จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 21

       หลังจากเสร็จมื้อเช้า  พ่อกับแม่ของเราก็รีบออกไปยังร้านขายผักที่ทั้งคู่ดูแลอยู่ทันที   โดยปรกติแล้วพวกเขาจะออกไปในช่วงตี 5 ตรง   ดังนั้นวันนี้จึงถือว่าสายมากแล้ว

       'การที่พวกเขาไปสายขนาดนี้...เพราะต้องอยู่กินข้าวเช้ากับลูกชายสินะ'

       ความตื้นตันใจได้ทำให้เราน้ำตาคลอเล็กน้อย   นี่เป็นครั้งแรกที่ได้กินอาหารแล้วรู้สึกถูกเติมเต็มมากขนาดนี้

       เรานั่งบนโซฟาครู่หนึ่งก่อนจะเผลองีบหลับไป...

       ... 

       เราถูกปลุกให้ตื่นอีกครั้งโดยเซฮี  คราวนี้เธอเปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว   รูปลักษณ์ภายนอกให้ความรู้สึกของเด็กเรียนที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู   แม้จะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเรา   แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอนั้นสวยมากจริงๆ

       "หืม?  พี่จ้องอะไรอยู่น่ะ?"

       "พี่ดีใจนะ...ที่เธอเติบโตขึ้นเป็นเด็กดีขนาดนี้"

       "อยู่ๆ พี่ก็พูดอะไรออกมาน่ะ!?"  เซฮีหน้าแดงเล็กน้อย   เธอเหวี่ยงฝ่ามือมากระทบกับปลายแขนของเราเบาๆ

       "เอ๋?  พี่พูดอะไรผิดงั้นหรอ?   หืม...รู้สึกดีเหมือนกันนะเนี่ย"     

       ในจุดที่เซฮีตีเข้ามา  แขนของเรารู้สึกเบาสบายเหมือนกับถูกนวด  เป็นความรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก!

       "เยี่ยมเลย...ตีพี่อีกสิ!  ตีมาเลย!  ขออีก...เอาอีก!"

       "เอ๋!!!???   ไอ้พี่โรคจิต!!"     

       ผัวะ!!

       ...

       อ้าว...ทำไมเราถึงโดนตบหน้าแทนล่ะ?  เราลูบคลำไปเบาๆ  บนแก้มที่ถูกเซฮีตบ    โดยระหว่างนั้นเธอก็ตะโกนขึ้นว่า  "หนูเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างไว้ให้แล้ว   พี่น่าจะลองไปแช่น้ำอุ่นๆ ดูบ้างนะ   เผื่อว่ามันจะรักษาอาการสมองเสื่อมได้บ้าง...ไอ้พี่โรคจิต!!"

       "เอ๋?   อ่า...ได้เลย"

       เธอเป็นคนประเภทที่ถึงจะโมโหเรา  แต่ก็ยังคอยเป็นห่วงเป็นใยเราในเวลาเดียวกัน     

       'แต่เดี๋ยวก่อน...ทำไมเราถึงกลายเป็นไอ้โรคจิตได้ล่ะ?'

       ...

       ...

       เรานอนแช่น้ำอย่างสบายใจหลังจากที่เซฮีไปโรงเรียน

       "อาการปวดเมื่อยเริ่มดีขึ้นแล้ว"

       หลังจากนั้นไม่นานเราก็ลุกออกจากห้องน้ำ  และเดินไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ผ่านระบบบัญชีตรง 

       เป็นเรื่องที่ทำใจยากไม่น้อย  เมื่อเงินที่อุตส่าห์หามาอย่างยากลำบากต้องอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตา

       "อึก!...โลกใบนี้มันบิดเบี้ยวเกินไปแล้ว!!"

       เราต้องรีบทำอะไรซักอย่างเพื่อให้สงบใจลง   จึงตัดสินใจเข้าไปในแค็ปซูลเพื่อล็อคอินกลับไปยังโลกซาทิสฟาย

       'ลูกธนูจะขายได้เท่าไรกันนะ?...'

       "ล็อคอิน"

       ...

       ซู่ว~

       ประตูแคปซูลค่อยๆ ปิดลง   ทัศนวิสัยในดวงตาของเรากลายเป็นสีดำสนิทอย่างรวดเร็ว... 

       ทันใดนั้น  เสียงดนตรีและบรรยากาศที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นที่ตรงหน้าอีกครั้ง

       "อากาศที่นี่สุดยอดไปเลยแฮะ"

       เรามาโผล่ที่ใจกลางของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง  ซึ่งมีกลิ่นอายของยุโรปยุคกลางอันเต็มไปด้วยมนต์ขลัง

       "เปิดหน้าต่างค่าสถานะ"

...

       ชื่อตัวละคร : กริด

       เลเวล : 3,    ค่าประสบการณ์ :  75 / 500

       คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า

       * เมื่อสร้างไอเท็ม  มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น

       * เมื่อเสริมพลังไอเท็ม  มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น

       * สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข  แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ

       ...

       สมญานาม :  ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน

       * สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร

       * เมื่อพลังชีวิตหมดลง   ท่านจะยังไม่ตายในทันที

       * เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น

       ...

       พลังชีวิต : 336/336,  มานา 87/87

       พละกำลัง:  24 + 5,  ความอดทน: 22,  ความว่องไว: 16

       สติปัญญา: 29,  ความชำนาญ: 55,  ความพากเพียร: 21

       ความเยือกเย็น: 14,  ความทรหด: 16,  ความหยิ่งทระนง: 14

       วิสัยทัศน์:  14     

       ค่าสถานะคงเหลือ : 60 แต้ม

       น้ำหนักสัมภาระ:  3,095 / 1,000

       * น้ำหนักสัมภาระเกินกว่า 200%   ส่งผลให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง 100%

       ร่างกายของท่านหนักอึ้งจนไม่สามารถออกแรงได้อย่างเต็มที่

       โอกาสที่จะตกอยู่ในสถานะ 'อ่อนแอ' เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

...

       "เลเวล 3 งั้นหรอ...ไม่ได้ฝันไปสินะ?"

       ค่าสถานะโดยรวมของเราสูงมาก  แม้จะยังไม่ได้ใช้แต้มคงเหลือเลย  แต่ค่าสถานะของเราก็เทียบได้กับผู้เล่นทั่วไปที่มีเลเวล 26 แล้ว    ยิ่งถ้าหากสวมดาบใหญ่แห่งมาม่อนกับเกราะหนักแห่งเมนเกลเข้าไปด้วย   พลังต่อสู้ที่แท้จริงของเราคงเทียบได้กับผู้เล่นทั่วไปที่มีเลเวล 50 เลยทีเดียว

       "ความรู้สึกที่ได้อยู่เหนือผู้อื่นแบบนี้คืออะไรกัน?   การได้เป็นคนพิเศษมันรู้สึกแบบนี้เองหรือ?  อุวะฮ่าฮ่า..."     

       ใจกลางจัตุรัสหมู่บ้านไบรันตอนนี้กำลังคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมาย... 

       เราลืมไปซะสนิทว่าไม่ได้อยู่ที่นี่เพียงลำพัง   จึงได้ลืมตัว  พูดกับตัวเองเสียงดังและหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า     เราใช้มือข้างหนึ่งท้าวสะเอวไว้  พร้อมกับหัวเราะด้วยท่าทางที่เหมือนกับตัวเอกในหนังที่เคยดูตอนเด็กๆ 

       กลุ่มหญิงสาวที่เดินผ่านมา  ได้จ้องมองเราด้วยสายตาแบบเดียวกับที่พวกหล่อนมองก้อนขี้   แถมหลังจากนั้นพวกเธอก็ยังหันไปซุบซิบกันเองอีก

       "หมอนี่เสียสติไปแล้วหรอ?   ทำไมถึงได้ยืนพูดคนเดียวและหัวเราะพร้อมกับโพสท่าประหลาดออกมา?"

       "ป่วยเป็นโรคเจ้าชายรึเปล่านะ?" 

       "น่าตาอุบาทว์ชะมัด  เดาได้เลยว่าคงยังไม่มีแฟนแน่นอน"

       ...

       ถ้าเป็นตามปรกติเราคงหัวเสียไปแล้ว  แต่ตอนนี้ไม่ใช่เลย   เรารู้สึกดีใจจนไม่สนสายตาคนรอบข้างแม้แต่น้อย   อยากจะพูดอะไรก็เชิญตามสบาย 

       เรายังคงสำรวจค่าสถานะต่างๆ ที่เหลือต่อไป

       [ ทักษะการผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน ] เลเวล 1  ( 3.7%)

       [ ทักษะลมหายใจของช่างตีเหล็กในตำนาน ]  เลเวล 1 ( 2.0% )

       เราเคยกังวลว่าทั้ง 2 ทักษะนี้อาจจะใช้เวลานานในการอัพเลเวล...แต่ปรากฏว่าไม่เลย

       'เป็นเพราะเราสร้างไอเท็มระดับอีปิกขึ้นมาได้งั้นหรอ?'       

       เราค่อยๆ เดินไปที่โรงประมูลอย่างสบายใจ 

       เป็นภาพที่คุ้นเคย   โรงประมูลแห่งนี้มีผู้คนคราคร่ำอยู่มากมายตลอดเวลา

       "จะขายได้เท่าไรนะ..."

       ราคาปรกติของลูกธนูยัฟฟ่าคือ 6 เหรียญเงินต่อหนึ่งดอก   แต่ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษของเราเป็นถึงระดับอีปิก   มันน่าจะอัพราคาได้มากกว่าเดิมซัก 3-4 เท่าล่ะนะ

       ถ้าหากเป็นอุปกรณ์สวมใส่ทั่วไป   ไอเท็มระดับแรร์จะมีราคาขายที่สูงกว่าระดับทั่วไปอยู่ 3 เท่า    ในขณะที่ไอเท็มระดับอีปิกจะสูงกว่าถึง 7 เท่า

       แต่สิ่งที่เรากังวลมากที่สุด...พวกคนรวยจะยอมเสียเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อลูกธนูเกรดดีจริงๆ น่ะหรือ?   เพราะในเมื่อเป็นไอเท็มที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง  การลงทุนดูจะไม่คุ้มค่านัก

       'ช่างมันเถอะ...อย่าไปหวังอะไรมาก...'

       เราเปิดหน้าต่างโรงประมูลขึ้นอย่างไม่มีความหวังนัก   ในใจของเราคิดไว้ว่า  ได้ซัก 2 เท่าก็คงดีมากแล้ว

       แต่ว่า...

       "เฮ้ย...!!"

       หลังจากที่ได้เห็นราคาประมูลสูงสุดของลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษ   ริมฝีปากของเราก็ไม่สามารถหุบลงได้อีกเป็นเวลานาน   

       ในเวลาเดียวกัน   เราก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวกลุ่มเดิมพูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองมา

       "ใช่คนบ้าที่ยืนหัวเราะกลางจัตุรัสคนเดียวเมื่อครู่รึเปล่านะ?   แย่จัง  หมอนั่นมาทำอะไรที่นี่เนี่ย?   แถมยังอ้าปากไม่ยอมหุบเลย...น่าขยะแขยง!!"                   

       "เอ๋!?  ไอ้หมอนั่นน้ำลายไหลออกมาแล้ว!!  สกปรกที่สุด!!"     

       "อุบาทว์...ทำตัวแบบนี้คงยังโสดอยู่แน่"     

       ...

       "อา...อือ..."

       เราพยายามฝืนปิดปากลงอย่างเต็มที่...แต่มันก็ไม่ง่ายเลย

       [ ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษ ] ( 99 ดอก )             

       [ ราคาประมูลสูงสุด : 72 เหรียญเงินต่อ 1 ดอก ]

       สูงกว่าราคาปรกติถึง 12 เท่า!

        "อัก...อึก...เอ่อ..."

       เราค่อยๆ ยื่นมือออกไปเปิดช่องสัมภาระด้วยอาการสั่นระริก   เครื่องคิดเลขถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเพื่อคำนวนดูว่า   99 x 72 นั้นมีค่าเท่าใดกันแน่

       "...7,128"

       100 เหรียญเงินจะมีมูลค่าเท่ากับ 1 เหรียญทอง   ดังนั้น 7,128 เหรียญเงินก็จะเท่ากับ  71 เหรียญทองและ 28 เหรียญเงิน... 

       และถ้าหากนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริง... 100 เหรียญทองจะมีมูลค่าประมาณ 120,000 วอน     

       'เวลา 1 วันในซาทิสฟาย...เราสามารถสร้างลูกธนูได้มากถึง 100 ดอกงั้นสินะ?'

       เวลาในซาทิสฟายนั้นจะเร็วกว่าโลกจริง   ถ้าหากคำนวนโดยละเอียด   เราจะสามารถหาเงินได้ทั้งหมด 84,000 วอนในเวลาเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น

       "ฮะ...ฮะฮะ..."

       เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก   เสียงหัวเราะที่ไม่สามารถควบคุมได้  ดังออกมาจากปากของเราราวกับคนเสียสติ 

       "อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!!"

       "หว๋า!...หมอนั่นต้องบ้าไปแล้วแน่เลย!!"

       "อุบาทว์!!   คนอย่างมันไม่มีทางหาแฟนได้แน่นอน!   เบอร์โทรศัพท์ผู้หญิงคนเดียวในเครื่องคงเป็นของแม่อย่างไม่ต้องสงสัย!"

       ...

       'อึก...พวกหล่อนจำเป็นจะต้องด่ากันแรงขนาดนี้เลยหรอ?'

       ช่างปะไร...เราไม่มีทางหวั่นไหวเพราะคำพูดของพวกผู้หญิงเหล่านี้อยู่แล้ว

       'อยากจะพูดอะไรก็เชิญเลย'

       เราสามารถยิ้มอย่างมีความสุขออกมาได้  โดยไม่สนว่าพวกเธอจะด่าทอเรารุนแรงมากขนาดไหนก็ตาม     

       'ประตูแห่งความหวังได้เปิดออกแล้ว...'

       หนี้สิ้นงั้นหรอ? 

       "เราจะล้างหนี้ทั้งหมดด้วยเกมนี้!"

       ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานกรรมกรอีกแล้ว...การเล่นเกมและสร้างไอเท็มไปเรื่อยๆ  ทำให้เราสามารถหาเงินได้มากกว่าการออกไปทำงานซะอีก...

       สมแล้วที่เป็นคลาสระดับเลเจนดารี...ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าเปรียบได้กับห่านที่ออกไข่เป็นทองคำชัดๆ

       เรากำหมัดแน่นด้วยท่าทางสั่นระริก   เจ้าหน้าที่ประมูลยื่นเหรียญทองและเหรียญเงินมาให้เราจำนวนหนึ่ง...

       แต่เดี๋ยวนะ...จำนวนของพวกมันดูน้อยเกินไปรึเปล่า?         

       "ทำไมถึงมีแค่ 60 เหรียญทอง  กับ 59 เหรียญเงินล่ะ?"

       เจ้าหน้าที่ประมูลยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับตอบคำถามของเรา

       "สำหรับการวางขายไอเท็มระดับอีปิก   ทางโรงประมูลของเราจะคิดค่านายหน้าทั้งหมด 15% ของราคาขาย   ท่านจึงต้องถูกหักเงินไปทั้งหมด 10 เหรียญทอง และ 69 เหรียญเงิน...ขอบพระคุณที่ใช้บริการกับเรา"

       ค่านายหน้าในการวางขายสิ้นประมูลของไอเท็มระดับทั่วไปจะอยู่ที่ 8%  และระดับแรร์จะอยู่ที่ 10%   ด้วยเรทนี้  สัดส่วนค่านายหน้าของไอเท็มระดับอีปิกที่สูงถึง 15% จึงดูแพงเป็นอย่างมาก

       "แล้วค่านายหน้าของไอเท็มระดับยูนีคและเลเจนดารีอยู่ที่กี่ % งั้นหรอ?"

       ทันใดนั้น  เจ้าหน้าที่ประมูลซึ่งเป็นเอ็นพีซีก็ดูเหมือนจะชะงักไปในทันที   เป็นอาการของเอ็นพีซีที่ระบบรวนอย่างเห็นได้ชัด 

       "ชิ...ซักวันเราจะต้องหาผลประโยชน์กับข้อผิดพลาดของระบบพวกนี้ให้ได้"

       ...

       ...

       หลังจากนี้  เราจะสร้างสุดยอดไอเท็มระดับเลเจนดารีที่ไม่มีใครใช้ได้นอกจากผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าเท่านั้น!   แล้วผู้เล่นทั้ง 2 พันล้านคนของเกมนี้จะต้องอิจฉาเรา!

       "แต่นั่นคงจะเป็นอนาคตอีกไกลลิบเลยล่ะ...อึก!"

       เมื่อคิดถึงเงินที่เสียไปจำนวน 15%...น้ำตาของเราก็ไหนรินอาบสองแก้มในทันที 

       เราเสียดายมันมาก...ถ้าหากไม่ติดว่าเมื่อวานเราต้องออกไปทำงานกรรมกร  เราคงตั้งแผงขายของทิ้งไว้เอาไว้ได้โดยไม่ต้องเสียภาษีแล้ว 

       แต่สุดท้าย...เราก็จำต้องพึ่งพาระบบขายของผ่านโรงประมูลอย่างเลี่ยงไม่ได้

       ทันทีที่รับเงินมาจากเจ้าหน้าที่ประมูล  สิ่งแรกที่ต้องตัดสินใจก็คือ...เราจะอยู่ที่นี่ต่อไป  หรือว่าย้ายไปที่หมู่บ้านอื่นดี?

       'ถ้าอยู่ที่นี่  เราก็สามารถทำเงินได้อีกมหาศาลด้วยลูกธนูยัฟฟ่า...ควรย้ายไปหมู่บ้านอื่นดีมั้ยนะ?'

       ตอนแรกที่เราอยากย้ายหมู่บ้าน  เพราะหากอยู่ที่นี่ต่อไป  เราก็จะไม่มีวันล่ามอนสเตอร์ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว    แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนความคิดแล้ว  เราไม่จำเป็นต้องล่ามอนสเตอร์อีก  ขอเพียงได้สร้างไอเท็ม...เท่านั้นก็มากพอแล้ว

       'อยู่ที่นี่คอยนั่งผลิตไอเท็มก็ไม่เลวนะ...'

       แต่ถ้าเราเลือกที่จะอยู่หมู่บ้านไบรันต่อไป   มันก็ยังมีอุปสรรค์ที่ใหญ่หลวงอีกอย่างหนึ่ง...

       สมิท...หมอนั่นเป็นพวกรักร่วมเพศ!

       'ถ้าเราต้องอยู่สองต่อสองกับมัน...แค่คิดก็สยองแล้วโว้ย!'

       เราไม่จำเป็นต้องออกล่ามอนสเตอร์ก็จริง  แต่การได้อยู่ในหมู่บ้านที่เหมาะสมกับเลเวลตัวละคร  ก็ถือเป็นเรื่องที่อุ่นใจไม่น้อย   

       ในที่สุด  เราก็ตัดสินใจจะเดินทางไปที่หมู่บ้านวินสตัน   เราเดินตรงไปที่โซนรถม้าพร้อมกับเริ่มกุเรื่องเศร้ามาหลอกพวกเอ็นพีซีเหมือนครั้งก่อน 

       "น้องสาวผมกำลังนอนซมเป็นไข้อยู่ที่หมู่บ้านวินสตัน..."

       "เอ๋...จริงรึ?   ถ้าอย่างนั้นก็รีบขึ้นมาเร็ว!  เดี๋ยวผมจะรีบออกรถให้"

       "ตะ...แต่ว่า...ผมเงินมีติดตัวอยู่แค่ 7 เหรียญทองเท่านั้น..."

       "หืม?...ว่าไงนะ...ต้องขอประทานโทษด้วย  ดูเหมือนผมจะเข้าใจผิดไปหน่อย  ดันคิดว่าคุณเป็นคนเดียวกับลูกค้าที่จองเอาไว้ซะได้...โทษทีนะ"

       การต่อรองในครั้งแรกล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า!     

       ...

       "คุณย่าของผมท่านเสียชีวิตไปตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเกิดซะอีก...วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของเธอ   ผมจึงต้องการไปถึงหมู่บ้านวินสตันให้เร็วที่สุด...แต่ผมมีเงินติดตัวอยู่แค่ 7 เหรียญทอง กับอีก 50 เหรียญเงินเท่านั้น..."

       "เฮ่อ...ผมเองก็อยากจะช่วยคุณนะ  เพราะคุณค่อนข้างจะมีชื่อเสียงอยู่  แถมเรื่องราวมันก็กินใจผมเหลือเกิน   แต่ 7 เหรียญทอง  กับ 50 เหรียญเงินมันก็...ผมคงไม่ไหวจริงๆ   ต้องขอโทษด้วย"

       ครั้งที่สองก็ยังคงไม่สำเร็จ   แต่เราก็ไม่ลดละความพยามเพียงแค่นี้

       ...

       ...

       จนแล้วจนรอด...เราก็ไม่สามารถต่อรองราคาตามที่ต้องการได้ 

       เราไม่มีทางเลือก  จำต้องเดินทางไปยังหมู่บ้านวินสตันด้วยรถม้าที่ราคาถูกที่สุด

       "รีบเดินทางไปยังหมู่บ้านวินสตันกันเถอะ!   มันจะต้องเป็นการเดินทางที่ดีและปลอดภัยแน่นอน  แต่หากดูจากเงินจำนวนมหาศาลที่ผมจ่ายไปแล้ว  คุณควรจะเป็นมิตรและยิ้มแย้มกับผมมากกว่านี้หน่อยนะ!"

       "...จะเป็นพระคุณมากเลยถ้าหากคุณหุบปากไปซะ..."

       "..."

       การเดินทางมักจะทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นอยู่เสมอ   โดยแม้ว่าคนขับรถม้าจะไม่ค่อยเป็นมิตรมากนัก  แต่เราก็ยังมีเรื่องอื่นๆ ให้อารมณ์ดีอีกมากมาย





จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์  ตอนที่ 21 - จบตอน

Comments

  1. ได้วันละ2ตอนนี่คงจะแจ่มมาก

    ReplyDelete
  2. น่าจะทำธนูขายต่อนะรวยเลย...

    ปล.ขอบคุณครัช

    ReplyDelete
  3. แป๊บซี่ โคล่า แฟนต้า สไปร์

    ReplyDelete
  4. ผมเข้าใจนะว่า ถ้ามันทำลูกธนู มากไป จะขายได้ราคาที่ต่ำลง ยิ่งเป็นการประมูลด้วยยิ่งแล้วใหญ่

    แต่นี่มันตามน้ำยันได้ดีมากี่ตอนแล้วเนี้ย!!

    ปล. ขอบคุณผู้แปลครับ

    ReplyDelete
  5. คนไม่มีแฟน... เศร้า

    ReplyDelete
  6. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  7. มีความงกมากกกก

    ReplyDelete
  8. ขอบคุณผู้แปลด้วยครับ

    ReplyDelete
  9. รอครับ เริ่มสนุกละ
    ขอให้สนุก พอๆ กับ weed เลยนะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00