่างตัวเด็ดขาด! ไม่ว่าใครก็ห้ามรู้รายละเอียดของมันทั้งนั้น!"
"ขอรับ."
กลุ่มทหารซึ่งเป็นลูกน้องของฟิลิปสันได้เดินเข้ามาจับตัวกริดในทันที. พวกมันเดินเข้ามายึดมีดสั้นของกริด, และนำตัวเขาไปคุมขังยังปราสาทวินสตัน.
น่าสงสารจริงๆ
ReplyDeleteเคราะซ้ำกรรมซัด ชีวิตรันทด
ReplyDeleteบัดซบจริงๆเล้ย
ซวยบัดซบกริด.....
ReplyDeleteไอ่ฮิวรอยนี่พาเควสกริดล่มแถมยังถูกจับด้วยกันอีก
ReplyDeleteมันจะซวยอะไรขนาดนั้น แล้วจะเาอัำรแหกคุกล่ะทีนี้ เรียนรู้สร้างกรงขัง จากนั้นก็แยกส่วน แล้วหนีเหรอ
ReplyDeleteดองไว้3ตอนกลับมาอ่านพระเอกกูโดนจับ คนเขียนจะให้ตูเครียดไปถึงไหนฟะ!!!!
ReplyDeleteเรื่องนี้โชคของพระเอกคงติดลบแน่ๆๆเลย
ReplyDeleteนี้เป็นเรื่องที่พระเอกมีชีวิตบัดซบมากที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา ไอ้คนแต่งเองจะเก่งเกินไปแล้วแต่งให้พระเอกบัดซบโครตเลยยย ขอบใจไรต์มากที่แปล แต่เรื่องนี้โครตปวดหัวเลยวะ
ReplyDeleteอ่าวววว ชีวิตมึงบัดซบชิบหาย สร้างของดีได้แต่ดันไม่มีประโยชน์ อะไรจะอนาถได้ปานนี้
ReplyDeleteอ่านมาตั้งนาน ยังไม่เกิดแพชขั่น ในเรื่องนี้เลยแหะ น่าเบื่อกับความโชคร้ายของพระเอกละ มีอะมีได้ แต่นี่คนแต่งก็ใส่มาเยอะเกิน จนเอือมละ เห็นเขาบอกว่าหลัง90ไปจะสนุก สงสัยคงจะไม่ถึงซะละ
ReplyDeleteถ้าเป็นนิยายแต่ง โดนด่าไปแล้ว
ReplyDeleteผิดหวังว่ะผิดหวังผู้แต่งนี่แหละซวยเกินไปแล้ว
ReplyDeleteแมร่ง
ReplyDeleteชิบหายเลยไอ้แม้ย้อย
ReplyDelete