จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 22

       รถม้าเคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้านไบรันในตอนบ่าย   และมาถึงหมู่บ้านวินสตันในตอนเช้าของวันถัดมา   หมู่บ้านวินสตันเป็นหมู่บ้านที่มีขนาดใหญ่โตไม่สมกับชื่อเลยซักนิด    เนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่าหมู่บ้านไบรันถึง 4 เท่า  แถมผู้คนก็ยังคึกครื้นกว่ามาก    เทียบเคียงได้กับเมืองป้อมปราการแพเทรี่ยนที่เราเคยอาศัยอยู่เลย

       ด้วยความที่เราจ่ายเงินไปมากถึง 8 เหรียญทอง กับ 90 เหรียญเงิน    เราก็อยากจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากคนขับรถม้า

       "ผมมีคำถาม..."

       "เชิญ...ถ้าตอบได้ผมก็จะตอบให้"

       "ทำไมหมู่บ้านวินสตันถึงไม่ถูกเรียกว่าเมืองใหญ่?"

       "เดิมทีมันเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้น  เล็กยิ่งกว่าหมู่บ้านไบรันซะอีก   แต่ด้วยความที่หมู่บ้านแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่และผู้เล่นระดับกลาง   เลยทำให้มีนักเดินทางมากระจุกอยู่เป็นจำนวนมาก   ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ   หมู่บ้านวินสตันแห่งนี้คงได้กลายเป็นเมืองใหญ่ในไม่ช้า"

       "แถมยังมีข่าวลืออย่างหนาหู  ว่าลอร์ดคนใหม่ที่กำลังจะถูกส่งมาปกครองที่นี่คือท่านเอิร์ลสไตม์...ทันทีที่เขามาถึง  หมู่บ้านแห่งนี้ก็จะถูกยกระดับกลายเป็นเมืองใหญ่ทันที   แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไรเหมือนกัน"     

       'เอิร์ลสไตม์งั้นหรอ?...ทำไมชื่อนี้ถึงได้คุ้นหูจังนะ?'

       เป็นเรื่องยากที่เราจะจดจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้หมด  เพราะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา  เรื่องราวมากมายได้ถาโถมเข้ามาหาราวกับท้องทะเลอันบ้าคลั่ง

       "ช่างมันเถอะ  ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเราซักหน่อย"

       ...

       'งั้น...เริ่มเลยดีมั้ย?'

       เรารีบเดินไปยังตึกคลังสัมภาระของหมู่บ้านพร้อมกับแจ้งความจำนง    เรากรอกรหัสและไอดีของคลังสินค้าจนเสร็จสรรพ   หลังจากนั้น   เจ้าหน้าที่คลังก็ยื่นมือออกมาเป็นสัญญานของการจ่ายเงิน

       'ชิ...แค่มาเปิดใช้คลังของตัวเองก็ต้องเสียเงินด้วยหรอ?'

       เรายื่นเงินให้เขาไปเป็นจำนวน 30 เหรียญเงิน   เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบจำนวนอย่างละเอียด   เมื่อเรียบร้อย  เขาก็ร่ายวงแหวนเวทย์ขึ้นมาด้วยไม้เท้า  ทันใดนั้น  คลังสัมภาระอันเล็กๆ ของเราได้ปรากฏขึ้นที่ตรงหน้าด้วยเวทย์มนต์เคลื่อนย้าย

       คลังสัมภาระของเรามีเพียงความว่างเปล่า   ก่อนหน้านี้เราขายไอเท็มทั้งหมดทิ้งไปเพื่อจะซื้อโพชั่นไว้ทำภารกิจของอัชเชอร์

        น่าอายฉิบ...ผู้เล่นที่ใช้เวลากับเกมนี้ตลอดหนึ่งปีเต็มอย่างเรา...กลับต้องมีคลังสัมภาระที่ว่างเปล่าและเขรอะไปด้วยฝุ่น

       "อึก!...ชีวิตบัดซบทั้งในและนอกเกมเลยสินะ..."

       เราเปิดกระเป๋าในตัวขึ้นมาด้วยอารมณ์เศร้าหมอง

 ...

       [ ดาบใหญ่แห่งมาม่อน ]

       ระดับไอเท็ม:  อีปิก

       ความทนทาน: 88/204,    พลังโจมตี: 178~301,   ความเร็วในการโจมตี: -16%

       * เมื่อโจมตีติดคริติคอล  ความเสียหายธาตุน้ำจะถูกเพิ่มเข้าไปเล็กน้อย

       ดาบใหญ่เล่มนี้เป็นของผู้พิทักษ์แห่งทะเลสาปพาเมี่ยนที่มีนามว่า...'มาม่อน'   ด้วยอิทธิพลจากทะเลสาป   ทำให้ดาบเล่มนี้มีออร่าของธาตุน้ำอัดแน่นอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

       เงื่อนไขการสวมใส่:  ต้องมีเลเวล 65 หรือสูงกว่า,   ต้องมีค่าพละกำลังอย่างน้อย 260 แต้ม,  ต้องมีค่าความอดทนอย่างน้อย 150 แต้ม

       น้ำหนัก: 1,050

...

       [ เกราะหนักแห่งเมนเกล ]

       ระดับไอเท็ม:  แรร์

       ความทนทาน: 51/180,   พลังป้องกัน: 165,  ความเร็วในการเคลื่อนที่: -2%

       * พลังทางกายภาพ +10

       เกราะหนักที่ถูกสร้างขึ้นโดย  'เมนเกล'  ช่างตีเหล็กแห่งป้อมปราการเมืองแพเทรี่ยน   ส่งผลให้ชุดเกราะมีน้ำหนักเบาลงโดยที่ไม่สูญเสียพลังป้องกันไป   ผู้สวมใส่สามารถสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณอันแรงกล้าที่ผู้สร้างทุ่มเทให้กับชุดเกราะ

       เงื่อนไขการสวมใส่:  ต้องมีเลเวล 60 หรือสูงกว่า,  ต้องมีค่าพละกำลังอย่างน้อย 180 แต้ม

       น้ำหนัก:  1,203

 ...

       [ โพชั่นฟื้นฟูขั้นกลาง ] ( 34 ขวด )

       โพชั่นที่ถูกสร้างขึ้นจากสมุนไพรอย่างน้อย 5 ชนิด

       * เมื่อใช้งานจะฟื้นฟูพลังชีวิต 1,500 หน่วย

       * ระยะหน่วงหลังใช้ 20 วินาที

       น้ำหนัก ( รวม ) : 306 หน่วย

       ( ผู้แปล : ระยะหน่วงหลังใช้ 20วินาที  หมายถึงไอเท็มนี้จะสามารถใช้งานได้ 1 ครั้งในทุกๆ 20 วินาที   ไม่สามารถใช้ถี่กว่านี้ได้ )

...

        [ โพชั่นฟื้นฟูขั้นสูง ] ( 27 ขวด )

       โพชั่นที่ถูกสร้างขึ้นจากสมุนไพรอย่างน้อย 10 ชนิด

       * เมื่อใช้งานจะฟื้นฟูพลังชีวิต 4,000 หน่วย

       * ระยะหน่วงหลังใช้ 20 วินาที

       น้ำหนัก ( รวม ) : 324 หน่วย

 ...

       [ โพชั่นพละกำลังขั้นกลาง ] ( 2 ขวด )

       โพชั่นที่ถูกสร้างขึ้นโดยการผสมผสานระหว่างสมุนไพรหลากหลายชนิด  กับเลือดของ 'ออร์ค' จำนวนเล็กน้อย

       * เมื่อใช้งานจะเพิ่มค่าพละกำลังให้ 50 แต้ม  เป็นระยะเวลา 5 นาที

       * ไม่มีระยะหน่วงหลังใช้

       น้ำหนัก ( รวม ) : 62 หน่วย

...

       [ โพชั่นความว่องไวขั้นกลาง ] ( 3 ขวด )

       โพชั่นที่ถูกสร้างขึ้นโดยการผสมผสานระหว่างสมุนไพรหลากหลายชนิด  กับเลือดของ 'ฮาร์ปี้' จำนวนเล็กน้อย

       * เมื่อใช้งานจะเพิ่มค่าความว่องไว 50 หน่วย  เป็นระยะเวลา 5 นาที

       * ไม่มีระยะหน่วงหลังใช้

       น้ำหนัก ( รวม ) : 90 หน่วย

 ...

       [ ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษ ] ( 1 ดอก )

       ระดับไอเท็ม : อีปิก

       พลังโจมตี :  35~42

       ลูกธนูที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือพรสวรรค์สูงซึ่งมีทักษะอันยอดเยี่ยม   แต่เขายังอ่อนประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

       การหลอมรวมกันระหว่างยัฟฟ่ากับเหล็กกล้า  ได้ทำให้เกิดโลหะที่มีอานุภาพในการเจาะทะลวงสูง        ลูกธนูชนิดนี้สามารถมองข้ามพลังป้องกันของศัตรูได้ในบางครั้ง

       * มีโอกาสปานกลางที่จะไม่สนใจพลังป้องกันของศัตรู

       น้ำหนัก : 0.1 หน่วย

...

       [ ยัฟฟ่า ] ( 3 ก้อน )

       โลหะที่ได้จากการถลุงแร่ยัฟฟ่า   นับเป็นโลหะที่แข็งมาก  แต่ก็เปราะบางมากในเวลาเดียวกัน   จึงไม่เหมาะที่จะใช้ในการสร้างไอเท็ม  แต่ถ้าหากนำไปหลอมรวมกับเหล็กกล้าล่ะก็  คุณสมบัติของมันจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที

       น้ำหนัก : 60 หน่วย

...

       ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...นี่คือไอเท็มที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเราแล้ว 

       อย่างแรกที่ต้องทำคือการนำดาบใหญ่แห่งมาม่อน  และเกราะหนักแห่งเมนเกลเก็บใส่คลังสัมภาระเสียก่อน  เพราะไอเท็มทั้งสองอย่างนี้มีน้ำหนักที่สูงมาก

       "เดี๋ยวก่อนนะ...เรายังไม่เคยใช้ทักษะ 'ตรวจสอบ' กับดาบใหญ่แห่งมาม่อน  หรือเกราะหนักแห่งเมนเกลซักครั้งเลยนี่?"

       ทักษะการตรวจสอบของช่างตีเหล็กในตำนานจะเผยความสามารถลับของไอเท็มนั้นๆ ออกมา    ลองใช้ดูก่อนก็ไม่เสียหายอะไรนัก    เพราะยังไงก็ช่วยเพิ่มความเข้าใจในไอเท็มไปในตัวอยู่แล้ว

       เราทำการตรวจสอบไอเท็มทั้งสองทันที...

       ...

       [ ไม่ปรากฏความสามารถลับของไอเท็ม ]

       [ ช่างตีเหล็กในตำนานเช่นท่านสามารถรับรู้ถึงวัสดุที่ใช้สร้าง 'ดาบใหญ่แห่งมาม่อน' ได้อย่างง่ายดาย     อีกทั้งท่านยังรู้ไปถึงวิธีการผลิตและเจตนารมณ์ของผู้สร้างอีกด้วย ]

       [ ความเข้าใจในไอเท็ม 'ดาบใหญ่แห่งมาม่อน' เพิ่มขึ้นเป็น 33% ]

       ...

       [ ไม่ปรากฏความสามารถลับของไอเท็ม ]

       [ ช่างตีเหล็กในตำนานเช่นท่านสามารถรับรู้ถึงวัสดุที่ใช้สร้าง 'เกราะหนักแห่งเมนเกล' ได้อย่างง่ายดาย     อีกทั้งท่านยังรู้ไปถึงวิธีการผลิตและเจตนารมณ์ของผู้สร้างอีกด้วย ]

       [ ความเข้าใจในไอเท็ม 'เกราะหนักแห่งเมนเกล' เพิ่มขึ้นเป็น 65% ]

...

       ก่อนหน้านี้  ค่าสถานะในปัจจุบันของเราไม่ตรงกับเงื่อนไขการสวมใส่ไอเท็มทั้งคู่   ความสามารถของดาบใหญ่แห่งมาม่อน  และเกราะหนักแห่งเมนเกลจึงลดลง 30% และ 20% ตามลำดับ

       ทว่า...เราได้ทำการเพิ่มค่าความเข้าใจในไอเท็มทั้งคู่ขึ้นจากเดิมแล้ว

       [ ดาบใหญ่แห่งมาม่อนถูกสวมใส่,   คลาสของท่านได้รับการยกเว้นตามเงื่อนไข ]

       [ ผลข้างเคียงถูกเปิดใช้งานเนื่องจากการเงื่อนไขการสวมใส่ไม่ตรง ]

       [ พลังโจมตีของดาบใหญ่มาม่อนลดลง 20% ]

       [ คุณสมบัติพิเศษของไอเท็มนี้จะแสดงผลเพียงครึ่งเดียว ]

       [ ท่านมีความเข้าใจในดาบใหญ่แห่งมาม่อนค่อนข้างมาก  ผลข้างเคียงที่ได้รับจึงลดลง ]

       ...

       [ เกราะหนักแห่งเมนเกลถูกสวมใส่,  คลาสของท่านได้รับการยกเว้นตามเงื่อนไข ]

       [ ผลข้างเคียงถูกเปิดใช้งานเนื่องจากการเงื่อนไขการสวมใส่ไม่ตรง ]

       [ พลังป้องกันของเกราะหนักแห่งเมนเกลลดลง 8% ]

       [ คุณสมบัติพิเศษของไอเท็มนี้จะแสดงผลเพียงครึ่งเดียว ]

       [ ท่านมีความเข้าใจในเกราะหนักแห่งเมนเกลค่อนข้างมาก  ผลข้างเคียงที่ได้รับจึงลดลง ]

...

       "โฮ่..."

       ด้วยค่าความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นมา  ทำให้พลังโจมตีของดาบใหญ่แห่งมาม่อนเพิ่มเป็น 143~240  หน่วย   และพลังป้องกันของเกราะหนักแห่งเมนเกลเพิ่มเป็น 152 หน่วย   แม้เอฟเฟคจะยังคงแสดงผลเพียงครึ่งเดียว  แต่แค่นี้ก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว

       ถึงอย่างนั้นเราก็ยังดีใจได้ไม่สุด   ในตอนที่ตรวจสอบขวานและจอบสองหัว  ความเข้าใจของพวกมันเพิ่มเป็น 100% ในทันที  แต่กับดาบใหญ่และเกราะนั้นไม่ใช่   ยังห่างไกลจาก 100% อยู่มาก   ทำให้เรารู้สึกผิดหวังไม่น้อย

       'ถ้าได้มากกว่านี้ก็คงจะดี...'

       แต่เราจะรีบร้อนไม่ได้   ยังมีวิธีอีกมากที่จะเพิ่มความเข้าใจของไอเท็ม  ทั้งการแยกส่วน  ซ่อมแซม  และใช้งานให้บ่อยขึ้น   ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลา

       "ลองซ่อมดูดีกว่า"

       ทั้งเกราะและดาบต่างมีค่าความทนทานอยู่ในระดับต่ำ   เราจึงสามารถใช้ทักษะการซ่อมแซมของช่างตีเหล็กในตำนานเพื่อเพิ่มความเข้าใจได้

       ลงมือเลยก็แล้วกัน...

       ...

       [ ต้องการ 'ชุดเครื่องมือซ่อมแซม' ในการซ่อมแซมไอเท็ม ]

       "เอ๋?  ยังต้องใช้ไอเท็มอื่นอีกหรอ?"

       'เอ...ไอ้ [ ชุดเครื่องมือซ่อมแซม ] มันคืออะไรกันนะ?  หาเรื่องเสียเงินอีกแล้วสิ...ให้ตายเถอะ!'

       ในตอนที่ยังเป็นคลาสนักรบ  ทุกครั้งเราจะซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่โดยการนำไปให้เอ็นพีซีช่างตีเหล็กจัดการ   ดังนั้นเราจึงไม่มีความรู้เกี่ยวกับการซ่อมแซมไอเท็มเลยซักนิด       

       'ถึงว่า...ทำไมค่าซ่อมแต่ละครั้งมันถึงได้แพงนัก!'

       สงสัยคงต้องเลื่อนการซ่อมไปก่อน   เพราะเราใช้เงิน 30 เหรียญเงินในการเปิดคลังสัมภาระไปแล้ว   ถ้าหากเราต้องปิดมันเพื่อออกไปหาซื้อชุดเครื่องมือซ่อมแซม   หมายความว่าเราจะต้องเสียงเงิน 30 เหรียญเงินก่อนหน้าไปโดยเปล่าประโยชน์!

       เราจำใจต้องเก็บดาบใหญ่แห่งมาม่อน  และเกราะหนักแห่งเมนเกลใส่เข้าคลังสัมภาระไป   โดยจะต้องเสียค่าฝากสินค้าเพิ่มอีกเป็นจำนวน 10 เหรียญเงินต่อชิ้น...นับว่าแพงเอาเรื่องทีเดียว

       "นี่มันปล้นกันชัดๆ..."

       เราเสียค่าเปิดคลังไปแล้ว 30 เหรียญเงิน   แต่พอจะฝากยังต้องเสียเพิ่มอีกชิ้นละ 10...   ทั้งบริษัทมาร์เธอร์อีสแฮปปี้...ทั้งโรงประมูล  ทุกอย่างล้วนเป็นพวกเอาเปรียบผู้บริโภคในสายตาเราทั้งนั้น!

       "50 เหรียญเงินของเรา...บ้าชิบ!"

       50 เหรียญเงินเทียบเท่ากับ 600 วอน   เป็นจำนวนเงินที่สามารถซื้อนมได้ 200 มิลลิลิตร  ซึ่งเพียงพอที่จะดับกระหาย  และเสริมกระดูกให้กับเราในเวลาเดียวกัน    เราชั่งใจอยู่นานก่อนจะตัดสินใจฝากไอเท็มทั้งคู่เข้าคลังไป

       "อึก!..."

       ฝ่ามือของเราสั่นระริกด้วยความเจ็บใจ   เราชำเลืองมองไปยังเจ้าหน้าที่คลังสัมภาระที่กำลังโบกมือลาอย่างสุภาพ   ก่อนจะตัดสินใจเดินมายังจัตุรัสของหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

       ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายประเภท   ทั้งพวกหน้าใหม่ที่เพิ่งจะสร้างตัวละคร   รวมไปถึงพวกที่สวมใส่ไอเท็มราคาแพงระดับเลเวล 100 ขึ้นไป

       ผู้คนบางส่วนเดินมองดูนั่นนี่ไปเรื่อยๆ    และยังมีอีกมากที่กำลังมองหาสมาชิกปาร์ตี้  บางคนตั้งร้านขายไอเท็ม   บางคนตั้งร้านรับซื้อไอเท็ม   บางส่วนก็หาคนช่วยทำภารกิจร่วมกัน   รวมไปถึงพวกขอทาน   คู่รัก   และพวกที่เดินชมทัศนียภาพความสวยงามของอยู่บ้าน

       เรายืนอยู่เฉยๆ เพื่อคอยจับตาดูความเปลี่ยนแปลงของผู้คน

       กลุ่มผู้เล่นใหม่มักจะใช้ถนนตะวันออกเป็นหลัก   ส่วนกลุ่มผู้เล่นระดับกลางๆ ก็มักจะใช้ถนนฝั่งทิศใต้    แต่ทางด้านถนนทิศเหนือและทิศตะวันตกนั้นล้วนเป็นที่นิยมของทุกคน     

       ถนนฝั่งตะวันออกจะเต็มไปด้วยเอ็นพีซีที่มอบภารกิจเริ่มต้น  ซึ่งการล่ามอนสเตอร์ทำได้ไม่ลำบากนัก   ในขณะที่ถนนฝั่งทิศใต้ก็จะมีแต่เอ็นพีซีที่มอบภารกิจระดับกลางๆ เหมาะกับนักล่าระดับกลาง      ส่วนถนนทิศตะวันตกและทิศเหนือนั้นจะเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ อยู่มากมาย

       "โรงตีเหล็กจะต้องอยู่บนถนนทิศเหนือ  ไม่ก็ทิศตะวันตกแน่นอน"

       หลังจากที่เราจับตาดูอยู่พักหนึ่ง  หน้าต่างข้อความระบบก็เด้งเตือนขึ้น     

        [ ค่าสถานะวิสัยทัศน์ของท่านเพิ่มขึ้น 1 แต้ม ]

       "..."

       ค่าวิสัยทัศน์คงจะเอาไว้คาดเดาวัตถุ  หรือไม่ก็ทำนายความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น   แต่ในตอนนี้เราคงยังมองไม่เห็นประโยชน์การใช้งานของมัน   จึงไม่รู้ว่ามันเป็นค่าสถานะที่ดีรึเปล่า

       "ช่างเถอะ  อะไรเพิ่มขึ้นมันก็ดีทั้งนั้นแหละ"

       เราตระเวนเดินดูตามสองข้างทางของทั้งถนนทิศเหนือและทิศตะวันตก   แต่ก็ไม่ได้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ อะไรขึ้นมาเลย   ในที่สุด  เราก็พบโรงตีเหล็กตั้งอยู่บนถนนฝั่งทิศเหนือ   โดยที่ภายนอกดูโอ่อ่าเด่นตระหง่านซะเหลือเกิน

       มันเป็นตึกขนาดใหญ่สองชั้น   โรงตีเหล็กเล็กๆ ของสมิทในหมู่บ้านไบรันเทียบนั้นไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ    แถมในนี้น่าจะมีช่างตีเหล็กอยู่หลายสิบคนทีเดียว  แตกต่างจากของสมิทที่อาศัยอยู่ตามลำพัง

       'หัวหน้าช่างตีเหล็กที่นี่...อย่างน้อยๆ ก็ควรจะอยู่ในขั้นกลางได้ล่ะมั้ง?'

       ถ้าใช่ก็คงดีไม่น้อย  เพราะช่างตีเหล็กขั้นกลางขึ้นไปจะรู้จักและให้ความเคารพในตัวเรา    ในที่สุดเราก็จะได้ผลิตไอเท็มในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมซักที     เราตัดสินใจเดินเข้าไปภายในโรงตีเหล็กอย่างตื่นเต้น  โดยหวังว่าจะได้พบกับเสียงค้อนกระทบทั่ง  และเตาหลอมร้อนๆ เป็นฉากหลัง

       ทว่า...มันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย   โรงตีเหล็กแห่งนี้เงียบสงัดราวกับเป็นเพียงบ้านคนทั่วไป   ไม่มีแม้แต่เสียงค้อนทุบ...ไม่สิ  ไม่มีแม้แต่เสียงของช่างตีเหล็กทำงานอยู่

       "เอ๋?"  เรากวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสับสน   ที่มุมห้องมีชายลงพุงคนหนึ่งกำลังนอนฟุบอยู่บนโตะ    ขวดเหล้าที่ดื่มหมดแล้ววางอยู่ข้างลำตัว   เราไม่แน่ใจเขาแค่หลับหรือว่าตายไปแล้ว   จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาเงียบๆ พร้อมกับเขย่าตัวปลุกให้ตื่น

       "เฮ้...เฮ้คุณ!"

       "...หืม?...มีอะไร?"     

       โชคดีที่หมอนี่ยังไม่ตาย  ชายลงพุงคนนั้นค่อยๆ ขยี้ตาด้วยสีหน้าหงุดหงิด   หลังจากนั้นเขาก็หันมาถามกับเราว่า "แกมาที่นี่ทำไม?  มีอะไร?"

       "ผมมาที่นี่เพื่อจะเรียนสูตรผลิตไอเท็มที่ขายดีที่สุดในหมู่บ้าน...คุณช่วยผมได้รึเปล่า?"

       ชายแก่คนดังกล่าวจ้องมองเราพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าเย้ยหยัน  "เหอะ!...โรงตีเหล็กแห่งนี้มันจบสิ้นไปนานแล้ว!   นับตั้งแต่ที่ 'บริษัทเมโร่' เข้ามากว้านซื้อย่านเศรษฐกิจแถบนี้ไปทั้งหมด  พวกมันกระหน่ำขายไอเท็มในราคาต่ำที่ต่ำกว่าท้องตลาดจนลูกค้าของที่นี่ไม่เหลือแล้ว!"

       "แกบอกว่าแกมาที่นี่เพื่อจะเรียนสูตรการผลิตไอเท็มงั้นสินะ?   แกต้องการอดตายไปพร้อมกับข้างั้นรึ?"

       ทันใดนั้นเอง...

       ประตูหน้าของโรงตีเหล็กก็ถูกผลักออกอีกครั้งอย่างรุนแรง   กลุ่มชายฉกรรจ์ที่ดูป่าเถื่อนหลายคนได้กรูเข้ามาอย่างรีบร้อน

       "เฮ้ย!  ตาแก่!  ยังไม่รีบตัดสินใจอีกรึไง?   ไม่คิดจะขายตึกนี้ให้พวกเราจริงหรอ?  เงินที่แกจะได้...มันมากพอให้แกซื้อเหล้าดื่มไปจนตายเลยนะโว้ย!"

       ...สถานการณ์บ้าอะไรกันเนี่ย?   นี่เราต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้อีกแล้วหรอ?





จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 22 - จบตอน

Comments

  1. วิบากกรรมชีวิตจริงเว้ย ไม่มีวันไหนที่จะชิลล์ได้ตลอดวันบ้างเลย

    ReplyDelete
  2. มีความดราม่าเหมือนพระเอก

    ReplyDelete
  3. มีกลุ่มลับไหมนี่ ชักไม่อยากติดดอย

    ReplyDelete
  4. เควสมาถึงมือแล้ว...
    ปล.อย่าลืมสิว่าเคยช่วยลูกสาสท่านเอิร์ลกะโดรันไงจำได้ไหม

    ReplyDelete
  5. สนุกมากครับ ^^

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00